xs
xsm
sm
md
lg

จับตา ‘เมแกน’ จะได้‘ของดี’จากอังกฤษวีคนี้ไหม หลังป่วนพระราชวงศ์แต่แป้ก แถมโป๊ะแตกที่ตีเสมอ ‘แมนเดลา’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


ดัชเชสเมแกน มาร์เคิล สาวเลือดผสมแอฟริกัน-อเมริกัน อดีตนักแสดงเกรดบีจากสหรัฐอเมริกา เจ้าของใบหน้างามเท่ บนปกแมกกาซีนเดอะคัทฉบับฤดูใบไม้ร่วง 2022 เธอได้ให้สัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟแก่เดอะคัท ซึ่งเดอะคัทนำขึ้นโปรโมทและเผยแพร่บนแอคเคาน์ของกองบ.ก.บนอินสตาแกรมเมื่อวันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม 2022 ทั้งนี้เป็นการเลือกวันทำโปรโมชั่นที่ฉลาด คือสองวันก่อนจะถึงวันครบรอบการเสียชีวิตของเจ้าหญิงไดอานา ผู้เป็นพระสัสสุ (แม่สามี) ของดัชเชส และเป็นที่รักของผู้คนทั่วโลก ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ข่าวราชวงศ์ชี้ว่าเมแกนน่าจะตั้งใจสวมเสื้อคอเต่าสีดำอันเป็นหนึ่งใน signatures โดดเด่นของเจ้าหญิงไดอานา เพื่อดึงความรู้สึกดีๆ จากแฟนคลับของเจ้าหญิงไดอานามาถึงตนเอง
ด้ชเชสเมแกน มาร์เคิล และเจ้าชายแฮร์รีจะมาอังกฤษทำไม หลังจากที่ดัชเชสได้ทำการถล่มทำลายพระเกียรติภูมิของพระราชวงศ์วินด์เซอร์ครั้งใหม่ผ่านบทสัมภาษณ์ที่ให้แก่นิตยสารอเมริกันเจ้าดัง เดอะคัท เดลีเมล ยูเค พาดหัวข่าวตัวใหญ่ไว้อย่างนั้น พร้อมรายงานประเด็นโจมตีที่ดัชเชสกล่าวอ้างว่าเธอและเจ้าชายแฮร์รี พระสวามี ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานสร้างรายได้ของตนเอง ขณะที่เจ้าชาย เจ้าหญิง และดยุกทั้งหลายก็ขออย่างเดียวกัน แล้วก็ได้ตามต้องการ ซึ่งเป็นการเลือกปฏิบัตินั่นเอง นอกจากนั้นยังรายงานประเด็นฮ็อตสุดๆ ที่ดัชเชสเอ่ยคำเตือนกึ่งท้ารบให้ได้ทราบกันแว้บๆ ว่าเธอจะเล่าถึงสิ่งต่างๆ ที่พบเจอในช่วงที่ใช้ชีวิตเป็นราชนิกูล หลังจากที่นิ่งเงียบเพื่อเยียวยาจิตใจมาโดยตลอด!!!

พร้อมนี้ เดลิเมลยูเคปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลอย่างแข็งขันโดยนำเสนอรายงานอย่างละเอียดและมากมายด้วยสีสันเกี่ยวกับเรื่อง “โป๊ะแตก” ของดัชเชสเมแกน ที่เธอนำตัวเองไปเทียบชั้นตีเสมอกับ เนลสัน แมนเดลา โดยอ้างอิงคำพูดของนักแสดงชาวแอฟริกาใต้นายหนึ่ง แต่ปรากฏว่าดาราใหญ่ระดับดาวค้างฟ้ารายนั้น ได้กล่าวปฏิเสธไว้กับเดลิเมล ยูเค เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังบอกว่าเขายังไม่เคยพบปะกับดัชเชสเมแกน

สำหรับคำถามว่าดัชเชสเมแกนและเจ้าชายแฮร์รีจะมาอังกฤษทำไม เดลิเมล ยูเค ให้เฉลยในรูปแบบสมมุติฐานที่น่าคิดอย่างยิ่ง ว่าอาจเกี่ยวข้องกับการเธอจะต้องเร่งหาคอนเทนต์แซ่บๆ ระดับเตะเจาะยางบรรดาราชนิกูลอังกฤษ หรือวัตถุดิบต่างๆ ที่ดุเดือดเลือดพล่านแบบละครน้ำเน่าขนานแท้ เพื่อนำไปผลิตรายการของดีทีเด็ดป้อนบริษัทเน็ตฟลิกซ์ เจ้าพ่อรายการบันเทิงส่งตรงถึงครัวเรือนผ่านอินเทอร์เน็ต

เพิ่งจะเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง ดัชเชสเมแกน อดีตนักแสดงอเมริกันผู้เป็นหนึ่งในสะใภ้หลวงของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง ได้ทำการทิ้งบอมบ์โจมตีพระราชวงศ์อังกฤษครั้งใหม่ เมื่อสกู๊ปบทสัมภาษณ์ที่เธอให้แก่นิตยสารเดอะคัทของสื่อยักษ์อเมริกัน นิวยอร์กแมกกาซีน โดยรำพึงรำพันถึงความทุกข์ขมตรมใจที่ได้ประสบขณะใช้ชีวิตเป็นราชนิกูล ถูกนำขึ้นเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตในวันจันทร์ที่แล้ว (29 สิงหาคม) และกลายเป็นหัวข้อซี้ดซ้าดสะเทือนสองฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกทั้งซีกข้างสหรัฐอเมริกาและซีกข้างเกาะอังกฤษ

