xs
xsm
sm
md
lg

New China Insights : เมื่อ ‘คลาวด์ฟิตเนส’ กำลังมาแรงในจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


ภาพไลฟ์สดท่าออกกำลังกายของเทรนเนอร์สุดฮอตในจีน นายหลิวเกิงหง กำลังออกกำลังกายกับภรรยา (ภาพจาก Weibo)
โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และธุรกิจระหว่างประเทศ (UIBE) วิทยาลัยนานาชาติ (SIE) กรุงปักกิ่ง

ในช่วงนี้เกิดการระบาดของโควิด-19 ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศจีน เมืองใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งก็อยู่ในช่วงเฝ้าระวังการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด โดยมีการล็อกดาวน์หลายพื้นที่ ประชาชนส่วนใหญ่ทำงานอยู่ที่บ้านเพราะการทำกิจกรรมนอกบ้านถูกจำกัด นอกจากกิจวัตรประจำวันอย่างการกิน การทำงาน และการเรียน การออกกำลังกายภายในบ้านก็กลายเป็นเทรนด์ใหม่ และ “云健身” (อ่านว่า อวิ๋นเจี้ยนเซิน) แปลแบบตรงตัวได้ว่า ‘คลาวด์ฟิตเนส’ ก็กลายเป็นคำยอดฮิตของจีนในช่วง 2 เดือนกว่าที่ผ่านมา ประชาชนจีนจำนวนมากติดตามบล็อกเกอร์ฟิตเนส และการสอนท่าออกกำลังกาย

บล็อกเกอร์ฟิตเนสที่กำลังดังเป็นพลุแตกในจีนขณะนี้ชื่อว่า นายหลิวเกิงหง (刘畊宏) โดยตัวเขาเองเป็นนักแสดง นักร้อง นักแต่งเพลงชาวไต้หวัน และได้ย้ายมาอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ หลิวเกิงหง ยังชอบออกกำลังกายเป็นกิจวัตรจนเกิดความเชี่ยวชาญพิเศษเพิ่มมาอีก ในช่วงปี 2022 นี้เขาได้ผันตัวมาเป็นฟิตเนสเทรนเนอร์ออนไลน์ ไลฟ์สดการเต้นออกกำลังในบ้าน โดยในการไลฟ์ทุกครั้งจะมีคนในครอบครัวเขาเข้ามาร่วมด้วย อย่างเช่น ภรรยาของเขาจะเข้ามาร่วมออกกำลังในไลฟ์สดด้วยตลอด ด้วยบรรยากาศการออกกำลังในบ้านที่สนุกสนาน การเข้าถึงผู้ชมและคนทั่วไป การแนะนำท่าออกกำลังกายที่ไม่ยาก เพลงที่ใช้ประกอบและความเชี่ยวชาญการออกกำลังกาย ทำให้เขาดังเป็นพลุแตกอย่างรวดเร็ว ในปัจจุบันมีผู้ติดตามบัญชีหลิวเกิงหงใน ‘โต่วอิน’ (หรือติกต็อกเวอร์ชันจีน) ทะลุ 62 ล้านคนแล้ว โดยในการไลฟ์สดของเขาแต่ละครั้งมีคนดูหลักล้านคน

ในช่วงของการระบาดโควิด-19 สามปีมานี้ ฟิตเนสหลายแห่งต้องปิดๆ เปิดๆ ตามมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงเวลาต่างๆ ที่รัฐบาลกำหนด ประชาชนจำนวนมากวิตกการติดเชื้อโรคระบาดไม่กล้าไปฟิตเนส เพราะต้องถอดหน้ากากและออกกำลังในพื้นที่ปิดร่วมกับคนแปลกหน้า ดังนั้นการออกกำลังกายในบ้านเป็นอีกทางเลือกที่ดีที่สุดในสถานการณ์ขณะนี้ มาตรการการป้องกันโควิด-19 ในจีนทำให้ในปี 2020 มีฟิตเนสกว่า 30-50% ทั่วประเทศต้องปิดตัวลง (บางที่อาจจะชั่วคราว และบางที่อาจจะถาวร)

จริงๆ แล้ว ‘คลาวด์ฟิตเนส’ มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2020 ขณะนั้นคณะกรรมการโอลิมปิกสากลได้จัดและเปิดกิจกรรมกีฬาออนไลน์ โดยได้ดึงดูดนักกีฬาโอลิมปิก 5,000 คน และเชิญผู้คน 243 ล้านคนจากกว่า 50 ประเทศทั่วโลกมาร่วมกิจกรรมออกกำลังออนไลน์ ข้อมูลสถิติระบุว่าในปี 2021 จำนวนวิดีโอเกี่ยวกับกีฬาและฟิตเนสบนแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นเพิ่มขึ้น 134% เทียบกับปีก่อนหน้า บล็อกเกอร์ฟิตเนสเฉลี่ยมีจำนวนแฟนคลับเพิ่มขึ้น 208% จากปีก่อนหน้า และรายได้จากการไลฟ์สดเพิ่มขึ้นถึง 141% จากปีก่อนหน้า

