วันที่ 29 เม.ย.65 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK”ทางแอปพลิเคชัน Sondhi App พร้อมกับเฟซบุ๊กแฟนเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิและช่องยูทูป Sondhitalk โดยเรื่องที่ได้เล่าในวันนี้ได้แก่
- ปิดฉากคดีแตงโม คดีที่มีแต่ความสงสัย ภาพสะท้อนความ(ไม่)มืออาชีพของตำรวจ
- ชำแหละ Bitkub สินทรัพย์แห่งอนาคต การลงทุนหรือบ่อนการพนัน?
- “พอลลีน พรพิมล กาญจนลักษณ์” ผู้แทนพิเศษ รมว.ต่างประเทศด้านเมียนมา เบื้องหน้าเบื้องหลังคืออะไร
คำต่อคำ SONDHI TALK EP. 135 [29 เม.ย. 65] : Bitkub เชื่อมโลกอนาคต หรือบ่อนยุคดิจิทัล ?
ช่องทางการรับชมรับฟัง "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ SONDHI TALK
แอปพลิเคชัน : SONDHI APP
ระบบ iOS ดาวโหลดได้ที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647.
ระบบ Android ดาวโหลดได้ที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
เฟซบุ๊กแฟนเพจ : คุยทุกเรื่องกับสนธิ
YouTube : Sondhitalk
เว็บไซต์ : www.sondhitalk.com
Podcast หรือ podbean : SONDHI TALK
สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2565 รายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ตอนนี้เป็นตอนที่ 135 เผลอแป๊บเดียวจะครบ 3 ปีแล้ว ไม่เคยขาดเลยแม้แต่อาทิตย์เดียว เพื่อท่านผู้ชม โคตรเหนื่อยเลย เดือดร้อนก็เดือดร้อน
ท่านผู้ชมครับ สัปดาห์ที่แล้วท่านผู้ชมคงพอรับทราบว่า ยูทูบชาแนล ช่อง Sondhi Talk มีคนติดตามประมาณ 1.3 ล้านคน โดนแฮก และลบรายการบางส่วนออกไป แต่ก็สามารถกู้คืนมาได้
ออกอากาศในวันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2565 ท่านผู้ชมครับ จากเหตุการณ์นี้ จริงๆ ผมอยากเชิญชวนท่านผู้ชมรีบๆ ดาวน์โหลด สมัครเป็นสมาชิก Sondhi App เพราะนอกจากจะไม่พลาดชมรายการ Sondhi Talk ทุกวันศุกร์แล้ว ยังมีรายการพิเศษต่างๆ เช่น รายการ World Talk ที่เกาะติดเรื่องราวต่างประเทศอย่างเข้มข้น ซึ่งเรากำลังจะมีการทำสัญญาเพิ่มเติม เราจะทำสัญญาเพิ่มเติมกับบรรดาสำนักข่าวต่างๆ ที่ไม่เคยปรากฏในประเทศไทย เช่น สำนักข่าวรัสเซีย สำนักข่าวจากอิหร่าน สำนักข่าวจากกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง สำนักข่าวโกลบอลไทมส์ของจีน เรามีสัญญากับซินหัวแล้ว แต่เราต้องการจะทำสัญญาให้ครบเครือข่ายเขาทั้งหมด ทีมงานกำลังดำเนินการอยู่
ส่วนท่านผู้ชมที่มีปัญหาในเรื่องแอปฯ หลายคนบอกว่าเข้าแอปฯ ไม่ได้ จ่ายเงินไม่ได้ ท่านผู้ชมแอดไลน์มาเลยที่ @sondhitalk
อีกประการหนึ่้ง ท่านผู้ชมอย่าลืม สำหรับผู้สนใจสินค้าของ "สมุนไพรบ้านพระอาทิตย์" บางรายการสต๊อกเหลือไม่มากแล้ว เพราะวัตถุดิบเริ่มขาดแคลนแล้ว กำลังสั่งเพิ่มมา แต่ต้องใช้เวลาอีกสักพักหนึ่ง ถ้าใครสนใจ สั่งซื้อได้ สินค้าจาก "สมุนไพรบ้านพระอาทิตย์" ที่ Shopee, Lazada รีบๆ หน่อยนะครับ
ล่าสุด ท่านผู้ชมครับ "ยาลม ๓๐๐ จำพวก" ซึ่งหมดไปแล้ว แล้วคงค้างยอดส่งอยู่อีกประมาณจำนวนหนึ่ง ตอนนี้ของมาแล้ว ที่ค้างอยู่ก็หมดไป ท่านผู้ชม แต่มาไม่เยอะ ประมาณ 1 พันกล่อง ท่านผู้ชมที่ต้องการรีบๆ สั่งมานะครับ เพราะว่าเดี๋ยวนี้ระยะเวลาช่วงการผลิตยาวเป็นพิเศษ ยาวกว่าเก่า เพราะต้องหาสมุนไพรเพิ่มเติม ท่านผู้ชมรีบๆ สั่งเข้ามาทาง inbox นะครับ
ท่านผู้ชมครับ วันนี้ อาทิตย์นี้ผมจะพูดเรื่อง Bitkub ซึ่งเป็นกับดักแมลงเม่ายุคดิจิทัล ผมเปรียบ Bitkub ก็คือบ่อนการพนันถั่วโปท้ายซอย และผมเปรียบเทียบเจ้าใหม่ที่จะเข้ามา อย่างเช่น Binance ว่าเป็นบ่อนการพนันที่มาเก๊า และลาสเวกัส ที่มีกฎกติกาที่ตายตัว ไม่เหมือน Bitkub ซึ่งเป็นบ่อนการพนันถั่วโปธรรมดา
อีกเรื่องหนึ่ง เผอิญวันนี้เป็นวันศุกร์ เป็นวันกุดส์สากลประจำปีทั่วโลก ซึ่งเป็นวันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอน ผมจำเป็นต้องพูดเรื่องนี้ เพราะเกี่ยวพันกับความขมขื่น ความถูกกดขี่ข่มเหงของชาวปาเลสไตน์จากอิสราเอล ท่านผู้ชมจำได้ไหมครับ ประชาชนชาวมุสลิมครั้งหนึ่งเขาต้องการแสดงการสนับสนุนการต่อสู้ของปาเลสไตน์ เขาได้เอาเงินมาว่าจ้างและติดป้ายโฆษณาใหญ่เลย ตรงทางลงทางด่วน หลายปีมาแล้ว และก็บอกว่าเราสนับสนุนการต่อสู้ของชาวปาเลสไตน์ ปรากฏว่ากระทรวงการต่างประเทศ โดยคุณดอน ปรมัตถ์วินัย ได้บีบบังคับตำรวจมาให้ถอนป้ายนี้ออกไป เหมือนกับคุณดอน และกระทรวงการต่างประเทศ บีบบังคับผู้อำนวยการช่อง 5 คนเก่า พล.อ.รังษี ให้ถอดข่าวคราวที่มาจากอิหร่าน ที่มาจากรัสเซีย ออกไปหมดเช่นกัน
ถ้าพูดถึงคุณดอน แล้ว ผมก็จะมีเรื่องของคุณดอน ชิวาว่า ผมเผยธาตุแท้กรณีตั้งพอลลีน-พรพิมล ล็อบบี้ยิสต์สายอเมริกัน เป็นผู้แทนพิเศษไทยเรื่องพม่า ผมมีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ไม่เคยมีใครทราบและเปิดเผยมาก่อน
ท่านผู้ชมครับ ก่อนจะเข้ารายการ ผมมีเรื่องน้องแตงโมนิดหนึ่ง เมื่อวันอังคารที่ 26 เมษายน 2565 ไม่กี่วันมานี้ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมคณะ ได้ร่วมแถลงข่าวการสรุปสำนวนการสอบสวนคดีน้องแตงโมเสียชีวิต ณ อาคารเอนกประสงค์ ตำรวจภูธรภาค 1 โดยเปิดคลิปข้อเท็จจริงบางส่วน และเผยไทม์ไลน์การเสียชีวิต พร้อมเผยว่า แตงโม เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ ส่วนแผลนั้นเกิดขึ้นเพราะใบพัดเรือ แล้วก็สั่งฟ้องผู้ต้องหาไป 5-6 ราย ในข้อหาประมาท ข้อหาหลักด้วยนะ ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย บางคนพ่วงข้อหาให้การเท็จ บางคนโดนข้อหาทิ้งของปฏิกูลลงแม่น้ำ
ท่านผู้ชมครับ นับจากวันเกิดเหตุ คือเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ถึงวันแถลงสรุป ตำรวจใช้เวลา 2 เดือน กับ 2 วัน ในการทำคดี ผลออกมาแบบนี้เลยโดนโลกโซเชียล ประชาชนถล่ม ถามหาความน่าเชื่อถือในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ล่าสุด ท่านผู้ชมคงได้ดูแล้วมั้ง ในรายการ "โหนกระแส" คุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาจับข้อพิรุธคดีต่างๆ นานา ซึ่งมองข้ามไม่ได้เลย
ท่านผู้ชมยังจำได้หรือเปล่า 4 มีนาคม 2565 เมื่อเกือบสองเดือนที่แล้ว ผมเคยพูดในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" เรื่องคดีน้องแตงโม ตอนนั้นผมเป็นคนฟันธงคนแรกว่าคดีนี้น่าจะเป็นคดีฆาตกรรมอำพราง ทั้งๆ ที่้ตอนนั้นคุณอัจฉริยะ ยังเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุอยู่เลย ซึ่งรายการในวันนั้น ทางอมรินทร์ทีวี คุณพุทธ เอาข้อมูลผมไปออกเพื่อเผยแพร่ต่อด้วย สังเกตการทำงานของตำรวจ 2 ชุด คดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม มี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ควบคุมการสืบสวนสอบสวน เละตุ้มเป๊ะ ผลออกมาไม่เป็นที่ยอมรับ ไม่ใช่ว่าประชาชนอวดรู้ อวดดี แต่ว่ามันมีข้อมูลที่ตำรวจไม่ได้ตอบ และตอบไม่ได้ตั้งหลายข้อ ถ้ามาเทียบกับคดี นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ซึ่งเป็นคดีใหญ่เหมือนกัน แต่คนดูแลคือผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ชื่อ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ดูแลอยู่นั้น ถือว่าแตกต่างกันมากในเรื่องของความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจกับสังคม
ท่านผู้ชมครับ สำหรับเรื่องของน้องแตงโมนั้น เมื่อมีเวลาในสัปดาห์ต่อๆ ไป ผมจะมาชำแหละเรื่องข้อพิรุธ ข้อสงสัย ที่ตำรวจสร้างขึ้นมาให้ท่านผู้ชมได้ทราบ
ผมเคยพูดเอาไว้ล่วงหน้าแล้วตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ ว่าผมจะหยิบเรื่องของ "บิทคับ" (Bitkub) ตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล พวกเงินดิจิทัล คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) อย่างบิตคอยน์ (Bitcoin) ซึ่งเป็นที่กล่าวขานกันมากในช่วงปีที่ผ่านมา
bitkub เจ้าของผู้ก่อตั้งอายุน้อยมาก เพิ่มจะ 32 ลงโฆษณาโปรโมตตัวเองเต็มที่ ขึ้นป้ายเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด เหนือ ใต้ ออก ตก กรุงเทพฯ ว่า ไปสนับสนุนฟุตบอล สนับสนุนโน่นนี่นั่น ก่อนหน้านั้นมีท่านผู้ชมหลายท่านส่งข้อความและคอมเมนต์มาเป็นจำนวนมากว่า อยากให้ผมอธิบายเรื่องนี้หน่อยว่าคืออะไร และช่วยอธิบายเป็นภาษาที่เข้าใจง่ายว่าที่สื่อมวลชน รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญการเงินทั้งหลาย พยายามอธิบายกัน มิหนำซ้ำท่านผู้ชมบางคนยังกำกับมาด้วยว่า คุณสนธิ ช่วยฟันธงหน่อยว่ากิจการโน้นกิจการนี้ที่เกี่ยวกับเหรียญดิจิทัลในประเทศไทย เห็นขายกิจการกันเป็นหมื่นล้าน มันเป็นอนาคตของโลกจริงหรือ ? หรือแท้จริงแล้วเป็นเพียงกลลวง มายาภาพในการหลอกเงินของคนที่ไม่รู้เรื่องนั้นไป
ท่านผู้ชมครับ ด้วยเหตุนี้ ในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" วันนี้ ผมจะปูพื้นฐานเรื่องนี้ให้ท่านผู้ชมได้รับทราบ ได้เข้าใจในภาษาที่ง่ายๆ รวมถึงเอาข้อมูลที่ลึกๆ หลายๆ อย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้มาอธิบายให้ท่านผู้ชมฟัง ท่านผู้ชมฟังแล้วอยากจะแชร์เรื่องนี้แบ่งปันไปถึงลูกหลาน เด็กรุ่นใหม่ ที่ตอนนี้กำลังเห่อเรื่องนี้มาก ที่บอกว่าเป็นอนาคตของโลก เป็นประชาธิปไตยทางการเงิน แชร์คลิปนี้ไปให้เขาฟัง เขาจะได้ตาสว่างกันจริงๆ ว่าเรื่องนี้เป็นมาและเป็นไปอย่างไร
ท่านผู้ชมครับ เรามาเริ่มกันด้วยคำว่า "คริปโทเคอร์เรนซี" Cryptocurrency ก่อน ว่ามันคืออะไรกันแน่ ? เราต้องแยกย่อยออกมา 2 ตัว ภาษาอังกฤษ คริปโตฯ (Crypto) หมายความการเข้าถึงรหัส อย่างเช่นเวลาเราไปเจองานชิ้นหนึ่ง เราเข้ารหัส เราเรียกว่า เอนคริปต์ (encrypt) ก็คือเข้ารหัสเอาไว้ ถ้าใครไม่ใช้รหัสนี้ก็เข้ามาไม่ได้ เคอร์เรนซี (Currency) หมายถึงสกุลเงิน เพราะฉะนั้น คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptcurrency) จึงแปลความหมายแบบตรงตัวว่า "สกุลเงินที่เข้ารหัส" และก็เป็นเงินดิจิทัลที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นสกุลเงินในอนาคตที่จะเข้ามามีบทบาทแทนเงินกระดาษ เงินเหรียญโลหะ ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้
ซึ่งถ้าหลักการเอามาแทนเงินเหรียญ เงินกระดาษ แล้ว ดิจิทัลหยวน ก็คือว่าที่เมืองจีน ที่พ่อค้าขายผลไม้ริมทาง แล้วคนที่มาซื้อก็ไม่ได้พกเงินสดไปซื้อ ก็แค่เอาโทรศัพท์มือถือที่มีรหัสบัญชีของตัวเอง แล้วคนที่ขายผลไม้ก็ทรานส์เฟอร์รหัสนี้ และราคา เข้าไปในรหัสของคนขายผลไม้ มันก็เป็น คริปโทเคอร์เรนซี เช่นกัน เป็นเงินที่ไม่ได้ใช้กระดาษที่เป็นพันธบัตร
จริงๆ แล้วถ้าถามว่า ที่เมืองจีนมีเงินดิจิทัลหรือยัง ? มีแล้ว มีมานานแล้ว และคนจีนในประเทศจีนเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ไม่ได้ใช้เงินสดแล้ว แต่ทีนี้ คริปโทเคอร์เรนซี หรือ bitkub มันต่างกันอย่างไร ? ผมจะเล่าให้ฟัง
กล่าวง่ายๆ ก็คือ คริปโทเคอร์เรนซี มันเป็นการผสมผสานระหว่างสองศาสตร์ ศาสตร์หนึ่งก็คือ เทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์ ศาสตร์ที่สอง คือ เศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะศาสตร์ทางด้านการเงิน และเศรษฐกิจ ซึ่งพอเอาสองคำนี้มารวมกัน ก็ตั้งศัพท์ขึ้นมาใหม่ ว่า ฟินเทค (FinTech)
ฟินเทค (FinTech) ย่อมาจาก เทคโนโลยีทางการเงิน หรือภาษาอังกฤษเต็มๆ เขาเรียกว่า Financial Technology
เรามาสรุปกันแบบง่ายๆ แล้วกัน คริปโทเคอร์เรนซี คือ เงินดิจิทัลที่เชื่อกันว่าจะมีศักยภาพเข้ามาใช้ทดแทนเงินกระดาษที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ อาจจะมีบทบาทมากขึ้นในยุคที่เงินดอลลาร์สหรัฐ ไม่ได้เป็นเงินสกุลที่ใช้ผูกขาดในการทำการค้าของโลก เพื่อซื้อสินค้าจำเป็นทั้งหลาย อย่างเช่น พลังงาน แก๊ส น้ำมัน เป็นต้น แต่คราวนี้มีประเด็นหนึ่งที่ผมเห็นว่ามีความจำเป็นต้องหยิบยกขึ้นมาพูด คือกรณีของ ตลาดซื้อขายเงินดิจิทัล หรือ Cryptocurrency Exchange เจ้าหนึ่ง ซึ่งกำลังเป็นประเด็นที่น่าถกเถียงในวงกว้าง ว่าแท้ที่จริงแล้วมันเป็นธุรกิจแห่งโลกอนาคต หรือในสายตาของผม มันคือบ่อนการพนันท้ายซอยที่เปิด 24 ชั่วโมง กันแน่ ?
