อาคารรัฐสภา-สถานีตำรวจโดนเผา!ระหว่างผู้ประท้วงนับร้อยกดดันเรียกร้อง “นายกฯหมู่เกาะโซโลมอน” ลาออกหลังเลิกคบ "ไต้หวัน" หันไปซบ "ปักกิ่ง"

เอเจนซีส์ - ตำรวจใช้ทั้งแก๊สน้ำตาและกระสุนยางขับไล่กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหลายร้อยคนที่เผาอาคารในที่ทำการรัฐสภา สถานีตำรวจ และร้านค้าในกรุงโฮนีอารา มีรายงานการปล้นสะดมเกิดขึ้นในย่านไชน่าทาวน์และเดินมาร์ชไปหน้าสถานทูตจีน กลุ่มผู้ประท้วงพยายามกดดันเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี มานาสเซห์ โซกาแวร์ ที่เลือกข้างยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันและหันไปสถาปณาความสัมพันธ์กับจีนต้องลาออก

เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้(24 พ.ย)ว่า กลุ่มผู้ประท้วงเดินมาร์ชมาที่เขตทำการรัฐสภาหมู่เกาะโซโลมอนในวันพุธ(24)ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของกรุงโฮนีอาราที่คนเหล่านี้แอบจุดไฟเผาอาคารที่เป็นลักษณะเป็นกระท่อมสร้างด้วยหินหลังคามุงใบจากตั้งใกล้กับอาคารรัฐสภาโซโลมอนที่นายกรัฐมนตรี มานาสเซห์ โซกาแวร์ (Manasseh Sogavare)และบรรดาสมาชิกรัฐสภาไปสูบบุหรี่และรับประทานอาหารเที่ยง

“มันเป็นสิ่งที่ทรมานใจพวกเราเป็นอย่างมาก” หนึ่งในเจ้าหน้าที่รัฐสภาโซโลมอนเปิดเผยพร้อมกล่าวต่อว่า มันเป็นเรื่องโชคดีสำหรับพวกเขาที่ตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้และขับไล่กลุ่มผู้ประท้วงออกไป

เอบีซีนิวส์ของออสเตรเลียรายงานว่า มีผู้ประท้วงราว 1,000 คนรวมตัวด้านหน้าประตูรัฐสภาที่โซกาแวร์กำลังอยู่ด้านในอาคารรัฐสภาส่วนโรงเรียนต่างๆได้ปิดไปก่อนหน้าเพื่อความปลอดภัย

ทั้งนี้พบว่าสถานีตำรวจและอาคารอีกแห่งที่มีชาวจีนเป็นเจ้าของถูกเผาราบระหว่างการประท้วงเช่นกัน

“พวกเราไม่คิดว่าฝูงชนจะเดินทางมาที่นี่” เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงซึ่งประจำที่สถานีแห่งนี้กล่าว

และเสริมต่อว่า “พวกเราทั้งหมดอยู่ภายในสำนักงานของตัวเองขณะที่พวกเราได้ยินเสียงฝูงชน พวกเราออกมาเพื่อดูแต่คนเหล่านั้นเริ่มระดมใช้ก้อนหินโจมตีที่อาคารของพวกเรา ดังนั้นดิฉันจึงตะโกนไปบอกกับเพื่อนร่วมงานให้หลบในห้องภายในสถานี พวกเราต่างอยู่ในห้องขณะที่กำลังสำลักควันไฟและนั่นในจุดนั้นพวกเราถึงเพิ่งเข้าใจว่าพวกเขากำลังจุดไฟเผาอาคารหลังนี้”

กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีหมู่เกาะโซโลมอนลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้พบว่ามีผู้ประท้วงจำนวนมากเดินทางมาจากจังหวัดมาไลตา(Malaita)ที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นสูงสุดและรัฐบาลประจำจังหวัดมีความสัมพันธ์ตรึงเครียดกับรัฐบาลกลางของโซกาแวร์เป็นเวลาหลายปี

ความตรึงเครียดเริ่มเกิดขึ้นในปี 2019 เมื่อโซกาแวร์ประกาศยกเลิกความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างหมู่เกาะโซโลมอนและไต้หวันและหันไปหาจีนแทน สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดมาไลตา แดเนียล ซูอาดานี(Daniel Suidani)