ขณะที่บรรดาสื่อมวลชนทั้งฝ่ายอเมริกันและฝ่ายอังกฤษแสดงปฏิกิริยาฮือฮาในสารพัดแง่มุม แต่ความร้อนแรงของข่าวนี้กลับแผ่วลงภายในวันสองวัน โดยกระแสการสั่นคลอนภาพลักษณ์ของสถาบันกษัตริย์อังกฤษโดยสะใภ้หลวงรายนี้ มีอันต้องแป้กอย่างรวดเร็ว เพราะไม่มีการตอบโต้ใดๆ ออกมาจากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ หรือเจ้าชายวิลเลียม หรือสำนักพระราชวัง ประมาณเดียวกับการตบมือข้างเดียว จึงไม่มีเสียงดังตามมา

ทั้งรักทั้งปลื้มและทั้งเชิดชู: แฟนคลับของดัชเชสเมแกนนำภาพแสนสง่างามของดัชเชสซึ่งอยู่ในบทสัมภาษณ์ของเดอะคัท มาแชร์บนแอคเคาน์ทวิตเตอร์ของเธอ  พร้อมกับทวิตเชียร์ไอดอลคนดังคับโลก ไว้อย่างดุดันว่า เมแกนมาร์เคิลมิได้พยายามจะเอาชนะใจบรรดาผู้ที่เกลียดเธอ เธอทราบดีว่าคนพวกนั้นไร้คุณค่า น่าสมเพช และเทียบไม่ได้แม้แต่เล็บเท้าสีชมพูของเธอ  ซึ่งนั่นทำให้ฉันแฮปปี้อย่างที่สุดเกี่ยวกับบทสัมภาษณ์ของเดอะคัท นี่เป็นยุคสมัยใหญ่อย่างแท้จริง

ผู้ที่ไม่รักดัชเชสเมแกนก็จะแรงไปอีกแบบหนึ่ง: แอคเคาน์ทวิตเตอร์ที่ใช้ชื่อว่าพาเมล่า นำเบื้องลึกเบื้องหลังการจัดทำสกู๊ปสัมภาษณ์มาเปิดโปง (ซึ่งก็ไม่ทราบได้ว่าจริงเท็จประการใด) โดยเขียนว่า นี่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเมแกน มาร์เคิลคนนี้จนตรอกและบ้าบอเพียงใด: เมแกนสั่งให้เดอะคัททิ้งคำเรียกชื่อเธออันเดิมและเติมคำใหม่เข้าไปแทนที่ โดยให้เดอะคัทใส่ตำแหน่งราชนิกูลของเธอเข้าไป พร้อมนี้พาเมล่านำภาพโปรโมทบทสัมภาษณ์อันเดิมก่อนปรับเปลี่ยนตามคำสั่งของเมแกน กับภาพโปรโมทที่ปรับเปลี่ยนให้คำว่าเมแกน มาร์เคิล มีคำว่าดัชเชสกำกับไว้ทุกครั้ง  ไม่ใช่แต่เพียงเท่านั้น ยังมีการใส่ถ้อยคำเผ็ดร้อนเข้าไปด้วยว่า ขอให้นำตำแหน่งราชนิกูลที่ได้จากครอบครัววายร้ายและเหยียดผิว ไปใช้กำกับชื่อเสมอ  ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าภาพข้างซ้ายใส่ชื่อไว้สั้นๆ ว่าเมแกน มาร์เคิล ส่วนภาพขวาจะมีคำว่าดัชเชสกำกับชื่อเป็นที่เรียบร้อย
ดัชเชสเมแกนโม้ว่าผู้คนในในแอฟริกาใต้เฉลิมฉลองที่เธอได้เป็นสะใภ้หลวงราชวงศ์อังกฤษ แต่ ‘โป๊ะแตก’ แล้ว

กระนั้นก็ตาม ได้มีกระแสตอบโต้คำให้สัมภาษณ์ของดัชเชสเมแกนปรากฏเป็นข่าวกระหึ่มออกมากระแสหนึ่ง ที่ทำให้ดัชเชส “โป๊ะแตก” เสียฟอร์มสาหัสภายในชะตากรรม พินอคคีโอ-โกหกจมูกยาว

ด้ชเชสเมแกน มาร์เคิล อดีตแม่ม่ายหย่าร้างผู้เป็นสาวลูกผสมแอฟริกัน-อเมริกัน ให้สัมภาษณ์แก่นิตยสารเดอะคัทในตอนหนึ่งว่า ในงานเปิดตัวภาพยนตร์ไลอ้อนคิงรอบปฐมทัศน์ที่กรุงลอนดอน ปี 2019 “ดิฉันเพิ่งให้กำเนิดน้องอาร์ชี มันเป็นช่วงที่ไม่ดีเอามากๆ ดิฉันกลัวที่จะออกไปข้างนอก” แล้วอัลลิสัน เดวีส์ ซึ่งเป็นผู้สัมภาษณ์ เขียนเสริมว่านักแสดงคนหนึ่งจากแอฟริกาใต้ดึงดัชเชสมาด้านข้าง แล้วอัลลิสันก็ถ่ายทอดถ้อยคำของดัชเชสว่า

“เขามองดิฉัน แล้วเขาพูดบางอย่างที่เหมือนแสงสว่าง บอกดิฉันว่า ‘ผมเพียงอยากให้ดัชเชสทราบว่า เมื่อดัชเชสเสกสมรสเข้าเป็นสมาชิกแห่งราชตระกูลอังกฤษ พวกเราที่แอฟริกาใต้ออกมาเฉลิมฉลองเต้นรำกันเต็มท้องถนน แบบเดียวกับที่พวกเราทำเมื่อท่านเนลสัน แมนเดลาได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ’” (เนลสัน แมนเดลาเป็นฮีโร่ของประเทศแอฟริกาใต้ ได้รับความรักและเชิดชูจากประชาชนในฐานะนักต่อสู้ที่เป็นผู้นำการล้มล้างระบอบเหยียดผิว และถูกรัฐบาลชนกลุ่มน้อยผิวขาวจับกุมคุมขังนานถึง 27 ปี ก่อนจะมอบเสรีภาพคืนให้ในปี 1990)

