คืบหน้าทนายรัชพล พาลุงวัย 70 ปี และผู้รับซื้อ-ขายคริปโต เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี หลังถูกโจรออนไลน์ หลอกใช้รูปโปรไฟล์เป็นนางแบบสาวชักชวนเทรดสูญเงิน 4.8 ล้านบาท
จากกรณีที่ ทนายรัชพล ศิริสาคร ได้รับแจ้งจาก ลุงแบงค์ (นามสมมติ) อายุ 70 ปี นำหลักฐานเข้าร้องเรียน หลังถูกมิจฉาชีพเป็นหญิงชื่อ วีณา และ ใบเฟิร์น ทักไลน์โดยใช้ภาพโปรไฟล์เป็นนางแบบสาวสวย พูดจาอ่อนหวาน ชักชวนเทรดเหรียญคริปโตในแอปพลิเคชัน จนสูญเงินไปเกือบ 4.8 ล้านบาท ผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้วที่ สภ.เมืองนนทบุรี แต่คดียังไม่คืบหน้า จึงอยากให้ทนายรัชพลช่วยเหลือทางด้านคดี
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 ส.ค. 65 ทนายรัชพล ศิริสาคร และ ลุงแบงค์ (นามสมมติ) อายุ 70 ปี พร้อมด้วย น.ส.วิลาวัลย์ ไกรหา ผู้รับซื้อ-ขายเหรียญคริปโต เข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าด้านคดีความ และนำหลักฐานเอกสารมามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเร่งติดตามตัวมิจฉาชีพมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
น.ส.วิลาวัลย์ กล่าวว่า ตนเป็นผู้รับซื้อขายเหรียญคริปโตในแอป ซึ่งทางลุงแบงค์ได้เข้ามาซื้อเหรียญ โดยการโอนเงินให้ตนจำนวน 3 ครั้ง ในวันที่ 3 ก.ค. 65 จำนวนเงิน 5 แสนบาท, 6 ก.ค. 65 จำนวนเงิน 5.5 แสนบาท, 16 ก.ค. 65 จำนวนเงิน 3.3 แสนบาท รวมทั้งหมด 3 ครั้ง จำนวนเงินทั้งหมด 1.3 ล้านบาท จะต้องไปดูรายละเอียดภายในแอป เพราะจำนวนราคาเหรียญเป็นสกุลเงิน USE ซึ่งตนก็ไม่ค่อยคล่องเรื่องนี้ เพราะว่าทุกอย่างจะเป็นภาษาอังกฤษ แต่ทุกอย่างจะเป็นชื่อของคุณลุงทั้งหมด และจะมีหลักฐานในการโอนเงินและรับเงิน ทุกอย่างจะต้องมีการยืนยันตัวตน จะสามารถตรวจสอบได้หมด ซึ่งที่ตนขายเหรียญให้คุณลุงตนได้โอนเหรียญเข้าชื่อคุณลุงทุกอย่าง และตนต้องแจ้งสลีปเพราะถ้ายอดเยอะตนก็กลัวว่าจะโดนโกงเช่นกัน
ซึ่งตนไม่รู้จักคุณลุงมาก่อน และไม่เคยคุยกัน ตนแค่ส่งเหรียญภายในแอปตามที่ลุงซื้อ ถ้าลุงมีหลักฐานการโอนหรือสลิปทางแอปจะปล่อยเหรียญให้ทันที ตนไม่เคยโกงใคร เพราะตนต้องซื้อเหรียญแล้วนำมาขายอีกที วันนี้ตนเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพที่หลอกคุณลุง ซึ่งตนคาดว่าคุณลุงอาจจะโดนมิจฉาชีพหลอกโดนการที่มิจฉาชีพส่งลิงก์มาให้ลุงกด และลุงให้รหัสแก่ทางมิจฉาชีพไป
ทางด้าน ทนายรัชพล กล่าวว่า วันนี้ตนเอาหลักฐานเอกสารเข้ามาให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจะคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะมีแนวทางติดตามหาตัวมิจฉาชีพยังไง อาจจะต้องคุยกันก่อนอีกที ซึ่งการที่ลุงเล่นเทรดแอปจะมีแอปจริง 1 แอป และแอปปลอม 1 แอป ทางน้องที่เข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะเป็นการซื้อขายเหรียญแบบปกติ ไม่มีการโกงลุง จะต้องตรวจสอบคุณลุงว่าลุงโอนเหรียญไปให้ใคร ถ้าดูการโอนอาจจะสาวไปถึงคนร้ายได้ เพราะคนร้ายอาจจะหลอกคนอื่นอยู่ คงจะต้องพึ่งพาอาศัยเครื่องมือของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าใครเป็นผู้กระทำความผิดหรือผู้ก่อเหตุ เรื่องนี้จะเข้าข้อหา พ.ร.บ.คอมพ์ นำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ในเรื่องการตัดต่อภาพโทษสูงสุดจะเป็นคุก 5 ปี หรือสามารถออกหมายจับได้ โดยไม่ต้องออกหมายเรียก
