xs
xsm
sm
md
lg

เปิดแผน “ดักติ่ง” มุกเดิมของ “ทีมเหลืองอ๋อย” ผนึกกำลังสร้างกระแสหนุน “ลุงตู่” คัมแบก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - แก่กว่าด้วยวัย อาวุโสกว่าด้วยรุ่น

แต่ “อ้ายษิณ” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องถึงขนาดยกมือไหว้ขอให้พอ หลัง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดระหว่างลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ประมาณว่า จะขออยู่อีก 5 ปี

แม้ตอนหลัง “บิ๊กตู่” จะออกมาแก้เกี้ยวว่า ไม่ได้จะอยู่อีก 5 ปี แต่หมายถึงโปรเจกต์ต่างๆ ที่ทำไว้ จะผลิดอกออกผลในเวลา 5 ปีก็ตาม

แต่กางโรดแมปที่เคยวางกันเอาไว้ ร่างกติกาให้ “บิ๊กตู่” อยู่ได้ 8 ปี หากวัดเป็นเทอม ก็รัฐบาล 2 สมัย ไม่รวมเวอร์ชั่นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดีดลูกคิด ตอนนี้บริหารประเทศมาแล้ว 2 ปีเศษ จับบวกอีก 5 ปี แทบจะลงล็อกพอดีกับโรดแมปเป๊ะๆ

เรื่องเงื่อนไขเป็นนายกฯได้แค่ 8 ปีตามรัฐธรรมนูญนั้น ตอนนี้คงต้องพักไว้ก่อน เพราะหากสลักสำคัญจริง “ประยุทธ์” คงไม่กล้าส่งสัญญาณขออีก 5 ปี หรือ “ทักษิณ” ก็คงไม่ลงทุนมายกมือไหว้ประหลกๆ ให้เสียเชิง

ขณะที่กระแสข่าวยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ที่มีสัญญาณมาสักระยะ จนส่งกลิ่นโชยคละคลุ้ง ทำเอานักการเมืองอุปาทานหมู่ แตกตื่น ตาลีตาเหลือกลงพื้นที่กันคึกคักผิดสังเกต

คึกคักถึงขนาดคนเป็นกรรมการอย่าง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังเต้นไปด้วย ออกหนังสือแจ้งไปยังหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคการเมือง ให้เตรียมความในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

หรือความเคลื่อนไหวย้ายพรรคสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ก็เริ่มคึกคัก เริ่มขนข้าวขนของไปบ้านใหม่กันเยอะขึ้น เพื่อไปฟักตัว โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้เป็น ส.ส. เปิดหน้าย้ายซบกันให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นอดีต 9 ส.ส.จังหวัดชายแดนใต้ ที่หนก่อนลงสมัครในนามพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) นำโดย เจะอามิง โตะตาหยง อดีต ส.ส.นราธิวาส ที่ชักแถวกลับคืนรัง “ค่ายสะตอ” พรรคประชาธิปัตย์ หรือ เกียรติศักดิ์ ส่องแสง อดีต ส.ส. และอดีตผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี พรรคประชาธิปัตย์ ที่ยกโขยงทีมงานกว่า 80 ชีวิต ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย

กระทั่งรายของ “เสี่ยเอ็ม” ชื่นชอบ คงอุดม ลูกป๋าชัช-ชัชวาลย์ คงอุดม ที่ผละพรรคพ่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท มาซบพรรคพลังประชารัฐ ที่ว่ากันกว่าเดินตามลูกพี่อย่าง “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในพรรคพลังประชารัฐ

ด้านพวก ส.ส.ที่ยังมีชนักย้ายออกทันทีไม่ได้ หลายคนก็รอแค่เวลา ตัวยังอยู่กับพรรคเก่า แต่ใจไปพรรคใหม่เรียบร้อย เหลือแค่รอเสียงนกหวีดหมดเวลาแข่งขันซีซั่นนี้

