xs
xsm
sm
md
lg

อุดรธานี! เอาจริงสั่งปิด 5 สถานบันเทิง ฝืนคำสั่งมาตรการคุมโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.อุดรธานีมีมติสั่งปิด 5 สถานบันเทิงใน จ.อุดรธานี ฝืนคำสั่งลักลอบขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้าน
อุดรธานี - คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.อุดรธานีเอาจริงคุมเข้มโควิด-19 หยุดการระบาด ล่าสุดสั่งปิด 5 สถานประกอบการฝืนคำสั่งลักลอบขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้าน พร้อมให้อัยการทำสำนวนส่งฟ้องศาลดำเนินคดี


วันนี้ (14 ต.ค.) ที่ห้องประชุมพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร “โพธิ์เนติโพธิ์” ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดอุดรธานี ครั้งที่ 27/2564 เพื่อรายงานสถานการณ์และการดำเนินการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ล่าสุดวันที่ 14 ตุลาคม 2564 จังหวัดอุดรธานีมีผู้ติดเชื้อสะสม 15,623 คน

ที่สำคัญ คณะกรรมการมีมติสั่งปิดสถานประกอบการที่ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดอุดรธานีที่ 4777/2564 เรื่อง มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COV/ID-19) จังหวัดอุดรธานี กำหนดมาตรการปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ รวมถึงร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม และให้บริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. และงดจำหน่ายและดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้าน




จากคำสั่งจังหวัดที่ประกาศบังคับใช้ มีประชาชนที่พบเห็นผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามมาตรการได้ร้องเรียนมายังจังหวัด เช่น จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และปล่อยปละละเลยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้าน ฯลฯ จังหวัดอุดรธานีจึงแต่งตั้งคณะทำงานออกตรวจสถานประกอบการร้านอาหาร บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม เวลา 21.00 น. คณะทำงานฯ ภายใต้การนำของ นายนพดล มามาก ปลัดจังหวัดอุดรธานี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบ 5 สถานประกอบการฝ่าฝืนมาตรการ ได้แก่ ร้าน Mellow Club, ร้านทูเก็ตเตอร์, ร้าน 9T Station Café & Bar, ร้านบาร์อิสตา บราสเซอรี (Bar'ista Brasserie) และร้านยูทูบบาร์ ( U-TUBE BAR) จึงแจ้งข้อกล่าวหาฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจังหวัด ที่ประชุมจึงมีมติสั่งปิดไม่มีกำหนด


พร้อมทั้งให้อัยการทำสำนวนส่งฟ้องศาลดำเนินคดี ผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กำลังโหลดความคิดเห็น