ท่านผู้ชมจำคำพูดนี้นะครับ ผมกำลังตั้งข้อสงสัยว่า คริปโทเคอร์เรนซี bitkub เป็นธุรกิจแห่งอนาคต หรือว่าเป็นเพียงแค่บ่อนการพนันท้ายซอยที่เปิด 24 ชั่วโมง กันแน่ ? เอาล่ะ ผมจะเล่าเรื่อง คริปโทเคอร์เรนซี ให้ฟัง
เมื่อวันที่ 13 เมษายน สงกรานต์ที่ผ่านมา มันมีบริษัทหนึ่งชื่อ กัลฟ์ อินโนวา (Gulf Innova) เป็นบริษัทย่อยของบริษัทยักษ์ใหญ่พลังงานของไทย คือ กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ถือหุ้นอยู่ มีสัดส่วน 100 เปอร์เซ็นต์ ใน กัลฟ์ อินโนวา ได้เข้าไปลงนามในสัญญาผู้ถือหุ้น กับบริษัท Binance Capital Management
Binance Capital Management เป็นบริษัทคริปโทเคอร์เรนซี ซื้อ-ขายคริปโตฯ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เขาไปลงนามเพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในการดำเนินธุรกิจศูนย์ซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย กัลฟ์ อินโนวา ถือหุ้นอยู่ 51 เปอร์เซ็นต์ Binance Capital Management ถือหุ้นอยู่ 49 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่บริษัทร่วมทุนนี้ได้จัดตั้งแล้ว บริษัทร่วมทุนนี้ก็จะดำเนินการขอใบอนุญาตเป็นศูนย์ซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัล และใบอนุญาตอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ท่านผู้ชมครับ ข้อตกลงระหว่าง กัลฟ์ อินโนวา ร่วมทุนกับ Binance Capital Management เป็นดีลที่ถูกจับตามองอย่างมาก เพราะว่า กัลฟ์ เป็นธุรกิจพลังงานยักษ์ใหญ่ของไทย ร่วมมือกับ Binance ซึ่ง Binance เป็นเบอร์หนึ่งของโลกในธุรกิจศูนย์ซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือกระดานเทรดคริปโทเคอร์เรนซี ย่อมไม่ธรรมดา ไม่เหมือนกับ bitkub ซึ่งเบสิกจริงๆ แล้วไม่มีอะไร backup เลยแม้แต่นิดเดียว ก็คือพูดง่ายๆ ว่า ผมกำลังประเมินว่า ข้อแรก bitkub ก็คือบ่อนการพนัน เล่นถั่ว เล่นโป ในซอย ก็ไม่ผิด แต่ว่าบริษัทที่ กัลฟ์ อินโนวา และบริษัท Binance Capital Management ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เข้ามาร่วมทุนกัน อุปมาอุปไมยมันก็คือมาเก๊า หรือลาสเวกัส นั่นเอง ก็คือพูดง่ายๆ ว่า ผมกำลังจะบอกท่านผู้ชมว่า ลักษณะของ bitkub หรือลักษณะของการเล่น คริปโทเคอร์เรนซี มันคือ "การเก็งกำไร"
นี่คือธุรกิจเก็งกำไรที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นบริษัทใหม่ที่ตั้งระหว่างบริษัทย่อยของ กัลฟ์ กับ Binance ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา มันก็คือบ่อนการพนัน แต่บ่อนการพนันอันนี้ต่างกว่าบ่อนการพนัน bitkub ที่คนไทยเคยชินเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะว่าบ่อนการพนันของตัวใหม่นี้ เป็นบ่อนการพนันที่มีกติกา มีระเบียบ มีข้อบังคับชัดเจน เหมือนกับถ้าท่านผู้ชมเข้าไปในลาสเวกัส หรือเข้าไปในมาเก๊า เวลาเล่นในบ่อนการพนัน ท่านเล่น แบล็กแจ๊ก จะชัดเจนเลยว่าผู้เล่นมีสิทธิที่จะชนะเจ้ามือ 52 ต่อ 48 เปอร์เซ็นต์ หรือ 48 เปอร์เซ็นต์ ของคนเล่น มีโอกาส กับ 52 เปอร์เซ็นต์ คือเจ้ามือ แล้วก็มีกติกาหมดทุกอย่าง มีอะไร มีเงินทองที่ backup มีเงินของบริษัท เอ็มจีเอ็ม มีเงินทองของบริษัทที่ไปลงทุนตั้งบ่อนการพนันในลาสเวกัส หรือในมาเก๊า แล้วทำมาเป็นจำนวนมาก หลายปี จนกระทั่งมีความน่าเชื่อถือว่าถ้าท่านผู้ชมเล่นการพนันในบ่อนนั้นแล้วได้เงินมาประมาณ 500 เหรียญสหรัฐ ถ้าท่านเล่นโดยสุจริตแล้ว บ่อนนี้ก็จะเล่นต่อกับท่านโดยสุจริต เพราะว่ากติกาของบ่อนใหญ่ๆ อย่างเช่น มาเก๊า หรือลาสเวกัส หรือแม้กระทั่งมอนติ คาร์โล เป็นกติกาที่ชัดเจน ชัดเจนว่าห้ามเบี้ยวคนเล่น ห้ามมีลูกเล่นกับคนเล่น ห้ามคิดเงินเกินราคากับคนเล่น ก็คือให้ความยุติธรรมกับคนเล่น แต่ไม่ใช่ bitkub เพราะว่าบ่อนแบบนี้มีกติกาตายตัว ถ้าโกงคนเล่น ผิดกติกาปั๊บ เขายึดใบอนุญาตคืนหมดเลย ที่ลาสเวกัสมีอยู่หลายราย เพราะฉะนั้นในเมื่อมันเป็นธุรกิจที่เสี่ยง และเป็นธุรกิจการเก็งกำไร เพราะฉะนั้นแล้ว คริปโทเคอร์เรนซี ในช่วงนี้ ที่มีอยู่ในโลกนี้ ก็คือธุรกิจของการเก็งกำไร มันก็คือบ่อนการพนันอันหนึ่งนี่เอง เพียงแต่ว่าบ่อนการพนันนี้จะถูกตั้งขึ้นมาอย่างถูกต้อง มีกติกาอย่างชัดเจน มีอะไร เงินทองที่ backup เหมือนกับ Binance ซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีเงินเป็นล้านๆ บาท หรือ กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นผู้ถือหุ้น แต่ในขณะซึ่ง bitkub ไม่มีอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว มีแต่การเก็งกำไรทุกวัน แล้วก็มีกำไรเข้ามาต่อเดือน ต่อปี แต่ละปีกำไรเพิ่มขึ้นๆ
เพราะฉะนั้น ข้อแตกต่างระหว่าง Cryptocurrency Exchange ก็คือว่า ศูนย์แลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลของบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือมากกว่า จะให้ความปลอดภัยกับผู้เล่น อย่างน้อยที่สุดมีความยุติธรรมในระดับหนึ่ง ไม่ใช่ bitkub ซึ่ง bitkub นั้นผมเปรียบเทียบแล้วว่า สิ่งที่บริษัท กัลฟ์ อินโนวา ร่วมกับบริษัท Binance กำลังทำก็คือ เปิดบ่อนกาสิโนแบบมาเก๊า หรือแบบลาสเวกัส แต่ bitkub นั้นก็คือบ่อนถั่วโปอยู่ที่ปลายซอย อยู่ในซอย แล้วก็ชักชวนคนที่รู้ไม่จริง/ไม่รู้ เข้ามาเล่น
ท่านผู้ชมครับ ถ้าเราจะพูดถึงเรื่องวงการ Cryptocurrency Exchange ในขณะนี้ ผมเปรียบเทียบ bitkub กับ Binance เรามาเริ่มกันอย่างนี้ดีกว่า เรามาเริ่มที่บริษัท bitkub ก่อน
bitkub เป็นบริษัทที่คนหนุ่มคนหนึ่ง ชื่อ นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา หรือ ท้อป อายุ 32 ปี เป็นคนก่อตั้ง bitkub ปัจจุบันเป็นหนึ่งในแปดบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล จาก ก.ล.ต. นอกจากนั้น ยังให้บริการเป็นที่ปรึกษาการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี บล็อกเชน (Blockchain) ให้เข้ากับองค์กรหรือธุรกิจ
นายจิรายุส เคยอธิบายอย่างภูมิอกภูมิใจว่า คงไม่มีธุรกิจไหนในไทยที่จะเติบโตได้ปีละ 1 พันเปอร์เซ็นต์ แบบ bitkub แม้แต่ในช่วงโควิดที่ธุรกิจโดยรวมซบเซา bitkub นอกจากไม่ได้รับผลกระทบแล้ว ยังอัปเกรดตัวเองขึ้นเป็นบริษัทสตาร์ตอัป (Startup) มีมูลค่าสูงในระดับที่เรียกว่า "ยูนิคอร์น" (Unicorn)
ยูนิคอร์น ก็คือพูดง่ายๆ ว่า บริษัทต้องมีมูลค่าเป็นหมื่นล้านขึ้นไป
แล้วทำไมจึงถือว่าเป็นบริษัทที่เป็นยูนิคอร์น ? เพราะว่ากลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศจะซื้อหุ้น 51 เปอร์เซ็นต์ ราคา 17,850 ล้านบาท ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564
เรามาดูรายได้ของ bitkub กันก่อน
จิรายุส หรือ ท้อป เคยอ้างว่า 2561 รายได้ของเขา กำไรประมาณ 3 ล้านบาท 2562 เพิ่มขึ้น 1 พันเปอร์เซ็นต์ คือ กำไร 30 ล้านบาท 2563 เพิ่มอีก 1 พันเปอร์เซ็นต์ กำไร 300 ล้านบาท 2564 ปีที่แล้ว เฉพาะกุมภาพันธ์ มีรายได้กว่า 400 ล้านบาท
ในปี 2564 เดือนตุลาคม นายจิรายุส ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ทางรายการ Woody ว่าเขามีเงินฝากอยู่ใน bitkub มากกว่า 5 หมื่นล้านบาท และเขาคาดการณ์ว่า สิ้นปี 2564 บริษัทจะมีรายได้รวมกว่า 5 พันล้านบาท จะมีผลกำไร 2 พันล้านบาท ซึ่งส่งผลให้ bitkub มีมูลค่าบริษัทเกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ฯ ก็เลยกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูง หรือที่ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า "ยูนิคอร์น"
ท่านผู้ชมครับ เรามาดู "ซูเปอร์ดีล" (Super Deal) ของธนาคารไทยพาณิชย์ กับ bitkub กันหน่อย คนในวงการหันมามอง bitkub อย่างจริงจังด้วยความประหลาดใจ เขาสงสัยว่า bitkub โตมาได้อย่างไร ? แบบไหน ? ลงทุนเปิดตลาดซื้อ-ขายคริปโตฯ ที่ลงทุนหลักร้อยล้าน หรือไม่เกินพันล้าน ทำไมไทยพาณิชย์จึงยอมจ่ายแพง มันมีมูลค่าสูงอย่างนั้นจริงหรือเปล่า ? อย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่า วันนี้ธนาคารไทยพาณิชย์ต้องรู้ว่า bitkub ก็คือบ่อนการพนันในซอย จะมีมูลค่าสูงถึง 17,800 ล้านบาท ได้อย่างไร
ท่านผู้ชมครับ เรื่องนี้มีเบื้องหลัง ประเด็นต้องวิเคราะห์กันอย่างลึกซึ้ง แต่ก่อนที่เราจะพูดถึง bitkub เราต้องรู้จักคนที่สร้าง bitkub ขึ้นมาก่อน คือ "ท้อป-จิรายุส" ภาพของเขาคือผู้เชี่ยวชาญเรื่อง คริปโทเคอร์เรนซี และเทคโนโลยีบล็อกเชน ต้องรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหนเสียก่อน
จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา เกิดวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2533 ปีนี้อายุ 32 ปี เป็นคนกรุงเทพฯ ครอบครัวทำธุรกิจขายเสื้อผ้าขายส่งประตูน้ำ และส่งออก เป็นเด็กเกเร พอจบ ป.6 แม่ก็เลยดิ้นรนส่งไปเรียนเมืองนอก ไปเรียนโรงเรียนระดับมัธยมที่ประเทศนิวซีแลนด์ หลังจากนั้นก็บินต่อไปเรียนที่อังกฤษในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ในสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ ต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สาขาเศรษฐศาสตร์ ที่อังกฤษ
เมื่อเขาจบการศึกษา ปี 2556 หรือประมาณ 9 ปีที่แล้ว ก็ทำงานเป็นวาณิชธนกิจในสถาบันการเงินที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ทำอยู่ได้ 3 เดือน ลาออก กระโดดไปทำงานที่ซานฟรานซิสโก อเมริกา ได้ 1 เดือนก็ลาออก ก็เลยมาดำเนินแผนธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัล เพราะตอนนั้นพวกคริปโทเคอร์เรนซีในอเมริกากำลังเจริญเติบโต และในเซี่ยงไฮ้ก็กำลังเจริญเติบโต แต่ตอนหลังโดนประเทศจีนห้ามและบล็อกเอาไว้ ก็เลยดับวูบไป
จิรายุส ก็เลยมาเปิดธุรกิจในการแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัลกับเพื่อนชาวฟิลิปปินส์ ในปี 2556 ใช้ชื่อว่า Coins.ph (Coins ก็คือ เหรียญ ph น่าจะเป็นตัวย่อของประเทศฟิลิปปินส์) สามเดือนต่อมาเขาก็เลยเปิดศูนย์แลกเปลี่ยน Coins ก็คือ ใครมีซื้อ coins ชื่อ/ยี่ห้ออะไรก็ตาม เอามาแลกเปลี่ยนกันในไทย
2561 หรือสี่ปีที่แล้ว เขาได้เปิดธุรกิจศูนย์แลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซี ในชื่อของ บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (Bitkub Capital Group Holdings Co., Ltd.) ในประเทศไทยตอนนั้นมันมีคนที่ทำศูนย์แลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีอยู่เจ้าหนึ่ง ชื่อ BX ซึ่งใหญ่มาก พอ bitkub มาเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ก็กลายเป็นจุดจบของ BX ซึ่งคนก็ตั้งข้อสงสัยมาก
ท้อป เป็นเด็กหนุ่มที่พรีเซนต์ตัวเองเก่ง พอๆ กับเป็นนักฉวยโอกาสที่เก่งเช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้ว เห็นจากโอกาสที่จะหาความมั่งคั่งร่ำรวยได้จากกระแสขาขึ้นของ Bitcoin ที่เขามองไม่ผิด สำหรับเมืองไทยนั้นเป็นเรื่องใหม่ที่คนยังไม่รู้ และเขาก็ทำธุรกิจบนความไม่รู้ของคนไทย เพราะฉะนั้นแล้ว ในตอนแรกๆ ของ bitkub เขาตั้งใจโหนกระแส Bitcoin มาทำโฆษณาพีอาร์ให้คนรู้จัก bitkub ด้วยสโลแกน "นึกถึง Bitcoin ให้คิดถึง Bitkub" ดึงคนที่อยากซื้อขาย Bitcoin เข้ามาเป็นลูกค้า เปิดบัญชีกับ bitkub แต่ท่านผู้ชมครับ ธุรกิจไม่ได้เปรี้ยงปร้างมากนัก เพราะคนที่รู้จักสินทรัพย์ดิจิทัลมีน้อยกว่าน้อย ขณะที่นักลงทุนขาใหญ่ของไทยส่วนใหญ่ก็ไปเปิดบัญชีกับกระดานเทรดต่างประเทศ อย่างเช่น ไปเปิดบัญชีกับ ไบแนนซ์ (Binance) คอยน์เบส (Coinbase) หรือแพลตฟอร์มของนักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในไทยเป็นเจ้าแรกๆ อย่างศูนย์การขายคริปโตฯ ที่ชื่อว่า BX มากกว่า