ในส่วนของพรรคเล็ก พรรคน้อย ตอนนี้ก็ต้องขยับเขยื้อนหาทางผสมพันธุ์กันเพื่อหนีตาย เพราะกติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ปิดประตูตาย ส.ส.ปัดเศษ ตามคิวที่มีสุมหัวควบรวมพรรคหาทางอยู่รอด

อย่างสัปดาห์ก่อนที่มีข่าวลือว่า มีชายปริศนา 3 คน หน้าตาเหมือน “อ้ายยุทธ” ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา “ป๋ามิ่ง” มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ และ “เสี่ยเปิ้ล” รักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ มือขวา “เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นัดกินข้าวกันที่โรงแรมดัง มีแนวโน้มจะจับมือกันทำพรรคการเมือง

แต่ต่อให้มีการควบรวม แยกย้าย มีพรรคกลายพันธุ์ ผสมพันธุ์ ผุดออกมาเป็นตัวเลือก แต่เลือกตั้งครั้งหน้า “มวยคู่เอก” ก็ยังเป็นคู่เดิม ศึกระหว่างพรรคใหญ่ ที่ได้เปรียบในกติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

สัญชาตญาณนักการเมืองก็ต้องอยู่ในโหมดแสตนด์บาย เพราะเอาแน่เอานอนกับยี่ห้อ 3 ป. ต้นตำรับ “ลับ ลวง พราง” ไม่ได้ วันดีคืนดี ประเทศยุบสภา หาเสียงตุนแต้มกันไม่ทัน

 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ยิ่ง 3 ป. “บิ๊กตู่” - “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย แยกสายกันลงพื้นที่กับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไปปั่นแต้มล่วงหน้าแบบนี้ ยิ่งไว้ใจไม่ได้ ชะล่าใจ คิดว่าไม่มีอะไร ก็เดินตามหลังเพื่อน
ทุกพรรคการเมืองตอนนี้เลยต้องขมีขมัน ขะมักเขม้นลุยลงพื้นที่กันหมด ไม่ว่าจะเป็น “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือ “เสี่ยอู๊ด” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จัดทัวร์นกขมิ้น ชีพจรลงเท้าคู่ขนานกันไปกับคณะของ 3 ป. ไม่ยอมให้ปั่นคะแนนแซงคนเดียว

ส่วนพรรคการเมืองอื่นๆ วันนี้ก็ขยับกันหมด ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย ที่ตอนนี้ “เลขาฯ เสริฐ” ประเสริฐ จันทรรองทอง เลขาธิการพรรค เป็นหัวหอกในการแจกงานให้ ส.ส.ปูพรมลงพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่ประสบวิกฤตน้ำท่วม ขณะที่พรรคก้าวไกล ก็ใช้ชาวงปิดสมัยประชุมปล่อยคิว “หัวหน้าทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ขึ้นเหนือร่องใต้ออกอีสาน ลงพื้นที่เก็บแต้มไม่เว้นแต่ละวัน

ไล่ไปจนถึงพรรคน้องใหม่ พรรคไทยสร้างไทยของ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือพรรคกล้าของ “กรณ์ จาติกวณิช” ล้วนแต่ขลุกอยู่ในพื้นที่ โปรโมตตัวเอง ขอแชร์คะแนนจากชาวบ้านเหมือนกัน หวังให้มีที่ยืนอยู่บนหน้าสื่อ

แต่หากจับสัญญาณจากผู้ถืออำนาจยุบสภาอย่าง “ลุงตู่” ดีๆ จะเห็นได้ชัดว่า ยังจะไปต่อจน “ครบเทอม” ที่เหลืออยู่ราวปีเศษ พร้อมทั้งส่งลิ่วล้อออกมานั่งยันนอนยันว่า ไม่เคยมีความคิดที่จะยุบสภาบ่อยครั้ง

ชัดสุดๆ เมื่อ “บิ๊กตู่” ส่งซิกกลางที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เวลานี้มาทุ่มสรรพกำลัง ร่วมกันเป็นเจ้าภาพความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (เอเปก) ที่ไทยเป็นเจ้าภาพรอบนี้ และจะเปิดหัวกันช่วงเดือน พ.ย.64 มีวาระการประชุมยาวไปตลอดช่วง 1 ปีข้างหน้า

