ประท้วง ตร.ในสหรัฐฯ สุดโหด สาดกระสุนหลายสิบนัดปลิดชีวิต ‘ชายผิวสี’ หลังขับรถละเมิดกฎจราจร

ผู้ประท้วงหลายร้อยคนออกมาเดินขบวนเมื่อวันอาทิตย์ (3 ก.ค.) ที่เมืองอาครอน รัฐโอไฮโอ ของสหรัฐฯ หลังจากมีการเผยแพร่ภาพจากกล้องที่ติดตัวตำรวจ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเจ้าหน้าที่กำลังรัวกระสุนหลายสิบนัดเข้าใส่ชายผิวสีซึ่งไม่มีอาวุธติดตัวรายหนึ่ง จนกระทั่งเสียชีวิต ขณะที่ตำรวจบอกว่าชายผู้นี้ดูเหมือนมีปืนอยู่ในรถและยิงใส่เจ้าหน้าที่ด้วย

ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวที่พุ่งพรวดขึ้นมาจากกรณีล่าสุดของการที่ตำรวจเข่นฆ่าชายผิวดำในสหรัฐฯ โดยที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่พยายามเรียกร้องให้ผู้คนอยู่ในความสงบ ปรากฏว่ามีผู้คนจำนวนหนึ่งได้จัดการชุมนุมและเดินขบวนไปยังศาลาว่าการเมือง โดยถือแผ่นป้ายเขียนข้อความประท้วง พร้อมตะโกนถ้อยคำอย่างเช่น “ลงโทษคนที่ทำกับเจย์แลนด์”

ถ้อยคำดังกล่าวนี้หมายถึง เจย์แลนด์ วอลเกอร์ วัย 25 ปี ที่ถูกยิงเสียชีวิตตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (27 มิ.ย.) หลังเจ้าหน้าที่พยายามเรียกเขาให้จอดรถ โทษฐานละเมิดกฎจราจร ทั้งนี้จากการเปิดเผยของสำนักงานตำรวจเมืองอาครอน




การเดินขบวนในวันอาทิตย์ (3) คือวันที่ 4 ของการที่ผู้คนออกมาประท้วงอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาการประท้วงดำเนินไปอย่างสงบ ถึงแม้มีช่วงเวลาซึ่งตึงเครียดอยู่เหมือนกันเมื่อผู้ประท้วงบางคนเข้าไปใกล้ๆ ตำรวจที่ตั้งแถวคอยควบคุมสถานการณ์ และพากันตะโกนใส่พวกเขา

หลังจากเดินขบวนแล้ว ยังมีฝูงชนที่อยู่ในท้องถนนเพื่อแสดงการประท้วงต่อ และถูกตำรวจในชุดปราบจลาจลบุกเคลียร์พื้นที่ในตอนกลางคืน

ด้วยความหวาดกลัวว่าจะเกิดความไม่สงบปะทุขึ้นมา ทางการของเมืองที่มีประชากรราว 190,000 คนแห่งนี้ ได้สั่งเคลื่อนย้ายพวกรถตักหิมะและเครื่องมืออุปกรณ์ขนาดหนักชนิดอื่นๆ มาไว้ที่ใกล้ๆ สำนักงานตำรวจเพื่อใช้เป็นเครื่องกีดขวาง นอกจากนี้ พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของเมืองยังได้สั่งยกเลิกงานฉลองวันชาติสหรัฐฯ 4 กรกฎาคมด้วย

หลังจากในตอนแรกๆ แทบไม่มีการให้รายละเอียดอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ยิงกัน จนกระทั่งในวันอาทิตย์ (3) พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของเมืองอาครอน ได้เผยแพร่วิดีโอออกมา 2 ชุด หนึ่งในนั้นเป็นคลิปและภาพนิ่งซึ่งตัดต่อจากกล้องติดตามตัวตำรวจ และมีเสียงบรรยาย ส่วนอีกคลิปเป็นภาพเหตุการณ์เต็มจากกล้องติดตามตัวตำรวจ แสดงให้เห็นฉากไล่ล่าและรัวยิงทั้งหมด

