xs
xsm
sm
md
lg

ใครเป็นใครใน “ซิปเม็กซ์” ลูกๆ เล่นกลทำชาวบ้านเดือดร้อน “สถิตย์-ไชยา-วิษณุ” รู้เห็นด้วยรึเปล่า? **บุญคุณ “เสธ.หนั่น” ต้องทดแทน เบื้องหลัง “ประดิษฐ์” รวม 2 ตระกูลร่วมทีม ภท.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ใครเป็นใครใน “ซิปเม็กซ์” ลูกๆ เล่นกลทำชาวบ้านเดือดร้อน “สถิตย์-ไชยา-วิษณุ” รู้เห็นด้วยรึเปล่า?

ตอนนี้ไม่เฉพาะแต่ลูกค้าผู้เสียหายของ “ซิปเม็กซ์” เท่านั้น ที่ติดตามความเคลื่อนไหวของบริษัทเจ้าของธุรกิจกระดานเทรดคริปโตฯรายนี้อย่างใกล้ชิด คนในสังคมก็สนใจใคร่รู้เช่นกันว่า การชดใช้ และความรับผิดชอบนั้น บริษัทจริงจัง จริงใจ โปร่งใสแค่ไหน ?

ยิ่งเกิดเหตุ “ปฏิบัติการลักหลับ” ของ ซิปเม็กซ์สิงคโปร์ งุบงิบมุบมิบขอ “คุ้มครองหนี้” ต่อศาลสิงคโปร์ โดยที่ ก.ล.ต.ไทยไม่รู้เรื่อง และลูกค้าเจ้าหนี้ผู้เสียหายชาวไทยเสี่ยง “เสียสิทธิ์” เข้าไปรับฟังไม่ทัน ซึ่งพฤตการณ์แบบนี้ส่อเจตนาอะไร โปร่งใสหรือไม่ เป็นหน้าที่ของ ก.ล.ต.ที่ต้องรอติดตามกัน ว่าจะมีคำตอบอย่างไร

นี่ถ้าสื่อไม่กระโตกกระตากขึ้นมาก่อนงานนี้ก็ “ทางสะดวกเขาละ”

เรื่องนี้ฟังว่า ก.ล.ต.จริงจัง ขึงขังขั้นสุด ช่วงสุดสัปดาห์ “รื่นวดี สุวรรณมงคล” เลขาธิการก.ล.ต.ถึงกับไลฟ์สดถี่ๆ จี้เรื่องนี้โดยเฉพาะ

อยากฝากไปถึง ก.ล.ต. ไหนๆ ก็ไหนๆ สอบให้ลึกถึงแก่นไปเลยปะไร

ไชยา ยิ้มวิไล
เริ่มจาก ปฏิบัติการลักหลับลูกค้าไทย ทั้งๆ ที่ ซิปเม็กซ์สิงค์โปร์ เอาจริงๆ ดูเหมือนเป็นบริษัทลอดช่องแต่ “หัวใจ” เป็น “ไทย” นั่นเอง เพราะแม้จะออกแบบถือหุ้นแตกบริษัทแยกร่าง “ซิปเม็กซ์” เป็น 3-4 เลเยอร์ หลายชั้น แต่กลุ่มผู้ถือห้นสามัญ และบุริมสิทธิ์ที่โยงไปโยงมา ก็เป็นเครือข่ายของ “ซิปเม็กซ์เอเชีย” ที่เป็นเจ้าของซิปเม็กซ์ไทย โดยคนไทยถือหุ้นใหญ่ทั้งทางตรง ทางอ้อม อยู่ 90%

ถามว่า “ซิปเม็กซ์เอเชีย” มีใครถือบ้าง? เจาะมาได้เห็นว่า มีตั้งแต่... “เอกลาภ ยิ้มวิไล, พราว ลิ่มพงศ์พันธุ์, ภาคย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์, พัชร ล้อจินดากุล” และหุ้นบุริมสิทธิ์นั้น มีทั้งในส่วนของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสัญชาติไทย เช่น “กึ้ง” เฉลิมชัย มหากิจศิริ และถือผ่านบริษัท วี เวนเจอร์ส เทคโนโลจีส์ จำกัด บริษัทในเครือ บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA), บมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB) บมจ.มาสเตอร์ แอด (MACO) และ บจ.กรุงศรี ฟินโนเวต บริษัทในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
เรียกว่า ซิปเม็กซ์ที่สิงคโปร์ จะทำอะไร ผู้ถือหุ้นไทย และซิปเมกซ์ไทย ไม่มีทางที่จะไม่รู้ แต่จากที่โยกสินทรัพย์ลูกค้าไทยออกไปลงทุนจนเจ๊ง ไม่มีคืนให้ เสียหายกว่า 2 พันล้าน มาถึงขอศาลสิงค์โปร์ คุ้มครองการชำระหนี้ ทำไม “คนไทย” ที่เป็นลูกค้ามารู้ทีหลัง

