หัวหน้าอัยการเฮติร้องขอผู้พิพากษาที่ดูแลการสืบสวนเหตุลอบสังหารประธานาธิบดีโจเวเนล มอยส์ ตั้งข้อหานายกรัฐมนตรีอาเรียล อองรี ในฐานะผู้ต้องสงสัย และสั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองห้ามเขาเดินทางออกนอกประเทศ
อัยการเบด-ฟอร์ด โคล้ด ส่งหนังสือถึงผู้พิพากษาแกร์รี โอเรเลียน โดยมีเนื้อหาว่าในบันทึกโทรศัพท์พบ อองรี ติดต่อกับผู้ต้องสงสัยคนสำคัญในคดีลอบสังหารมอยส์ 2 ครั้งในค่ำคืนของเกิดเหตุลอบสังหารเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และอองรี เคยออกมาปกป้องอย่างเปิดเผย เวลานี้ยังคงหลบหนีอยู่
ขณะเดียวกัน อัยการโคล้ด ยังได้ส่งหนังสือถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่า อองรี ควรถูกห้ามเดินทางออกนอกอาณาเขตประเทศ ทั้งทางบก ทางทะเล และอากาศ ด้วยมีข้อสันนิษฐานจริงจังว่ามีความเกี่ยวข้องกับเหตุลอบสังหารประธานาธิบดี
เชนัลด์ ออกุสติน ซึ่งทำงานในสำนักงานประชาสัมพันธ์ของนายกรัฐมนตรี บอกว่ายังไม่ขอแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ขณะที่ตัวนายกรัฐมนตรีอองรี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เคยออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ ที่มีต่อตัวเขา ว่าเป็นเกมการเมือง
มอยส์ ถูกยิงเสียชีวิต หลังจากพวกมือสังหารบุกจู่โจมบ้านพักส่วนตัวของเขาบนภูเขาเหนือกรุงปอร์โตแปรงซ์ ฉุดให้ประเทศยากจนในแถบแคริบเบียนแห่งนี้ตกอยู่ในความยุ่งเหยิงหนักหน่งขึ้นและก่อสุญญากาศทางการเมือง
อดีตนักธุรกิจวัย 53 ปี ปกครองเฮติโดยกฤษฎีกามานานกว่า 1 ปี หลังจากเฮติไม่สามารถจัดการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาและเลือกตั้งเทศบาล ท่ามกลางภาวะทางตันทางการเมือง ทั้งนี้ เขาเองเผชิญเสียงเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งมากมายหลายครั้ง
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันศุกร์ (10 ก.ย.) โคล้ด เชิญ อองรี พบปะกับเขาเพื่อสอบถามพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องสายโทรศัพท์ที่ติดต่อกับผู้ต้องสงสัย โดยเน้นว่าเขาเรียกนายกรัฐมนตรีเข้าพบตามคำสั่งของประธานาธิบดีเท่านั้น แต่ในข้อเท็จจริงก็คือประเทศแห่งนี้ยังคงไม่มีประธานาธิบดี
สำนักงานพิทักษ์พลเรือนของเฮติในวันเสาร์ (11 ก.ย.) เรียกร้อง อองรี ลาออกจากตำแหน่งและมอบตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ อองรี โต้กลับบนทวิตเตอร์ ระบุว่า "ไม่มีสิ่งรบกวน คำเชิญ หมายเรียก อุบาย และการข่มขู่ใดๆ ที่จะสามารถเบี่ยงเบนสมาธิของเขาไปจากหน้าที่การงาน"
นายกรัฐมนตรีรายนี้แถลงในวันเสาร์ (11 ก.ย.) ว่าขุมกำลังหลักทางการเมืองของเฮติบรรลุข้อตกลงกันในการจัดตั้งรัฐบาลเปลี่ยนผ่าน จนกว่าจะมีการจัดศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีและจัดทำประชามติว่าจะรับร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ในปีหน้า
นอกจากนี้แล้ว ยังมีข้อตกลงจัดตั้งคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของอองรีด้วย
(ที่มา : รอยเตอร์)