แน่นอนว่าประเด็นอย่างนี้มีความอ่อนไหวเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น คราวเคราะห์จึงมาเยือนดัชเชสเมแกนแสนรักของเจ้าชายแฮร์รี เพราะเมื่อเกร็ดชีวิตดังกล่าว ถูกนำเสนอบนเว็บไซต์ของเดอะคัทเมื่อจันทร์ที่ 29 สิงหาคม ก็ได้มีการไถ่ถามกันภายในบรรดานักแสดงชายที่เกี่ยวข้องอยู่ในภาพยนตร์ไลอ้อนคิง แต่ไม่มีรายใดทราบอะไรทั้งสิ้นเกี่ยวกับการเปรียบเทียบไปเสมอเท่ากับอดีตประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลา ผู้เป็นตำนานวีรบุรุษที่เคารพรักของประชาชนในประเทศอดีตอาณานิคมอังกฤษแห่งนี้

ในห้วงเวลาเดียวกัน เดลีเมล ยูเค ได้สัมภาษณ์ดาราอาวุโสผู้มีชื่อเสียงมากของแอฟริกาใต้ นามว่า ดร.จอห์น กานี ซึ่งเป็นบุคคลเดียวที่เข้าข่ายชายลึกลับรายดังกล่าว เพราะเขาเป็นนักแสดงชาวแอฟริกาใต้คนเดียวซึ่งอยู่ในทีมนักแสดงของภาพยนตร์เรื่องนี้

เดลิเมล ยูเครายงานคำพูดของดร.จอห์น กานี ว่าเนลสัน แมนเดลาได้ก้าวออกจากเรือนจำหลังจากถูกจำคุก 27 ปี นั้น เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญมากสำหรับชาวแอฟริกาใต้ ในขณะที่การแต่งงานระหว่างเมแกน มาร์เคิลกับเจ้าชายแฮร์รี “ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอันใด” ในแอฟริกาใต้

นางเมแกน มาร์เคิล ม่ายสาวพราวเสน่ห์จากสหรัฐฯ ได้เข้าพระราชพิธีวิวาห์กับเจ้าชายแฮร์รี่ รัชทายาทราชบัลลังก์อังกฤษลำดับที่ 6 เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2018 หลังจากนั้น เธอได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ในวันวิวาห์ พร้อมได้คำนำหน้าชื่นในขั้นพระองค์เจ้าว่า Her Royal Highness

ดัชเชสเมแกนตามเสด็จเจ้าชายแฮร์รีไปเยือนประเทศแอฟริกาใต้เมื่อเดือนตุลาคม 2019 ภาพนี้ของเธอบันทึกไว้ในวันที่ 3 ตุลาคม 2019 ประมาณสี่เดือนครึ่งหลังจากให้กำเนิดคุณอาร์ชีแห่งซัสเซกซ์ ทั้งนี้ เธอได้เยี่ยมคารวะประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีคนที่ 5 ของแอฟริกาใต้ โดยอดีตประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลา ประธานาธิบดีคนแรกของแอฟริกาใต้ได้ถึงแก่อสัญกรรมในปี 1999
ดร.กานี ซึ่งให้เสียงแก่ตัวละครที่ชื่อว่า ราฟิกิ ได้พูดว่าตนเป็นชาวแอฟริกาใต้เพียงคนเดียวในทีมนักแสดงในหนังเรื่องนี้ของดีสนีย์ และบอกด้วยว่าไม่เคยพบกับเมแกน และไม่ได้เข้าร่วมงานเปิดตัวหนังรอบปฐมทัศน์ที่กรุงลอนดอนในปี 2019

พร้อมนี้ ดร.กานีบอกด้วยว่ามีคนแอฟริกาใต้อีกเพียงหนึ่งรายที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เรื่องนี้และเข้าร่วมพิธีเปิดตัวภาพยนตร์ ได้แก่ ลีโบ เอ็ม ซึ่งเป็นผู้ประพันธ์ดนตรีร่วมกับฮันส์ ซิมเมอร์ แต่ลีโบ เอ็ม มิใช่นักแสดง

ในการนี้ ลีโบ เอ็ม ก็ปฏิเสธเช่นกัน โดยบอกว่าตนได้พูดกับเมแกนไม่ถึงหนึ่งนาทีที่หน้างานเปิดตัวภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์และไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเนลสัน แมนเดลาเลย ดิเอ็กซ์เพรสรายงาน

เดลิเมล ยูเค ได้ติดต่อไปยังดัชเชสเมแกนและเจ้าชายแฮร์รี กับบริษัทดิสนีย์ เพื่อตรวจสอบคำกล่าวของดร.กานี แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ ส่วนกองบรรณาธิการเดอะคัทตอบมาว่าไม่มีความเห็นในเรื่องนี้

ดร.จอห์น กานี เป็นบุคลสำคัญและมีชื่อเสียงอย่างสูงสุดคนหนึ่งในแวดวงศิลปะการแสดงของประเทศแอฟริกาใต้ โดยเป็นทั้งนักแสดง นักเขียน ผู้กำกับ ฯลฯ ทั้งนี้ ได้ร่วมงานภาพยนตร์กับฮอลลีวู้ดหลายครั้งซึ่งล้วนเป็นหนังฟอร์มใหญ่ยักษ์ทุกเรื่อง
ให้สัมภาษณ์ชุดใหญ่ทั้งที มีหรือจะไม่โจมตีราชวงศ์อังกฤษ เมแกนบอกปัญหาเริ่มจากที่เธอเป็นอเมริกัน

“ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่นางเอกเป็นสาวอเมริกันและได้พบรักแต่งงานกับเจ้าชาย ซึ่งทำให้เธอเป็นเจ้าหญิงนั้น จะมีฉากสำคัญอันแสดงให้เห็นว่านางเอกคิดว่าเธอวางตัวได้ถูกต้องอย่างยิ่ง โดยการเป็นตัวของตัวเอง เสร็จแล้วก็ต้องมีราชนิกูลที่เป็นผู้ใหญ่กว่ามาพร่ำสอนเธอถึงหน้าที่ของเจ้าหญิง ตลอดจนการวางตนที่เหมาะสม” อัลลิสัน เดวีส์ นักข่าวสาวของเดอะคัท เข้าสู่ประเด็นปัญหาขัดแย้งของดัชเชสเมแกนกับราชวงศ์อังกฤษ ด้วยการเปิดเรื่องอย่างนั้น ซึ่งมองเห็นใจความระหว่างบรรทัดได้ชัดเจนว่า นางเอกอย่างเมแกนก็เคยประสบสถานการณ์ทำนองนี้เช่นกันอย่างแน่นอน แล้วอัลลิสันก็นำเสนอต่อมาว่า

“ข้าพเจ้าได้ยกตัวอย่างหนังเรื่องหนึ่งคือ The Prince & Me แต่เมแกนไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ เธอบอกว่า ‘ถ้าได้ดูก็คงช่วยได้มากจริงๆ’ เธอกล่าวแบบที่มิได้ประชดประชัน แต่น้ำเสียงออกแนวกร้าว ตามการวิเคราะห์ของเธอ ปัญหาเริ่มจาการที่เธอเป็นคนอเมริกัน ไม่ต้องพูดถึงการเป็นอเมริกันผิวดำด้วยซ้ำ ทั้งนี้ ความปรารถนาของเธอที่จะถามสิ่งต่างๆ มากมาย และการที่เธอจะไม่เข้าร่วมกับสิ่งที่เธอไม่ได้จัดการด้วยตนเอง ดูเหมือนจะเป็นการละเมิดบรรทัดฐานทางสังคม”

ก่อนจะไปถึงปัญหาลำดับถัดมา อัลลิสันโยงไปถึงปมเรื่องสื่อแท็บลอยด์คอยแต่ะจะวิจารณ์เมแกนและเจ้าชายแฮร์รีไปในทุกสิ่งอย่าง ปมเรื่องนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการที่ทั้งสองตัดสินใจที่จะออกไปทำงานหารายได้ของตนเองเพื่อจะไม่ต้องใช้เงินจากงบประมาณแผ่นดินที่เป็นเงินภาษีซึ่งรัฐบาลจัดสรรแก่สมาชิกราชวงศ์ วัตถุประสงค์หลักของเรื่องนี้คือ ทั้งสองอยากจะปิดช่องทางไม่ให้สื่อต่างๆ เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์

ในการนี้ เมแกนให้สัมภาษณ์ไปว่าเธอไม่ได้รับอนุญาตให้แยกออกไปทำงานหารายได้ของตนเอง

เดอะคัทหยิบยกหนึ่งเรื่องใหญ่ที่สื่ออังกฤษเคยโจมตีวิจารณ์เมแกนและเจ้าชายแฮร์รีมานำเสนอซึ่งได้แก่กรณีการใช้งบค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลจัดสรรให้แก่สมาชิกราชวงศ์ จำนวนถึง 3.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา เพื่อตกแต่งพระตำหนักฟร็อกมอร์ คอตเทจ ในเขตพระราชฐานวินด์เซอร์ ให้อยู่อาศัยได้อย่างงามหรูสมฐานะ

เมแกนกับเจ้าชายแฮร์รีวิเคราะห์ว่า ในเมื่อสื่อแท็บลอยด์สามารถเข้าไปโจมตีพวกเขาได้อย่างเสรี ภายใต้ข้ออ้างว่าเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน เพราะชีวิตของพวกเขาดำรงอยู่ด้วยเงินจากภาษีประชาชน ดังนั้น พวกเขาก็จะเอาเงินภาษีออกไปจากชีวิต อัลลิสันแห่งเดอะคัทเล่าไว้อย่างนั้น

ด้วยเหตุนี้ เมแกนและเจ้าชายได้นำเสนอขึ้นไปว่าขออนุญาตทำงานสร้างรายได้ของตนเอง “เผื่อว่าเสียงวิจารณ์ทั้งหลายจะได้หยุด” ดัชเชสเมแกนเล่าไว้ในคำให้สัมภาษณ์

ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ปฏิบัติงานสนองพระเดชพระคุณสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองในสาขาต่างๆ อย่างกว้างขวาง และแม้จะถอยออกจากพระราชกรณียกิจแล้ว ก็ยังให้เกียรติไปร่วมกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์สังคมในโอกาสต่างๆ ในภาพนี้ ดยุกแห่งซัสเซกซ์และดัชเชสเมแกนขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงานปกป้องโลกและต่อสู้เพื่อขจัดความยากจนให้หมดสิ้นจากแผ่นดินภายในงาน Global Citizen Live Concert ณ เซ็นทรัลปาร์ก กรุงนิวยอร์ก เมื่อ 25 กันยายน 2021
อัลลิสันรายงานสืบไปว่าเมแกนและเจ้าชายแฮร์รียังคิดมากกว่านั้นด้วย คือจะเดินทางออกจากอังกฤษ และออกจากสื่อแท็บลอยด์อังกฤษด้วย ทั้งสองคิดว่าจะให้ไปอยู่ประเทศใดในเครือจักรภพก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นแคนาดา หริอนิวซีแลนด์ หรือแอฟริกาใต้ คือโอเคหมด

“อะไรก็ได้ขอแค่... เพราะแค่ที่เราอยู่ (ในลอนดอน) ก็สร้างความขัดเคืองใจผู้ใหญ่ในราชตระดูลอย่างยิ่งแล้ว ดังนั้น เราจะไป โอเคเลย ย้ายออกจากที่นี่ดีกว่า เต็มใจอย่างยิ่ง” เมแกนพูดกับอัลลิสันอย่างนั้น พลางยกมือสองข้างเป็นสัญลักษณ์ขำๆ ว่ายอมแพ้

