โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล
ช่วงนี้เรื่องของ ‘เศรษฐกิจสีเขียว’ (Green Economy) กำลังเป็นประเด็นร้อนในจีน โดยเฉพาะในปีนี้มีการพูดถึงมากกว่าปีที่ผ่านมาเพราะภาวะโลกร้อนและก๊าซเรือนกระจกที่มากขึ้นไม่ใช่แค่จีนเท่านั้น ทั่วโลกก็จับมือกันจัดประชุมร่วมด้านสิ่งแวดล้อม แต่ละประเทศต่างให้คำมั่นสัญญาและตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสู่สิ่งแวดล้อมภายในปีที่กำหนด
ประเด็นที่อยากเล่าสู่กันฟังคือเรื่องของการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าพลังงานสะอาดในจีน ตั้งแต่ช่วงการระบาดของโควิด-19 เป็นต้นมายอดขายรถพลังงานสะอาดทั่วประเทศเติบโตรายปีมากกว่า 200% ในปีนี้มีตัวเลขคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารวมของจีนจะมากกว่า 3.3 ล้านคัน และในปีหน้าอัตรารถยนต์ไฟฟ้าที่วิ่งบนท้องถนนจีนจะคิดเป็น 35% ของปริมาณรถยนต์ทั้งหมด
จากการสนับสนุนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของรัฐบาลจีนที่ก่อนหน้าให้สิทธิพิเศษด้านทะเบียนรถยนต์พลังงานสะอาด กล่าวคือรถยนต์พลังงานสะอาดมีเงื่อนไขการรับป้ายทะเบียนที่ง่ายกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน อีกทั้งประชาชนจีนเริ่มให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและ Green Economy มากขึ้น รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ประหยัดกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน และอีกปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งคือสถานีชาร์จไฟฟ้าของจีนขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ผู้เขียนขอยกตัวอย่างในมหาวิทยาลัยจีนที่ผู้เขียนทำงานอยู่มีสถานีชาร์จไฟฟ้าสามจุด อาจารย์ที่ขับรถมาทำงานตอนเช้าก็จอดตรงตำแหน่งที่แสดงไว้ เอาสายไฟมาเสียบเข้ากับที่ชาร์จไฟฟ้าที่อยู่ด้านหน้ารถ สแกนคิวอาร์โค้ดจ่ายไฟและไปทำงาน สำหรับรถเก๋งสี่ประตูหากใช้ไฟหมดจะใช้เวลาเติมไฟเต็มโดยเฉลี่ย 6-7 ชั่วโมง ขับได้ประมาณ 50 กิโลเมตร(ทั้งนี้แล้วแต่รุ่น ยี่ห้อรถ ความเร็วในการขับ) หลังเลิกงานก็ขับรถกลับบ้านไฟก็เติมเต็มพอดี มีอยู่ครั้งหนึ่งผู้เขียนเคยใช้โทรศัพท์มือถือสแกนคิวอาร์โค้ดชาร์จไฟรถให้เพื่อน ค่าใช้จ่ายหลังการเติมไฟ 6 ชั่วโมงประมาณ 30 กว่าหยวนหรือ 150 บาทเท่านั้น ถึงแม้ผู้เขียนจะไม่ได้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าแต่จากค่าใช้จ่ายการชาร์จไฟแต่ละครั้งเทียบกับระยะทางที่ขับได้นั้น ถือว่าประหยัดมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับการขับในเมืองที่ขับเร็วมากไม่ได้อยู่แล้ว
เพราะการสนับสนุนของรัฐบาลและการรณรงค์ให้ประชาชนรักสิ่งแวดล้อม ทำให้ภาคอุตสาหกรรมรถยนต์จีนต่างตื่นตัวฯ ใครที่ลงทุนเกี่ยวกับ ‘อุตสาหกรรมสีเขียว’ (Green Industry) ช่วงนี้ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์และการสนับสนุนต่างๆจากรัฐบาลท้องถิ่น ด้านอุตสาหกรรมรถยนต์จีนก็กำลังอัปเกรดจากการผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันไปสู่การพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า และนวัตกรรมของรถยนต์ไฟฟ้าจีนก็กำลังเกิดขึ้นอยู่ตลอด ดังนั้นหลังจากนี้ไป 3-5 ปีตลาดอุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนจะเปลี่ยนไปมากเลยทีเดียว ผู้เขียนเห็นว่าผู้ประกอบการจีนไม่ว่าจะอยู่ในภาคอุตสาหกรรมไหนก็ปรับตัวกันได้เก่ง ไว คว้าโอกาสกันได้เร็ว
