xs
xsm
sm
md
lg

[คำต่อคำ] SONDHI TALK : "อคติ" บังตา ขบวนการเตะตัดขากัญชา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



วันที่ 1 ก.ค.65 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิ ช่องยูทูป Sondhitalk และแอปพลิเคชัน Sondhi App โดยมีประเด็นที่ได้เล่าในวันนี้ได้แก่

-ดราม่าพิมรี่พาย เลหลังตั๋วแดงเดือด แมนยู-ลิเวอร์พูล ข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นอย่างไร ที่มาที่ไป ใครร่วมมือกับใคร
-เมื่อ “อคติและผลประโยชน์” บังตา ขบวนการเตะตัดขา “กัญชา” จึงเกิดขึ้น!

- ประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา สหรัฐฯ อวดเบ่งจนหน้าแหก

-เสรีภาพแบบอเมริกา? ชาวอเมริกันมีสิทธิขั้นพื้นฐานในการพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ คุณสนธิมีมุมมองเรื่องนี้อย่างไร
-จีนเคยเป็นประเทศที่อดอยาก ด้วยจำนวนประชากรนับพันล้านคน แต่ปัจจุบันสามารถบรรลุอัตราการพึ่งตนเองด้านอาหารได้ถึง 95% จีนทำได้อย่างไร?
-เปิดเบื้องลึก​ ศึกซักฟอก ช่วงเวลาทำมาหากินของนักการเมือง!



คำต่อคำ SONDHI TALK EP.144 [1 ก.ค. 65] : "อคติ" บังตา ขบวนการเตะตัดขากัญชา

ช่องทางการรับชมรับฟัง "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ SONDHI TALK
แอปพลิเคชัน : SONDHI APP
ระบบ iOS ดาวโหลดได้ที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647.
ระบบ Android ดาวโหลดได้ที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
เฟซบุ๊กแฟนเพจ : คุยทุกเรื่องกับสนธิ
YouTube : Sondhitalk
เว็บไซต์: www.sondhitalk.com
Podcast หรือ podbean : SONDHI TALK<

สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เป็นการเริ่มต้นของเดือนกรกฎาคม เวลาผ่านไปเร็วจนเหมือนโกหก ก่อนที่จะเข้ารายการ ต้องชี้แจงนิดหนึ่ง ท่านผู้ชมที่เคยไปซื้อขนมปังที่ร้าน SUN PAN ที่ ราบ 1 ปั๊ม ปตท. ถนนวิภาวดี ก็อยากจะเรียนให้ทราบว่าตอนนี้ SUN PAN ฉลองเปิดสาขาใหม่แล้ว ที่ปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ศรีนครินทร์ อย่างเป็นทางการ สำหรับท่านผู้ชมที่อยู่นอกเขตในเมือง ก็สามารถจะแวะไปที่ปั๊มคาลเท็กซ์ที่ศรีนครินทร์ ได้ นี่ก็คือขนมปังเหมือนกับสาขาที่ ราบ 1 ถนนวิภาวดี ทุกอย่าง มีเหมือนกันทุกอย่าง มีทั้งน้ำยูซุ พวกสเปรด แยมส้ม หลายอย่าง ท่านผู้ชมไปเลือกดูได้ ถ้าอยู่ใกล้แถวนั้น ก็ไปแถวนั้น อาจจะเดินทางยากนิดหนึ่ง เพราะกำลังมีการก่อสร้าง แต่ไม่เป็นไรครับ ก็คือเป็นจุดหนึ่งเพื่ออำนวยความสะดวกให้ท่านผู้ชม


ท่านผู้ชมครับ ช่วงนี้ท่านผู้ชมคงรับทราบข่าวคราวสถานการณ์ของการแพร่กระจายโรคระบาดรอบใหม่ ซึ่งขนาดคุณอนุทิน ชาญวีรกูล แม้จะฉีดวัคซีน 6 เข็มแล้ว ไม่ว่าผสมสูตรไหนก็ยังติด ตอนนี้คนที่ติดเชื้อรายวันยังดูต่ำอยู่ เหตุผลก็เพราะว่าคนที่ติดแล้วไม่ได้รายงานทางการทราบ ส่วนใหญ่มีอาการน้อย ตรวจ ATK และที่สำคัญคือ รักษากันเองด้วยยาฟ้าทะลายโจร หรือสมุนไพรอื่น จนมีการประเมินว่าคนที่ติดเชื้อจริงอาจจะสูงกว่าตัวเลขจริงถึงสิบเท่า

ผมก็เลยอยากแนะนำท่านผู้ชม ให้ซื้อฟ้าทะลายโจรมาใส่ชั้นติดบ้านเอาไว้ ฟ้าทะลายโจรที่ผมแนะนำให้ซื้อก็คือ พรีเมียม เฉพาะใบ ของอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ซื้อได้ เข้าไปใน Shopee พิมพ์คำว่า "สมุนไพรบ้านพระอาทิตย์" อย่าลืมนะครับ ฟ้าทะลายโจร มีติดเอาไว้

ผมมีคนรู้จักกันอยู่ที่ประเทศอังกฤษ แล้วผมก็ส่งฟ้าทะลายโจรแบบนี้ไปทางไปรษณีย์ให้เขาเก็บเอาไว้ ปรากฏว่าเขาก็ไปติดอยู่ที่อังกฤษ เรียนหนังสืออยู่ที่นั่น แล้วเขาก็ทานฟ้าทะลายโจร 3-4 วัน เขาก็บอกว่าหายดีแล้ว ATK ก็เหลือขีดเดียว หลายๆ คนยืนยันได้ว่าฟ้าทะลายโจรรักษาได้ดีที่สุด


ท่านผู้ชมครับ "ยาลม ๓๐๐ จำพวก" ผมเคยพูดมาแล้ว ท่านติดเชื้อโควิด โอมิครอน ถ้ามีอาการไม่สบายเนื้อสบายตัว ลองโควิด (Long COVID) ก็คือหลังจากหายแล้วยังมีลองโควิด คือไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว ให้รับประทาน "ยาลม ๓๐๐ จำพวก" เป็นสูตรยาไทย อายุวัฒนะ ตามตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 คิดค้นโดย "ขรัวพ่อฉิม" คือ หลวงพ่อฉิม วัดชัยชนะสงคราม สามารถจะบรรเทาอาการดังกล่าวได้ ท่านผู้ชมที่ต้องการ "ยาลม ๓๐๐ จำพวก" inbox เข้ามาที่เฟซบุ๊ก SONDHI TALK ได้เหมือนเดิม

ท่านผู้ชมครับ รายการวันนี้เราจะมีหลายเรื่อง เรื่องแรกก็คือ เรื่องอาจจะดูเก่าไปแล้ว แต่เผอิญท่านผู้ชม inbox มาถามผมมาก คือเรื่องดรามาพิมรี่พาย เลหลังตั๋วแมนฯ ยู-ลิเวอร์พูล ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ผมจะไม่พูดยาวนะครับ ผมจะสรุปเรื่องที่เกิดขึ้นให้ท่านผู้ชมฟัง ท่านผู้ชมจะได้รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรบ้าง เหตุการณ์มันเกิดขึ้นมาอย่างไร ใครร่วมมือกับใคร จะไม่ลงรายละเอียด ไม่ยาวเท่าไรนัก

เรื่องที่สอง เป็นเรื่องที่สำคัญมาก คือเรื่องกระบวนการเตะตัดขากัญชา ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าตอนนี้วงการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพทย์ที่เป็นทาสของยาฝรั่ง รวมหัวกัน แจ้งไปทางราชวิทยาลัยหลายแห่ง ให้คนนั้นออกมาพูดต่อต้านกัญชา ให้คนนี้ออกมาพูดต่อต้านกัญชา ล่าสุด สมาคมเภสัชกรออกมาแถลงว่า อยากให้เอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ท่านผู้ชม ขอประทานโทษต้องใช้ภาษาที่หยาบหน่อย เรื่องนี้มันบัดซบมาก นี่คือกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่มีผลประโยชน์ผูกพันกับยาฝรั่ง แล้วกัญชาสามารถที่จะลดการใช้ยาฝรั่งไปได้เยอะ ตอนนี้ยาฝรั่งเดือดร้อนมาก ที่ผมเสียใจมากที่สุด และผมจะพูดในรายการนี้ก็คือ แพทย์ชนบท

แพทย์ชนบท ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าแพทย์ชนบท แทนที่จะส่งเสริมสมุนไพรไทย และจนวันนี้แพทย์ชนบทก็ยังไม่มีทีท่าที่ชัดเจนกับฟ้าทะลายโจร แล้วมาอ้างตัวเองว่าเป็นแพทย์ชนบท แพทย์ชนบทก็เลยกลายเป็นกลุ่มมาเฟียอีกกลุ่มหนึ่งในขณะนี้ ก็คือรับใช้คนที่มีผลประโยชน์ ไม่ได้รับใช้ประชาชนเลยแม้แต่นิดเดียว เดี๋ยวฟังผมพูดเรื่องนี้ "เมื่ออคติและผลประโยชน์บังตา ขการเตะตัดขากัญชา"

เรื่องที่สาม คือเรื่องที่ผมสัญญากับท่านผู้ชมเอาไว้คราวที่แล้วว่าผมจะเอาเบื้องหน้าเบื้องหลังของการอภิปรายไม่ไว้วางใจขึ้นมา แล้วก็อาจจะเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวของการเตะตัดขากัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ล่าสุด ระหว่างพรรคเพื่อไทย กับภูมิใจไทย ที่พรรคเพื่อไทยคะแนนนิยมทางอีสานลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ ภูมิใจไทยเพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าเรื่องกัญชา ก็เลยเกิดขบวนการจับมือกันระหว่างพรรคเพื่อไทย กับกลุ่มต่างๆ ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน รวมไปถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่าทำไมคนนี้ถึงโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจ คนนี้กลับไม่โดน คนที่ควรจะโดนกลับไม่โดน ฟังที่ผมจะพูดก็แล้วกันนะครับ

เรื่องต่อไป คือ เรื่องอเมริกาอวดเบ่งจนหน้าแหก ในการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา ลาตินอเมริกา คืออเมริกาใต้ ซึ่งประเทศอเมริกา รัฐบาลอเมริกา เขาเรียกประเทศนี้ว่าเป็นสวนหลังบ้านของอเมริกา ก็คือเป็นสวน นึกจะไปเดินเล่นเมื่อไรก็ไปเดิน เบื่อเมื่อไร ปวดท้องฉี่ ก็ฉี่ลงบนสนามหญ้านั้น นั่นคือลาตินอเมริกา แต่งานนี้อเมริกาหน้าแหก และผมก็มีต่อด้วยเรื่องสิทธิเสรีภาพแบบอเมริกา สะท้อนปรัชญามุมมองของชาวอเมริกาที่มีต่อชาวโลก ลองตามดูครับ สนุกสนานแน่นอน

และเรื่องสุดท้าย ในอดีต ไม่นานมานี้่เอง ประเทศจีน เขาเรียกว่าประเทศคนป่วยแห่งเอเชีย ตอนนี้ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าเขาเป็นมหาอำนาจทางการเกษตรอัจฉริยะ ท่านผู้ชมรู้ไหมว่า เขาใช้เทคโนโลยี และความอัจฉริยะทางการเกษตรที่เขาคิดค้นนวัตกรรมต่างๆ ใหม่ๆ มา เอามาทำให้ประเทศจีนเดี๋ยวนี้ผลิตอาหารพอจะป้อนประชากรได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ และผมคิดว่าเป้าหมายเขาจะถึง 100 เปอร์เซ็นต์ แน่นอน โดยที่ไม่ต้องพึ่งใครอีกเลย และนี่ก็คือ "เศรษฐกิจพอเพียง"


ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมที่ inbox เข้ามาถามผมในกรณีเรื่องตั๋วลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ยู 2 หมื่นใบ ที่พิมรี่พายเอามา คำถามมีอยู่ว่า เอามาจากไหน ? ข้ออ้างในไลฟ์สดที่ว่าอยากจะช่วยเพื่อน ควักเงินตัวเองมาซื้อ 400 ล้าน เอามาขายลด ยอมขาดทุนราว 100 ล้าน ท่านผู้ชมครับ ใครจะเชื่อเธอ แม่ค้าที่ไหนจะใจใหญ่ทำธุรกิจขาดทุนป่นปี้ขนาดนี้ ตั๋วล็อตใหญ่ขนาดนี้ ซื้อขายกันมาก็ต้องมีหลักฐาน มีใบเสร็จ ใครเป็นเพื่อนที่มีตั๋วมากมายขนาดนี้ เรื่องนี้สืบกันจริงๆ แน่นอนว่าผู้จัดต้องรู้ว่าตั๋ว 2 หมื่นใบ ที่ให้พิมรี่พายไปรีเซลนั้นมาจากไหน

เอาเป็นว่า เล่าที่มาที่ไปของเรื่องราวทั้งหมดแบบนี้ดีกว่า เพราะว่ามีคุณวินิจ คนเดียวที่ออกมารับผิดไปเต็มๆ เพราะเป็นคนจัดงาน แต่ยังมีผู้ที่จัดงานร่วม ร่วมลงทุนกับคุณวินิจ อยู่ ก็คือคุณท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา เจ้าของบิทคับ แพลตฟอร์มตลาดซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีที่มีโฆษณาชวนคนเล่นอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง


พอเริ่มมีดรามาเรื่องบัตร 2 หมื่นใบ มาจากไหน บิทคับก็รีบใส่ตีนสุนัขวิ่งหนีออกไปเลย บอกว่าบัตรเข้าชมการแข่งขันที่ทางบิทคับได้รับไม่เกี่ยวข้องกับสปอนเซอร์อื่นใด หรือผู้จัดจำหน่ายอื่นใดทั้งสิ้น บอกว่า ไม่เกี่ยวข้องกับดรามาตั๋วบอลของพิมรี่พายแต่อย่างใด

จุดเริ่มต้นปัญหาทั้งหมด คือความร่วมมือระหว่าง คุณวินิจ และ คุณจิรายุส หรือคุณท็อป เกิดจากคุณวินิจ เลิศรัตนชัย ต้องการจัดศึกแดงเดือด ก็เลยไปจับมือกับท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ร่วมก่อตั้งบิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เพราะมองว่าบิทคับนั้นมีศักยภาพ มีเงินทุน และมีภาพลักษณ์ ส่วนจิรายุส (ท็อป) นั้น เป็นผู้คลั่งไคล้ฟุตบอลมาก


ก็คงจะเล็งเห็นผลประโยชน์ที่จะตามมามากมายมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นผลกำไรอย่างเป็นกอบเป็นกำ และเป็นการต่อยอดธุรกิจ นำผลกำไรจาการขายเหรียญ KUB Coin ซึ่งตอนนี้ตลาดคริปโทฯ ตกต่ำ ไม่สามารถสร้างราคาได้อีก รวมถึงการประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์ให้กับบิทคับเพื่อดึงดูดให้แฟนบอล ซึ่งในประเทศไทยมีแฟนบอลเป็นจำนวนมากทั้งสองทีม สามารถเข้าสู่วงจรตลาดคริปโทฯ ตรงนี้ล่ะจะทำให้บิทคับได้ผลประโยชน์แบบเต็มๆ สามารถขยายฐานตลาดใหม่เข้าสู่กลุ่มแฟนบอลทั้งสองทีม จึงมีความเป็นไปได้อย่างสูงว่าบิทคับ หรือท็อป จิรายุส ไม่ใช่เป็นเพียงสปอนเซอร์อย่างเดียวในงานนี้ แต่ควักเงินร่วมลงทุนด้วย งานนี้ถึงขาดทุนไม่ได้ไง ท่านผู้ชม เลวร้ายที่สุดคือต้องเสมอทุน


ท่านผู้ชมครับ สังเกตดีๆ ในช่วงแรกๆ วินิจ กับ ท็อป จิรายุส เดินสายโปรโมตกิจกรรมเต็มที่ทุกช่องทาง ทั้งช่องทางเฟซบุ๊กส่วนตัว หรือแม้กระทั่งการออกสื่อต่างๆ โลโก้งาน ตามด้วยป้าย LED ที่ซื้อโฆษณาไว้เต็มบ้านเต็มเมือง สะท้อนให้เห็นชัดว่า ท็อป ร่วมลงทุนอย่างแน่นอนที่สุด ยังไม่นับหอบหิ้วสื่อบางสำนักไปทัวร์สโมสรลิเวอร์พูล-แมนฯ ยู