ท่านผู้ชมครับ ในเวลานั้นไม่มีใครให้ความเชื่อมั่นกับ bitkub เท่าไร มองไม่ออกว่าจะเจริญเติบโตไปอย่างไร แต่ความที่กระแส Bitcoin สินทรัพย์ดิจิทัลมาแรง ก็เลยกลายเป็นแหล่งที่ดึงดูดนักลงทุน ทั้งนักธุรกิจ นักการเมือง ชนชั้นสูงในสังคม แม้กระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ก็เริ่มให้ความสนใจ อยากกระโดดเข้ามาร่วมกับเทรนด์ของคริปโตฯ เพราะอะไร ? เพราะมันคือบ่อนการพนันประเภทหนึ่งที่ไม่มีเบสไม่มีอะไรรองรับเลยแม้แต่นิดเดียว ก็คือว่าโยนเข้าไปว่าจะซื้อ Bitcoin นี้ ราคาเท่านี้ มีคนคอยปั่นราคาให้สูงขึ้น คนก็ภูมิอกภูมิใจ ดีอกดีใจว่าตัวเองซื้อมาเท่านี้ กำไร 100 เปอร์เซ็นต์ 200 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 2-3 เดือน หลายๆ คนก็กระโดดเข้าไป
ว่ากันว่า ในช่วงการพรีเซนต์ตัวเองเก่งของท้อป จิรายุส สร้างความเชื่อชุดความคิดว่า สินทรัพย์ดิจิทัล คือโลกอนาคตที่ bitkub จะทำหน้าที่เชื่อมต่อให้ พร้อมกับเป็นนวัตกรรมใหม่ที่นำเสนอ
ท่านผู้ชมครับ ฟังผมสักนิด ถ้าเป็นคนในวงการเทคโนโลยีจะรู้ว่า แพลตฟอร์มอย่าง bitkub หรือเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่เป็นพื้นฐานธุรกิจ bitkub ที่ท้อป จิรายุส คุยแล้วคุยหนา คุยโวโอ้อวด ความจริงแล้วไม่ใช่นวัตกรรมใหม่อะไรเลย บล็อกเชน คือแพลตฟอร์มศูนย์การซื้อขาย ก็มีอยู่แล้ว มิหนำซ้ำ bitkub ที่ว่าเป็นธุรกิจเชื่อมต่ออนาคตนั้น ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันนี้ก็ยังเชื่อมต่อกับระบบดั้งเดิมของธนาคารที่มีอยู่แล้ว เชื่อมต่อกับระบบธนาคาร ไม่ใช่โลกอนาคตใหม่ที่ไหน แต่ความไม่รู้ของคน มันเลยทำให้พอเพียงการโน้มน้าวชักนำกลุ่มคนเข้ามาสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง พูดง่ายๆ ว่าหากแบ็ก แล้วมาร่วมลงทุนกันเลย เพราะว่า ท้อป จิรายุส เริ่มเรียนรู้จากบทเรียนที่เปิดศูนย์แลกเปลี่ยน Coins.ph ตอนนั้นมีหลายหน่วยงานของรัฐแวะเวียนมาตรวจสอบ ด้วยเหตุผลว่ามันเป็นธุรกิจที่ไม่มีหลักเกณฑ์กฎหมายกำหนด คิดจะทำธุรกิจนี้ต้องมีแบ็กที่ดีไปด้วย เป็นเครือข่ายที่จะทำให้เดินหน้าไปอย่างไม่สะดุด
น่าสนใจมาก คนที่สะดุด และทำมานานแล้ว กลับกลายเป็น BX โดยไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่าเจ้าของส่วนแบ่งตลาดที่มากที่สุดในตลาดซื้อขายคริปโตฯ ของไทยนั้น BX เป็นเจ้าของส่วนแบ่งตลาดที่มากที่สุดในตลาดซื้อ-ขายคริปโตฯ ของไทย ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าจู่ๆ มาขอคืนใบอนุญาตให้ ก.ล.ต. ทิ้งปริศนาไว้ว่า อะไรเป็นเหตุผลทำให้นักลงทุนต่างชาติขอถอนตัวออกจากสนามแข่งขัน เป็นเพราะว่ามีใครไปบีบ ใครไปยื่นข้อเสนอ ถ้าหากไม่รับก็จะเหมือนกับหนังมาเฟียหรือไม่ ที่แน่ๆ ก็คือว่า ในที่สุดแล้ว พอ BX ออก bitkub กลายเป็นศูนย์กลางซื้อ-ขายที่ผงาดขึ้นมาแทนที่ BX ลูกค้าของ BX ไหลมาเปิดบัญชีจนกระทั่งระบบรองรับไม่ไหว
ท่านผู้ชมครับ นับแต่นั้นมา bitkub จึงกลายเป็นตลาดซื้อ-ขายคริปโตฯ เจ้าใหญ่ จากการที่ส้มหล่น ลูกค้ามาแบบไม่คาดไม่ฝัน ทำให้การทำธุรกิจทั้งที่ไม่พร้อมก่อปัญหาในตัวระบบหลังบ้าน ท่านผู้ชมรู้ไหมว่า bitkub โดน ก.ล.ต. ลงโทษ คาดโทษกี่ครั้ง ? 9 ครั้ง ครับท่านผู้ชม ผมเอาอินโฟกราฟิกขึ้นให้ดู ค่อยๆ ดู
- ครั้งที่ 1 มกราคม 2564
- ครั้งที่ 2 ช่วงมกราคม - 7 มีนาคม 2564
- ครั้งที่ 3 ช่วง 28 ธันวาคม 2563 - 20 มกราคม 2564
- ครั้งที่ 4 ทำผิดเงื่อนไข ก.ล.ต.
- ครั้งที่ 5 ช่วง 2 มกราคม - 21 มกราคม 2564
- ครั้งที่ 6 ช่วง 6 มกราคม - 28 พฤษภาคม 2564
- ครั้งที่ 7 ช่วง 8 มกราคม - 19 กรกฎาคม 2564
- ครั้งที่ 8 ช่วงที่ 1 มกราคม - 31 กรกฎาคม 2564
- ครั้งที่ 9 ช่วง 5 มกราคม - 24 มกราคม 2564
ท่านผู้ชมครับ ท่านไปดูรายละเอียดมาก็แล้วกัน ผมไม่อ่านล่ะ แต่เอาเป็นว่าผิดเงื่อนไข ก.ล.ต. หมดทุกประการ เพราะฉะนั้นก็พูดง่ายๆ ว่า ทำผิดกฎเกณฑ์ที่ตั้งเอาไว้ ลอดใต้รักแร้ระเบียบข้อบังคับ
ครั้งที่ 9 ที่หนักหนาสาหัสที่สุด เป็นที่ยอมรับกันไม่ได้ คือ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัล ยินยอมให้บุคคลที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการหรือผู้บริหารบริษัท เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการงาน พูดง่ายๆ ว่า การปล่อยให้คนนอกเข้ามามีส่วนบริหารจัดการ ถือว่าเป็นเรื่องที่คนในวงการการเงินที่มีธรรมาภิบาลมองว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ก็คือว่า เหมือนกับการเปิดบ่อนการพนันที่ไม่มีมาตรฐานนั่นเอง
นายจิรายุส หรือ ท้อป ทำการตลาดที่น่าขยะแขยงมาก ผมต้องพูดคำนี้ เพราะเมื่อ bitkub เติบโต นายท้อป จิรายุส ยิ่งมองเห็นโอกาสหารายได้มากขึ้นตาม เขาเลยทำตลาดมากขึ้น ท่านผู้ชมลองดูป้ายโฆษณาที่ตัวเขาเป็นพรีเซนเตอร์ พีอาร์ให้คนจดจำ ให้กลุ่มเป้าหมายอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองเข้ามาเป็นลูกค้า เขาทุ่มโฆษณาในออนไลน์ โซเชียลมีเดีย เข้าไปทำกิจกรรมสปอนเซอร์กับกลุ่มต่างๆ เช่น นางงาม ฟุตบอล เกม อี-สปอร์ต เป็นสปอนเซอร์หลักอย่างเป็นทางการของทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ผมเอารูปขึ้นให้ดูนะครับ "โปรพิเศษ! สมัคร Bitkub" มีแม้กระทั่งทีมไทยแลนด์ ไทยลีก มีหมด
นายจิรายุส กล่าวเสมอว่า bitkub เป็นสตาร์ตอัปที่มีการเจริญเติบโตสูง 1 พันเปอร์เซ็นต์ และเจริญเติบโตขึ้นไปกว่านี้ได้อีก ซึ่งถ้าจะรักษาอัตราการเจริญเติบโตนี้ วิเคราะห์กันว่า จะต้องมีคนมาเปิดบัญชีเทรดกันมากขึ้น ฐานลูกค้ายิ่งขยาย หมายถึงค่าธรรมเนียม ค่าบริการ และรายได้ที่จะมากขึ้น เป้าหมายเขาตั้งไว้อยู่ที่ 7 ล้านบัญชี
ท่านผู้ชมครับ คำถามมีอยู่ว่า แล้วเขาจะทำอย่างไรให้ไปสู่เป้าหมายนั้น ? นี่คือที่มาของการปูพรมการตลาดหนักๆ กับเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ซึ่งตอบรับความเชื่อที่ตัวเองไม่เข้าใจว่า Bitcoin เป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ หากดึงคนกลุ่มนี้เข้ามาเปิดบัญชี จะกลายเป็นฐานลูกค้าใหญ่ วางกลยุทธ์ให้กลุ่มเหล่านี้ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินลงทุน ขอให้เข้ามาเทรดกัน ด้วยการเทรดเหรียญกัน เงื่อนไขง่ายๆ ซึ่งทุเรศมาก "สิบบาทก็ลงทุนได้" นี่มันกะลงไปถึงระดับเด็กมัธยมต้น มัธยมปลาย เลยนะ สิบบาทก็ลงทุนได้
ท่านผู้ชมครับ ผมจะเอาโฆษณาให้ดู "อนาคตการลงทุนที่คุณเลือกได้" ท่านผู้ชมครับ ความคิดและแผนการนี้น่ากลัวมากๆ เพราะในข้อเท็จจริงแล้ว bitkub ก็คือบ่อนการพนันนั่นเอง มันคือการเก็งกำไร มีความเสี่ยงสูง ราคาขึ้น-ลงผันผวนรุนแรงกว่าราคาตลาดหุ้นมากหลายเท่า ที่เขาเรียกว่า "ตลาดซิ่ง" ขึ้นร้อยเปอร์เซ็นต์ได้ ก็พร้อมจะลงร้อยเปอร์เซ็นต์ในวันเดียวกัน ไม่เหมาะกับนักลงทุนที่ไร้ประสบการณ์ นักเรียน นักศึกษา ที่แย่กว่านี้ ผมไม่เข้าใจ โรงเรียนอัสสัมชัญ ทะลึ่งเปิดหลักสูตรสอนคริปโตฯ สำหรับนักเรียนที่สนใจ
BITKUB ACADEMY ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ชวนน้องๆ มาเปิดโลกทำความรู้จักคริปโตฯ และ bitkub บอกว่า ความไม่รู้ ไม่มีประสบการณ์ แก้ไขได้ เป็นเรื่องการให้ความรู้เด็กนักเรียน เยาวชน ผ่านการร่วมมือกับสถาบันการศึกษา ตั้งแต่มัธยมฯ ไปจนถึงอุดมศึกษา ตระเวนจัดอีเวนต์จากโรงเรียนไปถึงมหาวิทยาลัย ท่านผู้ชมครับ นี่มันจะบ้ากันไปแล้วหรือ สถาบันการศึกษาที่ไปร่วมกับ bitkub นี่นะ
คุณกำลังส่งเสริมให้เด็กเล่นการพนัน สิบบาทก็เล่นได้ หลายคนไปขอเงินพ่อแม่ ขอเปิดพอร์ต แล้วพอมองหน้าหลายคน เด็กชั้นมัธยมฯ ยังขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่ ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมเริ่มเห็นอันตรายพวกนี้หรือยัง ผมไม่ได้ห้ามความคิดใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ แต่ในความคิดใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ นั้น มันต้องให้การศึกษาคน แต่ไม่ใช่ให้คนกระโดดลงไปเล่นเพียงเพื่อให้เจ้าของทำเงินทำทอง ได้มีลูกค้ามากๆ แล้วเขาจะได้กำไรจากค่าบริการ เดี๋ยวผมจะมาจับเรื่องค่าบริการให้ดูว่าพวกเราโดนไม้หน้าสามตีกบาล เด็กๆ ไม่รู้เรื่อง แล้วตอนนี้เด็กก็จะบอกว่า เฮ้ย! คุณสนธิ คุณสนธิ นี่ไดโนเสาร์ ไม่รู้เรื่อง Bitcoin มันของใหม่ ใหม่อะไรล่ะ มันก็คือบ่อนการพนันเท่านั้นเอง แล้วติดป้ายยี่ห้อ bitkub นายจิรายุส คือคนเก็บค่าต๋ง เขาไม่ต้องเล่นด้วย ให้คุณมาเล่นกันเยอะๆ อาจจะมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งคอยปั่นราคา 100 เปอร์เซ็นต์ ซื้อเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ ผมรู้จักพนักงานการบินไทย หลายต่อหลายคน ซึ่ง suppose จะต้องมีการศึกษา ลาออกจากการบินไทยได้เงินมาก้อนหนึ่ง เอาบ้านเอาช่องไปขาย แต่ตอนที่มันลงแล้วเจ๊งกันเป็นแถว โดนยึดบ้าน ไม่มีทรัพย์สินเหลือ ไม่มีใครพูดกัน
เพราะฉะนั้นแล้ว การเข้าไปตามที่ต่างๆ ด้วยคอร์สการเรียนการสอนกิจกรรม ซึ่งผมรับไม่ได้เลย โรงเรียนมัธยม อัสสัมชัญ คุณทำได้อย่างไร คนที่เรียนอัสสัมชัญ เป็นลูกพ่อค้า ไม่เสียหายหรอกลูกพ่อค้าน่ะ อยากค้าขาย แต่ถามจริงๆ แล้วคุณไปเที่ยวตั้ง Coursework ในเรื่องของ bitkub คุณรู้หรือเปล่าว่า bitkub ที่เกิดขึ้นที่คุณพูดคุณสอนตามทฤษฎีนั้นมันเป็นระดับ Binance ไม่ใช่ระดับ bitkub ก็คือพูดง่ายๆ ว่า ถ้าคุณจะเล่นคริปโทเคอร์เรนซี คุณกำลังสอนว่านี่คือบ่อนการพนันนะ เข้าไปเถอะ มันเหมือนมาเก๊า เหมือนลาสเวกัส คุณไม่โดนโกงแน่ ทุกอย่างกำไร/ขาดทุนอยู่ที่การเสี่ยงของคุณเอง แต่เผอิญว่า bitkub มันคือบ่อนถั่วโปท้ายซอย มันไม่มีกติกาที่เข้มงวดเหมือนกับบ่อนการพนันในมาเก๊า และลาสเวกัส เพราะฉะนั้นเขาก็จะจ้างคนดัง คนเด่น ที่เด็กๆ เห็นเป็นไอดอล เป็นแฟนคลับ เอาไปกล่อมปลูกฝังความเชื่อและความคิด "หากรู้จักกับ Bitcoin ไม่ต้องห่วงเรื่องไม่มีเงินใช้ สร้างอนาคตจากสินทรัพย์ดิจิทัล" สร้างอย่างไร ? หมายความว่าคนที่เข้าไปเล่นสินทรัพย์ดิจิทัล ถ้ายึดถือตามหลักปรัชญาของนายจิรายุส แล้ว คือไม่มีใครขาดทุนใช่ไหม เข้าไปเล่น ซื้อ แล้วหุ้นก็ขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วก็รวย นี่คือคำพูดว่า "สร้างอนาคตจากสินทรัพย์ดิจิทัลได้" มองแต่ด้านดี ไม่มองด้านมืด เพราะว่าคนที่สิ้นเนื้อประดาตัวก็มีเช่นกัน
นึกถึงเด็กๆ ก็แล้วกัน ขอเงินพ่อแม่ไป ขอเปิดพอร์ต พ่อ หนูกำไรแล้วนะ หนูอยากลง พ่อ เอามาลงหน่อยไหม นี่ไงพ่อดูสิ ตัวเลขอย่างนี้ๆๆ เด็กมันไม่เข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียว พ่อก็ไม่เข้าใจ พ่อก็ว่า มันขึ้นจริงหรือเปล่า เฮ้ย เขาจ่ายเงินมา เอ้า ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเอาเงินไปลงด้วย นี่นายท้อป จิรายุส กำลังชักชวนคนไทยทั้งประเทศมาเข้าบ่อนการพนัน กลยุทธ์ของเขาเริ่มด้วยการสร้างชุมชน หรือ Community สร้างโปรแกรมสำหรับกลุ่มดารา เซเลบ เจ้าของธุรกิจ community ของเด็ก bitkub เขาจะทำผ่านสถาบัน BITKUB ACADEMY ทำหน้าที่เป็นศูนย์บ่มเพาะ ให้ความรู้เรื่องบล็อกเชน และคริปโทเคอร์เรนซี
ท่านผู้ชม มีคนรุ่นใหม่ สวยเชียว ผู้หญิงคนนี้ "โอกาสในการเป็นผู้นำคนรุ่นใหม่เข้าสู่โลกยุคดิจิทัลกำลังจะมาถึง คนนั้นอาจเป็นคุณ" ก็คือ คุณต้องมาเล่นการพนันในบ่อนนี้ คุณถึงจะเป็นคนรุ่นใหม่ แสดงว่าคนรุ่นใหม่มันเป็นคนที่ต้องเล่นการพนันเป็นใช่ไหม ถึงจะเป็นคนรุ่นใหม่ ท่านผู้ชมครับ แล้วมันเป็นนวัตกรรมอะไร ผมไม่เข้าใจ
บล็อกเชน ? บล็อกเชน เขามีมาตั้งนานแล้ว บล็อกเชน มีประโยชน์กับวงการเงิน เพราะสามารถรักษาความปลอดภัยได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีใครแฮกเข้ามาได้ แต่เอาเรื่องคนที่จะต้องเข้ามาเล่น แล้วบอกว่านี่คือนวัตกรรม มันไม่ใช่นวัตกรรม
นอกจากจับมือกับสถานศึกษา เสนอหลักสูตรคริปโตฯ แล้ว เพื่อให้เข้าถึงเป้าหมายเด็กและเยาวชน bitkub ทำทุเรศมาก จ้างบรรดายูทูปเบอร์ อินฟลูเอนเซอร์ ที่บรรดาเด็ก เยาวชน ติดตาม ตระเวนไปร่วมพูดคุยเป็นวิทยากรในเวทีหรืออีเวนต์ที่ bitkub ออกเงินให้จัดงาน นี่มันเป็นภัยต่อชาติมากนะ เป็นภัยนะ ท่านเจ้าหน้าที่ทั้งหลายครับ นี่คือมาตรา 116 นะ 116 ที่คุณเอาไปเล่นงานพวกสามกีบ คุณต้องเอามาเล่นงานนายท้อป จิรายุส ด้วย เพราะชักชวนให้คนทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชน มาเล่นการพนัน แล้วคุณมาพิสูจน์ได้ไหมว่าของคุณไม่ใช่การพนัน คุณมีอะไรที่เป็นพื้นฐานรองรับบ้าง ?