เมื่อต้องอยู่บ้านเป็นเวลานาน การเคลื่อนไหวร่างกายก็น้อยลง คนส่วนใหญ่จึงมีน้ำหนักมากขึ้น การหาวิธีการออกกำลังอยู่บ้านแบบไม่น่าเบื่อคือการออกกำลังตามบล็อกเกอร์ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของชาวจีนในขณะนี้ ฟิตเนสเทรนเนอร์จีนบางคนได้รับผลกระทบจากการที่ฟิตเนสหลายแห่งปิดตัว ต้องผันตัวเองมาเป็นบล็อกเกอร์ และสอนออกกำลังกายออนไลน์ บางบล็อกเกอร์ที่มีความสามารถในการสอนและการดึงดูดผู้คน ใน 10 วันมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นมากถึง 30 ล้านคน ต้องบอกว่าผู้ติดตามจำนวนขนาดนี้แทบจะเทียบขั้นกับดาราดังในจีนเลยทีเดียว

จากระแสนิยมดังกล่าวในด้านหนึ่งบ่งชี้ว่า คนจีนหันมาสนใจสุขภาพและให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายมากขึ้น การออกกำลังกายในฟิตเนสออฟไลน์ยังมีข้อจำกัดอยู่ตรงที่ราคาสมาชิก สำหรับฟิตเนสระดับดีหน่อยที่จัดสภาพแวดล้อมดี สะอาด และการจ้างผู้ฝึกสอนเทรนเนอร์ส่วนตัวที่มีค่าตัวสูง ไม่ใช่ประชาชนทุกคนจะจับต้องได้ อย่างการจ้างเทรนเนอร์ส่วนตัวในแต่ละคอร์สอาจมีต้นทุนตั้งแต่หลายพันหยวนไปจนถึงหลายหมื่นหยวนเลยทีเดียว ดังนั้น การออกกำลังออนไลน์จึงเป็นตัวเลือกที่ดี เข้าถึงได้ทุกกลุ่มคน ทุกเพศ ทุกวัย แถมยังเป็นกิจกรรมใหม่ในครอบครัวได้อีกด้วย

ไลฟ์สไตล์การออกกำลังกายของคนจีนเปลี่ยนไป คนที่ออกกำลังกายอย่างจริงจังในบ้านมีมากขึ้น บล็อกเกอร์ฟิตเนสก็มีมากขึ้น มีการนำเสนอการออกกำลังหลายประเภทให้ติดตาม การออกกำลังไม่เพียงแต่เสริมความแข็งแรงของร่างกาย ทั้งยังทำให้ผู้คนรู้สึกคลายเครียดและมีความสุขในช่วงล็อกดาวน์ด้วย หลายคนที่มีวินัยในการออกกำลังสามารถลดน้ำหนักได้สำเร็จในช่วงที่กักตัวอยู่บ้าน!

Keep’ แอปออกกำลังและแนะแนวการลดน้ำหนักที่มาแรงสุดของจีน (ภาพจาก Keep official website)
ส่วนแพลตฟอร์มการติดตามบล็อกเกอร์ฟิตเนส หรือการหาชั้นเรียนไลฟ์สดออกกำลังในจีนก็มีอยู่มากมายที่ฮิตฮอตที่สุดคือ ‘แอป KEEP’ ซึ่งก็ได้รับความนิยมมาระยะหนึ่งแล้ว ปัจจุบันเป็นแพลตฟอร์มออกกำลังออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในจีนและในโลกด้วย แพลตฟอร์มนี้มีคอร์สวิดีโอออกกำลังแบบฟรีและแบบเสียเงิน มีการขายอุปกรณ์ออกกำลังกายสมัยใหม่หลายรูปแบบ การแนะนำการลดน้ำหนักและแนะแนวการกินอาหาร มีอาหารเพื่อการลดน้ำหนักขายอีกด้วย

ผู้เขียนขอแนะนำ ‘แอป Keep’ อย่างคร่าวๆ ผู้ก่อตั้งแอปนี้ คือ นายหวางหนิง (王宁) ผู้เกิดปี 1990 ตอนเรียนมหาวิทยาลัยปี 4 เขามีน้ำหนักถึง 90 กิโลกรัม ต่อมาจึงตั้งเป้าหมายการลดน้ำหนักโดยยึดตามหลักวิทยาศาสตร์ ทำให้ไม่กี่เดือนเขาลดน้ำหนักได้ถึง 25 กิโลกรัม นายหวางหนิง ได้แชร์วิธีการลดน้ำหนักในโซเชียล ดึงดูดชาวเน็ตหลายคนและขอวิธีการลดน้ำหนักจากเขา จากจุดนี้เองทำให้เขาริเริ่มการทำแอปออกกำลังและสอนวิธีการลดน้ำหนักแบบมีพี่เลี้ยงอยู่ข้างกาย จึงก่อตั้งแอป Keep ขึ้นมา

