ศูนย์ข่าวศรีราชา - ศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบเหตุการณ์เพลิงไหม้ Mountain B สรุปตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดจำนวน 15 ราย มีผู้บาดเจ็บโคม่าอีกกว่า 20 ราย ด้าน ตร.รอผลนิติวิทยาศาสตร์ ก่อนออกหมายจับเจ้าของผับหลังสอบพยานแล้ว 24 ปาก ยืนยันไม่มีคนมีสีเอี่ยว
วันนี้ (6 ส.ค.) นายนริศ นิรามัยวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ผับชื่อดัง Mountain B ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายสุขุมวิท บางนา-ตราด ม.7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 01.00 วันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า หลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้มีคำสั่งให้จัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือ พบว่าวันนี้มีผู้ได้บาดเจ็บเล็กน้อยเข้ามาแสดงตัวเพิ่มอีก 3 รายเพื่อขอรับการเยียวยา
โดยระบุว่าหลังเกิดเหตุได้เดินทางกลับบ้านในทันทีจึงทำให้ไม่อยู่ในฐานข้อมูลผู้ที่จะได้รับการเยียวยา ซึ่งหลังจากนี้จะเร่งตรวจสอบข้อมูลว่าผู้ที่ติดต่อขอรับการเยียวยาเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่
"ขณะนี้หลายภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ เช่น สำนักงานยุติธรรมจังหวัดชลบุรี เทศบาลเมืองสัตหีบ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดชลบุรี สำนักงานแรงงานจังหวัดชลบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี สำนักงาน ปภ.จ.ชลบุรี และสำนักงาน คปภ.จ.ชลบุรี ซึ่งในส่วนของผู้เสียชีวิตนั้นเจ้าหน้าที่สามารถประสานงานและติดต่อญาติได้ทั้งหมดแล้ว"
ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ได้บาดเจ็บและเสียชีวิตยืนยันว่ามีจำนวน 15 ราย เป็นชาย 11 ราย หญิง 4 ราย โดยผู้เสียชีวิตรายล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ที่โรงพยาบาลระยอง คือ นายธนกฤต มีน้อย อายุ 36 ปี ขณะที่ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 38 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยสีแดง หรืออาการโคม่าที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ จำนวน 16 ราย ผู้ป่วยสีเหลือง 14 ราย และผู้ป่วยสีเขียวซึ่งแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วจำนวน 8 ราย
ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินคดีเจ้าของผับดังกล่าวนั้น พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งชุดสอบสวนเพื่อติดตามคดีอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นคดีสำคัญและมีความเกี่ยวโยงในหลายมิติ ทั้งฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น โยธาหรือระบบสาธารณูปโภค
และจะได้มีรวบรวมข้อมูลจากพยานที่สอบไปแล้ว 24 ปาก และผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ มาใช้ในการประกอบสำนวนเพื่อดำเนินคดีแก่ผู้กระทำผิดต่อไป ส่วนกรณีที่เจ้าของกิจการมีเพียงใบขออนุญาตเปิดดำเนินการในลักษณะร้านอาหาร ต้องทำการตรวจสอบบัญชี รวมทั้งตรวจสอบว่ามีการยื่นแบบโครงสร้างไว้อย่างไร ต่อเติมผิดจากเดิมหรือไม่ และมีทางออกฉุกเฉิน หรือระบบป้องกันเหตุอย่างไร
ที่สำคัญสถานบันเทิงแห่งนี้มีการซักซ้อมเหตุฉุกเฉินให้พนักงานหรือไม่ หรือมีการใช้วัสดุอันตรายที่ผิดตามประกาศเป็นกฎกระทรวง ซึ่งทุกอย่างจะต้องทำการสอบสวนโดยละเอียด
“ส่วนกรณีที่กระแสข่าวว่ามีกลุ่มคนมีสีเข้าไปมีเอี่ยวกับผับแห่งนี้จนทำให้เจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลยนั้น ขอยืนยันว่าจากการตรวจสอบไม่มีอย่างแน่นอน แต่เมื่อสังคมตั้งข้อสงสัยต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และหากพบว่าใครเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจนทำให้เกิดการปกปิด ละเลย จะดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเด็ดขาด” รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าว
ผกก.พัทยา เรียกผู้ประกอบการคุมเข้มมาตรการป้องกันไฟไหม้หวั่นซ้ำรอยสัตหีบ
และเมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.กุลชาต กุลชัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.ต.กองพล เดชะคำภู สวป.สภ.เมืองพัทยา ได้จัดประชุมผู้ประกอบการสถานบันเทิง ผับ บาร์ ที่ห้อง ศปก.สภ.เมืองพัทยา เพื่อร่วมกันหาแนวทางป้องกันและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวหากเกิดเหตุเพลิงไหม้ เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์ที่สัตหีบ
โดย พ.ต.อ.กุลชาต ได้เน้นย้ำให้สถานประกอบการในพื้นที่ทำความเข้าใจเกี่ยวกับประตูทางออก เส้นทางหนีไฟ อุปกรณ์ป้องกันกับนักท่องเที่ยว รวมทั้งต้องมีการซักซ้อมหากเกิดเหตุขึ้นจริงเพื่อให้เจ้าของร้าน พนักงานสามารถนำนักท่องเที่ยวออกจากที่เกิดเหตุได้อย่างปลอดภัย และยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ ออกตรวจตามสถานบริการต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น