เป็นการเวียนกลับมาเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปก 20 ปี แน่นอนว่า งานนี้ “บิ๊กตู่” หวังจัดให้ยิ่งใหญ่ ใช้เป็นการโปรโมตประเทศไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยวกลับมา สพคัญที่สุดกระชากความเชื่อมั่นต่างชาติกลับมา ปั้นภาพ “นายกฯ ประยุทธ์” ที่นานาชาติให้การยอมรับไปในตัว

ขณะที่เดือนสุดท้ายของปี 1 ธ.ค.นี้ “บิ๊กตู่” ก็เพิ่งประกาศปล่อยผี ปลดล็อกดาวน์ผับ บาร์ คาราโอเกะ แบบเต็มพิกัด ให้สอดรับกับการ “เปิดประเทศ” หลัง 1 พ.ย.นี้ ควบคู่กับแผนฉีดวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดสภายในสิ้นปี ที่ดูทรงตอนนี้น่าจะสบายๆ

เท่ากับว่าภายในปีนี้ หรือช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า “ประยุทธ์” คงไม่ทิ้งโอกาสทอง ตัดช่องน้อย “ยุบสภา” ง่ายๆ

ฉะนั้น “กองแช่ง” ที่ว่าจะมีเลือกตั้งปีนี้ หรือต้นปีหน้า ต้องเลิกฝันไปก่อน พร้อมมีหมายเหตุตัวโตๆ หากสถานการณ์ไม่ดี ก็ตีตั๋วไหลไปได้อีก ในเมื่ออายุรัฐบาล ว่ากันตามกฎหมายไปได้ยันปี 66 นู่น

จริงอยู่นาทีนี้เรตติ้ง “ลุงตู่” อยู่ในภาวะต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ถึงขั้นติดลบ แต่ก็มีปัจจัยที่ทำให้ “ทีมตึกไทยฯ” มั่นอกมั่นใจว่า “คัมแบก” กลับมาได้แน่

โดยเฉพาะหากส่องตัว “แคนดิเดตนายกฯ” ของแต่ละค่าย-แต่ละขั้ว ยังไม่มีรายไหนหวือหวาขึ้นมาเกินหน้า

ในซีกกุมอำนาจ ไม่ว่าจะแตกเป็น “พรรคพี่ป้อม-พรรคน้องตู่” จากรอยร้าวเกมซ่อนแต้มน็อกนายกฯกลางสภาหรือไม่ หรืออยู่ด้วยกันไปจนตาย ส่องตัวเลือกในซีกนี้แล้ว ยังไม่มีตัวละครใหม่ที่สมน้ำสมเนื้อ เป็น “ลุงตู่” ที่แม้เป็นช้ำเลือดช้ำหนอง ขายออกลำบาก ที่ต้องรับบท “ชูโรง” ไปอีกสมัย

ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล ทั้ง “เสี่ยอู๊ด-จุรินทร์” แห่งค่ายสะตอ ที่หากยังรักษาเก้าอี้หัวหน้าพรรคไว้ได้ถึงวันเลือกตั้งก็คงได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ แต่ก็เป็นเพียงการเสนอโดยมารยาทและให้เกียรติในหัวหน้าพรรคเท่านั้น ไม่ได้มาจากความป๊อปปูล่า วันนี้เอาชื่อ “จุรินทร์” ไปเร่ขายขอคะแนนชาวบ้านนอกเขต จ.พังงา ยังลำบาก

หากขายได้จริง คงไม่มีข่าว “นายหัวชวน” ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ผู้ทรงอิทธิพลตัวจริงแห่งค่ายสะตอ เริ่มคิดอยากจะไปขุด “ลูกมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯและอดีตหัวหน้าพรรค ปัดฝุ่นกลับมาอีกรอบหรอก

