xs
xsm
sm
md
lg

[คำต่อคำ] SONDHI TALK : เปลือยธาตุแท้ "ทักษิณ ชินวัตร"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



วันที่ 18 ก.พ.65 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิ ช่องยูทูป Sondhitalk และ และแอปพลิเคชัน Sondhi App โดยสิ่งที่จะเล่าในวันนี้ปฐมบทวิบากกรรม “ทักษิณ ชินวัตร” เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง ที่สั่งการอยู่ต่างประเทศ เปรียบลูกน้องที่เคยทำงานให้ เป็นเพียงแค่สุนัข (หมาตัวหนึ่ง) ที่หลายคนอาจจะคิดไม่ถึง

ไทยเลือกข้าง? ในยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกของอเมริกา อะไรจะเกิดขึ้น เรื่องนี้จะมีผลตามมาอย่างไร?

วิกฤติยูเครน หมากตัวหนึ่งที่มีเบื้องหลังคือ เยอรมันและอเมริกา ลึกๆ เเล้วเป็นอย่างไร ?ติดตามได้ใน SONDHI TALK :ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep.125



คำต่อคำ SONDHI TALK EP. 125 [18 ก.พ. 65] : "เปลือยธาตุแท้ ทักษิณ ชินวัตร"

ช่องทางการรับชมรับฟัง "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ SONDHI TALK
แอปพลิเคชัน : SONDHI APP (ทั้งระบบ iOS และ Android)
เฟซบุ๊กแฟนเพจ :คุยทุกเรื่องกับสนธิ
YouTube :Sondhitalk
เว็บไซต์ :www.sondhitalk.com
Podcast หรือ podbean : SONDHI TALK

สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 วันพุธที่ผ่านมา 16 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นวันมาฆบูชา เป็นวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 3 ท่านผู้ชมคงไปทำบุญ หรือปฏิบัติธรรม เราไปทบทวนความจำเล็กน้อย วันมาฆบูชานั้นเป็นวันที่พระสงฆ์ สาวกของพระพุทธเจ้า มาเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แควันมคธ โดยมิได้นัดหมาย และพระสงฆ์ทุกองค์นั้นเป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น วันนั้นทรงแสดงพระธรรมเทศนาที่เรียกว่า "โอวาทปาติโมกข์" เป็นหลักการ อุดมการณ์ และวิธีการปฏิบัติที่นำไปใช้ในทุกสังคม โดยสรุปแล้ว วันมาฆบูชา คือวันที่ให้ละความชั่วทุกชนิด ทำความดี ทำจิตใจให้ผ่องใส อันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา

ท่านผู้ชมที่เคยติดตามรายการผมมาตลอดก็จะรู้ว่าผมถือว่าวันมาฆบูชา คือวันแห่งความรักที่แท้จริงของชาวพุทธ มีความหมาย นัยยิ่งใหญ่กว่าวันวาเลนไทน์ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หรือที่พวกเราเรียกว่า วันแห่งความรัก เสียอีก เพราะว่าวันมาฆบูชา คือวันที่พระพุทธเจ้าพระราชทานความรักให้กับชาวโลก และเป็นวันที่พระองค์ท่านแสดงธรรมที่ยิ่งใหญ่ คือ โอวาทปาติโมกข์ ขอให้ทุกคนเจริญด้วยธรรมก็แล้วกันครับ


ท่านผู้ชมครับ เมื่อวานซืน วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ วันมาฆบูชา ผมได้ไปทำบุญตักบาตร แล้วสายๆ หน่อยผมก็สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ แล้วผมก็กลับบ้าน เผอิญผ่านไปที่ปั๊ม ปตท. ถนนวิภาวดี ข้างๆ กองพันทหารราบที่ 1 ผมก็ไปเจอเพื่อนรุ่นน้อง เพื่อนเก่าผมคนหนึ่ง ชื่อ คุณอิ่ง เป็นเชฟชาวไทยที่ผมรู้จัก คุณอิ่ง เขาไปเปิดร้านขนมปังชื่อร้าน ซันปัง (SUN PAN) ขนมปังนี้เป็นร้านที่ทำขนมปังแบบโชกุปัง ที่ญี่ปุ่น คุณอิ่ง ทำร่วมกับเชฟชาวญี่ปุ่นที่ชื่อ ฮิสะ ผมแวะไปอุดหนุน อร่อยมาก ผมอยากแนะนำให้ท่านผู้ชม เผื่อไปทานกัน


ท่านผู้ชมครับ คุณอิ่ง ชื่อจริงคือ คุณจุฬาวัลย์ พงษ์สุทธิมนัส เธอเรียนจบคณะสังคมศาสตร์ ธรรมศาสตร์ แล้วเธอไปเรียนต่อที่กอร์ดองเบลอ (Le Cordon Bleu) ที่ฝรั่งเศส เป็นเวลาหนึ่งปี ช่วง พ.ศ. 2528-2529 กลับมาทำงานการบินไทย 2 ปี แล้วมาทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารของที่บ้าน เชฟอิ่ง ทำธุรกิจเรื่องกาแฟ เป็นเจ้าของเอลลี่คาเฟ่ ซึ่งได้รับลิขสิทธิ์จากฝรั่งเศสมาเปิดที่พัทยา ภูเก็ต เขาใหญ่

เมื่อ 4 ปีก่อน เธอดึงเชฟญี่ปุ่น ชื่อ ฮิสะ อากิ โทโยดะ ชาวโกเบ มาอยู่เมืองไทย ด้วยความที่ชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่น เชฟอิ่งก็เลยสนใจที่จะทำเบเกอรีแบบญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งขนมปังโชกุปัง ซึ่งร่วมมือกับเชฟชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้

โชกุปัง เป็นขนมปังที่เข้ามาในเมืองไทย 3-4 ปีที่ผ่านมา ตามกระแสนิยมญี่ปุ่น ลักษณะเด่นของโชกุปัง คือ เหนียวนุ่ม เด้งดึ๋ง คล้ายๆ กับแป้งโมจิ เริ่มมีหลายคนทำรับประทานเอง หลายร้านเริ่มมีวางขาย แต่สูตรโชกุปังนั้นไม่ได้ทำกันง่ายๆ เพราะต้องอยู่ที่เคล็ดลับในการทำแป้งหัวเชื้อ ที่เรียกว่า ยูดาเนะ ซึ่งมีสูตรเฉพาะของร้าน


ส่วน SUN PAN ที่คุณอิ่งทำนั้น ก็มีหลายแบบ ผมซื้อกลับบ้านไปหลายแบบ มีเฟรนช์โฮลวีต แป้งโฮลวีตตัวนี้ใช้ของฝรั่งเศส เฟรนช์โฮลวีตเรซิ่น แป้งโฮลวีตใช้ของฝรั่งเศส ลูกเกดหลายสี ทริปเปิลเฟรนช์ช็อกโก ใช้ช็อกโกแลตจากฝรั่งเศส เจแปนนิสมัทฉะ ใช้ชาเขียวญี่ปุ่น 100 เปอร์เซ็นต์ ฮอกไกโดมิลค์ นมจากฮอกไกโดจริงๆ ฮอกไกโดมิลค์แครนเบอร์รี ชาโคลแบล็กทรัฟเฟิล ชาโคลแครนเบอร์รี นอกจากนี้ ผมเอาตัวอย่างให้ดู ผมเอาของที่ผมซื้อมาให้ดู คุณอิ่ง ทำแยมออกมาน่าทานมาก แยมที่คุณอิ่งทำ มี Yuzu Chardonnay เป็นแยมส้ม ใช้น้ำส้มซึ่งเป็นสูตรพิเศษ เอามาจากญี่ปุ่น Raspberry Red Wine Balsamic, Salt Caramel Chocolate Hezelnuts และที่สำคัญที่สุดคือ สเปรด (Spread) สเปรด คือ สิ่งที่เราตักมาแล้วเอามาทาหน้าขนมปังที่ย่างเอาไว้ คุณอิ่งทำ Garlic Parsley Butter, Caramelized Onion Butter และ Black Truffle Butter, Maple Bacon Butter นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังมีเครื่องดื่ม Yuzu Sparkling

ยูสุ (Yuzu) เป็นผลไม้ที่มีลักษณะของส้มกับมะนาว กำลังเป็นที่นิยม SUN PAN นั้นนำเข้า Yuzu Puree หัวเชื้อ มาจากญี่ปุ่น 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ใช้ของเกาหลีใต้ มีวิตามินซีสูง จากนั้นแปรรูปมาเป็น Yuzu Sparkling เป็นน้ำยูสุ น้ำโซดายูสุ อร่อยมาก อัดกับน้ำโซดา หารับประทานที่ไหนไม่ได้หรอก ลองชิมรสชาติแล้วจะติดใจ


ร้าน SUN PAN เน้นสินค้าเป็น Craft product ซึ่งทำใหม่สดทุกวัน แต่ละวันของลงมีจำนวนจำกัด หมดแล้วหมดเลย ผมไม่ได้รับจ้างที่จะมารีวิวอะไร แต่ถ้าผมไปเจออะไรมา อย่างที่ผมเรียนให้ท่านผู้ชมทราบ ถ้าดี และผมไปทดลองแล้วว่ามันดีจริง ผมก็จะมาแนะนำให้รู้จัก อยู่ตรงถนนวิภาวดี ปั๊ม ปตท. ข้างๆ กองพันทหารราบที่ 1 (ราบ 1) ข้างในนั้นมีแม้กระทั่ง Golden Place ท่านผู้ชมแวะไปดูได้เลย

กรุณาอดทนนิดหนึ่ง เพราะเผอิญของที่ผมจะแนะนำให้ฟังนี้ เป็นของที่เราทำขึ้นมาเอง ท่านผู้ชมคงจำยาสีฟันสมุนไพรบ้านพระอาทิตย์ได้ คนคอมเมนต์เข้ามาเยอะมาก ร้อยทั้งร้อยบอก ใช้แล้วดีจริง สดชื่น ลดกลิ่นปาก ลมหายใจหอมสดชื่นยาวนาน ผมรับประกัน ใช้ไม่ดีจริง คืนเงินให้เลย รายละเอียด บรรจุหลอด 50 กรัม คุณสมบัติ ลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก ลดกลิ่นปาก สุขภาพเหงือก ทำให้ฟันขาวสะอาด ลมหายใจหอมสดชื่นยาวนาน ท่านผู้ชมสั่งซื้อได้ที่ Shopee หรือ Lazada พิมพ์คำว่า "สมุนไพรบ้านพระอาทิตย์" ก็จะมีสินค้าขึ้นมา


นอกจากนี้แล้ว เรายังมียาบำรุงสายตา LUTEIN ซึ่งหลายท่านรีวิวใช้แล้วก็ส่งข้อความมาให้เห็นชัดว่า ใช้แล้วตาสว่าง ดีมาก และอาทิตย์ที่แล้วผมพูดเรื่องยาเสริมภูมิคุ้มกัน ชื่อ QUERCETIN C PLUS ZINC ผสมวิตามินซีด้วย ผสมสังกะสีด้วย และข่าวดีคือ ตอนนี้ฟ้าทะลายโจรที่ทำจากเฉพาะใบของอาจารย์ปานเทพ ที่ทุกคนตามหา ได้รับ อย. เรียบร้อยแล้ว มีวางขายในร้านสมุนไพรบ้านพระอาทิตย์ ใน Shopee และ Lazada


สำหรับท่านผู้ชมที่ดูผ่านยูทูป ท่านผู้ชมอย่าลืมกด SUBSCRIBE นะครับ และกดกระดิ่งแจ้งเตือนด้วย เพราะเวลามีไลฟ์คลิปใหม่จะรับทราบทันที ส่วนเฟซบุ๊กก็อย่าลืมกด FOLLOW และเลือก See First ถ้าของเฟซบุ๊กยุ่งยากนัก ก็ไปกด SUBSCRIBE ที่ยูทูป แล้วเวลารายการเข้ามาปั๊บ จะมีกระดิ่งเตือนท่านผู้ชม

สัปดาห์ที่แล้วมีผู้ชมติดตามรายการผมดี คงทราบว่าในรายการสดเฟซบุ๊กมีปัญหาติดขัด ทำให้ท่านผู้ชมไม่สามารถเข้าชมได้ แต่หลายคนที่ดาวน์โหลด Sondhi App ก็สามารถเข้าดูไลฟ์ในแอปฯ ได้ แฟนๆ ทั้งหลายที่ยังไม่ได้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Sondhi App สิ้นเดือนนี้ระบบ Payment จะเปิดเก็บค่าบริการแล้วครับ เดือนละ 99 บาท ถ้าท่านผู้ชมสมัครรายปี จะคิดแค่ 990 บาท เท่ากับฟรี 2 เดือน ท่านผู้ชมครับ วันละ 3.30 บาท เพื่อแลกกับข้อมูลความรู้ ข่าวสาร ที่หาไม่ได้จากที่ไหนเลย


ตอนนี้เราทำเรื่องสำหรับแอปฯ โดยเฉพาะ ความจริงอาทิตนี้ทำแล้ว และจะลงแอปฯ ท่านผู้ชมดูในแอปฯ ได้เลย ในเฟซบุ๊กไม่มี คือเรื่องของ "ไอลีน เฝิงกู่" หรือ "กู่อ้ายหลิง" นักสกีเหรียญทองโอลิมปิกฤดูหนาว สาวสวยวัย 18 ปี ที่เกิดที่อเมริกา แต่ตัดสินใจที่จะเป็นตัวแทนประเทศจีน แทนที่จะเป็นตัวแทนให้กับอเมริกาในการแข่งขันสกี กีฬาฤดูหนาว ซึ่งรายการเรื่องของ ไอลี เฝิงกู่ ผมเป็นคนเอามาเผยแพร่ แล้วก็ลึกซึ้ง มีรายละเอียด มิติทุกด้าน ที่ท่านผู้ชมไม่เคยได้เห็นจากที่ไหนมาก่อนเลย


ท่านผู้ชมครับ วันมาฆบูชาที่ผ่านมานี้ นอกจากการไปทำบุญแล้ว ผมยังได้มีโอกาสเจอคุณวีระ สมความคิด คุณวีระ กับผม รู้จักกันมานานแล้ว คุณวีระ มาด้วยความมั่นใจพร้อมกับหลักฐานเปิดโปง ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นปึกๆ โดยบอกว่าได้มาจากคนใกล้ชิด คุณวีระ ท่านก็เอาหลักฐานให้ผมดู ผมยอมรับว่าผมก็ตกใจเหมือนกัน ไม่ทราบว่ามีคนใน ป.ป.ช. กำลังคิดช่วย ดร.เอ้ จะช่วยได้อย่างไร เพราะหลักฐานพวกนี้เป็นหลักฐานที่ ดร.เอ้ หรือคนที่สนับสนุน ดร.เอ้ คิดว่าไม่มีแล้ว แต่เผอิญว่ามันมี ผมจะไม่พูดในรายการวันนี้ เพราะผมคิดว่าปล่อยเป็นหน้าที่ของคุณวีระ ไปแจ้ง ป.ป.ช. ก็แล้วกัน เพราะผมคิดว่า ดร.เอ้ คงต้องไปพิสูจน์ข้อหาต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งหลักฐานต่างๆ เหล่านี้พิสูจน์ชัดเจนให้เห็นว่า ดร.เอ้ จริงๆ แล้วเริ่มต้นมีสมบัติพัสถานอยู่แค่ไหน และเพิ่มขึ้นมาได้อย่างไร


ท่านผู้ชมครับ ผมมีข้อคิด เวลาท่านผู้ชมทะเลาะกับเมีย หรือนอกใจเมีย หรือตัดสินใจหย่าขาดจากเมีย แล้วถ้าท่านเป็นคนผิด ท่านต้องรอรับอาวุธจากแม่ยายก็แล้วกัน ผมขอเตือนไว้เพียงแค่นี้ล่ะครับ

ท่านผู้ชมครับ สัปดาห์นี้เรื่องแรกที่เราจะพูดกันก็คือเรื่องตำรวจกร่าง ข่มขู่แม้กระทั่งอัยการ ภาพสะท้อนความเละเทะในระบบยุติธรรม

เรื่องต่อมาคือเรื่องที่ท่านผู้ชมอาจจะเคยได้ข่าวแล้ว แต่ไม่รู้รายละเอียด เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก คือเจ้าชายแอนดรูว์ พระโอรสรองของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งถูกข้อกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ในสหรัฐอเมริกา เมื่อ 10-20 ปีที่ผ่านมาแล้ว ตกลงเจ้าชายแอนดรูว์ ก็ตัดสินใจยุติคดีล่วงละเมิดทางเพศ โดยจ่ายเงินก้อนหนึ่ง แหล่งข่าวว่าประมาณ 526 ล้านบาท ให้กับผู้เสียหาย รายละเอียดเป็นไปอย่างไร มาอย่างไร รอฟังดู สนุกสนานดีนะครับ แล้วก็ไม่ค่อยมีใครเอาเรื่องพวกนี้มาพูดอย่างละเอียด

อีกเรื่องต่อมา ทักษิณ หรือ โทนี่ วู้ดซัม (Tony Woodsome) ออกคลับเฮาส์ ด่าลูกน้องตัวเองว่าเป็นหมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งนัยหมายถึงเสกสกล อัตถาวงศ์ ว่าเป็นหมาที่อกตัญญู จะกัดเจ้าของ แต่จะเลียตีนของคนที่ให้ข้าว ส่วนเสกสกล ก็สวนกลับว่า หมาอย่างผม เป็นหมาฉลาด ที่ต้องกัดเจ้าของเพราะเจ้าของมันชั่ว เรื่องราวเป็นอย่างไร ท่านผู้ชมติดตามมา

ต่อจากนั้นก็จะเป็นเรื่อง ปฐมวิบากกรรมของทักษิณ ชินวัตร วิบากกรรมแรกที่ทักษิณ ได้ทำเอาไว้ เบื้องลึกเบื้องหลังการทำบุญประเทศปี 2548 ก่อนจะร่วงสู่เหวลึก กู่ไม่กลับ ไม่มีแผ่นดินจะอยู่

เรื่องต่อมา เป็นเรื่องใหญ่มาก ใหญ่เทียมฟ้าเลย เรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ เลือกข้าง พาชาติสุ่มเสี่ยง โดยเข้าไปร่วมกับอเมริกา ร่วมวงเพื่อปิดล้อมจีนอย่างเป็นทางการ ที่อเมริกาแถลงออกมา เรื่องนี้ใหญ่โตขนาดไหน สำหรับผมแล้วเป็นเรื่องที่ใหญ่ที่สุด

เรื่องสุดท้าย คือ เบื้องหลังวิกฤตยูเครน ท่านผู้ชมคงฟังมามากแล้ว ตามที่นักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศหลายๆ สำนักเอาข่าว CNN, CNBC, BBC หรือบลูมเบิร์กเอย แปลข่าวเขามาแล้วก็ท่องนะโมตัสสะ ตามสำนักข่าวต่างประเทศ เบื้องลึกเบื้องหลังเป็นอย่างไร ผมกำลังบอกว่า วิกฤตยูเครน แท้ที่จริงแล้ว ตัวตัดสินอยู่ที่เยอรมนี ซึ่งทั้งหมดนี้ที่เกิดขึ้นมันเป็นผลพวงของการเปลี่ยนระเบียบโลก ที่ได้เปลี่ยนมาสัก 2-3 ปีแล้ว และวิกฤตยูเครน และตลอดจนเรื่องราวต่างๆ ในปัญหาทะเลจีนตอนใต้ และการที่อเมริกาดึงไทยเข้าไปร่วมต่อต้านจีน มันเป็นส่วนหนึ่งของความสั่นสะเทือนในระบบการเปลี่ยนระเบียบโลก