เมแกนบอกด้วยว่านี่ไม่ใช่การขอในสิ่งใหม่แหวกแนวแบบว่าขอประดิษฐ์ล้อในคอนเซ็ปต์ใหม่ และยิ่งกว่านั้น เจ้าชาย เจ้าหญิง และดยุกรายนั้นรายนี้ของราชวงศ์อังกฤษ ล้วนได้รับอนุญาตให้ทำงานสร้างรายได้เลี้ยงตัวเอง

“แต่นั่นไม่ใช่อะไรที่ดิฉันและเจ้าชายแฮร์รีจะได้รับอนุญาตให้ทำ ทั้งที่สมาชิกราชวงศ์มากมายก็ทำงานสร้างรายได้เป็นของตนเอง” เมแกนกล่าวกับอัลลิสัน

ในเมื่อประเด็นเรื่องนี้เป็นอะไรที่มีการเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน อัลลิสันจึงถามกลับไปว่าทำไมดัชเชสเมแกนกับเจ้าชายแฮร์รีจึงไม่ได้รับอนุญาต ดัชเชสแสดงสีหน้าว่า จะมาถามทำไม ยังไม่เข้าใจอีกหรือ อัลลิสันเขียนเล่าไว้อย่างนั้น ซึ่งอาจจะหมายถึงว่า ดัชเชสมองว่ามันเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างไม่ชอบธรรม ขณะเดียวกันก็คิดว่าตนเองถูกราชนิกูลผู้ใหญ่กดดันกลั่นแกล้ง

ดัชเชสเมแกนตามเสด็จเจ้าชายแฮร์รีเข้าร่วมเฉลิมฉลองงานวันเนลสัน แมนเดลาระหว่างประเทศที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ กรุงนิวยอร์ก สหรัฐฯ เมื่อ 18 กรกฎาคม 2022 โดยเจ้าชายแฮร์รีให้เกียรติขึ้นกล่าวปราศรัยด้วย
เจ้าชายแฮร์รีแตกหักกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ผู้เป็นพระบิดา เมแกนเล่าอย่างนั้นแม้สิ่งนี้เป็นเรื่องส่วนตัวขั้นสุด

ดัชเชสเมแกน พระชายาวัย 41 กะรัตของเจ้าชายแฮร์รีซึ่งกำลังจะครบ 38 พรรษาในกลางเดือนนี้ เล่าถึงความสัมพันธ์อันปีนเกลียวกับคุณพ่อของเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่คุณพ่อโทมัส มาร์เคิล ปล่อยข้อมูลต่างๆ ของเธอเข้าหูเข้ามือของนักข่าว พร้อมกับกล่าวโทษว่าสื่อมวลชนเป็นต้นเหตุให้ครอบครัวแตกแยก ทั้งครอบครัวเธอและครอบครัวของเจ้าชายแฮร์รี ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอร์รัล รายงาน

พร้อมนี้เธอปล่อยข้อมูลส่วนตัวสุดๆ ของเจ้าชายแฮร์รี ให้นักข่าวของนิตยสารเดอะคัทว่า

“แฮร์รีบอกดิฉันว่า ‘ผมขาดกับท่านพ่อเพราะวัฒนธรรมการทำงานของสื่อมวลชน’ มันไม่จำเป็นจะต้องเกิดขึ้นกับพวกเขาดั่งที่เกิดขึ้นกับดิฉัน แต่นั่นเป็นการตัดสินใจของแฮร์รี” ดัชเชสเมแกนพูด

เมื่อข้อมูลดังกล่าวปรากฏบนเว็บไซต์ของเดอะคัท ฝ่ายต่างๆ ก็ถือว่าดัชเชสเมแกนได้ยืนยันข่าวที่ว่าเจ้าชายแฮร์รีร้าวฉานกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เป็นที่แน่นอนแล้ว

สิ่งที่ตามมาคือความรู้สึกอึ้งของฝ่ายต่างๆ รวมทั้งในแวดวงที่เป็นคนวงในของพระราชสำนักแสดงความไม่พอใจและตำหนิผ่านสื่อมวลชนบางค่าย ว่าดัชเชสเมแกนไม่สมควรจะนำเรื่องส่วนตัวมากๆ ของราชวงศ์มาประกาศอย่างนี้

ด้านคนวงในซึ่งมีตำแหน่งสูงของราชตระกูลให้ความเห็นแก่ดิเอ็กซ์เพรสว่า “ข้าพเจ้าไม่สังเกตเห็นเลยว่าแฮร์รีแตกหักกับเสด็จพ่อ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงประทานเงินหลายล้านปอนด์แก่เจ้าชายแฮร์รี

เมื่อวันเวลาผ่านไป ชีวิตจริงแห่งการเป็นคุณพ่อของน้องอาร์ชี ลูกชายเจ้าปัญญา ซึ่งอาจจะดื้อเงียบอยู่บ้างตามประสาหนูเด็กน้อยชาวพฤษภ จะทำให้เจ้าชายแฮร์รีเข้าพระทัยในความรักอันมหาศาลที่ได้รับจากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ผู้เป็นพระบิดา  สำหรับความรู้สึกว่าพระองค์ทรงแตกหักแล้วจากพระบิดานั้น จะค่อยๆ กระจ่างชัดว่าเป็นเพียงความรู้สึกชั่วคราว ขณะที่ความรักความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกชาย จะยั่งยืนแข็งแกร่งและเหนียวแน่นได้อย่างมหัศจรรย์
นักข่าวอังกฤษฟาดกลับ ‘เมแกน: เธอไม่รู้จักสรุปบทเรียน’ เพราะเธอประกาศจะไม่นิ่งเงียบอีกต่อไป

ริชาร์ด พาล์มเมอร์ นักข่าวอังกฤษคนดังแห่งค่ายเดลีเอ็กซ์เพรส ผู้รายงานเรื่องราวของราชวงศ์วินด์เซอร์มายาวนาน ได้ตอบโต้แรงๆ อัดกลับดัชเชสเมแกนและคำให้สัมภาษณ์รอบใหม่นี้ โดยเขียนขึ้นทวิตเตอร์ว่า “เจ้าชายแฮร์รีและพระชายาเมแกน มาร์เคิล ผู้หูหนวก ยังไม่รู้จัก ‘สรุปบทเรียน’” พร้อมนี้ หนุ่มพาล์มเมอร์ได้ลิงค์ให้ท่านผู้อ่านตามไปดูรายงานของเว็บไซต์ข่าวดิเอ็กซ์เพรส ซึ่งพาดหัวตัวบิ๊กว่า

เมแกน มาร์เคิล จะกลับไปใช้อินสตาแกรมสื่อสารกับแฟนคลับ เธอบอกในสัมภาษณ์ถล่มใส่ราชตระกูลว่า “จะไม่นิ่งเงียบอีกต่อไป” จะเล่าสิ่งต่างๆ ที่ได้ประสบจากราชตระกูลอังกฤษ และถ้ามีส่วนที่ไม่อยากเล่า ก็จะตัดสินใจเองที่จะไม่เล่า

ทั้งนี้ ในช่วงการสัมภาษณ์ที่อัลลิสันถามว่า ทำไมคำขออนุญาตทำงานเลี้ยงตนเองจึงถูกยับยั้ง อดีตดารา ตอบว่าไม่ทราบเหมือนกัน แล้วเธอก็พูดขึ้นว่า เธอรู้สึกตนเองมีสิ่งต่างๆ อีกมากมายที่อยากนำไปเล่าสู่สาธารณชน

ในการนี้ ดัชเชสเมแกนพูดด้วยประเด็นที่ละม้ายจะท้ารบว่า เธอไม่ได้เซ็นชื่อในเอกสารใดๆ ที่จะทำให้ถูกห้ามเล่าถึงชีวิตในช่วงที่ยังเป็นราชนิกูล เธอบอกด้วยว่า ที่ผ่านมา ยังไม่ได้เริ่มเล่า!! เพราะยังอยู่ในห้วงของการเยียวยาจิตใจ

ช่องรายการสนทนาผ่าน Spotify Podcast ซึ่งอยู่ภายใต้สัญญาธุรกิจที่ดัชเชสเมแกนตกลงที่จะผลิตรายการป้อนให้แก่ Spotify นั้น ดัชเชสตั้งชื่อว่า Achietypes ซึ่งจะเป็นช่องทางสื่อสารที่ยิงตรงไปถึงสาธารณชน โดยใช้รูปแบบการสนทนาออกอากาศร่วมกับแขกรับเชิญนามกระเดื่องเลื่องลือ อย่างเช่น เซเรนา วิลเลียมส์ เพื่อนสนิทระดับ A-List ของวงการนักเทนนิสอาชีพ ในเอปพิโสดแรกเมื่อ 23 สิงหาคม 2022

ในรายการ Achietypes เอปพิโสดที่สอง ซึ่งมารายห์ แครีเป็นแขกรับเชิญของดัชเชสเมแกน เมื่อวันอังคารที่ 30 สิงหาคม 2022 เจ้าแม่แห่งดนตรีคนดังอมตะของโลก ได้เรียกดัชเชสว่าดิวา หรือก็คือ จอมเทวีแห่งศิลปะการร้องเพลง  ดัชเชสรู้สึกผวา ว่าเพื่อนมีอะไรในใจขึ้นมาหรือ ไปได้ข่าวผิดๆ เพี้ยนๆ อะไรมาหรือไม่ มารายห์จึงเขียนขึ้นโซเชียลมีเดียยืนยันให้ทราบกันทั้งวงการว่า การเรียกดัชเชสว่าดิวานั้น เธอรู้สึกว่าเพื่อนคนเก่งของเธอช่างเลอเลิศ งดงาม และทรงพลังอย่างแท้จริง
โจมตีพระราชตระกูลเสียๆ หายๆ แล้วจะมาอังกฤษในวีคนี้ เพื่อ?? - - เพื่อ Netflix กับ Spotify กระมัง

เมื่อเดลีเมล ยูเค ตั้งคำถามว่าดัชเชสเมแกนและเจ้าชายแฮร์รีเขย่าเกียรติภูมิของพระราชตระกูลวินเซอร์ อย่างดุเดือดในบทสัมภาษณ์ที่เดอะคัท แล้วทั้งสองจะมาอังกฤษทำไม แถมทั้งสองยังมีความกังวลมากมายในเรื่องความปลอดภัย ปรากฏว่ามีการเสนอสมมุติฐานไว้ให้ท่านผู้อ่าน โดยหยิบความเห็นของนักวิเคราะห์เรื่องราวราชวงศ์ ริชาร์ด ฟิตซ์วิลเลียมส์ ซึ่งกล่าวไว้ดังนี้

“เรตติ้งของทั้งสองอยู่ในระดับย่ำแย่มานานแล้ว ความสัมพันธ์ร้าวฉานลึกล้ำที่มีกับพระราชตระกูลก็ยังต้องใช้เวลาอีกนานในการเยียวยา ผมก็งงนะว่าพวกเขาจะมาทำไม” เดลีเมล ยูเค รายงานคำพูดของริชาร์ด ฟิตซ์วิลเลียมส์ ไว้อย่างนั้น แล้วก็บอกด้วยว่าการมีพันธะเชิงธุรกิจอยู่กับเน็ตฟลิกซ์ บริษัทยักษ์ผู้ป้อนสื่อบันเทิงตรงถึงบ้านลูกค้า อาจเป็นคำตอบที่สำคัญ

หากโยงการวิเคราะห์ดังกล่าวไปพิจารณาควบคู่กับอีกหนึ่งภารกิจของเจ้าชายแฮร์รี คือ การผลิตต้นฉบับหนังสือบันทึกความทรงจำซึ่งแต่เดิมนั้นกำหนดจะออกวางตลาดภายในปี 2022 แต่ก็ต้องเลื่อนไปเป็นปี 2023 ก็สามารถเห็นร่องรอยว่าการดำเนินธุรกิจหลายสิบล้านร้อยกว่าล้านของดัชเชสและดยุกแห่งซัสเซกซ์ อาจอยู่ในภาวะขาดแคลนวัตถุดิบที่เป็นของดีทีเด็ดใหม่ๆ เด็ดๆ เจ็บๆจี๊ดๆ ซึ่งต้องนำไปใช้ทั้งในส่วนของภาพยนตร์สตรีมมิ่ง ทั้งในส่วนของพอดแคสท์ และในส่วนของหนังสือ