โดยในการให้สัมภาษณ์กับเดอะการ์เดียนที่เมืองออกี(Auki) เมืองเอกของจังหวัด ซูอาดานีกล่าวไปถึงการประท้วงที่เขาไม่ได้ร่วมอยู่ว่าเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลกลางหมู่เกาะโซโลมอนไม่ยอมฟังเสียงประชาชนและเข้ามาเกี่ยวข้องกับความวิตกกังวลต่อ "ปัญหาหลากหลาย" รวมไปถึงโปรเจกต์โครงสร้างพื้นฐานและการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันหันไปหาจีนแผ่นดินใหญ่

“ในทัศนะของผมไม่ว่ารัฐบาลจะต้องการให้ประชาชนได้รู้ พวกเขาต้องยืนขึ้นและบอกคนเหล่านั้น พวกเขาไม่สามารถวิ่งหนีออกไปจากปัญหาได้(เพราะ)มันไม่สามารถช่วยแก้อะไรได้ทั้งนั้น”

ขณะที่ Alpheous Nori ซึ่งเป็นผู้สูงอายุมาจาก East Are’are ที่เดินทางมาเข้าร่วมการประท้วงแต่ไม่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงกล่าวเปิดเผยว่า สถานการณ์ไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไปเป็นเพราะบรรดาผู้นำของหมู่เกาะไม่ฟังเสียงประชาชน

“ถึงเวลาที่ต้องมีการสร้างชาติขึ้นมาใหม่ มีการบูรณะ ปรับปรุงหรือการเปลี่ยนทิศทางเพราะในเวลานี้ประชาชนได้ส่งเสียงออกมาแล้ว” เขากล่าว

เดอะการ์เดียนรายงานว่า ตำรวจอยู่ในชุดปราบจลาจลใช้ทั้งแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเพื่อขับไล่กลุ่มผู้ประท้วงพบว่าเจ้าหน้าที่ประสบความสำเร็จสามารถหยุดการวางเพลิงได้บางพื้นที่ในไชน่าทาวน์แต่พบว่ามีการปล้นสะดมร้านค้าภายในไชน่าทาวน์เกิดขึ้น เอเบีซีนิวส์ชี้ว่า มีเจ้าหน้าที่หญิงบาดเจ็บ 1 นายและมีผู้ประท้วงส่วนหนึ่งถูกจับกุม

สำนักงานตำรวจหมู่เกาะโซโลมอนได้ออกแถลงการณ์ในค่ำวันพุธ(24)เรียกร้องให้ “ประชาชนทุกคนโดยเฉพาะที่อาศัยอยู่ในกรุงโฮนีอาราให้อยู่ในความสงบและไม่เข้าร่วมในความเคลื่อนไหวผิดกฎหมายหลังจากการประท้วงที่เกิดขึ้นในวันนี้(24)ที่ไม่ได้ดำเนินไปอย่างสันติ”

นอกจากนี้ตำรวจหมู่เกาะโซโลมอนยังเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนกลับไปยังบ้านเรือนของตัวเองหากว่าคนเหล่านี้ไม่มีธุระที่เร่งรีบต้องจัดการภายในย่านใจกลางเมืองหลวง

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีหมู่เกาะโซโลมอนสั่งล็อกดาวน์กรุงโฮนีอาราตั้งแต่เวลา 19.00 น. ของวันพุธ(24)ไปจนถึงเวลา 07.00 น.ของวันศุกร์(26)

สื่อออสเตรเลียชี้ว่า ปัญหาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนแผ่นดืนใหญ่ทำให้เรื่องเลวร้ายลง โดยหนังสือพิมพ์หมู่เกาะโซโลมอนเฮอรัลด์รายงานยืนยันว่า กลุ่มผู้ประท้วงได้ปล้นสะดมและทำลายร้านค้าในย่านไชน่าทาวน์ในกรุงก่อนที่จะเดินขบวนไปถึงสถานทูตจีนประจำหมู่เกาะโฮนีอาราที่ถูกตั้งขึ้นในเดือนกันยายน ปี 2020 หลังจากที่นายกรัฐมนตรี โซกาแวร์ เปลี่ยนจากการมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันไปหาปักกิ่งแทน