ท่านผู้ชมครับ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวเล็กๆ ชิ้นหนึ่ง ประชาชนอาจจะสนใจบ้างเล็กน้อยตอนแรก แต่ตอนหลังนี้เรื่องราวก็เงียบไป แต่สำหรับผมแล้วมีความสำคัญมาก ก็เลยต้องมาเล่าให้ท่านผู้ชมฟัง

โดยหลักแล้วมันเป็นอย่างนี้ครับท่านผู้ชม กระบวนการยุติธรรม เมื่อตำรวจดำเนินคดีกับใครก็ตามที่เป็นจำเลย พอดำเนินคดีเสร็จก็จะส่งสำนวนต่อไปให้ที่อัยการ นี่เป็นหลักการ กระบวนการ ขั้นตอนที่ทุกคนต้องทำแบบนี้หมด ทั่วประเทศไทย เมื่ออัยการรับสำนวนแล้ว อัยการก็ต้องมานั่งอ่าน นั่งดู ถ้าเกิดเหตุข้อมูลที่ตำรวจให้มา หรือหลักฐานให้มาไม่พอ หรือว่าพอ แต่ตำรวจลืมเพิ่มข้อหาอีกข้อหาหนึ่ง อัยการก็จะท้วงติงไป ว่าเรื่องนี้ขาดหลักฐานนี้ๆๆ นะ คุณต้องสอบใหม่นะ สอบข้อหนึ่ง ข้อสอง ข้อสาม ข้อสี่ ข้อห้า จำเลยนี้ผิดข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ คุณต้องเพิ่มอีกข้อหาหนึ่งนะ วิธีการก็คือ อัยการก็จะทำตามหลักการ ทำเป็นจดหมายส่งไปให้ที่ตำรวจ จะเป็นโรงพักไหนก็ตาม อย่างในกรณีที่เกิดขึ้นคือโรงพักท่ายาง จ.เพชรบุรี นั่นคือหลักการที่จะต้องส่งเป็นเอกสาร แต่ถ้าเป็นอะไรที่รู้จักกันดี ทำงานมาด้วยกัน อัยการก็แค่ยกหูโทรศัพท์ ช่วยสอบนั่นเพิ่มหน่อย สอบนี่เพิ่มหน่อย คือไม่ต้องมีเอกสารไปก็ได้


ทีนี้เรื่องมันเกิดขึ้นก็เพราะว่ามีเหตุการณ์ ก็คือว่า มีจำเลยคนหนึ่งซึ่งตำรวจจัดการอยู่ สถานีตำรวจก็คือสถานีตำรวจภูธรท่ายาง จ.เพชรบุรี พนักงานสอบสวนยศร้อยตำรวจเอก รับสำนวนจากพนักงานสอบสวน สภ.ท่ายาง ของจำเลยคดีความผิดฐานลักทรัพย์ ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ มีผู้ต้องหาเป็นหญิง 1 ราย เจ้าของสำนวน พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบ ชื่อ ร.ต.อ.ภาณุวัตร สังข์ทอง ลงรับเป็นสำนวน ทีนี้คดีจะครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหาครั้งที่ 4 ก็คือครั้งสุดท้ายแล้ว มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์


ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 พนักงานอัยการเพชรบุรีมองดูแล้วว่าคดี พยานหลักฐานในสำนวนยังไม่เรียบร้อย ขาดเอกสารสำคัญในสำนวนหลายประเภท หลายฉบับ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญต่อการพิจารณาข้อเท็จจริงในคดี เพราะอัยการต้องเป็นคนส่งฟ้อง เมื่อเขาส่งฟ้องเขาต้องมีหลักฐานพร้อม เพื่อที่เขาจะเอาหลักฐานมาให้ศาลดูว่าจำเลยทำผิดอย่างนี้ๆ นี่หลักฐาน จำเลยพูดอย่างนี้ๆ นี่หลักฐาน จำเลยเซ็นชื่ออย่างนี้ๆ นี่หลักฐาน

ทีนี้เผอิญมันจะเป็นการฝากขังครั้งสุดท้ายแล้ว ต้องรีบทำ ต้องรีบส่งมา อัยการก็เลยใช้วิธีประสานงานทางโทรศัพท์ ให้คนที่รับผิดชอบ คือ ร.ต.อ.ภาณุวัตร แจ้งข้อบกพร่องว่าอัยการอยากสอบเพิ่มเติม แล้วค่อยทำหนังสือสั่งการตามไปทีหลัง เนื่องจากว่าคดีมันจะหมดอายุความแล้ว จะได้ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้รวดเร็วขึ้น ให้เสร็จเรียบร้อยภายในกำหนดฝากขัง

ทีนี้ พออัยการโทรไป ร.ต.อ.ภาณุวัตร ท่านอารมณ์ไม่ดี ท่านไม่พอใจ แต่ท่านก็รับปากจะหาหลักฐานเพิ่ม แล้วตำรวจ ก็คือ ร.ต.อ.ภาณุวัตร ก็ส่งให้ตำรวจส่งสำนวนนำเอกสารดังกล่าวมามอบให้ อัยการรับ ก็บอกว่าหลักฐานเพิ่มมาแล้ว แต่คุณภาณุวัตร ต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในฐานความผิด ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทีนี้ก็เอาล่ะสิ ร.ต.อ.ภาณุวัตร อารมณ์เสียขึ้นมาทันทีเลย ไม่รู้เป็นอะไร ก็เลยอาละวาด มาบอกว่าทำไมต้องแจ้งเพิ่ม ก็มันมีข้อหาใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์อยู่แล้วไม่ใช่หรือ ท่านดูโทษหรือยังว่าโทษมันหนักกว่า เคยปรึกษาท่านผู้กำกับอนุรักษ์ สิงห์สังข์ บอกว่าไม่ต้องแจ้ง พนักงานอัยการก็เลยบอกว่า ผู้กำกับอนุรักษ์ ไม่ได้ฟ้อง ผมเป็นคนฟ้อง อัยการเป็นคนฟ้อง และผู้ต้องหากระทำผิดข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ด้วย ร.ต.อ.ภาณุวัตร ท่านก็บอกว่าเอาจริงๆ ผมไม่ว่างแจ้งหรอก ผมอบรมสารวัตรอยู่ อัยการก็เลยบอกว่า ไม่เป็นไร อย่างไรผมก็ต้องมีหนังสือสอบเพิ่มไปอยู่แล้ว ร.ต.อ.ภาณุวัตร บอกว่า อยากจะสั่งอะไรก็สั่งมา สั่งมาเลย ผมจะได้รู้ว่าคุณคือใคร ชื่ออะไร แล้ววางหูโทรศัพท์โครมเลย


ก็ปรากฏว่ามีข้อความตามมาทีหลัง ในโทรศัพท์ของอัยการ ระบุว่า ให้ขอโทษ ถ้าโชว์กึ๋นมากๆ อาจโดนเล่นนอกเกม อ้าว เป็นเรื่องล่ะสิ มีโทรศัพท์หมายเลขหนึ่งส่งข้อความมาเมื่อเวลา 16.22 น. ข้อความบอกว่า "เป็นอะไรมากป่าว อยากโชว์กึ๋นเหรอ มาทำลูกพี่กูก่อนนะ เดินทางปลอดภัย นะ เดี๋ยวอาจจะได้เจอกัน" แล้วก็มีข้อความส่งมาติดๆ กันอีกว่า "ทำอะไร ทำดีๆ นะ คิดให้ดี ขอโทษ ยังทัน" "ชอบจัง คนมีกึ๋น ผ่านมาท่ายาง ถ้าดูแลรักษาตัวให้ดี เช็กเบส แปป (ถ้าผ่านมา***)" "คุณมีกึ๋น เรามีนอกเกมนะจ๊ะ" "อยากๆๆๆ อยากเจอโว้ยยย" ก็คือสรุปง่ายๆ ว่า ข้อความนี้ หลังจากมีการเช็กแล้ว เป็นข้อความของ ร.ต.อ.ภาณุวัตร เชื่อมโยง ร.ต.อ.ภาณุวัตร ที่รับผิดชอบทำสำนวน ก็เลยกลายเป็นว่า ข้อความเป็นการข่มขู่อัยการ ดูหมิ่นเหยียดหยาม ก็เลยทำให้ทางอัยการก็เข้าพบอัยการจังหวัดเพชรบุรี ประสานงานติดต่อผู้กำกับ สภ.ท่ายาง ก็เลยพา ร.ต.อ.ภาณุวัตร ผู้กำกับ ไปพบอัยการจังหวัดเพชรบุรี แล้วก็ได้ร่วมเจรจาพูดคุย ซึ่งภาณุวัตร ปฏิเสธว่าไม่ใช่เขา แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งผู้กำกับ และพนักงานสอบสวน ยืนยันว่าหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งเป็นหมายเลขที่ส่งข้อความดูหมิ่นเหยียดหยาม แสดงความอาฆาตมาดร้าย ยังโทรศัพท์เข้ามาหาตน ภายหลังจากที่ส่งข้อความสุดท้ายมา เป็นหมายเลขของคุณภาณุวัตร จริงๆ

อัยการก็เลยเดินทางไปแจ้งลงบันทึกประจำวันให้รับทราบว่าถูกข่มขู่ทางโทรศัพท์ คนที่แจ้งความเป็นถึงพนักงานอัยการ ได้รับการดูหมิ่นเหยียดหยามข้าราชการระดับสูงอย่างร้ายแรง ยังเป็นการข่มขู่ให้เกิดความกลัว เพราะฉะนั้นแล้ว ช่วยจัดการให้หน่อย

อัยการก็บอกว่า ร.ต.อ.ภาณุวัตร เป็นเจ้าพนักงานที่สามารถพกพาอาวุธปืนได้ ทำให้ตัวเขาเองมีความหวาดระแวง ความเครียดอย่างสูงในการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้สูญเสียประสิทธิภาพในการทำงาน ในที่สุดแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นขั้นตอนปกติที่พนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ ถ้าสั่งสอบเพิ่มเติม สั่งฟ้องได้ตามพยานหลักฐาน แต่พฤติกรรมของ ร.ต.อ.ภาณุวัตร ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานไม่เหมาะสม ซึ่งทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ภูธรภาค 7 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องออกมาทำทุกอย่างให้ชัดเจน โปร่งใส


ท่านผู้ชมครับ ผมได้โทรศัพท์ไปเช็กกับ พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.จว.เพชรบุรี ท่านก็บอกว่า ตำรวจคนนี้เป็นคนดีมาก แต่ช่วงหลังมีเรื่องส่วนตัวต้องเครียด คำว่า "เครียด" ก็คือเผอิญไปได้ผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นแฟน แล้วก็เกิดสร้างปัญหาอะไร ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่อยู่แถวอำเภอท่าข้าม ก็เลยทำให้ตำรวจคนนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับ เครียด ก็เลยมีผลที่ทำให้ตำรวจคนนี้ต้องสติแตกไป

ก็มีการพูดกัน ให้สัมภาษณ์กันต่อไปว่า ตำรวจคนนี้มีอาการโรคซึมเศร้า ก็เลยเกิดคำถามต่อมาว่า จริงๆ แล้วถ้าเป็นโรคซึมเศร้า ที่ ร.ต.อ.ภาณุวัตร บอกว่าเข้าเรียนโรงเรียนอบรมสารวัตร เอ๊ะ! ตร. ให้ตำรวจที่เป็นไบโพลาร์ หรือเป็นโรคซึมเศร้า เข้ามาอบรมเป็นสารวัตร ให้ใหญ่ขึ้น ได้อย่างไร คนอย่างนี้ต้องไปหาจิตแพทย์ก่อน แต่ พล.ต.ต.อุทัย ท่านก็บอกว่า จริงๆ แล้วไม่ใช่หรอก เขาเป็นคนเครียด เป็นโรคเครียด

ในที่สุดแล้ว พล.ต.ต.อุทัย ก็เลยตั้งคณะกรรมการสอบสวน ย้ายตำรวจคนนี้เข้ามาประจำอยู่ที่กองบังคับการตำรวจจังหวัดเพชรบุรี แล้วก็ตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเรื่องวินัย ว่าจริงไหม ถ้าจริง ข่มขู่จริง จะต้องลงโทษไป


แต่ประเด็นที่ผมต้องการจะชี้ให้เห็นในเรื่องนี้ ก็คือว่า เป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับประชาชนนะ ถ้าตำรวจกับอัยการทะเลาะกัน บางคนก็บอกว่าดีสิ มันทะเลาะกัน จะได้ดี แต่ในที่สุดแล้วคนที่ซวยคือประชาชน คือเท่าที่ผมสังเกตมา ตำรวจจะส่งฟ้องอัยการทุกเรื่อง ทั้งๆ ที่บางเรื่องตำรวจสามารถที่จะสั่งไม่ฟ้องได้ แต่ตำรวจกลับผ่องทุกเรื่องไปที่อัยการ อัยการก็รับเรื่องมา ก็จะดูเรื่อง ถ้าเรื่องบางเรื่องไม่สามารถจะสั่งฟ้องได้เพราะขาดหลักฐาน ก็จะส่งกลับมาให้ตำรวจ ส่งจดหมายมาให้สอบเพิ่มเติมนะ สอบข้อที่หนึ่ง ข้อที่สอง ข้อที่สาม ข้อที่สี่ ข้อที่ห้า เพื่อให้สำนวนมันสมบูรณ์ เพื่อที่อัยการจะได้เอาขึ้นไปฟ้องได้ ในขณะเดียวกัน ถามว่ามีการร่วมมือกันไหมระหว่างตำรวจกับอัยการ ? มีและไม่มี จำเลยหลายคนที่ผมรู้จักเคยวิ่งตำรวจ ตำรวจก็ทำสำนวนให้อ่อน หรือสั่งไม่ฟ้อง พอไปถึงอัยการ ตำรวจก็จะบอกให้คุณไปวิ่งอัยการเองนะ หรือบางทีตำรวจสั่งฟ้อง จำเลยเกิดรู้จักกับอัยการ อัยการก็บอกว่า เดี๋ยวผมสั่งไม่ฟ้องให้ เมื่อสั่งไม่ฟ้อง เรื่องก็จะส่งกลับมาที่ตำรวจ ตำรวจก็ต้องมาวินิจฉัยว่าที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ทั้งๆ ที่ตำรวจสั่งฟ้องนั้น มีเหตุผลไหม ถ้าไม่มีเหตุผล ตำรวจก็จะค้าน ไม่เห็นด้วย ถ้าไม่เห็นด้วย เรื่องกลับไปที่อัยการ คราวนี้อัยการสูงสุดจะเป็นคนตัดสินใจแล้ว ว่าที่ตำรวจค้าน กับที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ใครมีน้ำหนักมากกว่ากัน ถ้าอัยการมีน้ำหนักมากกว่า อัยการสูงสุดก็จะบอกว่า เอาล่ะ ที่อัยการสั่งไม่ฟ้องนั้น ถูกต้องแล้ว นี่คือกระบวนการ/ขั้นตอน

แต่ถ้าตำรวจกับอัยการทะเลาะกัน ท่านผู้ชมครับ ประชาชนยืนอยู่ตรงกลาง ไม่มีความสุข ไม่รู้ว่าหวยจะออกที่ใคร และผมคิดว่าบทบาทหน้าที่ของตำรวจและอัยการ ต้องทำงานร่วมกัน และที่สำคัญที่สุด ผมก็เรียนท่าน พล.ต.ต.อุทัย ไปแล้วว่าบุคลากรตำรวจเป็นต้นน้ำ กระบวนการยุติธรรมต้นน้ำเลย ต้นน้ำแรกสุด จะดำเนินคดีหรือไม่ดำเนินคดี อยู่ที่ตำรวจ เพราะฉะนั้นแล้ว คนที่เป็นพนักงานสอบสวนนั้น จะต้องอดทน ต้องมีความรู้ ต้องพิจารณาหลักฐานอย่างรอบคอบ

เหมือนกับที่ตำรวจนี่ส่งเรื่องไปที่อัยการ แล้วอัยการบอกว่ายังขาดอีกข้อหาหนึ่งนะ ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็แสดงว่าตำรวจไม่รอบคอบ ถ้าไม่รอบคอบ ถ้าเป็นโจรผู้ร้ายที่ทำคดีร้ายแรงขึ้นมา แล้วเกิดไม่รอบคอบตรงนั้น แล้วถ้าอัยการเล่นด้วย เห็นด้วยว่าไม่เป็นไร หลักฐานพอแล้ว แล้วจำเลยก็ไปหลุดที่ศาล คนที่ซวยคือประชาชนใช่ไหมท่านผู้ชม

เพราะฉะนั้นแล้ว ความร่วมมือซึ่งกันและกันระหว่างตำรวจกับอัยการ เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ผมก็ไม่ได้ชอบอัยการนะ นี่ผมมีเรื่องฟ้องอัยการอยู่ ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แต่ขณะนี้ งานนี้ ผมต้องยืนยันว่าตำรวจผิด แล้วผมก็ได้ข่าวมาว่าท่านผู้การจังหวัดเพชรบุรีท่านจะเอาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ท่านอาจจะพูดพลาดไปว่า ตำรวจคนนี้มีโรค อาการโรคซึมเศร้า ไบโพลาร์ แต่จริงๆ ท่านอธิบายเพิ่มเติมว่า ผมพูดผิดไป จริงๆ แล้วตำรวจคนนี้เครียด เครียดเพราะว่าไปได้ผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นแฟน แล้วเกิดมีภาวการณ์ความขัดแย้งกันอย่างหนัก เพราะฉะนั้นตำรวจอย่างนี้ ร.ต.อ.ภาณุวัตร เท่าที่ทราบ ผู้การจังหวัดเพชรบุรี ไม่ให้เป็นพนักงานสอบสวนอีกต่อไปแล้ว ย้ายข้ามสายเลย อาจจะไปอยู่ปราบปราม อาจจะอยู่ฝ่ายสายสืบ หรืออยู่จราจร เพราะถ้ายังอยู่พนักงานสอบสวน ก็ต้องเจออัยการทุกวัน และอัยการเขาถือว่านี่ตำรวจมาข่มขู่ เขาไม่ยอม นี่คือเรื่องที่ผมอยากจะเล่าให้ท่านผู้ชมฟัง มันเป็นเรื่องเล็กๆ ก็จริง แต่มันสะท้อนให้เห็นข้อเท็จจริงหลายประการ หลายประการเลย


ท่านผู้ชมครับ วันนี้เราจะไปไกลหน่อย ไปที่สหราชอาณาจักรอังกฤษ วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ท่านผู้ชมคงเคยได้ข่าวนี้มาแล้วนะครับ เจ้าชายแอนดรูว์ พระโอรสองค์รองของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ถูกฟ้องร้องกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศเด็ก แล้วก็มีการตอบโต้กันไปตอบโต้กันมา จนในที่สุดแล้ว ทนความกดดันไม่ไหว ก็เลยตัดสินใจที่จะเข้าไปเจรจากับคนฟ้องร้อง ชื่อ นางเวอร์จิเนีย โรเบิร์ต ตอนนี้เธอเปลี่ยนนามสกุลเป็น จุฟเฟรย์ และเข้าใจว่าคงจะมีครอบครัวแล้ว


