xs
xsm
sm
md
lg

คืบหน้า! จับแก๊ง ตร.ปลอมที่ปัตตานี ผู้ต้องหาถูกหามส่ง รพ.พ่อสงสัยถูกซ้อม ขณะที่เหยื่อทยอยเข้าแจ้งความต่อเนื่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ปัตตานี - คืบหน้าจับผู้ต้องหาแก๊งรีดไถ 5 ราย ที่ปลอมตัวเป็นตำรวจไปตรวจค้นบ้านของชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดปัตตานี โดย 1 ใน 5 ได้ถูกหามส่งโรงพยาบาลหลังมีอาการหายใจไม่ออก ด้านพ่อเข้าแจ้งความสงสัยลูกถูกซ้อม ขณะที่ผู้เสียหายทยอยแจ้งความต่อเนื่อง

วันนี้ (21 ก.ย.) จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 5 ราย ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ออกตระเวนรีดไถ กรรโชกทรัพย์ผู้เสียหายในหลายพื้นที่ จนทำให้เรื่องราวดังกล่าวสร้างความวิตกกังวลให้ประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ ซึ่งการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ยะหริ่ง ได้รับเบาะแสมาว่า กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 5 คนจะเข้าก่อเหตุในพื้นที่ ม.3 ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จึงได้ประสานไปยังกำนันในพื้นที่ให้เฝ้าระวัง

จนกระทั่งพบว่า กลุ่มดังกล่าวกำลังก่อเหตุกับกลุ่มวัยรุ่นจริง ทางกำนัน และชุดคุ้มครองหมู่บ้านจึงได้เข้าไปสกัด ควบคุมตัว พร้อมแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ และทำการจับกุมพร้อมของกลางที่ใช้ก่อเหตุมาสอบสวนขยายผล ซึ่งเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวที่ สภ.ยะหริ่ง ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปัตตานี เนื่องจากได้รับบาดเจ็บในขณะถูกควบคุมตัว ทำให้วันนี้ นายกอดือรี หวังพึ่งฉาย อายุ 49 ปี ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.ยะหริ่ง เพื่อมาแจ้งความว่า ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ถูกนำตัวไปรักษาตัวที่ รพ.ปัตตานี

ซึ่งในขณะเดียวกัน มีผู้เสียหายและญาติที่เคยถูกกระทำจากกลุ่มดังกล่าวจำนวนกว่า 10 ราย ต่างเดินทางมาแจ้งความ ให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน จะเอาผิดกลุ่มขูดรีดทั้ง 5 รายที่ถูกจับด้วยเช่นกัน

ด้าน นายกอดือรี หวังพึ่งฉาย อายุ 49 ปี พ่อของ นายฮากีมี หวังพึ่งฉาย อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาที่ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า จากเหตุการณ์เมื่อวานนี้พอตนทราบข่าวเรื่องลูกชายแล้วจึงรีบเดินทางมาที่โรงพักช่วงประมาณ 14.00 น. พร้อมกับภรรยา เพื่อจะเอาข้าวมาส่งให้ลูก แต่เมื่อมาถึงแล้วปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ยังปกปิด มีท่าทีบ่ายเบี่ยง บางคนบอกว่าอยู่ แต่บางคนบอกไม่อยู่ ยังไม่ยอมบอกข้อมูลอะไรมากและไม่ยอมให้พบตัว ตนเลยเกิดสงสัย

จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.30 น. ภรรยารับแจ้งจากญาติที่ รพ.ยะหริ่ง ว่า เห็นบุคคลคล้ายลูกชายกำลังถูกเจ้าหน้าที่พาขึ้นรถเปลนอนกำลังเข็นเข้าห้องฉุกเฉิน ตนเลยสอบถามเจ้าหน้าที่อีกครั้งให้ชัดเจน คราวนี้เจ้าหน้าที่ถึงยอมบอกว่าใช่ ตนนึกได้ว่ามีญาติอยู่ที่ รพ.จึงโทร.สอบถาม ทราบความจากญาติที่ รพ.ว่า เห็นเจ้าหน้าที่เอาตัว นายฮากีมี โดนนำตัวไปที่ รพ.ยะหริ่ง และมีอาการบาดเจ็บจึงส่งต่อ รพ.ปัตตานีแล้ว

จากนั้นตนจึงรีบไปดูลูกที่ รพ.ทันที จึงเห็นลูกชายอยู่ในสภาพบาดเจ็บ หน้าตาบวม ตาแดง ดั้งจมูกหัก ช้ำบริเวณหัว ที่ด้านหลังมีรอยช้ำอยู่หลายรอยเหมือนถูกฟาดด้วยของแข็ง ตนจึงค้างคาใจว่า ทำไมลูกชายถึงมีอาการบาดเจ็บมากขนาดนี้ โดยสันนิษฐานว่าโดนใครทำร้ายหรือว่าถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายระหว่างสอบสวนหรือไม่ เพราะตนเคยผ่านเรื่องแบบนี้มาก่อนแล้ว วันนี้จึงได้มาแจ้งความและสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อเรื่องนี้ ว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นกับลูกตนเอง ตนขอถามหาความยุติธรรม ระหว่างนี้รอผลสรุปอีกครั้งว่าเป็นอย่างไรต่อไป