โดยวัตถุดิบซึ่งเป็นที่ต้องการนั้น จะต้องอิงอยู่กับธีมหลักที่แฟนคลับเสพติดงอมแงม คือ ธีมว่าด้วยความสัมพันธ์ร้าวฉานกับพระราชวงศ์ ตลอดจนเรื่องลับ(ไม่ต้องลึกก็ได้) ของราชนิกูล
แต่จะต้องมีความแรงเร้าใจแบบที่กลุ่มลูกค้าชมชอบ อาทิ ดราม่าที่มากมายด้วยสีสรรของความขัดแย้ง และการกลั่นแกล้งรังแก

ทั้งนี้ วัตถุดิบที่มีอยู่อาจจะพอมีเป็นทีเด็ดทีขาดอยู่บ้าง แต่ก็ตต้องการวัตถุดิบสดๆ ใหม่ๆ มาเป็นประเด็นชูโรงของหนังสือความทรงจำ และมาเป็นพล็อตภาพยนตร์ป้อนเน็ตฟลิกซ์ ตลอดจนเป็นประเด็นสนทนาจี๊ดจ๊าดใน Spotify Podcast

ในคราวที่ดัชเชสเมแกนและเจ้าชายแฮร์รีมาพำนักที่พระตำหนักฟร็อกมอร์ คอตเทจ เมื่อต้นเดือนมิถุนายน เพื่อร่วมพระราชพิธีเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบรอบ 70 ปี แพลตทินัม จูบิลี นั้น ทั้งสองน่าจะได้วัตถุดิบใหม่ๆ ติดมือกลับไปน้อยนัก เพราะไม่มีโอกาสจะได้พบปะกับพระเชษฐา-ปรินซ์วิลเลียมแห่งเคมบริดจ์ แม้พระอนุชาได้ทรงเชิญมาร่วมงานวันเกิดของคุณลิลิเบต ดังนั้นโอกาสที่จะมีดราม่าปะทะคารมจึงไม่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ได้มีผู้สันทัดกรณีจากแวดวงลึกๆ ของพระราชวงศ์วินด์เซอร์ออกมาอธิบายเกมดังกล่าวนี้ฝากไปกับสื่อหัวสี Page Six ว่า “สิ่งต่างๆ ยังตึงเครียดอยู่ – เจ้าชายวิลเลียมยังทรงระมัดระวังที่จะสนทนาเป็นการส่วนพระองค์กับเจ้าชายแฮร์รี คุณไม่มีทางทราบได้เลยว่าอาจจะมีอะไรเป็นข่าวสะท้อนกลับมาในภายหลัง”

ขณะเดียวกันเดลิเมล ยูเค ให้ข้อมูลว่าดัชเชสและดยุกแห่งซัสเซกซ์มีโอกาสนำคุณลิลิเบตเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ แต่ก็กลายเป็นแค่เซสชั่นสั้นๆ เพียง 15 นาที โดยไม่ได้ถ่ายภาพที่ระลึกใดๆ และในด้านของการเข้าเฝ้าเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ที่สื่อมวลชนหัวสีหลายค่ายเคยรายงานว่าเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงปลื้มพระราชนัดดาลิลิเบต นั้น ยังไม่ได้เห็นภาพถ่ายที่ระลึกใดๆ กันเลย และแล้วเดลิเมล ยูเค ให้รายงานอัปเดทว่าไม่ได้มีการเข้าเฝ้าแต่อย่างใด

ด้วยเหตุนี้ การมาปฏิบัติภารกิจในอังกฤษสัปดาห์นี้ จึงอาจตั้งข้อสังเกตแบบทฤษฎีสมคบคิดว่าดัชเชสและดยุกแห่งซัสเซกซ์ ซึ่งได้กระตุ้นเพลิงพิโรธไว้อย่างมากมายในสัปดาห์ที่แล้ว และได้เดินทางมาอยู่ใกล้ๆ ขับรถถึงกันได้อย่างง่ายดายในสัปดาห์นี้เป็นที่เรียบร้อย จะได้รับโอกาสที่จะเข้าถึงตัวละครหลักทั้งสามพระองค์หรือไม่ ในเมื่อสมเด็จพระราชินีนาถทรงเสด็จแปรพระราชฐานประจำปีไปพักผ่อนที่ปราสาทบาลมอรัลในสกอตแลนด์จนถึงปลายเดือนกันยายน ขณะที่เจ้าชายวิลเลียมก็น่าจะทรงปักหลักในแนวเดิมคือหลีกเลี่ยงการสนทนาส่วนพระองค์กับเจ้าชายแฮร์รี ดังได้เห็นแนวโน้มนี้แล้วว่าในวันครบรอบการจากไปของเจ้าหญิงไดอานา 31 สิงหาคมของทุกปี เจ้าชายสองศรีพี่น้องต่างมีกิจกรรมของตนเองในการรำลึกถึงพระมารดา