ก็คือว่า เจ้าชายแอนดรูว์ ไปตกลงบรรลุข้อตกลงยุติการฟ้องร้องคดีล่วงละเมิดทางเพศกับนาง จะมีการจ่ายเงินเดือนจำนวนหนึ่ง ซึ่งทางสื่อมวลชนหลายๆ สายก็สืบมาว่าน่าจะอยู่ในวงเงินประมาณ 526 ล้านบาท ก็ประมาณเกือบๆ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่เปิดเผยว่ามีมูลค่าเท่าใด แต่ก็เช็กมาแล้วว่าน่าจะประมาณนั้น เพื่อให้ยุติคดี เพื่อไม่ให้มีความเคลื่อนไหวที่จะทำให้ราชวงศ์อังกฤษต้องประสบกับความอับอายต่อหน้าสาธารณะในระหว่างพิจารณาคดี

ในหนังสือที่ส่งถึงผู้พิพากษาท่านหนึ่งในมหานครนิวยอร์ก ในนามของทั้งสองฝ่าย ทนายความของนางจุฟเฟรย์ หรือ เวอร์จิเนีย จุฟเฟรย์ บอกว่า ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงแล้ว แต่ไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดต่อศาล ก็คือพูดง่ายๆ ว่า ในที่สุดแล้ว ก็คงจะเป็นเงินของราชวงศ์อังกฤษนั่นล่ะที่จะต้องเอามาจ่ายเพื่อปิดคดี


ตอนนั้นที่เธอมีการถูกล่วงละเมิดทางเพศ มีเพศสัมพันธ์กับเจ้าชายแอนดรูว์ ตอนนั้นเธออายุเพียง 17 ปี ในสหรัฐอเมริกาถือว่ายังเป็นผู้เยาว์ที่อยู่ใต้กฎหมาย หลังจากเธอได้พบปะกับเจ้าชายแอนดรูว์ โดยผ่านเศรษฐี นักการเงินของสหรัฐฯ ที่ชื่อ เจฟฟรีย์ เอปสตีน

เจฟฟรีย์ เอปสตีน เป็นมหาเศรษฐนีคนหนึ่ง ชอบจัดงานปาร์ตี้ใหญ่ๆ แล้วเขาจะมีผู้ช่วยมือขวาคนหนึ่ง ชื่อ กิเลน แม็กซ์เวล


กิเลน แม็กซ์เวล คือใคร ? เธอคือลูกสาวของ โรเบิร์ต แม็กซ์เวล ซึ่งเป็นเจ้าพ่อสื่อมวลชน ยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง ที่อังกฤษ แล้วนายโรเบิร์ต แม็กซ์เวล ก็ว่ากันว่าเขาตกน้ำตายระหว่างที่นั่งเรือยอชต์ ซึ่งในหลายๆ แหล่งข่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางลับก็บอกว่า โรเบิร์ต แม็กซ์เวล ถูกลอบสังหารตาย

เจฟฟรีย์ เอปสตีน ถูกตำรวจจับข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ และข้อหาจัดหาผู้หญิงให้ เจฟฟรีย์ เอปสตีน ถูกจำคุกอยู่ในศาล แล้วในที่สุดทนความอับอายขายหน้าไม่ได้ ก็เลยฆ่าตัวตาย เป็นข้อหาคดีก่ออาชญากรรมทางเพศ


เจฟฟรีย์ เอปสตีน เป็นคนที่รวย อยู่ในครอบครัวชาวยิวที่มีฐานะ ก่อนที่เขาจะมาเป็นนักธุรกิจ เขาเคยสอนหนังสือในวิชาฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ในโรงเรียนมัธยมดาลตัน ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเกาะแมนฮัตตัน ระหว่างที่สอนหนังสืออยู่นั้น ครูใหญ่ในสมัยนั้นมีชื่อว่า โดนัลด์ บาร์ ซึ่งเป็นพ่อของวิลเลียม บาร์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสมัยนายโดนัลด์ ทรัมป์

เจฟฟรีย์ ไม่ได้จบอุดมศึกษาเลย แต่โดนัลด์ บาร์ ซึ่งเป็นครูใหญ่ กลับจ้างเจฟฟรีย์ ทำงานเป็นครูสอนหนังสือด้วยวัยเพียงยี่สิบกว่าๆ ตอนที่เขาเป็นครูนั้น เจฟฟรีย์ ฉายแววของความฉลาด แรงบันดาลใจให้กับนักเรียนมาก จนผู้ปกครองประทับใจ พ่อของนักเรียนหญิงคนหนึ่งได้ดึงตัวไปทำงานที่ธนาคาร ก่อนที่เขาจะกระโดดมาเปิดบริษัทกองทุนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นฐานะ เส้นทางการเงินสายธุรกิจของเจฟฟรีย์ ก็โดดเด่น กลายเป็นอภิมหาเศรษฐีในเวลาต่อมา เขารวยขนาดถึงที่ว่าเขาสามารถซื้อเกาะส่วนตัวในทะเลแคริบเบียน 2 เกาะด้วยกัน มีคฤหาสน์เป็นล้านๆ เหรียญสหรัฐ ใจกลางเมืองนิวยอร์ก และที่ไมอามี มีเครื่องบินเจ๊ตส่วนตัว ความรวยระดับนี้ทำให้เจฟฟรีย์ เอปสตีน มีมิตรสหายรู้จักมากมาย แน่นอนที่สุด เจ้าชายแอนดรูว์ พระราชโอรสก็เป็นหนึ่งในมิตรสหาย ยังมีเจ้าชายของซาอุดีอาระเบีย แม้กระทั่งอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน


โดนัลด์ ทรัมป์ เองก็ยังเคยพูดถึงเจฟฟรีย์ เอปสตีน ว่า เป็นคนที่ดีมาก ใครอยู่ด้วยก็สนุก เป็นคนที่ชอบผู้หญิงสวยมากเหมือนกับผม และผู้หญิงสวยๆ หลายคนนั้น อายุน้อยด้วย ก็คือวัวแก่กินหญ้าอ่อน คำพูดของโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงถึงพฤติกรรมทางเพศของนักธุรกิจทรงอิทธิพลรายนี้ได้

เจฟฟรีย์ เอปสตีน ฆ่าตัวตายในวันที่ 10 สิงหาคม 2562 ในคุก ใช้ผ้าปูเตียงผูกคอตัวเองเสียชีวิต กลายเป็นข่าวใหญ่ในอเมริกาอย่างมาก เพราะว่าเจฟฟรีย์ ถูกขังระหว่างที่รอการพิจารณาคดี ในฐานะเป็นพ่อเล้า จัดหาเด็ก และล่วงละเมิดทางเพศเด็กผู้หญิง และยังมีภาพโป๊ของเด็กทั้งหลายอยู่ในครอบครองเป็นจำนวนมาก

กลับมาที่เจ้าชายแอนดรูว์ หลังจากมีข้อตกลงนอกศาลแล้ว เจ้าชายแอนดรูว์ จะไม่ถูกตั้งข้อหาอาญาใดๆ รวมทั้งจะไม่นำคดีแพ่งเข้าสู่การพิจารณาของคณะลูกขุน หมายความว่า เจ้าชายแอนดรูว์ อายุ 61 พรรษา จะไม่ถูกสอบปากคำโดยบรรดาทนายความของเวอร์จิเนีย จุฟเฟรย์ อีกต่อไป เดิมทีทนายความพวกนี้มีกำหนดที่จะเดินทางมากรุงลอนดอน เดือนมีนาคม 2565 เพื่อมาสอบปากคำ แล้วก็จะเป็นเรื่องราวฉาวโฉ่มากจากการสอบปากคำ และข่าวจะต้องหลุดออกมาในหน้าหนังสือพิมพ์

ประเด็นเกี่ยวกับเจ้าชายแอนดรูว์ ได้สร้างความด่างพร้อยให้กับราชวงศ์อังกฤษ และบทบังการฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี หรือการครองราชสมบัติครบรอบแพลทินัมของมารดาของเขาเอง ก็คือ ควีนเอลิซาเบธที่ 2


ก่อนหน้านั้น พฤติกรรมของเจ้าชายแอนดรูว์ ก็เลยถูกทางสำนักราชวังลงโทษด้วยการถอดยศทางทหาร ให้ยุติบทบาททางการกุศล

สำหรับเวอร์จิเนีย จุฟเฟรย์ ขณะนี้อายุ 38 ปี กล่าวหาว่าเธอตกเป็นเหยื่อการค้าประเวณีของมหาเศรษฐี เจฟฟรีย์ เอปสตีน ผู้ทำตัวเป็นนายหน้าจัดหาเด็กสาวมาให้บริการกับคนดัง และเธอถูกล่วงละเมิดทางเพศเมื่อเดือนมีนาคม 2544 ซึ่งคิดเป็น ค.ศ. ก็ประมาณยี่สิบเอ็ดปีที่แล้ว


เธอยื่นฟ้องเจ้าชายแอนดรูว์ เมื่อประมาณปี 2564 (ปีที่แล้ว) เรียกค่าเสียหายที่ไม่เจาะจงภายใต้กฎหมาย The Child Victimes' Act ของนิวยอร์ก เธออ้างว่าเธอเป็นเหยื่อของการค้าประเวณีของพระองค์ผ่านการจัดหาของเอปสตีน และกิเลน แม็กซ์เวล ซึ่งเป็นอดีตคนรักของเอปสตีน

30 ธันวาคม ปีที่แล้ว ก่อนสิ้นปี คณะลูกขุนสหรัฐฯ ลงความเห็นว่านางกิเลน แม็กซ์เวล สาวสังคมชั้นสูงชาวอังกฤษ และอดีตคนรักของเจฟฟรีย์ เอปสตีน มีความผิดฐานจัดหาและค้าประเวณีเยาวชนหญิง เพื่อให้นายเอปสตีน ล่วงละเมิดทางเพศ เธอผิด 5 กระทง หนึ่ง ค้าประเวณีผู้เยาว์ ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 40 ปี กระทงที่สอง จัดหาผู้เยาว์โดยเจตนาเพื่อกิจกรรมทางเพศที่ผิดกฎหมาย มีโทษจำคุก 10 ปี กระทงที่สาม สมรู้ร่วมคิดในการจัดหาผู้เยาว์โดยมีเจตนาเพื่อกิจกรรมทางเพศที่ผิดกฎหมาย มีโทษจำคุกสูงสุดอีก 8 ปี กระทงที่สี่ สมคบคิดเพื่อล่อลวงผู้เยาว์ให้เดินทางไปทำกิจกรรมทางเพศที่ผิดกฎหมาย มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ข้อห้า มีส่วนสมรู้ร่วมคิดในการค้าประเวณีผู้เยาว์ ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี โดยที่นางแม็กซ์เวล ได้รับการตัดสินว่าไม่มีความผิด 1 กระทง ก็คือ การล่อลวงผู้เยาว์ให้เดินทางไปทำกิจกรรมทางเพศที่ผิดกฎหมาย


สำนักข่าวรายงานว่า ด้วยข้อหาต่างๆ และความผิดที่คณะลูกขุนชี้มาแล้วนั้น อาจจะทำให้นางแม็กซ์เวล ต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในคุก หลังจากทราบคำตัดสินไม่นาน ทีมกฎหมายนางแม็กซ์เวล กำลังดำเนินการเพื่อยื่นอุทธรณ์คดีต่อไป

นางแม็กซ์เวล เป็นเพื่อนร่วมงานเก่าแก่และเป็นอดีตคู่รักของนายเอปสตีน ถูกควบคุมตัวอยู่ในคุกนับตั้งแต่เธอถูกจับกุมตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ส่วนเอปสตีน นั้น ฆ่าตัวตายในปี 2562 ฆ่าตัวตายก่อน นางแม็กซ์เวล มีเครือข่ายอยู่ในสังคมไฮโซ เป็นผู้ที่แนะนำนายเอปสตีน ได้รู้จักกับบุคคลทรงอิทธิพลมากมาย เช่น อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก


ผมจะเล่าให้ฟังว่ากิเลน แม็กซ์เวล คือใคร เธอเป็นลูกสาวนายเอียน โรเบิร์ต แม็กซ์เวล ชาวยิวที่เกิดในเชคโกสโลวาเกีย พ่อของเธอเคยเป็นอดีต ส.ส. อังกฤษ อดีตเป็นเจ้าของเครือหนังสือพิมพ์อย่าง เดอะ มิเรอร์ รวมไปจนถึงหนังสือพิมพ์ Macmillan หนังสือพิมพ์ที่พิมพ์หนังสือเล่มขาย ที่ในอดีตพิมพ์ textbook หนังสือเรียนขาย เบื้องหลังเขาลึกลับซับซ้อนมาก และว่ากันว่าเขาเป็นสปาย ซึ่งการที่เขาจมน้ำตายนั้น ในวงการ ในส่วนลึกก็น่าจะเชื่อได้ว่าเขาถูกฆ่าตายจากกิจกรรมพิเศษของการเป็นสปาย


นี่คือเรื่องเล่าที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากสหราชอาณาจักร หรือประเทศอังกฤษ ให้เห็นว่าอาชญากรรมนั้นเกิดขึ้นได้ทุกจุด และเป็นบทเตือนใจของคนที่อายุมากแล้วและมีอำนาจวาสนาในแผ่นดิน อย่าได้ไปล่วงละเมิดทางเพศกับใครก็ตาม เมืองไทยนั้นกฎหมายก็รุนแรงมากๆ ในอดีตก็มีให้เห็นกันชัดเจนว่าผู้ใหญ่ในบ้านเราที่ล่วงละเมิดทางเพศแล้วต้องติดคุกติดตะรางไป เป็นเรื่องเป็นราว ผมจะไม่เอ่ยชื่อก็แล้วกันนะครับ มีอยู่หลายคน

เมื่อวันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ประมาณสามวันที่ผ่านมา ทักษิณ ชินวัตร กับ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ดร.ศุภวุฒิ เป็นอดีตกรรมการผู้จัดการ หรือเป็นผู้บริหารระดับอาวุโสของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ภัทรธนกิจ มาก่อน และสรรค์ชัย เตียวประเสริฐกุล ซึ่งสรรค์ชัย เตียวประเสริฐกุล เป็นคนที่เคยทำงานกับทักษิณ ตั้งแต่ปี 2538 เริ่มงานที่ IBC Cable เป็นแห่งแรก แล้วตอนหลังก็ย้ายมาสู่ ชินวัตร ไดเร็กทอรีส์ เอามาดูเรื่องงานการตลาดให้ AIS และจบลงด้วยการเข้าไปบริหาร ITV ก็คือสรุปง่ายๆ ว่า ทั้งศุภวุฒิ และทั้งสรรค์ชัย ก็เป็นคนที่ใกล้ชิดกับคุณทักษิณ ชินวัตร มาก


ทั้งสามคนนี้ได้ออกรายการ Care Talk x Care หัวข้อ "จุดสิ้นสุดรัฐบาลตู่ พลิกเกมสู้ของแพง" ในแอปพลิเคชัน ClubHouse ที่น่าสนใจคือ ตอนหนึ่งมีคนถามถึงลูกน้องเก่าของนายทักษิณ ที่ชื่อแรมโบ้ หรือนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไปตั้งพรรคใหม่ในชื่อ "รวมไทยสร้างชาติ" เพื่อเป็นฐานการเมืองรองรับการเป็นนายกฯ ในสมัยหน้าของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีคนถามว่าพี่โทนี่ คิดอย่างไร

โทนี่ วู้ดซัม หรือที่ผมเรียกว่า โทนี่ โลนซัม (Lonesome) ก็ตอบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำตัวเหมือนพญาหงส์ ไม่กล้าลงหนองเล็ก ปล่อยให้กิ้งกือ ไส้เดือน แบบแรมโบ้เลื้อยไปตั้งพรรคใหม่ แรมโบ้ ตัวเบ้อเริ่มเลยนะ แต่ในสายตาทักษิณ เป็นกิ้งกือ ไส้เดือนไปเสียแล้ว มีแต่คำว่าสร้างโน่นสร้างนี่ ถามหน่อยเถอะ พวกคุณทำชาติพังแล้วใช่ไหมถึงต้องมาสร้าง


แล้วก็มีคนถามเรื่องแรมโบ้ ว่า ทำไมแต่ก่อนรักทักษิณ แล้วตอนนี้ย้ายมาอยู่ฝั่งรัฐบาล โทนี่ โลนซัม บอกว่า ผมไม่ได้พูดถึงนะ แต่เดี๋ยวจะเล่าเรื่องสนุกให้ฟัง แล้วโทนี่ โลนซัม ก็เลยบอกว่า เมื่อก่อนผมกับโอ๊คเลี้ยงหมาไว้ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า 50 ตัว (โอ้โห เลี้ยงเยอะมากนะ) ปรากฏว่าทุกตัวเราไปเล่นก็ไม่มีปัญหา แต่มีตัวหนึ่ง ชื่อ แม็กซ์ มันชอบมากัดเจ้าของตลอด ปรากฏว่าผมมีคนให้อาหารหมาคนหนึ่ง แม็กซ์ มันชอบมาก มาเลียตีนประจบเขา ประจบเป็นพิเศษเพราะกลัวไม่ได้กิน แต่ตอนหลังผมเปลี่ยนคนให้อาหาร พอมีคนให้อาหารหมาใหม่ มันก็มาเลียตีนเขาอีก ประจบเขาอีก เพราะอยากกิน ประจบหมด แต่กลับชอบมาแว้งกัดเจ้าของ ที่เล่าให้ฟังเพื่อจะบอกว่า เราเลี้ยงมาทุกตัวแต่ไม่ใช่ทุกตัวจะรักเจ้าของ

ก็เข้าใจดีนะท่านผู้ชม อย่างน้อยที่สุดแรมโบ้ เสกสกล ก็เป็นหนอน เป็นแมลง เป็นกิ้งกือ ในสถานภาพหนึ่ง แล้วก็เป็นหมาที่ชอบแว้งกัดเจ้าของอีกสถานภาพหนึ่ง แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว คนที่ฟังทั่วไปอาจจะคิดว่า เออ จริงนะ แรมโบ้ เสกสกล แต่ก่อนอยู่กับทักษิณ เป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จู่ๆ ก็กลายมาอยู่ข้างทหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พอเข้ามาอยู่พรรคพลังประชารัฐ ก็แตกตัวออกมาสร้างพรรคใหม่ "รวมไทยสร้างชาติ" คือเดี๋ยวจะอยู่ฝั่งนี้ที ฝั่งโน้นที เป็นลูกน้องที่ไม่จงรักภักดี


ท่านผู้ชมครับ ถ้าคิดเพียงแค่นี้ มันก็เหมือนกับการตอบโต้ด้วยวาทกรรมที่ฟังแล้ว แรมโบ้ เสกสกล ก็คงจะแสบๆ คันๆ แต่ถ้าคิดลึกลงไปแล้ว อ่านความระหว่างบรรทัด ทำให้ผมยืนยันในข้อคิดของผมมาตั้งนานแล้วว่าสำหรับทักษิณแล้ว ลูกน้องเขาก็คือหมาฝูงหนึ่งที่เขาเลี้ยงเอาไว้ จนทุกวันนี้ จากวันนั้นถึงวันนี้ ทักษิณ คือเจ้าของพรรคเพื่อไทย ไม่เปลี่ยนแปลง เปลี่ยนจากชื่อพรรคไทยรักไทย มาเป็นพรรคพลังประชาชน มาเป็นพรรคเพื่อไทย แต่ในที่สุดแล้ว คนที่สั่งงานทุกอย่าง อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง ก็คือทักษิณ มีคนที่สนิทกับทักษิณ ชินวัตร มาก เคยพูดให้ผมฟังว่า ทักษิณ ไม่อยากเล่นการเมืองแล้ว อยากกลับบ้าน อะไรก็ไม่สนใจ อยากมาเลี้ยงหลาน อยู่กับหลาน ตามประสาคนอายุมากแล้ว ทักษิณ อายุน้อยกว่าผม 2 ปี เขาเกิดปี 2492 เขาอ่อนกว่าผม 2 ปี ปีนี้ก็น่าจะ 73

ผมฟังแล้วก็รู้สึกว่าน่าเห็นใจนะ แล้วคนที่คุยกับผมอย่างสนิทสนมก็ถามว่า มีทางไหนไหมที่ทักษิณจะกลับมาได้ ทักษิณ อยากกลับบ้านมาก ผมก็บอกเหมือนกัน เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังวิธีกลับบ้านของทักษิณ ควรจะกลับอย่างไร ซึ่งก็จะเป็นอีกหัวข้อหนึ่งที่ผมจะพูดกับท่านผู้ชมใน 1-2 อาทิตย์ข้างหน้านี้ ว่าทักษิณ ควรจะกลับบ้านอย่างไร ผมมีทางออกให้แล้ว


แต่ประเด็นที่ผมจะพูดวันนี้ก็คือ ผมไม่เชื่อว่าทักษิณ ต้องการจะกลับมาอยู่กับหลาน ไม่สนใจเรื่องอะไรทั้งสิ้น นี่เป็นสิ่งที่ทักษิณพูดมาตลอดว่าไม่เคยสนใจการเมือง จะถอนตัว โน่นนี่นั่น แต่ในที่สุดแล้วรูปทรงที่ทักษิณทำอยู่ ก็คือความเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย ความเป็นเจ้าของพรรคพลังประชาชน สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีก็เพราะทักษิณให้เป็น สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีก็เพราะว่าทักษิณให้เป็น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เพราะทักษิณให้เป็น สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็เพราะทักษิณให้เป็น นายแพทย์ชลน่าน เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็เพราะทักษิณให้เป็น เพราะฉะนั้นแล้วทักษิณเล่นการเมืองมาตลอด ไม่ได้หยุดไม่ได้ยั้งเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วพรรคเพื่อไทยก็เป็นพรรคของครอบครัวชินวัตร เหมือนกับพรรคเพื่อไทย ฝูง ส.ส. ก็คือหมาฝูงหนึ่งที่ทักษิณเลี้ยงไว้ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเช่นกัน อ๋อ แน่นอนที่สุด ก็จะต้องมีคนอย่างเสกสกล แรมโบ้ ซึ่งเป็นหมาที่ชอบเลียเท้าของคนที่เอาอาหารให้ นัยก็คือว่า ทักษิณอาจจะไม่ได้เอาเงินเอาทองให้แรมโบ้ แรมโบ้ก็เลยต้องมาหาคนที่เอาเงินเอาทองให้ เอาล่ะ ไม่เป็นไร นั่นคืออุปมาอุปไมยที่ทักษิณต้องการจะตอบโต้เสกสกล อัตถาวงศ์

แต่ที่สำคัญที่สุด เมื่อผมมาดูย้อนหลังแล้ว ผมเจอคุณหญิงหน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ลาออกจากพรรคเพื่อไทย อาจารย์โภคิน พลกุล ที่ลาออกจากพรรคเพื่อไทย วัฒนา เมืองสุข ที่ลาออกจากพรรคเพื่อไทย มานั่งสนทนาธรรมกับผมหลายเรื่อง


สรุป ทั้งสามคนบอกว่าเขาทนอยู่พรรคเพื่อไทยต่อไม่ไหว เพราะว่าไม่มีอิสระในความคิดเลย ทุกอย่างจะต้องฟังคำพูดของทักษิณ ชินวัตร ถ้าทักษิณจะเอาอย่างนี้ ก็ต้องเอาอย่างนี้ ทักษิณบอกว่า หญิงหน่อย มีตำแหน่งนี้ ก็มีไป ทักษิณบอกเอาเฉลิม อยู่บำรุง มาแทน คือพูดง่ายๆ ว่าเป็นพรรคของทักษิณ ชินวัตร ไม่ใช่พรรคการเมือง ไม่ใช่พรรคฝ่ายค้าน ขึ้นอยู่กับบทบาทที่ทักษิณอยากให้พรรคนี้เล่นในบทบาทไหน ก็เลยทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าการเมืองเมืองไทยจริงๆ มันมีอยู่แค่นี้จริงๆ ท่านผู้ชมที่เป็นแฟนทักษิณ ต้องพยายามตั้งใจฟังนิดหนึ่ง อย่าโกรธผม ผมเอาความจริงมาพูด ทักษิณเข้ามาเกี่ยวข้อง ทักษิณไม่ได้ยุ่งอะไรนอกจากสั่งพรรคให้ทำทางโน้นทางนี้ ทางนั้น

ท่านผู้ชมจำได้ไหม เขาเป็นคนพูดเองว่าเขาจะกลับบ้านแล้ว เมื่อไม่กี่เดือนมานี่เอง เพราะเขามีความมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคของเขาจะมาแบบแลนด์สไลด์ ซึ่งจะกลับมาอย่างไร นั่นก็คืออีกเรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟัง แต่เมื่อดูทักษิณ ซึ่งเป็นเจ้าของพรรค ผมอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบกับกลุ่ม 3 ป. ประยุทธ์ อนุพงษ์ ประวิตร ซึ่งก็เป็นพี่น้อง 3 ป. ก็เป็นเจ้าของการเมือง ณ วันนี้ ก็คือว่าเป็นเจ้าของพรรคพลังประชารัฐ จะอย่างไรก็ตาม ความแตกแยกระหว่างธรรมนัส กับ ประยุทธ์ มันก็เหมือนกับความแตกแยกของพรรคอื่นๆ ที่มีอยู่ แต่ทั้ง 3 ป. ก็เป็นเจ้าของทางการเมือง ณ วันนี้ เหมือนกับทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทยในวันนั้น ตลอดจนถึงวันนี้ ส่วน 3 ป. เป็นเจ้าของพรรคพลังประชารัฐ เป็นรัฐบาล ในเมื่อวานนี้ และตั้งใจจะเป็นต่อไปอีก อีกหลายๆ ปี จนกระทั่งถึงปี 2568


ต่างกันตรงไหน ระหว่าง 3 ป. กับ ทักษิณ ? ไม่ต่างกันเลย ไม่ต่าง เพราะล้วนแล้วแต่เป็นคนที่เห็นแก่ตัว ต้องการจะยึดอำนาจมา ต้องการต่อยอดอำนาจ ทุกอย่าง ทักษิณต้องการกลับมา แล้วก็ครองอำนาจต่อเหมือนเดิม อาจจะผ่านนอมินีอีกหลายคน ในขณะซึ่งยังกลับมาบ้านไม่ได้ เพราะฉะนั้นแล้ว ทักษิณ ชินวัตร กับกลุ่ม 3 ป. สำหรับผมแล้ว ไม่ต่างอะไรกันเลย ไม่ใช่ว่าผมมาวิพากษ์วิจารณ์ทักษิณ แล้วผมเชียร์ 3 ป. นะ ไม่ใช่ พฤติกรรมเหมือนกันหมด ประเทศนี้เป็นของกู 3 คน นายกฯ คุม สตง. ลุงป้อม คุม ป.ป.ช. บิ๊กป๊อก คุมมหาดไทย การเลือกตั้ง แล้วก็การเมืองส่วนท้องถิ่น มันจะต่างอะไรกัน ไม่ได้ต่างอะไรกันเลย ก็อาจจะเป็นอย่างที่ทักษิณว่าก็ได้ ว่า คนอย่างเสกสกล อัตถาวงศ์ ก็คือกิ้่งกือ ไส้เดือน ที่ปล่อยให้ไปตั้งพรรคเล็กๆ ขึ้นมาเพื่อชู พล.อ.ประยุทธ์ ก็อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ แต่ว่าคนอย่างเสกสกล ก็ไม่ใช่คนที่ทักษิณจะไปด้อยค่าเขา ให้เป็นเหมือนสัตว์เลี้ยง เป็นกิ้งกือ เป็นไส้เดือน หรือเป็นหมาที่ชอบกัดเจ้าของ ไม่ใช่

ก็ปรากฏว่า วันที่ 15 กุมภาพันธ์ เสกสกล ก็สวนหมัดกลับ บอกว่าตัวเองนั้นอาจจะเป็นหมาที่กัดเจ้าของ แต่ตัวเองนั้นเป็นหมาฉลาด เมื่อเจ้าของชั่ว ก็ต้องกัดคนชั่ว และยังพูดถึงเรื่องราวต่างๆ อีกเยอะแยะไปหมด


เรื่องนี้ผมต้องตำหนิทักษิณ ชินวัตร ที่ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ ท่านผู้ชมครับ คนเราถ้าเป็นถึงระดับผู้ใหญ่อย่างทักษิณ ชินวัตร ไม่สมควรจะมาทะเลาะกับเด็ก ถึงจะมีคนมาตั้งคำถาม ถามว่าเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้ เป็นคนอย่างไร ดีที่สุดที่ทักษิณจะตอบได้ คือว่า ผมไม่ขอพูดถึงเขาดีกว่า จบ แต่เมื่อมาพูดเช่นนี้แล้ว มันเกิดปัญหาเยอะ ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือว่า มันทำให้อดคิดไม่ได้ และทำให้มองอุปมาอุปไมยได้ อดคิดไม่ได้ก็คือว่า เอ๊ะ ถ้าผมจำไม่ผิด เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้ เป็นคนเอาทักษิณเข้ามาเล่นการเมืองที่พรรคพลังธรรม เมื่อ 2538 แล้วตอนหลังเสกสกล ก็ไปอยู่กับทักษิณ พรรคไทยรักไทย ความที่ขยันขันแข็งแล้วทำงานรับใช้ทักษิณ เจ้าของหมา อย่างเต็มที่ ก็เลยได้รางวัลในการลงพื้นที่ ส.ส.เขตที่โคราช ได้ตำแหน่ง ส.ส.มา

พอมีการเลือกตั้งอีกครั้ง แทนที่จะให้เสกสกล เป็นอีกครั้งหนึ่ง กลับเอาพื้นที่นั้นไปขายต่อให้คนอื่นเขา แล้วเอาชื่อเสกสกล ไปไว้ในบัญชีรายชื่อ อันดับ 73 อันนี้ต้องถือว่าเสกสกล เขาเป็นคนเอาทักษิณ เข้ามาเล่นการเมือง ไม่ใช่ทักษิณมีบุญคุณกับเสกสกล


และถ้าผมจำไม่ผิด ในช่วงที่การเมืองยังร้อนแรงและรุนแรงอยู่ เสกสกล ที่ขึ้นเวทีเสื้อแดงนั้น ขึ้นเพื่อช่วยทักษิณ ไปดูสิครับคลิปเก่าๆ เสกสกลออกมาชนให้ทักษิณเต็มตัว แล้วจะมาบอกว่าเสกสกลกัดทักษิณได้อย่างไร ก็ในเมื่อคุณก็อยู่ถึงต่างประเทศ คุณทอดทิ้งคนที่เคยร่วมรบกับคุณ และรบให้กับคุณ ทิ้งเขาไปเลย จะเอ่ยชื่อก็ได้ จตุพร พรหมพันธุ์ ไง รวมทั้งพวกเสื้อแดงหลายๆ เสื้อแดงที่สู้เพื่อคุณ แล้วก็ติดคุกติดตะราง ไม่ได้รับการช่วยเหลืออะไรเลย คุณจะช่วยเหลือก็เฉพาะคนบางคนที่มีประโยชน์กับคุณที่หนีไปอยู่ต่างประเทศ บางคนยังกินเงินเดือนคุณอยู่ แต่เสกสกลไม่ได้รับการช่วยเหลืออะไรเลย

เพราะฉะนั้น ธรรมชาติของมนุษย์ก็ต้องหาทางรอด เอาตัวรอดให้ได้ ที่ผมเป็นห่วง และผมเป็นห่วงนักการเมืองพรรคเพื่อไทย ขอประทานโทษด้วย อย่าโกรธผม ก็เพราะคุณทักษิณเขาบอกว่าเขาเป็นเจ้าของคอกหมา ผมก็เลยถามว่า ส.ส. พรรคเพื่อไทยทุกคน เป็นหมาอยู่ในคอกทักษิณหรือเปล่า โดยที่เจ้าของคอกชื่อทักษิณ

อย่างที่ผมบอกว่าทักษิณ ชินวัตร นั้น เกี่ยวข้องกับทุกเรื่องในการเมืองเมืองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน มาจนถึงพรรคเพื่อไทย เกี่ยวข้องกันหมดเลย สั่งการให้หมดทุกเรื่อง จะเอาใครเป็นนายกฯ ก็เอาได้ หมอชลน่าน ก็อาจจะเป็น ...


ถ้ามานัยอ่านความระหว่างบรรทัดที่ทักษิณพูดถึงเสกสกล อาจจะเป็นหมาตัวหนึ่งในคอกเช่นกัน ผมก็ไม่รู้นะ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมขอประทานโทษถ้าไปทำให้พวกท่านไม่สบายใจในเรื่องนี้ แต่มันอดคิดไม่ได้ เพราะว่าพวกท่านทั้งหลายมีสิทธิหรือไม่ที่จะตัดสินใจอะไรๆ ด้วยตัวพวกท่านกันเอง โดยที่ไม่ต้องถามไปที่ทักษิณ จู่ๆ วันดีคืนดีทักษิณก็เอาลูกสาวตัวเองขึ้นมาเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ถ้าสมมุติว่ามันดีจริง และมันฟังความเห็นจริง และมันเป็นพรรคหลักจริงๆ ที่ไม่ได้มีใครเป็นเจ้าของ แต่ประชาชนเป็นเจ้าของ ผมเชื่อว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ คงไม่ลาออกหรอก โภคิน พลกุล ก็คงไม่ลาออกหรอก หรือคนอย่างเช่น วัฒนา เมืองสุข ก็คงไม่ลาออกหรอก

เพราะฉะนั้นแล้ว จะมีคนอย่างคุณหญิงสุดารัตน์ หรือหลายๆ คนที่ออกมา บอกว่าทนไม่ไหวแล้ว เพราะว่าพรรคนี้อยู่ทักษิณ อยู่ที่เจ๊แดง อยู่ที่คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร พวกนี้คือหมาที่คอยให้เอาข้าวมาป้อน ตามนัยที่ทักษิณพูด ท่านผู้ชมครับ บางครั้งท่านผู้ชมรู้ไหมว่า ทำไมเราถึงต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์

ประวัติศาสตร์มี 2 แบบ ประวัติศาสตร์โบราณ คือเรื่องที่เกิดขึ้นมาเป็นร้อยๆ ปีแล้ว กับประวัติศาสตร์ร่วมสมัยที่เพิ่งเกิดขึ้น สิบปี ยี่สิบปี สามสิบปี ยังมีตัวตนคนอยู่ เป็นเพียงแต่ว่า ในบางครั้ง ในเวลาที่เรื่องนั้นเกิด ในเวลานั้นเราจะไม่รู้ข้อเท็จจริงมากน้อยเท่าไรนัก เวลาผ่านไปเราถึงรู้ว่าอะไรมันเกิดขึ้น ของแบบนี้จะต้องมาเล่าให้ฟังกัน บางคนพอเห็นเรื่องที่เคยลงเรื่องเกี่ยวกับทักษิณ ชินวัตร ก็บอกว่าเรื่องมันเก่ามาตั้งนานแล้ว ยังไม่ลืมเสียที ลืมไม่ได้ครับเรื่องพวกนี้ เพราะมันเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์และมันสะท้อนให้เห็นหลายอย่าง อย่างเช่นที่ผมจะพูดคราวนี้ คือ "ปฐมวิบากกรรม"

คนเรามีวิบากกรรม ท่านผู้ชม ผมกำลังพูดถึงปฐมวิบากกรรมของทักษิณ ชินวัตร เบื้องลึกเบื้องหลังการทำบุญประเทศเมื่อปี 2548 สิบหกปีที่แล้ว นานไปไหม บางคนที่เป็นแฟนทักษิณก็บอกว่า จำไปทำไม นานไปแล้ว

ท่านผู้ชมครับ ช่วงนี้มีมหกรรมโอลิมปิกที่ปักกิ่ง 2022 พิธีเปิด 4 กุมภาพันธ์ พิธีปิดในวันอาทิตย์นี้ (20 ก.พ.) ประมาณอีกสองวัน กรุงปักกิ่งถือเป็นเมืองแรกในโลกที่เป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ทั้งฤดูหนาวในปี 2565 และเธอก็จัดโอลิมปิกฤดูร้อน ปี 2551 เผอิญมีคนยกประเด็นขึ้นมาว่า มีคนๆ หนึ่งน่าจะได้เหรียญทองโอลิมปิก สร้างสถิติโลกได้มาเป็นผู้ชมโอลิมปิกที่ยาวนานที่สุดในโลก คนนั้นชื่อ ทักษิณ ชินวัตร เรามาทวนประวัติศาสตร์กันนิด


28 กุมภาพันธ์ 2551 ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศไทยหลังปฏิวัติรัฐประหาร โดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ในวันที่ 19 กันยายน 2549 ก็ไปมอบตัวศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีตกเป็นจำเลยในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ร่วมกับคุณหญิงพจมาน แล้วศาลก็อนุมัติประกันตัว

ระหว่างนั้นทั้งสองคนขออนุญาตศาลฎีกาฯ เดินทางออกนอกประเทศ ให้เหตุผลว่าเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในประเทศจีน และญี่ปุ่น ระบุวันเดินทาง วันที่ 31 กรกฎาคม ถึง 10 สิงหาคม ในรายละเอียด คุณหญิงพจมาน ให้เหตุผลขอเดินทางไปร่วมพิธีเปิดงานกีฬาโอลิมปิก ที่ประเทศจีน ในวันที่ 5-10 สิงหาคม 2551 เมื่อถึงวันนัดให้ไปรายงานตัวต่อศาลฯ ในวันที่ 11 สิงหาคม ทั้งสองคนไม่มารายงานตัวต่อศาลฯ แต่ไปปรากฏตัวที่กรุงลอนดอน ภาพนี้ถูกบันทึกเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2551 ที่ย่านกิลด์ฟอร์ด เมืองเซอร์เรย์ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน


ต่อมา วันที่ 21 ตุลาคม ผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ ก็ได้อ่านคำพิพากษาจำคุกทักษิณ 2 ปี คุณหญิงพจมาน ยกฟ้อง รวมระยะเวลาที่ทักษิณ ขอศาลไปดูกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่ง จนถึงปัจจุบัน คือ 13 ปี 6 เดือน

มาวันนี้ ผมขอย้อนอดีตเตือนความทรงจำให้ท่านผู้ชมบางท่านที่อาจจะโตไม่ทัน หลายคนอาจจะหลงลืมไปแล้วว่า ปฐมบทของการไม่มีแผ่นดินอยู่ ไม่ได้กลับบ้านเกิดมาเป็นเวลา 13 ปีกว่า ของทักษิณนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร

ท่านผู้ชมครับ หนึ่งในประเด็นที่เป็นจุดพลิกผันนั้น เกิดขึ้นเมื่อปี 2548 หรือสิบเจ็ดปีที่แล้ว ที่มาที่ไปเบื้องหลังเหตุการณ์ในวันนั้น มีข้อมูลเปิดเผยมาบ้างแล้ว แต่ยังมีเบื้องลึกเบื้องหลัง และเรื่องราวอีกหลายๆ อย่างที่แม้จะผ่านไปแล้วเกือบสิบเจ็ดปี แต่สังคมยังไม่เคยรู้