ขณะที่ “เสี่ยหนู-อนุทิน” แห่งค่ายเซราะกราว แม้ความฝันสูงสุดคือ การนั่งทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า แต่ยี่ห้อภูมิใจไทย ในกำกับของ “ครูใหญ่” เนวิน ชิดชอบ คงอ่านขาดว่า รอบนี้รอบหน้ายังไม่ถึงเวลาตัวเอง ขอแค่ประคองตัวเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มีอำนาจต่อรองมากที่สุด ได้คุม “กระทรวงเกรดเอ” เหมือนกับครั้งนี้ ซ่องสุมกำลัง ตุนน้ำเลี้ยง เก็บเสบียงไปเรื่อยๆ เมื่อจังหวะเข้าเท้าเมื่อไร ต่อยใส่เต็มตัว

หันไปที่ที่ฝ่ายค้าน “ค่ายดูไบ” พรรคเพื่อไทยวันนี้ยังเหมือน “ผีหัวขาด” มีชื่อ “เฮียพงษ์” สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นหัวหน้าพรรค และผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ก็จริง แต่ด้วยวัยเลข 8 นำหน้า ติดปัญหาเรื่อง “ความสด” ทำให้ดันไปถึงขั้นแคนดิเดตนายกฯลำบาก รอบนี้เหมือนเป็น “ผู้นำขัดตาทัพ” ไปพลาง เพื่อให้ “เถ้าแก่” หา “นอมินี” คนใหม่มาเสียบยอด

สเปก “เถ้าแก่ดูไบ” ไม่พ้นต้องเป็น “เลือดแท้” ตัวเลือกมีไม่มาก ที่พอไปวัดไปวาได้ก็มี “เขยพงศ์” ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีของ “มาดามเอม” พิณทองทา ชินวัตร ที่วันนี้นับว่าเป็น “คนในตระกูล” วางใจให้ดูแลธุรกิจแบบเต็มตัว ทว่า ติดปัญหาอยู่นิดเดียว ที่ภรรยาสุดที่รักแตะเบรกไว้ เพราะไม่อยากอนาคตลงเอยเหมือน “พ่อษิณ-อาปู”

 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม

 กนก รัตน์วงศ์สกุล
ยังมีการพูดไปถึง “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คนดัง ที่จู่ๆขนาด “สื่อบางค่าย” เชียร์สุดลิ่มอยากให้มานำทัพเพื่อไทย จับชื่อไปทำโพลสำรวจความนิยมคู่กับ “เขยพงศ์” ว่าใครเหมาะเป็นแคนดิเดตนายดฯของ “ค่ายเพื่อไทย” คะแนนออกมา “เสี่ยนิด” ที่ชื่อติดตลาดกว่า ทิ้งห่างเป็นเท่าตัว
ถึงโปรไฟล์ “เสี่ยนิด” จะหนาเตอะ ชื่อเสียงพอขายได้ แต่ก็ติดเงื่อนไขเดิมๆ ตรงที่ว่า “นายใหญ่” น่าจะอยากได้คนที่มีดีเอ็นเอเดียวกันมากกว่า เพราะคิดว่า “แบรนด์ชินวัตร” ยังขายออก

ส่วนชื่อที่มาแรง “เฮียวี” พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ และ ส.ส.พรรคประชาชาติ แม้เป็นคนในบ้าน แต่ไม่ใช่คนในตระกูล โปรไฟล์ยังหล่อไม่พอ นอกเสียจากคิดเอามาแค่ขัดตาทัพ ไม่ได้เอาไปแข่งเป็นนายกฯ

แคนดิเดตนายกฯของซีก “ทักษิณ” ยังอาจจะต้องไม่ลืมชื่อ “เจ๊หน่อย-สุดารัตน์” ที่วันนี้ออกมาสร้างดาวอีกดวงในนาม “ไทยสร้างไทย” เพราะไปต่อกับ “ลิ่วล้อดูไบ” ไม่ได้ แต่กับ “เถ้าแก่” ก็ไม่แตกหักอะไรกัน อีกทั้งเมื่อเลือกตั้ง มี.ค.62 ก็ถูกยกเป็นแคนดิเดตนายกฯเบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทย และนำพรรคชนะเลือกตั้งได้ ส.ส.มากที่สุด แต่โดน “พรรค ส.ว.” สกัดดาวรุ่งไปไม่ถึงดวงดาว