หากมองในภาพใหญ่แล้วจีนค่อยๆก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำรถยนต์พลังงานสะอาดของโลก ในแง่ของขนาดตลาดรถยนต์จีนเป็นอันดับหนึ่งของโลกอยู่แล้ว ยิ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานสะอาดเติบโตเร็ว ผู้บริโภคจำนวนมากเบนเข็มจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันมาเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ทำให้ยอดขายในประเทศทุบสถิติอยู่ทุกปี อีกประเด็นสำคัญคือแบรนด์รถยนต์พลังงานสะอาดของภายในประเทศจีน กินส่วนแบ่งตลาดกว่า 90% ไปแล้ว ทำให้แบรนด์รถยนต์พลังงานสะอาดจากต่างประเทศเข้ามาตีตลาดจีนได้ยากขึ้น นอกซะจาก Tesla ที่เข้ามาตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ที่เซี่ยงไฮ้ มียอดขายสูงสุดในบรรดาแบรนด์รถยนต์พลังงานสะอาดต่างประเทศในจีน โดยเฉพาะคนในเมืองใหญ่ที่มีสถานะเลือกซื้อแบรนด์ Tesla กันมาก
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ รถยนต์พลังงานสะอาดแบรนด์ของจีนเองมีหลายระดับคุณภาพและราคาตั้งแต่คันละ 5 แสนบาทต้นๆ ไปจนถึง 2.5 ล้านบาท เอาเป็นว่ารถยนต์พลังงานสะอาดแบรนด์จีนเองก็ราคาแรงได้เรื่องเหมือนกัน และตลาดรถยนต์พลังงานสะอาดของโลกในปี 2021-2023 จะมีรถยนต์พลังงานสะอาดออกมาขายในตลาดกว่า 300 รุ่น รถยนต์พลังงานสะอาดรุ่นใหม่ๆกำลังถูกพัฒนาออกมาอยู่ตลอดและบางประเทศ บางเมือง มีแผนห้ามรถยนต์ที่ใช้น้ำมันวิ่งในท้องถนนแล้ว
เป้าหมายสำคัญของจีนช่วง 40 ปีหลังจากนี้จะลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์ โดยมีการประเมินว่าหากจีนจะบรรลุเป้าหมายนี้ต้องลงเงินไปถึง 100 ล้านล้านหยวนเลยทีเดียว และจะกลายเป็นโปรเจ็กการลงทุนด้านพลังงานของจีนที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ส่วนเจ้าตลาดรถยนต์พลังงานสะอาดของจีนในปัจจุบันคือรถยนต์แบรนด์ BYD ที่เตรียมตัวก่อนหน้าหลายสิบปีเพราะเห็นโอกาสในอนาคตและลงทุนกระบวนการผลิตอุปกรณ์ด้านการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาโดยตลอด โดยในปัจจุบันรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BYD มีสิทธิบัตรเทคโนโลยีของตัวเอง มีแนวทางเทคโนโลยีของตัวเอง โดย CEO ของ BYD ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า “รถยนต์รุ่น DM-i ยังไม่ได้มอบรถให้กับลูกค้ากว่า 2 แสนคัน ลูกค้าที่สั่งซื้อต้องรอประมาณ 4 เดือน” และในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเดือนเดียว BYD ขายรถยนต์ได้ 8.8 หมื่นคัน ในจำนวนนี้ 90% คือรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
การจัดอันดับยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศจีน 10 อันดับในปี 2021 นี้ (ม.ค.-ต.ค.) มีแบรนด์ Tesla แบรนด์ต่างชาติแบรนด์เดียวเท่านั้นที่ติดอันดับ ตามตารางต่อไปนี้
จากตารางยอดขายรถยนต์พลังงานสะอาดของจีน 10 อันดับแรกของประเทศจะเห็นว่าแต่ละบริษัทมียอดขายเติบโตกันแบบหวือหวา ทั้งๆที่อยู่ในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 จากตรงนี้เองจะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจีนฟื้นตัวเร็ว ความต้องการใช้จ่ายของประชาชนภายในประเทศก็ยังสูงอยู่เช่นกัน ที่น่าจับตาคือยอดขายของแบรนด์ Tesla จากอเมริกาในปีนี้เริ่มจะขึ้นมาตีตื้นกับ BYD และมียอดขายโตกว่าปีก่อนในช่วงเดียวกันถึง 300% จากประสบการณ์ของผู้เขียนเคยถามเพื่อนชาวจีนที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ต่างบอกว่าราคาไม่แพงเกินไป การออกแบบสวยทันสมัย เป็นต้น
สรุปคือตลาดรถยนต์พลังงานสะอาดจีนทั้งในด้านการเติบโตและการพัฒนาด้านเทคโนโลยีเป็นเรื่องที่น่าจับตา จีนเองมีความตั้งใจและพยายามเร่งเครื่องที่จะก้าวไปสู่อันดับต้นๆของโลกในด้านของ Green Economy ส่วนรถยนต์พลังงานสะอาดเป็นหนึ่งเลี้ยวล้อสำคัญของจีนที่จะบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์