เผอิญหนึ่งในผู้รู้นั้น คือ คุณไพศาล พืชมงคล ซึ่งอดีตเป็นที่ปรึกษา พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีฯ กลาโหมสมัยทักษิณ คุณไพศาลได้เล่าให้ฟังผ่านเฟซบุ๊กของท่านว่า

"หลังม่านการเมืองไทย (22)

ทำบุญใหญ่ประเทศ เบื้องหลังปฐมวิบากกรรมของทักษิณ สู่กับดัก" ในรายละเอียด คุณไพศาล ระบุว่า เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2548 (สิบหกปีที่แล้ว) ประเทศไทยทำบุญใหญ่ประเทศในช่วงรอยต่อที่พระอาทิตย์โคจรเป็นสงกรานต์ปีสู่มหาสงกรานต์


โดยก่อนหน้านั้น คุณทักษิณ ได้รับพระเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณจากพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เป็นอันมาก ทำการสิ่งใดก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณสนับสนุนช่วยเหลือ และคุณทักษิณก็มีน้ำใจจงรักภักดี ทำการถวายสนองพระบรมราชปณิธานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานใหญ่เนื่องในมหามงคลสมัย พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี แม้กระทั่งยามต้องคดีซุกหุ้น พระอริยเจ้า คือหลวงตามหาบัว มีเมตตา ระดมสานุศิษย์ช่วยปกป้องคุ้มครองจนผ่านพ้นเภทภัยมาได้

ทำไมต้องทำบุญใหญ่ในตอนนั้น ? เพราะบรรดาโหรานุโหรทุกฝ่ายตรวจสอบชะตาเมืองตรงกันว่า แผ่นดินจะประสบวิกฤตใหญ่หลวง บ้านเมืองแตกแยก ระส่ำระสายจะบาดเจ็บล้มตายเดือดร้อนกันเป็นอันมาก จะเกิดความเปลี่ยนแปลงหลายประการในบ้านเมืองเป็นเวลาถึง 20 ปี (20 ปี จาก 2548 ก็เป็น 2568 นี่ยังปี 65 อีก 3 ปี ถึงจะพ้นคำทำนาย)

คุณไพศาล บอกว่า คุณไพศาลเป็นคนหนึ่งที่เสนอรายงานเรื่องนี้ รัฐบาลก็เลยกำหนดการทำบุญใหญ่ประเทศขึ้น หวังป้องกันวิกฤตร้ายแรงทั้งหลายเหล่านั้น คุณทักษิณก็เลยเสนอคณะรัฐมนตรีให้ตั้งคณะกรรมการจัดงานทำบุญใหญ่ โดยมี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นประธาน ทั้งนี้ เพราะคุณทักษิณ เห็นว่า พล.อ.ชวลิต เป็นผู้ใหญ่ในคณะรัฐมนตรี รู้การแผ่นดินหนักเบา ตื้นลึกหนาบาง รอบรู้ราชนิติ เป็นคในวังบูรพามาแต่ก่อน รู้จักบรรดาผู้ทรงปัญญาวิชาคุณเป็นอันมาก

พล.อ.ชวลิต หรือ ลุงจิ๋ว ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม คณะกรรมการประกอบด้วย ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทุกภาคส่วน ทุกคนตั้งใจมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ หวังให้ประเทศมีความสวัสดี มีการประชุมหลายครั้ง ซึ่งสรุปได้ความว่า งานทำบุญประเทศจะจัดขึ้นเป็น 2 พิธีการ คือ พิธีหลวง และพิธีราษฎร์

พิธีหลวง จะทำที่โบสถ์วัดพระแก้ว ในพระบรมมหาราชวัง โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเป็นองค์ประธาน ซึ่งเป็นพิธีขององค์พระประมุขของแผ่นดินในสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของประเทศ โดยมีเชื้อพระวงศ์ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พร้อมผู้แทนประชาชนที่สำคัญเข้าร่วมพิธี จะมีการเจริญมหาราชปริต พร้อมด้วย ธัมมจักรกัปปวัตนสูตร อาทิตตปริยายสูตร และพรหมชาลสูตร รัตนสูตร ซึ่งเป็นพระสูตรใหญ่ที่แสดงพระธรรมสำคัญ เพื่อความเป็นมงคล และความสวัสดีของประเทศชาติและราษฎร นั่นคือพิธีหลวงครับท่านผู้ชม

ส่วนพิธีราษฎร์ จะจัดที่ท้องสนามหลวง และศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัดพร้อมกัน เป็นพิธีสวดมนต์ของประชาชนไม่ยาวนัก โดยเมื่อนายกรัฐมนตรีเสร็จงานจากพิธีหลวงแล้ว ก็จะมาเป็นประธานพิธีราษฎร์ ที่ท้องสนามหลวง เสร็จพิธีแล้วก็จะมีการจุดพลุให้เป็นที่เบิกบานใจของคนทั้งหลาย

พล.อ.ชวลิต หรือ ลุงจิ๋ว เป็นคนรู้ราชนิติ รู้การแผ่นดิน และประสานงานอยู่กับฝ่ายราชสำนักเป็นประจำ ดังนั้น ความคิดเห็นและการประชุมแต่ละครั้ง ลุงจิ๋วก็ทำเรื่องถวายรายงานเป็นการภายในเป็นขั้นเป็นตอน จนกระทั่งได้ข้อยุติความทั้งหลายที่เตรียมการได้ทราบถึงเบื้องพระยุคลบาทตลอด คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงรับทราบตลอดแต่ละขั้นตอน แบบแผนพิธีการต่างๆ จึงดำเนินไปอย่างราบรื่น

คณะกรรมการประชุมเกือบจะครั้งสุดท้าย เหลือเพียงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็เกิดเหตุทางการเมืองขึ้น เพราะไม่รู้ว่ามีผีสางตนใดสิงใจทักษิณ จู่ๆ ก็ปลดลุงจิ๋วออกจากรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหม และปลดเสนาะ เทียนทอง ออกจากประธานวิป ก็เลยมีการตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมา

คณะกรรมการชุดใหม่คิดอ่านประการใดไม่อาจทราบเบื้องลึกเบื้องหลังได้ และในที่สุดได้สรุปการพิธีใหม่ หลังจากที่ของเก่า ลุงจิ๋วทำแล้วเสนอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รับทราบ พระองค์ท่านก็อนุมัติตามขั้นตอน ตอนนี้คณะกรรมการชุดใหม่ยกเลิกของเก่าหมด กำหนดให้เหลือพิธีการเดียว คือพิธีราษฎร์ที่ท้องสนามหลวง ไม่มีพิธีหลวงแล้ว แต่ให้คุณทักษิณ ชินวัตร เข้าไปทำพิธีสวดมนต์ถวายสักการะพระแก้วมรกตในพระบรมมหาราชวังก่อน


มีคนเป็นผู้แทนคณะกรรมการเป็นเจ้ากี้เจ้าการ ไปสั่งเจ้าหน้าที่กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง โดยอ้างฐานะที่รัฐบาลเป็นผู้บังคับบัญชาสำนักพระราชวังตามกฎหมายในขณะนั้น กำหนดการแต่งกายของคุณทักษิณ และคณะที่เข้าไปร่วมทำพิธีให้แต่งชุดลำลอง ที่ทำกันทั้งหมดนั้น ไม่เป็นไปตามหลัก "ไตรเพท" ในส่วนที่เป็นแบบพิธีกรรม และไม่เป็นไปตามแบบแผนพิธีพุทธมนต์ในทางพระพุทธศาสนาเลย ทำเหมือนคนไม่รู้ความ คิดอ่านทำการ หรือถ้าเป็นคนรู้ความ ก็ถือว่าเป็นการวางหมากวางกลที่พิลึกพิกลอยู่ แต่ก็ไม่มีใครทราบกำหนดแบบแผนพิธีเช่นนั้น

ในขณะที่การสั่งการเจ้าหน้าที่กองพิธีการสำนักพระราชวังที่ผิดเพี้ยนวิปริตประหนึ่งนายกรัฐมนตรี ทำตัวเสมอด้วยพระเจ้าแผ่นดิน ก็ไม่เป็นที่ต้องใจของชาวการราชพิธี ซึ่งแน่นอนว่า ย่อมเป็นข่าวคราวพูดคุยกันในพระราชสำนัก ซึ่งใครๆ ได้ยินได้ฟังได้รู้ก็ไม่มีใครที่จะเห็นด้วยหรือต้องใจ เพราะโบสถ์วัดพระแก้วนั้นไม่ใช่วัดวาอารามของชาวบ้าน แต่ถือเป็นห้องพระของพระเจ้าอยู่หัว เป็นวัดพิเศษของพระราชวงศ์จักรี ที่มีแต่พุทธาวาสเท่านั้น ในช่วงนั้นก็มีเสียงติเตียนว่ารัฐบาลล่วงพระราชอำนาจ ใช้โบสถ์วัดพระแก้วโดยไม่ขอรับพระบรมราชานุญาต ก็มีคนระดับรองนายกรัฐมนตรี คือ วิษณุ เครืองาม ออกมาเถียงฉอดๆ ว่าได้ขอรับพระบรมราชานุญาตแล้ว

พอเข้าไปดูหนังสือที่อ้างนั้น ก็ปรากฏว่า เอกสารลงวันที่ 8 เมษายน 2548 ท่านผู้ชมครับ เอกสารลงวันที่ 8 ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ในขณะที่วันจัดงาน 10 เมษายน 2548 แสดงให้เห็นว่าที่เตรียมการกันมาก่อนหน้านั้น เป็นการทำเอาเองตามอำเภอใจ ไม่ได้ขอรับพระบรมราชานุญาต และการมีหนังสือลักษณะนี้ ก็คือ พอรู้ว่าโดนติเตียนก็ทำหยังสือย้อนหลัง จะเป็นไปได้อย่างไรว่า หนังสือลงวันที่ 8 แล้วจะให้ถึงสำนักราชเลขาธิการก่อนการจัดงาน คือวันที่ 10 เมษายน 2548 ได้เลย

คนทั้งหลายได้ทราบความเรื่องนี้ก็จากการถ่ายทอดโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจที่รัฐบาลได้จัดขึ้น มีภาพทักษิณ ชินวัตร ใส่เสื้อลำลองเอวบ๊อบ เข้าไปนั่งเป็นประธานพิธีในโบสถ์วัดพระแก้ว และมาจัดพิธีการที่ท้องสนามหลวง เป็นการวิปริตอาเพศ ทั้งสื่อและประชาชนก็รุมกันด่าประณามคุณทักษิณเป็นการใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าคุณทักษิณเองก็คงตกใจ ที่เห็นปฏิกิริยาเช่นนั้น เพราะแบบแผนการทำพิธีนี้เป็นเรื่องของคณะกรรมการ เมื่อออกกำหนดการเสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรีก็ต้องไปตามกำหนดการนั้น เขาเตรียมการกันอย่างไร คุณทักษิณคงได้รับรู้เมื่อมีหมายกำหนดการแล้วตามปกติ

นับแต่บัดนั้น เสียงนินทาว่าขาน ว่า คุณทักษิณกำเริบเหลิงในอำนาจ ตั้งตนเสมอพระมหากษัตริย์ ก็ซุบซิบลือกันกระฉ่อนแผ่นดิน ประกอบทั้งบรรดาลิ่วล้อบริวารที่ประจบสอพลอก็เอาใจตอบโต้ แก้ต่างให้คุณทักษิณแบบบ้าๆ บอๆ ถึงขนาดเถียงกันว่าที่ทำนั้นถูกแล้ว ชอบแล้ว จึงลามปาม ก้าวล่วงไปกระทบสถาบันฯ ก็ยิ่งไปกันใหญ่

คุณไพศาล บอกว่า เมื่อทราบข่าวก็ตกใจเหมือนกัน และโดยไมตรีที่มีกันอยู่ ก็ได้บอกญาติผู้ใหญ่ของคุณทักษิณ ว่า ดูสถานการณ์แล้วคุณทักษิณน่าจะถูกใครวางยาเป็นแม่นมั่น อย่าไปหลงเชื่อพวกสอพลอ ให้รีบทำเรื่องขอรับพระราชทานอภัยโทษ และกราบบังคมทูลความทั้งหลายให้ทรงทราบตามความเป็นจริง ก็คงได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ญาติผู้ใหญ่ของคุณทักษิณก็บอกว่า จะบอกไปให้ แต่คุณไพศาลบอกว่า คุณทักษิณคงไม่เอากับคุณไพศาลหรอก เพราะเป็นพี่น้องคนเดียวที่เขาไม่นับถือ เพราะมัวแต่ออกความเห็นขัดขวางไปทุกเรื่องราว เรื่องก็เป็นไปตามกรรม


เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องเบื้องหลังการเมืองไทยที่เป็นปฐมเหตุให้คุณทักษิณถูกเกลียดชังจากคนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และบานปลายเถิดเทิงจนในที่สุดก็ทำให้คุณทักษิณถูกยึดอำนาจ

คุณไพศาลถามว่า มาถึงวันนี้ คุณทักษิณจะนึกคิดได้หรือยังว่าใครคือคนเจ้ากี้เจ้าการทำการเรื่องนี้ ? ก็คงจะรู้ว่ามีใครบ้าง และอาจพิจารณาได้ด้วยว่าคนผู้นี้รู้การแผ่นดินและราชนิติ รวมทั้งพิธีการทั้งหลาย หรือเป็นคนไร้เดียงสา เพราะถ้าหากเป็นผู้ไร้เดียงสา ก็ต้องโทษความโง่เขลาของคนไร้เดียงสานั้น และต้องโทษตัวเองที่ตาบอดไปหลงใช้คนไร้เดียงสา แต่ถ้าไม่ใช่ ก็ย่อมรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และอาจจะรู้ได้ว่าไอ้โม่งรายนี้เป็นใคร (ข่าวว่าน่าจะเป็นรองฯ วิษณุ เครืองาม ในขณะนั้น)

ส่วนชาวบ้านอย่างเราท่านก็รู้เห็นแต่เหตุการณ์ที่ปรากฏ แต่เบื้องลึกเบื้องลับเบื้องหลังที่ซ่อนอยู่นั้นยากที่จะล่วงรู้ ดังนั้น หลายครั้งประชาชนจึงตกเป็นเหยื่อให้แก่ความอำมหิตของพวกหน้าเนื้อใจเสือ! และผลจากการทำพิธีผิดแบบผิดแผน โดยเลยจิตคิดชั่ว ของคนบางพวกจึงทำให้การทำบุญประเทศครั้งนั้นไม่สัมฤทธิ์ผล ทำให้บังเกิดเป็นความสวัสดีแก่บ้านเมือง และเกิดเป็นความขัดแย้งต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ใกล้ 20 ปีเต็มทีแล้ว

นี่ก็เป็นเรื่องใหญ่ในตำนานที่ว่ากันว่า เป็นปฐมวิบากกรรมสำหรับทักษิณ จนต้องระเหเร่ร่อน ไร้แผ่นดินอยู่ และเดินทางดูกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่งแบบไม่ยอมกลับบ้านมาจนถึงทุกวันนี้

ท่านผู้ชมครับ เรื่องที่ผมจะพูดต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดตั้งแต่ผมพูดมา ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ไม่สำคัญเท่าเรื่องนี้ แล้วผมอยากจะพูดเรื่องนี้ให้เป็นหลักฐาน อยู่ในเฟซบุ๊ก อยู่ในยูทูป อยู่ใน Sondhi App เพื่อให้เห็นว่าในอนาคตถ้าเมืองไทยเป็นไปอย่างที่ผมทำนาย โดยไม่ได้แก้ไขปัญหา อุปสรรค หรือที่เกิดขึ้นในขณะนี้

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ได้พูดเรื่องนี้แล้ว และได้เตือนประเทศไทยเรื่องนี้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้เตือนคนที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายดอน ปรมัตถ์วินัย และตลอดจนได้เตือนพวก ส.ส. ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ว่าพวกคุณกำลังทำอะไรอยู่ ประเทศไทยกำลังจะฉิบหายอยู่เร็วๆ นี้แล้ว


ท่านผู้ชมครับ สองปีที่ผ่านมา ที่ท่านผู้ชมได้ฟังผม ผมพยายามอธิบายสภาพภูมิรัฐศาสตร์ของโลกที่เปลี่ยนไปแล้ว และกำลังเปลี่ยนแปลง ผมกำลังพูดบอกว่า ระเบียบของโลกมันกำลังเปลี่ยนแล้ว จากกาที่มีเจ้าโลกเพียงคนเดียว คืออเมริกา ตอนนี้เกิดมีคนไม่ยอมรับว่าอเมริกาเป็นเจ้าโลกเพียงคนเดียว แต่ยอมรับว่าโลกสามารถที่จะมีผู้มีอิทธิพลหลายๆ ขั้วได้ และเรื่องนี้ผมจะพูดอีกตอนหนึ่ง อาจจะไม่ใช่อาทิตย์นี้ ผมจะอธิบายเรื่องราวต่างๆ ท่านผู้ชมจะได้เข้าใจ

ผมออกรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" มาปะติดปะต่อ เอาประวัติศาสตร์ในอดีตมาบอกเล่า เอาเรื่องราวข่าวสารต่างๆ มาวิเคราะห์ อัปเดตสัปดาห์ต่อสัปดาห์ ผมจะเอาโปสเตอร์ของรายการขึ้นให้ดูว่าตั้งกี่ครั้งแล้ว รายการที่ผมทำ เป็นรายการที่เอาข้อมูลในเชิงลึกเชิงลับต่างๆ เกี่ยวกับยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก เอาข้อมูลของสำนักงานข่าวกรอง CIA ซึ่งสามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์ได้ ข้อมูลกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ข้อมูลทำเนียบขาว ข้อมูลเกี่ยวกับกระทรวงการต่างประเทศของประเทศต่างๆ มาบอกเล่าให้ท่านผู้ชมได้รับทราบ รวมทั้งการตั้งข้อสังเกต ไม่ว่าจะเป็น หนึ่ง ท่านผู้ชมจำได้ไหม ผมเป็นคนแรกที่ตั้งข้อสังเกตว่าการสร้างกงสุลสหรัฐฯ ขนาดมหึมาที่เชียงใหม่


การจับท่าเรือสัตหีบของเราเอาไปวางในแผนยุทธศาสตร์ทางการทหารของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ใช่ครับ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เอาท่าเรือสัตหีบของเราไปวางในยุทธศาสตร์ของเขาเลย

พูดถึงเรื่องฐานทัพอเมริกาบนเกาะดิเอโกการ์เซีย ในมหาสมุทรอินเดีย พูดถึงการซ้อมรบคอบร้าโกลด์ (Cobra Gold) เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมพูดถึงเบื้องหลังการแต่งตั้งทูตจีนในประเทศไทย นายหาน จื้อเฉียง การตั้งกลุ่ม QUAD-AUKUS ที่นำโดยสหรัฐฯ และพันธมิตร ความพยายามที่จะแทรกแซงการเมืองในพม่า การให้การสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์แก่ฝ่ายอองซาน ซูจี และกลุ่มชนกลุ่มน้อยของชาติตะวันตก ผมยกตัวอย่าง ตั้งข้อสังเกตของการที่รองผู้อำนวยการ CIA มาขอพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผมตั้งข้อสังเกตในเรื่องการเดินทางไปซาอุดีอาระเบียแบบปัจจุบันทันด่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ ผมพยายามบอกเล่าและอธิบายให้ฟังว่าเรื่องราวเหล่านี้มันเกี่ยวพันกันหมด มันเชื่อมโยงกันหมด เหมือนหมากรุกที่อเมริกาใช้เกมหมากรุกเดิน แล้วทางจีน รัสเซีย ใช้เกมหมากล้อม ขับเคี่ยวบดขยี้กันเพื่อช่วงชิงกันตลอดเวลา