สถิตย์  ลิ่มพงศ์พันธุ์
ตามหลัก “โปร่งใส” Zipmex Asia เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เกิน 90% ของ Zipmex ไทย ที่เอาเงินลูกค้าไทยที่ใส่ไว้ที่ ZipUp+ ไปให้บริษัทที่สิงคโปร์ ก็เป็นคนไทยด้วยกันนี่แหละ ทำไม ลูกค้าที่โดนหนักสุดคือ ลูกค้าไทย แต่ได้รับการดูแลน้อยกว่า? เผลอๆ จะตกที่นั่งเป็น “หนี้สูญ” เอาง่ายๆ

นี่เป็นคำถามที่ผู้ถือหุ้นคนไทยต้องตอบ ซึ่งไม่ใช่เท่านี้ ท่านๆ บรรดาที่ปรึกษาซิปเม็กซ์ ที่เห็นว่า มีตั้งแต่ “สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์” อดีตปลัดคลัง บอร์ด ก.ล.ต.และประธานตลาดหลักทรัพย์ฯ “ไชยา ยิ้มวิไล” และ “วิชญะ เครืองาม” บุตรชาย “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี ก็ต้องถูกตั้งคำถามด้วยเช่นกัน

กลุ่มคนเหล่านี้ทั้งเป็น “บิดา” ของ “ลูกๆ” และเป็นผู้คอยอยู่เบื้องหลังซิปเม็กซ์ แต่ว่ากันว่าจะปรากฏชื่อในหนังสือที่ยื่นขออนุญาตกับ ก.ล.ต. เฉพาะกรณียื่นเรื่องสำคัญๆ เช่น การขอออกโทเคน ZMT โดย Zipmex ขณะกรณีอื่นๆ ที่ไม่สำคัญก็ให้ลูกๆ ว่ากันไปเอง
วกกลับมา เรื่องที่เกิดกับลูกค้าผู้เสียหายของซิปเม็กซ์ เรียกว่า “ลูกๆ เล่นกล” ทำชาวบ้านเดือดร้อนตามๆ กัน คนเขาก็สงสัยไม่รู้ว่า “พ่อๆ” จะมีส่วนรู้เห็นเป็นใจไปกับลูกๆด้วยหรือเปล่า?

ไหนจะกลวิธีโยกสินทรัพย์ของลูกค้า โดยที่ ไลเซนส์ จริงๆ ที่ได้รับมาว่าให้ประกอบธุรกิจเป็น “ศูนย์การซื้อขายคริปโตฯ” แต่ไปๆ มาๆ ไหงกลายเป็น บริษัททำธุรกรรมรับฝาก-ปล่อยให้กู้ยืม !

เฉลิมชัย มหากิจศิริ
ไหนจะปฏิบัติการลักหลับขอคุ้มครองการชำระหนี้ที่สิงคโปร์ ของซิปเม็กซ์ โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า ก่อนจะขอศาล เงินสด ทรัพย์สินทั้งหลายที่บริษัทมีนั่นมีเท่าไหร่ เปิดเผยครั้งล่าสุดที่ยื่นต่อศาลคืองวดสิ้นสุดเดือน มิ.ย.65 แต่หลังจากนั้นมา โดยเฉพาะที่ระงับการถอนของลูกค้าแล้วมีเปลี่ยนแปลงแค่ไหน ?

ถามว่า พ่ออย่าง “สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์” ที่คว่ำหวอดอยูในแวดวงราชการ การตลาดเงินตลาดทุนรู้หรือไม่ ?

ว่ากันว่า ลำพังแค่คิดเรื่องเปิดบริษัทใหม่ที่อย่าให้เอ่ยชื่อเลย แต่ก็สืบกันไม่ยาก บริษัทนี้ได้รับการส่งเสริมจาก BOI เพื่อขอสิทธิลดภาษี มีบัญชีเชื่อมโยงกับซิปเม็กซ์ ทำกันโจ๋งครึ่มขนาดนี้

ต้องไม่ลืมว่า “สถิตย์” เป็นข้าราชการระดับท็อปของกระทรวงการคลัง เคยเป็นบอร์ด ก.ล.ต. และ ไลเซนส์ ต่างๆของการทำธุรกิจ คริปโตฯ ก็ออกโดยคลัง

วิษณุ เครืองาม
เรื่องของซิปเม็กซ์ ยังมีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่รอการขุดคุ้ยและตั้งคำถามดังๆ อีกหลายเงื่อนปม และ เห็นชื่อพ่อๆ ของลูกๆ และตระกูลดังของซิปเม็กซ์แล้ว ต้องติดตามว่า คนคุมกฎ ก.ล.ต. จะกล้าลุยน้ำ ลุยไฟ ปกป้องนักลงทุน ทำความจริงให้ปรากฏ ผดุง “จริยธรรม” การทำธุรกิจคริปโต ให้น่าเชื่อถือ แบบไม่เกรงกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหม ได้แค่ไหน?

งานนี้บอกไว้เป็นเบื้องต้นว่า ดูวัวให้ดูหาง ดูซิปเม็กซ์ ต้องดูที่พ่อๆ ด้วยนะจ๊ะ


**บุญคุณ “เสธ.หนั่น” ต้องทดแทน เบื้องหลัง “ประดิษฐ์” รวม 2 ตระกูลร่วม ทีม ภท.

ควันหลงหลังจาก “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ควง “เสี่ยโอ๋” ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาฯ พรรค ขึ้นเหนือไปเปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทย เมืองพิจิตร หลังสองตระกูลดัง “ภัทรประสิทธิ์” และ “ขจรประศาสน์” นำโดย “เสี่ยอ๊อด” ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีต รมช.คลัง ส.ส.พิจิตร 4 สมัย พาน้องชาย “วินัย ภัทรประสิทธิ์” อดีต ส.ส.พิจิตร กับ “ภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์” กำนัน ต.หัวดง อ.เมืองพิจิตร หลานชาย และ “ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์” ลูกชาย “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เข้าซบ ตั้งเป้ายกจังหวัดทั้ง 3 เขต ในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า

ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์
แน่นอนว่า การแย่งชิงพื้นที่ ส.ส. ของเมืองชาละวัน จากนี้จะเป็นการสัประยุทธ์ ระหว่างภูมิใจไทย ที่มีสองตระกูลดัง “ภัทรประสิทธิ์ + ขจรประศาสน์” เป็นสมาชิกกับ พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีตระกูล “แก้วทอง” เป็นที่พึ่งความหวัง

ถามว่า ทำไม “ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” ที่เคยเป็นถึงอดีตเลขาฯ ปชป. จึงเลือก ภูมิใจไทย ด้วยประสบการณ์คว่ำหวอดในเส้นทางการเมืองมายาวนาน จึงมองว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง พรรคภูมิใจไทยน่าจะมีส่วนร่วมเข้าไปบริหารประเทศได้อีก จากนโยบายของพรรคที่ทำได้จริง ซึ่งมีเพียงไม่กี่พรรคที่ทำได้ อะไรที่สัญญาไว้กับชาวบ้านแล้วทำได้ คนในพื้นที่จะได้ประโยชน์ ถ้าทำไม่ได้จะเสียเครดิต และเสียหายในระยะยาว ซึ่งพรรคภูมิใจไทย “ทำจริง ทำได้ และทำดี”

แม้การเลือกตั้งครั้งหน้า ใครก็คาดการณ์ไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่จากประสบการณ์ของ “ประดิษฐ์” เห็นว่า พรรคที่ตั้งขึ้นมาใหม่จะประสบความสำเร็จได้น้อย ตัวเองก็ผ่านมาแล้ว จึงคิดว่าพรรคภูมิใจไทย ผ่านร้อนผ่านหนาวมา 10 กว่าปี คิดว่าเป็นพรรคที่ชาวพิจิตร น่าจะเลือกให้มาพัฒนาบ้านเมืองได้

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์
ส่วนตัวเอง วันนี้ทำงานการเมืองมา 20 กว่าปี ครั้งนี้ขอช่วยเหลือน้อง กับหลาน และตอบแทนบุญคุณ พล.ต.สนั่น ไม่ขอมีตำแหน่งทางการเมือง พอแล้ว เพราะอายุจะ 70 แล้ว ขอช่วยหลาน ช่วยน้องเท่านั้น

ขณะที่ มั่นใจได้อย่างไรว่าจะชนะทั้ง 3 เขต “ประดิษฐ์” เชื่อว่า สองตระกูลคือ ภัทรประสิทธิ์ กับ ขจรประศาสน์ ถ้านับตั้งแต่ปี 2518 ถึงวันนี้เกือบ 50 ปี เห็นได้ว่าทั้งสองตระกูล รับใช้คนพิจิตร มายาวนาน
กับ “พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์” อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มีความเคารพเหมือนพ่อลูกกัน ซึ่งในเขต 3 ที่ “ยอด” ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ลูกชายเสธ.สนั่น จะมาลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นโอกาสที่จะได้ตอบแทนบุญคุณ พล.ต.สนั่น ซึ่งพร้อมช่วยสนับสนุน “ศิริวัฒน์” มาเป็น ส.ส.พิจิตร อีกครั้ง

งานนี้ คำตอบอยู่ที่ประชาชน


กำลังโหลดความคิดเห็น