คะแนนนิยมที่ชาวอังกฤษให้แก่ดัชเชสเมแกนและเจ้าชายแฮร์รี อยู่ในระดับท้ายๆ ตารางมาโดยตลอด  ขณะที่ความอดทนของผู้คนต่อความเคลื่อนไหวต่างๆ ของสองเจ้านายแห่งซัสเซกซ์ก็ดูว่าจะลดน้อยลง โดยในทริปลอนดอนเดือนมิถุนายน ทั้งสองถูกประชาชนโห่ใส่กันเลยทีเดียว  ดังนั้น ลูกบ้าเที่ยวล่าสุด ที่มีการเขย่าสถาบันกษัตริย์อังกฤษด้วยบทสัมภาษณ์ในนิตยสารเดอะคัทได้กระตุ้นให้ความรู้สึกต่อต้านยกระดับขึ้นอีก แต่ยังไม่มีข่าวว่าประชาชนมีการเคลื่อนไหวเพื่อเตรียมจัดการแสดงออกถึงการต่อต้านอย่างโจ่งแจ้งหรือไม่และเพียงใด ในภาพนี้เป็นการชูป้ายต่อต้านดัชเชสเมแกนกับเจ้าชายแฮร์รีที่ด้านหน้าสำนักงานใหญ่สหประชาติในกรุงนิวยอร์กเมื่อ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา
“วิลเลียม-แฮร์รี” ในสงครามเย็นที่ต้องระวังตัวแบบว่าขิงสุดๆ ขณะที่นิวยอร์กโพสต์กับวอชิงตันโพสต์ เริ่มเตือนให้เลิกวีน

จอมกูรูด้านงานโฆษณาประชาสัมพันธ์และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์ นามว่า มาร์ก บอร์คาวสกี บอกกับเว็บไซต์ข่าว เมลออนไลน์ ว่าดัชเชสเมแกนคงจะใช้ทริปนี้สร้างคะแนนนิยม พร้อมกับบอกด้วยว่า “สถานการณ์ยังคงเป็นสงครามเย็นระหว่างฝ่ายซัสเซกซ์กับฝ่ายเคมบริดจ์อยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย”

การวิเคราะห์ดังกล่าวอาจเรียกว่าเป็นการพูดแทนใจนักวิเคราะห์ทั้งวงการเลย โดยฝ่ายต่างๆ เตรียมความคิดไว้แล้วว่าคงได้เห็นการฟุตเวิร์กหลบหลีกแบบที่ขิงขั้นสุด โดยไม่ต้องเกรงใจอะไร ในลักษณะที่ละม้ายกับสถานการณ์เดือนมิถุนายน ซึ่งเจ้าชายวิลเลียมไม่ไปงานปาร์ตีวันเกิดครั้งแรกของคุณลิลิเบต พระภาติยะ(หลานที่เป็นลูกของน้องชาย)วัยน่ารักน่ากอด

สิ่งที่สื่อหัวสีสายข่าวราชวงศ์รออยู่ คงเป็นการเปิดฉากตำหนิติเตียนที่จะออกมาจากฝ่ายซัสเซกซ์

กระนั้นก็ตาม หากดัชเชสเมแกนจะเดินเกมด้วยวิธีเดิมๆ น่าจะเหนื่อยเปล่า เพราะคู่ชกฝั่งอังกฤษไม่ร่วมแลกหมักให้เปลืองตัวเปลืองแรงแล้ว

เหนือสิ่งอื่นใด แฟนคลับของดัชเชสเมแกน ไม่ว่าจะเป็นสายสื่อมวลชน หรือสายประชาชน ทยอยกันเบื่อมากขึ้นเรื่อยๆ เดลีเมล ยูเคตั้งประเด็นขึ้นว่าคนอเมริกันอาจจะสังเกตรู้ว่า ในความเป็นจริงนั้นไอดอลสายซัสเซกซ์ที่แฟนคลับได้ตามชมตามเชียร์มาสองปีแล้ว อาจมีวาระพิเศษในใจที่มากกว่าเรื่องความทุกข์ตรมที่ทั้งสองคอยคร่ำครวญซ้ำๆ ว่าถูกราชนิกูลอังกฤษรังแก

จุดเปลี่ยนสำคัญเริ่มก่อตัวแล้วอย่างน้อย 2-3 รายบิ๊กเบิ้ม

นิวยอร์กโพสต์ฉบับกระดาษในวันที่ 30 สิงหาคม 2022 นำคำเตือนถึงดัชเชสเมแกนขึ้นหน้าหนึ่งเต็มบาน บอกว่า “ทารกกับมงกุฎ: เจ้าหญิงเมแกนผู้เหลิงจนเสียนิสัย ยังคง งอแงไม่จบกับเรื่องราชตระกูล” นับเป็นปฏิกิริยาที่แรงและตรงไปตรงมาต่อเนื้อหาในบทสัมภาษณ์ที่ดัชเชสให้แก่นิตยสารเดอะคัท

วอชิงตันโพสต์ซึ่งเป็นพี่ใหญ่ที่สุขุมลุ่มลึกของวงการสื่อ ก็เตือนไปถึงดัชเชสเมแกนว่า “จะประสบความสำเร็จในด้านสื่อ ก็จะต้องทิ้งเรื่องทุกข์ร้อนใจจากราชตระกูลไว้เบื้องหลังได้แล้ว

เหนืออื่นใด โทรทัศน์อเมริกันค่ายหนึ่งบอกว่าความดึงดูดบางอย่างหายไป

วี่แววแนวโน้มจึงมีสูงมากที่ว่า สองเจ้านายแห่งสายซัสเซกซ์จะจบสัปดาห์นี้ด้วยการขึ้นเครื่องบินกลับแคลิฟอร์เนียในอาการมือเปล่า เหมือนเมื่อทริปเดือนมิถุนายน

นิวยอร์กโพสต์ออกมาเตือนดัชเชสเมแกนบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 30 สิงหาคม 2022 ด้วยภาพล้อเลียนและถ้อยคำเตือนสติแรงทีเดียว โดยบอกว่า “ทารกกับมงกุฎ: เจ้าหญิงเมแกนผู้เหลิงจนเสียนิสัย “ยังคง” งอแงไม่จบกับเรื่องราชตระกูล”
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า


(ที่มา: เดอะคัท เดลีเมล ยูเค ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอร์รัล ดิเอ็กซ์เพรส เดลีเอ็กซ์เพรส เดอะเทเลกราฟ เมลออนไลน์ Page Six นิวยอร์กโพสต์ วอชิงตันโพสต์ เอพี รอยเตอร์)
กำลังโหลดความคิดเห็น