xs
xsm
sm
md
lg

โควิด-19หวนเล่นงานยุโรป!หลายชาติพบผู้ติดเชื้อทุบสถิติ ต้องขยายขอบเขตฉีดเข็มกระตุ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เคสผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทุบสถิติสูงสุดในหลายพื้นที่ของยุโรปในวันพุธ(24พ.ย.) ด้วยทวีปแห่งนี้กลับมาเป็นศูนย์กลางของโรคระบาดใหญ่อีกครั้ง สถานการณ์ที่กระตุ้นให้มีการจำกัดความเคลื่อนไหวรอบใหม่และพบเห็นพวกผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขผลักดันขยายขอบเขตฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

สโลวาเกีย สาธารณรัฐเช็ก เนเธอร์แลนด์และฮังการี ต่างพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่สภาพอากาศฤดูหนาวที่ปกคลุมยุโรปและผู้คนรวมตัวกันในร่มมากขึ้นในช่วงก่อนถึงเทศกาลคริสต์มาส กลายเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ชั้นดี

หลังจากเล่นงานทั่วโลกมานานเกือบ 2 ปี นับตั้งแต่ถูกพบเป็นครั้งแรกในแถบภาคกลางของจีน ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แพร่เชื้อติดผู้คนทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 258 ล้านรายและคร่าชีวิตไปมากกว่า 5.4 ล้านคน

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งยุโรป(ECDC) ได้ออกคำแนะนำฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นประชากรวัยผู้ใหญ่ทุกคน แต่ให้ความสำคัญกับบุคคลอายุ 40 ปีขึ้นไปในลำดับต้นๆ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากกรอบคำแนะนำคราวก่อนๆ ซึ่งบ่งชี้ว่าควรฉีดเข็มกระตุ้นเฉพาะกับบุคคลสูงวัยที่เปราะบางและกลุ่มคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

"หลักฐานที่ปรากฏจากอิสราเอลและสหราชอาณาจักรแสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพการป้องกันการติดเชื้อและติดเชื้ออาการรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างมาก ตามหลังการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในทุกกลุ่มอายุในระยะสั้น" ECDCระบุ

หลายประเทศในอียูได้เริ่มฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นไปแล้ว แต่ใช้กฎเกณฑ์ต่างกันออกไปในการจัดลำดับความสำคัญของพวกเขา เช่นเดียวกับกำหนดกรอบเวลาที่ต่างกันระหว่างการฉีดเข็มดั้งเดิมกับเข็มกระตุ้น

แอนเดรีย แอมมอน ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งยุโรประบุว่าเข็มกระตุ้นจะช่วยเพิ่มการป้องกันการติดเชื้อที่มีต้นตอจากภูมิคุ้มกันที่ลดลง และอาจช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อในหมู่ประชากร รวมถึงป้องกันการติดเชื้ออาการหนักถึงขั้นเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและเสียชีวิต

เธอแนะนำประเทศต่างๆที่มีอัตราการฉีดวัคซีนระดับต่ำให้ยกระดับการกระจายวัคซีน และเตือนว่ามีความเสี่ยงระดับสูงที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตและจำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลของยุโรปจะพุ่งขึ้นในเดือนธันวาคมและมกราคม หากมาตรการคำแนะนำต่างๆไม่ได้ถูกนำไปใช้

เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ยอมรับว่ายุโรปกลายเป็นศูนย์กลางของโรคระบาดใหญ่อีกครั้ง พร้อมเตือนเกี่ยวกับความรู้สึก "หลงเข้าใจผิดคิดว่าปลอดภัยแล้ว" ว่าได้รับการปกป้องจากวัคซีน

"ยังไม่มีประเทศไหนหลุดพ้น" เขาบอกกับผู้สื่อข่าว พร้อมระบุว่าที่ประชุุมคณะรัฐมนตรีขององค์การการค้าโลกในสัปดาห์หน้า จะสามารถเห็นพ้องอย่างเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับการระงับการใช้สิทธิ์ด้านทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับวัคซีนโควิด-19

สวีเดนจะเริ่มฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่ประชากรวัยผู้ใหญ่อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยการฉีดเข็มกระตุ้นวัคซีน mRNA กำหนดไว้สำหรับบุคคลอายุ 65 ปีขึ้นไป แต่ในท้ายที่สุดแล้วก็เล็งขยายขอบเขตฉีดเข็มกระตุุ้นให้บุคคลกลุ่มอื่นๆเช่นกัน

สโลวาเกียรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่รายวันสูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในวันพุธ(24พ.ย.) ในวันเดียวกับที่รัฐบาลอนุัติล็อกดาวน์เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รวดเร็วที่สุดของโลก

ร้านอาหารและร้านค้าที่ไม่มีความจำเป็นจะปิดบริการ และความเคลื่อนไหวต่างๆจะถูกจำกัดเฉพาะออกไปซื้อเข้าของที่มีความจำเป็น ไปทำงาน ไปโรงเรียนและพบแพทย์ "สถานการณ์ร้ายแรง" นายกรัฐมนตรีเอดูอาร์ด เฮเกอร์ ระบุ "เรามาถึงจุดนี้เพราะไม่ปฏิบัติตามมาตรการต่างๆที่มีอยู่ในปัจจุบัน"

ออสเตรีย ประเทศเพื่อนบ้าน เข้าสู่ล็อกดาวน์เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ เป็นเวลาอย่างน้อย 10 วัน กลายเป็นชาติแรกที่กลับสู่ข้อจำกัดต่างๆนานา นอกจากนี้แล้วพวกเขาจะบังคับฉีดวัคซีนทุกคนตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ความเคลื่อนไหวที่โหมกระพือความขุ่นเคืองแก่ประชาชนในวงกว้าง จำนวนมากไม่พอใจที่รัฐจำกัดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล

สาธารณรัฐเช็กรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน โดยเคสผู้ติดเชื้อรายวันทะลุ 25,000 คนเป็นครั้งแรก ในขณะที่รัฐบาลกำลังพิจารณาบังคับฉีดวัคซีนบุคคลอายุ 60 ปีขึ้นไปและบุคคลในหลายสาขาอาชีพ ในนั้นรวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุข

เนเธอร์แลนด์พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายใหม่มากกว่า 23,700 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สูงที่สุดนับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น และรัฐบาลเตรียมประกาศมาตรการใหม่ๆในวันศุกร์(26พ.ย.)

ฮังการีรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันพุ่งแตะระดับ 12,637 คน รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีวิคเตอร์ ออร์บาน ซึ่งคัดค้านล็อกดาวน์รอบใหม่ด้วยเกรงว่าจะก่อความเสียหายแก่เศรษฐกิจ ได้เริ่มแผนฉีดวัคซีนแผนการหนึ่งเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ เป็นการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนโดยไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า

รัสเซียยังคงพบผู้เสียชีวิตรายวันที่เกี่ยวข้องกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แตะระดับใกล้ๆสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด และเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าพวกเขากำลังสอดส่องตามสื่อสังคมออนไลน์และเว็บไซต์ข่าวต่างๆ เพื่อหาตัวคนที่เผยแพร่คำกล่าวอ้างเท็จๆเกี่ยวกับอันตรายของวัคซีน ท่ามกลางอัตราการฉีดวัคซีนระดับต่ำในประเทศ เนื่องจากผู้คนจำนวนมากเคลือบแคลงสงสัยในวัคซีน

ฝรั่งเศสจะแถลงมาตรการโควิด-19ใหม่ในวันพฤหัสบดี(25พ.ย.) ส่วน อิตาลี จะยกระดับจำกัดสิทธิ์บุคคลที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ห้ามพวกเขาเข้าไปใช้บริการโรงภาพยนตร์ ร้านอาหารและร่วมกิจกรรมกีฬา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคมเป็นต้นไป

โปรตุเกส หนึ่งในชาติที่มีอัตราการฉีดวัคซีนมากที่สุดในโลก จะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นราว 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมดในช่วงสิ้นเดือนมกราคม ท่ามกลางเคสผู้ติดเชื้อรายวันที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อวันพุธ(24พ.ย.)

(ที่มา:รอยเตอร์)
กำลังโหลดความคิดเห็น