หากรอบหน้า “อ้ายษิณ” หากคนไม่ได้จริงๆ ชื่อของ “เจ๊หน่อย” ก็อาจถูกหยิบมาใช้ แม้อยู่คนละพรรคก็ตาม

ไปที่ “ก้าวไกล” ไม่พ้นหนึ่งเดียวคนนี้ “เสี่ยทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ที่ค่อนข้างแบเบอร์เมื่อดูจากตัวเลือกที่มีในพรรค และต้องยอมรับว่าบทบาทการทำหน้าที่ในสภาฯ ของ “เสี่ยทิม” บวกกับบุคลิกหน้าตาถือว่า “ขายได้” แต่ติดอยู่ตรงเดินอย่างไรก็ไม่พ้นร่มเงา “เสี่ยเอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ “อ.ป๊อก” ปิยบุตร แสงกนกกุล ที่จำเป็นต้องเฟดตัวออกนอกวงไปพะยี่ห้อ “คณะก้าวหน้า” และยังว้าวุ่นหมกมุ่นอยู่กับกฎหมาย “มาตรา 112”

ถึง “เสี่ยทิม” จะโดดเด่นในสภาฯ ขยันลงพื้นที่ได้ใจชาวบ้านแค่ไหน ก็มี “จุดสลบ” หากโดนจี้ถึงจุดยืน “ธนาธร-ปิยบุตร” เกี่ยวกับ “สถาบันฯ” ทำให้ พ.ศ.นี้ “เสี่ยทิม” คงไม่มีทางโตไปกว่านี้ และคงไม่ถึงฝันไปนั่งเก้าอี้ติดกระดุม 5 เม็ดบนตึกไทยคู่ฟ้าเร็วๆนี้อย่างแน่นอน

ดูอย่างคู่ซี้ของ “เสี่ยเอก” ที่ปลุกปั้นพรรคกันมาอย่าง “เสี่ยวินท์” วินท์ สุธีรชัย วันนี้ยังอ่านออกว่า มีแต่ร่วงไม่มีรุ่ง ลงทุนลาออกจาก ส.ส.ไปสร้างอาณาจักรตัวเอง ตั้งพรรครวมไทยยูไนเต็ด เดินในทางที่เป็นไปได้ดีกว่า พร้อมกระแทกกลับมาที่บ้านเก่าว่า รับไม่ได้กับจุดยืนในบางเรื่อง

สะท้อนว่าจุดขาย “ทะลุเพดาน” ของ “แก๊งก้าว” ที่อาจขายได้กับ “สามนิ้ว-สามกีบ” กลายเป็น “จุดตาย” ในใจคนส่วนใหญ่

ว่ากันตามเนื้อผ้า เท่าที่ไล่เรียงมา ก็ยังไม่มีใครฉูดฉาดถึงขนาดสังคมขานรับ สภาพช้ำเลือดช้ำหนองอย่าง “บิ๊กตู่” ยังดูจะกุมความได้เปรียบอยู่ด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นกลไกรัฐ กติกา ที่รอบหน้า “พรรค ส.ว.” ยังคงอยู่ ตุนในกระเป๋าแล้ว 250 เสียง

แค่ทำทุกวิถีทางไม่ให้ “ฝ่ายตรงข้าม” ทำได้ถึง 376 จาก 500 ที่นั่ง ส.ส. ก็เป็นอันจบข่าว

ยิ่งรอบนี้ดูเหมือน “ประยุทธ์” จะเน้นกว่ารอบที่แล้วที่ให้ “พี่ป้อม” จัดการเรื่องพรรคด้วยซ้ำ โดยเริ่มมีร่องรอยว่า “น้องตู่” กำลังสืบเท้าเข้ากุมอำนาจใน “ค่ายพลังประชารัฐ” เต็มตัว แม้จะไม่ต้องเข้าไปเป็นหัวหน้าพรรคเอง

ผ่านมืองานอย่าง “เสี่ยตุ๋ย-พีระพันธุ์” ที่เข้าไปเป็นที่ปรึกษา “หัวหน้าป้อม” ที่เชื่อว่าจะยึดพรรคในที่สุด โดยที่ “พี่ป้อม” เป็นเพียงพระประธาน ไร้อำนาจตัดสินใจใดๆ

และดูเหมือนปีเศษที่เหลือ สถานการณ์ก็จะเริ่มเป็นใจ คงไม่มีจุดแย่ไปกว่าที่ผ่านมา ฉวยจังหวะชิงประกาศเปิดประเทศ พร้อมทั้งผ่อนคลายเคอร์ฟิวส์ รวมไปถึงมาตรการต่างๆ เชื่อว่าไม่เกินต้นปีหน้า ประชาชนจะได้ใช่ชีวิตกันอย่างปกติ ตามด้วยของหนักอย่างเงินกู้-นโยบายประชานิยม ผ่านการเยียวยาชดเชยรูปแบบต่างๆ

โดยเฉพาะการกู้เงินที่ตั้งท่าง้างเท้ารอไว้แล้ว หลังขยายเพดานหนี้สาธารณะจาก 60% เป็น 70% เปิดเครดิตเพิ่มไม่ต่ำกว่า 1.2 ล้านล้านบาท รอทำคลอดนโยบายประชานิยมสวมวิญญาณ “ซานต้าตู่” สร้างคะแนนนิยมได้อีกบานตะไท

 สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม

สุเทพ เทือกสุบรรณ
เป็นจังหวะงามๆ สร้างผลงานแจ่มๆ ขุดออกมาโฆษณาชวนเชื่อให้ “บิ๊กตู่” กู้คะแนนนิยมกลับคืนมาได้ไม่มากก็น้อย
กอรปกับ “จุดแข็งโป๊ก” ที่สุดในความเป็น “ผู้นำเชิงสัญลักษณ์” ของกลุ่มปกป้อง “สถาบัน” ที่ไม่มีใครโดดเด่นเท่า “ประยุทธ์” อย่างแน่นอน

ยิ่ง “ธนาธร-ปิยบุตร” หรือ “สามนิ้ว-สามกีบ” รุกไล่เขย่า “ประเด็นมิบังควร” รุนแรงเท่าไร ก็ยิ่งทำให้ภาพของ “บิ๊กตู่” ชัดเจนมากยิ่งขึ้น บวกกับ “ไอโอเหลืองอ๋อย” ที่พร้อมจะขยี้ทุกความเคลื่อนไหวของ “แก๊งล้ม” เพื่อชี้ให้ “คนไทย” เห็นถึง “ปัจจัย” ในการลงคะแนนเลือกตั้งครั้งหน้า

แต่เอาเข้าจริง พลังของ “สามนิ้ว-สามกีบ” ในเรื่อง “สถาบัน” แม้จะน่าหวาดวิตก แต่ก็มิได้สร้างกระแสให้ออกไปในวงกว้างมากนัก ยังคงจำกัดอยู่คนกลุ่มเดิมๆ แต่ว่าก็ว่าเถอะ ดูเหมือน “ทีมงานลุง” ก็ยังคงใช้ “มุกเดิม” เพื่อสร้างภาพลักษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไปด้วยเหมือนจะเป็น “ช่องเดียว” ที่จะหนุนส่งให้ “ลุงตู่” อยู่ในอำนาจได้อีกสมัย

ดังนั้น จงอย่างแปลกใจที่ช่วงนี้แผน “ดักติ่ง” มุกเดิมๆ ของ “ทีมเหลืองอ๋อย” ที่เตรียมผนึกกำลังสร้างกระแสหนุน “ลุงตู่” จะคัมแบกมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ

ล่าสุดมือทำงานด้านสื่อที่ใช้มาตั้งสมัย คสช. อย่าง “ทีมท็อปนิวส์” ที่นำโดย “เสี่ยต้อย” สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม หัวขบวนท็อปนิวส์ ก็เดินหน้าส่ง “กนก รัตนวงศ์สกุล” พิธีกรปากกล้า และทีมงาน จบดีลผลิตข่าวให้ ททบ.5 โดยเพิ่งเซ็นสัญญากันไป และจะเริ่มงานกันในปีหน้า ประสานกับฐานเดิมอย่าง “ท็อปนิวส์” ที่พร้อมขยี้ทุกเรื่อง ปั่นทุกกระแส ถวายพานให้ “ลุงตู่”

นอกจากนี้ อีกหนึ่งคนสำคัญก็คือ “หมอวรงค์-นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” แห่งพรรคไทยภักดี ที่รู้กันอยู่เต็มอกว่า “เชียร์ลุงตู่” เต็มกำลัง แม้ปากจะประกาศว่าพร้อมจะรับไม้ต่อจาก “ลุงตู่” ในการเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็มีเหตุสังเกตได้ว่า ณ เวลานี้กำลังขะมักเขม้นกับการเดินหน้า “แผนดักติ่ง” อย่างเต็มกำลัง โดยอาศัยภาพลักษณ์ของตัวเองที่สังคมรับรู้เป็นเครื่องมือสำคัญในการ “เชียร์ลุง”

แล้ว “หมอวรงค์” แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเป็นพันธมิตรกับ “เสี่ยต้อย” ไม่เช่นนั้น ในวันเปิดตัว “พรรคไทยภักดี” พร้อมประกาศรับสมัครสมาชิกและว่าที่ผู้สมัครอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมาจะไปทำกันที่ “อาคารชื่นฤทัยในธรรม” ของ “เสี่ยต้อย” ทำไม

โดยในวันดังกล่าวมีบุคคลสำคัญไปร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ นายถาวร เสนเนียม อดีตรมช.คมนาคม และส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ นายอานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ นายไพฑูรย์ แก้วทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย นายสาธิต เซกัล อดีตแกนนำ กปปส. นางหฤทัย ม่วงบุญศรี หรืออุ๊ อดีตนักร้องดัง นายจักรพงษ์ กลิ่นแก้ว แกนนำกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เป็นต้น

และที่ลืมเสียไม่ได้ก็คือ “ลุงกำนัน-สุเทพ เทือกสุบรรณ” ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย( มปท.) ที่ยังคงเชียร์ “ลุงตู่” อย่างสุดลิ่มทิ่มประตูเหมือนเดิม

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวที่สอดรับกับสถานการณ์กับ “แผนดักติ่ง” ก็คือ การที่ “ลุงกำนัน” เพิ่งประกาศเปิดตัวรายการ“คุยกับลุง” ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “ Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)”ไปเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งใครที่ติดตามก็คงทราบดีว่า “ตอนแรกของลุงกำนัน” นำเสนอเรื่องอะไร โดยรายการ “คุยกับลุง” จะออกอากาศทางเฟซบุ๊กข้างต้นในทุกๆ วันพฤหัสบดี

เรียกว่า เป็นการเคลื่อนไหวที่บังเอิญเกิดขึ้นในห้วงเวลาไล่เรี่ยกันอย่างไม่อาจมองเป็นอื่นได้ จนสามารถฟันธงได้ว่า นี่คือการเปิด “วอร์รูม” เพื่อเดินหน้าสร้างกระแสหนุน “ลุงตู่” ให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย

...และถึงตรงนี้ คงต้องบอกว่า ชาวบ้านอาจเอือมระอากับผลงานรัฐบาล แต่ถึงเวลาต้องกากบาท สิ่งที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งคงต้องเผชิญ “มอตโต้” อย่าง “ไม่เลือกเรา เขามาแน่” หรือ “ประยุทธ์แพ้ สามกีบครองเมือง” วนเวียนอยู่ในหัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์.


กำลังโหลดความคิดเห็น