ท่านผู้ชมครับ วันนี้ประเทศไทยกลายเป็น 1 ใน 5 หมากของยุทธศาสตร์ของอเมริกา ในยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก อเมริกาเล่นเกมหมากรุกของเขาด้วยการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกที่มีจุดมุ่งหมายสำคัญอย่างเดียวคือปิดกั้นประเทศจีน แต่ว่าภาษาที่ใช้อย่างสวยหรู คือ อินโด-แปซิฟิกที่เสรีได้เปิดกว้าง


เมื่อตอนที่ 54 เดือนตุลาคม 2563 ผมเอาเอกสารมาเปิดเผยให้ดูแล้วว่าสองหน่วยงานหลักในอเมริกา คือ หนึ่ง กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ สอง กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ขึ้นมา โดยมีรายละเอียดง่ายๆ ก็คือ เอาวิสัยทัศน์ของการจัดตั้งขบวนการอินโด-แปซิฟิกมา โดยใช้คำพูดที่สวยหรู แต่เบื้องหน้าเบื้องหลังจริงๆ ก็คือการที่จะดึงคนต่างๆ เข้ามาร่วมเพื่อเป็นพันธมิตรในการต้านจีน หลักการต่างๆ ที่กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ร่างออกมานั้น ก็เพื่อสร้างดุลอำนาจและปิดล้อมการขยายอิทธิพลของจีนผ่านยุทธศาสตร์ 1 แถบ 1 เส้นทาง โดยเน้นหลักการที่มักจะกลายเป็นข้อครหาของ 1 แถบ 1 เส้นทาง เสมอไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาพบังคับที่ประเทศใหญ่บังคับเอากับประเทศเล็ก กรณีพิพาทในน่านน้ำในพื้นที่ต่างๆ การไม่เคารพในอธิปไตยเหนือดินแดนของประเทศอื่นๆ

ในส่วนสรุปรายงานนี้ อเมริกาเรียกสถานการณ์ภูมิภาคนี้ว่า ผู้มาท้าทายสถานภาพเดิมของมหาอำนาจในปัจจุบัน

ท่านผู้ชมครับ ขณะที่เศรษฐกิจการทหารของจีนดำรงความเติบโตในระยะสั้น จีนก็แสวงหาความเป็นเจ้าแห่งภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และเป้าหมายคือการเป็นเจ้าโลกในระยะยาว นี่คือรายงานในหน้า 8 กระทรวงกลาโหม ที่กล่าวหาจีนอย่างไม่อ้อมค้อม

ในรายงานฉบับดังกล่าว สหรัฐฯ มีการกำหนดประเทศเป้าหมายด้วยว่า ประเทศที่อเมริกาให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินยุทธศาสตร์นี้ คือประเทศในกลุ่มใดบ้าง อเมริกาจำแนกพันธมิตรออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มที่สำคัญสูงสุด ท่านผู้ชมตั้งใจฟังให้ดี สูงสุด คือ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย กลุ่มรองลงมาที่จะต้องกระชับความสัมพันธ์ คือ สิงคโปร์ ไต้หวัน นิวซีแลนด์ มองโกเลีย


ท่านผู้ชมครับ ไต้หวันยังสำคัญน้อยกว่าประเทศไทย ทั้งๆ ที่วันนี้ไต้หวันถูกอเมริกาใช้เป็นหมากในการสร้างความขัดแย้งกับจีน

กลุ่มรองลงมากลุ่มที่สาม กลุ่มที่ต้องสร้าง ขยายความร่วมมือในมหาสมุทรอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินเดีย ศรีลังกา มัลดีฟส์ บังกลาเทศ เนปาล เวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย และกลุ่มที่สี่ แทบจะไม่มีความสำคัญเลย คือ บรูไน สปป.ลาว และกัมพูชา

ท่านผู้ชมครับ รายงานของอินโด-แปซิฟิก ของกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา หน้า 29-30 พูดชัดเจนถึงประเทศไทยว่า เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ในฐานะพันธมิตรของอเมริกาซึ่งอยู่ ณ จุดศูนย์กลางอาเซียน ตั้งอยู่ในภูมิศาสตร์ระหว่างเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยมีบทบาทเป็นกุญแจสำคัญในเชิงภูมิยุทธศาสตร์ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Geostatic ของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก


การสามารถเข้าถึงท่าเรือฐานทัพอากาศที่อู่ตะเภา รวมไปถึงท่าเรือน้ำลึกสัตหีบนั้น เป็นช่องทางที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับวางกำลังของกองกำลังสหรัฐฯ แล้วอเมริกายังยืนยันและพอใจอย่างยิ่งที่มีการแบ่งปันข้อมูลกับทางการไทยผ่านข้อตกลงการแบ่งปันข้อมูลข่าวสารทางการทหาร

ท่านผู้ชมครับ ล่าสุด ผมมีเอกสารสำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่เพิ่งเผยแพร่ออกมาในเดือนนี้ (กุมภาพันธ์) มีข้อความสำคัญที่ระบุถึงบทบาทของประเทศไทยในแผนการของอเมริกาที่กำลังจะดำเนินการต่อต้านจีน ท่านผู้ชมครับ เอกสารนี้มีความยาว 19 หน้า ใช้ชื่อว่า ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ของอเมริกา (INDO-PACIFIC STRATEGY OF THE UNITED STATES) เผยแพร่โดยทำเนียบขาว ทำเนียบประธานาธิบดีเลยนะ ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ต้นเดือนนี้เอง

ในหน้า 3 ของเอกสารนี้เขียนไว้อย่างนี้ครับ คำมั่นสัญญาเกี่ยวกับอินโด-แปซิฟิก ระบุว่า "สหรัฐฯ คือขุมกำลังของอินโด-แปซิฟิก ภูมิภาคซึ่งเชื่อมโยงจากชายฝั่งแปซิฟิกของสหรัฐฯ ไปถึงมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งมีประชากรมากกว่าครึ่งโลก ระบบเศรษฐกิจประมาณ 2 ใน 3 ของโลก และกำลังทางทหารที่ยิ่งใหญ่ 7 อันดับต้นของโลก โดยภูมิภาคนี้สนับสนุนงานของชาวอเมริกันประมาณ 3 ล้านคน และเป็นแหล่งเงินลงทุนทางตรง (FDI) ของสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่าราว 9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ในอนาคตอีกหลายปีข้างหน้า ภูมิภาคนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกมากกว่า 2 ใน 3 และอิทธิพลก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และมีความสำคัญต่อสหรัฐอเมริกา"


ท่านผู้ชมครับ ผมเอาเรื่องนี้มาพูดทำไม ? เพราะว่าในหน้า 4 ย่อหน้า 2 เขาเขียนว่า สงครามโลกครั้งที่ 2 ย้ำเตือนอเมริกาว่า ประเทศของเราจะมีความมั่นคงได้ หากเอเชียก็มีความมั่นคงด้วยเช่นกัน เอเชียมีความมั่นคง ต้องหมายถึงว่าจีนต้องไม่มีบทบาท อเมริกาต้องเป็นเจ้าแห่งเอเชียแปซิฟิก อเมริกาถึงจะมั่นคง นี่คือเนื้อแท้จริงของเขา เขาบอกว่า หลังยุคสงครามโลก สหรัฐฯ กระชับสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาคนี้ด้วยสนธิสัญญาที่แข็งแกร่งกับพันธมิตร คือ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งวางรากฐานความมั่นคง และเปิดโอกาสให้ประชาธิปไตยในภูมิภาคนี้เจริญรุ่งเรือง

นอกจากนี้แล้ว ในเอกสารยังระบุว่า ไทยเป็น 1 ใน 5 ประเทศพันธมิตรใกล้ชิดที่มีสนธิสัญญา เอกสารที่ผมเอาให้ดูนี้ระบุเลยว่า 5 ประเทศใกล้ชิดในภูมิภาคซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีสนธิสัญญาของอเมริกา ประกอบด้วย ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ และไทย และอเมริกาจะเสริมความสัมพันธ์กับชาติเหล่านี้ให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น คือประเทศอื่นๆ ที่อยู่อันดับ 2 อันดับ 3 ลงไป อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย มองโกเลีย ฯลฯ ที่ผมเล่าให้ฟังแล้ว

ท่านผู้ชมครับ เดิมทีผมยังคิดว่าไต้หวัน กับสิงคโปร์ ซึ่งเป็นลิ่วล้ออเมริกา น่าจะอยู่ในอันดับที่สำคัญ แต่ในเอกสารชิ้นนี้บ่งชี้ว่าในเชิงความมั่นคงทางการทหาร แม้แต่ไต้หวัน กับสิงคโปร์ ก็ยังไม่ใกล้ชิดกับประเทศอเมริกาเท่าประเทศไทย

ท่านผู้ชมครับ จำได้ไหมว่า เราเคยเอาข่าวของการเซ็นสัญญาร่วมแถลงการณ์เรื่องความมั่นคงระหว่างไทยกับอเมริกา ในการร่วมมือกันในเรื่องความมั่นคง เพื่อต่อต้านศัตรูต่างๆ (ซึ่งศัตรูนั้นก็คือประเทศจีน)


Joint Statement ระหว่างทูตอเมริกา กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อันนี้ใช่หรือเปล่าว่าเป็นสัญญาอย่างเป็นทางการ เป็นลายลักษณ์อักษรว่าไทยจะยืนข้างและจะเลือกข้างอเมริกาหากเกิดสงครามขึ้นภายในภูมิภาคนี้ แล้วจนกระทั่งทำเนียบขาวเอาชื่อประเทศไทยไปใส่ไว้ในเอกสารอย่างเป็นทางการ ว่าเราเป็น 1 ใน 5 พันธมิตรใกล้ชิดที่มีสนธิสัญญา

ผมถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และผมถามนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่าท่านได้ทำการเลือกข้างให้ประเทศไทยและคนไทยทั้ง 70 ล้านคน แล้วใช่ไหม หากเกิดอะไรขึ้น อเมริกาปะทะกับจีน ไทยจะยืนข้างอเมริกาและจะประกาศตัวว่าเป็นศัตรูกับจีน ใช่หรือเปล่า คุณประยุทธ์ คุณดอน ใช่หรือไม่

ท่านผู้ชมครับ เป็นเรื่องที่แปลกของบ้านเมืองเรา ยามใดที่บ้านเมืองเป็นเผด็จการ จะมีเหตุเป็นไปที่จะต้องชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน และในที่สุดก็จะพาประเทศไทยเข้าไปสู่สงครามที่ไม่ใช่เรื่องของเราเลย ไม่ใช่กงการหรือผลประโยชน์อะไรกับประเทศไทย สงครามเหล่านั้นทำความเสียหายให้กับประเทศชาติ ทั้งศักดิ์ศรี เกียรติภูมิ ชีวิตทหาร ตลอดจนความพินาศทางเศรษฐกิจ

ท่านผู้ชมครับ บทเรียนต่างๆ เป็นบทเรียนที่คนไทยในยุคนี้ต้องรีบทำความเข้าใจ เพราะสถานการณ์ที่เป็นไปในวันนี้กำลังซ้ำรูปซ้ำแบบและซ้ำรอยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้ว และเป็นบทเรียนที่เจ็บปวดรวดร้าวอย่างยิ่ง ที่เกิดขึ้น การสร้างหนี้ชีวิต หนี้เลือด และความเจ็บแค้นให้กับประชาชาติอื่น ที่ประเทศไทยเที่ยวไปเข่นฆ่าปราบทหาร ทำลายล้างบ้านเมืองของเขา เราต้องทำความเข้าใจกับบทเรียนและประสบการณ์ดังกล่าว เพราะว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ทำความตกลงกับอเมริกาที่ก่อตั้งพันธมิตรไทย-สหรัฐฯ เพื่อต่อต้านภัยคุกคามด้านความมั่นคง ซึ่งก็รู้แก่ใจว่าเป็นการก่อตั้งพันธมิตรเพื่อต่อต้านจีนโดยตรง

พล.อ.ประยุทธ์ ครับ เราไปยุ่งอะไรกับอเมริกาด้วย คุณดอนครับ เราไปยุ่งอะไร พวกคุณมีความสุขสบายดีอยู่หรือ ประเทศชาติกำลังฉิบหายแล้ว 8 ปีที่คุณปกครองประเทศนี้ ทุกอย่างพังทลายไปหมดแล้ว การคอร์รัปชันอยู่อันดับ 110 ใน 180 ประเทศ นี่คุณยังไปยุ่ง แอ่นอกบอกจีนว่ากูยืนข้างอเมริกานะ กูพร้อมจะรบกับมึงนะ ถ้ามึงกับอเมริกาปะทะกัน ที่สำคัญท่านผู้ชม อเมริกาแถลงที่ทำเนียบขาว ใส่ลงไปในเอกสารของมัน แต่ประเทศไทยใบ้ ไม่พูดสักคำ จุดยืนคุณอยู่ที่ไหน ช่วยบอกหน่อยได้ไหม ท่าน ส.ส. ทั้งหลาย ท่านอย่าเพิ่งไปอภิปรายเรื่องกระทรวงโน้นกระทรวงนี้ ท่านถามตรงนี้เข้าหัวใจของ พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้ารัฐบาล ว่าเรื่องนี้ใช่หรือไม่ และเรื่องนี้คุณกำลังจับมือเมริกาเพื่อต่อต้านจีนใช่หรือไม่ ตอบผมมา


กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ไบเดน แถลงซ้ำย้ำว่า อเมริกาจะขยายขอบเขตยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก เพื่อความมั่นคงปลอดภัย ชื่อผมให้ไปแล้ว รวมทั้งประเทศไทย และฟิลิปปินส์ ความหมายคือ อเมริกา และประเทศพันธมิตรดังกล่าว พันธมิตรดังกล่าวมีใครบ้าง ? มีอเมริกา มีออสเตรเลีย มีญี่ปุ่น มีเกาหลีใต้ ประเทศไทย และฟิลิปปินส์ นัยก็คือว่า อเมริกาและประเทศพันธมิตรสามารถยกกองทัพหรือเข้ามาทำอะไรในประเทศไทยก็ได้โดยเสรี โดยเปิดกว้าง และทั่วทุกด้าน เป้าหมายคือประเทศจีน แม้กระทั่งอาจจะเข้ารบด้วยกันเพื่อทำสงครามกับจีน ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าเมื่อเป็นเช่นนั้นเรากำลังร่วมทำสงครามกับพันธมิตรของจีน คือ รัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ พม่า ลาว และกัมพูชาเป็นอย่างน้อย

ท่านผู้ชมครับ ถึงแม้จะมีการแถลงฝ่ายเดียวของอเมริกา แต่ปรากฏว่ารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นิ่งเงียบ ไม่ปฏิเสธ ไม่ชี้แจงใดๆ เหมือนกับยอมรับในที เพราะฉะนั้นแล้ว จึงเกิดปฏิกิริยาขึ้นทั้งประเทศจีน รัสเซีย อิหร่าน พม่า ลาว และกัมพูชา และเรากำลังจะได้รับผลกระทบตามลำดับ

ท่านผู้ชมครับ ผมจะทบทวนประวัติศาสตร์ให้ท่านผู้ชม และให้ พล.อ.ประยุทธ์ และนายดอน ปรมัตถ์วินัย ฟังสักนิด บทเรียนที่หนึ่ง อเมริกาชวนไทยให้ไปทำสงครามเกาหลี เข่นฆ่าประชาชนชาวเกาหลีจำนวนมาก


จนในที่สุดประเทศจีนเข้ามาช่วยเกาหลี ประธานเหมา เจ๋อตุง บัญชาการให้จับจอมพลเผิงเต๋อไหว คุมทัพ 5 แสนคน ตีโต้กองทัพสหรัฐฯ พันธมิตร รวมทั้งประเทศไทยที่เป็นพันธมิตร ที่บัญชาการโดยนายพลแมคอาเธอร์ จนกระทั่งพ่ายแพ้กระเจิดกระเจิง กองทัพจอมพลเผิงเต๋อไหว ได้โจมตีรุกไล่สหรัฐฯ และพันธมิตร ตั้งแต่แม่น้ำยาลู ซึ่งเป็นเส้นกั้นระหว่างเกาหลีเหนือและจีน ตีไล่ลงมาจนกระทั่งถึงเส้นขนานที่ 38 จึงมีการเจรจาสงบศึก และนั่นคือการพ่ายแพ้ศึกและเกิดความเสียหายท่ามกลางหนี้ชีวิตของคนเกาหลี โชคดีที่กองทัพจีนไม่ได้ตามตีมาจนถึงประเทศไทย เพราะอยู่ไกลกันมาก

บทเรียนข้อที่สอง ครับ พล.อ.ประยุทธ์ และนายดอน อเมริกาชวนไทยทำสงครามเวียดนาม ส่งทหารไปทำสงครามในเวียดนาม ยอมให้อเมริกาใช้ดินแดนไทยเป็นฐานทัพที่อู่ตะเภา ที่อุดรฯ


ส่งเครื่องบินไปฆ่าชาวเวียดนามรายวัน ทั้งลูกเล็กเด็กแดง ทำลายบ้านเรือนชาวเวียดนามจนย่อยยับ ไปจนถึงลาว และกัมพูชา หนี้เลือดครั้งนี้แสนสาหัสมาก คนในพื้นที่เหล่านั้น คนแก่ๆ เก่าๆ ยังไม่ลืมเรื่องนี้ และในที่สุด อเมริกากับไทยก็พ่ายแพ้สงครามเวียดนาม แตกทัพหนีกระเจิดกระเจิงไปไม่เข้าท่า เวียดนามรุกไล่เข้ามายึดกัมพูชา ผมเคยพูดเรื่องนี้ไปแล้ว เคลื่อนพล 3 แสนคน มาประชิดชายแดนไทย แน่นอน เขาต้องการจะชำระหนี้เลือดที่ประเทศไทยไปก่อไว้กับพวกเขา เดชะบุญ ครั้งนั้น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ คณะทำการสำเร็จ เจรจาร่วมมือกับจีนให้ช่วยเหลือประเทศไทย และเกิดสงครามสั่งสอนเวียดนามขึ้น ประเทศไทยถึงปลอดภัยจนทุกวันนี้

การชักศึกเข้าบ้านในครั้งนั้น หวุดหวิดที่จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นสงครามใหญ่กับเวียดนาม ซึ่งในครั้งนั้น นายเหงียนโกทัด รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม แถลงว่า เขาใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมง เขายึดกรุงเทพฯ ได้แล้ว


บทเรียนเรื่องที่สาม ประเทศไทยส่งทหารไทยไปช่วยรบในอิรัก เป็นอุบายชักศึกเข้าบ้าน ทำให้ประเทศไทยต้องเกิดความขัดแย้งกับผู้ก่อการร้าย กับมุสลิมทั่วโลก โชคดีที่ พล.อ.ชวลิต ทำการสำเร็จ เจรจากับผู้นำชีอะฮ์ในอาเซียน เพื่อไปพูดกับผู้นำชาวมุสลิม จนผู้นำสูงสุดของอิหร่านออกคำฟัตวา ไม่ให้มุสลิมทำร้ายทหารไทย และฝ่ายไทยรับรองว่าจะไม่ทำร้ายมุสลิม จึงรอดปลอดภัยถึงวันนี้ แต่มีทหารไทยตาย 2 คน เพราะอะไร ? เพราะทะลึ่งไปรับจ้างเข้าเวรให้กับฝรั่งที่อีกค่ายหนึ่ง เพราะฉะนั้นพอผู้ก่อการร้ายโจมตี ทหารไทยก็เลยโดนลูกหลง ก็เลยตาย ผู้ก่อการร้ายมุสลิมต้องขอโทษขอโพยไทยใหญ่ เพราะรับปากเอาไว้แล้วว่าจะไม่ให้ทหารไทยตาย มาบัดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี นัยแรกประกาศต่อชาวโลกว่า ประเทศไทยจะไม่ตั้งตนเป็นศัตรูกับใคร เราจะเป็นมิตรกับทุกประเทศ แต่วันเวลาที่ผ่านไป พล.อ.ประยุทธ์ เอาเท้าลบคำประกาศของ พล.อ.ประยุทธ์ เอง นั่นคือการร่วมลงนามในปี 2562 (3 ปีที่แล้ว) ก่อตั้งพันธมิตรกับอเมริกา ต้านภัยคุกคามตามยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก กับอเมริกา ซึ่งก็คือการต้านจีนนั่นเอง กำลังขยายตัวเป็นพันธมิตร 6 ชาติ ตามที่ไบเดนแถลง

ในที่สุด ประเทศไทยก็จะถูกใช้เป็นฐานทัพในการต่อต้านทำสงครามกับจีนและพันธมิตร อเมริกาเข้าอู่ตะเภาได้ เข้าใช้ท่าเรือสัตหีบได้ ท่านผู้ชมครับ ประชาชนคนไทยเป็นมิตรกับทุกประเทศในโลก ทำไมเราต้องพาประเทศและประชาชนคนไทยไปต่อต้านประเทศเพื่อนบ้านของเราเอง ท่านผู้ชมครับ ผมอยากจะเตือนสติ พล.อ.ประยุทธ์ และท่านผู้ชมที่ยังหูหนวกตาบอดสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ ว่า ขนาดร่วมกันใช้แผ่นดินไทยเป็นฐานทัพรบกับเวียดนาม ยังพ่ายแพ้แตกยับไม่เป็นท่า ถ้ารบกับจีนและพันธมิตรในยามนี้ พนันกับผมได้เลยครับ คาดหมายบั้นปลายได้แล้วไม่ใช่หรือว่าคราวนี้อาจจะไม่โชคดีเหมือนสงครามเกาหลีและสงครามเวียดนามแล้ว

การชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน เป็นอันตรายต่อคนไทยทั้งประเทศ เป็นอันตรายต่ออธิปไตยของชาติด้วย

ท่านนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคุณดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ครับ ตอนนี้ประเทศไทยลำบากมาก สินค้าผลไม้ส่งออกไม่ได้ ทุเรียนเน่า ลำไยกำลังจะออกสู่ตลาดภายใน 1-2 เดือนนี้ ก็ไม่น่าจะส่งออกได้แล้ว นักท่องเที่ยวจีนไม่มา ราคายางตก ข้าวขายไม่ได้ เนื้อที่ทางภาคเหนือที่เคยส่งเข้าจีน ก็ส่งให้ไม่ได้ ท่านนายกฯ รู้ไหมว่าเกิดจากอะไร ? ท่านอย่าไปฟังพวกกระทรวงพาณิชย์ คุณอลงกรณ์ พลบุตร คนโน้นคนนี้ ว่าจีนเขาให้ความร่วมมือ โกหกหลอกลวงทั้งเพ วันนี้จีนเขาสั่งสอนเราอยู่ รถไฟจีน-ลาว ขนสินค้าตลอดเวลาจากลาวไปจีน จากจีนมาลาว ประเทศไทยจะส่งสินค้าขึ้นรถไฟความเร็วสูงของลาว ลาวตอบมาตลอดเวลาว่า ตู้เต็ม ไม่ว่าง จีนเขามีวิธีสั่งสอนเราอย่างเงียบๆ เราถามเขาไปว่าเพราะอะไร เขาไม่ตอบสักคำ นักเรียนไทย 3 หมื่นคน ที่ไม่ได้กลับเข้าไปเรียนที่จีน


จีนเขาอุตส่าห์เริ่มเปิดประตูให้ 77 คน กลับไปได้ สำหรับคนที่จบแล้ว และติดขัดอยู่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่เชื่อผมสิ อีก 2 หมื่นกว่าคน กลับไปเรียนไม่ได้

ทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นจากการที่เราเข้าไปร่วมสนธิสัญญาความมั่นคง ดูเวียดนามสิ เขาค้าขายกับจีนได้ พรมแดนทางเหนือเขาติดมณฑลกว่างสี เขาเป็นด่านที่ส่งสินค้าเข้าจีน หลายประเทศส่งสินค้าเข้าจีนโดยผ่านทางด่านทางเหนือ ทำไมเวียดนามถึงอยู่ได้ เพราะเวียดนามไม่ได้เข้าไปร่วมในสนธิสัญญาของใคร เขาไม่ยุ่งกับการที่จะต้องเข้าไปร่วมกับใครเพื่อมาต้านจีน ถ้าเขาจะทะเลาะกับจีนเรื่องหมู่เกาะในทะเลจีนตอนใต้ เขาจะคุยกันเอง

ท่านนายกฯ ครับ คุณดอนครับ นี่เรากำลังนำชาติไปสู่ความฉิบหายใช่ไหม บางคนเขาบอกว่านี่คือการขายชาติหรือเปล่า คุณดอน คุณบอกนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา สิว่า ไหนๆ ก็ให้กูเข้ามาร่วมกับมึงแล้ว ตอนนี้กูมีปัญหาเรื่องสินค้าการเกษตร มึงช่วยให้อเมริกาซื้อของพวกนี้ไปหน่อยได้ไหม คุณดอนครับ มันไม่ซื้อหรอก ก็จะบอกว่า เดี่ยวจะสั่งให้ เดี๋ยวจะดูให้ นั่นคือวาทกรรมที่เป็นการผายลมของอเมริกา

อเมริกาสร้างพันธมิตรนี้ขึ้นมา เพื่อให้พันธมิตรออกหน้า แล้วมันอยู่ข้างหลัง เราเคยถามจีนมาตลอดว่า ทำไมไม่ซื้อสินค้าเรา จีนไม่ตอบ และคุณก็นึกไม่ออกใช่ไหมว่าเป็นเรื่องนี้

ท่านผู้ชมครับ พล.อ.ประยุทธ์ ครับ ท่านอยู่มาจะ 8 ปีแล้ว นอกจากดัชนีคอร์รัปชันต่ำลงๆ ชาวบ้านต่างๆ ร้านค้าต่างๆ ล้มละลายกันเป็นแถว วันนี้คุณยังเอาประเทศไทยก้าวเข้าไปสู่สงครามเย็นข้างหนึ่ง ท่านนึกว่าประเทศไทยใหญ่นักหรือ 8 ปีที่ท่านบริหารชาติบ้านเมือง ท่านทำให้ประเทศไทยกลวงไปหมดแล้ว นี่ยังไปร่วมกับฝรั่งมังค่าให้อเมริกามาแถลงว่าไทยเข้าร่วมแล้วในสนธิสัญญาเพื่อความมั่นคง แต่คุณเงียบ ทำไมคุณไม่ออกมาบอกล่ะว่าไม่ใช่ เราไม่ขอร่วม


ถึงเวลาแล้วหรือยัง ท่านผู้ชมครับ เราต้องตั้งขบวนการเสรีไทยยุคดิจิทัลใหม่แล้ว คนที่คัดค้านกับการที่ไปร่วมกับอเมริกาในเรื่องสนธิสัญญาความมั่นคง ต้องรวมตัวกันได้แล้ว เราจะยอมให้ประเทศเราพินาศฉิบหายเพราะประเทศอย่างอเมริกาที่ต้องการดึงเราไปร่วมด้วย เรายอมไม่ได้ท่านผู้ชม มิหนำซ้ำ ส่วนตัวผมยังคิด แล้ววันหลังผมจะพูดให้ฟัง ไทย ลาว เขมร พม่า และถ้าเป็นไปได้ เวียดนาม ควรจะรวมตัวกันเป็น "สมาคมสุวรรณภูมิ" เน้นการค้าขาย และไม่ยุ่ง ไม่เข้าข้างใคร ไม่ยืนข้างประเทศไหนทั้งสิ้น ใครอยากคบเรา ก็คบ แต่จะใช้เราไปต้านอีกประเทศหนึ่ง เราไม่เอาด้วย ไม่ใช่แค่อเมริกาใช้เราไปต้านจีน ถ้าจีนจะใช้เราไปต้านอเมริกา เราก็ไม่เล่นด้วย ยกเลิกสนธิสัญญาพวกนี้ออกซะ อย่าขายชาติกันเลยครับ ชาวเกษตรกรจะพินาศฉิบหายกันทุกวันนี้ ไปถามพ่อค้าทุเรียนสิ ไปถามพ่อค้าลำไยสิ ไปถามคนที่ส่งเนื้อเข้าจีนสิ ไปถามคนที่ส่งสินค้าเกษตร แล้วใครจะซื้อสินค้าเกษตรจากเราล่ะ

พี่น้องชาวใต้ที่ราคายางตกต่ำ เพราะยางขายต่อไปไม่ได้ ออกไปไม่ได้ ชาวบ้านที่ส่งลำไยไม่ได้ ชาวบ้านที่ทุเรียนเน่าแล้ว ก็ให้มันรู้ไปสิว่าทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นจากคนที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และดอน ปรมัตถ์วินัย ส.ส. ทั้งหลายที่อยู่ในสภาฯ ส.ส. พรรคก้าวไกล คุณปากกล้าปากเก่ง แต่พอมาเรื่องอเมริกาแล้วคุณก็คือขี้ข้ารับใช้อเมริกาอีกกลุ่มหนึ่ง เหมือนพวกสามนิ้ว สามกีบ แค่นี้คุณยังมองไม่ออกเลยหรือว่า คุณถูกดึงเข้ามาร่วมต่อต้านจีน เป็นสังฆกรรมร่วมกับอเมริกา แล้วคุณจะให้ประเทศจีน ซึ่งเขาไม่ค่อยแคร์เรา เขาใหญ่จะตาย เขานั่งเฉยๆ หรือ อย่างมากเขาก็เฉยๆ แล้วเขาก็ไม่สนใจคุณ คุณก็ตายลูกเดียว

คิง เพาเวอร์ ประกาศลดคน ยกเลิกงานหมด เคยขายได้วันละเป็นสิบๆ ล้าน วันนี้ขายได้วันละ 2 หมื่นบาท อย่าไปหวังนักท่องเที่ยวจีนมาอีก ไม่มาแล้ว เขาไม่มาเด็ดขาด อย่าไปหวัง ท่านผู้ชมครับ นี่คือความพินาศฉิบหาย ส.ส. ครับ ที่อยู่ในสภาฯ เอาเรื่องนี้มา รีบพิจารณาโดยด่วน อย่าเอาแต่เพียงตั้งคำถามเลย เน้นไปที่สนธิสัญญานี้ แล้วถามไปว่าคุณไปเซ็นกับเขาทำไม เพื่ออะไร นี่เพื่ออะไร เพื่อเป็นศัตรูกับประเทศจีนหรืออย่างไร ในขณะเดียวกัน ถ้าจีนมาขอใช้ฐานทัพสัตหีบเรา เราก็ต้องปฏิเสธ ท่านผู้ชมครับ นี่มันกำลังจะทำให้ชาติฉิบหายอยู่ จำคำพูดผมเอาไว้ เรื่องนี้ แล้วถ้ามันพัฒนาต่อไป แล้วเราจะได้เห็นการตอบโต้ วันนี้จีนเขาจับมือกับลาว เขาจับมือกับกัมพูชา เขาไม่ยุ่งเรื่องในพม่า เขาค้าขายกับเวียดนาม ถึงวันนั้นสุดท้ายแล้วประเทศที่โดดเดี่ยวที่สุดก็คือ ประเทศไทย

ท่านผู้ชมครับ วันนี้ผมจะพูดเรื่องวิกฤตยูเครน เป็นการอัปเดตล่าสุด ที่สำคัญกว่านั้น ผมจะเสนอความคิด ข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์มาเรียบร้อยแล้ว ว่าปัญหาของรัสเซีย กับยูเครน และอเมริกา กับยูเครนนั้น ไม่ใช่ปัญหาของยูเครน แต่เป็นปัญหาเรื่องเยอรมนี มันเป็นอย่างไร เดี๋ยวเล่าให้ฟัง


เอาเป็นว่าล่าสุด 15 กุมภาพันธ์ วันอังคารที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี ก็คือ นายโอลัฟ ช็อลทซ์‎ ได้มาพบกับปูติน ที่มอสโก เพื่อพูดคุยกันเรื่องวิกฤตในยูเครน การพบปะครั้งนี้มีข้อคิดอย่างหนึ่ง คุยกันใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ท่านผู้ชมครับ การคุยกันในระดับผู้นำประเทศท่ามกลางวิกฤต 4 ชั่วโมง แสดงว่าเรื่องที่คุยนั้นเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสมาก อาจจะเป็นข้อเสนอ ข้อต่อรอง ข้อเจรจา และต้องใช้เวลาคิด หรือพูดไปพูดมาอาจจะถึงเวลาที่นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี อาจจะขอโทรศัพท์ไปคุยกับนายกรัฐมนตรีของยูเครน ในเรื่องข้อเสนอนี้ เป็นอย่างไร แต่ว่าหลังจากพบปะกันเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่ารัสเซียเริ่มทยอยถอนทหารบางส่วนออก แสดงว่าวิกฤตกำลังมีทีท่าที่จะคลี่คลาย

แต่อีกด้านหนึ่ง ทางด้านสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ก็ยังโหมประโคมข่าว ปั่นข่าว (ผมใช้คำว่าปั่นข่าว) ก็คือเป็นข่าวที่ต้องการสร้างให้เกิดความตระหนกตกใจ และสร้างความเชื่อถือว่า รัสเซียยังกำลังที่จะบุกยึดยูเครนอยู่เหมือนเดิม นี่ไม่นับรวมทั้งการที่ให้เจ้าหน้าที่สถานทูต หรือคนสัญชาติอเมริกัน หรืออังกฤษ ให้ย้ายออกจากประเทศยูเครน เพื่อที่จะแสดงออกว่าเรื่องมันจะวิกฤตจริงๆ แล้ว ต้องรีบออกก่อนที่สงครามจะเกิด ก็คือว่า ทำอย่างไรก็ตาม ปล่อยข่าวตลอดเวลาเพื่อให้สงครามมันเกิด

ทีนี้ ปัญหามันใหญ่ เพราะว่าการสงครามถ้ามันเกิดขึ้นแล้ว นายกรัฐมนตรีเยอรมนีพูดชัดเจนว่า ไม่ต้องการสงครามในยุโรป เพราะฉะนั้นแล้ว อะไรก็ได้ที่สามารถเจรจาตกลงกันได้ และที่สำคัญ ตอนนี้เกิดความแตกแยกกันในพรรคการเมืองในสภาของยูเครนแล้ว คือส่วนหนึ่งก็ยังหลงเชื่อว่า ถ้ารัสเซียบุกยูเครนแล้วนาโตจะเข้ามา ซึ่งวันนี้พวกนี้สิ้นหวังแล้ว เพราะพิสูจน์ชัดเจนว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น นาโต ไม่ยุ่ง เพราะว่ายูเครนไม่ได้เป็นสมาชิกของนาโต


ในขณะเดียวกัน อีกพวกหนึ่งก็เริ่มบอกกับฝั่้งตรงข้ามว่า คิดให้ดีๆ สิ่งที่รัสเซียเขาขอ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เขาขอไม่ให้ยูเครนเข้าไปเป็นสมาชิกนาโต แล้วก็ขนขีปนาวุธที่นาโตนำมาติดตั้งไว้ในยูเครน ออกไปให้หมด ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย เรื่องเล็กมาก แล้วชีวิตก็ยังเหมือนเดิม ยังเป็นเพื่อนกันอยู่เหมือนเดิม ยังค้าขายกันได้อยู่เหมือนเดิม ยังมีสัมพันธไมตรีอยู่เหมือนเดิม ไม่ต้องมานั่งประสาทรับประทานอยู่ทุกวันนี้ว่าเมื่อไรรัสเซียจะบุก ก็ไม่เห็นว่ามันจะยากตรงไหนเลย ผมเชื่อว่าในขณะนี้แนวความคิดที่ต้องการให้ยูเครนสงบนั้น มี แต่จากการศึกษาข่าว อ่านข่าว ของ BBC หรือ CNN ฯลฯ ก็ยังมุ่งโหมระดมข่าวว่ารัสเซียจะบุกแน่นอน แล้วมีการไปทำข่าวเป็นรายบุคคล อย่างเช่น ไปทำเรื่องของพยาบาลคนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ว่า ยินดีจะจับมือต่อสู้เพื่อปกป้อง คือดรามา ให้สุดๆ ให้เห็นว่าเรื่องมันวิกฤตแล้ว

ท่านผู้ชมครับ ยูเครนตอนนี้มีสภาพเหมือนอัฟกานิสถานก่อนแตก นาโตถอนกำลังทหารที่อยู่ในยูเครนออกไป เคลื่อนย้ายทูตหลายประเทศออกนอกประเทศ ท่านผู้ชมครับ เศรษฐีที่มีเงินของยูเครน แห่กันอพยพจากยูเครน มีสภาพเหมือนอัฟกานิสถานก่อนแตก ท่านผู้ชมเชื่อไหมว่า วันเดียว คือวันที่ 13 กุมภาพันธ์ มีเครื่องบินเช่าเหมาลำและเจ๊ตส่วนตัว 20 ลำ พาพวกเศรษฐี คนมีเงินของยูเครน ออกจากยูเครนไปหมด จนกระทั่งนายกรัฐมนตรียูเครนทนไม่ไหว ต้องประกาศว่า คนมีเงินของยูเครนที่ออกไป ให้รีบกลับมา เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพให้เห็นว่า คนยูเครนไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น


อย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่า ยูเครนทำท่าจะล่มสลายแล้ว พวกที่เป็นขี้ข้านาโต ก็เรียกร้องว่าให้ต่อสู้ต่อไป เพราะนาโตจะยกกำลังมาให้ แต่ไม่เป็นผล อีกฝ่ายหนึ่ง ที่ผมเรียนให้ทราบว่าเขาก็ประณาม เขาก็บอกว่า เฮ้ยๆ เกิดอะไรขึ้น ทำไมจะต้องไปหลงเป็นขี้ข้านาโต้ สหรัฐฯ ก็โหมข่าวเรื่องรัสเซียบุกยูเครน เศรษฐกิจยูเครนฉิบหายวายป่วงหมดแล้ว ท่านผู้ชมครับ รัสเซียยังตั้งมั่นอยู่ที่ชายแดน แต่ในยูเครนเองกลับเหมือนสงครามใหญ่ มีสภาพแบบเดียวกัน เหมือนอัฟกานิสถานเป๊ะ

อีกสักพักหนึ่ง ถ้ายังคุยกันไม่รู้เรื่อง ยูเครนคงจะเหมือนเมืองร้าง เอาล่ะท่านผู้ชม ท่านผู้ชมรู้ข่าวอัปเดตของยูเครนแล้ว มาพูดถึงเรื่องกรอบความคิดว่าจริงๆ แล้วเรื่องยูเครนเป็นอะไร

