“เจ้าพ่อแอมะซอน” เจฟฟ์ เบซอส วิจารณ์ “ไบเดน” ไม่เข้าใจพลวัตตลาด หลังผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องบริษัทน้ำมันลดราคา ร้อนถึงเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวต้องเรียงหน้าออกมาแก้ต่างแทนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3 ก.ค.) ขณะที่สื่อจีนหยิบยกข้อเรียกร้องของไบเดนมาล้อเลียนเช่นเดียวกัน
เรื่องเริ่มต้นจากทวิตของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อวันเสาร์ (2) ว่า "ข้อความที่ผมต้องการส่งถึงบริษัทที่ดำเนินการปั๊มน้ำมันและกำหนดราคาน้ำมันคือ นี่คือช่วงเวลาแห่งสงครามและหายนะของโลก"
“ลดราคาน้ำมันที่คุณเรียกเก็บที่ปั๊มเพื่อสะท้อนต้นทุนที่คุณจ่ายให้ผลิตภัณฑ์นี้ และลดราคาทันที”
ทว่า เบซอส ผู้ก่อตั้งแอมะซอน บริษัทอี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของอเมริกา วิจารณ์ว่า ทวีตของไบเดนถ้าหากไม่ใช่เป็นการหลงทิศทาง ก็ต้องเป็นการเข้าใจพลวัตพื้นฐานของตลาดอย่างผิดพลาดร้ายแรง
“เงินเฟ้อเป็นปัญหาสำคัญสำหรับทำเนียบขาวเสียจนกระทั่งต้องมีแถลงการณ์แนวนี้ออกมา” มหาเศรษฐีแถวหน้าของอเมริกาทวีตในวันเดียวกัน
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันเบนซินหน้าปั๊มกลายเป็นสัญลักษณ์ของราคาสินค้ามากมายที่แพงขึ้นในอเมริกา และฉุดคะแนนนิยมในตัวไบเดนตกต่ำก่อนถึงการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาช่วงกลางเทอมเดือนพฤศจิกายนที่จะถึง
ไบเดนนั้นโจมตีบริษัทน้ำมันเป็นประจำว่า สนใจแต่กำไรของตัวเอง แต่เพิกเฉยต่อภาวะที่เป็นสุขของผู้บริโภคทั่วไป
ทางด้านบริษัทน้ำมันตอบโต้ว่า ได้เพิ่มกำลังผลิตเพื่อพยายามดึงราคาลง ทว่า ราคาน้ำมันถูกกำหนดโดยตลาดโลกและมีพลวัตที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ของอเมริกา
วันอาทิตย์ แครีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาว ทวีตปกป้องไบเดนว่า ราคาน้ำมันดิบลดลง 15 ดอลลาร์เมื่อเดือนที่แล้ว แต่ราคาขายที่ปั๊มแทบไม่ลดลงเลย ซึ่งไม่ใช่พลวัตพื้นฐานของตลาด
ฌอง-ปิแอร์ ยังเหน็บแนม เบซอส แบบไม่ออกชื่อ ว่า “แต่ฉันคิดว่า คงไม่น่าแปลกใจที่คุณจะคิดว่าการที่บริษัทน้ำมันและแก๊สใช้อำนาจในตลาดฟันกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยที่คนอเมริกันต้องแบกรับ เป็นวิถีปกติของระบบเศรษฐกิจของเรา”
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันเบนซินในอเมริกาอยู่ที่แกลลอนละกว่า 5 ดอลลาร์มาตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศที่คลั่งไคล้การขับรถอย่างอเมริกา แม้นับจากนั้นราคาจะขยับลงเล็กน้อย แต่ยังห่างไกลจากราคาแกลลอนละ 3 ดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
ทางด้านจอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบขาวฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ เป็นอีกคนที่ออกมาปกป้องไบเดน ระหว่างให้สัมภาษณ์รายการฟ็อกซ์ นิวส์เมื่อวันอาทิตย์ โดยบอกว่า “ประธานาธิบดีทำงานหนักมากและพยายามทำหลายอย่างเพื่อดึงราคาน้ำมันให้ลดลง”
เคอร์บีอ้างอิงข้อเสนอของไบเดนในการระงับการเก็บภาษีน้ำมันของรัฐบาลกลางในช่วงฤดูร้อน ซึ่งต้องได้รับอนุมัติจากรัฐสภา และการตัดสินใจของผู้นำสหรัฐฯ ในการนำน้ำมันในคลังสำรองเชิงยุทธศาสตร์ออกมาใช้เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำมันในตลาด
โฆษกทำเนียบขาวผู้นี้ทิ้งท้ายว่า ไบเดนรู้ว่า คงไม่อาจแก้ไขปัญหาทั้งหมดได้ แต่ถ้าทุกคนร่วมมือกันจะเป็นประโยชน์มาก “เราอาจดึงราคาน้ำมันลงอย่างน้อย 1 ดอลลาร์ต่อแกลลอน”
ย้อนกลับไปเมื่อวันพฤหัสฯ ที่แล้ว (30 มิ.ย.) ไบรอัน ดีส ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของทำเนียบขาว ปกป้องคำพูดของไบเดน ที่ระบุว่า อเมริกันชนคงต้องเผชิญกับราคาเชื้อเพลิงหน้าปั๊มในระดับสูงไปจนกว่ารัสเซียจะพ่ายแพ้ โดยเขาย้ำว่า "สิ่งที่คุณได้ยินจากประธานาธิบดีในวันนี้ ชัดเจนว่าเป็นการเสี่ยงเดิมพัน มันเกี่ยวข้องกับอนาคตของระเบียบโลกเสรี ซึ่งเราจำเป็นต้องยืนหยัดเพื่อสิ่งนี้"
ที่ผ่านมา เบซอส ปะทะคารมกับคณะบริหารของไบเดนหลายครั้ง เช่น เมื่อเดือนพฤษภาคมเขากล่าวหาไบเดนทำให้สังคมเข้าใจผิด และโทษคณะบริหารไบเดนว่าเป็นตัวการทำให้เงินเฟ้อพุ่ง
การที่ไบเดนวิจารณ์บริษัทพลังงานเอกชนอเมริกัน ไม่เพียงถูกบุคคลทรงอิทธิพลในอเมริกาเหน็บแนม แต่ยังถูกสื่อของรัฐบาลจีนหยิบยกมาล้อเลียน
เฉิน เว่ยหัว คอลัมนิสต์และหัวหน้าสำนักงานอียูของไชนา เดลี หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษของทางการจีน เขียนว่า "ท้ายที่สุดแล้ว ตอนนี้ประธานาธิบดีไบเดนก็ได้ตระหนักว่าทุนนิยมเป็นเรื่องของการแสวงหาผลประโยชน์ล้วนๆ หลังจากที่ผ่านมาเขาไม่เชื่อเช่นนี้"
(ที่มา : เอเอฟพี, เอเจนซีส์)