แอป Keep ประสบความสำเร็จอย่างสูงในช่วง 3 ปีนี้พร้อมๆ กับการระบาดของโควิด-19 อย่างในปี 2021 แอป Keep มีจำนวนผู้ใช้รายเดือนสูงถึง 34.4 ล้านคน และ 75% ของผู้ใช้อายุเฉลี่ยต่ำกว่า 30 ปี แสดงว่ากลุ่มคนที่ใช้แอปนี้เป็นคนรุ่นใหม่จริงๆ อีกทั้งผู้ใช้ 52.2% อาศัยอยู่ในเมืองชั้นหนึ่งและเมืองชั้นสอง การเติบโตของอุตสาหกรรมออกกำลังของจีนยังไปได้อีกไกล โดยเฉพาะในช่วงและหลังการระบาดของโควิด-19 ผู้คนทุกวัยหันมาสนใจสุขภาพและการออกกำลังมากขึ้น

ในปี 2021 กลุ่มผู้ออกกำลังเป็นประจำในจีนมีจำนวน 300 ล้านคน และคาดการณ์ว่าในอีก 5 ปี หรือปี 2026 กลุ่มผู้คนออกกำลังเป็นประจำจะสูงถึง 420 ล้านคน โดยกลุ่มคนที่ออกกำลังออนไลน์จะมีสัดส่วน 45.5% ของกลุ่มผู้ที่ออกกำลังเป็นประจำทั้งหมด และการใช้จ่ายของคนจีนในด้านการออกกำลังกายต่อปีจะเพิ่มขึ้นไปอีก อย่างในปัจจุบันในเมืองชั้นหนึ่ง การใช้จ่ายโดยเฉลี่ยของประชาชนในด้านการออกกำลังกายต่อคนต่อปีอยู่ที่ประมาณ 2,500 หยวน หรือประมาณ 12,500 บาท

แน่นอนว่าการปะทุและความนิยมของประชาชนที่ออกกำลังกายอยู่บ้านมีมาก การแข่งขันระหว่างบล็อกเกอร์และผู้ค้าออนไลน์ด้านอุตสาหกรรมการออกกำลังก็มีมากขึ้นตามไปด้วย โดยข้อดีและความสะดวกของการออกกำลังออนไลน์มีมากกว่า อย่างเช่นในแอป Keep เทรนเนอร์ดังๆ จะไลฟ์สดตามเวลา ผู้ชมหรือแฟนคลับจะรอเวลาอยู่ที่บ้านออกกำลังพร้อมกัน สร้างความสนุกสนานและแรงบันดาลใจได้ด้วย คนจีนบางคนมองว่าการออกกำลังตามเทรนเนอร์ที่ตัวเองชอบ มีความสนุก ไม่น่าเบื่อ ทำให้อยากติดตามเทรนเนอร์ทุกวัน ออกกำลังตามเวลาไลฟ์สดทุกวัน เป็นต้น

จากข้อมูลเมื่อปี 2021 ของกรมการกีฬาจีนระบุว่า กลุ่มคนที่อายุ 20 ปีขึ้นไปที่ไม่ออกกำลังกาย 30% ให้เหตุผลว่าไม่มีเวลา ที่เหลือ 10.8% บอกว่าไม่มีสถานที่ไปออกกำลังและไม่มีเงินจะไปทำบัตรฟิตเนส ดังนั้น การออกกำลังออนไลน์สามารถตอบโจทย์อุปสรรคการออกกำลังข้างต้นได้ เพราะเป็นการออกกำลังในบ้าน อิสระด้านเวลาและประหยัด ดังนั้นในช่วงหลังๆ นี้รัฐบาลจีนจะให้การสนับสนุนการออกกำลังออนไลน์อย่างเต็มที่

‘คลาวด์ฟิตเนส’ในจีนกำลังโตวันโตคืน แพลตฟอร์มต่างๆ กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเทรนเนอร์ออนไลน์ชื่อดังจำนวนมาก แต่ไม่ว่าจะออนไลน์หรือออฟไลน์อุตสาหกรรมฟิตเนสจีนในอนาคตจะสามารถขยายเส้นทางได้มากขึ้นและเติบโตได้มากขึ้นอีก รูปแบบการออกกำลังในอนาคตอาจจะมีมากขึ้น และจะเป็นหนึ่งอุตสาหกรรมเติบโตใหม่ในจีนที่น่าจับตา
กำลังโหลดความคิดเห็น