มีการไลฟ์สดบรรยากาศ ถ่ายภาพภายในสนามสโมสร ภาพคู่นักเตะของทั้งสองทีม โพสต์ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างกระแสและกระตุ้นความสนใจแฟนบอลชาวไทย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับตรงกันข้ามกับสิ่งที่หวังไว้ เนื่องจากราคาจำหน่ายตั๋วกำหนดสูงเกินไป ใบละ 2 หมื่นบาท 1 หมื่น 5 พันบาท ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้อ กระแสไม่ปังอย่างที่คิด บัตรขายไม่หมด ทางผู้จัดก็เลยคิดจะดึง แจ๊กสัน หวัง (Jackson Wang) แห่งวง GOT7 มาจัดคอนเสิร์ต เพื่อดึงยอดผู้ชม อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การตลาดก็ผิดพลาดอีกครั้ง เมื่อทางผู้จัดคาดการณ์ผิด เพราะกลุ่มแฟน GOT7 ยังบ่นว่าตั๋วแพง แถมเป็นคนละกลุ่มเป้าหมายกับฟุตบอล ตั๋วยังเหลืออีกบานตะไท


เมื่อเขาขายในระบบ Thai Ticket Major ลดราคาไม่ได้ ทางเลือกสุดท้ายก็คือ ต้องให้พิมรี่พาย ระบายสต๊อก เพราะฉะนั้นแล้ว มันน่าจะเป็นการยื่นข้อเสนอให้เอาตั๋วพวกนี้ให้พิมรี่พายเอาไปขายในราคาถูก แบ่งผลประโยชน์กัน ซึ่งวิน-วินด้วยกันทั้งคู่ ก็เลยกลายเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นมา

แล้วทำไมต้องเป็น พิมรี่พาย ? นี่เป็นข้อที่สอง เธอไม่ใช่คนแปลกหน้าของท็อป บิทคับ มีความสัมพันธ์อันดีผ่านเครือข่าย Chosen one ของบิทคับ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อชนกลุ่มอีลิท ให้เข้ามาร่วมเป็นลูกค้าทำธุรกิจกับบิทคับ มีความร่วมมือกันอยู่แล้วในระดับหนึ่ง เพียงแต่พิมรี่พาย ยังไม่ออกเหรียญ หรือประกาศความร่วมมือกับบิทคับออกมาเท่านั้น


ด้วยความรู้จัก และเห็นพลังจากช่องทางการขายของของพิมรี่พาย เงื่อนไขใดๆ ที่พิมรี่พาย นำเสนอ แฟนๆ ที่ติดตามก่อน จะเป็นดรามา ทั้งกินข้าวกับนักฟุตบอล หรือนักร้องดัง อาจจะได้รับสัญญาณจากวงใน ระหว่างผู้จัด ซึ่งผมเชื่อว่าทางคุณท็อป ก็ไม่ได้มองว่าเสียหายอะไร นอกจากวิน-วิน ขายตั๋วได้ ตัวเองก็จะได้ภาพลักษณ์จากการเข้ามาสนับสนุนจัดงานใหญ่ร่วมกับวินิจ มีแต่ได้กับได้

ท่านผู้ชมครับ นี่คือเบื้องหน้าเบื้องหลังทั้งหมด แต่ท่านผู้ชมครับ คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต กลยุทธ์การตลาดแบบนี้ผมเรียกว่า "ตีหัวเข้าบ้าน" เป็นกลยุทธ์สองมาตรฐาน จะผิดพลาดขึ้นมากับพิมรี่พาย จนคนเขาด่าทั่วบ้านทั่วเมือง อื้อฉาวไปทั่วโลก ในความไม่เป็นมืออาชีพในการจัดงาน พอเรื่องราวมันโด่งดังขึ้นมา คุณท็อป จิรายุส บิทคับ ตอนนี้เงียบสนิท หายตัวไปเลย ผิดวิสัยที่ธรรมดาแล้วจะต้องเสนอหน้าอยู่ทุกเรื่อง


ท่านผู้ชมครับ นี่เป็นความเห็นส่วนตัวของผม ในภาวะการณ์ขณะนี้ ตั๋วดูฟุตบอล 2 หมื่นบาท หรือ 1 หมื่น 5 พันบาท ท่านผู้ชมยังจะซื้ออีกหรือ อย่าบ้าหน่อยเลย เงิน 1 หมื่น 5 พันบาท ถึง 2 หมื่นบาท ถึงท่านผู้ชมจะมีเงินเป็นล้านๆ ก็ตาม เก็บเอาไว้เถอะ นั่งดูในทีวียังจะดีเสียกว่า ท่านผู้ชมครับ เพื่ออะไร ? เพราะฉะนั้นผมอยากจะเตือนและอยากจะแนะนำว่า ยุคนี้เป็นยุคที่เราต้องประหยัดเงินประหยัดทอง ไปซื้ออะไรที่ไม่มีประโยชน์เลย แล้วซื้อของพวกนี้ไป พวกนี้ก็ไปสร้างภาพของตัวเอง พวกนี้มีกำไรกัน คนสปอนเซอร์ ก็คือบิทคับ ก็หวังว่าพวกท่านผู้ชมที่เป็นแฟนแมนฯ ยู กับ ลิเวอร์พูล ก็อาจจะเข้ามาเล่นคริปโทเคอร์เรนซี ก็อีกล่ะ บิทคับ คือบ่อนการพนันปลายซอย ถั่วโป ไม่มีกติกา ตัวเองก็เอาตัวไม่รอด ราคาคริปโทฯ ก็ตกเอาๆ จนกระทั่งต้องไปเจรจาเอาบริษัทในตลาดหลักทรัพย์มาซื้อเพื่อพยุงราคาเอาไว้ และรับประกันจะซื้อเขาคืนถ้าหากขาดทุน

ท่านผู้ชมครับ ไทยพาณิชย์ครับ นี่้เป็นบริษัทที่คุณคิดที่จะเทกโอเวอร์หรือ บ่อนการพนันแท้ๆ ถ้าจะเล่นการพนันทั้งที ไปเล่นบ่อนใหญ่อย่างพวกมาเก๊า ขนาดบ่อนใหญ่ยังเอาตัวไม่รอดเลย Binance ยังเอาตัวไม่รอดเลยตอนนี้ ทั่วโลกมันพังทลายหมด ท่านผู้ชมครับ นอกจากอย่าไปเล่นคริปโทฯ ที่บิทคับ หรือที่ไหนก็ตาม เก็บเงินไว้เถอะ อย่าไปซื้อตั๋ว 2 หมื่นบาท หรือ 1 หมื่น 5 พันบาท ท่านผู้ชมอย่าคิดมันเงินน้อย อย่าไปเสียเงินเลย เชื่อผมสิ เอา 1 หมื่น 5 พันบาท หรือ 2 หมื่นบาท ถ้ามีเงินจะละเลงเสีย เอาไปตั้งโต๊ะขายอาหาร หรือเอาอาหารแจกให้คนฟรี ในยุคข้าวยากหมากแพง ท่านผู้ชมครับ น้ำมันลิตรละ 50 บาท เบนซิน 50 กว่าบาท ดีเซลลิตรละเกือบ 40 บาทแล้ว ถ้าซื้อพรีเมียมก็บวกอีก 10 บาท สภาพบ้านเมืองแบบนี้ ของแพงไปหมดทุกอย่าง สภาพบ้านเมืองแบบนี้ ยังจะไปเสียเงิน 1 หมื่น 5 พันบาท ถึง 2 หมื่นบาท เพื่อเห็นคนใส่เสื้อสีแดงสองฝ่ายเล่นบอลกันหรือ ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่บัดซบมาก ท่านผู้ชมเชื่อผมเถอะ อย่าไปเสียเงินเลยเรื่องนี้ เก็บเงินเก็บทองเอาไว้เถอะ ถ้าท่านคิดว่าท่านมีเงินเหลือใช้ ก็เอา 1 หมื่น 5 พัน หรือ 2 หมื่นบาท เอาไปแจกคนใช้ที่บ้าน คนขับรถ แจกลูกหลานท่าน ถ้าท่านมี เอาไปให้พ่อให้แม่ ซื้อของขวัญให้พ่อให้แม่ดีกว่า แล้วก็นั่งดูในทีวีดีกว่า อย่าไปส่งเสริมคนที่มุ่งจะสร้างภาพและหวังจากผลประโยชน์นี้มา วันนี้ตั๋วเหลือบานเบอะ ก็เลยต้องมีการดิ้นรนกันอย่างมากๆ

เป็นที่น่าสังเกตว่า คุณจิรายุส ธรรมดาแล้วจะต้องเสนอหน้าออกมาทุกเรื่อง แต่ตอนนี้พอเรื่องเป็นดรามาขึ้นมา คุณจิรายุส ดำดินหายไปเลย


ท่านผู้ชมครับ ผมเคยพูดเรื่องกัญชาไปแล้วหลายครั้ง ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าตั้งแต่กัญชาได้มีการปลดล็อกไป ตอนนี้มีขบวนการที่ใหญ่มากๆ และมีเงินมีทองเยอะ ขบวนการนี้มาจากหลายด้าน เพื่อจะด้อยค่ากัญชา แล้วหาทางที่จะทำให้กัญชานั้นกลับไปเป็นยาเสพติดเหมือนเดิม

ท่านผู้ชมครับ กัญชา เป็นพืชสมุนไพร มีทั้งคุณประโยชน์ และมีทั้งอันตราย คุณประโยชน์ก็คือ มีส่วนช่วยอย่างมากในการรักษาโรคมะเร็ง กัญชาทำให้คนที่นอนไม่หลับ สามารถจะนอนหลับได้ กัญชาลดความเครียด แน่นอนที่สุด ถ้าใช้กัญาไม่ถูกหลัก ก็จะมีอันตรายต่อร่างกาย แต่กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด ขบวนการเหล่านี้มีแม้กระทั่งเภสัชกรบางคนที่มหาวิทยาลัยมหิดล เคลื่อนไหวอย่างรุนแรง โจมตีกัญชา ถึงขนาดที่ว่า ล่าสุดสมาคมเภสัชกรแห่งประเทศไทย บอกว่ากัญชาเป็นยาเสพติด พวกคุณจะบ้ากันหรือเปล่า เหล้า ไม่เสพติดหรืออย่างไร บุหรี่ ไม่เสพติดหรืออย่างไร เผอิญว่ากัญชามันไปก้าวก่ายเข้าไปล่วงละเมิดผลประโยชน์ที่พวกคุณจะได้รับจากการสั่งยาต่างประเทศมาขายใช่ไหม ถ้าคนไทยใช้กัญชาเป็น ยานอนหลับไม่ต้องขาย อย่างที่ผมเรียนให้ทราบ พี่ชายผมเป็นหมอแท้ๆ ยังใช้น้ำมันกัญชาหยดใต้ลิ้นเพื่อจะนอนให้หลับ


ยังไม่ทันไรเลย เพื่อนรุ่นเดียวกับผม โทรศัพท์มาหาอาจารย์ปานเทพ บอกว่ามีน้ำมัน CBD ไหม เขานอนไม่หลับ และเขาไม่อยากกินยานอนหลับ นี่เขามาเอาไปแล้ว 2 ขวด จากผม คุณประโยชน์กัญชา เป็นพืชสมุนไพร มีประโยชน์มาก ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าอาหารผสมใบกัญชาเขาทำมาตั้ง 2 ปีแล้ว ไม่มีใครพูดอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ผมไม่อยากจะพูดคำหยาบ แต่พอกัญชาปลดล็อกแล้ว ผลประโยชน์ของยาฝรั่งมีปัญหาทันทีเลย คนที่เคย assign ยาฝรั่งให้คนโน้นคนนี้ รู้ว่าถ้ายาพวกนี้ขายไม่ออกอีกแล้ว ก็หมายความว่าคอมมิชชันของตัวเองหายไป


ที่ผมเสียใจมากที่สุดคือ พวกแพทย์ชนบท ชื่อ "แพทย์ชนบท" แทนที่จะเน้นย้ำ ศึกษาเรื่องกัญชา เพราะกัญชา ฟ้าทะลายโจร สมุนไพร คือการที่จะทำให้พ่อแม่พี่น้อง ท่านผู้ชม ชาวบ้านต่างๆ ทั่วประเทศ เขาดูแลรักษาตัวเองได้โดยที่ไม่ต้องไปพึ่งหมอ ไม่ต้องพึ่งยาที่จะต้องเดินไปที่ร้านขายยา แล้วบอกเอายานอนหลับมาหน่อย เอายาแก้อักเสบมาหน่อย มันผิดตรงไหนที่เอายาสมุนไพรกัญชาขึ้นมา แล้วให้ชาวบ้านเขาใช้ให้เป็น ใช้ให้ถูก แล้วมันเป็นประโยชน์กับเขา เขารักษาโรคของเขาหายได้


พวกคุณนี่โคตรเห็นแก่ตัวเลย เห็นแก่ผลประโยชน์ มีการมโน ใช้ผู้สื่อข่าว ใช้ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ไอ้หมาแก่ ดิสเครดิต ด้อยค่ากัญชาทุกวัน วันละเรื่องๆ แล้วแต่ละเรื่องที่ออกมาก็เป็นเรื่องที่โคตรจะมโนเลย ทั้งๆ ที่ทั้งหมดนี้มันคือเรื่องการเมืองไปแล้ว ก็คือว่า พรรคภูมิใจไทย เป็นตัวผลักดันเรื่องกัญชาจนสำเร็จ ชาวบ้านที่อยู่ต่างจังหวัดเห็นชอบด้วย ทำให้คะแนนเสียงพรรคภูมิใจไทยทางอีสานเพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ พรรคเพื่อไทยก็ลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ คนตัวอ้วนๆ ที่อยู่พรรคเพื่อไทย สนิทสนมกับนายดนัย ก็เลยป้อนงานให้ดนัย คุณดนัย คุณรับงานมาได้อย่างไร ผมไม่เข้าใจ นี่คุณกำลังจะทำลายความหวัง

ท่านผู้ชมครับ 9 มิถุนายน มีการปลดล็อกกัญชา มีการตีข่าว พบผู้ป่วย ผู้เสียชีวิตจากการเสพกัญชาออกมาตลอด ทำให้คนหวาดกลัว มีความรู้สึกเชิงลบกับกัญชา หลายคนไม่ได้คิดอะไร เห็นหมอ เห็นตำรวจ เห็นอัยการ เห็นนักการเมือง เห็นสื่อมวลชนบางคนหยิบมุมโน้นมุมนี้ออกมาโจมตี ออกมาดิสเครดิตแล้ว ก็เลยเชื่อว่าการปลดล็อกกัญชาเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรงต่อสังคมไทย ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมที่เชื่ออย่างนี้ กรุณาใช้สติและปัญญาคิดนิดหนึ่ง ดูข้อมูล หลักฐาน พวกที่ออกมาด้อยค่าเอาข้อมูลบ้าๆ บอๆ อะไรมา เอาตัวอย่าง 1 คน 2 คน แล้วบางทีตัวอย่าง 1-2 คนนั้น ก็มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอีก ผมจะเล่าให้ฟัง

เพราะถ้าเราใช้สติปัญญาคิด วิเคราะห์ แยกแยก ดีๆ จะพบว่าข้อมูลต่างๆ ที่หยิบยกขึ้นมาหลายเรื่องนั้นเป็นข่าวลือ ข่าวปลอม บางทีก็เป็นเรื่องเล่าให้โซเชียล หาที่มาที่ไปไม่ได้ บางคนที่ออกมาทักท้วงหลายคนมีแต่วาระซ่อนเร้นทั้งนั้น มีผลประโยชน์ทับซ้อน หมอ เภสัชกร อีกหลายคนมีผลประโยชน์ผูกพันอย่างลึกซึ้งกับบริษัทยา ตำรวจ อัยการบางส่วนถือว่าการปลดล็อกเป็นการสูญเสียรายได้จากการจับกุมคนปลูกกัญชา นักการเมืองบางพรรค (คือพรรคเพื่อไทยนั่นล่ะ) บางค่ายมองเรื่องกัญชาเฉพาะแง่มุมทางการเมือง เห็นว่าพรรคคู่แข่ง (คือพรรคภูมิใจไทย) จะได้คะแนน จึงต้องเตะตัดขา โดยไม่มองเลยว่าการปลดล็อกกัญชาเป็นเรื่องผลประโยชน์ของคนไทยหลายล้านคน และคนไทยทั้งประเทศ ถ้าเราทำเรื่องนี้ พัฒนาให้ถูกต้อง ถูกทาง คนมีความรู้นำมาใข้ให้ถูกวิธี


ผมเคยพูดเรื่องนี้แล้วในตอนที่ 142 วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2565 คุณหมอที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดร.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ เคยทำการประเมินและศึกษามาแล้ว ว่า กัญชาหากใช้ถูกวิธี ใช้เป็นยา มีศักยภาพช่วยเยียวยาคนไทยจากโรค เครื่องมือแพทย์ฝรั่ง ได้มากมายมหาศาล แล้วก็ปรากฏว่าตอนนี้มีการตั้งกรรมการสอบสวนหมอปัตพงษ์ อีก อะไรกันนักกันหนา ผลประโยชน์บดบังสายตา คนที่เขาทำงานวิจัยมา

ท่านผู้ชมครับ ผมอดไม่ได้ต้องพูดถึงหมอชนบท หมอชนบทไม่เคยออกมาพูดเรื่องฟ้าทะลายโจรเลยแม้แต่นิดเดียว


