รอยเตอร์ - บลิงเคนโต้เดือดกลางสภากรณีการถอนทหารจากอัฟกานิสถาน ย้ำทรัมป์เป็นคนเจรจากับตอลิบานและกำหนดเส้นตาย แต่กลับไม่มีแผนการรองรับส่งมอบต่อคณะบริหารชุดปัจจุบัน
ในการโต้เถียงอย่างเผ็ดร้อนกับสมาชิกรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ (13 ก.ย.) แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ปกป้องการตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการถอนทหารจากอัฟกานิสถาน รวมทั้งตอบโต้ข้อกล่าวหาที่ว่า กระทรวงต่างประเทศน่าจะทำได้ดีกว่านี้ในการช่วยคนอเมริกันและชาวอัฟกานิสถานที่เสี่ยงถูกตอลิบานตอบโต้ อพยพออกจากอัฟกานิสถาน
บลิงเคน ย้ำว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน เป็นคนเจรจาข้อตกลงถอนทหารกับตอลิบาน ซึ่งคณะบริหารของไบเดนไม่คิดที่จะทบทวนการเจรจาเนื่องจากมีความเสี่ยงที่กลุ่มตอลิบานจะไล่เข่นฆ่าพลเมืองอเมริกัน
เขาสำทับว่า ไม่มีหลักฐานว่า หากทหารอเมริกันประจำการต่อ กองกำลังหรือรัฐบาลอัฟกันจะสามารถพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น นอกจากนั้น คณะบริหารของทรัมป์ยังส่งมอบให้เพียงเส้นตายการถอนทหารในวันที่ 1 พฤษภาคม แต่ไม่ได้กำหนดแผนการรองรับใดๆ
ทั้งนี้ บลิงเคนให้การต่อคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์สภาผู้แทนราษฎรในวันจันทร์ และมีกำหนดให้การต่อคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์วุฒิสภาในวันอังคาร (14 ก.ย.) นับเป็นเจ้าหน้าที่คนแรกในคณะบริหารของไบเดนที่ให้การต่อสภานับจากตอลิบานเข้ายึดอัฟกานิสถานอย่างรวดเร็วเมื่อเดือนที่แล้ว
บรรยากาศในวันจันทร์ค่อนข้างดุเดือด โดยไมเคิล แม็กคอล สมาชิกระดับนำของรีพับลิกันในคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์สภาล่าง วิจารณ์ว่า คนอเมริกันไม่ชอบแพ้ โดยเฉพาะแพ้ผู้ก่อการร้าย แต่สิ่งนี้เกิดขึ้นแล้วในอัฟกานิสถาน พร้อมตั้งคำถามว่า ทำไมอเมริกาจึงไม่รักษาทรัพย์สินอย่างฐานทัพอากาศบากรัม ซึ่งตามที่เขารู้นั้น จีนกำลังจ้องจะยึดต่อ
แม็กคอลยังสงสัยที่รัฐบาลไม่ทำข้อตกลงสอดแนมและต่อต้านการก่อการร้ายกับประเทศเพื่อนบ้าน ด้านบลิงเคนตอบข้อซักถามนี้ว่า อเมริกาทุ่มเทดำเนินการเพื่อระบุภัยคุกคามมาโดยตลอด
สมาชิกรัฐสภา ทั้งจากเดโมแครตพรรคเดียวกับไบเดน และรีพับลิกันซึ่งเป็นฝ่ายค้าน ตั้งคำถามยาวเหยียดเกี่ยวกับการล่มสลายอย่างรวดเร็วของรัฐบาลอัฟกันที่วอชิงตันให้การสนับสนุน รวมทั้งปฏิบัติการสุดทุลักทุเลในการอพยพประชาชน 124,000 คน ซึ่งรวมถึงคนอเมริกันและอัฟกันที่มีความเสี่ยง
เดโมแครตแสดงความกังวลกับชะตากรรมของชาวอเมริกันและอัฟกันที่มีความเสี่ยงที่ยังตกค้างอยู่ในอัฟกานิสถาน แต่สนับสนุนการถอนกำลัง หลังการรบที่เจ็บปวดนาน 2 ทศวรรษ
บลิงเคนยกย่องการอพยพว่า เป็นความพยายามของวีรบุรุษซึ่งหมายถึงทั้งนักการทูต ทหาร และเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง และให้สัญญาว่า อเมริกาจะยังคงสนับสนุนความช่วยเหลือด้านมนุษธรรมแก่อัฟกานิสถานผ่านองค์กรเอกชนและหน่วยงานของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ไม่ใช่ตอลิบาน และจะทำทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่า พลเมืองอัฟกันไม่ยากลำบากกว่าที่เป็นอยู่แล้ว
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ สำทับว่า จะแต่งตั้งเจ้าหน้าที่อาวุโสในกระทรวง เพื่อมุ่งเน้นความพยายามในการให้การสนับสนุนผู้หญิง เด็กหญิง และชนกลุ่มน้อยในอัฟกานิสถานโดยเฉพาะ
บลิงเคน เสริมว่า จนถึงปลายสัปดาห์ที่แล้วมีชาวอเมริกันราว 100 คนที่ยังตกค้างและต้องการเดินทางออกจากอัฟกานิสถาน
รีพับลิกันยังโจมตีบลิงเคนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสนามบินคาบูลระหว่างการอพยพก่อนถึงเส้นตายถอนทหารในวันที่ 31 สิงหาคม ซึ่งมีทหารอเมริกัน 13 นาย และชาวอัฟกันอีกกว่า 100 เสียชีวิตในเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย
ขณะที่เดโมแครตบอกว่า ต้องการฟังการชี้แจงไม่เฉพาะช่วง 7 เดือนที่ไบเดนรับตำแหน่งก่อนที่คาบูลจะล่ม แต่เป็นช่วงตลอด 20 ปีที่อเมริกาเข้าไปเกี่ยวข้องในอัฟกานิสถานภายใต้คณะบริหารจากทั้ง 2 พรรค