พบ "เอ มินเนี่ยน" นักธุรกิจบันเทิงที่ตกเป็นข่าวเกี่ยวข้องกับเครือข่ายพนันออนไลน์ A-SETZONE ปิดเฟซบุ๊กหายเงียบไป หลังตำรวจจับกุมลูกน้องได้บางส่วน พบที่ผ่านมาเคยเคลื่อนไหวแจกอาหาร ขายสินค้ามินเนี่ยน เคยติดป้ายไวนิลไม่ต้อนรับพวกล้มเจ้า ก่อนบ้านอีกหลังถูกไฟไหม้ เคยบริจาคเงินให้ ศชอ. 5 แสนแต่ไม่รับส่งคืนไปแล้ว แจงจุดยืนการเมืองต่างกัน
วันนี้ (29 ม.ค.) จากกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบและดําเนินคดีแก่ผู้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค (คตส.) นำโดยนายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับ พ.ต.อ.ภูมิยศ เหล็กกล้า รองผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะคณะทำงาน คตส. แถลงข่าวเมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ผ่านมา จับกุมเครือข่ายเว็บไซต์การพนันออนไลน์รายใหญ่ หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ปกครองว่า มีลูกหลานหลงผิดเข้าไปเล่นการพนันออนไลน์
โดยพบว่าหนึ่งในนั้นเป็นเครือข่ายของ "เอ มินเนี่ยน" หรือนายอดิศร โสภา ขณะนี้อยู่ในประเทศญี่ปุ่น ใช้ชื่อเว็บไซต์ A-SETZONE จับกุมเครือข่ายและลูกน้องได้บางส่วน พบเงินหมุนเวียนรวมกว่า 1,000 ล้านบาท แต่ไม่สามารถปิดเว็บไซต์ได้เนื่องจากเซิร์ฟเวอร์อยู่ในประเทศกัมพูชา จึงต้องขออนุญาตศาลทำการปิดกั้นการมองเห็นในประเทศต่อไป และพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 รายมีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นในการเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ทั้งสองเครือข่าย อยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวนเพื่อดำเนินคดี
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ "เอ มินเนี่ยน" ตกเป็นข่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บการพนัน พบว่าเฟซบุ๊กส่วนตัว A Minion Ogasawara และ A Adisorn Sopha ได้ปิดตัวไปแล้ว เหลือแต่เพจที่ชื่อว่า Loksopha (โลกโสภา) ที่ยังคงเปิดอยู่ โพสต์สุดท้ายเมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่าได้สั่งการให้จัดอาหารปรุงสุกไว้สำหรับ มอบให้กับเจ้าหน้าที่สำนักการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน หน่วยฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ กรุงเทพมหานคร ที่มาฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 ให้กับประชาชนในเขตคลองสาน
ที่ผ่านมาเฟซบุ๊ก Loksopha ได้มีการทำกิจกรรมร่วมกับร้านก๋วยเตี๋ยวเรือแห่งหนึ่ง ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แจกอาหารแก่ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานฉีดวัคซีน และร่วมกับคลีนิกแห่งหนึ่ง ในนามกองทุนมินเนี่ยนเอ แจกจ่ายชุดอุปกรณ์การกักตัวที่บ้านและเงินชดเชยรายได้วันละ 150 บาท 10 วัน รวมทั้งกิจกรรมแจกปฏิทินมินเนียน และจำหน่ายสินค้าที่ระลึกตัวการ์ตูนมินเนียน นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรักสถาบัน
สำหรับนายอดิศร โสภา ถูกระบุคร่าวๆ ว่าเป็นนักธุรกิจในอุตสาหกรรมบันเทิง เคยตกเป็นข่าวเมื่อปี 2562 โพสต์อินสตาแกรม #ดักตบอีช่อช่องArrival กรณีที่มีภาพ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ขณะนั้นเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ สวมชุดครุยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงออกต่อพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ในทางที่ไม่เหมาะสม แต่ก็ถูกกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ตามไปถล่ม กระทั่งดาราที่สนิทกับนายอดิศร ไปคอมเมนต์ก็ถูกหางเลขไปด้วย จนดารานักร้องคนที่โพสต์ต้องออกมาขอโทษ และกลุ่มที่มีแนวคิดต่อต้านรัฐบาลเลิกติดตามไปพอสมควร
ต่อมาพบว่านายอดิศรได้แสดงออกทางการเมืองโดยติดป้ายไวนิลรอบบ้านหรู ในหมู่บ้านกฤษดานคร 31 ย่านทวีวัฒนา ระบุว่า "บ้านมินเนียนเอ ไม่ต้อนรับพวกล้มเจ้า" รวมทั้งโจมตีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และยังทำคอนเทนต์วีดีโอตอบโต้ทางการเมือง เช่น กรณีที่นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ชักชวนให้แบนร้านสุกี้แห่งหนึ่ง เพราะไปจัดเลี้ยงอาหารให้กับทีวีดาวเทียมช่องหนึ่งที่สนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปรากฎว่ากลุ่มนายอดิศรได้ทำคลิปสั่งสุกี้ร้านดังกล่าวและกลุ่มสมาชิกในบ้านสวมชุดมินเนี่ยนรับประทานโชว์
นอกจากนี้ ยังมีคลิปในลักษณะใช้ชีวิตอยู่กันแบบเรียบง่ายตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกผักปลอดสารพิษกินเอง รวมทั้งยังเคยนำอาหารที่แบ่งใส่ถุงใส่ตู้ปันสุข เพื่อช่วยผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และยังให้บรรดาลูกน้องคนสนิท ตระเวนนำอาหาร และเครื่องใช้จำเป็นแจกจ่ายชุมชน และสถานที่ต่างๆ อีกด้วย ที่ผ่านมามีสื่อมวลชนทีวีดาวเทียมที่สนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เคยนำวีดีโอคลิปของนายอดิศรไปออกอากาศมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเช้ามืดวันที่ 3 เม.ย. 2564 เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 138/12 ซอยอัญมณี 17 หมู่บ้านกฤษดานคร 31 แยก 3 ถนนพุทธฆณฑล สาย 3 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกับบ้านมินเนียนเอ ทำให้ลูกน้องติดอยู่ในบ้านเสียชีวิต กระทั่งต่อมาบ้านหลังดังกล่าวพังถล่มลงมา เป็นเหตุให้อาสาสมัครกู้ภัย 3 รายเสียชีวิต ช่วงเวลาที่เกิดเหตุนายอดิศร เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ก่อนโควิด-19 ระบาด และกลับประเทศไทยไม่ได้ แต่ได้แสดงความรับผิดชอบแก่ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บผ่านตัวแทนของนายอดิศร
ที่ผ่านมา นายอดิศรเคยบริจาคเงินให้ ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) จำนวน 500,000 บาท ซึ่งทาง ศชอ.แจ้งความประสงค์ว่าจะเก็บไว้ทำมูลนิธิ ศชอ. แต่เนื่องจากการจดยื่นมูลนิธิ ค่าใช้จ่ายทางกรรมการศูนย์ฯ เป็นผู้รับผิดชอบเองทั้งหมด จึงได้คืนเงินแก่นายอดิศรไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2564 ที่ผ่านมา ต่อมานายนพดล พรมหภาสิต เลขาธิการ ศชอ. ระบุจุดยืนปกป้องสถาบันและสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนนายอดิศรไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ แต่ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกัน
