xs
xsm
sm
md
lg

หนัง Top Gun ไม่ช่วย! กองทัพสหรัฐฯ เซ็งยอดรับสมัครทหารใหม่ไม่เข้าเป้าปีนี้ รับอาจต้องลดขนาดกองทัพลงภายใน 2 ปีข้างหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เอพี - กองทัพสหรัฐฯ ยอมรับจำเป็นต้องเตรียมการลดขนาดกองทัพลงภายใน 2 ปีหลังจากนี้ หลังปีนี้กองทัพพลาดไม่ประสบความสำเร็จทำยอดรับสมัครทหารใหม่ได้เข้าเป้าตามกำหนดหายไปถึง 10,000 คนท่ามกลางสหรัฐฯ ย้ายกำลังพลเข้ายุโรปเพื่อยันพรมแดนนาโต้ทางตะวันออกกันรัสเซีย 

เอพีรายงานวันพุธ (19 ก.ค.) ว่า เจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ เปิดเผยวันอังคาร (18) ว่า ตัวเลขทหารใหม่สมัครร่วมกองทัพสหรัฐฯ ลดลงจากเดิม 10,000 คน จากแผนการกำหนดประจำงบประมาณประจำปีนี้ และคาดการณ์ว่าในปีหน้าคงจะไม่แตกต่างมากเท่าใด

ซึ่ง พล.อ.โจเซฟ มาร์ติน (Joseph Martin) รองประธานคณะเสนาธิการกองทัพสหรัฐฯ ได้มีการคาดว่าจะมีกำลังพลทั้งหมด 466,400 นาย ลดลงจากที่ตั้งเป้าไว้ที่ 476,000 นาย ซึ่งขึ้นอยู่ว่าการรับสมัครและกระบวนการหลังจากนั้นจะเป็นไปได้ดีขนาดไหน

เหลืออีก 2 เดือนครึ่งก่อนที่จะเข้าสู่งบประมาณประจำปีใหม่ แต่พบว่าทางกองทัพประสบความสำเร็จไปได้แค่ 50% เท่านั้นของเป้าหมาย 60,000 คน อ้างอิงจากโฆษกหญิงประจำเลขาธิการกองทัพ คริสตีน วอร์มัธ (Christine Wormuth)

จากตัวเลขและแนวโน้มเหล่านี้ทำให้เชื่อได้ว่า กองทัพสหรัฐฯ จะพลาดเป้าหมายไปเกือบ 25% ของเป้าหมายภายในวันที่ 1 ต.ค.และหากว่าการทำได้ไม่ถึงเป้ายังคงเกิดขึ้นต่อไปเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อความพร้อมทางการทหาร

อ้างอิงจากมาร์ติน ที่ขึ้นให้การต่อคณะกรรมาธิการกิจการกองทัพสหรัฐฯ ประจำสภาล่างสหรัฐฯ วันอังคาร (19) พบว่า การรับสมัครทหารสหรัฐฯ ใหม่เข้าประจำการปีนี้ได้รับความท้าท้ายจากทั้งช่วงหลังวิกฤตโควิด-19 และตลาดแรงงานสหรัฐฯ และยังต้องแข่งกับบรรดาบริษัทเอกชนที่ให้แรงจูงใจมากขึ้น

แต่เขาย้ำว่าในเวลานี้กองทัพสหรัฐฯ ยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงในทันทีต่อโครงสร้างทางกำลังพลเพื่อเป็นไปตามความมั่นคงชาติและภารกิจการสงครามสู้รบทั่วโลก

เอพีรายงานว่า เมื่อมกราคมต้นปีเป็นครั้งแรกที่กองทัพสหรัฐฯ เสนอแรงจูงใจมอบเงินโบนัสสูงสุดสำหรับการยอมเข้าสมัครรับราชการทหารกับกองทัพสหรัฐฯ 50,000 ดอลลาร์สำหรับผู้สมัครที่มีทักษะอาชีพสูงในการร่วมกับกองทัพเป็นเวลา 6 ปี

ซึ่งการรับสมัครส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่กองทัพจะแต่งกายในชุดเครื่องแบบออกไปพูดคุยกับพลเมืองสหรัฐฯ อายุน้อยตามชอปปิ้งมอล โรงเรียน หรือสถานที่สาธารณะเพื่อชักชวน ซึ่งภาพยนตร์ Top Gun ภาคแรกของทอม ครูซ มีรายงานว่าถูกฉายเพื่อใช้เป็นแรงจูงใจให้มีผู้มาสมัครรับใช้ชาติเป็นจำนวนมาก

เอพีรายงานว่า พล.ต.เอ็ดเวิร์ด โทมัส (Edward Thomas) หัวหน้าฝ่ายรับกำลังพลเข้าใหม่ประจำกองทัพอากาศสหรัฐฯ เปิดเผยกับเอพีว่า “เมื่อภาพยนตร์ Top Gun ภาคแรกออกฉายทั้งกองทัพอากาศและกองทัพเรือได้รับอานิสงส์เป็นอย่างมากจากการแห่เข้าสมัครอย่างล้นหลาม”

และเสริมต่อว่า “จริงๆ แล้วทางเราคาดหวังว่าผู้คนจะตื่นเต้นอีกครั้งในสิ่งที่พวกเราทำ” โดยเขากล่าวว่า “ไม่ว่าคนเหล่านี้จะมีเป้าหมายสูงหรือต้องการบินกับกองทัพเรือ พวกเราต้องการให้พวกเขาเข้าร่วมกับเรา" และเสริมต่อว่า “พวกเราต้องการให้คนเหล่านี้รู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับกิจการกองทัพ”






กำลังโหลดความคิดเห็น