คุณเป็นอะไรกับฟ้าทะลายโจร คุณเป็นอะไรกับสมุนไพรไทย เบื้องหน้าเบื้องหลังในช่วงโควิด พวกคุณทำมาหากินกับโควิด ร่ำรวยกันไปหลายคน ผมขี้เกียจจะพูด วันหลังผมจะขุดออกมาเป็นเรื่องๆ ไปเลย ตอนแรกก็เริ่มต้นดีหรอก หมอชนบท แต่พอตอนหลังกลายเป็นเครื่องไม้เครื่องมือของชาวบ้านเขา สร้างกลุ่มขึ้นมาเพื่อต่อรองเอาอำนาจ เอาผลประโยชน์ หมอชนบท โยงกับพวก สสส. ถ้ากัญชาไปได้ บุหรี่/เหล้า ลดลง ภาษีที่ สสส. จะได้จากบุหรี่และเหล้าก็ต้องลดน้อยลง ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง

กลุ่มต่อต้านกลุ่มใหญ่ๆ คือพวกกลุ่มหมอแก่ๆ กลุ่ม สสส. NGO หมอชนบท นักการเมืองที่เสียผลประโยชน์ เรามาดูข้อเท็จจริงกันดีกว่าเรื่องความเจ็บป่วย ตาย จากกัญชาในแต่ละเคสที่ประโคมข่าวกันในสังคมมากๆ ในช่วงที่ผ่านมา ว่ามันเป็นอย่างไร

กรณีที่หนึ่ง กทม. รีบโวยวายทันทีเลย กทม. ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ ท่านมีพี่ชาย ชื่อ หมอฉันชาย ออกมาต่อต้านกัญชาอย่างเต็มที่ อยู่จุฬาฯ แพทย์จุฬาฯ ก็เลยลงผสมโรงกันไปว่ามีผู้ป่วยเสพกัญชา 4 คน


15 มิถุนายน รายงานข่าวว่า คนอายุ 51 เข้าห้องฉุกเฉินด้วยอาการแน่นหน้าอก ก่อนจะตาย ซักประวัติมาว่าคนๆ นี้ก่อนมาห้องฉุกเฉิน ได้สูบกัญชา 1 มวน การสูบถือว่าเป็นการสูบครั้งแรก แต่หมอไม่สามารถบอกได้ว่ากัญชาเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดอาการหรือไม่ ในที่สุดหมอไม่สามารถค้นพบสาเหตุได้ ก็เลยลงความเห็นว่า เสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลว แต่ท่านผู้ชมรู้ไหม พอเขาตรวจผลเลือดของคนที่ตาย ไม่พบว่ามีสาร THC เพราะว่ากัญชาจะมีสาร THC หรือสารที่มีส่วนประกอบจากกัญชาอยู่ด้วย เห็นไหม แสดงว่าคนพวกนี้ไม่ได้ตายเพราะกัญชา ญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต นำไปประกอบพิธีทางศาสนา

ผู้ป่วยสองคนแรกส่งมาที่โรงพยาบาลตากสิน เป็นผู้ชาย อายุ 17 ปี และ 25 ปี ญาติให้ข้อมูลว่า เสพกัญชา หลังจากนั้นมีอาการใจสั่น เมื่อถึงโรงพยาบาล แพทย์ก็รักษาตามอาการ อาการดีก็ให้กลับบ้าน อีกคนหนึ่ง อายุ 16 ปี 6 เดือน รักษาที่โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ ญาติให้ข้อมูลว่า เสพกัญชาร่วมกับยาเสพติดอื่น จึงมีอาการหายใจอ่อนแรง แพทย์ใช้เครื่องช่วยหายใจในการรักษา อาการยังโคม่า อยู่ห้อง ICU ตั้งแต่ 12 มิถุนายน

ท่านผู้ชมครับ สรุปแล้วทั้งสี่คนนี้ ไม่สามารถบอกได้ว่าเสพกัญชาเกินขนาด เพราะว่ามีว่า เสพกัญชามา เท่านั้น ไม่รู้ว่าเสพไปปริมาณมากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญ 2-3 กรณีหลัง ไม่ยอมบอกว่าเสพแล้วผสมยาบ้าด้วยหรือเปล่า ญาติก็ไม่สามารถบอกได้ บางคนเสพกัญชาแล้วก็เสพยาเสพติด แต่ไม่กล้าพูดว่าตัวเองเสพยาเสพติด เพราะว่าเดี๋ยวผิดกฎหมาย ก็เลยบอกว่าเสพกัญชา กรณีดังกล่าวทำให้เกิดการปั่นกระแสข่าวเกินจริงอย่างต่อเนื่อง

ท่านผู้ชมครับ การเสียชีวิตโดยอ้างและเดาว่าการเสียชีวิตของคนอายุ 51 เกิดเพราะกัญชา 1 มวน แต่กลับไม่พบสาร THC ในเลือด เพราะฉะนั้นแล้ว การสรุปว่าการเสียชีวิตเกิดขึ้นเพราะกัญชาจนประโคมข่าวที่ผ่านมานั้น เป็นเรื่องเท็จ

ข้อที่สอง คนอื่นที่ใช้ยาเสพติดอย่างอื่น แล้วใช้กัญชา หรือเสพยาอื่นโดยไม่ใช้กัญชา ก็เลยฉวยโอกาสให้ข้อมูลว่าใช้กัญชาอย่างเดียว อย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่า ปกป้องตัวเองจากคดียาเสพติด ฉะนั้น เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ต้องมีการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ ต้องมีผลแล็บทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น ไม่ใช่ ท่านผู้ชม ตั้งท่าจะดิสเครดิตกัญชาแต่เพียงอย่างเดียว โดยให้แพทย์แผนปัจจุบันผู้ต่อต้านหรือมีอคติต่อการใช้กัญชามาร่วมลงข้อมูลแต่อาการไม่พึงประสงค์ ตลกมาก โรงพยาบาลชั้นนำห้ามนำกัญชาเข้าพื้นที่


17 มิถุนายน มหิดล ศิริราช จุฬาลงกรณ์ ออกประกาศมาตามๆ กันว่า ห้ามนำกัญชา-กัญชงเข้าพื้นที่โรงพยาบาล รวมทั้งห้าม/งด ครอบครอง ใช้ ซื้อขาย แลกเปลี่ยน จำหน่าย บริโภคหรือเสพ พืชกัญชา หรือกัญชา ผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีส่วนประกอบของพืชกัญชา กัญชง รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ในพื้นที่เขตศึกษาของมหาวิทยาลัย จิตใจคับแคบมากผู้บริหารโรงพยาบาล ผมเอ่ยชื่อให้ก็ได้ มหิดล ศิริราช จุฬาลงกรณ์ โคตรจะคับแคบเลย ทำไมถึงคับแคบ ก็ในเมื่อมีการพิสูจน์แล้วว่า กัญชา สามารถจะรักษาโรคได้ การที่คุณห้ามเอากัญชาเข้ามา แสดงว่าคุณปฏิเสธช่องทางๆ หนึ่งที่ยาและแพทย์แผนปัจจุบันไม่สามารถจะรักษาโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคมะเร็งได้ คุณปฏิเสธใช่ไหม คนที่ใกล้ตาย คุณลองหมดแล้ว คุณให้คีโม คุณให้ยาโน้นยานี้ แต่คุณไม่กล้าให้กัญชา แต่ทำไมคนที่เขาลองกับพวกคุณแล้ว เขารับไม่ได้ เขาออกมา ลูกหลานขนตัวออกมา แล้วไปหาหมอ ใช้กัญชา แล้วอยู่เกินกว่าครึ่ง เขาหาย คุณจะตอบคำถามนี้ว่าอย่างไร ทำไมพวกคุณ หมอทั้งหลาย โรงพยาบาลทั้งหลาย จุฬาฯ มหิดล ศิริราช ถึงจิตใจคับแคบอย่างนี้ คุณไม่ได้หาทางออกให้กับคนไข้คุณเลยหรือ แม้แต่นิดเดียว หรือคุณเป็นทาสยาฝรั่ง ฝรั่งบอกว่าต้องยาอย่างนี้ ผิดจากอันนี้ไปสมุนไพรไทย ช่างมัน จนทุกวันนี้คุณยังไม่ยอมรับฟ้าทะลายโจรเลย เขากินกันทั่วประเทศไทย เขาหายจากโรคระบาดด้วยฟ้าทะลายโจรเป็นแสนๆ เป็นล้านๆ คน คุณเองก็ยังไม่ยอมรับ คุณหมอสันต์ ท่านเพิ่งสรุปการวิจัยฟ้าทะลายโจรว่ามีประโยชน์ นี่ผมโคตรดูถูกพวกคุณเลยนะ อาจารย์เภสัชฯ มหาวิทยาลัยมหิดลบางคนเป็นตัวตั้งตัวตีต่อต้านกัญชา เดินสายออกมาต่อต้านทุกเรื่อง หลายเรื่อง ที่สำคัญก็คือว่า พบว่าจะทำให้ความสามารถในการเรียนรู้ (IQ) ลดลง บอกว่าคนสูบกัญชา สมองสั่งการช้าลง เซื่องซึม บางส่วนส่งผลมีอาการคล้ายโรคจิต เห็นภาพหลอน หวาดระแวง ปลดล็อกทุกอย่างก็เสี่ยงที่จะมีการใช้ในทางที่ผิดเพิ่มขึ้น เป็นสูตรผสมยาเสพติดอื่นๆ โดยใช้ในกลุ่มวัยรุ่น จะทำให้ความสามารถในการเรียนรู้ (IQ) ลดลง


ท่านผู้ชมครับ คุณเภสัชกรที่ต่อต้านกัญชาเพื่อประโยชน์ของยาฝรั่ง ฟังดีๆ ผมเคยบอกคุณหลายครั้งแล้ว ให้เอาหลักฐานมาดูชัดๆ งานวิจัยต่างประเทศระบุว่า สมุนไพรกัญชานั้นติดยากกว่าเหล้าและบุหรี่ นิโคติน (บุหรี่) อัตราการเสพติด 67.5 เปอร์เซ็นต์ แอลกอฮอล์ (เหล้า) อัตราการเสพติด 22.7 เปอร์เซ็นต์ โคเคน อัตราการเสพติด 20.9 เปอร์เซ็นต์ กัญชา อัตราการเสพติด แค่ 8.9 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น น้อยกว่าบุหรี่ 8 เท่า น้อยกว่าแอลกอฮอล์เกือบ 3 เท่า ด้วยข้อเท็จจริงนี้ บางประเทศเห็นโอกาส เขาก็เลยเอากัญชาไปลดปัญหายาเสพติดที่ออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทอย่างรุนแรงและก่ออาชญากรรม โดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือลดปัญหาอาชญากรรมภายในประเทศ แถมกัญชายังเป็นพืชกระตุ้นเศรษฐกิจ


กรณีที่สาม เคสชายไทยอายุ 23 ปี เกิดอาการหลอนจากการใช้กัญชา ใช้กรรไกรตัดกระเจี๊ยวตัวเองขาด และข่าวชิ้นนี้ นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ไอ้หมาแก่ เอามาพูดในรายการตัวเอง ท่านผู้ชมครับ ผมฟังแล้วผมขำจริงๆ การที่บอกว่าตรวจแล้วไม่มีสารเสพติดอื่น ไม่มีประวัติการรักษาทางจิต เพิ่งเสพกัญชาไป มีสาร THC ในร่างกาย ก็เลยสรุปว่าหลอนกัญชาถึงต้องเอากรรไกรตัดกระเจี๊ยวตัวเอง ตลกมาก ท่านผู้ชมรู้ไหม ผู้เชี่ยวชาญทางกัญชาตั้งข้อสังเกตว่า ข่าวว่าหมอนี่เสพกัญชามา 2 ปี แต่หยุดไป 3 เดือน หลังจากนั้นกลับมาเสพกัญชาอีก แสดงว่าไม่ใช่เป็นคนที่เพิ่งลองกัญชาครั้งแรก แล้วทำไมตอนเสพมา 2 ปี คุณไม่มีปัญหาเลย


สอง มีปัญหาจิตเวชที่ไม่ได้รับการรักษา เลยไม่ได้บันทึก หรือไม่ คนไข้มีประวัติการเจ็บป่วย พฤติกรรมในอดีตอย่างไร ผู้ที่อยากจะแปลงเพศอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ กัญชาที่คุณสูบครั้งสุดท้ายเป็นกัญชาสังเคราะห์หรือเปล่า คุณใช้ปนกับยาอื่นๆ ด้วยหรือไม่ เพราะการตรวจปัสสาวะดูระดับ THC ไม่สามารถแยกแยะได้ เป็นกัญชาธรรมชาติหรือกัญชาสังเคราะห์ เพราะฉะนั้นอาจจะเกิดจากสาเหตุทางจิตก็ได้ มีการนำกัญชาสังเคราะห์ไปฉีดพ่นใส่กัญชาธรรมชาติ การเก็บปัสสาวะในคนนี้ ที่ถูกตัดอวัยวะเพศไปแล้ว ทำอย่างไรจึงจะไม่ปนเปื้อน ห้องแล็บที่ใช้ตรวจมีมาตรฐานอย่างไร

ท่านผู้ชมครับ เมื่อคืนนี้ ก่อนนอนผมออกไปนั่งชานเรือนอีกครั้งหนึ่ง แล้วผมสูบบุหรี่ผสมกัญชาสายพันธุ์นครพนม บุหรี่มวนหนึ่ง ผมใส่กัญชาไป 1 ใน 3 ผมดูฝนที่ตกแล้วผมก็สูบ พอผมสูบหมดมวน ผมก็เข้าไปนอน ผมนอนประมาณสามทุ่มครึ่ง ผมรู้สึกตัวอีกทีหนึ่งตอนตีสี่ หกชั่วโมงครึ่ง ผมนอนสนิท ไม่มีการดิ้นออกมา ไม่มีการตื่นกลางดึก มันนิ่ง มันสนิท มันเหมือนกับผมตายไปแล้ว ผมตื่นมาปรากฏว่าผมอารมณ์ดีมาก สุขภาพสมบูรณ์ ท่านผู้ชมครับ ถ้าผมต้องทานยานอนหลับ คนที่ทานยานอนหลับ ถึงจุดๆ หนึ่งทานเม็ดเดียวไม่พอ ต้องทานสองเม็ด เพิ่มไปเรื่อยๆ เสพติดยานอนหลับของฝรั่ง แต่ผมไม่ ผมไม่สูบก็ได้ ไม่เป็นไร เพราะมีบางวันผมก็ไม่สูบ แต่ผมก็นอนหลับๆ ตื่นๆ ไม่ใช่ไม่หลับ หลับเหมือนกันแต่ก็จะตื่นกลางคัน แต่ตั้งแต่สูบกัญชามา ผมนอนหลับสบาย สุขภาพผมดีมาก นี่คือการลดความเครียด

แล้วที่บอกว่ากัญชาทำให้มี IQ ต่ำลง ท่านผู้ชมคิดว่าผมนี่ IQ ต่ำหรือเปล่า ท่านผู้ชมที่ดูรายการผมมา คิดว่า สนธิ ลิ้มทองกุล IQ ต่ำไหม ความจำยังแม่นยำอยู่ทุกประการ เป็นเรื่องๆ พูดเมื่อไร เมื่อสิบปีที่แล้ว ก็สามารถจะทบทวนคำพูดของตัวเองได้

ท่านผู้ชมครับ คุณหมอทั้งหลายครับ ที่ด้อยค่ากัญชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเภสัชกรหญิงคนนั้น ตัวดีที่บอกว่าจะทำให้เด็กวัยรุ่นมี IQ ต่ำ

ประเทศเนเธอร์แลนด์ นี่เป็นงานวิจัยและค้นคว้าของกระทรวงสาธารณสุข เขามีโมเดลที่ดีมาก เขาใช้กัญชาเป็นเครื่องมือสำคัญในการลดปัญหายาเสพติดที่รุนแรง ส่งผลทำให้ลดปัญหาอาชญากรรมในประเทศ นัยสำคัญ นักโทษเนเธอร์แลนด์น้อยลงจนเรือนจำร้าง ต้องนำเข้านักโทษจากต่างประเทศที่มาเช่าเรือนจำของเขาเพื่อกักขังนักโทษประเทศอื่นๆ


