xs
xsm
sm
md
lg

“รสนา” ยกเหตุทำไม “ดร.อุทัย” หนุนนั่งผู้ว่าฯ กทม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“ดร.อุทัย” เปรียบ กทม. เป็นยานพาหนะ คนขับต้องมีความซื่อสัตย์ โปร่งใส และจะไม่ยอมให้ลูกน้องรถเอาเปรียบผู้โดยสาร ยก รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครเบอร์ 7 เป็น “คนขับ” ที่ไว้ใจได้ มีอิสระในการขับขี่ที่แท้จริง สามารถตัดสินใจหาทางเลือกเดินทางในแนวทางที่ดีกว่า ปลอดภัยกว่า ประหยัดกว่า และไปถึงจุดหมายได้จริง มั่นใจเลือกเบอร์ 7 เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในหลายด้านที่ดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประชาชนมีความสุขมากขึ้นเพราะความเครียดลดน้อยลง

วันที่ 14 พ.ค. น.ส.รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครรับการเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 7 โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก รสนา โตสิตระกูล โดยการยกบทคัดย่อ คำปราศรัยของ ดร.อุทัย ดุลยเกษม ที่ให้เหตุผลเพราะอะไร จึงสนับสนุนให้เลือกคุณรสนา โตสิตระกูลเป็นผู้ว่าฯ กทม. ว่า

ถ้าจะเปรียบว่า กรุงเทพมหานคร เป็นยานพาหนะ หรือรถโดยสารสาธารณะ คนขับรถคันนี้ จะต้องเป็นผู้ที่ซื่อสัตย์ และมีความมุ่งมั่นในการทำหน้าที่ของตนอย่างตรงไปตรงมาและมีความโปร่งใส เช่น ไม่ปล่อยให้ลูกน้องรถเก็บค่าโดยสารโดยไม่ฉีกตั๋วให้ หรือฉีกตั๋วที่ราคาน้อยกว่าเงินที่เรียกเก็บจากผู้โดยสาร และที่สำคัญ คนขับจะต้องไม่ขอให้ปั๊มน้ำมันออกใบเสร็จค่าเติมน้ำมันมากกว่าที่จ่ายจริง หรือไม่ใช่แวะหยุดกลางทางแอบดูดน้ำมันไว้ขาย เป็นต้น

​คุณฟูกูโอกะ เคยบอกกับคุณรสนา ว่า “ถ้าคุณจะเดินทางให้ไปถึงจุดหมายที่ตั้งใจ คุณต้องขึ้นรถให้ถูกคัน” แต่การเลือกรถให้ถูกคันมิได้หมายความเพียงว่าจะเลือกรถคันไหนก็ได้ แต่ต้องเลือกรถที่มีคนขับเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีความรับผิดชอบและมีความสัตย์ซื่อต่อผู้โดยสาร จึงจะถูกต้อง

เมื่อเราพิจารณาถึงบรรดาผู้สมัครทั้งหลายอย่างพินิจพิเคราะห์ เราจะเห็นได้ว่า คุณรสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครเบอร์ 7 เป็น “คนขับ” ที่ไว้ใจได้อย่างแน่นอนว่า มีความซื่อสัตย์ โปร่งใส และจะไม่ยอมให้ลูกน้องรถเอาเปรียบผู้โดยสารอย่างเด็ดขาด

นอกนั้น คุณรสนา โตสิตระกูล รู้ดีเกี่ยวกับศักยภาพและข้อจำกัดตลอดจนปัญหาของ กทม. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณรสนา มีอิสระในการขับขี่รถคันนี้อย่างอิสระอย่างแท้จริง โดยไม่จำเป็นต้องเดินตามทิศทางเดิมอย่างชนิดที่คนปักษ์ใต้เรียกว่า “ช้อนลอยตามเปียก” หรือ “ลอยตามน้ำ” แต่สามารถตัดสินใจหาทางเลือกเดินทางในแนวทางที่ดีกว่า ปลอดภัยกว่า ประหยัดกว่าและไปถึงจุดหมายได้จริง

การบริหารจัดการองค์กรภาครัฐหรือองค์กรภาคเอกชนสมัยใหม่ที่มีระเบียบกฎเกณฑ์และข้อบังคับต่างๆมากมาย อันเนื่องมาจากความไม่ไว้วางใจต่อกันของคนทำงาน ไม่สามารถแก้ปัญหาที่สลับซับซ้อนและมีลักษณะผันผวนอย่างรวดเร็วดังที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันและในอนาคตได้สำเร็จ และที่สำคัญกว่านั้น คือ ผู้บริหารองค์กรเหล่านี้ที่ยึดเอากฎเกณฑ์และระเบียบข้อบังคับต่างๆ เป็นเสมือนมนต์คาถา จะไม่สามารถบริหารจัดการกับการแก้ปัญหาและพัฒนาท้องถิ่นอย่าง กทม.ได้มากนัก ดังเราเห็นอยู่เนืองๆ ว่า เมื่อมีปัญหาที่ยากและซับซ้อนเกิดขึ้นในสังคม ผู้บริหารเหล่านั้น มักจะใช้มาตรการทางกฎหมายมาแก้ปัญหา และที่น่าเศร้ากว่านั้น คือการใช้อำนาจและอาวุธที่ร้ายแรงมาปราบปรามประชาชน

คุณรสนา โตสิตระกูล ตระหนักถึงปัญหานี้อย่างดีจากประสบการณ์ตรงในการทำงาน เพื่อแก้ปัญหาในสังคมของเธอเอง ด้วยเหตุดังนั้น คุณรสนา จึงจะนำเอาความรู้และประสบการณ์ในการบริหารจัดการที่เรียกว่า “การบริหารจัดการทางสังคมและวัฒนธรรม” มาใช้เสริมกับการบริหารจัดการสมัยใหม่

ผมมีความมั่นใจว่า ถ้าผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ในวันที่ ๒๒ พฤษภาคมนี้ ลงคะแนนเลือกคุณรสนา โตสิตระกูล เบอร์ 7 เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในหลายด้านที่ดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประชาชนมีความสุขมากขึ้นเพราะความเครียดลดน้อยลง

และที่สำคัญที่สุด การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นภายใต้การบริหารจัดการของคุณรสนา โตสิตระกูลในฐานะผู้ว่าฯ กทม. เราจะรู้สึกภูมิใจมากเป็นพิเศษ เพราะผลงานที่เกิดขึ้น เป็นผลงานที่เกิดขึ้นจาก การรวมพลังทางความคิด พลังทางสติปัญญา และพลังในการทำงานร่วมกันอย่างเสมอกันอย่างมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ของพวกเราชาว กทม.ทุกคน
กำลังโหลดความคิดเห็น