xs
xsm
sm
md
lg

พาทัวร์ “มองโกเลีย” ประเทศแห่งทุ่งหญ้าและที่ราบสูง สนามชิงแชมป์เอเชีย U23

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


มองโกเลีย (ภาพจาก www.state.gov)
ช่วงปลายเดือน ต.ค.64 นี้ เป็นอีกช่วงเวลาที่ชาวไทยจะส่งกำลังใจไปเชียร์นักฟุตบอลทีมชาติไทย ที่กำลังลงแข่งขันศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2022 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก ณ ประเทศมองโกเลีย ซึ่งนำทีมโดย “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทยชุดใหญ่ และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี

นอกจากการร่วมเชียร์และส่งกำลังใจให้นักกีฬาทีมชาติไทยในการแข่งขันครั้งนี้ “มองโกเลีย” ในฐานะสถานที่จัดการแข่งขันก็มีความน่าสนใจไม่น้อย ลองมาทำความรู้จัก “มองโกเลีย” กันให้มากขึ้น

“มองโกเลีย” เป็นประเทศในทวีปเอเชีย ทางเหนือติดกับประเทศรัสเซีย ทางใต้ติดกับประเทศจีน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูง ภูเขา และทุ่งหญ้า ไม่มีทางออกทะเล

เมืองหลวงของประเทศมองโกเลียคือ กรุงอูลานบาตอร์ และเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในมองโกเลีย เป็นศูนย์กลางการคมนาคม ทั้งเครื่องบิน รถไฟ รถโดยสารทางไกล มีถนนที่เชื่อมต่อไปยังเมืองอื่นๆ ในมองโกเลียรวมถึงประเทศใกล้เคียง ที่สำคัญ ยังเป็นจุดที่สามารถเขื่อมโยงกับเส้นทางรถไฟสายทรานส์-ไซบีเรีย เส้นทางรถไฟที่ยาวที่สุดในโลก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมกันเป็นอย่างมาก

อนุสาวรีย์เจงกีสข่าน (ภาพจาก www.mn.undp.org)
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย สามารถเดินทางเข้าไปเที่ยวในมองโกเลียได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า เวลาท้องถิ่นของมองโกเลียเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง เวลาไปเที่ยวจึงไม่ต้องปรับตัวเรื่องเวลามากนัก

แหล่งท่องเที่ยวของมองโกเลียทีที่น่าสนใจหลายแห่ง ขอเลือกแหล่งท่องเที่ยวเด่นๆ 5 แห่ง มาแนะนำให้รู้จักกัน

“อนุสาวรีย์เจงกีสข่าน”ตั้งอยู่ในเมืองอูลานบาตอร์ สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึง “เจงกีสข่าน”นักรบผู้ยิ่งใหญ่แก่งมองโกล ที่เคยนำทัพพิชิตดินแดนต่างๆ ตั้งแต่เอเขียถึงยุโรป และยังรำลึกถึงความยิ่งใหญ่ของชนชาติมองโกลในอดีตอีกด้วย

อนุสาวรีย์เจงกีสข่านถือว่าเป็นอนุสาวรีย์คนขี่ม้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประมาณ 40 เมตร น้ำหนักกว่า 250 ตัน สร้างจากสแตนเลสทั้งหมด บริเวณฐานเป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับชนชาติมองโกล ส่วนชั้นบนบริเวณหัวม้า เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมทัศนียภาพโดยรอบได้ มองออกไปจะเห็นทุ่งหญ้ากว้างไกล ล้อมรอบด้วยเนินเขาสวยงาม

จัตุรัสซัคบาทาร์ (ภาพจาก matadornetwork.com)
“จัตุรัสซัคบาทาร์” จัตุรัสที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงอูลานบาตอร์และเป็นที่จัดงานเทศกาลต่างๆ กลางจัตุรัสมีอนุสาวรีย์รูปปั้นของ ดัมดิน ซัคบาทาร์ ผู้ประกาศอิสรภาพแก่มองโกเลีย เมื่อปี ค.ศ. 1921 ตั้งตระหง่านอยู่ ใกล้ๆ กันยังมีรูปปั้นของเจงกีสข่าน โอกิไดข่าน ลูกชายคนที่สามของเจงกิสข่าน และกุบไลข่าน หลานชายของเจงกิสข่าน ซึ่งเป็นผู้ที่ช่วยขยายดินแดนต่อจากเจงกิสข่าน

ส่วนรอบๆ เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ อาคารรัฐสภา พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ จัดแสดงเรื่องราวการถือกำเนิดของมองโกเลีย และพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ จัดแสดงเรื่องพันธุ์ไม้ ดอกไม้ สัตว์ และธรณีวิทยา นอกจากนี้ยังมี โรงละครแห่งชาติ ตลาดหลักทรัพย์ ตึกเรือใบสูงที่สุดในมองโกเลีย และห้างสรรพสินค้า Tower State department store