คุณเริ่ม bitkub เมื่อสี่ปีที่แล้ว จาก 0 แล้วตอนนี้คุณกำลังจะเข้ามาหลอกลวงคนทั้งหมด อินฟลูเอนเซอร์ที่ถูกว่าจ้างมีหลายสาขาอาชีพ พูดเก่ง แต่ตัวเองไม่มีความรู้ทางเทคโนโลยี แต่คุณจิรายุส ไม่ขัดข้อง ขอให้แต่ละคนสามารถโน้มน้าวแฟนคลับให้เข้ามาเป็นชุมชน bitkub ก็ถือว่าบรรลุเป้าหมายของเขา เข้ามาปิดจ๊อบด้วยการทำหน้าที่ไม่ต่างจากไลฟ์โค้ช พูดให้แรงบันดาลใจ ให้เยาวชนมีความรู้สึกว่า น้อง อนาคตของประเทศไทย อนาคตของน้อง มันอยู่ที่คริปโทเคอร์เรนซี น้องเข้ามาเถอะ โฆษณาผ่าน TikTok ลงโฆษณาว่า "แค่สิบบาทก็ลงทุนได้" นี่มันจะบ้าหรือ เงินกินขนมของเด็ก 10 บาท ก็ให้เข้ามาเล่น
แล้วที่ตลก อีเวนต์ที่เกิดขึ้นวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนภาคใต้ จัดงานวันการศึกษาเอกชนภาคใต้ ครั้งที่ 6 เซ็นร่วมมือกับ bitkub WORLDTECH ร่วมมือระหว่างกลุ่มทุนของ นายวิชัย ทองแตง
เซ็น MOU เมื่อ 17 มกราคม ให้การสนับสนุน ณ โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ จ.ภูเก็ต นี่เป็นตัวอย่างที่น่าห่วงอย่างยิ่ง การยกว่าให้ความรู้ แต่แอบแฝงดึงเด็กๆ เยาวชน เข้ามาเปิดบัญชีกับตลาดซื้อขายคริปโตฯ ไม่ต่างกว่าการล่อแมลงเม่าเข้ากองไฟ เพราะเด็กแบกรับความเสี่ยงได้ต่ำ จะกลายเป็นปัญหาครอบครัว ผู้ปกครอง ที่ต้องทะเลาะกับลูกหลาน หากการขอเงินจากที่บ้านไปลงทุนแล้วขาดทุน หรือหมดตัว
ธนาคารแห่งประเทศไทย ครับ ก.ล.ต. ครับ ลักษณะการทำของ bitkub ของนายจิรายุส นี้ คือการสร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจในบ้านเราอย่างแท้จริง ประเด็นอยู่ที่ไหน ? ประเด็นคือ bitkub จัดเต็ม ไล่ล่ากลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งไลฟ์โค้ช ซีอีโอรุ่นใหม่หมื่นล้าน ดึงดูดใจเข้ามาเป็นสาวกล่าคริปโตฯ ไปด้วยกัน
แผนการอำมหิตแบบ bitkub นี้ ล้างสมองเด็กให้ไล่ล่าคริปโตฯ ทั้งๆ ที่ประสบการณ์อ่อนด้อย แต่ bitkub กับท้อป จิรายุส กลับร่ำรวยกันขึ้นโดยเจริญเติบโตปีละพันเปอร์เซ็นต์ จากอะไร ? เก็บค่าต๋ง ค่าบริการ กอบโกยรายได้จากตลาดซื้อขาย แต่ความเสี่ยงจากการเทรดคริปโตฯ การเก็งกำไร เป็นเรื่องที่ลูกค้าเด็กๆ ต้องแบกรับกันเอง ความหายนะ ความเสียหาย ที่จะเกิดขึ้นจากความเสี่ยงของนักลงทุนเหล่านี้ เป็นอย่างไร ไม่รับรู้ ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
ท่านผู้ชมครับ เด็กๆ เยาวชนควรจะเป็นอนาคตของชาติของสังคม แต่ทำไมจะต้องมาติดกับดัก bitkub ที่ชักชวนคนให้มาซื้อ-ขายเหรียญดิจิทัล ราคาผันผวนสูง
ท่านผู้ชมครับ ผมไม่เข้าใจ SCBX ธนาคารไทยพาณิชย์ คุณเข้ามาถือหุ้นใหญ่ใน bitkub คุณสบายใจดีหรือ คุณมาซื้อหุ้น 51 เปอร์เซ็นต์ ของบ่อนการพนัน นี่คือบ่อนการพนัน คุณมาเทกโอเวอร์บ่อนการพนันได้อย่างไร แล้วคุณดูพฤติกรรมของพวก bitkub ที่ไปชักชวนเด็ก สิบบาทก็เล่นได้ ผู้ใหญ่ในธนาคารไทยพาณิชย์ คุณมีความสุขอยู่หรือ ท่านประธานธนาคารไทยพาณิชย์ พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ท่านมีความสุขอยู่หรือ ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่มีรัชกาลที่ 10 ถือหุ้นอยู่จำนวนหนึ่ง แล้วคุณมาใช้เงินธนาคารไทยพาณิชย์ มาซื้อบ่อนการพนัน
ท่านผู้ชมครับ อภิมหาดีล ระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์ กับ bitkub เกิดขึ้นอย่างไร ?
2564 พอเข้าสู่ปีที่สาม พอ bitkub เดินมาถึงจุดพีก (Peak) ตรรกะวิธีคิดของท้อป ก็เหมือนวิถี Startup ทั่วๆ ไป เมื่อทำธุรกิจได้ระดับหนึ่ง น่าพอใจ ระดมทุนได้ระดับหนึ่ง ทำกำไรงอกเงยตามเป้า เขาก็พร้อมจะถอนตัวออกจากธุรกิจที่ก่อตั้งมา ไปหาความท้าทายใหม่ ก็เหมือนโชคช่วยท้อป จิรายุส กลุ่มไทยพาณิชย์ หรือ SCB ก็ปรับโครงสร้าง อยากจะหาธุรกิจใหม่ที่เป็นอนาคตเข้ามารองรับธุรกิจดั้งเดิมที่เขามองว่าจะถูก disrupt
ก่อนหน้านั้นมีข่าวว่า จิรายุส พยายามเร่ขายหุ้น bitkub ให้กับนายทุน นักธุรกิจ เศรษฐีหลายคน แต่ทุกคนปฏิเสธที่จะซื้อ เพราะเขาตั้งราคา bitkub ไว้สูงมาก ขณะที่ฝั่งของไทยพาณิชย์ ก็เจรจาติดต่อขอซื้อหุ้นของผู้ประกอบการศูนย์การซื้อ-ขายคริปโตฯ หลายเจ้า แต่ไม่มีใครขายให้เช่นกัน เพราะไทยพาณิชย์ต้องการซื้อในสัดส่วนไม่ใช่เข้าถือหุ้นธรรมดา แต่ต้องเป็นเจ้าของ คือถือหุ้นมากกว่าครึ่งหนึ่ง น่าเสียดาย เพราะวันนี้บริษัท กัลฟ์ อินโนวา ของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ ก็ถือหุ้นอยู่ในตลาดคริปโตฯ ตัวใหม่ ที่มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในโลก คือ ไบแนนซ์ (BINANCE) และ กัลฟ์ อินโนวา ก็ถืออยู่ 51 เปอร์เซ็นต์
เพราะฉะนั้น วันนี้ เมื่อ SCBX ประกาศตัว 2 พฤศจิกายน ว่าจะสร้างความสั่นสะเทือนให้วงการ เรียกว่าเป็น "ซูเปอร์ดีล" ซื้อหุ้น 51 เปอร์เซ็นต์ จากบริษัท บิทคับ ออนไลน์ ถ้าเป็นการซูเปอร์ดีล สั่นสะเทือนวงการแล้ว ขนาด bitkub ซึ่งเป็นบ่อนการพนันอยู่ในท้ายๆ ซอย แล้วกรณีที่ กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ ถือหุ้น 51 เปอร์เซ็นต์ แล้ว Binance ถือ 49 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง Binance เป็นบริษัทที่เทรด Bitcoin ใหญ่ที่สุดในโลก มิเป็นระดับถึงขั้นแผ่นดินไหวเลยหรือ เพราะฉะนั้นแล้ว ไทยพาณิชย์ ก็เลยลงทุนที่จะซื้อไป 17,850 ล้าน ก็คำนวณดูแล้ว ถ้าซื้ออย่างนั้นได้จริง ท้อป จิรายุส จะมีเงินไหลเข้ากระเป๋าส่วนตัวประมาณ 4,260 ล้าน เพราะท้อป ถือหุ้นอยู่ 23.87 เปอร์เซ็นต์
วิเคราะห์กันในตอนนั้นว่า SCBX คือไทยพาณิชย์ และ bitkub จะวินๆ ด้วยกันทั้งคู่ แต่พอมาดูแล้ว ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ สิ้นเดือนเมษายน 2565 ห้าเดือนผ่านไปแล้ว จากวิน-วิน ท่าจะหวิวๆ ทั้งคู่ ทำไมล่ะ ? จนขณะนี้ทราบว่าไทยพาณิชย์ยังไม่ได้ยื่นขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย อย่างเป็นทางการ และยังไม่มีใครทราบว่าการตรวจสอบภายใน ที่เขาเรียกว่า Due diligence ที่เดิมบอกว่าจะเสร็จตั้งแต่ไตรมาส 1 ของปี 65 จะออกมาในแบบไหน
คำถามมีอยู่ว่า ไทยพาณิชย์ จะได้อะไร ? ได้คุ้มกับที่เสียไปไหม ? ยังเป็นคำถามบนความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ความไม่แน่นอนของอนาคตสินทรัพย์ดิจิทัล และความเข้มงวดของการกำกับดูแลของแบงก์ชาติ และสำนักงาน ก.ล.ต.
