ส.ส.ชาวเมารีคนหนึ่งถูกไล่ออกจากรัฐสภานิวซีแลนด์เป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ หลังจากลุกขึ้น “เต้นฮากา” เพื่อประท้วงที่ตนเองถูกปิดไมค์ ระหว่างกำลังมีการอภิปรายในประเด็นสิทธิชนพื้นเมือง
ราวิรี ไวติติ (Rawiri Waititi) หัวหน้าร่วมพรรคเมารี ลุกขึ้นพูดแทรกในขณะที่นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น กำลังตอบคำถามของ ส.ส.จูดิธ คอลลินส์ ผู้อภิปรายจากพรรคฝ่ายค้านเนชันแนลปาร์ตี้ เมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) พร้อมทั้งกล่าวหาพรรคฝ่ายค้านว่า “ใช้ถ้อยคำโฆษณาชวนเชื่อที่แสดงถึงการเหยียดเชื้อชาติ”
“ตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีการใช้ถ้อยคำโฆษณาชวนเชื่อที่แสดงถึงการเหยียดเชื้อชาติต่อประชากรชนพื้นเมือง มันไม่เพียงเป็นการดูหมิ่นเท่านั้น แต่ยังบ่อนทำลายกติกามารยาทของสภาแห่งนี้ด้วย” ไวติติกล่าว
อย่างไรก็ตาม ประธานสภาได้ตัดสินว่าไม่มีการฝ่าฝืนกฎการอภิปรายแต่อย่างใด
หลังจากโต้เถียงกับประธานสภาอยู่พักใหญ่จนถูกปิดไมโครโฟน ไวติติก็เริ่มโชว์ “เต้นฮากา” ซึ่งเป็นการเต้นของชนเผ่าเมารีเพื่อปลุกขวัญกำลังใจก่อนทำสงคราม กระทั่งโดนไล่ออกจากสภาในที่สุด
พรรคของคอลลินส์ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลอาร์เดิร์นประกาศตั้ง Maori Health Authority ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านสาธารณสุขสำหรับชาวเมารีที่มุ่งแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมของระบบบริการสุขภาพในนิวซีแลนด์
ไวติติเคยถูกไล่ออกจากรัฐสภานิวซีแลนด์มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือน ก.พ. หลังปฏิเสธที่จะสวม “เนกไท” เข้าประชุม โดยเจ้าตัวอ้างว่าการบังคับให้แต่งกายแบบตะวันตกนั้นถือเป็นการละเมิดสิทธิและกดขี่วัฒนธรรมของชนพื้นเมือง ซึ่งต่อมาทางรัฐสภานิวซีแลนด์ก็ได้ยกเลิกกฎข้อนี้ไป
ชนเผ่าเมารีซึ่งคิดเป็น 15% ของประชากรนิวซีแลนด์ต้องสูญเสียดินแดนอันเป็นที่อยู่อาศัยดั้งเดิมของตน ภายหลังจากที่อังกฤษเข้าปกครองประเทศแห่งนี้ และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิชาวเมารีมากขึ้น รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลว่าล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ
ที่มา : CNN