ดร.นพ.มูฮัมมัดฟาห์มี ตาเละ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้เดินทางไปดูงานในด้านสิทธิมนุษยชนเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายยาเสพติดที่เนเธอร์แลนด์ บันทึกเอาไว้ เผยแพร่ในเว็บไซต์ ศูนย์ศึกษาปัญหายาเสพติด พวกหมอแก่ๆ พวกคุณ สสส. และนายแพทย์ชนบท ไปเปิดดู ความตอนหนึ่งมีว่า อัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ ช่วงปี 70-80 (พ.ศ. 2513-2522) ถือว่าเป็นเมืองที่มีอัตราอาชญากรรมสูงที่สุดเมืองหนึ่งในยุโรป ส่วนมากเป็นคดีชิงทรัพย์ ลักขโมย ทะเลาะวิวาท เมื่อสืบเสาะไปยังอาชญากรที่โดนจับกุมบ่อยๆ ก็พบว่าปัจจัยหนึ่งที่อาชญากรมีร่วมกันคือพฤติกรรมการใช้สารเสพติดที่รุนแรง โคเคน เฮโรอีน ยาบ้า ก็เลยเกิดแนวคิดทำให้ยาเสพติดถูกกฎหมาย และลดทอนโทษทางอาญา โดยหนึ่ง เขาแก้ปัญหายึดหลักมนุษยธรรม พิจารณาว่าคนติดยาก็คือมนุษย์คนหนึ่ง สอง แยกพิจารณาสารเสพติดรุนแรง และไม่รุนแรง ออกจากกัน เพื่อหาทางไม่ให้เขาใช้ยาเสพติดที่รุนแรง ถึงวันนั้นแล้วเขาก็เลยใช้เงื่อนไข 3 ข้อ พยายามเลิกใช้ศาลสำหรับกลุ่มคนที่ติดน้อย ผู้ใช้สารไม่มีงานทำ ก็หางานทำให้เหมาะสม เทศบาลเป็นผู้จัดงานให้ ระหว่างรับงานก็อนุญาตให้ใช้สารเสพติดได้ และลดปริมาณความถี่ในการใช้ยาลงไปเรื่อยๆ ข้อที่สาม จำคุกเลย เนื่องจากหวั่นอาชญากรรมแล้ว ไอ้หมอนี่เกินกว่าจะเยียวยา ผลคือ เทศบาลเมืองอัมสเตอร์ดัมลดปัญหาอาชญากรรมไปได้มาก ผู้ใช้สารเสพติดก็ลด ปัญหาการใช้สารของตัวเองก็ดีขึ้น


แนวทางการแก้ปัญหาสารเสพติดของเนเธอร์แลนด์จึงเป็นต้นแบบของประเทศที่ยึดหลักสิทธิมนุษยชนในการแก้ปัญหาสารเสพติด เขามองว่าผู้ที่ใช้สารเสพติดนั้นเป็นคน แม้ใช้สารเสพติดบ้าง แต่หากสามารถทำงานได้ปกติ ไม่ก่อกวนสังคม ก็ควรอนุญาตให้ใช้ต่อไปได้ หลักคิดของเขามีแนวทาง 2 แนวทาง แนวทางที่หนึ่ง คือการลดทอนโทษอาญา (Decriminalization) ซึ่งเขาเชื่อว่าการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ได้แสดงผลการใช้สารเสพติดที่ไม่รุนแรงว่าไม่ได้ส่งผลร้ายต่อตัวผู้ใช้และสังคมอย่างควบคุมไม่ได้ เพราะฉะนั้นผู้ใช้สารเสพติดเช่นนี้ไม่ใช่อาชญากร เราไม่ควรพิจารณาโทษของผู้ใช้สารเสพติดที่ไม่รุนแรง ประหนึ่งเขาทำอาชญากรรมร้ายแรง แนวทางที่สอง การทำให้ถูกกฎหมาย เบื้องหลังของแนวคิดมาจากความคิดที่ว่า เมื่อสารเสพติดชนิดไม่รุนแรง อันตรายต่อตัวผู้ใช้และสังคมไม่มาก ทำไมจะต้องทำให้ผิดกฎหมายล่ะ เราผลักมันไปอยู่ในตลาดมืด ทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้ ควบคุมได้ยาก การทำให้ถูกกฎหมายเพื่อควบคุมตลาด ควบคุมผลกระทบที่จะตามมาจากการใช้ได้ เอาจากที่ลับขึ้นมาที่แจ้ง จะเป็นผลที่ดีกว่า

ปี 2515 ห้าสิบปีที่แล้ว ประเทศเนเธอร์แลนด์ได้จัดแบ่งประเภทยาเสพติดที่รุนแรง กับไม่รุนแรง ออกจากกัน ซึ่งกัญชาได้ถูกจัดให้เป็นยาเสพติดที่ออกฤทธิ์ไม่รุนแรง หรือน้อยกว่า อีกสี่ปีต่อมา 2519 หรือ 46 ปีที่แล้ว เนเธอร์แลนด์ได้ให้กัญชาถูกนำมาใช้ในการนันทนาการ (Recreational Use) แบบมีการควบคุม เป็นครั้งแรก โดยให้มีการบริโภคหรือสูบกัญชา และซื้อขายได้ เฉพาะในร้านคอฟฟี่ชอปที่มีใบอนุญาตเท่านั้น และให้องค์กรปกครองท้องถิ่นบังคับใช้กฎระเบียบเพิ่มเติมที่แตกต่างไปแต่ละท้องถิ่นซึ่งไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นแล้ว การที่เนเธอร์แลนด์ใช้กัญชาสำหรับการนันทนาการมาตั้งแต่ปี 2519 หรือ 46 ปีที่แล้ว เป็นตัวอย่างสำหรับการใช้บทเรียนที่มีประสบการณ์นานถึง 46 ปี ผลจากการปรับนโยบายในเรื่องนี้ ทำให้เนเธอร์แลนด์ลดปัญหาอาชญากรรมไปได้มาก โดยเฉพาะคดีลักทรัพย์ คดีทะเลาะวิวาท เรือนจำที่เคยมีผู้ต้องหาล้นคุก ตอนนี้กลายเป็นคุกร้าง ต้องปิดตัวลงไปหลายแห่ง ถูกเปลี่ยนกลายเป็นโรงแรม ภัตตาคาร ห้องสมุด โรงภาพยนตร์


เอาล่ะ เรามาแคนาดา และอเมริกาบ้าง แคนาดาศึกษา อเมริกาศึกษา พบกัญชาช่วยลดการใช้ยาเสพติดร้ายแรง ผลวิจัยที่ได้มีการสำรวจในแคนาดา ระหว่างปี 2559-2561 เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว พบว่ากัญชามีบทบาทร้อยละ 25 ในการช่วยลดยาเสพติดที่เป็นอันตรายร้ายแรง เช่น เฮโรอีน ฝิ่น โคเคน ยาบ้า และการติดเหล้าด้วย อีกตัวอย่างหนึ่ง รายงานผลการศึกษาของรัฐโคโลราโด ประเทศอเมริกา เมื่อเดือนกรกฎาคม ปีที่แล้วนี่เอง โคโลราโดได้มีการใช้กัญชาอย่างต่อเนื่อง มีการทำให้กัญชาถูกกฎหมายอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2556 เมื่อเก้าปีที่แล้ว ซึ่งผลสำรวจตัวอย่างในกลุ่มเยาวชนและคนหนุ่มสาวซึ่งเป็นประชากรที่ใช้กัญชามากที่สุด ทำให้คนพวกนี้ลดเหล้าและบุหรี่น้อยลง ดื่มสุรา 18.2 เปอร์เซ็นต์ ลดเหลือ 10 เปอร์เซ็นต์ สูบบุหรี่ 14.2 เปอร์เซ็นต์ ลดเหลือแค่ 4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อใช้กัญชา


ประเด็นอยู่ตรงไหน ? ความเชื่อมั่นที่ว่ากัญชาจะเป็นทางไปสู่ยาเสพติดอื่นๆ นั้น ไม่ใช่เป็นความจริงเสมอไป เพราะทั้งเนเธอร์แลนด์ แคนาดา และมลรัฐโคโลราโดในอเมริกา กัญชากลับมีบทบาทสำคัญ ไม่เพียงลดปัญหายาเสพติดรุนแรงเท่านั้น แต่ช่วยลดการสูบบุหรี่และดื่มเหล้าของเยาวชนอีกด้วย เอ้าตายล่ะสิ! ถ้าคนใช้กัญชากันเยอะ คนเลิกสูบบุหรี่ เลิกดื่มเหล้า รายได้จากเหล้าและบุหรี่ลดลง ภาษีก็เก็บน้อยลง เงินที่ต้องแบ่งมาที่ สสส. ก็ต้องน้อยลงสิ มิน่าถึงออกมาค้านกันฉิบหายวายป่วง คำถามที่ตามมา คุณผู้หญิงเภสัชกร ผมรู้ชื่อคุณแต่ขี้เกียจพูดชื่อคุณ คุณบอกว่า เด็กและเยาวชน IQ จะต่ำ คำถามบอกว่า เด็ก/เยาวชนในประเทศที่มีการใช้กัญชามากขึ้นและนานหลายปี จะโง่หรือเปล่า

ท่านผู้ชมครับ คุณเภสัชกรครับ เบิกเนตรคุณ แหกตาคุณมา เปิดหูให้ฟัง เปิดใจให้กว้าง ตัวอย่างที่ผมจะให้คุณดูคือเนเธอร์แลนด์ ใช้กัญชามา 49 ปี ระดับสติปัญญาเด็ก/เยาวชน หนุ่มสาว เป็นอย่างไร ข้อเท็จจริงปรากฏการวัดระดับสติปัญญา (IQ) ในรายงานปี 2565 โดยการรวบรวมของเว็บไซต์ชื่อ World Population Review พบว่าค่าเฉลี่ย IQ ของชาวเนเธอร์แลนด์อยู่ที่ 100.74 ถือว่าเป็นประเทศที่มีระดับสติปัญญาสูงมาก ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก เทียบเท่ากับชาวเยอรมัน ทั้งหมดนี้เขาวัดจาก 199 ประเทศ


เอาล่ะ เราข้ามมหาสมุทรไปดูการวัดระดับสติปัญญา หรือ IQ ประจำปี 2565 ของมลรัฐโคโลราโด ปีนี้เอง เขาวัด IQ ได้ 101.1 มีระดับสติปัญญามากกว่าแต่ใกล้เคียงกับเนเธอร์แลนด์ คือมีระดับสติปัญญาอันดับต้นๆ ของโลกเช่นกัน มีค่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอเมริกา อเมริกามีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 99.6 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในอันดับ 13 ของสหรัฐฯ จากทั้งหมด 50 รัฐ คำตอบที่สอง ก็ต้องดูอัตราการจบการศึกษา และการลาออกจากการศึกษา ในมลรัฐโคโลราโด เปลี่ยนไปหรือเปล่าหลังจากให้มีกัญชาทางนันทนาการ ปรากฏในรายงานปี 2550 หรือ 15 ปีที่แล้ว พบว่าอัตราการลาออกจากการเรียนอยู่ที่ 3.8 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2563 อัตราการลาออกจากการเรียนลดลง คนลาออกน้อยลง เหลือแค่ 1.8 เปอร์เซ็นต์ ในทางตรงกันข้าม ปี 2550 พบว่าอัตราการสำเร็จการศึกษาอยู่ที่ 73.9 เปอร์เซ็นต์ พอมีการนันทนาการเรื่องกัญชา ปี 2563 หรือสองปีที่แล้ว อัตราการสำเร็จการศึกษาเพิ่มขึ้นเป็น 81.9 เปอร์เซ็นต์


คุณเภสัชกรครับ ท่านผู้ชมครับ คนที่ด้อยค่ากัญชาครับ คุณดนัย เอกมหาสวัสดิ์ หมาแก่ครับ ประเทศไทย ระดับสติปัญญา หรือ IQ อยู่ที่ 88.87 เปอร์เซ็นต์ อันดับที่ 84 ของโลก

ท่านผู้ชมเห็นหรือยังว่า สิ่งที่บรรดาหมอแผนปัจจุบันบางกลุ่มบางพวกออกมาพูดหรือเผยแพร่ข้อมูล โดยพยายามพูดซ้ำๆ กันไป ซ้ำๆ กันมา มันมีวาระซ่อนเร้นอะไรบ้าง ? คิดง่ายๆ ถ้าประชาชนสามารถเข้าถึงกัญชาได้อย่างเสรี แน่นอน จะต้องมีกฎระเบียบ ข้อบังคับ เด็กห้ามสูบ ต้องมี 1..2..3.. แต่ไม่ใช่ไปบล็อกกัญชา ไม่ใช่จับกัญชาโยนกลับไปเป็นยาเสพติด จะมีกลุ่มทุนใดเสียผลประโยชน์บ้าง ไม่ว่าจะเป็นพวกยานำเข้าจากต่างประเทศ ยาแก้ปวด ยาลดการอักเสบ ยานอนหลับ ยาลดความเครียด ยาแก้ลมชัก ยาพาร์กินสัน กลุ่มยาเสพติดรุนแรง ทั้งยาบ้า เฮโรอีน โคเคน ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มธุรกิจเหล้า/บุหรี่ รวมทั้งกลุ่มคนที่ได้รับประโยชน์ทางตรง-ทางอ้อม งบประมาณที่ได้จากภาษีสุรา-บุหรี่ ตลอดจนกลุ่มทุนที่ต้องการจะผูกขาดธุรกิจกัญชา ยิ่งประชาชนพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น ยิ่งมีแรงต้านขย่มจากกลุ่มคนที่เสียผลประโยชน์มากขึ้น แต่ไม่เป็นไร

ผมทราบมาว่า อาจารย์เภสัชกรมหาวิทยาลัยมหิดลท่านนี้ ที่ออกมาโวยวายเตือนเรื่องกัญชาเป็นสารเสพติด ทำให้ IQ ลดลง ท่านเป็น Speaker ให้กับบริษัทยาแก้ปวดหลายแห่ง ผมเข้าใจ คุณก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของคุณเอง

ท่านผู้ชมครับ กัญชา ทุกวันนี้ที่มาด้อยค่านั้น มีการเมืองอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น สิ่งที่กัญชาเสรีจะทำ และเขากำลังร่างกรอบกติกาอยู่ว่า ทำอย่างไรไม่ให้มันเลยเถิด ซึ่งมีอยู่ 2-3 คน กำลังพิจารณากรอบนี้อยู่ เมื่อสำเร็จออกมาแล้ว กัญชา ถ้าคนใช้เป็น แล้วคนที่ใช้รู้วิธีใช้ และคนที่ใช้ รู้ว่ารักษาอะไรได้บ้าง เท่ากับว่าคนไทยสามารถจะพึ่งพาตนเองได้ ทุกวันนี้เป็นไข้หวัดใหญ่ ต้องการแก้อักเสบ ติดเชื้อโรคระบาด คนไทยก็เริ่มกินฟ้าทะลายโจร หายหลายคน บางคนเป็นลองโควิด ก็เริ่มซื้อ "ยาลม ๓๐๐ จำพวก" มากิน ทำให้อาการดีขึ้น บางคนมีเสมหะติดคอ กินยาฝรั่ง ยาอะไรก็ไม่ออก ใช้ยาลม ๓๐๐ จำพวก สมุนไพรไทยมีมานานแล้ว หลักการของสาธารณสุขที่สำคัญที่สุดก็คือ ไม่ใช่การที่จะผลิตยาให้มากขึ้น ต้องให้ประชาชนช่วยตัวเองให้มากขึ้น ถ้าประชาชนช่วยตัวเอง ดูแลตัวเองได้มากขึ้นจากสมุนไพรพื้นบ้าน ไม่ว่าจะเป็นฟ้าทะลายโจรที่ปลูกในบ้าน หรือกัญชา ต้นกัญชาที่ปลูกกันมา แล้วใช้ให้เป็น หลักการคือ ใช้ให้เป็น ต้องสอนวิธีใช้ให้ คนไทยจะพึ่งตัวเองได้ และไม่จำเป็นต้องไปพึ่งหมอที่โรงพยาบาล ไม่จำเป็นต้องไปร้านขายยาแล้วไปซื้อยาแก้ปวดอันโน้น ยานอนหลับอันนี้ ยาลดความเครียดอันนั้น ยาแก้อักเสบ โน่นนี่นั่น

ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง และสื่อมวลชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ออกมาด้อยค่ากัญชาทุกวันนี้ จริงๆ แล้วคุณกำลังด้อยค่าพรรคภูมิใจไทย คุณอย่าไปรับงานชาวบ้านเขา เสียชื่อหมด เสียชื่อจริงๆ แล้วคุณอย่าไปคิดว่าสิ่งที่ผมพูดออกมา เอาตัวเลขมาให้คุณดู เอาทุกอย่างมาให้คุณดู คุณด้อยค่าต่อไปสิ แล้วผมก็จะค้นหาเบื้องหน้าเบื้องหลังของเรื่องราวที่คุณทำมา แล้วผมจะสวนคุณหมัดต่อหมัด คุณเป็นสื่อมวลชนดีๆ ไปรับงานชาวบ้านเขามาได้อย่างไร รับงานพรรคการเมืองพรรคหนึ่งเพื่อมาด้อยค่าพรรคการเมืองอีกพรรคหนึ่ง คุณจะบ้าหรือเปล่า คุณดนัย