ข้อที่สอง ประเด็นมีคำถามว่า ทำไมธนาคารไทยพาณิชย์ต้องทุ่มเงินมหาศาลเพื่อซื้อ exchange ที่อนาคตไม่แน่นอน สำหรับผมแล้ว ไม่ได้ซื้อ exchange แต่คือซื้อบ่อนการพนัน ท้ายซอยด้วย ซึ่งก็ต่อเนื่องมาที่คำถามที่สาม ว่า ทำไมไทยพาณิชย์ต้องสนับสนุนตลาดที่มีภาพลักษณ์เป็นบ่อนการพนัน ความผันผวนสูง และที่สำคัญ ท่าน พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ประธานไทยพาณิชย์ หลอกเด็กมาเล่นหุ้น มาเล่นการพนัน
ท่านผู้ชมครับ ผมมีคำถามถึงคณะกรรมการ ตลอดจนผู้บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ ควรหรือเปล่าที่คุณจะหอบเงิน 17,850 ล้านบาท ไปลงทุน Exchange อย่างบิทคับ ทราบมาว่า ดีลนี้ผู้บริหารไทยพาณิชย์หลายคนไม่เห็นด้วย มีแต่ตัวหลัก คือ อาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่อยากจะซื้อ bitkub จริงหรือไม่จริงต้องถามคุณอาทิตย์ คุณจะรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นได้ไหม
ที่น่าสนใจ ท่านผู้ชมครับ ในการประชุมผู้ถือหุ้นผ่านทางออนไลน์ ปัญหาโควิด-19 เลยต้องผ่านออนไลน์ ในวันที่ 4 เมษายน 2565 มีผู้ถือหุ้นตั้งคำถาม เขียนคำถามเกี่ยวกับกรณีเข้าซื้อหุ้น bitkub และความคืบหน้าดีลเข้าไปในระบบ เพื่อหวังจะได้คำตอบจากผู้บริหารธนาคาร ท่านผู้ชมเชื่อไหม ฝ่ายจัดการประชุมตัดคำถามตรงนี้ออก ไม่ตอบเลยแม้แต่คำถามเดียว ท่านผู้ชมครับ นี่คือจุดเริ่มต้นของ bitkub กระทั่งเป็นที่รู้จักของสังคมเมืองไทย หรือแบงก์เดียวในโลก ที่เป็นเจ้าของตลาดเทรดคริปโตฯ
มาดูฝั่งของ Binance เปรียบเทียบกับ bitkub
Binance เป็นเบอร์หนึ่งของโลก ไม่ใช่คนแปลกหน้าของสังคมคนไทย แม้กระทั่ง bitkub จะเคยบอกว่าตัวเองจะเป็นเจ้าตลาดของศูนย์การค้าสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย แต่สำหรับนักลงทุนคริปโตฯ ไทยรู้จัก Binance มาก่อน bitkub ตั้งนานแล้ว มีคนเปิดบัญชีกับ Binance ไม่น้อย ซึ่งเป็นไปได้สูงว่าจำนวนบัญชีและปริมาณซื้อขายในปัจจุบันของคนไทยอาจจะมากกว่า bitkub เสียด้วยซ้ำ
ท่านผู้ชมครับ การเข้ามาของ Binance จะเป็นตัวเปรียบเทียบและเปลี่ยนเกมตลาดคริปโตฯ เมืองไทยอย่างไม่ต้องสงสัย เขามีมาตรฐานที่เป็นแพลตฟอร์มสากลระดับโลก พิสูจน์ตัวเองมาแล้วในระบบการซื้อขาย ความปลอดภัย ระดับของเทคโนโลยีที่พัฒนาอยู่ตลอด นี่จะเป็นจุดที่นักลงทุนสัมผัสเปรียบเทียบได้ เรียกว่า Binance อยู่เหนือ bitkub ทุกประตู
ท่านผู้ชมครับ สิ่งที่สำคัญที่สุดของ Cryptocurrency Exchange หรือแม้กระทั่งตลาดหุ้น คือการซื้อ-ขายที่เป็นธรรม Binance ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของโลก ย่อมต้องได้รับความน่าเชื่อถือจากนักลงทุน หากกระดานเทรดนี้คือการเข้ามาเก็งกำไร มาตรฐานของ Binance เปรียบเทียบได้กับกาสิโนในลาสเวกัส หรือมาเก๊า แต่อย่างที่ผมบอก bitkub ยังเต็มไปด้วยคำถามว่า ไม่ได้ต่างอะไรกับบ่อนการพนันถั่วโปตามตรอกซอย ยิ่งกรณีของเหรียญที่ bitkub ออกมาแล้ว เอามาซื้อ-ขายในตลาดตัวเองด้วยมาตรฐานซื้อ-ขาย ปล่อยให้มีการซื้อ-ขายที่เต็มไปด้วยความผันผวน สร้างราคา ปั่นกันจนน่าตระหนก เกิดอภินิหารที่หาคำอธิบายปัจจัยพื้นฐานไม่ได้ว่าทำไมเหรียญที่มีมูลค่าคำนวณไว้ 30 บาท เพื่อใช้เป็นการลดเปอร์เซ็นต์ค่าธรรมเนียมซื้อ-ขาย ถูกลากขึ้นไปทะลุฟ้าถึง 500 กว่าบาท บวกขึ้นไปเกือบหนึ่งพันแปดร้อยเปอร์เซ็นต์ นี่เป็นเรื่องการสร้างราคาหรือปั่นเหรียญ เล่นเก็งกำไร ทำให้เจ้ามือรวย คนที่ซวยก็คือรายย่อย ประเภทสิบบาทก็เล่นได้ หรือแมลงเม่าบินเข้าสู่กองไฟ ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ก็ตรวจสอบแล้ว อีกไม่นานคงมีคำตอบให้สังคมอย่างแน่นอน
ว่ากันว่า ปรากฏการณ์ปั่น kub coin เย้ยฟ้าท้าดิน ถ้าเปรียบเทียบตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกหุ้นเอง เทรดเอง ลักษณะนี้ย่อมมีการใช้ข้อมูลภายใน การสร้างราคาเพื่อประโยชน์ตัวตลาดเองอย่างไม่ต้องนำสืบ นี่คือบ่อนการพนันที่แท้จริง
bitkub ถูก ก.ล.ต. เข้าไปตรวจสอบและถูกเล่นงานไป 9 ข้อ อย่างที่ผมเล่าให้ฟัง ลักษณะแบบนี้ของ bitkub ย่อมไม่มีให้เห็นสำหรับ Binance มาตรฐานต่างกันฟ้ากับดิน
ท่านผู้ชมครับ เรามาสัมผัสกัน วันนี้ผมไม่ได้เชียร์ Binance หรืออะไร แต่ผมเอาข้อเท็จจริงมาให้ดู ถ้าเปรียบเทียบ Binance กับ bitkut กันชัดๆ จากการสัมผัสของลูกค้าที่เปิดทั้งสองบัญชีใช้บัญชีซื้อ-ขายคริปโตฯ โดยส่วนใหญ่เห็นว่า โดยพื้นฐานเปิดบัญชีกับ Binance สะดวก รวดเร็วกว่า แม้จะปลอดภัยสูงกว่า bitkub แต่ถ้าผ่านการพิสูจน์ตัวตนได้ ใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที แต่ bitkub ใช้เวลา 15-30 วัน การล็อกอินเข้า Binance เข้าได้ง่ายกว่า bitkub ขั้นตอนยุ่งยาก จำนวนเหรียญที่เทรดใน Binance มีมากกว่า bitkub หลายเท่าตัว มาพร้อมกับสภาพคล่องที่แตกต่างกันด้วย ปริมาณการซื้อ-ขายหมุนเวียนที่มากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ หรือเกือบแสนล้านต่อวัน bitkub เทรดเฉลี่ยวันละ 1 ล้านดอลลาร์ ห่างกันถึงสองพันเท่า สภาพคล่องถือว่าน้อยกว่ามาก ถ้าไม่นับรวมถึงเรื่องการโอนเหรียญคริปโตฯ ระหว่างกระดานเทรด หรือระหว่างแพลตฟอร์ม Binance มีความหลากหลายและมีทางเลือกมากกว่า
ท่านผู้ชมครับ อีกอันหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องซ่อนเร้น bitkub ไม่กล้าพูดเรื่องนี้ แต่ผมจะพูดให้ท่านผู้ชมฟัง ค่าธรรมเนียม bitkub แพง ค่าถอนโหด ค่าธรรมเนียมการเทรดลูกค้าที่ต้องจ่าย Binance คือ 0.1 เปอร์เซ็นต์ ถ้าซื้อ-ขายไป-กลับ ก็คือ 0.2 เปอร์เซ็นต์ ถ้าใช้เหรียญ Binance จะมีส่วนลดค่าธรรมเนียมได้ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ bitkub จะคิดค่าธรรมเนียมในการเทรด 0.25 เปอร์เซ็นต์ ไป-กลับ ซื้อ-ขาย 0.5 เปอร์เซ็นต์ ท่านผู้ชมครับ มากกว่าตั้งหลายเท่า ที่สำคัญคือ เมื่อมีการถอน bitkub ถอนหุ้นออกมา ไม่เล่นแล้ว bitkub จะคิดค่าธรรมเนียม 20 บาทต่อรายการ กับนักลงทุน เป็นค่าธรรมเนียมที่มหาโหด คนในวงการเงินมองว่า bitkub เอากำไรเกินควร ทั้งๆ ที่แบงก์คิดค่าธรรมเนียมค่าบริการกับ bitkub เพียง 3 บาทต่อรายการ แต่นี่คิดเขา 20 บาท เอากำไรลูกค้าถึง 17 บาท ไม่ต้องทำอะไรเลย นั่งเฉยๆ แบงก์คิดคุณ 3 บาท แต่คุณไปคิดลูกค้า 20 บาท
ท่านผู้ชมครับ ลำพังแค่นี้ก็รู้แล้วว่า นี่คือบ่อนถั่วโปในซอย แล้วเอามาหลอกลวงชาวบ้านเขา ข้อแตกต่าง bitkub ไม่มี stop-limit ฟังก์ชัน ฟีเจอร์ เครื่องมือในการเลือกการลงทุน Binance มีมากกว่า ใช้งานได้มากกว่า bitkub ไม่ว่าจะเป็นการเทรดเหรียญแบบ SPOT, FUTURE หรือ OPTION หรือเทรดแบบใช้มาร์จิน (margin) ซื้อ-ขายกันเองแบบ P2P รวมทั้งทำการปล่อยกู้รับผลตอบแทน หรือเก็บเหรียญเพื่อรับดอกเบี้ย ที่สำคัญ ระบบการซื้อ-ขายของ bitkub เล่น หรือลงทุนได้แบบ SPOT อย่างเดียว อาจจะเป็นสวรรค์ของนักลงทุน ทำกำไรช่วงขาขึ้น ขาขึ้นเล่น SPOT อย่างเดียว ก็ happy go lucky แต่ในช่วงขาลง ต้องบอกว่าคนที่เล่น bitkub นั้นนรกมาเยือน ผู้ลงทุนมือใหม่มีโอกาสจะขึ้นไปพำนักบนหอคอยงาช้าง แขวนตัวเองอยู่ในราคาสูง ไม่สามารถบริหารจัดการพอร์ตของตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ได้
ท่านผู้ชมครับ ยิ่งถ้าท่านผู้ชมดูรายละเอียดการทำคำสั่งซื้อ-ขายเปรียบเทียบกันระหว่างสองแพลตฟอร์ม bitkub กับ Binance
bitkub มักจะถูกลูกค้าบ่นกรณีไม่สามารถกดซื้อหรือขายในราคาตลาดได้แบบเรียลไทม์บ่อยครั้ง สูญเสียโอกาสได้ราคาที่อยากจะซื้อหรือขาย ในขณะที่ฟีเจอร์ Stop-limit Order หรือเครื่องมือ Cut Loss ที่จะช่วยปกป้องผู้ลงทุนจากความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ระบบสามารถจะแบกรับการขาดทุน ระบบจะเตือนให้ขาย และขายให้ทันที อุปมาอุปไมย คนร่วงจากหน้าผาของ bitkub จะไม่มีกิ่งไม้หรือตาข่ายรองรับ แต่ตลาดซื้อ-ขายที่มีมาตรฐานสากลจะมีกิ่งไม้ให้คนใช้เกาะ หรือตาข่ายรองรับไว้
ท่านผู้ชมครับ ถ้าท่านผู้ชมไม่ได้ติดตามการลงทุนแบบ 24 ชั่วโมง หรือเฝ้ากระดานเทรดได้ทั้งวันทั้งคืน Binance เขามีฟีเจอร์เอาไว้ช่วยนักลงทุน สำหรับ bitkub ให้ใช้เฉพาะ Bitcoin และ Ethereum ในวงการนักลงทุนคริปโตฯ ถือว่าเป็นข้อเสียอย่างร้ายแรงกับนักเทรด
ท่านผู้ชมครับ เกิดโศกนาฏกรรมกับการกอดคอลงเหวของ 3 เหรียญ คือ KUB, JFIN และ SIX ที่ถูกเทขายเหมือนตั้งใจจากเจ้ามือที่ทำปลั๊กหลุดอย่างเป็นปริศนาในช่วงกลางคืนของวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 มีผลกระทบต่อรายย่อยชนิดที่เรียกว่า ไม่สามารถตัดการขาดทุนได้ทันที เหตุการณ์นั้นต้องบันทึกเอาไว้ในบัญชีหนังหมาของ ก.ล.ต. ว่ามีพิรุธในการสร้างราคา ปั่้น และทุบเหรียญของใคร และใครที่ได้ประโยชน์จากรูโหว่ของระบบ bitkub
เพราะฉะนั้น กล่าวโดยสรุป bitkub มาตรฐานยังห่างกว่า Binance มาก นอกจากประวัติการถูกลงโทษจาก ก.ล.ต. ที่อธิบายนัยของการทำธุรกิจของ bitkub ที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าไปค้นประวัติการเข้าตรวจสอบการดำเนินการตามปกติ และการสุ่มตรวจสอบของบริษัท บิทคับ ออนไลน์ ก็จะเห็นระบบของ bitkub ว่าเป็นอย่างไร
ท่านผู้ชมครับ สรุป เงินดิจิทัล หรือ คริปโทเคอร์เรนซี นั้น ก็เหมือนกับทุกสิ่งในโลก เปรียบได้กับดาบสองคม มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ใช้ได้ดีก็จะเกิดประโยชน์กับสังคม ระบบเศรษฐกิจ และประเทศชาติ แต่ถ้าถูกใช้ในทางที่ผิด จะเป็นแหล่งฟอกเงิน หลบเลี่ยงภาษี คอร์รัปชัน หลอกลวง ฉ้อโกง รวมทั้งใช้เป็นเครื่องมือในการทำธุรกิจผิดกฎหมายทั้งหลายทั้งปวง
ท่านผู้ชมครับ ผมมีข้อมูลว่านักการเมืองไทยหลายคนและนายพลสีเทาๆ หลายคน หันมาใช้ช่องทางนี้ในการฟอกเงินคอร์รัปชัน ซื้อเสียงเตรียมเลือกตั้ง แต่ถ้าใช้ความไม่รู้ของคน เช่น กลุ่มนักเรียน นักศึกษา กลุ่มเด็ก เยาวชน ที่ยังไม่ประสีประสากับเล่ห์เหลี่ยมของพ่อค้าหัวหมอ ใช้การตลาดเข้าล่อ ใช้ภาพลักษณ์ ใช้เงินกว้านซื้อสื่อโซเชียล เพื่อดึงคนกลุ่มนี้เข้าสู่ตลาดซื้อคริปโตฯ ก็ต้องยอมรับว่าพ่อค้าหัวหมอต้องหวังที่จะทำกำไรด้วยการเชือดเหยื่อที่ไร้เดียงสาเหล่านี้
ท่านผู้ชมครับ ผมสรุปอย่างนี้ ถามว่าตลาดซื้อ-ขายคริปโตฯ เช่นนี้ อย่าง bitkub จะมีความแตกต่างอะไรจากบ่อนการพนันถั่วโปที่ท้ายซอย ที่เจ้าของอยากทำอะไรก็ทำ ซื้อ-ขายไม่มีความโปร่งใสเป็นธรรม ตลาดคริปโตฯ ในระดับสากลอย่างเช่น Binance เปรียบได้กับบ่อนกาสิโนระดับลาสเวกัส หรือมาเก๊า มีมาตรฐานสูง นักลงทุนมีคุณภาพมากกว่าการกวาดต้อนเด็กหรือเยาวชนเข้าไปเพื่อทำมาหากิน
ท่านผู้ชมครับ ธนาคารไทยพาณิชย์ ครับ พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ประธานธนาคารไทยพาณิชย์ ครับ ผมถามว่าบ่อนพนันถั่วโปท้ายซอยเช่นนี้ ใช่หรือไม่ที่ธนาคารพาณิชย์เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยอย่าง ธนาคารไทยพาณิชย์ ต้องการ
ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมส่วนใหญ่ โดยเฉพาะท่านผู้ชมที่เป็นชาวมุสลิม นับถือศาสนาอิสลาม คงทราบดีว่าช่วงนี้เป็นช่วงของการถือศีลอด ช่วงเทศกาลรอมฎอน โดยในเมืองไทย จุฬาราชมนตรี ประกาศวันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1443 ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา จะไปสิ้นสุดเอาช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2565
ช่วงเดือนเมษายน พฤษภาคม มิถุนายน ปีที่แล้ว ปี 2564 ผมเคยหยิบยกเรื่องความขัดแย้งเกี่ยวกับอิสราเอล และปาเลสไตน์ มาเล่าให้ฟังอย่างละเอียด ท่านผู้ชมย้อนดูได้ในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ตอนที่ 86 วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2564 ตอน "สงครามครูเสดยุคขีปนาวุธ"
ความหน้าไหว้หลังหลอก สองมาตรฐาน ของพวกตะวันตกเป็นอย่างไร ? ขณะที่รัสเซีย ปูติน ถูกกระทืบแล้วกระทืบอีกจากการรุกรานยูเครน โดยพยายามยัดเยียดข้อหาอาชญากรสงคราม ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่ท่านผู้ชมรู้ไหมว่ากรณีการรุกรานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ของชาวยิว เป็นกระบวนการต่อเนื่องมา 70-80 ปีแล้ว หลักฐานปรากฏชัด ละเมิดสิทธิมนุษยชน ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ละเมิดมติของสหประชาชาติมาตลอด ด้วยการหนุนหลังของตะวันตก พวกแองโกล-แซกซัน กรณีอย่างอิสราเอล กับ ปาเลสไตน์ กลับสามารถเชิดหน้าชูตาอยู่ในสังคมโลกได้อย่างสบายใจเฉิบ
