ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เมื่อวันพุธ (22 มิ.ย.) เปิดเผยว่ารัสเซียกำลังปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้า มุ่งหน้าสู่ "พันธมิตรระหว่างประเทศที่มีความน่าเชื่อถือ" อย่างเช่น บราซิล อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ในขณะที่มอสโกกำลังถูกตะวันตกตัดขาดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
"เรากระตือรือร้นง่วนอยู่กับการปรับทิศทางใหม่ในกระแสการค้าและการเชื่อมต่อทางเศรษฐกิจกับต่างชาติของเรา มุ่งหน้าสู่คู่หูระหว่างประเทศที่มีความน่าเชื่อถือ เริ่มด้วยกลุ่มประเทศ BRICS" ปูตินกล่าวปราศรัยผ่านวิดีโอกับผู้เข้าร่วมประชุมซัมมิตทางไกลของกลุ่ม BRICS
กลุ่ม BRICS ที่ถูกอ้างถึงคือกลุ่มประเทศกําลังพัฒนาที่มีการพัฒนาและการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว 5 ชาติ ประกอบด้วย บราซิล อินเดีย จีน แอฟริกาใต้ และรัสเซีย
ปูตินระบุว่า การค้าระหว่างรัสเซียกับบรรดาประเทศในกลุ่ม BRICS เพิ่มขึ้น 38% และแตะระดับ 45,000 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้
"การติดต่อระหว่างแวดวงธุรกิจของรัสเซียกับประชาคมธุรกิจของประเทศต่างๆ ในกลุ่ม BRICS เข้มข้นขึ้น" ปูตินกล่าว "ยกตัวอย่างเช่น กำลังมีการเจรจาเปิดเครือข่ายห้างค้าปลีกของอินเดียในรัสเซีย เช่นเดียวกับสัดส่วนรถยนต์ อุปกรณ์และฮาร์ดแวร์ของจีนที่เพิ่มขึ้นในตลาดของเรา"
นอกจากนี้ รัสเซียยังยกระดับการส่งออกน้ำมันไปยังจีนและอินเดีย ซึ่งกำลังฉวยซื้อน้ำมันมอสโกในราคาถูก โดยจีนนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤษภาคม ทำให้มอสโกกลายเป็นผู้จัดหาน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของปักกิ่ง แซงหน้า ซาอุดีอาระเบีย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ปูติน เผยว่า รัฐสมาชิกของ BRICS อยู่ระหว่างการพัฒนากลไกทางเลือกที่มีความน่าเชื่อถือสำหรับการชำระเงินระหว่างประเทศ ในหนทางใหม่ของการทำธุรกรรมโดยไม่ต้องพึ่งพิงสกุลเงินดอลลาร์หรือยูโร "ภายใต้ความร่วมมือกันพันธมิตร BRICS เรากำลังพัฒนากลไกทางเลือกสำหรับชำระหนี้ระหว่างประเทศที่มีความน่าเชื่อถือ"
ในคำปราศรัย ปูติน กล่าวหาตะวันตก "ละเลยหลักการพื้นฐานของระบบเศรษฐกิจแบบตลาด ในนั้นรวมถึงการค้าเสรี" พร้อมระบุว่า "มันบ่อนทำลายผลประโยชน์ทางธุรกิจในขอบเขตระดับโลก ส่งผลกระทบทางลบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกประเทศ" เขากล่าว
การประชุมทางไกลซัมมิต BRICS ครั้งนี้ ซึ่งมีจีนเป็นเจ้าภาพ ถือเป็นครั้งแรกที่ ปูติน เข้าร่วมในเวทีนานานชาติร่วมกับบรรดาผู้นำชาติเศรษฐกิจหลักๆ ของโลก นับตั้งแต่เขาสั่งกองทัพรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์
มาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงหลายต่อหลายรอบของตะวันตก ได้ตัดขาดรัสเซียออกจากเศรษฐกิจโลกเป็นส่วนใหญ่และผลักให้ประเทศแห่งนี้ดำดิ่งสู่ภาวะถดถอยรุนแรง อย่างไรก็ตาม มอสโกโกยเงินจากการส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางราคาพลังงานที่พุ่งสูง โดยทบวงพลังงานสากล ประมาณการว่ารายได้จากการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย เพิ่มขึ้นสู่ระดับราวๆ 20,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม
(ที่มา : ซีเอ็นเอ็น)