ศูนย์ข่าวศรีราชา - ลือหนักอาถรรพ์เลข 13 นำพาหายนะและโศกนาฏกรรมใหญ่สู่เมืองสัตหีบแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ขณะชาวเน็ตวิจารณ์ลางไม่ดีตั้งแต่การปล่อยคลิปภาพเปิดตัวผับที่มีเปลวเพลิงลุกลามจนสุดท้ายเกิดขึ้นจริง
จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ผับดังเมืองสัตหีบ "เมาท์เทน บี ผับ" (MOUNTAIN B) ซึ่งมี นายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ อายุ 27 ปี รับเป็นเจ้าของตั้งอยู่ริมถนนสายสุขุมวิท บางนา-ตราด ม.7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ (5 ส.ค.) โดยขณะเกิดเหตุมีนักท่องราตรีเกือบ 100 ชีวิต กำลังเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน
ขณะที่ต้นเพลิงมาจากบริเวณหลังคาที่มีการฉีดพ่นโฟมสำหรับซับเสียงซึ่งเป็นวัตถุติดไฟได้ง่ายก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็วไปทั่วอาคาร จนเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวถูกไฟคลอกดับอนาถในที่เกิดเหตุ 13 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มที่โรงพยาบาลอีก 1 ราย ขณะที่ผู้บาดเจ็บมีมากเกือบ 40 รายนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างในหมู่ชาวสัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า มีลักษณะคล้ายกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต นั่นคือเหตุการณ์เพลิงไหม้ “ซานติก้าผับ” ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ชาวเน็ตต่างพากันพูดถึงอาถรรพ์เลข 13 ซึ่งเชื่อว่าเป็นเลขแห่งความโชคร้าย โดยได้นำจำนวนผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 13 ราย รวมถึงวันที่เกิดเหตุคือวันที่ 5 เดือน 8 มาเป็นเลขเดียวกันคือเลข 13
และยังมีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับป้ายด้านบนทางเข้าผับ MOUNTAIN B ซึ่งวิเคราะห์กันว่าหากมองให้ดีแล้วมีลักษณะคล้ายเลข 13
นอกจากนั้น ยังมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอซึ่งผับแห่งนี้ได้นำเผยแพร่เพื่อเป็นการโพสต์โปรโมตร้านเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่าภาพในคลิปยังมีการถ่ายทอดเปลวไฟ ลักษณะคล้ายไฟลามอีกด้วย
ขณะที่ชาวบ้านบางกลุ่มยังตั้งข้อสงสัยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความบังเอิญหรือแรงอาถรรพ์จากเลข 13 ในคืนวันพระ แต่สุดท้ายให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า เหตุการณ์ที่สลดใจที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องรุนแรงที่สุดสำหรับเมืองสัตหีบ จ.ชลบุรี
และเชื่อว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือนได้ของคนในพื้นที่ โดยเฉพาะบุคคลที่ประสบเหตุและรอดตายมาได้ รวมถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกราย พร้อมฝากวอนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้มงวดกวดขันกับการให้บริการของสถานบันเทิงต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุสลดซ้ำซาก