ท่านผู้ชมครับ วันนี้ผมจะเอาเรื่องของการประชุมสุดยอด ซัมมิตของทวีปอเมริกา ครั้งที่ 9 (IX SUMMIT OF THE AMERICAS) กับผู้นำประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกาแต่ละภูมิภาค และภูมิภาคแคริบเบียน ระหว่างวันที่ 6-10 มิถุนายน ที่ผ่านมา ที่นครลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย

ท่านผู้ชมครับ เป็นที่รู้กันว่าอเมริกานั้นเดินหน้าสกัดกั้นและเตะตัดขาจีนทุกโอกาส ทุกวาระที่มี แต่ผลที่ผู้นำอเมริกาได้ คือความอัปยศ ความล้มเหลว และความผิดหวัง สิ่งแบบนี้ ผู้นำประเทศต่างๆ รวมทั้งผู้นำประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกา และแคริบเบียน ใช้อธิบายการประชุมสุดยอดผู้นำระดับภูมิภาคอเมริกา ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นเจ้าภาพ ที่นครลอสแองเจลิส เมืองที่เต็มไปด้วยผู้อพยพ พวกชาวเม็กซิโก หรือพวกลาติโน

อเมริกา และจีน กำลังต่อสู้เพื่ออิทธิพลในลาตินอเมริกา ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา จีนได้ทุ่มเงินลงไปช่วยเหลือประเทศลาตินอเมริกาเป็นจำนวน 160,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 5.6 ล้านล้านบาท ในภูมิภาคนี้ ขณะนี้ท่านผู้ชมเชื่อหรือเปล่า 20 ประเทศในลาตินอเมริกา เป็นสมาชิกโครงการ 1 แถบ 1 เส้นทาง จีนก็เลยกลายเป็นผู้เล่นหลักในสนามหลังบ้านของอเมริกา แม้ว่าประเทศแต่ละประเทศลาตินอเมริกา ตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีมอนโร เจ้าของลัทธิมอนโร จะเคยสั่งห้าม ใครก็ตามในยุโรปเข้ามาแตะอเมริกาทางใต้ และตัวเอง คือประธานาธิบดีมอนโร ถึงขั้นส่งออกการปฏิวัติรัฐประหารไปตามประเทศลาตินอเมริกาต่างๆ แม้กระทั่งการลอบสังหาร เข้าไปในประเทศลาตินอเมริกา เพื่อให้ตัวเองสามารถที่จะคุมการหันซ้าย หันขวา ของแต่ละประเทศในลาตินอเมริกา ให้เป็นไปตามความปรารถนาและผลประโยชน์ของตนเองมาตลอด


แต่ในโลกยุคใหม่นี้ ไม่ได้ตกอยู่ใต้บงการของมหาอำนาจขั้วเดียวอีกต่อไป อิทธิพลอเมริกาเสื่อมทรุดลงไปทุกที สังเกตล่าสุด จากการประชุมซัมมิตของทวีปอเมริกา ปี 2022 เมื่อเร็วๆ นี้เอง 6-10 มิถุนายน เป้าหมายคือจะให้ประเทศลาตินอเมริการวมตัวกันตอบโต้การขยายอิทธิพลของจีน ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าจีนค้าขายกับลาตินอเมริกา 4 แสนกว่าล้านดอลลาร์ หรือ 14 ล้านล้านบาท แต่ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศลาตินอเมริกาทั้งหมด กับ อเมริกา อยู่ที่แค่ 295,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 10 ล้านล้านบาท

ก่อนประชุมสุดยอดต้นเดือนมิถุนายน ได้เกิดความขัดแย้งใหญ่ขึ้น เพราะอเมริกาตัดสินใจห้ามคิวบา เวเนซุเอลา และนิการากัว เข้าร่วมประชุมสุดยอด เพราะไปอ้างว่าไม่เป็นประชาธิปไตยในเรื่องสิทธิมนุษยชน เหมือนกับที่เคยคว่ำบาตรทางการทูตต่อโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ที่กรุงปักกิ่ง คิวบานั้นถูกอเมริกาคว่ำบาตรมาจนกระทั่งแทบไม่เหลือบาตรจะคว่ำแล้ว เวเนซุเอลาก็ถูกอเมริกาบอยคอตจนแทบจะเจ๊งไปทั้งประเทศ ไปถึงนิการากัว ที่ไหลไปทางซ้าย ตั้งแต่การผงาด การขึ้นมีอำนาจของขบวนการซันดินิสตา ความน่าเกลียดและน่าทุเรศของอเมริกาในสายตาของบรรดาผู้นำประเทศลาตินอเมริกาที่เคยต้องตกอยู่ในสภาพสวนหลังบ้าน เขาบอกว่าลาตินอเมริกานั้น คือสวนหลังบ้านของประเทศอเมริกา


ท่านผู้ชมครับ ผู้นำเม็กซิโก ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ผู้นำประเทศเม็กซิโกที่อยู่ใกล้บ้านสหรัฐฯ มากที่สุด แบบกระโดดข้ามรั้วก็ถึง ปฏิเสธไม่ยอมเข้าร่วมประชุมสุดยอดครั้งนี้ โดยบอกว่ามันเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงในการกีดกันประเทศอื่น ก็เลยทำให้ผู้นำประเทศฮอนดูรัส โบลิเวีย เอลซัลวาดอร์ กัวเตมาลา เซนต์วินเซนต์ และพวกเกรนาดีนส์ ต่างเดินตามผู้นำเม็กซิโก ไม่ร่วมประชุมเช่นกัน


ผู้นำฮอนดูรัส ประธานาธิบดีซิโอมารา กัสโตร ออกมาทวีตเปิดเผยแบบตรงไปตรงมาเลยว่า ถ้าไม่มีชาติลาตินอเมริกาทั่วทั้งหมดเข้าร่วมประชุมแล้ว จะเรียกว่าเป็นการประชุมสุดยอดได้อย่างไร

ส่วนผู้นำกัวเตมาลา ประธานาธิบดีอาเลฮันโดร ยามาเตย์ ที่ออกมาเอ่ยปากก่อนหน้านี้แล้วว่า ตั้งแต่อเมริกาพยายามแทรกแซงการแต่งตั้งอัยการสูงสุดในกัวเตมาลามาแล้ว เขาไม่เคยคิดที่จะไปเหยียบประเทศอเมริกาอีกต่อไป


ผู้นำอาร์เจนตินา อย่างประธานาธิบดีอัลเบร์โต เฟร์นันเดซ เจอภาวะเงินเฟ้อค่อนข้างหนักเช่นกัน แม้จะเข้าร่วมการประชุม แต่ความกังวลเกี่ยวกับการกีดกันประเทศอื่น ผู้นำอาร์เจนตินา บอกว่า เป็นความเห็นแก่ตัว คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับอเมริกา ต้องดีสำหรับโลก แต่ทุกคนควรมีสิทธิในการเลือกรูปแบบการปกครองของตนเอง และทุกประเทศควรมีอิสะในการเลือกว่าจะทำธุรกิจกับใคร

ท่านผู้ชมครับ อาร์เจนตินา เป็นประเทศล่าสุดที่สมัครเข้าไปเป็นสมาชิกของกลุ่ม BRICS ที่ทางลาตินอเมริกามีบราซิลเป็นสมาชิกอยู่แล้ว อาร์เจนตินาเข้าร่วมแล้วตอนนี้


บทความหลายๆ บทความในสื่อมวลชนทั่วโลก พาดหัวว่า จีนกำลังแซงอเมริกาในลาตินอเมริกา โดยวุฒิสมาชิกเอ็ดเวิร์ด มาร์คีย์ แห่งพรรคเดโมแครต เตือนว่า จีนเขามีแผนการ แต่เราไม่มีแผน และย้ำว่า ดูเหมือนว่าจีนจะลงทุนในทุกที่ทุกทางในเชิงกลยุทธ์ นำเครือข่าย 5G และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ที่สร้างพันธมิตรทางทหาร มาร่วมทำงานด้านความสัมพันธ์ทางการเมือง และเป็นผู้ให้ ก่อนที่จะมีอิทธิพล

ท่านผู้ชมครับ ไม่ทราบว่าผมเคยพูดหรือเปล่าว่า ทั่วโลกตอนนี้เริ่มเข้าใจแล้วว่า คบกับจีน คือการซื้อขายซึ่งกันและกัน การสร้างโครงสร้างพื้นฐาน แต่คบกับอเมริกา อเมริกาพาไปรบ ไปสู่สงคราม


สถิติที่น่าทึ่ง 31 ประเทศลาตินอเมริกา มีจำนวน 25 ประเทศได้ร่วมมือกับจีนสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นมากสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจ การประชุมสุดยอดของอเมริกาควรจะเป็นโอกาส จริงๆ แล้วควรจะเป็นโอกาสที่อเมริกาจะแสดงความมุ่งมั่นต่อภาคลาตินอเมริกา แต่น่าเสียดาย ทำได้ไม่ดี ขาดผลประโยชน์ที่จับต้องได้อย่างแท้จริง ท่านผู้ชมลองนึกดูก็แล้วกันนะครับ แม้กระทั่งประธานสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นายริชาร์ด ฮาสส์ (Richard Haass) ยังบอกว่า อเมริกา การประชุมครั้งนี้ไม่มีข้อเสนอทางการค้าเลย ไม่มีนโยบายการย้ายถิ่นฐาน ไม่มีแพ็กเกจโครงสร้างพื้นฐาน แทนการเน้นว่าใครจะเป็นและใครจะไม่ ยังไม่มีความชัดเจนว่าทำไมเราถึงกดดันให้เรื่องนี้เกิดขึ้น

อาจารย์นิโคลัส คัล (Nicholas Cull) ศาสตราจารย์ด้านทูตสาธารณะ ที่มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย บอกว่า มันเป็นชั่วโมงของมือสมัครเล่นที่บ้าบอมาก ดูเหมือนสิ่งที่อเมริกาตระเตรียมไว้ไม่เป็นไปตามที่อเมริกาวาดภาพไว้ในใจ ในขณะที่การประชุมสุดยอดของจีนนั้น แตกต่างกว่ามากเลย


มีบทความจากหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เขาเน้นให้เห็นถึงความแตกต่าง การประชุมสุดยอดของอเมริกา และ การประชุมสุดยอดของจีน สองประเทศ เขาบอกว่า อเมริกาวางเป้าหมายว่าทุกประเทศต้องเป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ไม่สมความจริง เป็นไปไม่ได้ที่จะให้ทุกประเทศยอมรับการปกครองแบบอเมริกา ตรงข้ามกับจีน พอเขามาถึงโต๊ะประชุมสุดยอด เขาไม่พูดเรื่องการเมืองเลย เขาแจกโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียกลาง ยุโรปตะวันออก ลาตินอเมริกา ซึ่งโครงการต่างๆ เหล่านั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดเพื่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศที่เข้าร่วมประชุม และอีกปัญหาหนึ่งที่สำคัญมากในการประชุมสุดยอด อเมริกาขาดเงินสำหรับสิ่งที่เขาทำ รัฐบาลอเมริกาจะจัดลำดับความสำคัญอันดับแรก คือ สนับสนุนอุตสาหกรรมทางทหาร ยกตัวอย่าง อเมริกาเสนอให้ส่งเงิน 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ไปยังยูเครน ช่วยรบ ส่งอาวุธ


แต่การประชุมสุดยอดลาตินอเมริกา ไบเดน เสนอให้แค่ 617 ล้านเหรียญสหรัฐ เท่านั้นเอง ราวๆ 21,700 ล้านบาท อเมริกาเสนอให้ยูเครน 1.4 ล้านล้านบาท แต่เสนอให้ 31 ประเทศของลาตินอเมริกา แค่ 21,700 ล้านบาท สำหรับ 31 ประเทศ ตกประเทศละแค่ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ เอง หรือราวๆ 700 ล้านบาท เรียกได้ว่าอเมริกาโยนเศษเงิน เศษกระดูก ให้กับสมาชิกในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา ที่ตัวเองเรียกกลุ่มประเทศนี้ว่า เป็นสวนหลังบ้านของประเทศตัวเอง ก็ว่าได้

ท่านผู้ชมครับ ย้อนกลับมาที่อาเซียน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เคยโยนเศษกระดูก 150 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 5,300 ล้านบาท ให้กับ 10 ประเทศในกลุ่มพันธมิตรอาเซียน ตกประเทศละแค่ 500 กว่าล้านบาท เปรียบเทียบกับจีนให้เงินช่วยอาเซียนมากถึง 1,500 ล้านเหรียญ หรือ 53,000 ล้านบาท อเมริกาให้แค่ 5,300 ล้านบาท จีนให้สิบเท่าของอเมริกา


นักวิชาการทางด้านรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน ชื่อ โปนเฟสเซอร์ อู๋ ยู ชาน (Prof. Wu Yu Shan) เขาบอกว่า ปัญหาหลักของไบเดน คือ รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดนี้ไม่สามารถเสนอสินค้าทางเศรษฐกิจให้กับต่างประเทศที่จะทำให้คู่ค้ามีความสบายใจกับอเมริกา เพราะลัทธิเสรีนิยมทั่วโลกเสื่อมเสียชื่อเสียงโดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ และถูกรังเกียจจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกา ในทางกลับกันจีนถึงมีอิทธิพลมากกว่า

ท่านผู้ชมครับ ที่สำคัญ อดีตกงสุลอเมริกาในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน พูด ท้ายที่สุดประเด็นความแตกต่างในการดำเนินการของอเมริกา กับ จีน คือการเมืองในเศรษฐกิจตะวันตกมีความสำคัญ แต่อย่างที่เราเห็นในลอสแองเจลิส ประเด็นเหล่านี้จะถูกบดบังด้วยประเด็นอื่นๆ เช่น การอพยพย้ายถิ่น ความไม่เท่าเทียมกันของสิทธิสตรี และปัญหาธรรมาภิบาลต่างๆ


ในประเทศจีนเขาไม่ได้เอาเรื่องความขัดแย้งมาอยู่ในกระบวนการ เพราะเขารู้ว่าการประชุมซัมมิตนั้น ทุกคนหวังจะได้รับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ ถ้าเรามองดูมิติการเมือง มันมีความสำคัญมากกว่าที่โลกรู้ จีนเป็นระบบพรรคเดียว และจะเป็นต่อไปในอนาคต โดย สี จิ้นผิง จะปกครองต่อไปอย่างไม่มีกำหนด อเมริกา เป็นระบบการเมืองแบ่งเป็น 2 พรรคการเมืองใหญ่ พรรคเดโมแครตมีโอกาสจะสูญเสียอำนาจอย่างมากในการเลือกตั้งกลางปี ก็คือประมาณพฤศจิกายน ปีนี้ ที่จะเกิดขึ้น และอเมริกาอีกสองปีก็จะเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่อีกครั้ง ซึ่งค่อนข้างจะแน่ชัดแล้วว่าพรรคเดโมแครตจะไม่มีโอกาสได้กลับเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง

ท่านผู้ชมครับ ปัจจัยทั้งหมดนี้มีความสำคัญสำหรับประเทศลาตินอเมริกา เมื่อครั้ง โจ ไบเดน รับตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกา มีการมองในแง่ดีที่ลาตินอเมริกา เพราะเมื่อเขาดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี เขาเยี่ยมเยือนภูมิภาคนี้ถึง 16 ครั้ง ท่านผู้ชมครับ เขาไปลาตินอเมริกา 16 ครั้ง แต่น่าเสียดายที่เขาดีแต่พูด คือพูดมากเกินไป แต่ไม่เคยทำเรื่องอะไรสักครั้งเลย 16 ครั้ง ให้แต่ลมปากไป


2552 ในการประชุมสุดยอดของลาตินอเมริกา ข้อความ โจ ไบเดน ถึงลาตินอเมริกา บอกว่า เราจะร่วมมือกันอย่างแท้จริง เราต้องการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ... จบข่าว แค่นั้นเอง ร่วมอย่างไร ?

