ตาก - ฝนถล่มชายแดนตาก 7 วันไม่มีขาดเม็ด..ทำน้ำเมยทะลักล้นตลิ่งร่วม 2 เมตร ท่วมพื้นที่พรมแดนไทย-เมียนมา ทั้ง “เเม่สอด-เมียวดี” จมมิดซ้ำเติมวิกฤตโควิด แถมน้ำป่าทะลักล้นห้วยท่วมแม่จะเราเขตแม่ระมาดแล้ว
วันนี้ (28 ก.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ 5 อำเภอแนวชายแดนจังหวัดตากทุกอำเภอยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องตลอด 7 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะแม่สอด ปริมาณน้ำฝนรอบ 24 ชั่วโมงวัดได้สูงถึง 90 มิลลิเมตร ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในเขตชายแดนแม่สอดวิกฤตมากขึ้น ซ้ำเติมปัญหาโควิด-19 ที่มียอดติดเชื้อสูงแบบรายวัน
ล่าสุดช่วงเช้าที่ผ่านมาระดับแม่น้ำเมยที่กั้นแนวพรมแดนไทย-เมียนมาล้นตลิ่งสูงเกือบ 2 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน (27 ก.ค.) เกือบ 1 เมตร และกำลังเพิ่มระดับขึ้นอีกหลังฝนตกหนัก มวลน้ำมหาศาลได้ท่วมพื้นที่ชายแดนทั้งฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา และฝั่งไทย เป็นวงกว้าง
เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ปภ. ตลอดจนทีมกู้ภัยต่างๆ ต้องระดมกำลังกันเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดค้างอยู่ภายในบ้านตลอดแนวตลิ่งแม่น้ำเมยที่ถูกน้ำท่วมสูงตั้งแต่ 50 ซม.-กว่า 1 เมตร บางจุดระดับน้ำท่วมสูงจนเกือบจะถึงมิเตอร์ไฟฟ้า ทำให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่สอดต้องตัดกระแสไฟฟ้าป้องกันอันตรายต่อประชาชน
ส่วนพื้นที่ อ.แม่ระมาด จ.ตาก ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำเมยต่อจากแม่สอด มีรายงานว่าน้ำในลำห้วยแม่ละเมา ซึ่งเป็นลำห้วยขนาดใหญ่ที่ไหลมาจากภูเขาผ่านหลายตำบลได้ล้นตลิ่งแบบฉับพลันเข้าท่วมสะพานข้ามลำห้วยจนถนนทางเข้าออกหมู่บ้านวังผา หมู่ที่ 4 ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด ไม่สามารถใช้งานได้
นอกจากนี้ กระแสน้ำยังไหลท่วมบ้านเรือนประชาชนติดแนวลำห้วยจนชาวบ้านหลายคนหนีไม่ทันติดภายในบ้านพัก เจ้าหน้าที่จากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ได้นำกำลังทหารพรานลุยน้ำที่ไหลอย่างเชี่ยวกรากเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านพร้อมขนย้ายทรัพย์สินออกจากบ้านที่จมน้ำนำออกไปรวมตัวกันบนที่สูง
โดยขณะนี้ (11.00 น.เศษ) ระดับน้ำที่ท่วมในหมู่บ้านวังผาได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำในลำห้วยไม่สามารถระบายลงสู่แม่น้ำเมยที่หนุนสูงขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่านี้
ด้านกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตากได้มีหนังสือด่วนไปถึงส่วนราชการทุกอำเภอแนวชายแดนจังหวัดตาก ให้ออกประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติน้ำท่วมดินโคลนถล่มในทุกพื้นที่เสี่ยงภัยในทุกอำเภอให้ติดตามข่าวสารเตือนภัยจากทางราชการอย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมการเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง
