xs
xsm
sm
md
lg

“กมลา แฮร์ริส” เดินทางหนแรกเยือนละตินอเมริกาไม่ราบรื่น คนไม่ปลื้มหลังส่งสาร “อย่ามาสหรัฐฯ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เอเจนซีส์/รอยเตอร์ – รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส เดินทางเยือนต่างประเทศเข้าไปในละตินอเมริกาไม่ราบรื่นอย่างที่คิดสำหรับการเยือนกัวเตมาลา-เม็กซิโกเป็นเวลา 3 วันโดนทั้งรีพับลิกันและเดโมแครตกระหน่ำหลังยังไม่เคยไปดูสถานการณ์พรมแดนทางใต้ของสหรัฐฯ ส่งเสียงแข็งประกาศจุดยืนวอชิงตัน “ไม่ต้อนรับผู้อพยพ” ในกัวเตมาลา

หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานวันนี้(10 มิ.ย)ว่า รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส เดินทางกลับมาถึงสหรัฐฯในเวลาเดียวกันกับที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เดินทางออกไปเยือนยุโรปเพื่อเข้าร่วมการประชุมซัมมิต G-7 ที่อังกฤษในวันพุธ(9)พอดี

แฮร์ริสได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดีสหรัฐฯให้เดินทางไปละตินอเมริกาเพื่อแก้ปัญหาคลื่นผู้อพยพไหลเข้าประเทศทางพรมแดนทางใต้ และเป็นงานใหญ่ครั้งแรกที่เธอได้รับมอบหมายในฐานะเบอร์ 2 ของประเทศ

สื่ออังกฤษชี้ว่า แต่ทว่าการเดินทางต่างประเทศหนแรกสำหรับทริป 3 วันกัวเตมาลา-เม็กซิโกกลับไม่ราบรื่นอย่างที่คิดจากประเด็นต้องรับผิดชอบเผือกร้อน “ประเด็นผู้อพยพ” ที่อ่อนไหวทั้งในและนอกประเทศ

CNN รายงานว่า แฮร์ริสถูกวิพากษ์วิจารณ์จากทุกฝ่ายทั้งจากฝั่งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันจากการที่เธอถูกวิจารณ์ว่า ต้องการแก้ปัญหาพรมแดนทางใต้สหรัฐฯแต่กลับไม่เคยไปดูสถานการณ์ที่นั่นด้วยตนเอง กมลา แฮร์ริส โต้ในการให้สัมภาษณ์ในวันอังคาร(8)ทางสถานีโทรทัศน์ NBC ในรายการทูเดย์ โชว์ (Today show)ว่า เธอต้องการแก้ปัญหาวิกฤตคลื่นผู้อพยพเข้าสหรัฐฯจากที่ฐานรากปัญหามากกว่า

NPR สื่อสหรัฐฯอีกสำนักชี้ว่า คำตอบของแฮร์ริสสร้างความไม่พอใจให้กับนักการเมืองสหรัฐฯทั้ง 2 ค่ายถึงขั้นนักข่าวถามไล้บี้ต้องการคำตอบจากแฮร์ริสว่า เธอจะเดินทางไปเยือนพรมแดนทางใต้ของสหรัฐฯหรือไม่

ซึ่งในวันอังคาร(9)หลังจากที่แฮร์ริสได้เข้าพบประธานาธิบดีเม็กซิโก อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ (Andres Manuel Lopez Obrador) แล้วเธอออกมายืนยันกับนักข่าวว่า "เธอเคยไปที่พรมแดนมาก่อน และจะไปอีกครั้ง" รอยเตอร์กล่าว

เดอะการ์เดียนชี้ว่า ปัญหาใหญ่ที่ทำให้ผู้อพยพจากทวีปอเมริกาใต้ต้องเข้าสู่สหรัฐฯเพราะเกิดมาจากประเด็นคอร์รัปชันของรัฐบาลและความยากจนเป็นหลัก ซึ่งในการเยือนกัวเตมาลาในวันจันทร์(7) แฮร์ริสได้พบกับประธานาธิบดี อเลฮานโดร เจียมมัตตี (Alejandro Giammattei) ซึ่งการเยือนรอยเตอร์ระบุว่า เริ่มมาตั้งแต่วันอาทิตย์(6) จะมุ่งไปในด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สภาวะอากาศ และความมั่นคงทางอาหารรวมปถึงประเด็นด้านสตรี และแฮร์ริสจะหารือถึงการสนับสนุนให้ความช่วยเหลือด้านวัคซีนโควิด-19แก่กัวเตมาลาระหว่างการหารือ

สื่ออังกฤษชี้ว่า ถึงแม้ว่าประเทศที่เธอไปเยือนจะออกมารับรองถึงความสำเร็จในการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกของแฮร์ริสที่เธอได้กล่าวอย่างตรงไปตรงมากับผู้นำเหล่านั้นถึงปัญหาคอร์รัปชันและคำกล่าวอย่างตรงไปตรงมาที่เป็นการส่งสารจากรัฐบาลไบเดนที่ว่า “อย่าเดินมา อย่ามา สหรัฐฯจะยังคงบังคับใช้กฎหมายของเราและควบคุมพรมแดนของเรา”

และเธอกล่าวอีกว่า “หากพวกคุณเดินทางมาที่พรมแดนของพวกเรา คุณจะถูกผลักดันให้กลับออกไป”

แต่ทว่าการประกาศจุดยืนอย่างแข็งกร้าวกลับสร้างความไม่พอใจให้กับคนในพรรคเช่น ส.ส นิวยอร์ก อเล็กซานเดรีย โอคาซิโอ-คอร์เทซ (Alexandria Ocasio-Cortez) ออกมาแสดงความผิดหวังผ่านทางทวิตเตอร์ รวมไปถึงกลุ่มสนับสนุนสิทธิมนุษยชนจำนวนไม่มากนักที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์แฮร์ริส

ในกัวเตมาลาซึ่งผู้อพยพชาวกัวเตมาลันคิดเป็นเกือบครึ่งของจำนวนผู้อพยพทั้งหมดอยู่ที่บริเวณพรมแดนทางใต้ของสหรัฐฯ แฮร์ริสและประธานาธิบดีเจียมมัตตีเห็นร่วมกันว่าทั้งสองฝ่ายสามารถร่วมมือกันได้ ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯได้ให้คำมั่นสัญญาจะทุ่มงบประมาณเกือบ 4 พันล้านดอลลาร์ในการแก้ปัญหาต้นตอวิกฤตผู้อพยพ

ขณะเดียวกันหลังการหารือระหว่างแฮร์ริสและผู้นำเม็กซิโกแล้ว ในวันพุธ(9)รัฐบาลเม็กซิโกออกมาแสดงความชื่นชมต่อความสัมพันธ์รอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯและเม็กซิโกหลังจากก่อนหน้าในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติตกต่ำ

โลเปซ โอบราดอร์เรียกแฮร์ริสว่า “เป็นสตรีที่น่าทึ่ง” และความสัมพันธ์ระหว่างกันนั้นได้บรรลุครั้งใหม่ “มันเป็นเฟสใหม่โดยสิ้นเชิง” ผู้นำเม็กซิโกกล่าวในงานแถลงข่าว และชี้ว่า “มันเป็นการพบปะที่วิเศษที่ผมเรียกเธอว่า “ท่านประธานาธิบดี”

ฝ่ายแฮร์ริสได้แจ้งต่อผู้นำเม็กซิโกว่า เธอมองว่าเม็กซิโกเป็นเสมือนพันธมิตรในการแก้ปัญหาผู้อพยพและทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องต้องกันในการกระชับความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและการลงทุนเพื่อปรับปรุงอเมริกากลาง

ทำเนียบขาวแถลงว่า แฮร์ริและโลเปซ โอบราดอร์ใช้เวลาหารือนานกว่า 1 ชั่วโมง สหรัฐฯเสนอตัวให้ความช่วยเหลือเป็นเงิน 130 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 3 ปีเพื่อสนับสนุนสิทธิแรงงานเม็กซิกัน พร้อมกับการตั้งเป้า 250 ล้านสำหรับการลงทุนและการขายในทางใต้ของเม็กซิโก

รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตุว่า ทั้งนี้แฮร์ริสไม่ได้เปิดเผยออกมาว่า ในการหารือร่วมกับผู้นำเม็กซิโกนั้นเธอได้ผลักดันให้เม็กซิโกเพิ่มความพยายามในการควบคุมผู้อพยพที่ต้องการข้ามแดนเข้าสหรัฐฯหรือไม่ โดยใน 5 เดือนแรกของปีนี้เม็กซิโกสามารถควบคุมผู้อพยพไปแล้วกว่า 91,000 คน เจ้าหน้าที่เม็กซิโกกล่าวในวันจันทร์(7) ซึ่งจากจำนวนทั้งหมดมีผู้เยาว์คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของจำนวนทั้งหมด








กำลังโหลดความคิดเห็น