ในขณะที่จีนเข้าไป เขาเชิญ เขาไปปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่ต้องการที่จะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ไม่มีเงิน เขาให้กู้เงินไปก่อน แล้วเขาเอาวิศวกรจีนไปทำ เขาทำรถไฟความเร็วสูงให้ อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของอเมริกา เพิ่งจะพูด แชร์ข้อความว่า ภูมิภาคลาตินอเมริกากำลังร้องไห้จากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ หลังจากสถานการณ์โควิด แต่ได้รับความช่วยเหลืออย่างเล็กน้อยมาก ขณะที่จีนนั่งรอพร้อมสมุดเช็คที่เปิดอยู่ ความหมายก็คือ จีนพร้อมจ่าย พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

ท่านผู้ชม ท้ายที่สุดแล้ว การประชุมสุดยอดผู้นำของประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกา และแคริบเบียน ครั้งที่ 9 ที่อเมริกาเป็นเจ้าภาพนั้น อาจจะถูกจดจำไปว่าเป็นความอัปยศ ความล้มเหลว และความผิดหวัง การสูญเสียโอกาสของอเมริกาในช่วงเวลาสำคัญภายใต้บรรยากาศของการหาพวก แบ่งพวก เพื่อฟาดจีน แต่กลับเสียหมา คนนินทา หมาดูถูก เสียรังวัดในสายตาโลกอย่างยากที่จะกู้คืน ซึ่งก็ตำหนิอเมริกาไม่ได้ เพราะโดยเนื้อแท้อเมริกาเป็นคนอย่างนั้นจริงๆ จีนช่วยอาเซียน 53,000 ล้าน โจ ไบเดน โยนเศษกระดูกมาให้อาเซียน 5,300 ล้าน ต่างกันสิบเท่า จีนชักชวนให้ลงทุน ค้าขาย อเมริกาชักชวนให้มาสร้างนาโต 2 เพื่อต่อต้านจีน คนๆ หนึ่งชวนให้เราไปค้าขาย เพื่อให้เราร่ำรวยขึ้น ช่วยเหลือเรา คนอีกคนหนึ่งชวนให้เรารบกับชาวบ้าน ท่านผู้ชมลองคิดดูว่า ใครคือปีศาจร้ายของโลกใบนี้กันแน่


ท่านผู้ชมครับ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน 2565 ศาลสูงสุดของอเมริกา คือ Supreme Court พิพากษาด้วยเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 เสียง ตัดสินว่า คนอเมริกันมีสิทธิขั้นพื้นฐานในการพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ คำพิพากษนี้ขัดต่อกฎหมายท้องถิ่น กฎหมายรัฐหลายๆ แห่ง อย่างเช่นที่รัฐนิวยอร์ก กฎหมายมีอายุกว่า 100 ปีแล้ว คือถ้าใครจะพกปืนต้องพิสูจน์ว่าตนเองมีความจำเป็นป้องกันตัวเองที่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรในการได้รับใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืน


ตุลาการ 6 คน ที่เห็นว่าคนอเมริกันมีสิทธิที่จะพกปืนได้ตามสิทธิเสรีภาพของตัวเอง อ้างว่ารัฐธรรมนูญอเมริการับรองให้บุคคลมีสิทธิในการป้องกันตัว หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า การป้องกันตัวเองนั้นเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่มิอาจละเมิดได้ การกำหนดให้มีการขออนุญาต หรือบังคับให้ต้องมีใบอนุญาตในการพกปืนในที่สาธารณะตามคำสั่งหรือดุลพินิจของรัฐ ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นแล้ว พลเมืองอเมริกันมีสิทธิขั้นพื้นฐานในการพกปืน

ท่านผู้ชมจะเห็นว่าในห้างสรรพสินค้า ในการเดินออกไปธุระปะปัง กลายเป็นว่าคนอเมริกันสะพายปืนกันหมด บางคนถึงขั้นสะพายปืนกึ่งๆ ปืนกล ผู้หญิงพกปืนพกอยู่ข้างเอว ในเรื่องนี้ผมมีมุมมองอีกแบบหนึ่ง ไม่ใช่แค่คำตัดสินของศาลสหรัฐฯ หรือการต่อสู้เกี่ยวกับกฎหมายการควบคุมอาวุธปืนในสหรัฐฯ


เมื่อท่านผู้ชมพิจารณาลงไปให้ลึกแล้ว จะเห็นว่าคำพิพากษาของศาลสูงสุดของอเมริกานั้น บ่งชี้ให้เห็นถึงธาตุแท้ของคนอเมริกัน ปรัชญาในการดำรงชีวิต การเชิดชูสิทธิส่วนบุคคล เชิดชูอิสระและสรีภาพของปัจเจกบุคคล ให้อยู่เหนือความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อย และผลประโยชน์ของส่วนรวม แปลว่าอะไร ? แปลว่า ท่านผู้ชมสังเกตไหมว่า ช่วงหลังมีนักเรียนบางคนเอาปืนเที่ยวมาไล่ยิงนักเรียนในโรงเรียน ตายกันเป็นสิบ ตอนนี้กลายเป็นว่าเปิดเสรีแล้ว นักเรียนมีสิทธิที่จะพกปืนได้ ถ้าอายุเกินตามที่เขากำหนดเอาไว้ อีกหน่อยก็จะกลายเป็นว่านักเรียนในชั้น ม.6 หรือที่เขาเรียกว่า Senior ที่อายุเกิน 18 ปี ก็สามารถจะพกปืนพกเข้าไปนั่งเรียนในห้องเรียนได้

การตัดสินของศาลสูงสหรัฐฯ เป็นเช่นนี้ เพราะเขาตัดสินบนพื้นฐานของสิทธิเสรีภาพที่จะป้องกันตัวเอง และนี่คือปรัชญาปัจเจกบุคคล คือ ตัวเองเป็นใหญ่ พอทุกคนคิดแบบนี้แล้ว ท่านผู้ชมลองหลับตาวาดภาพนะ พอมารวมกันทุกคน ก็กลายเป็นประเทศอเมริกา เพราะฉะนั้นท่านผู้ชมจะเห็นว่าอเมริกาเป็นประเทศที่มีอัตราส่วนครอบครองอาวุธปืนมากที่สุดในโลก พูดง่ายๆ ว่า คนอเมริกันทุกคน ในจำนวน 100 คน จะมีปืนอยู่กับเขา 120 กระบอก ท่านผู้ชมนึกออกไหม มีมากกว่า 1 ต่อ 1


2563 คนอเมริกันเสียชีวิตจากอาวุธปืนมากกว่า 45,000 คน รวมทั้งการฆาตกรรม ฆ่าตัวตาย เป็นปีที่มีสถิติเสียชีวิตจากอาวุธปืนสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ อเมริกาก็เลยมีเบื้องหลังที่เป็นปรัชญาที่รู้กันว่า ไม่มีการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร คือสรุปง่ายๆ ว่า คนอเมริกันจะทำอะไรก็ได้ในโลกนี้ ตามใจกู เป็นสิทธิเสรีภาพของกู เพราะฉะนั้นคนอเมริกัน ประเทศอเมริกา ก็เลยมีปรัชญา กติกาแบบนี้ออกมา นโยบายต่างประเทศอเมริกาก็เลยเป็นแบบนี้ ข้าจะทำแบบนี้ แกต้องทำตาม ข้าจะไปตั้งฐานทัพ 700-800 แห่งทั่วโลก ข้ามองเห็นจีนเป็นภัยคุกคาม ข้าจะทำทุกวิถีทางเพื่อขวางจีน ใครไม่ทำตามกฎก็เป็นศัตรูกัน เหมือนคำพูดของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 ที่ออกมาประกาศหลังจากเหตุการณ์ 11 กันยาฯ ที่มีการขับเครื่องบินไปชนตึกเวิลด์เทรด ประกาศอย่างนักเลงโตเลยว่า ทุกประเทศในภูมิภาคนี้ ตอนนี้ต้องตัดสินใจแล้วว่า จะอยู่ฝ่ายเรา หรือจะอยู่กับฝ่ายผู้ก่อการร้าย

เพราะฉะนั้นแล้ว วาทกรรมเรื่องเสรีภาพว่าด้วยการก่อสงครามครั้งนั้น เป็นสงครามของเสรีภาพกับความกลัว ท่านผู้ชมเริ่มเข้าใจหรือยังว่า อเมริกาใช้เสรีภาพที่กระทบกระเทือนส่วนรวม กระทบกระเทือนโลก เสรีภาพของสิทธิในการจะทำอะไรก็ได้ เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อเรามองระดับมหภาคที่อเมริกาไปตั้งฐานทัพ 700-800 แห่งทั่วโลก ไปรุกรานประเทศโน้นรุกรานประเทศนี้ มองจากระดับใหญ่ลงมาระดับจุลภาค หรือระดับเล็ก จะเห็นว่าการพกปืนสั้นเหน็บเอว ปืนยาวสะพายไหล่ เข้าไปซื้อแฮมเบอร์เกอร์ในร้านแมคโดนัลด์ เดินซูเปอร์มาร์เก็ต ไปตามท้องถนนในที่สาธารณะ


นี่ล่ะคืออเมริกา ท่านผู้ชมครับ อเมริกาไม่ใช่ประเทศที่น่าอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว ท่านผู้ชมที่มีลูกหลาน จะไปอยู่ที่โน่น ไปเรียนหนังสือที่โน่น คิดให้ดีๆ ความเละเทะของอเมริกาตอนนี้ยังมีมากกว่านี้ ท่านผู้ชมลองดูสิครับ ไปซื้อแมคโดนัลด์ สะพายปืนกึ่งๆ ปืนกล ผู้หญิงบางคนสะพายปืนลูกซองไปเข้าซูเปอร์มาร์เก็ต มันจะบ้ากันไปแล้ว เพราะฉะนั้นปรัชญานี้ กับปรัชญาทางตะวันออก มันคนละปรัชญากันแล้ว นี่คือความขัดแย้งในเชิงปรัชญาและวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ซึ่งไม่เหมือนกัน อเมริกาใช้ปรัชญาปัจเจกบุคคลเป็นใหญ่ เมื่อปัจเจกบุคคลแต่ละคนรวมๆ กันแล้วมันก็เลยกลายเป็นนโยบายของอเมริกาว่า ฉันจะทำอะไร ตามใจฉัน เพราะมันเป็นสิทธิของฉันที่ฉันจะทำ

ถ้าท่านผู้ชมติดตามรายการนี้มาตลอด ท่านผู้ชมจะจำได้ สำหรับท่านผู้ชมที่ไม่ได้ติดตามรายการนี้มาตลอด อาจจะไม่รู้เรื่องนี้ ผมเคยเล่าให้ท่านผู้ชมฟังแล้วว่า เมื่อสามสิบปีก่อน ผมอายุเพียง 45 เอง ตอนนั้นเป็นสมัยที่จีนเปิดประเทศใหม่ๆ ผมกับพรรคพวกก็เช่าเครื่องบินเหมาลำไปเยือนประเทศจีน ตอนนั้นเครื่องบินเหมาลำลำนั้นก็มี นายตาบูชิ ซึ่งเป็นประธานของโนมูระ ของญี่ปุ่น ไปด้วย


มีคุณบัณฑูร ล่ำซำ ก็ไปด้วย คุณวิโรจน์ นวลแข ก็ไปด้วย คือนักลงทุนหลายคนก็ไปดูประเทศจีนกับผมด้วยในช่วงนั้น ในช่วงนั้นเป็นการเดินทางไม่ใช่เฉพาะแค่ประเทศจีน เราไปถึงเวียดนามด้วย ไปเยือนฮานอย ไปเยือนโฮจิมินห์ ซิตี ไปที่เมืองดานัง

ตอนนั้นเราไปครั้งแรก เราไปมณฑลยูนนานก่อน เพราะอยู่ใกล้ประเทศไทย และหลังจากนั้นเราค่อยไปปักกิ่ง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน คือ คุนหมิง เมืองนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งฤดูใบไม้ผลิ เพราะว่ามีอากาศดีทั้งปี จริงๆ แล้ว คุนหมิง มณฑลยูนนาน เป็นเมืองที่เหมาะสำหรับการไปเกษียณอายุที่นั่น อากาศดีทั้งปี เวลาร้อนก็ไม่ร้อน หนาวก็ไม่ได้หนาวมาก เป็นเมืองแห่งฤดูใบไม้ผลิ ทั้งปีเลย


ท่านผู้ชมครับ เมื่อสามสิบปีที่แล้ว ประเทศจีนอยู่ในช่วงที่กำลังพัฒนา ขาดแคลนทรัพยากรต่างๆ มากมาย คณะของผมก็เลยได้รับการพาไปเที่ยวดูโน่นดูนี่ มีการให้ผมไปทดลองยิงปืนต่อสู้อากาศยาน ใส่เนินเขาใกล้ๆ ตอนนี้ไม่มีแล้ว


ทางการจีนก็คงไม่เปิดโอกาสให้ทำอย่างนี้อีก มีรูปผมไปเที่ยวป่าหิน แล้วก็มีรูปที่ผมไปยืนอยู่ที่พระราชวังต้องห้ามที่กรุงปักกิ่ง ที่แทบจะไม่มีคนไปเที่ยวเลยตอนนั้น ผมจำได้




ผมติดตามเรื่องประเทศจีนมาตั้งแต่เด็ก ผมไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา คณะประวัติศาสตร์ ซึ่งเอกของผมคือประวัติศาสตร์ทางเอเชียตะวันออก ซึ่งก็ย่อมหนีไม่พ้นประวัติศาสตร์จีน

คุณพ่อผม เกิดที่เมืองไทย จังหวัดสุโขทัย คุณปู่ก็เลยตัดสินใจส่งคุณพ่อไปเรียนต่อที่ประเทศจีน ยังวัยรุ่นอยู่เลย สิบกว่าขวบ หลังจากนั้นก็ไปเข้าโรงเรียนนายร้อยหวงผู่ ก็คือเปรียบได้กับโรงเรียนนายร้อย จปร. ของประเทศไทย คุณพ่อผมจบแล้วก็เลยเป็นทหารในประเทศจีน แล้วก็รบกับทหารญี่ปุ่น

หลายสิบปีที่ผ่านมา ผมได้สัมผัสกับประเทศจีน สังคมจีน หลากหลายมิติ ผมพบความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ จีนทุกวันนี้พัฒนาก้าวหน้าไปมากๆ ในทุกมิติ ถ้าท่านผู้ชมศึกษาประวัติศาสตร์จีนมาบ้าง คงจะพอนึกออกว่า หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้จีนจะชนะสงคราม แต่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งนำโดยประธานเหมา เจ๋อตง พยายามปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจ การเกษตรของจีน ที่เก่าแก่คร่ำครึมาเป็นเวลาร้อยปี พันปี ให้เข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม โดยในช่วงปลายศตวรรษที่ 1950 ต้นศตวรรษ 1960 ประธานเหมา เจ๋อตง มีนโยบายที่เขาเรียกว่า ก้าวกระโดดไกล ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า The Great Leap Forward


ทอดระยะเวลาของยุคก้าวกระโดดไกล 3 ปี ระหว่างปี 2501-2504 แต่ประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ทำให้ประชากรจีน ซึ่งตอนนั้นมีอยู่ 600 ล้านคน และกำลังเขยิบเข้าไปแตะ 700 ล้านคน ต้องอดอยากมากมายหลายสิบล้านคน ว่ากันว่าคนจีนในช่วงสามสิบปีดังกล่าว มีมากถึง 15-50 ล้านคน บทเรียนอันเจ็บปวดดังกล่าว ทำให้ผู้นำในรุ่นที่ 2 คือ นายเติ้ง เสี่ยวผิง


เล็งเห็นแล้วว่า ด้วยประชากรจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกินกว่าเทคโนโลยีทางการเกษตรที่ล้าหลังมากๆ จะรองรับได้ หากปล่อยเป็นเช่นนี้คนจีนคงไม่พ้นต้องประสบกับปัญหาความอดอยาก ยากจนข้นแค้นอีก เขาก็เลยมีการวางนโยบายหลายข้อ เช่น ประการแรก เขาลดจำนวนประชากร คือบังคับให้สามี-ภรรยามีบุตรได้แค่ 1 คน ซึ่งในนโยบายนี้เรารู้จักกันในชื่่อว่า One Child Policy ต่อเนื่องกันมาถึงสามสิบห้าปี


นโยบายข้อที่สอง คือ เขาดำเนินนโยบาย 4 ทันสมัย เติ้ง เสี่ยวผิง เน้นว่า การเกษตรต้องทันสมัย อุตสาหกรรมทันสมัย ป้องกันประเทศทันสมัย วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทันสมัย ให้เป็นเป้าหมายในการพัฒนาประเทศจีนต่อไป

ในเวลานั้นประชากรจีนมีอยู่ 980 ล้านคน เกือบแตะ 1 พันล้านคน เลยเป็นปัญหาที่แก้ไขยากที่สุด เพราะจีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก หากแก้ไขปัญหา หาข้าวให้คนจีนกินไม่ได้ อาจจะเป็นปัญหาของชาวโลก


ท่านผู้ชมครับ ผ่านจากวันนั้น ในยุคสมัยของผู้นำรุ่นที่สองของนายเติ้ง เสี่ยวผิง มาถึงวันนี้ ยุคสมัยของผู้นำรุ่นที่ห้า นายสี จิ้นผิง สี่สิบกว่าปี เมื่อผมได้ติดตามข้อมูลเรื่องนี้ก็อดทึ่งไม่ได้ว่า ประเทศจีนที่ข้นแค้นยากจน ประชาชนอดมื้อกินมื้อ ปัจจุบันกลับสามารถก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีทางการเกษตรแห่งอนาคต ที่เราคนไทยขึ้นชื่อมาแต่โบราณว่า เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว นั้น เราสู้เขาไม่ได้เลย และเรายังต้องชื่นชมเขาอย่างจริงๆ