ด้วยเหตุนี้ นับตั้งแต่ปี 2522 (ค.ศ. 1979) มีการจัดงานที่เขาเรียกว่า วันกุดส์สากล (INTERNATIONAL QUDS DAY) ประจำปี ขึ้นทั่วโลก ในวันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอน ซึ่งปีนี้ก็คือวันศุกร์นี้ (29 เม.ย.) ซึ่งเป็นเดือนถือศีลอดของชาวมุสลิมในหลายประเทศ เพื่อเป็นการแสดงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์
สำหรับวันกุดส์สากล นั้น สถาปนาขึ้นโดยอิหม่ามโคมัยนี ผู้ปฏิวัติและผู้สถาปนารัฐอิสลามแห่งอิหร่าน เมื่อปี 2522 ประกาศให้ทุกวันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอน เป็นวันกุดส์สากล คืออะไร ? วันแห่งการปลดปล่อย “อัลกุดส์” กิบลัตแรกของมวลมุสลิมจากการยึดครองของยิวไซออนิสต์ โดยเป็นวันแห่งการต่อสู้กับระบบไซออนิสต์ของอิสราเอลที่เข้ามารุกรานและยึดครองแผ่นดินปาเลสไตน์ เรียกร้องสิทธิเสรีภาพคืนให้กับประชาชนผู้ถูกกดขี่ชาวปาเลสไตน์ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มุสลิมทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย ก็ได้น้อมรับคำประกาศดังกล่าว ร่วมออกมาชุมนุมประท้วง จัดงานรำลึกถึงอัลกุดส์ ในทุกๆ วันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอน ของทุกๆ ปี
อัลกุดส์ คือเมืองหลวงเชิงสัญลักษณ์ของอารยธรรมอิสลาม
นอกจากนี้แล้ว วันกุดส์สากล ยังถือว่าเป็นวันแห่งการร่วมแสดงพลังมวลประชาชาติผู้ถูกกดขี่ ต่อกรกับพวกทรราช ชาติมหาอำนาจ และระบอบการปกครองที่อธรรมดำรงอยู่
ท่านผู้ชมครับ ในวันดังกล่าวผู้ประท้วงหลายล้านคน จนถึงมุสลิม และผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม เดินไปบนท้องถนนเพื่อประณามความโหดร้ายของอิสราเอลที่มีต่อชาวปาเลสไตน์
ท่านผู้ชมครับ เมื่อปีที่แล้ว กลางปี กลุ่มชาวมุสลิมในประเทศไทยกลุ่มหนึ่ง ที่เดิมทีจัดกิจกรรมแสดงจุดยืนสนับสนุนปาเลสไตน์ อันเกี่ยวเนื่องกับวันกุดส์สากล พวกเขาเคยแสดงออกถึงจุดยืนในเรื่องนี้ เขารวบรวมเงินก้อนหนึ่งเพื่อไปเช่าป้ายโฆษณาเพื่อแสดงออกในเรื่องนี้ ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ติดธงชาติปาเลสไตน์ พร้อมข้อความภาษาอังกฤษว่า #FreePALESTINE เหมือนกับทุกประเทศในโลกเขาร่วมกัน มองเห็นได้ชัดเจน มองเห็นป้ายนี้จากทางด่วนช่วงจะลงไปถนนสาธุประดิษฐ์ กรุงเทพฯ มุมบนขวาเขาเขียนว่า "เรารักปาเลสไตน์" ส่วนพื้นหลังยังมีภาพของโดมทอง โดมศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกับมัสยิดอัลอักซอ ตั้งอยู่บนเนินเขาเทมเปิลเมานท์ (Temple Mount) ภูเขาแห่งวิหาร เมืองอัลกุดส์ เยรูซาเล็ม
มัสยิดอัลอักซอ เป็นมัสยิดแห่งแรกในการละหมาดของชาวมุสลิม และเป็นมัสยิดศักดิ์สิทธิ์อันดับสามของศาสนาอิสลามและชาวมุสลิมทั่วโลก
ป้ายโฆษณาเมื่อปีที่แล้วก็ถูกกระทรวงการต่างประเทศ หัวหอกคือ นายดอน ปรมัตถ์วินัย กดดันให้ปลดออก เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้อิสราเอลไม่พอใจ อิสราเอล อเมริกา และยุโรปตะวันตก เป็นบิดาบังเกิดเกล้าของนายดอน ปรมัตถ์วินัย เราต้องทำใจเรื่องนี้ไป การกระทำดังกล่าวเป็นฝีมือของหนึ่งในหมาชิวาว่าตัวเดิมของมหาอำนาจตะวันตกที่แฝงอยู่ในคราบของผู้บริหารประเทศไทยครับ
ท่านผู้ชมครับ เมื่อประมาณไม่กี่วันนี้ ผมได้รับเอกสารชิ้นหนึ่งจากผู้หลักผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ สมช. สภาความมั่นคงแห่งชาติ เอกสารชิ้นนั้นเป็นเอกสารคำสั่งของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ 41/2565 คำสั่งนี้เนื้อหาคือ แต่งตั้งผู้แทนพิเศษของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้มาดูแลเรื่องราวเกี่ยวกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เอกสารนี้ลงนามโดย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา
คำสั่งนี้มีรายละเอียด ก็คือว่า เนื่องจากสหภาพเมียนมาเป็นเพื่อนบ้าน มีความสำคัญยิ่งทางยุทธศาสตร์ของประเทศไทย ทั้งภูมิรัฐศาสตร์ การเมืองระหว่างประเทศ เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง ทั้งกำลังมีสถานการณ์พิเศษภายในประเทศซึ่งเกี่ยวโยงกับประเทศไทยหลายมิติ ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารงานของกระทรวงการต่างประเทศ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเมียนมา สามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงแต่งตั้งให้ นางพรพิมล กาญจนลักษณ์ หรือชื่อภาษาอังกฤษ คือพอลลีน ซึ่งปัจจุบันเธอเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คือเป็นอยู่แล้ว ที่ปรึกษาพิเศษ งวดนี้ตั้งให้เป็นผู้แทนพิเศษของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ดูแลด้านสหภาพเมียนมา อีกหนึ่งตำแหน่ง ในคำสั่งมอบหมายให้ขับเคลื่อน ติดตามการดำเนินการของส่วนราชการในกระทรวงการต่างประเทศ ให้เป็นไปตามข้อริเริ่มและนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับเมียนมา สอง ประสานงานที่เกี่ยวข้องกับส่วนราชการภายนอกกระทรวงการต่างประเทศและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง สาม เป็นผู้แทนเข้าร่วมการเจรจา การประชุม และการสัมมนาภายในประเทศและระหว่างประเทศที่เกี่ยวกับเมียนมาเมื่อได้รับคำสั่งเป็นรายกรณี สี่ รายงานผลการปฏิบัติหน้าที่และพัฒนาการที่สำคัญต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศโดยตรง ในคำสั่งนั้นยังบอกว่า ให้ใช้สถานที่ปฏิบัติงานอยู่ภายในสำนักงานรัฐมนตรี และมีเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับนักการทูตชำนาญการพิเศษขึ้นไปอย่างน้อยหนึ่งราย เป็นผู้สนับสนุนภารกิจ หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ ให้มาเป็นลูกน้องของนางพรพิมล กาญจนลักษณ์
ก่อนที่ผมจะเข้าไปสู่ส่วนลึกว่า คุณพรพิมล กาญจนลักษณ์ หรือพอลลีน นั้นคือใคร มาจากไหน วันที่ 25 คำสั่งแต่งตั้งออกมา 26 เมษายน นายดอน ให้สัมภาษณ์ว่า เนื่องจากว่าภารกิจมีมากมาย แล้วนางพรพิมล เป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับเมียนมา เป็นทูตพิเศษดังกล่าวอีกตำแหน่งหนึ่ง เพื่อช่วยหน้าที่แทนเรื่องที่เกี่ยวกับเมียนมาได้ และดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ ต่างประเทศอยู่แล้ว พอผู้สื่อข่าวถามว่าขอบเขตการทำงานตัวแทนพิเศษเป็นอย่างไร นายดอน บอกว่า ไม่ซ้ำซ้อนคาบเกี่ยวกับงานใด เพราะงานกระทรวงการต่างประเทศมีจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ทำไมถึงมาแต่งตั้งตำแหน่งนี้ นายดอน ก็บอกว่า กระทรวงการต่างประเทศไม่เคยแต่งตั้งตำแหน่งนี้มาก่อน แต่ไม่ใช่เรื่องแปลก รัฐมนตรีฯ ต่างประเทศของประเทศอื่นก็แต่งตั้งผู้แทนพิเศษ เช่น สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น ขอย้ำว่า หาคนมาช่วยทำงาน ดูแลเรื่องนี้ ทำให้การทำงานในเรื่องนี้ช่วยกระจายงานกันไปทำ โดยบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งต้องเป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องเมียนมาจริงๆ
ท่านผู้ชมครับ ประเด็นหลักสามประเด็นที่คุณดอน พูดออกมาในการแต่งตั้ง นางพรพิมล กาญจนลักษณ์ หรือ พอลลีน ก็คือว่า หนึ่ง งานกระทรวงการต่างประเทศยุ่งมาก สอง ประเทศเมียนมามีนัยสำคัญกับประเทศไทยมากในเรื่องความมั่นคงทางภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม และประเทศเมียนมากำลังวุ่นวายมาก สาม พรพิมล กาญนลักษณ์ รู้เรื่องเมียนมาดีมาก
ท่านผู้ชมครับ ผมมีเพื่อนฝูงรุ่นน้องหลายคน ที่อยู่ทั้งหน่วยข่าวกรองพิเศษ สมช. สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ ทหาร ผมเชื่อว่าทางกองทัพบก ท่านผู้บัญชาการทหารบก หรือกองทัพเรือ หรือหน่วยงานความมั่นคง มีคนที่รู้เรื่องเมียนมาดีมาก เรื่องพม่า รู้จริงๆ อย่างเช่น ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ พม่าขณะนี้กำลังมีเรื่องวุ่นวาย กำลังปราบปรามกบฏอยู่ข้างใน ทหารพม่ามีข้อตกลงกับทหารไทยว่า ทหารพม่าบอกว่าทหารพม่าจะถอยออกไปจากชายแดน 20 กิโลเมตร จะไม่เข้าใกล้ชายแดนไทยภายใน 20 กิโลเมตร ซึ่งไทยก็โอเค เพราะว่าเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะทำให้ประเทศไทยปลอดโปร่งจากความขัดแย้งต่างๆ แต่ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าพม่าถอยไปแล้ว 20 กิโลเมตร แต่ทุกวันนี้ยังมีระเบิดเกิดขึ้นในฝั่งพม่า แถวแม่สอด ใกล้ๆ พรมแดนเลย เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้นมาเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เห็นว่าทหารพม่ากำลังปราบปรามผู้ก่อการร้าย หรือผู้ที่กบฏ และมีโอกาสที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งหรือการปะทะกันระหว่างทหารไทย กับทหารพม่า ซึ่งมันไม่ใช่ เพราะทหารพม่าเขามีข้อตกลงกับกองทัพบกแล้ว เขาถอยไป 20 กิโลเมตร เพราะฉะนั้นพวกที่ระเบิดอยู่ต่างๆ มันก็คือทหารฝ่ายกบฏ คือพวกกะเหรี่ยงนั่นเอง เพราะว่าพวกม้ง พวกว้า เป็นสายจีน เขาไม่ยุ่ง แต่พวกกะเหรี่ยงต่างๆ ทางตะวันตก ทางภาคเหนือ ทางเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน พวกนี้ส่งพวกมิชชันนารี ก็คืออดีต CIA ทั้งหลาย เข้าไปปลุกปั่นคนที่อยู่ตามพรมแดนตรงนั้น ปลุกปั่นพวกกะเหรี่ยง แล้วอเมริกา ตะวันตก ส่งอาวุธโดยใช้เครื่องบินขนส่งของสหรัฐอเมริกา แล้วมาจอดที่สนามบินเชียงใหม่ ตั้งไม่รู้กี่ลำต่อกี่ลำ แล้วก็ขนอาวุธ แล้วก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ไทยคนไหนขวาง เพราะว่ามีผู้ใหญ่สั่งมาเรียบร้อยแล้ว ไปที่ชายแดนพม่ากับไทย แล้วทิ้งเอาไว้ที่ริมชายแดน ทิ้งเอาไว้เฉยๆ ไม่เกินชั่วโมงก็มีคนขนอาวุธจากชายแดนไทยเข้าไปในพม่า
ท่านผู้ชมจำได้ไหม ผมเคยรายงานให้เห็นว่า มีการส่งอดีตทหาร Ranger ของอเมริกา ซึ่งเขาบอกว่าเกษียณอายุแล้ว แต่จริงๆ นั่นก็คือรับงานพิเศษมาเพื่อเข้าไปฝึกอบรมทหารฝ่ายกบฏในการที่จะต่อสู้กับรัฐบาลทหารพม่า ท่านผู้ชมจำได้ไหมผมเคยออกเรื่องนี้ไปแล้ว ผมมีรูปภาพให้ดูหมด พิสูจน์ชัด
และหลังจากที่ผมออกไปแล้ว ข่าวไอ้หมอนี้ก็เงียบไปเลย รู้ทันว่าผมรู้เรื่อง เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมเริ่มอ่านเกมออกหรือยัง ผมก็เลยต้องตั้งข้อสงสัยว่า เอ๊ะ คุณพรพิมล กาญจนลักษณ์ หรือ พอลลีน เขาเชี่ยวชาญเรื่องพม่ามาตั้งแต่ภพชาติไหน อาจจะชาติก่อนก็ได้มั้งที่เกิดเป็นผู้หญิงพม่า ชาตินี้ก็เลยมีความรู้เรื่องพม่าดี แต่เดี๋ยวผมจะเอาประวัติคุณพรพิมล มาให้ดู แล้วท่านผู้ชมจะเห็นด้วยกับผมเลยว่าเบื้องหลังการแต่งตั้งคุณพรพิมล กาญจนลักษณ์ ครั้งนี้ ไม่ธรรมดา มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างชัดเจน แล้วคอยดู สถานการณ์ในพม่าจะไม่มีวันสงบ และจะมีการรายงานข่าวจากคุณพรพิมล ในฐานะเป็นผู้แทนพิเศษ มาว่าสถานการณ์เกิดขึ้นเพราะทหารพม่าทำเรื่องโน้น ทำอย่างนี้ ทำโน่นทำนี่ แล้วพอมีการประชุมระดับนานาชาติเรื่องเกี่ยวกับพม่า พรพิมล ก็จะเป็นตัวแทนนายดอน ไป
ท่านผู้ชมครับ อีกคำถามหนึ่ง ผมจะถามนายดอน ชิวาว่า หรือ ดอน เฮ้าเลี่ยน ว่า คุณนี่มีปัญหามาก ผมต้องเช็กบิลคุณให้ได้ในชีวิต คุณอย่าเพิ่งรีบตายก่อนผมนะ ให้ผมตายทีหลังคุณ ผมจะได้เอาเรื่องราวของคุณมาฉีกออกให้คนไทยได้เห็นในอนาคต ผมถามคุณดอน คำหนึ่ง ในกระทรวงการต่างประเทศไม่มีเจ้าหน้าที่ที่รู้เรื่องพม่าเลยแม้แต่คนเดียวหรืออย่างไร คุณมีไว้ทำไม กรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กรมเอเชีย คอยดูแลญี่ปุ่น ดูแลจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งก็ต้องคอยดูแลกลุ่มประเทศอาเซียน คอยดูแลเขมร คอยดูแลลาว คอยดูแลเวียดนาม และคอยดูสหภาพเมียนมา หรือพม่านั่นเอง คุณมี ทำไมคุณจะไม่มี แล้วพวกนี้รู้เรื่องเรื่องเมียนมามากกว่าคุณพรพิมล เสียอีก ถ้าคุณพรพิมล จะรู้เรื่องเมียนมา คุณพรพิมล รู้จากใครรู้ไหมท่านผู้ชม ? จะรู้จาก CIA เพราะว่าคุณพรพิมล สนิทสนมกับกระทรวงการต่างประเทศอเมริกามาก เดี๋ยวผมจะเล่าเรื่องต่างๆ เหล่านี้ให้ฟัง