วัดกานดาน (ภาพจาก wikipedia.org)
“วัดกานดาน” วัดเที่เก่าแก่และเป็นศูนย์รวมใจของชาวพุทธในมองโกเลีย ตั้งอยู่ในกรุงอูลานบาตอร์ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1835 ภายในเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ วิทยาลัยพุทธปรัชญา วิทยาลัยการแพทย์และโหราศาสตร์ รวมถึงเป็นที่ประดิษฐานของ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปในพระอิริยาบถยืนอยู่ด้านในพระวิหารที่สูงที่สุดในโลกด้วย

อุทยานแห่งชาติกอร์ไกเทเรลจ์ (ภาพจาก majesticgobitour.com)
“อุทยานแห่งชาติกอร์ไกเทเรลจ์” ตั้งอยู่ห่างจากกรุงอูลานบาตอร์ไปทางตะวันออกราว 60 กิโลเมตร เป็นเขตอนุรักษ์ทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของมองโกเลีย มีภูเขาหินแกรนิตขนาดใหญ่รูปร่างแปลกตามากมาย มีป่าไม้ที่มีแม่น้ำทูอูล หลผ่าน ภายในอุทยานเป็นที่อยู่อาศัย ของสัตว์ป่าและนกมากกว่า 250 สายพันธุ์ รวมถึงสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ได้แก่ กวางมูซ, หมีสีน้ำตาล และเพียงพอน

แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่ เช่น ทะเลสาบคาจีอินคาร์ เป็นทะเลสาบน้ำแข็งที่ความลึก 20 เมตร น้ำพุร้อนเยสตีอี เป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติ หินเต่า เป็นภูเขาหินแกรนิตขนาดใหญ่ที่ถูกน้ำฝนและลมตามธรรมชาติกัดกร่อนจนมีรูปร่างคล้ายเต่า

เมืองเก่าคาราโครัม (ภาพจาก wikivoyage.org)
“เมืองเก่าคาราโครัม” อดีตเมืองหลวงของอาณาจักรมองโกล ในยุคของเจงกิสข่าน ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1220 ในหุบเขา Orkhon บริเวณทางแยกของเส้นทางสายไหม ปัจจุบัน บ้านเรือนต่างๆ ได้ถูกทำลายไปบางส่วน แต่ยังคงหลงเหลือไว้ให้ได้ชื่นชมความงดงามของศิลปวัฒนธรรมในยุคที่มองโกลกำลังรุ่งเรือง โดยเฉพาะพระอาราม Erdene zuu ที่มีกำแพงอันโดดเด่น ยาวประมาณ 400 เมตร กับเจดีย์อีกกว่า 108 เจดีย์ ที่ล้อมรอบพระอารามแห่งนี้

เกอร์ หรือกระโจมแบบมองโกเลีย (ภาพจาก wanderlust.co.uk)
หนึ่งในกิจกรรมการท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนมองโกเลียก็คือ การไปนอน “เกอร์” หรือกระโจมแบบมองโกล เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตของชาวมองโกลในอดีตที่เป็นชนเผ่าเร่ร่อนอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้ากว้าง

ลักษณะของเกอร์ จะเป็นกระโจมที่มีโครงสร้างเป็นไม้ หุ้มด้วยหนังสัตว์ และสามารถถอดเคลื่อนย้ายได้สะดวก เนื่องจากวิถีชีวิตในทุ่งหญ้าสมัยก่อนนั้นมีการอพยพย้ายที่อยู่อาศัยหลายครั้งในแต่ละปี สาเหตุจากสภาพอากาศในแต่ละฤดูกาลนั้นมีความแตกต่างกันมาก ในช่วงฤดูร้อน ประมาณเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม อุณหภูมิอาจสูงได้ถึง 40 องซาเซลเซียส แต่ในช่วงฤดูหนาว ราวเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ กลับมีอากาศหนาวถึง -40 องศาเซลเซียส

นอกจากนี้ ชาวมองโกลในอดีตยังประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์เป็นหลัก จึงต้องอพยพย้ายถิ่นเพื่อเสาะหาอาหารสำหรับสัตว์ โดยสัตว์ส่วนใหญ่ที่เลี้ยงก็คือ อูฐ ม้า วัว แพะ แกะ และ จามรี และจะนิยมกินอาหารที่เป็นผลผลิตจากสัตว์เข่น นม เนย โยเกิร์ต เป็นต้น

มีคำแนะนำว่า หากมาท่องเที่ยวที่มองโกเลียแล้ว ต้องมาลองนอนเกอร์สักหนึ่งคืน สัมผัสวิถีชาวมองโกลในทุ่งหญ้ากว้างสุดสายตา จึงจะถือว่าได้มาถึงมองโกเลียอย่างแท้จริง

#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline
กำลังโหลดความคิดเห็น