ประเทศจีนได้ตั้งยุทธศาสตร์ที่เรียกว่า Made in China 2025 (ปี 2568) อีกประมาณสามปี มันเริ่มจากความคิดของผู้นำจีน และรัฐบาลจีน ที่มีแนวคิด เขาจะปฏิรูปอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศ โดยในปี 2558 หลังจากจีนได้ต่อสู้กับความยากจนได้สำเร็จ เขาก็เริ่มพัฒนาภาคอุตสาหกรรม เอาเทคโนโลยีชั้นสูงเข้ามาในระบบอุตสาหกรรมอย่างเต็มรูปแบบ ปรับปรุงห่วงโซ่ทางอุตสาหกรรมการผลิตให้มีความสมดุล เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของจีน เพื่อความกินดีอยู่ดีของประชาชน และให้สามารถแข่งขันในเวทีโลกด้วย

10 อุตสาหกรรมเป้าหมายภายใต้ยุทธศาสตร์ Made in China 2025 อุตสาหกรรมการเกษตร เป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรมที่จีนเขาตั้งเป้าไว้ เขาทำอะไร ? เขามุ่งเน้นอุตสาหกรรมไฮเทคมากขึ้นในการผลิตอาหาร เนื่องจากจำนวนประชากรมีมากกว่า 1 พันล้านคน ท่านผู้ชมเชื่อไหม มหาอำนาจเศรษฐกิจอย่างจีน สามารถพึ่งตัวเองได้แทบทั้งหมดในการผลิตสินค้าเกษตร พวกข้าว ข้าวโพด ข้าวสาลี ได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่ารัฐบาลจีนมีนโยบายในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร


ท่านผู้ชมครับ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 (สามปีที่แล้ว) คณะรัฐมนตรีจีนได้ประกาศเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตร เขาให้รัฐบาลท้องถิ่นออกมาตรการสนับสนุนการพัฒนาการเกษตรในรูปแบบ 3 อย่าง หนึ่ง เขาให้เร่งพัฒนาเทคโนโลยีสำคัญด้านการเกษตร สอง สนับสนุนภาคเอกชนในการพัฒนานวัตกรรมด้านการเกษตร สาม ส่งเสริมนวัตกรรมเมล็ดพันธุ์ชีวภาพ เครื่องจักรทางการเกษตร เกษตรอัจฉริยะ และการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ท่านผู้ชมรู้ไหมครับว่า ข้าวหอมมะลิไทย สินค้าไทย กล้วยน้ำว้า ทุกอย่าง ทุเรียน ทุกอย่าง ที่ประเทศจีน ที่มณฑลซินเจียง เขามีศูนย์ในการค้นคว้า อีกไม่นาน เขาบอกว่าคุณภาพที่เขาค้นคว้ามา แล้วก็ผลิตนวัตกรรมมา ผลิตสินค้าเหมือนกับสินค้าเกษตรของไทยเป๊ะเลย น่ากลัวมากท่านผู้ชม

เมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 สองปีที่แล้ว กระทรวงเกษตรและชนบทของจีน เขาได้ทำรายงานสถานะอุตสาหกรรมการเกษตรแบบไร้มนุษย์ ไม่ต้องใช้คนเลย อุตสาหกรรมการเกษตรที่ไม่ต้องใช้คน เขาบอกอุตสาหกรรมการเกษตรแบบไร้มนุษย์ ประยุกต์เทคโนโลยี ข้อมูล เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของการใช้ทรัพยากรน้ำ ดิน ปุ๋ย และแรงงาน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นี่คือแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมทางการเกษตรที่สำคัญของจีน และเขาบอกว่า ปัจจุบันจีนมีพื้นที่ทางการเกษตรอัจฉริยะ ก็คือว่า ใช้ดาวเทียมควบคุมการผลิต ใช้เทคโนโลยีควบคุมการผลิต ใช้เครื่องจักรกลที่ไร้คนขับ ปรากฏว่ามีพื้นที่การเกษตรอัจฉริยะแบบนี้ 7 หมื่นตารางกิโลเมตร ใหญ่ที่สุดในโลก


จีนประสบความสำเร็จมากในการลดความยากจน เมื่อสี่สิบปีที่แล้ว ค.ศ. 1980 เขาทำให้รายได้ครอบครัวในชนบทสูงขึ้น ปฏิรูปการยกเลิกการทำการเกษตรรวมกลุ่ม ปฏิรูปที่ดิน ทำให้ชาวนาเป็นเจ้าของที่ดินได้ ปฏิรูปการตลาด ชาวนาขายผลิตผลได้โดยตรง การปฏิรูปการเกษตรของจีนถือเป็นยุทธการพัฒนาเศรษฐกิจที่ต่างจากอดีต สมัยคอมมิวนิสต์ สมัยนั้นเขากดราคาผลิตผลให้ต่ำ เพื่อเอาทุนส่วนเกินจากภาคการเกษตรนั้นไปพัฒนาอุตสาหกรรม การกดราคาสินค้าเกษตรทำให้มาตรฐานการครองชีพอยู่ในสภาพเพื่อการยังชีพเท่านั้นเอง

การตัดสินใจของจีนที่ยกเลิกการควบคุมราคาสินค้าเกษตร พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจ และทำให้ชนบทมีมาตรฐานความเป็นอยู่สูงขึ้น ยุทธศาสตร์ Made in China ค.ศ. 2025 ที่มุ่งเน้นอุตสาหกรรมไฮเทคมากขึ้น ในการผลิตอาหารให้พอเพียงที่จะเลี้ยงคนในประเทศ


ท่านผู้ชมครับ คำถามมีอย่างนี้ จากประเทศที่อดอยากอย่างประเทศจีน ด้วยประชากรเกิน 1 พันล้านคน ประเทศจีนสามารถบรรลุอัตราการพึ่งตนเองด้านอาหารได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ได้อย่างไร ? นั่นคือคำถาม คำตอบคือ เกษตรอัจฉริยะจีนที่เขาคิดมา เขาขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่ มีประสิทธิภาพและความแม่นยำสูง ใช้ยกระดับคุณภาพและเพิ่มมูลค่าผลิตผลทางการเกษตร เช่น เทคโนโลยีการให้น้ำ ให้ปุ๋ย วิเคราะห์สภาพดินในแปลงเพาะปลูกพืช สร้างโรงเรือนเพาะปลูกที่ติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) ให้ภาคเอกชนลงทุน และมีตลาดรองรับผลิตผลภายในประเทศจีน ส่งออกบางส่วนไปจำหน่ายในต่างประเทศ เช่น รัสเซีย และในอาเซียน

ท่านผู้ชมครับ จีนเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่อยู่ในแนวหน้าของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระบบเกษตรอัจฉริยะระดับโลก อาจจะนำกว่าทุกๆ คนในโลกนี้ก็ได้ในเรื่องเกษตรอัจฉริยะ

เกษตรอัจฉริยะ คือเกษตรกรรมสมัยใหม่ที่ต้องอาศัยเงินทุนและปัญญา กับความสามารถด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศอย่างรวดเร็ว ทันสมัย เช่น เขานำทางและวางตำแหน่งดาวเทียม เป๋ย โต่ว คือดาวเทียมของจีนที่ยิงมา เพื่อสำรวจพื้นที่ทางการเกษตร (รูปภาพ : ศูนย์บัญชาการการใช้ระบบดาวเทียมเป๋ย โต่ว เพื่อบูรณาการงานด้านการเกษตร)




เขาใช้อินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง คือ IoT (Internet of Things) เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลทางการเกษตรกับอุปกรณ์อัจฉริยะทั้งหลายผ่านอินเทอร์เน็ต เช่นอะไรบ้าง ? กล้องวงจรปิดตรวจวัดความเจริญของพืช อุปกรณ์วัดความชื้นของดิน กล้องบันทึกภาพการเติบโตของพืช กล้องตรวจวัดและพยากรณ์อากาศ เขาใช้ Big Data บล็อกเชน และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ใช้กับซอฟต์แวร์ในระบบประมวลผลแบบครบวงจรระบบเกษตรอัจฉริยะ เขาใช้เครือข่ายระบบ 5G รถหุ่นยนต์ฉีดพ่นของเหลวขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติ มีโดรนเกษตร ประมวลผลเก็บข้อมูลสภาพอากาศในพื้นที่เกษตรอุตสาหกรรม การใช้ดาวเทียมวิเคราะห์ดินและสภาพพื้นที่ แล้วเชื่อมโยงฐานข้อมูล Big Data และมีแอปพลิเคชันเพื่อการบริหารจัดการพื้นที่การเกษตรบนคอมพิวเตอร์ พร้อมทั้งบูรณาการข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับพื้นที่การเกษตรจากทุกๆ หน่วยงาน ตัวเกษตรกรไม่ต้องลงไปสู่เรือกสวนไร่นาหรือฟาร์มปศุสัตว์เอง แต่ทำงานโดยควบคุมจากระยะไกล ให้การผลิตทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ด้วยระบบอัตโนมัติทันสมัย โดยนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรชาวจีนได้ออกแบบและสร้างเทคโนโลยี อุปกรณ์ทำนาข้าว และข้าวสาลี ระบบดิจิทัลที่ไร้คนขับในประเทศจีน

ท่านผู้ชมครับ ผมจะยกตัวอย่างฐานสาธิตแปลงเกษตรอัจฉริยะ 15 แห่ง ที่้เขาทำงานการเกษตรโดยไม่ใช้คนเลย แต่มีเทคโนโลยีในการจัดการ การเก็บเกี่ยวพืชผล ได้แก่ ข้าว ข้าวสาลี ถั่วลิสง ข้าวโพด ตัวอย่าง รถไถไร้คนขับขนาด 260 แรงม้า ติดตั้งเครื่องพรวนดิน 9 ขั้นตอน กว้าง 3.5 เมตร


มีเครื่องหว่านเมล็ดด้วยการใช้เทคโนโลยีการควบคุมร่วมการนำทางและวางตำแหน่งดาวเทียมเป๋ย โต่ว ทำให้งาน 9 ขั้นตอนของการหว่านปุ๋ย การไถลึก การกำจัดตอซังแบบ 2 แกน การเปิดคูน้ำ เสร็จสมบูรณ์ในคราวเดียว และแม่นยำ สามารถประหยัดต้นทุนและการปลูกหว่านเมล็ดข้าวสาลีได้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ เทคโนโลยีใหม่ของเขา สามารถปรับปรุงการใช้ที่ดินได้ 5-10 เปอร์เซ็นต์ ประหยัดแรงงานได้มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ใช้ปุ๋ยน้อยลง ลดสารกำจัดศัตรูพืช เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยเพิ่มผลผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพ

การตรวจสอบพันธมิตรการทำงานจากระยะไกล สามารถอัปโหลดคุณภาพการทำงานไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ ด้วยการใช้เทคโนโลยี ท่านผู้ชมครับ เขายังมีเครื่องกำจัดวัชพืช ประเทศไทยนี่มีปัญหาเรื่องการกำจัดวัชพืชอย่างมากเลย


แต่ประเทศจีนเขาคิดเครื่องกำจัดวัชพืชแบบดิจิทัล 30 แรงม้า พัฒนาขึ้นมาใหม่ มาพร้อมกลไกการกำจัดวัชพืชแบบดิจิทัล 10 แถว กว้าง 2 เมตรครึ่ง สามารถทำให้การกำจัดวัชพืชเสร็จสมบูรณ์หลังจากการหว่านเมล็ดพันธุ์ด้วยระบบดิจิทัลที่ใช้ระบบนำทางด้วยดาวเทียม แล้วแชร์ข้อมูลดิจิทัลระหว่างกัน เครื่องสามารถเดินระหว่างแถวของพืชผลอย่างแม่นยำ ไม่ต้องไปสัมผัสหรือทำร้ายต้นกล้าระหว่างการทำงาน ทำให้สามารถกำจัดวัชพืชระหว่างแถวได้ แล้วกำจัดสารเคมีฆ่าหญ้า ลดยาฆ่าแมลง 60 เปอร์เซ็นต์ เดินระหว่างแถวได้อย่างแม่นยำ ในฟาร์มอัจฉริยะที่ไร้คนขับรถแทร็กเตอร์ รถเกี่ยวข้าว เครื่องปลูก หว่านเมล็ดพันธุ์ เครื่องป้องกันวัชพืช ทุกขั้นตอนเขาจะใช้ 5G เทคโนโลยีไร้คนขับที่ล้ำหน้าที่สุด ตามระบบการวางแผนเกษตรอัจฉริยะ ทั้งเส้นทางอัตโนมัติและฟังก์ชันการทำงานอัตโนมัติ สามารถทำงานได้สมบูรณ์แบบที่สุด


ท่านผู้ชมครับ ประเทศจีนอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงจากการเกษตรแบบดั้งเดิม ไปสู่การเกษตรสมัยใหม่ เขาใช้นักวิทยาศาสตร์ วิศวกรชาวจีน เร่งการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาและการประยุกต์ใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีทางการเกษตรชั้นสูง ผลงานประสบความสำเร็จในการพัฒนาเครื่องจักรกลไกการเกษตรอัจฉริยะที่หลากหลาย ผมเอารูปโดรนขึ้นให้ท่านผู้ชมดู


โดรนอันนี้อยู่ที่ฟาร์มต้าเถียน ตำบลเจี่ยนเชียง อำเภอหนานชาง ซึ่งเป็นฟาร์มอัจฉริยะขนาดใหญ่แห่งแรกของมณฑลเจียงซี เขาใช้โดรนทางการเกษตร เขามีอุปกรณ์การเกษตรเยอะ อัจฉริยะ เขามีรถไถเดินตามแบบหมุนไร้คนขับ เครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์แบบไร้คนขับ เครื่องปลูกข้าวไร้คนขับ เครื่องพ่นยาไร้คนขับ เขาตั้งความหวังว่าเกษตกรจีนจะปลดแอกวัวควาย ปล่อยให้ควายเหล็กไปลุยทำงานในท้องนา ส่วนชาวนาเข้าเมือง และบรรดาผู้เชี่ยวชาญปลูกแผ่นดิน

ท่านผู้ชมครับ ประเทศจีนมีดินเค็ม และต่างจำนวน 1,500 ล้านหมู่ 1,500 หมู่ เป็นไร่ของจีน ประมาณเกือบๆ ครึ่งหนึ่งของไร่ไทย 1 ใน 3 คือ 500 ล้านหมู่ เป็นดินเค็ม ถูกทิ้งร้าง แต่เขาใช้การวิจัยพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ช่วยปรับปรุงดินที่เหมาะกับการเพาะปลูก มีการเพาะเลือกพืชตามชนิดของดินที่มีความเค็มและด่างสูง พื้นที่เค็มและด่าง ปานกลาง ก็จะปลูกพืชที่ทนทานต่อเกลือได้ อะไรบ้างล่ะ ? เขาปลูกฝ้าย ปลูกข้าวฟ่าง


นักวิทยาศาสตร์และเกษตรกรชาวจีนได้เปลี่ยนอดีตที่แห้งแล้ง เปราะบางทางนิเวศของน้ำเค็มด่างให้กลายเป็นความอุดมสมบูรณ์สีเขียว และเป็นระบบนิเวศที่สมบูรณ์

การเพาะปลูกข้าวทะเล ท่านผู้ชมเคยได้ยินไหม ใช้ระบบจัดการผสมผสานเทคโนโลยีต่างๆ ของ IoT (Internet of Things) สารปรับสภาพดินเพื่อเร่งการส่งเสริมการปรับปรุงดินในดินเค็มด่าง คาดว่าหลังจากปลูกข้าวทะเลเป็นเวลา 3 ปี ความเค็มของดินจะลดลงจาก 5.9 เปอร์เซ็นต์ ให้เหลือเพียง 2.8 เปอร์เซ็นต์ เท่าตัว ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในด้านความมั่นคงทางด้านอาหารและบรรเทาแรงกดดันต่อเส้นสีแดงของการเพาะปลูก

ท่านผู้ชมครับ อีกไฮไลต์หนึ่งของนวัตกรรมของเขา ท่านผู้ชมที่สนใจเรื่องเกษตรกรรมต้องไม่พลาดรายการนี้ เพราะมีอะไรหลายๆ อย่างที่ผมพูดถึง ถ้าท่านคิดที่จะสนใจ ถ้าท่านไปค้นคว้าหาได้ และท่านติดต่อเขาได้เลย นวัตกรรมต่างๆ ที่เขามีอยู่ เอามาใช้ในประเทศไทยได้ นวัตกรรมที่ไฮไลต์คือเทคโนโลยีปลูกมันฝรั่งจิ๋วคุณภาพสูง


ท่านผู้ชมเชื่อหรือไม่ว่าเขามีสถาบันวิจัยมันฝรั่ง ชื่อ ติ้งซี ในมณฑลกานซู่ ประเทศจีนเป็นประเทศที่ปลูกมันฝรั่งมากที่สุดดในโลก ถึง 1 ใน 4 ของพื้นที่ปลูกมันฝรั่งทั่วโลก นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญจีนใช้เทคโนโลยี Aeroponics ชั้นสูงในการปลูกมันฝรั่งแบบไร้พิษแบบดั้งเดิมผ่านแปลงเพาะเม็ดที่ยกสูง การใส่ปุ๋ยที่แม่นยำ การจ่ายน้ำ การควบคุมต้นกล้ามันฝรั่งอย่างชาญฉลาด ผมเอารูปขึ้นมาให้ดู


มันฝรั่งตัวเล็กเหล่านี้ของสถาบันมันฝรั่งติ้งซีสามารถผลิตต้นกล้าในหลอดทดลอง 4,500 ต้น มันฝรั่งขนาดเล็ก 80 ล้านหัว ตรงตามมาตรฐานการส่งออก และส่งออกมันฝรั่งขนาดเล็กหลายสิบล้านไปที่ 7 ประเทศและภูมิภาคต่างๆ

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีดินดีมาก ผมเชื่อว่าดีกว่าประเทศจีนเยอะ แต่เราขาดนวัตกรรม ขาดการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ขาดการใช้เทคโนโลยี มณฑลกานซู่ เป็นมณฑลที่แห้งแล้ง อยู่ทางภาคตะวันตกของจีน ถ้าเขาผลิตมันฝรั่งและส่งออกไปได้ทั่วโลก 7-8 ประเทศ


ไม่มีเหตุผลอะไรที่พื้นที่แห้งแล้งของไทย ไม่ว่าจะเป็นแถวชัยบาดาล ลพบุรี อะไรพวกนี้ จะไม่สามารถปลูกมันฝรั่งได้ มันฝรั่งจิ๋วนะ เขาใช้โซลาร์เซลล์ พลังงานแสงอาทิตย์ ที่มณฑลกานซู่ ทุกอย่าง แต่ทำงานโดยอัตโนมัติ เกษตรกรสามารถจะดูข้อมูลการทำงานบนโทรศัพย์มือถือ เปิดสวิตช์บนโทรศัพท์มือถือได้สะดวกมากด้วยแพลตฟอร์ม Cloud การจัดการเครือข่ายพลังงานขนาดเล็กในชนบทที่ไม่มีคาร์บอน

ไฮไลต์อีกอันหนึ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมอยากจะเล่าให้ฟังในวันนี้ คือ เทคโนโลยีหญ้าอาหารสัตว์ ที่เขาเรียกว่า จุนเฉ่า ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมสนใจจะทำเรื่องการเกษตร ให้จำตอนนี้ให้ดีๆ อะไรคือ จุนเฉ่า ?