เพราะฉะนั้นแล้ว การเริ่มแบบนี้ขึ้นมาก็ผิดปกติแล้ว และผมจะเรียน คุณดอน ปรมัตถ์วินัย ให้ทราบ คุณอาจจะรู้เรื่องแล้วก็ได้ ในแวดวงความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็น สมช. ไม่ว่าจะเป็นหน่วยข่าวกรองทหาร และไม่ว่าจะเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบความมั่นคงระหว่างไทยกับพม่านั้น เขามีความไม่พอใจคุณอย่างมากๆ คุณเอาเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศระดับผู้ชำนาญการอาวุโส หรือระดับที่เคยเป็นทูตอยู่ต่างประเทศ เอามาทำหน้าที่นี้ เขายังพอกล้ำกลืนได้ แต่นี่คุณไปเอาคนนอกมา คนนอกที่มีประวัติที่้เป็นที่น่าสงสัยว่าคุณพรพิมล เป็นสายให้กับอเมริกาหรือเปล่า ในความเชื่อของผมเป็นสายให้อย่างแน่นอนที่สุด ฝ่ายความมั่นคงเขาไม่พอใจคุณอย่างมากนะ ผมไม่อยากจะเล่าคำพูดที่เขาพูดกับผม เพราะว่ามันหยาบเกินไปที่ผมจะพูดในรายการนี้ เอาเป็นว่า เขาไม่ได้มองคุณอะไรที่ดีเลย หลายคนพูดถึงท่านว่า นี่คือขบวนการขายชาติ ขบวนการเป็นเครื่องมือให้ตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอเมริกา และอังกฤษ ที่จะทำให้ประเทศไทยวุ่นวาย แล้วก็จะได้เป็นช่องทางที่จะให้ต่างชาติเข้ามาในประเทศไทย
ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมลองคิดดู คนในกระทรวงการต่างประเทศ ผมรู้ ไม่ใช่ผมไม่รู้ ส่วนใหญ่แล้วเขาอึดอัดใจกับคุณมาก คุณดอน พรพิมล กาญจนลักษณ์ คุณแต่งตั้งเขาเข้ามาประมาณวันที่ 25 สิงหาคม 2562 ท่านผู้ชมจำได้หรือเปล่า อีกสามเดือนให้หลัง สิงหาคม กันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ท่านผู้ชมจำได้ไหม นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยืนถือแถลงการณ์ยิ้ม จับมือกับนายเอสเปอร์ รัฐมนตรีฯ กลาโหมของอเมริกายุคประธานาธิบดีทรัมป์ ตกลง ยิ้มแย้มแจ่มใสในเรื่องข้อตกลงกันในเรื่องของการที่จะให้ความร่วมมือ เป็นพันธมิตรกันในเรื่องความมั่นคง
ซึ่งภาพนั้นสถานทูตอเมริกาเป็นคนปล่อยออกมาเอง และจากวันนั้น ที่ผมเอาเรื่องนี้มาเปิด มาจนถึงวันนี้ ไม่มีใครในรัฐบาลจะออกมาชี้แจงสักคำเลยว่าข้อตกลงที่คุณเซ็นกันนั้นคืออะไรกันแน่ แล้วข้อตกลงนี้ทำเดือนพฤศจิกายน ท่านผู้ชมครับ สามเดือนหลังจากที่นายดอน ชิวาว่า แต่งตั้งพรพิมล กาญจนลักษณ์ ขึ้นมาเป็นที่ปรึกษาพิเศษ ไม่ใช่ที่ปรึกษารัฐมนตรีอย่างเดียว "ที่ปรึกษาพิเศษ" พอตั้งปั๊บ อีกสามเดือนแถลงการณ์ออกแล้ว
คำถามมีอยู่ว่า ได้มีการวางแผนกันล่วงหน้าหรือเปล่าที่จะเอาคุณพรพิมล เข้ามานั่ง แล้วนั่งที่ไหนไม่นั่ง มานั่งที่กระทรวงการต่างประเทศ ทำหน้าที่แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
คุณดอน ถ้าคุณยุ่งมากนัก งานประเทศไทยยุ่งมากนัก ซึ่งไม่มีอะไรยุ่งเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าคุณใช้หลักการปัญจศีล ก็คือว่าคุณไม่เข้าข้างใคร แต่คุณพยายามยืนข้างอเมริกา แล้วก็ต่อต้านจีน แต่พอถูกจับได้ คุณก็บอกว่าไม่มีอะไร ผมเป็นอิสระ นโยบายเป็นอิสระ แล้วพอรัสเซียทะเลาะกับยูเครนขึ้นมา คุณก็เอาประเทศไทยเข้าไปร่วมประณามรัสเซียเขาด้วย แต่ถ้าคุณถือหลักปัญจศีลเหมือนอย่างอินเดีย คือคุณไม่เข้าข้างใคร คุณไม่ประณามใครทั้งสิ้น คุณงดออกเสียง ประเทศไทยจะยุ่งได้อย่างไร ประเทศไทยยุ่งเพราะคุณเป็นคนเป็นเครื่องมือทำให้ประเทศไทยยุ่ง คุณดอน คุณจำคำพูดผมไว้นะ จำคำพูดผมเอาไว้ แล้ววันหนึ่งความจริงจะเปิดออกมา ไม่ต้องวันหนึ่งที่ความจริงจะเปิดหรอก เร็วๆ นี้ก็สามารถจะเปิดได้แล้ว เปิดได้ตรงไหนรู้ไหมท่านผู้ชม ? วันที่ 12 และ 13 พฤษภาคม ที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย กระดี๊กระด๊า เป็นชาติแรกในอาเซียน โคตรเฮ้าเลี่ยนเลย รีบแจ้งเลยว่ารัฐมนตรีฯ ต่างประเทศ ดอน ปรมัตถ์วินัย และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไปประชุมกับ โจ ไบเดน ที่วอชิงตัน วันที่ 12 และ 13 พฤษภาคม
ท่านผู้ชมรู้ไหม เพื่อเป็นข้อมูลอันหนึ่ง จนวันนี้จะเข้าเดือนพฤษภาคมแล้ว ตั้งแต่คุณดอน ปรมัตถ์วินัย ชิวาว่าของอเมริกา กระดี๊กระด๊า เฮ้าเลี่ยนบอกอเมริกาว่าไปแน่นอน นายกฯ ไปแน่นอน ผมไม่เคยเห็นประเทศไหนในกลุ่มอาเซียนออกมาพูดเลยว่าผมจะไปด้วยๆ ทุกคนเงียบกริบ สิงคโปร์ซึ่งเคยสนิทสนมกับอเมริกา ก็ยังเงียบ ฮุน เซน เป็นประธานอาเซียน ก็เงียบ ลาวก็เงียบ มาเลเซียก็เงียบ อินโดนีเซียก็เงียบ เวียดนามก็เงียบ นี่ผมเอาเฉพาะประเทศหลักๆ นะ ผมไม่ได้สนใจบรูไน ไม่ได้สนใจติมอร์อะไรทั้งสิ้น ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง มีคุณดอน มาเต้นแร้งเต้นกา พูดจาปลาบปลื้ม น้ำหูน้ำตาไหล จะได้ไปเจอพ่อตัวเองที่วอชิงตัน ดี.ซี. ท่านผู้ชมครับ เดี๋ยวมีเรื่องนี้ตอนจบ เดี๋ยวผมจะพูดให้ฟัง
เอาล่ะ ท่านผู้ชมครับ การตั้งคุณพอลลีน พรพิมล ไม่ใช่เรื่องธรรมดา อย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่า คุณพอลลี รู้เรื่องเมียนมาจริงหรือเปล่า คุณพอลลีน ยังรู้เรื่องเมียนมาได้น้อยกว่าผมเลย ขอประทานโทษ อย่าหาว่าผมเสือกเลย เรื่องที่ผมเรียนให้ทราบ ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศเขาอึดอัดใจมาก ท่านผู้ชมครับ เราเสียภาษีอากรให้ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ถามว่าข้าราชการในกรมอาเซียน ไม่มีเลยหรือที่จะเข้าใจเรื่องพม่าได้เท่าคุณพรพิมล และที่สำคัญ คุณดอน คุณบอกผมหน่อยสิว่า คุณพรพิมล เอาความเข้าใจเรื่องพม่ามาจากไหน คุณตอบผมหน่อยได้ไหม คุณก็ไม่กล้าตอบ หรือว่าเอามาจาก CIA
จริงๆ แล้วเรื่องพรพิมล อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องเฉพาะนายดอน ผมเชื่อว่าจะเกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี เพราะทุกเรื่องที่ผมว่ามา นายกฯ ประยุทธ์ ไม่เคยไปจัดการกับนายดอน เลย แสดงว่า ... ติ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ครับ ฟังให้ดีๆ แสดงว่าเรื่องที่ดอน ทำ คำสั่งมาจากนายกฯ ประยุทธ์ แม้กระทั่งนายกฯ ประยุทธ์ ก็มาพูดในทำนองออกตัวว่าอึดอัดใจจังเลยถ้าจะไปอเมริกาตอนนี้ เพราะจะต้องถูกกดดันเรื่องยูเครน
ท่านนายกฯ ท่านพูดผิดประเด็น เขาจับผิดได้ ประเด็นไม่ใช่เรื่องยูเครน ประเด็นคือเรื่องนาโต 2 ที่อเมริกาและทางตะวันตกพยายามก่อตั้งขึ้นมา แล้วพยายามดึงอาเซียนเข้าไปร่วม เป็นเรื่องจีน พม่า กับไทย แล้วถ้าไทยไม่เลือกข้าง มันจะผิดตรงไหน ตอบผมหน่อยซิ ทำไมต้องบังคับให้ไทยเลือกข้าง ยืนข้างพวกคุณ ผู้ก่อสงครามมาตลอด 246 ปี ของประวัติศาสตร์อเมริกา มีอยู่ 18 ปี ที่สงบสุข อีก 228 ปี เป็นช่วงสงครามที่อเมริกาก่อทั้งสิ้น
ท่านผู้ชมครับ ผมอยากให้พวกเราช่วยกันจับตา ดูจุดยืนของประเทศไทย รวมทั้งบทบาทของประเทศไทยในพม่า นับจากนี้ไป ที่สำคัญ บทบาทท่าทีของไทยในการประชุมสุดยอดอเมริกา-อาเซียน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็เฮ้าเลี่ยนไปกับนายดอน จะบินไปพบ นายโจ ไบเดน วันที่ 12-13 ท่านผู้ชมครับ ระวังว่าจะเป็นการก่อตั้งนาโต 2 จะนำความพินาศฉิบหายมาสู่อาเซียน และประเทศไทย
ท่านผู้ชมครับ ผมเป็นคนที่มีสายสัมพันธ์หมด ผมรู้จักผู้ใหญ่ทางจีนอยู่หลายคน มีอยู่ท่านหนึ่งสนิทสนมกับผมมาก พูดได้ทุกเรื่อง ท่านบอกว่า คุณสนธิ ช่วยไปเตือนคนในประเทศไทยหน่อยได้ไหม ช่วยไปเตือนผู้หลักผู้ใหญ่ในประเทศไทยหน่อยได้ไหม ช่วยเตือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หน่อยได้ไหม ช่วยไปเตือนดอน ชิวาว่า ได้ไหม เขาบอกว่าประเทศจีน กับอเมริกา ต้องปะทะกันแน่นอนแล้ว หนีไม่พ้น เขาบอกว่า ประเทศไทยเป็นมิตรกับประเทศจีนมานานแล้ว ไม่อยากให้ต้องได้รับความเสียหายจากการปะทะกันระหว่างจีนกับอเมริกา หมายความว่า ถ้าไทยไปยืนข้างอเมริกา มีแต่ฉิบหายกับฉิบหาย ยังไม่ทันไรเลย ผมพูดตั้งหลายครั้งแล้ว ท่านผู้ชมจำได้ไหมว่าเรื่องการส่งออกทุเรียนมันใหญ่เกินตัวจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ แล้ววันนี้เป็นอย่างไรล่ะ กระทรวงพาณิชย์เงียบสนิท ไม่กล้าเอ่ยมาสักคำ นายกรัฐมนตรีเอาข้อมูลจุรินทร์ มา แล้วก็คุยโม้โอ้อวด วันนี้นายกฯ ก็เงียบสนิท ไม่กล้าพูดอะไรเลย เพราะทุเรียนส่งไม่ออก 7 แสนกว่าตัน ยังมีมังคุด ยังมีลำไย บวกเข้าไปเป็นล้านๆ ตัน ผมตำหนิจีนไหม ? ผมไม่ตำหนิ เพราะว่าการเมืองมันไม่เอื้อไง ท่านผู้ชม
ท่านผู้ชมลองไปดู นายกสมาคมส่งออกผลไม้ ท่านให้คำพูดแล้วว่า จีนให้เวลาประเทศไทย 5 วัน แก้ในเรื่องของโควิดที่ติดทุเรียน หมายความว่าอย่างไร ? หมายความว่าจีนเขาแกล้งเราได้ทุกเมื่อ ถามว่าเราตำหนิเขาได้ไหมที่เขาแกล้งเรา ? ตำหนิไม่ได้ เป็นเรา เราก็แกล้งเขา เพราะเราไปเบี้ยวเขา และเรายังทะลึ่ง กำลังจะไปร่วมกับอเมริกามาต่อต้านเขา ถ้ามาร่วมกับอเมริกา หรือแสดงทีท่ายืนข้างอเมริกา ถ้าอย่างนั้นเขาก็บอกว่า คุณก็อย่าส่งมาเลย ผลไม้ในประเทศไทย ก็ไปแก้ปัญหากันเองก็แล้วกัน เอาทุเรียนไปเทที่หน้าสถานทูตอเมริกา เอาลำไย เอามังคุด มาเทที่หน้ากระทรวงการต่างประเทศ แล้วบอกให้ ดอน ชิวาว่า ไปเห่าบอก โจ ไบเดน มาช่วยผลไม้ไทยหน่อยได้ไหม เห็นไหมท่านผู้ชม นี่แค่ตัวอย่างเล็กๆ
ท่านผู้ชมครับ ตั้งแต่พฤศจิกายน 2562 ที่ประเทศไทยได้ไปเซ็นสัญญาร่วมแถลงการณ์กับอเมริกาในเรื่องความมั่นคงในภูมิภาคนี้เพื่อต่อต้านจีน
ท่านผู้ชมรู้ไหม ประเทศไทยเบี้ยวข้อตกลงกับประเทศจีนทั้งหมด 21 ข้อ วันหลังผมจะเอามาตีแผ่ให้ฟัง เบี้ยวเขาหมดเลย 21 ข้อ ทั้งๆ ที่ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภาคีลุ่มแม่น้ำโขง ผมพูดหลายครั้งแล้ว ผมไม่ต้องพูดซ้ำ ท่านผู้ชมที่ตามรายการผมมาจะรู้ดีว่าผมเคยพูดว่าอย่างไร นี่คือแบ็กกราวนด์
ท่านผู้ชมครับ มีคนถามถึงประวัติลึกๆ ของคุณพรพิมล หรือ คุณพอลลีน กาญจนลักษณ์ ว่าเธอเป็นใคร เป็นอย่างไร หลายคนน้ำท่วมปากไม่กล้าพูดถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการในกระทรวงการต่างประเทศ เพราะตอนนี้เธอยิ่งใหญ่เหลือเกินในกระทรวงการต่างประเทศ ท่านผู้ชมรู้ไหมเวลาเธอไปต่างประเทศ เอกอัครราชทูต-อัครราชทูตไทยในต่างประเทศ ไปต้อนรับเธอราวกับว่าเธอเป็นร่างทรงของ ดอน ปรมัตถ์วินัย คนในกระทรวงการต่างประเทศเขาซุบซิบกันไปทั่ว
เอาล่ะ ท่านผู้ชม สมัยหนึ่งคุณพอลลีน เคยเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์เดอะ เนชั่น แท้ที่จริงแล้ว คุณพอลลีน อาชีพหลักก็คือเป็นล็อบบี้ยิสต์ สนิทสนมกับฝั่งอเมริกาเป็นอย่างยิ่ง สายที่สนิทสนมมากที่สุดก็คือสายพรรคเดโมแครต ซึ่งตอนนี้พรรคเดโมแครตในยุค โจ ไบเดน กำลังครองอำนาจในอเมริกา เพราะฉะนั้นบทบาทของพอลลีน พรพิมล กาญจนลักษณ์ ก็เลยสูงเด่นขึ้นมา เพราะว่าสายสัมพันธ์ โจ ไบเดน มาจากพรรคเดโมแครต เส้นสายในพรรคเดโมแครตนั้น พอลลีน ก็เป็นคนที่้รู้จัก เพราะว่าพอลลีน เคยเอาสตางค์ให้กับการเลือกตั้งของ บิล คลินตัน
ผมจะเล่าที่มาที่ไปของเธอให้ฟังก็แล้วกัน เมื่อย้อนกลับไปปี 2527-2529 ในยุคที่ ม.ร.ว.เกษมสโมสร เกษมศรี ท่านเป็นใคร ? ผมเอารูปท่านขึ้นให้ดู
ท่านเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยบรรหาร ศิลปอาชา และสมัยอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกฯ
สมัยหนึ่งท่านรับราชการเป็นตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ระหว่าง พ.ศ. 2525-2529 พรพิมล กาญจนลักษณ์ หรือพอลลีน มาทำงานในสถานทูตไทยที่อเมริกา โดยเริ่มจากการเป็น Local Staff ก็คือเป็นพนักงานท้องถิ่น กินแต่เงินเดือนที่สถานทูตให้ แต่ไม่มีสวัสดิการ ไม่มีบ้านเช่าให้อยู่ ไม่มีโน่นไม่มีนี่ ไม่มีค่าเช่า เหมือนกับข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ถูกส่งตัวไป
จากนั้น เธอทำงานเก่งมาก เลื่อตำแหน่งอย่างรวดเร็ว เพราะท่านทูต ม.ร.ว.เกษมสโมสร ติดใจและถูกใจในการทำงานมากๆ ท่านเลยปรับให้เป็นเลขาฯ และเป็นตำแหน่งใหญ่มาก เขาเรียกว่า Executive Secretary ของเอกอัครราชทูต
พูดง่ายๆ ว่าเธอมีอำนาจอย่างไม่เป็นทางการ สูงสุด รองจากท่านเอกอัครราชทูตเลย จนกระทั่งเมื่อเอกอัครราชทูตได้ถูกเปลี่ยนตัวไปเป็นคุณนิตย์ พิบูลสงคราม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยุค พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มาดำรงตำแหน่งที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ท่านผู้ชมครับ คุณพรพิมล ต้องออก เพราะว่าภรรยาของคุณนิตย์ พิบูลสงคราม เป็นฝรั่ง ชื่อคุณแพตตี้ พัชรินทร์ พิบูลสงคราม นามเดิมเธอมีชื่อว่า แพทริเซีย ออสมอนด์ ภรรยาชาวอเมริกันของท่านทูตนิตย์ เข้มแข็งกว่ามาก ก็คงจะไม่ถูกชะตากับคุณพรพิมล คุณพรพิมล เลยต้องลาออกไป
ท่านผู้ชมครับ เนื่องจากว่าเธอมีเครดิตว่ามาจากสถานทูตไทย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ นิวยอร์ก ก็เลยรู้จักว่า พอลลีน เป็นคนสวย เก่ง เปรี้ยวขนาดไหน เธอก็เลยมาตั้ง U.S.-Thailand Business Council ร่วมกับโปรเฟสเซอร์คนหนึ่ง ชื่อ คาร์ล แจ๊กสัน (Karl D. Jachson) ที่มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์