เสียงบรรยายอธิบายว่า วอลเกอร์ ไม่ยอมหยุดรถตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่และขับออกไป จากนั้นตำรวจก็ปฏิบัติการไล่ล่าและบอกว่ามีการยิงปืนออกมาจากรถยนต์ของวอลเกอร์นัดหนึ่ง

หลังจากไล่ล่ากันอยู่นานหลายนาที วอลเกอร์ลงจากรถของเขา แต่ยังคงไม่อยู่กับที่ และพยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่หลายคนพยายามสยบเขาด้วยปืนช็อตไฟฟ้า แต่เขายังคงวิ่งหนี

สุดท้ายแล้วตำรวจหลายนายก็ไล่ตาม วอลเกอร์ ไปจนถึงลานจอดรถแห่งหนึ่ง ปรากฏว่าภาพจากกล้องติดตามตัวตำรวจนั้นเบลอเกินไป จนไม่สามารถมองสิ่งที่เกิดขึ้นได้ชัด แต่ก็ยังได้ยินเสียงปืนดังรัวๆ หลายสิบนัด

เบื้องต้น ตำรวจเผยแพร่ถ้อยแถลงหลังเหตุยิงในครั้งนั้นว่า วอลเกอร์ แสดงพฤติกรรมที่ทำให้ตำรวจมองว่าเขาอาจเป็นภัยคุกคามถึงชีวิต

รายงานข่าวระบุว่า ตำรวจทุกคนในที่เกิดเหตุเปิดฉากยิงใส่วอลเกอร์ และเป็นการรัวยิงหลายนัดติดต่อกัน จนทำให้ วอลเกอร์ เสียชีวิตคาที่

เหตุการณ์นี้ถือเป็นคดีพลเมืองอเมริกาเชื้อสายแอฟริกันรายล่าสุดที่เสียชีวิตด้วยเงื้อมมือตำรวจในสหรัฐฯ โดยที่เหตุการณ์ครั้งก่อนๆ ที่ผ่านมา ได้โหมกระพือการประท้วงใหญ่เพื่อต่อต้านการเหยียดผิวและการกระทำโหดร้ายทารุณของตำรวจหลายต่อหลายครั้งแล้ว

"ผู้คนจำนวนมากคงปรารถนาแสดงออกถึงความคับข้องใจในที่สาธารณะ และผมสนับสนุนเต็มที่ต่อสิทธิการชุมนุมอย่างสันติของพลเมืองของเรา" แดน ฮอร์ริแกน นายกเทศมนตรีอาครอนกล่าวระหว่างแถลงข่าว พร้อมระบุว่า เขาใจสลายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น "แต่ผมหวังว่าชุมชนของเราจะเห็นพ้องต้องกันว่าความรุนแรงและการทำลายล้างไม่ใช่คำตอบ" พร้อมบอกด้วยว่ากำลังมีการสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นอิสระในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคราวนี้

ด้าน สตีฟ มีเลตต์ ผู้บังคับการตำรวจเมืองอาครอน บอกว่าไม่รู้ว่ามีการสาดกระสุนกี่นัดเข้าใส่วอลเกอร์ แต่รายงานการชันสูตรศพบ่งชี้ว่ามีบาดแผลในร่างของ วอลเกอร์ มากกว่า 60 แผล

เขาบอกว่าเจ้าหน้าที่ 8 คนที่เกี่ยวข้องกับการตายของวอลเกอร์ ถูกพักงานโดยยังได้รับค่าจ้าง จนกว่าการสืบสวนจะแล้วเสร็จ

ทางด้านสำนักข่าวเอพีรายงานว่า หลังเกิดเหตุแล้ว ได้พบปืนพกกระบอกหนึ่ง แมกกาซีนกระสุนที่ขึ้นลำเอาไว้แล้วจำนวน 1 แมกกาซีน สิ่งที่ดูเหมือนเป็นแหวนแต่งงาน อยู่ในบริเวณที่นั่งของรถคันซึ่ง วอลเกอร์ ขับมา นอกจากนั้นในเวลาต่อมายังพบกล่องบรรจุซึ่งเข้ากันได้ดีกับปืนพกกระบอกนี้ ในบริเวณพื้นที่ซึ่งพวกตำรวจเชื่อว่ามีการยิงปืนออกมาจากรถของวอลเกอร์

(ที่มา : เอเอฟพี, เอพี)