xs
xsm
sm
md
lg

“พระบิดา” อ่วม! เจอแจ้งดำเนินคดีเพิ่มรวม 8 ข้อหาหนัก จัด จนท.คุมปิดตายสำนักเพี้ยนจนคดีเสร็จสิ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ชัยภูมิ - “พระบิดา” เจ้าสำนักเพี้ยนสุดแหวะอ่วม รองผู้ว่าฯ นำ จนท.ลงพื้นที่ตรวจค้นสำนักลัทธิประหลาดรอบที่ 3 รวบรวมพยานหลักฐานแจ้งดำเนินคดีเพิ่มรวม 8 ข้อหาหนัก ทั้งรักษาโรคผิด พ.ร.บ.สาธารณสุข ปลูกผลิตกัญชา มีซากสัตว์ป่าสงวนฯ ทำไม้หวงห้าม พะยูง 40 ท่อน มีไม้หวงห้าม เต็งรัง 11 ท่อนไว้ครอบครองโดยผิด กม. พร้อมติดตั้ง 3 ป้ายใหญ่ จัดกำลัง จนท.คุมเข้มปิดตายพื้นที่สำนักฯ จนกว่าดำเนินคดีเสร็จสิ้น

วันนี้ (14 พ.ค.) ความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ค. นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วย นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา เข้าตรวจสอบสำนักฤาษีปฏิบัติธรรมประหลาด ตั้งอยู่กลางป่าที่สาธารณะ หมู่บ้านกุดแคน หมู่ที่ 2 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ทำการรักษาโรคโดยวิธีพิสดารสุดสะเอียนด้วยการให้ดื่มปัสสาวะ กินอุจจาระ เสมหะ ขี้ไคล เจ้าสำนักฯ พร้อมน้ำหมักสมุนไพรต่างๆ และพบมีศพบรรจุโลงปล่อยให้เน่าและต่อท่อเอาน้ำเหลืองใส่ถังเก็บเอาไว้อ้างรอขึ้นสวรรค์อีกจำนวน 11 ศพ จึงควบคุมตัว นายทวี หนันลา อายุ 74 ปี หรือ “ฤาษีโจเซฟ” ลูกศิษย์เรียกว่า “พระบิดา” ชาว อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น อ้างตัวเป็นเจ้าสำนักฯ และเป็นพระบิดาผู้ยิ่งใหญ่เหนือทุกศาสนา ไปสอบสวนดำเนินคดีที่ สภ.คอนสาร เบื้องต้นแจ้ง 2 ข้อหาและศาลจังหวัดภูเขียวอนุญาตให้ประกันตัว ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นสำนักเพี้ยนอีกรอบพบมีการผลิตสินค้า ผลิตภัณฑ์อาหาร ทั้ง น้ำปลาร้า น้ำพริกปลาร้าแมงดา ข้าวเกรียบ ขนมต่างๆ ภายใต้ชื่อ “แซบหลาย” ส่งออกขาย โดยกระบวนการผลิตไม่ถูกสุขลักษณะ สกปรกเน่าเหม็น อีกเป็นจำนวนมากนั้น


ล่าสุด นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานปศุสัตว์และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าตรวจสอบหาหลักฐานต่างๆ ภายในสำนักปฏิบัติธรรมประหลาดอีกรอบ โดยแยกเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ออกเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในพื้นที่สำนักฯ เพื่อแจ้งความดำนินคดีเพิ่มเติมต่อนายทวี หรือพระบิดา เจ้าสำนักฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิได้เก็บตัวอย่างน้ำหมักต่างๆ บรรจุในโอ่งนับ 100 ใบ พร้อมน้ำในบ่อหมักปลาร้า เพื่อส่งไปตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม


ส่วนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและ อส.ได้ขุดหาหลักฐานต่างๆ และการแปรรูป ครอบครองไม้ห่วงห้าม โดยรอบบริเวณสำนักฯพร้อมอายัดไม้ไปดำเนินคดี นอกจากนั้นยังได้ให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้มาทำการตรวจนับสัตว์ต่างๆ ทั้งที่ผิดกฎหมายและถูกกฎหมาย พร้อมทำบัญชีการตรวจนับ พบว่าภายในวัดยังมีสัตว์อยู่จำนวนมากประกอบด้วย โค (วัว) 11 ตัว กระบือ (ควาย) 5 ตัว กวางพันธุ์รูซา 15 ตัว ไก่ไข่ประมาณ 30 ตัว ไก่พื้นเมืองและไก่งวงอีกจำนวนหนึ่ง ที่กระจายอยู่ตามต้นไม้ในพื้นที่ เป็ดเทศ ประมาณ 15 ตัว สุนัขประมาณ 40 ตัว แมว 20 ตัว กิ้งก่าอีกัวน่า 1 ตัว หนูตะเภา จำนวน 24 ตัว ซึ่งขณะนี้พบว่าสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในสำนักประหลาดของพระบิดากำลังอดอาหารหิวโซ โดยมีชาวบ้านนำอาหารเม็ดมาวางไว้ให้สุนัข ที่เร่ร่อนออกจากสำนักเข้ามาในหมู่บ้านกิน


วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้เข้าแจ้งดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อ นายทวี หนันลา หรือพระบิดา หรือ โจเซฟ เจ้าสำนักลัทธิเพี้ยนดังกล่าว พร้อมพวก รวม 8 ข้อหาหนัก ได้แก่ 1. ข้อหาการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ 2. ข้อหาการรักษาโรคผิด พ.ร.บ.ความสะอาดของสาธารณสุข 3. ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 4. ปลูกผลิตกัญชา 5. มีซากสัตว์ป่าสงวนไว้ในครอบครอง 6. เจาะบ่อบาดาลและใช้น้ำ โดยไม่ได้รับอนุญาต 7. ดำเนินคดีในฐานทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ มาตรา 11,73 (มีไม้พะยูง 40 ท่อนอยู่ในสำนักฯ) และ 8. ฐานมีไม้ท่อนหวงห้าม (มีไม้เต็งรังจำนวน 11 ท่อน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ มาตรา 69


นอกจากนั้นยังให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ทำการจับพิกัดพบว่า นายทวี หรือพระบิดา ได้บุกรุกที่ป่าไม้สาธารณะจำนวน 26 ไร่เศษ กระทำผิดตามประมวลกฎหมายที่ดินซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ยังต้องดูแล ดังนั้น การเข้ายึดถือครอบครองทำประโยชน์โดยไม่ได้ขออนุญาตจากกรมป่าไม้ ถือว่าเป็นการบุกรุกอย่างผิดกฎหมาย จึงมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54, 55 อีกกระทงด้วย


ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าแจ้งความดำเนินการตามกฎหมายต่อนายทวี หรือพระบิดาเพิ่มเติมดังกล่าว ต่อ พ.ต.ท.ธนะสิทธิ์ อุดมพรวรชัย สว.(สอบสวน) สภ.คอนสาร พร้อมทั้งได้สั่งการให้ฝ่ายปกครอง ตำรวจ จัดกำลังในพื้นที่จัดเวรยามเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และบริเวณโดยรอบหมู่บ้านแล้ว เพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาขโมยทรัพย์สินและทำลายหลักฐาน

พร้อมมีการติดประกาศขนาดใหญ่อีกจำนวน 3 ป้าย บริเวณปากทางเข้าสำนักลัทธิดังกล่าว ข้อความระบุว่า 1. พื้นที่กำหนดพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ, 2. ป้ายกำหนดพื้นที่หวงห้ามเข้า-ออก, 3. ป้ายขอให้ออกจากพื้นที่ที่เกิดข้อพิพาท ซึ่งหลังจากนี้ก็มีเจ้าหน้าที่มาคอยอำนวยความสะดวกพร้อมปิดกั้นทางเข้า-ออกอย่างถาวรจนกว่าจะมีการส่งดำเนินคดีเจ้าฤาษีลัทธิประหลาดพร้อมพวก ตามกฎหมายให้เสร็จสิ้นทั้งหมด












กำลังโหลดความคิดเห็น