โดยที่พอลลีน ทำหน้าที่เป็นเลขาฯ เหมือนแม่บ้าน จัดแจงต่างๆ ภายใต้ร่มของ U.S.-Thailand Business Council ของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เธอก็เริ่มสร้างเครือข่ายและเริ่มงานล็อบบี้
ในยุคนั้น พอลลีน ขึ้นชื่อว่าสามารถพานักธุรกิจใหญ่ เจ้าสัวบริษัทหลายคน เข้าพบผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐสภาอเมริกา เพื่อดำเนินการล็อบบี้เรื่องราวต่างๆ อย่างโดยตรง อย่างไรก็ตาม เธอโดนดำเนินคดีโดยที่ FBI เข้าไปจับเธอ เพราะเธอทำกฎหมายเรื่องเงินสนับสนุนการเลือกตั้งในยุคประธานาธิบดีบิล คลินตัน (บิล คลินตัน เป็นประธานาธิบดีในช่วงปี 2536-2544) เป็นข่าวที่ดังทั่วโลก เธอถูกตัดสินจำคุก แต่ถูกรอลงอาญา ถูกปรับ และถูกกักขังไว้ที่บ้าน ที่เขาเรียกว่า House Arrest แทนขังคุก แล้วมีใส่กำไลข้อเท้า
นี่เป็นข้อมูลหลักฐานเรื่องที่คุณพรพิมล กาญจนลักษณ์ ถูกตัดสินจำคุกในสหรัฐฯ เผยแพร่ในเว็บไซต์กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ www.justice.gov เมื่อวันศุกร์ที่ 20 เมษายน 2544 ใครสงสัยก็ไปอ่านดูได้ เขาว่าอย่างนี้ครับ
"THAI BUSINESSWOMEN SENTENCED ON CAMPAIGN FINANCING CHARGES" แปลเป็นไทย คือ นักธุรกิจหญิงไทยต้องคำพิพากษาในข้อหาเงินสนับสนุนแคมเปญ (ของพรรคเดโมแครต) เนื้อหาใจความก็คือสรุปว่า ผู้พิพากษา Paul L. Friedman ตัดสินคดีที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาในการสนับสนุนทางการเงินในเดือนมิถุนายน 2543 พรพิมล กาญจนลักษณ์ ยอมรับสารภาพว่า สมรู้ร่วมคิดกระทำความผิดทางอาญาในข้อหาให้การสนับสนุนทางการเงินกับแคมเปญทางการเมือง ร่วมกับ Kronenberg โดยยอมรับว่าได้บริจาคเงินอย่างผิดกฎหมายให้กับบัญชีของคณะกรรมาธิการแห่งชาติของพรรคเดโมแครต หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า DNC (Democratic National Committee) จำนวนเงิน 1 หมื่นดอลลาร์
ข่าวออกมาว่า คุณพรพิมล ถูกพิพากษาให้คุมประพฤติเป็นเวลา 3 ปี คุมขังในบ้านพัก 3 เดือน มีเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ติดตัว ถูกปรับจำนวนเงิน 3 พันดอลลาร์ และดำเนินกิจการบริการสังคมเป็นเวลา 200 ชั่วโมง
ในช่วงปี 2535-2539 คุณพรพิมล ในวัย 50 ปี ซึ่งปัจจุบันน่าจะ 71-72 แล้ว เธอและผู้สมรู้ร่วมคิดกับเธอ ได้ถ่ายเทเงินบริจาคที่ผิดกฎหมายกว่า 6.9 แสนเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาทไทยในเวลานั้น 25 บาทต่อดอลลาร์ ประมาณ 17.25 ล้านบาท ให้กับคณะกรรมาธิการแห่งชาติของพรรคเดโมแครต หรือ DNC คุณพรพิมล ใช้บัญชีธนาคารในนามน้องสะใภ้ และแม่สามี ในการบริจาคเงินอย่างผิดกฎหมาย
ท่านผู้ชมครับ เงิน 17 ล้านบาท สำหรับบริจาคเข้าพรรคการเมือง ถ้าเมืองไทยต้องถือว่าจิ๊บๆ เมืองไทยแค่จองตัวเอาไว้เพื่อไม่ให้ถูกพรรคอื่นดูดไป ก็เสียไปแล้ว 50 ล้านบาท หรือล้านกว่าเหรียญสหรัฐอเมริกา แต่อเมริกากฎหมายเขาเข้มงวดมาก การบริจาคอะไรถ้าเกินกว่า 1 หมื่นเหรียญ ต้องมีที่มาที่ไป เธอบริจาคตั้ง 6 แสนกว่าเหรียญ
ที่ผมเล่าให้ฟังเมื่อกี้นี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเอกสารหลักฐานชิ้นเดียวเท่านั้น ยังมีรายละเอียดกับประวัติในการเป็นล็อบบี้ยิสต์ของคุณพรพิมล ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และล่าสุดกลายเป็นผู้แทนพิเศษของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศด้านสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
ท่านผู้ชมครับ คุณดอน กับคุณพอลลีน เจอกันอย่างไร ? ตามผมมา
หลังจากคุณพอลลีน พรพิมล ได้เงียบหายไปสักพัก ดอน ปรมัตถ์วินัย ได้ดำรงตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ปี 2552-2553 สองปี เป็นช่วงสุดท้ายในการใช้ชีวิตรับราชการของนายดอน แต่ตอนนั้น ดอน ซึ่งสนิทสนมกับ ม.ร.ว.เกษมสโมสร เกษมศรี คงจะได้รับการแนะนำคุณพอลลีน กาญจนลักษณ์ แต่นายดอน ไม่ได้เอาพอลลีน พรพิมล เข้ามาทำงานที่เกี่ยวโยงกับสถานทูตไทย เพราะว่าเธอเพิ่งจะโดนคดีฉาวโฉ่ระดับโลก มีชนักปักหลัง
2557 ภายหลังการยึดอำนาจของ คสช. นายดอน ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็ยังไม่มีวี่แววของพอลลีน พรพิมล จนกระทั่งถึงปี 2558-2559 ซึ่งนายดอน ได้เลื่อนชั้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พอลลีน พรพิมล ก็เลยปรากฏตัวในกระทรวงการต่างประเทศ โดยรับงานเป็นที่ปรึกษาเรื่องยุวทูต
ต่อมา พรพิมล ก็เลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นที่ปรึกษาพิเศษรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศโดยตรง นายดอน ขึ้นเป็นรองนายกฯ ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้รับความไว้วางใจจากนายกฯ ประยุทธ์ เต็มที่ ตอนนี้พอลลีน เลยแสดงบทบาทเป็นซูเปอร์ปลัดกระทรวง คุมทุกเรื่อง ข้ามไปที่ทำเนียบฯ กับรองนายกฯ เป็นที่เกรงขามของข้าราชการทั่วไป ท่านผู้ชมครับ นี่คือประวัติของเธอ
จากประวัติของเธอที่ผมเล่าให้ฟัง ซึ่งหาได้ไม่ยากเย็น ผมรู้จักเธอมานานแล้ว รู้จักเธอมาตั้งแต่สมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ยุคนั้นเธอกำลังทำงานเป็นทีมล็อบบี้ ล็อบบี้ยิสต์ กับอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยุค พล.อ.ชาติชาย ก็คือ นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ ตอนนั้นเธอทำหน้าที่้เป็นล็อบบี้ยิสต์
ท่านผู้ชมครับ ถ้าคุณพอลลีน หรือคุณพรพิมล กาญจนลักษณ์ จะทำงานเป็นล็อบบี้ยิสต์เหมือนเดิม ซึ่งเธอชำนาญมาก เธอเข้านอกออกในทุกคน ถึงแม้เธอจะไม่มีเส้นสายอย่างลึกซึ้งของพรรครีพับลิกัน แต่กับพรรคเดโมแครต เธอลึกซึ้งมาก รัฐบาลสามารถใช้เธอได้ หรือนายดอน สามารถใช้เธอได้ เพื่อเป็นล็อบบี้ยิสต์ให้กับรัฐบาลไทย ไม่ผิด แต่การที่เธอมาเป็นถึงที่ปรึกษาพิเศษรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งๆ ที่ไม่มีใครสนใจประวัติที่ไปที่มาของเธอเลย มันมีกลิ่นทะแม่งๆ ทำให้ผมสงสัยว่า เธอมาเป็นตัวแทนของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาหรือเปล่า เพื่อทำให้กระทรวงการต่างประเทศไทยดำเนินนโยบายตามนโยบายของ โจ ไบเดน หรือตามนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา เป็นไปได้ไหม ? ผมไม่รู้ แต่ว่าพฤติกรรม การเป็นล็อบบี้ยิสต์ แล้วจู่ๆ โผล่มา กลายเป็นที่ปรึกษาพิเศษกระทรวงการต่างประเทศ มันพิกลพิการ ที่สำคัญคือ จู่ๆ ดันทะลึ่งมาเป็นคนที่ต้องดูแลรับผิดชอบปัญหาของสหภาพเมียนมา แล้วคุณดอน ก็ดันทะลึ่งมาอ้างอิงว่า คุณพรพิมล รู้เรื่องพม่าดี
สรุปได้ง่ายๆ คุณพรพิมล จะรู้เรื่องพม่าดีได้อย่างไร ถ้าไม่ได้รับการบรีฟมาจากพวกหน่วยสืบราชการลับ หรือ CIA ของอเมริกา หรือทางกระทรวงการต่างประเทศอเมริกามาบรีฟว่า นโยบายพม่านั้น ประเทศไทยน่าจะแสดงจุดยืนที่ชัดเจน ผมเคยพูดไปนานแล้วไม่ใช่หรือ ท่านผู้ชม ว่า กรณีพม่านั้นเป็นกรณีที่อ่อนไหว เราไม่ควรไปยุ่งเลย ความขัดแย้งระหว่างมิน อ่อง หล่าย ความขัดแย้งต่อ อองซาน ซูจี เป็นเรื่องภายในของพม่า เรารักษาระดับความสัมพันธ์ให้ดี ใครก็ตามเข้ามาในพม่าก็เป็นเพื่อนเราทั้งสิ้น ส่วนเรื่่องภายใน เขาทะเลาะกันอย่างไร ปล่อยให้เขาทะเลาะไป แต่เผอิญสหภาพพม่า หรือสหภาพเมียนมา นั้น เป็นหมากตัวหนึ่งที่ทางตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอเมริกา และอังกฤษ ต้องการเข้ามายึดครอง
ตอนที่มิน อ่อง หล่าย ปฏิวัติขึ้นมา อองซาน ซูจี และพรรคพวก ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นและเป็นกบฏ พร้อมที่จะใช้ยะไข่ รัฐยะไข่ ซึ่งตอนนั้นมีโรฮีนจาอยู่ ตอนนี้ก็ยังมีอยู่เยอะมาก 40-50 เปอร์เซ็นต์ โดยให้ทางฝรั่งยกพลขึ้นบกที่รัฐยะไข่ แล้วก็ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น โดยที่อองซาน ซูจี และฝ่ายกบฏ อยู่ที่นั่น แต่เผอิญเรื่องนี้ จีน รัสเซีย อิหร่าน รู้เรื่องก่อน ก็เลยซ้อมรบกันในทะเลอันดามันที่อยู่แถวๆ ใกล้ๆ รัฐยะไข่ ทำให้แผนการซ้อมรบของอเมริกา กับอังกฤษ และออสเตรเลีย ที่จะซ้อมรบที่นั่น แล้วยกพลขึ้นบกที่รัฐยะไข่แล้ว ตั้งอองซาน ซูจี ขึ้นมา เพราะว่าถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็จะใช้พม่าเป็นฐานทัพเพื่อคานอิทธิพลทางใต้ของจีน
จีนมีท่อส่งแก๊สจากรัฐยะไข่ ที่ส่งไปทางจีน จีนก็ยอมไม่ได้ ในการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอาเซียน ไม่นานมานี้เองที่เขาเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอินโดนีเซีย ของฟิลิปปินส์ ของไทย และของเมียนมา แล้วของเขมร กัมพูชาไป นายหวัง อี้ ได้พูดชัดเจนกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทุกคนเลยที่นั่งอยู่ บอกว่าจีนจะสนันบสนุนพม่า ทุกอย่าง ทุกประการ จะไม่ถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว หมายความว่า ถ้าตะวันตกจะเข้ามาก่อความวุ่นวายในพม่า หรือประเทศไทยจะช่วยตะวันตกเป็นตัวแบ็กเข้ามาก่อความวุ่นวายในพม่า จีนพร้อมจะตอบโต้อย่างเต็มที่ ท่านผู้ชมเห็นหรือยังครับ นี่แค่ตัวอย่างเดียวนะท่านผู้ชม นี่ยังไม่ก้าวมาถึงการที่ในที่สุดไทยตกลงจะเป็นส่วนหนึ่งของนาโต 2 หรือเปล่า เพื่อต้านจีน คราวนี้ล่ะฉิบหายแน่นอน
ท่านผู้ชมครับ ที่ผมพูดมานี่ไม่ได้พูดตามอารมณ์หรือพูดโดยไม่มีหลักฐาน ไล่ วัน ว. เวลา น. ไล่เหตุการณ์ต่างๆ มาให้ดู ให้เห็น จะเห็นได้อย่างชัดเจน พฤติกรรมของไทยในช่วงหลังๆ ไม่ว่าจะเป็นการประณามรัสเซีย แทนที่จะวางตัวเป็นกลาง หรือไม่ว่าจะเป็นการเปิดพรมแดน แล้วปล่อยให้ทหารอเมริกันส่งอาวุธเข้ามา แล้วส่งไปที่ดินแดนแถวชายแดนไทย-พม่า แล้วให้ทางฝ่ายกบฏพม่ามารับอาวุธไป หรือการอนุญาตให้สถานทูตอเมริกาสร้างสถานกงสุลที่ใหญ่ที่สุดเลย ขุดลงไปใต้ดิน ลึกตั้ง 20-30 ชั้น แล้วก็ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นด้านใน
ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมฟังแล้วคิดอย่างไร คุณดอน ครับ สักวันหนึ่งผมเป็นคนที่เชื่อ และผมไม่ผิดแน่ ระเบียบโลกกำลังเปลี่ยนไป คุณดอน เจ้านายคุณที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กำลังหลังชนกำแพง คุณเอาประเทศ 40 ประเทศ มาประชุมร่วมกันเพื่อที่จะมาปราบรัสเซีย นี่คือขบวนการ คุณดอนครับ ไม่ใช่ขบวนการปกป้องความยุติธรรมนะ เขาเรียกขบวนการหมาหมู่ แล้ววันนี้คุณก็ยังโค่นรัสเซียไม่ได้ และรัสเซียก็พร้อมจะตอบโต้ทุกเม็ด ทุกวิถีทาง ตาต่อตา ฟันต่อฟัน คุณดอนครับ นโยบายหรือความคิดของคุณที่เกาะอเมริกานี้ 100 เปอร์เซ็นต์ ผิดพลาดอย่างแรง นโยบายคนโบราณที่เขาดำเนินนโยบายการต่างประเทศ ถ้าเขาไม่แน่ใจ เขาทำซื่อบื้อ บ้าใบ้ ไม่เข้าข้างใครทั้งสิ้น แต่วันนี้คุณเลือกข้างแล้วนะคุณดอน ถ้าคุณเลือกข้างแล้ว ถ้าประเทศไทยมีความวุ่นวายในอนาคต ผมจะจารึกชื่อคุณลงในประวัติศาสตร์ว่าคุณคือส่วนหนึ่ง และ พล.อ.ประยุทธ์ ก็อีกส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ประเทศไทยต้องวุ่นวาย
ท่านผู้ชมครับ ก่อนที่จะจากไปผมมีเรื่องหนึ่งที่กำลังเตรียมข้อมูลไว้ คือกรณีที่นายโจ ไบเดน เรียกประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-อเมริกา ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระหว่างวันที่ 12-13 พฤษภาคม อย่างที่ผมเรียนให้ทราบ เท่าที่ผมเช็กกระแสข่าวกับต่างประเทศ ไม่เห็นเป็นผู้นำอาเซียนชาติไหนจะกระดี๊กระด๊า กระตือรือร้นอยากเข้าไปร่วมประชุม เหมือนอย่างผู้นำไทย อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายดอน ปรมัตถ์วินัย
วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม ผมจะออกรายการพิเศษ SONDHI EXPRESS เพื่ออธิบาย ย้ำเตือนถึงจุดยืนที่ประเทศไทยควรยึดถือในการไปประชุมครั้งนี้ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว หากเกิดข้อผิดพลาดอันใด ประเทศไทยจะประสบกับความฉิบหายวายวอดอย่างแน่นอน
ท่านผู้ชมครับ อาทิตย์หน้าเรามีเรื่องราวหลายๆ เรื่องที่จะต้องพูดกัน และอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องที่ผมตั้งใจจะอธิบายก็คือ การควบรวมกิจการระหว่าง ทรู กับ ดีแทค ที่คณะกรรมการ กสทช. กำลังพิจารณาอยู่ และเรื่องของแตงโม ที่ผมพูดในตอนต้นไปแล้ว สวัสดีครับท่านผู้ชม