อินเดียมีประชากรผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการสำรวจมา จากข้อมูลของรัฐบาลที่พบด้วยว่าอัตราการเกิดในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกแห่งนี้กำลังชะลอตัวลง
ในอดีตทีผ่านมา ครอบครัวอินเดียมักอยากได้ลูกชายมากกว่าลูกสาว โดยลูกสาวนั้นบ่อยครั้งถูกมองว่าเป็นภาระและมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เนื่องจากธรรมเนียมการแต่งงานที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายนำสินสอดไปสู่ขอฝ่ายชาย
แม้การทำแท้งเพื่อเลือกเพศบุตรเป็นสิ่งผิดกฎหมายในอินเดีย แต่ก็ยังทำกันอย่างต่อเนื่อง และข้อมูลประชากรแห่งชาติที่ผ่านมา พบว่าอินเดียเป็นชาติที่มีอัตราส่วนผู้ชายมากกว่าผู้หญิงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
อย่างไรก็ตามล่าสุดผลการสำรวจสุขภาพและครอบครัวทั่วประเทศ ที่เผยแพร่โดยกระทรวงสาธารณสุขในวันพุธ(24พ.ย.) พบมีประชากรหญิงในอัตราส่วน 1,020 คนต่อผู้ชาย 1,000 คน ในช่วง 2 ปีของการวิจัย
ไม่ว่าจะเป็นผลสำรวจทางประชากรใดๆของรัฐบาล ย้อนกลับไปในสำรวจสำมะโนประชากรครั้งแรกในปี 1876 ผลการสำรวจนี้ถือเป็นครั้งแรกที่แสดงให้เห็นว่ามีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายในเดีย
"มีการดีขึ้นในทางบวกของอัตราส่วนระหว่างเพศ และเป็นก้าวย่างในทิศทางที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามยังจำเป็นต้องดำเนินการต่างๆอีกมาก ในการมุ่งสู่ความเท่าเทียมทางเพศ" สังหามิตรา ซิงห์ นักวิทยาศาสตร์ด้านสาธารณสุขจากมูลนิธิประชากรแห่งอินเดีย (the Population Foundation of India) ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลทางการแพทย์บอกกับเอเอฟพี
ความแตกต่างนี้อธิบายได้จากอายุคาดเฉลี่ย(life expectancy)ที่ยืนยาวของผู้หญิง ประกอบกับมีเด็กชายถือกำเนิดมากกว่าผู้หญิง จึงทำให้ที่ผ่านมาอัตราส่วนจำนวนของเพศชายจึงอยู่ที่ 1,000 คนต่อผูู้หญิง 929 คน "มันบ่งชี้ว่ามีระดับความชื่นชอบลูกชายมากกว่าพอสมควร" ซิงห์กล่าว
ข้อมูลเผยให้เห็นด้วยว่าอัตราการเกิดของอินเดียก็ลดลงเช่นกัน เหลือเด็ก 2 คนต่อผู้หญิงหนึ่งคน ลดลงจาก 2.2 คน ในผลสำรวจหนล่าสุดเมื่อช่วงปี 2015-2016
ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าระดับทดแทนที่จำเป็นเพื่อคงจำนวนประชากร ซึ่งทาง PFI ยกย่องว่าเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของโครงการวางแผนครอบครัวของประเทศ
อินเดียมีประชากรราว 1.3 ล้านคน และจากการคาดหมายต่างๆนานา สหประชาชาติประมาณการว่าจำนวนประชากรของอินเดียจะแซงหน้าจีนในช่วงปลายทศวรรษนี้
ข้อมูลของการสำรวจล่าสุดมาจากครอบครัวต่างๆราวๆ 600,000 ครัวเรือนทั่วอินเดีย
ซิงห์บอกว่าภาพที่ชัดเจนกว่านี้จะปรากฏขึ้นหลังอินเดียสำรวจสำมะโนประชากรเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเดิมทีมีกำหนดเผยแพร่ต่อสาธารณะในปีนี้ แต่การสำรวจต้องล่าช้าออกไปสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
(ที่มา:เอเอฟพี)