ขณะเดียวกัน ฝ่ายทางญาติของผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ได้เดินทางมาเยี่ยมด้วยเช่นกัน จากการสอบถามผู้ต้องหา ทั้ง 4 คน ได้แก่ 1.นายสุกรี เจ๊ะโต๊ะ 2.นายกามี สามะ 3.นายอุสมาน ยามา และ 4.นายบัสมี บากา ได้เล่าเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันหมดว่า ทั้ง 4 คนโดนหลอกจาก นายฮากีมี ให้มาทำพฤติกรรมครั้งนี้ เพราะได้ทำตัวเป็นหัวหน้ากลุ่ม

ญาติจึงปักใจเชื่อว่าโดน นายฮากีมี ที่ทำตัวแอบอ้างเป็นตำรวจมียศ ตำแหน่ง รู้จักตำรวจ และผู้ใหญ่หลายคนเป็นคนชักชวนมาทำพฤติกรรมดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.มุสตอพา มะนิ ผกก.สภ.ยะหริ่ง เผยถึงกรณี 1 ในผู้ต้องหาที่ไปรักษาตัวที่ รพ.ปัตตานี ว่า ข้อเท็จจริงเนื่องจากหลังผู้ต้องหาทั้ง 5 คนถูกจับกุม ได้นำตัวมาควบคุมตัวที่ห้องขังของ สภ.ยะหริ่ง เพื่อรอการสอบสวนขยายผล แต่ปรากฏว่า นายฮากีมี หวังพึ่งฉาย ผู้ต้องหาเกิดอาการหายใจไม่ออก เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวส่งไป รพ.ยะหริ่ง ซึ่งการปฏิบัติของผู้ต้องหาเช่นนี้เป็นไปตามสิทธิมนุษยชนที่ต้องทำ และเมื่ออยู่ในความดูแลของแพทย์ก็ถือว่าปลอดภัย

ส่วนวันนี้ที่ทางญาติของผู้ต้องหามาแจ้งความว่า นายฮากีมี ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายในขณะถูกควบคุมตัวนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งไว้แล้ว ซึ่งต้องดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริงในเรื่องที่รับแจ้ง ส่วนในเรื่องของตนจะตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปตามระบบ และทางผู้บังคับบัญชากำชับให้ดำเนินการตรงไปตรงมา

ขณะนี้ยืนยันไม่ได้ว่า ถูกทำร้ายหรือไม่อย่างไร ส่วนการสอบสวนความคืบหน้าของคดีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่นั้น ทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบปากคำผู้ต้องหาแล้วเบื้องต้น ซึ่งทั้ง 4 คนได้ให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน ส่วนทางเจ้าหน้าที่ขณะนี้ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน รวมไปถึงพยานบุคคล แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เกรงว่าจะเสียรูปคดี

ซึ่งในวันนี้มีผู้เสียหายมาเข้าแจ้งความจำนวน 4-5 ราย ทั้งจากอำเภอโคกโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง และอำเภอยะรัง พอได้รับรู้ข่าวต่างพากันมาดูตัว เพื่อถามหาความยุติธรรมและทวงสิทธิ์งของตนที่ได้รับความเสียหายคืนมา ซึ่งส่วนใหญ่ถูกรีดไถเงินไป

นางรูปียะ เจ้ะแว อายุ 44 ปี เดินทางมาจากบ้านบาโลย อ.ยะหริ่ง ซึ่งเป็นผู้เสียหายรายหนึ่ง เล่าว่า ตนเห็นจากข่าวแล้วเมื่อเห็นหน้าตาเลยจำได้ เพิ่งรู้ว่าเป็นกลุ่มรีดไถนี้ ก่อนหน้านี้เคยประสบกับตนว่า กลุ่มดังกล่าว 5 คนเคยมาค้นที่บ้านถึง 2 ครั้ง ครั้งหลังนี้ขับรถกระบะสีดำ สี่ประตู เห็นลูกกับเพื่อนนั่งเล่นกันอยู่ข้างบ้าน พวกเขาทั้ง 5 คนจึงจอดรถและได้บุกเข้ามาไล่จับกุมกลุ่มลูกและเพื่อนทันที โดยอ้างพร้อมตะโกนว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามได้มาทำการค้นบ้าน

และได้สอบถามเกี่ยวกับยาเสพติดกับลูกชายตน และได้ทำการค้นตัวลูกชายจนเจอเงินติดตัวอยู่ 8,000 บาท แล้วได้ยึดเอาไว้ และหลังจากที่กลุ่มดังกล่าวยังตรวจค้นบ้านต่อเพื่อหายาเสพติด แต่ไม่พบแต่อย่างใด จึงได้เรียกตัวตนซึ่งเป็นแม่มาคุยส่วนตัวเพื่อให้ตนไปคุยกับลูกเพื่อให้บอกว่าเอายาเสพติดไปซ่อนที่ไหน ซึ่งหากถ้านำมาให้ได้ พวกกลุ่มคนดังกล่าวจะไม่เอาเรื่องกับลูกชายตน

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อกลุ่มดังกล่าวไม่เจอยาเสพติด จึงได้นำตัวลูกชายขึ้นรถกระบะขับหายไป 2 ชั่วโมง และขับมาส่งอีกครั้ง ตนจึงถามกับลูกว่าไปไหนและได้ความว่า กลุ่มคนดังกล่าวได้นำตัวลูกตนเพื่อไปหาเพื่อนลูกอีกคน ก่อนจะค้นเจอยาเสพติดและได้เงินจากเพื่อน 8,000 บาทด้วย ซึ่งเมื่อหลังเกิดเหตุจนกระทั่งเมื่อวานเห็นข่าวว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ วันนี้จึงได้รีบมาแจ้งความที่โรงพักยะหริ่งทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น