ท่านผู้ชมครับ มิติเรื่องยูเครนครั้งนี้ ผมเชื่อว่าท่านผู้ชมไม่เคยได้ยินมาจากใครเลย และผมก็ไม่เคยเห็นนักวิเคราะห์ข่าวในสื่อมวลชนประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ช่องไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ได้วิเคราะห์ยูเครนในมิตินี้ ลองตามผมมา แล้วฟังเหตุผลของผม แล้วจะรู้ว่าจะเห็นด้วยกับผมหรือไม่

ผมเคยเล่าที่มาที่ไปของสหภาพโซเวียต รัสเซีย ยูเครน นาโต ให้ฟังหลายครั้งแล้ว ส่วนข่าวที่ท่านผู้ชมฟังจากนักวิเคราะห์ในเมืองไทย หรือโทรทัศน์ช่องอื่นๆ คือพวกนักข่าวที่แปลข่าวต่างประเทศมาเล่าให้ฟังอีกที เรียกได้ว่าจำขี้ปากฝรั่งมาพูด ซึ่งถ้าท่านผู้ชมฟังแต่ข่าวทางตะวันตก ฟังแต่สื่อไทยแล้ว จะได้มุมมองเหมือนกันหมด นั่นก็คือ รัสเซียบุกยูเครนแน่ๆ ทำให้ราคาหุ้นตก ราคาน้ำมันขึ้น ราคาทองขึ้น กระทบเรื่องเศรษฐกิจ ตลาดเงิน ตลาดทุน ไปหมด ผมจะมองอีกอย่างหนึ่งที่ไม่เคยมีใครตั้งข้อสังเกต


ท่านผู้ชมครับ ปมปัญหาวิกฤตยูเครนนั้น ไม่ได้อยู่ที่ยูเครน แต่อยู่ที่เยอรมนี ซึ่งเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับสูงสุดของสหภาพยุโรป ท่านผู้ชมจำได้หรือไม่ผมเคยเล่าให้ท่านผู้ชมฟังว่า มีโครงการอภิมหาโปรเจกต์ เมกะโปรเจกต์อันหนึ่งที่กำลังเกิดขึ้นระหว่างรัสเซีย กับเยอรมนี คือโครงการท่อแก๊ส Nord Stream 2 ยาว 1,230 กิโลเมตร มีมูลค่ามากกว่า 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 356,000 ล้านบาท ท่อแก๊ส Nord Steam 2 นี้ เชื่อมต่อระหว่างรัสเซีย กับชายฝั่งทะเลทางด้านบอลติก ทางด้านเหนือของเยอรมนี โดยโครงการนี้ก่อสร้างใกล้เสร็จแล้ว ยังไม่เริ่มเปิดใช้งาน เพราะยังรอการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลพลังงานของเยอรมนี รวมทั้งคณะกรรมาธิการของยุโรป


ท่านผู้ชมครับ ที่ผ่านมา โครงการท่อส่งแก๊ส Nord Stream 2 เป็นที่มาของความตึงเครียดระหว่างอเมริกา กับเยอรมนี เพราะอเมริกาและสมาชิกนาโตบางประเทศ เช่น โปแลนด์ กับยูเครน เกรงว่าโครงการนี้จะทำให้รัสเซียสามารถใช้เรื่องแก๊สธรรมชาติเป็นอาวุธ หรือเป็นเครื่องมือต่อรองทางภูมิรัฐศาสตร์กับยุโรปได้ ส่วนเยอรมนี นายโอลัฟ ช็อลทซ์‎ ผู้นำคนใหม่ของประเทศ สนับสนุนโครงการนี้ ในสมัยที่เขาดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลของนางอังเกลา แมร์เคิล

ท่านผู้ชมครับ โครงการนี้ถ้าสำเร็จและนำมาใช้งาน จะมีการส่งพลังงานจากรัสเซียมายังเยอรมนี ที่จะช่วยเอื้อประโยชน์ให้กับชาวเยอรมนีกว่า 20 ล้านครัวเรือน ซึ่งสามารถใช้พลังงานราคาถูกลงได้ เนื่องจากว่าเยอรมนีนั้น ต่อต้านโรงงานพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์ และสั่งปิดโรงงานพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์หมด ก็เลยทำให้เยอรมนีขาดพลังงานในส่วนนี้ไป ซึ่งพลังงานในแก๊สธรรมชาติของรัสเซีย ส่งไปให้เยอรมนี ก็จะไปทดแทนส่วนที่ขาดไป คือพูดง่ายๆ ว่าเป็นความสุขของชาวบ้าน 20 ล้านครัวเรือน ครัวเรือนหนึ่งก็ประมาณ 3-4 คน ก็ประมาณเกือบ 100 ล้านคน


ทางฝั่งรัสเซีย การส่งออกแก๊สไปเยอรมนี และยุโรป ได้มากขึ้น ย่อมสร้างรายได้ให้รัสเซียมากขึ้น แต่เรื่องนี้ทำให้ชาติ 1 ชาติ ร้อนรนและทนไม่ได้ ต้องการขัดขวางที่สุด นั่นคือ สหรัฐอเมริกา

รัฐบาลและผู้นำนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ไม่พอใจกับการผูกสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างรัสเซีย กับเยอรมนี อย่างมาก เพราะอะไร ? เพราะหนึ่ง การที่เยอรมนีซื้อและพึ่งพาแก๊สจากรัสเซียมากขึ้น เมื่อเกิดการซื้อขายกัน ความไว้ใจก็จะเกิดขึ้น ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Trust การไว้เนื้อเชื่อใจจะทำให้เกิดอะไรขึ้น ท่านผู้ชม ? ก็เกิดการขยายตัวทางการค้าทันที แล้วเมื่อซื้อง่ายขายของ ความสัมพันธ์ย่อมดีขึ้น ต้องมีการเจรจา ลดกำแพงภาษี กฎระเบียบต่างๆ ให้มันเหลือน้อยที่สุด เพื่อให้การค้าขายคล่องขึ้นระหว่างรัสเซีย กับเยอรมนี

การท่องเที่ยวล่ะ ? รัสเซีย กับเยอรมนี ก็รุ่งเรืองขึ้น เปรียบได้กับการแลกเปลี่ยน ยกระดับ ปรับระดับเข้าไปสู่ความสัมพันธ์อีกระดับหนึ่ง

ท่านผู้ชมลองหลับตาวาดภาพ วันที่ความสัมพันธ์ทางด้านการค้า มิตรภาพที่เพิ่มพูนขึ้นมา ก็มีโอกาสที่คนเยอรมนี หรือรัฐบาลเยอรมนี อาจจะถามว่า เฮ้ย เราเป็นเพื่อนกันนี่หว่า เราไม่ได้เป็นศัตรูกัน แล้วถ้าเกิดรัสเซียเซ็นสัญญาสันติภาพกับเยอรมนี เพราะรัสเซีย กับเยอรมนี เป็นศัตรูกันมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ทั้งรัสเซีย และยุโรป ไม่ต้องการให้มีสงครามอีกแล้ว เพราะผ่านตรงนั้นมาแล้ว และมีสงครามทีไร คนที่ฉกฉวยโอกาสคือมือที่สาม อย่างเช่นอเมริกา จะเข้ามาฉกฉวยโอกาสตลอดเวลา


เยอรมนีเป็นประเทศที่พ่ายแพ้สงคราม เป็นชาติที่มีความใกล้ชิดทั้งสหรัฐฯ และมีฐานทัพสหรัฐฯ ตั้งอยู่ในเยอรมนี 21 แห่ง มีทหารสหรัฐฯ ประจำการอยู่ 38,000 คน ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าหนึ่งในฐานทัพอากาศที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาที่อยู่นอกประเทศ คือฐานทัพอากาศแรมสไตน์ (Ramstein) ในไกเซอร์สเลาเทิร์น (Kaiserslautern) ซึ่งใช้เป็นสำนักงานใหญ่และฐานทัพอากาศกลางของอเมริกาที่นาโต

ท่านผู้ชมครับ การค้าระหว่างรัสเซีย กับเยอรมนี และความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดจากการค้านี้ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน จากจุดเริ่มต้นของการที่รัสเซียส่งแก๊สเข้าไปขายในเยอรมนี ทำให้ประชาชนชาวเยอรมนีมีความสุข ได้ใช้พลังงานที่ถูกลงและมีเสถียรภาพมากขึ้น

ท่านผู้ชมครับ ช่วยไม่ได้มันต้องมีคนถามต่อ ว่า รัสเซียไม่ใช่ศัตรูของเรานี่ ถ้าไม่ใช่ศัตรูแล้วทำไมต้องมีนาโต ท่านผู้ชมครับ นี่อาจจะเป็นการล่มสลายของนาโต เพราะเยอรมนีเป็นหลักใหญ่ที่สุดในยุโรป ในอียู


ค่าเงินยูโร อยู่ที่การกระทำของเยอรมนี เพราะเยอรมนีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด อันดับ 3 ของโลก แล้วถ้าเยอรมนีไม่เอานาโต ฝรั่งเศสก็ไม่มีทางเลือก ต้องไม่เอานาโต อิตาลีก็ไม่เอานาโต หรือประเทศเล็กๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศยุโรปตะวันออก ที่แตกออกมาจากรัสเซีย แล้วอยู่ภายใต้ปีกของอเมริกา ก็ทำอะไรมากกว่านั้นไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นโปแลนด์ ไม่ว่าจะเป็นอัลแบเนีย ไม่ว่าจะเป็นโรมาเนีย ลิทัวเนีย พวกเล็กๆ กระจอกงอกง่อย จึงไม่มีความหมายอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ก็ทำอะไรไม่ได้

เพราะฉะนั้นแล้ว การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่เอามาใช้เตรียมพร้อมเพื่อต่อต้านรัสเซีย ก็ต้องลดน้อยลง เพราะงบประมาณทางทหารเป็นงบประมาณที่ถ้าตัดทิ้งออกไปได้แล้ว ก็จะมีเงินเหลือไปพัฒนาประเทศ

ท่านผู้ชมครับ คงต้องมีสักวันหนึ่งจะมีคำถามถามว่าเราจำเป็นต้องมีนาโตต่อไปหรือเปล่า ? ยิ่งกว่านั้น การซื้อขายแก๊สธรรมชาติระหว่างเยอรมนี กับรัสเซีย เขาไม่ได้ใช้เงินดอลลาร์ ก่อนหน้านั้นรัสเซียตกลงขายแก๊สให้จีน ระยะเวลา 30 ปี เขาใช้เงินยูโร เพราะฉะนั้นแล้ว รัสเซียก็รับเงินยูโรมาจากเยอรมนี ตัดความสัมพันธ์ระหว่างเงินดอลลาร์ในการใช้ซื้อพลังงาน ถามต่อว่า เมื่อเงิน Petrodollar ถูกลดความสำคัญลง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ก็ย่อมได้รับการกระทบเช่นกัน

หลังจากนั้นอิทธิพลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะถดถอยหรือเปล่า ? ท่านผู้ชมครับ ทั้งหมดนี้ที่ผมอธิบาย คือเหตุผลว่าทำไมรัฐบาลาสหรัฐฯ ในยุคโจ ไบเดน ถึงออกมาคัดค้านเกี่ยวกับการสร้างท่อแก๊ส Nord Stream เนื่องจาก Nord Stream นั้นจะเป็นตัวเปลี่ยนเกม หรือที่เรียกว่า Game Changer ในการเชื่อมยุโรปและเอเชียเข้าด้วยกัน ลดทอนความสำคัญของอเมริกาลงในสองภูมิภาคลง และอาจเป็นปัจจัยหนึ่งสู่จุดจบของยุคสมัยขั้วอำนาจเดี่ยวของมหาอำนาจอย่างอเมริกา

ท่านผู้ชมครับ ด้วยเหตุนี้ หมากที่ชื่อยูเครน ก็เลยกลายเป็นวิกฤตยูเครน ถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อใช้เป็นหมากตัวหนึ่งในการสร้างความแตกแยก ในความสัมพันธ์ระหว่างเยอรมนี กับรัสเซีย ที่กำลังพัฒนาไปในทิศทางเชิงบวกกับเยอรมนี แต่เป็นเชิงลบกับอเมริกา เพราะฉะนั้นการตีปี๊บวิกฤตยูเครนนั้น เป็นกลยุทธ์ทางการต่างประเทศของอเมริกา เพื่อแบ่งแยกและปกครองด้วยการสร้างภาพว่ารัสเซียกำลังเป็นภัยคุกคามทางความมั่นคงของยุโรป


วาดภาพให้นายวลาดิมีร์ ปูติน กลายเป็นเผด็จการกระหายสงคราม และไว้ใจไม่ได้ นำข้อความเหล่านี้ไปปั่นหู เป่าหู คนในอเมริกา ในยุโรป และคนทั่วโลก ในเครือข่ายสื่อมวลชนที่ถูกครอบงำโดยโลกตะวันตก ว่ารัสเซียกำลังจะบุกยูเครน ซึ่งสื่อมวลชนในประเทศไทยก็ไม่ได้รับข้อยกเว้น ถูกปั่นหัวเช่นกัน สิ่งเหล่านี้คือสงครามทางข่าวสารข้อมูล

แต่สิ่งที่สื่อตะวันตก หรือสื่อในประเทศไทย ไม่ค่อยกล่าวถึง คือว่าตั้งแต่หมดสงครามเย็นเป็นต้นมา อเมริกาต่างหากเป็นชาติที่บุกรุกคุกคาม และส่งปฏิบัติการทางทหารเข้าไปแทรกแซงประเทศโน้นประเทศนี้มากกว่า 50 ประเทศ และยังมีฐานทัพกระจายอยู่ทั่วโลกประมาณ 800 แห่ง คำถามต่อไป ทำไมสหรัฐฯ ถึงมาจัดการถึงเรื่องท่อส่งแก๊ส Nord Stream 2 ในเวลานี้ ทำไมไม่จัดการก่อนหน้านี้ คำตอบก็คือว่า ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น และเกิดกรณีโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ฟูกุชิมะ เมื่อปี 2554 นางอังเกลา แมร์เคิล ได้ตัดสินใจจะทยอยผลิตโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ จำต้องหันไปพึ่งการผลิตไฟฟ้าจากแก๊สธรรมชาติแทน ด้วยเหตุนี้ การนำแก๊สธรรมชาติเข้าจากรัสเซีย จึงเป็นเรื่องที่ชาวเยอรมันส่วนใหญ่ชอบบอกว่าเป็นโครงการที่จะเดินหน้าต่อไป


เพราะฉะนั้นการที่อเมริกาจะยื่นมือเข้าไปแทรกแซงเรื่องท่อแก๊ส Nord Stream 2 แบบโฉ่งฉ่าง จะยิ่งเป็นการผลักให้ประชาชนชาวเยอรมนีตีตัวออกห่าง และจะถูกมองว่าทำไมต้องเข้ามาจุ้นจ้าน เกี่ยวกับนโยบายพลังงานของเยอรมนีด้วย กูได้ใช้พลังงาน จะมาจากไหนไม่สำเคัญ แต่ในราคาที่ถูกกว่า จะมายุ่งอะไรด้วย อยู่ถึงอเมริกา นี่จึงเป็นคำตอบว่า ทำไมอเมริกาต้องขยับเดินหมากที่ชื่อ ยูเครน เพื่อสร้างภาพภัยคุกคามใหญ่ในเรื่องรัสเซียบุกยูเครน จะกระทบชิ่งต่อไปถึงการเปิดการใช้งานท่อแก๊ส Nord Stream 2

ท่านผู้ชมครับ เอาตัวอย่างหลักฐานมาพิสูจน์กัน 7 กุมภาพันธ์ (10 วันที่แล้ว) โจ ไบเดน ผู้นำอเมริกา กล่าวเตือนรัสเซียว่า ถ้ารัสเซียบุกโจมตียูเครน จะไม่มีท่อส่งแก๊ส Nord Stream 2 อีกต่อไป แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าเขาจะดำเนินการอย่างไร


เขาแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีโอลัฟ ช็อลทซ์‎ แห่งเยอรมนี แต่ที่น่าสนใจคือ ในการแถลงข่าวนั้น เป็นนายไบเดนฝ่ายเดียวที่พูดว่าจะหยุดโครงการ Nord Stream 2 แต่นายโอลัฟ ช็อลทซ์‎ ไม่ได้พูดถึงเรื่องโครงการ Nord Stream 2 เลยแม้แต่นิดเดียว

สถานการณ์ฝั่งอเมริกาต้องการมากที่สุดในเวลานี้ คือให้รัสเซียบุกเข้ายูเครน ตัวเองจะไม่ส่งกำลังทหารเข้าไป แต่จะอยู่รอบๆ เพื่อหาเหตุในการยุติโครงการส่งแก๊สนอร์ธ สตรีม 2 ซึ่งจะสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายไปทั่วโลก อเมริกาเป็นประเทศที่ชอบสร้างสภาวการณ์ในประเทศอื่น ให้น้ำขุ่น แล้วรอจับปลาตอนน้ำขุ่น


ท่านผู้ชมครับ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวของระเบียบโลกที่กำลังจะเปลี่ยนไป อเมริกาไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นเจ้าโลกเพียงคนเดียวต่อไปแล้ว ผม ในฐานะคนที่อยู่ในวงการข่าวมาเกือบทั้งชีวิต สี่สิบกว่าปี ทั้งข่าวในต่างประเทศ ข่าวต่างประเทศ ผมอยากจะเตือนนักวิเคราะห์ข่าวในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศที่วิเคราะห์ตามข่าวฝรั่ง เช่น CNN, BBC, บลูมเบิร์ก, ECONOMIST ถ้าคุณยังติดสื่อตะวันตกอยู่ คุณจะหลงทาง ผมไม่อยากให้คุณหลงทางในสงครามข้อมูลข่าวสาร คุณต้องหัดดูภาพรวมบ้าง ทั้งหมดนี้มันเป็นผลพวงที่เกิดจากระเบียบโลกเก่าที่กำลังจะเปลี่ยนอยู่แล้ว จากเจ้าโลกเพียงคนเดียว คือ อเมริกา มาเป็นอเมริกา รัสเซีย จีน เยอรมนี หลายๆ เจ้า เราต้องรับข่าวสารรอบด้าน คัดกรองให้เป็น ไม่ใช่สักแต่แปลข่าวต่างประเทศจากสื่อฝรั่ง

ท่านผู้ชมครับ ส่วนเรื่องระเบียบโลกที่กำลังเปลี่ยนไปนั้น เป็นกรอบใหญ่ ซึ่งท่านผู้ชมต้องรู้ ท่านผู้ชมจำได้ไหมผมเคยพูดว่า ถ้าจะเข้าใจเหตุการณ์อะไรก็ตาม ให้ดูป่าทั้งป่า ป่าทั้งป่ากำลังจะเปลี่ยน ท่านผู้ชมคงไม่เคยได้ยินได้ฟังจากที่ไหน ผมจะหาโอกาสเร็วๆ นี้มาพูดให้ท่านผู้ชมฟัง ว่าระเบียบโลกกำลังจะเปลี่ยน แล้วที่เปลี่ยนจะไปกระทบใครบ้าง สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทะเลจีนตอนใต้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยูเครน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอินโด-แปซิฟิก มันคือผลพวงของการที่ระเบียบโลกกำลังจะเปลี่ยนไป อเมริกาซึ่งเป็นเจ้าโลกคนเก่า ไม่ยอมง่ายๆ ก็เลยฮึดสู้ มันก็เกิดความวุ่นวายกันทั่วโลก และประเทศไทยก็ไม่พ้นเรื่องนี้ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น