จุนเฉ่า เป็นนวัตกรรมที่นักวิทยาศาสตร์จีนได้คิดค้นขึ้นมา เป็นหญ้าอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพสูง อุดมไปด้วยสารอาหารสีเขียวและรสหวานที่สัตว์ชอบกิน ใครชอบกินบ้าง ? หมู วัว ควาย ม้า แกะ ห่าน กระต่าย และปลากินพืช ปริมาณโปรตีนหยาบของจุนเฉ่านั้นดีกว่าของหญ้าฟางและก้านข้าวโพด ดีกว่าอาหารสัตว์ทั่วไป ปริมาณโปรตีนหยาบของฟางเพียง 3.5 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณโปรตีนหยาบของก้านข้าวโพด 4 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณโปรตีนหยาบของจุนเฉ่า สูงถึง 18.46 เปอร์เซ็นต์


ท่านผู้ชม ตัวอย่างเช่น หญ้าอาหารสัตว์ที่ชื่อจุนเฉ่านี้ ปลูก 1 เอเคอร์ ก็คือ 2 ไร่ครึ่ง เลี้ยงวัวได้ 3-8 ตัว เลี้ยงแกะได้ 25 ตัว ถ้าใช้เลี้ยงหมู โปรตีนสูงของจุนเฉ่าจะทำให้หมูอ้วนเร็วขึ้น และลดต้นทุนการเลี้ยงหมูได้ครึ่งหนึ่ง

เทคโนโลยีจุนเฉ่าตอนนี้เปลี่ยนชีวิตเกษตรกรจีนยุคใหม่นับล้านๆ คน ใครเป็นคนคิด ? ศาสตราจารย์หลิน จ้านซี คิดขึ้นมาเมื่อปี 2523 ที่มณฑลฝูเจี้ยน เขาใช้หญ้าแทนไม้ในการเพาะเชื้อราที่กินได้ สามารถนำไปใช้เพาะปลูกเห็ดที่กินได้


เพราะฉะนั้นแล้ว หญ้าจุนเฉ่า ให้ทั้งมูลค่าทางเศรษฐกิจและระบบนิเวศ กลายเป็นหนึ่งในพืชเกษตรของ ฝูเจี้ยน ที่ช่วยสนับสนุนการเกษตรของมณฑลหนิงเซีย ในประเทศจีน ปัจจุบันทีมงานของโปรเฟสเซอร์คนนี้ได้คัดเลือกหญ้าพันธุ์จุนเฉ่า 48 สายพันธุ์ สามารถผลิตเชื้อราที่รับประทานได้และเป็นยาได้ถึง 56 สายพันธุ์

นอกจากหญ้าจุนเฉ่าจะนำไปปลูกเห็ด สร้างรายได้ร่ำรวยทางเศรษฐกิจแล้ว ยังเป็นหญ้าที่สามารถควบคุมลมและทราย เลี้ยงโคและแกะ แม้แต่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า การผลิตกระดาษ ผู้เชี่ยวชาญชาวจีนส่งเสริมการเพาะปลูกจุนเฉ่าผสมผสานเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและนิเวศวิทยา เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในทะเลทราย ชายหาด แม่น้ำ พื้นที่เค็ม และต่างๆ ในฝูเจี้ยน หนิงเซีย มองโกเลียใน และสถานที่อื่นๆ

หญ้าจุนเฉ่าขจัดความหิวโหย ความยากจน ทำให้คนจนกลายเป็นคนรวยภายในสิ้นปี 2220 จุนเฉ่าเติบโตอย่างรวดเร็ว มีความสามารถในการปรับตัวที่แข็งแกร่ง จัดการได้ง่าย นอกจากนั้นยังเอื้อในการอนุรักษ์น้ำและดิน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับประเทศกำลังพัฒนา การลดความยากจนอย่างรวดเร็วและเพิ่มรายได้ การพัฒนาอย่างยั่งยืน

ท่านผู้ชมครับ จีนได้สร้างศูนย์อุตสาหกรรมนวัตกรรมวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีจุนเฉ่า 1 หรือ 2 แห่ง ในจังหวัดและภูมิภาคตามแนวแม่น้ำเหลือง เขาสร้างกำแพงหญ้าจุนเฉ่ายาว 1 พันกิโลเมตร ตามแนวแม่น้ำเหลือง ในราวปี 2021 พัฒนาอุตสาหกรรมจุนเฉ่าใหม่ให้เป็นแถบอุตสาหกรรมมูลค่าแสนล้านหยวน หรือ 4 แสนล้านบาท ในสิบปี ผมเอารูปกำแพงหญ้าจุนเฉ่ายาว 1 พันกิโลเมตร ให้ดู


ท่านผู้ชม ประเด็นที่ผมพูดในวันนี้ฟังดูแล้วน่าเบื่อ แต่จริงๆ ถ้าท่านผู้ชมตั้งใจฟังแล้ว น่าตื่นเต้นมาก นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตรของจีนนั้น ถ้าเราให้เขามาสอนเรา หรือขอยืมเขามาใช้กับการเกษตรเรา หรือว่าเจรจากับเขาให้เขามาช่วยเรา เพราะว่าประเทศจีนตอนนี้กำลังช่วยประเทศบราซิลอยู่ ซึ่งเป็นสมาบิกใน BRICS เป็นสมาคมอีกสมาคมหนึ่งซึ่งแยกออกจากทางตะวันตก BRICS (B คือ บราซิล R คือ รัสเซีย I คือ อินเดีย C คือ ไชน่า S คือแอฟริกาใต้) และล่าสุด อาร์เจนตินาสมัครเข้ามาแล้ว ประเทศไทยอย่าล่าช้า รีบสมัครเข้าไป แล้วยื่นขอความช่วยเหลือจากจีน ในฐานะสมาชิก BRICS ให้เขาส่งนักวิทยาศาสตร์นวัตกรรมทางการเกษตร เอามาดูการเกษตรไทย เอาหญ้าจุนเฉ่ามาดูว่าจะปลูกในเมืองไทยได้ไหม ไปดูว่าเราสามารถจะทำมันฝรั่งระดับจิ๋วได้ไหม ที่เขาส่งออก

ท่านผู้ชมครับ ประเทศไทยที่อ้างว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ ถึงกับอ้างว่าเป็นครัวของโลก กลับกดราคาสินค้าเกษตรอยู่ตลอด ใช้นโยบายประชานิยม ไม่ว่าจะเป็นการจำนำข้าว จำนำสินค้าเกษตร การประกันราคาสินค้าเกษตร มิหนำซ้ำยังผูกชาวนา เกษตรกร ไว้กับนายทุนที่นายทุนแทบจะผูกขาดปัจจัยการผลิต ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง รถไถ เรื่อยไปจนถึงโรงสี พ่อค้าคนกลาง ล้งผลไม้ต่างๆ นายทุน เกษตรกรรายใหญ่ ไปจนถึงพ่อค้าส่งออก ยังติดกับดักหนี้จากการกู้ยืม ยังต้องสู้กับภัยแล้ง อุทกภัยที่เกิดขึ้นทุกปี ท่านผู้ชมครับ เราไม่เคยคิดเลยหรือที่จะพัฒนา ทำให้ชาวนา เกษตรกร ลืมตาอ้าปากได้จริง นี่ผมเอาตัวอย่างที่พิสูจน์แล้วในประเทศจีน ที่เขาผลิตอาหารเพียงพอสำหรับการบริโภคของเขาถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ประชากรเขาพันกว่าล้านคน ดินของเรา ผมเชื่อว่าดีกว่าดินของประเทศจีนเยอะ อุดมสมบูรณ์ น้ำเราก็มี ของเขามีทั้งลมทั้งทราย ของเราไม่มี ของเราขาดอยู่อย่างเดียว คือการใช้ปัญญา ใช้เทคโนโลยี ใช้นวัตกรรม ใช้งานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ แต่การจะเริ่มเช่นนี้ได้ เราต้องขอความช่วยเหลือจากเขา ไม่ต้องอาย ผมเชื่อว่าเขายินดี


ก่อนจบรายการนี้ผมเอารูปๆ หนึ่งขึ้นให้ท่านผู้ชมดู เป็นรูปป้ายติดว่า "กูชาวนาตัวจริง..! เอาข้าวของกูไปตั้งหลายเดือนแล้ว จะให้เงินกูเมื่อไร .... โกหกมาหลายครั้ง" นี่คือสภาพของเกษตรกรในเมืองไทย ท่านผู้ชม ฟังแล้วเศร้าไหม ผมเห็นแล้วว่าประเทศไทยมันติดอยู่นิดเดียว ติดที่ปัญญาคน ติดที่ผู้นำ เจ้าหน้าที่ ข้าราชการ ไม่ติดกับผลประโยชน์กับนายทุน ถ้าเราสามารถจะพัฒนาการเกษตร เอาแค่หญ้าจุนเฉ่าอย่างเดียว เอาเข้ามาลองดู จะใช้ในเมืองไทยได้ไหม เลี้ยงสัตว์ได้ อย่างที่ผมบอก หญ้าจุนเฉ่าเลี้ยงหมูได้ ลดต้นทุนการเลี้ยงหมูไปได้ 50 เปอร์เซ็นต์ หมูเจริญเติบโตเร็วกว่าปกติ ท่านผู้ชมครับ คลิปนี้อาจจะดูแล้วน่าเบื่อ แต่จริงๆ ไม่น่าเบื่อเลย ฟังไปคิดไปที่ผมพูด ผมไม่รู้จะเอาอะไรให้ท่านแล้ว นอกจากความรู้จริงๆ กระทรวงเกษตรฯ นักวิชาการทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร ต้องดูคลิปนี้ให้ได้ แล้วท่านดูซิว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดูแลเกษตรกรเมืองไทยมาตั้งกี่สิบปีแล้ว เกษตรกรก็จนอยู่เหมือนเดิม ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงเวลาที่ต้องจับปฏิวัติใหม่ทั้งหมด ประเทศไทยเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ เราเป็นเมืองประเทศเกษตรกรรม แต่ว่าชาวนาซวย เรามีผู้ปกครอง ข้าราชการที่โง่เง่า และมีนายทุนที่โลภ เห็นแก่ตัว ท่านผู้ชม เมื่อไรเราจะพลิกชาติบ้านเมืองเราให้มันเจริญก้าวหน้าเสียที

ท่านผู้ชมครับ ผมพูดไปแล้วก็ช้ำใจ ตอนนี้ท่านผู้ชมถ้าชอบ แชร์ไปให้กับบรรดาเพื่อนฝูงท่านที่อยู่ในวงการเกษตร ให้เขาได้เปิดหูเปิดตาบ้าง



ท่านผู้ชมครับ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมรับปากท่านผู้ชมว่า จะเอาเบื้องหน้าเบื้องหลังของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลักๆ แล้ว การอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้าน ก็คือพูดง่ายๆ ว่า มีมติกันชัดเจนแล้วว่า ต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีใครบ้าง แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล กับอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีคนไหนบ้าง ต้องแยกกัน ส.ส ทุกคนพรรคเพื่อไทย ได้รับลายเซ็นมา ว่าเห็นด้วย ลงอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ ส.ส. ทุกคนที่เซ็นไปแล้วไม่มีสิทธิตัดสินใจว่าจะอภิปรายใครบ้าง ผมไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนคิด แต่แน่นอนที่สุด พวก ส.ส. ทั้งหลายที่เซ็นไป ไม่มีการประชุมหรอกว่าใครเห็นด้วยว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เฉลิมชัย ศรีอ่อน ไหนยกมือสิ ไม่มี เป็นการตกลงในกลุ่มคนเล็กๆ หรืออาจจะเป็นการตกลงกับหัวหน้าพรรคคนหนึ่ง หรือกับใครก็ได้ที่อยูเบื้องหลังพรรคนั้น

การอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยที่ไม่เจาะจงว่าเป็นใคร แล้วคนที่ไม่โดนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็คือคนๆ นั้นมีเส้นสายพอสมควร อาจจะต้องจ่ายเงินจ่ายทองให้ ต้องเสียค่าตั๋ว ค่าตั๋วไม่อภิปรายไม่ไว้วางใจ


เสี่ยเฮ้ง สุชาติ ชมกลิ่น เดิมทีไม่มีชื่อ แต่ด้วยเหตุที่ว่า เสี่ยเฮ้ง จ่ายเงินจ่ายทองใครไปหรือเปล่า ผมไม่รู้ หรืออาจจะไม่ได้จ่ายก็ได้ เพราะว่าหลายคนไม่ควรที่จะหลุดไปได้ ก็หลุด อย่างเช่นคุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ข่าวว่า คุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน ถึงกับบอกพรรคเพื่อไทยเลยว่า งวดหน้าถ้าพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์จะร่วมกับพรรคเพื่อไทย จริงหรือไม่จริง ผมไม่รู้ แต่เอาเป็นว่า เสี่ยเฮ้ง ไม่มีชื่อ แต่เผอิญมีคนเกทับเสี่ยเฮ้ง เหมือนเอาเงินไปจ่ายพรรคเพื่อไทย บอกเฮ้ย! คุณรับไปหน่อย รายชื่อเสี่ยเฮ้ง เอาไป สุชาติ ชมกลิ่น ก็เลยสติแตกเลยงานนี้ ออกมาโวยวายลั่น ว่ากันว่า คนที่เอาเงินให้กับพรรคเพื่อไทยนั้นก็คือ ร้อยเอก ธรรมนัส พรมเผ่า จริงไม่จริง ผมไม่รู้ แต่ที่รู้แน่ๆ คือ แน่นอน สองคนนี้ไม่ถูกกันอย่างแรง เพราะฉะนั้นงานนี้ เสี่ยเฮง จะหลุดไปได้อย่างไร ผู้กองธรรมนัส นั่งรออยู่


นี่ก็คือเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ผมชี้ให้เห็น ว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ในลักษณะหนึ่งคือ เป็นช่วงเวลาของการทำมาหากินของพรรคฝ่ายค้าน

ท่านผู้ชมครับ วันนี้ก็เป็นหลายเรื่องที่สนุกสนาน ท่านผู้ชมตั้งใจฟังในสองเรื่องที่ผมขอในอาทิตย์นี้ เรื่องแรกคือเรื่องกัญชา ฟังเหตุฟังผล ฟังข้อมูลของผม เรื่องที่สองคือ เกษตรอัจฉริยะของจีน จะมีประโยชน์กับประเทศไทยมาก อาทิตย์หน้าเราค่อยเจอกันใหม่ สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น