xs
xsm
sm
md
lg

ทำไมคนญี่ปุ่นจึงมีสายตาแย่มากและที่วิธีแก้ปัญหาแว่นหลุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:

สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้ว มีข้อมูลทางสถิติที่คํานวณจากข้อมูลที่ได้จากกลุ่มตัวอย่างพบว่าคนญี่ปุ่นเป็นชนชาติที่มีค่าสายผิดปกติ (สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง เป็นต้น) จำนวนมากที่สุด เรียกได้ว่าถ้าเทียบกับอัตราส่วนประชากรประเทศอื่นๆ คนญี่ปุ่นมีค่าสายตาที่แย่มาก ใครๆ ก็คิดแบบนี้เห็นได้จากการ์ตูนล้อเลียนที่มักจะวาดบุคลิกลักษณะของคนญี่ปุ่นสมัยก่อนคือเตี้ย เชย ใส่แว่น ฟันเหยิน เป็นต้น


เพราะอะไรคนญี่ปุ่นจำนวนมากจึงมีสายตาผิดปกติ ถ้ามองว่าคนญี่ปุ่นที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่เติบโตขึ้นมาพร้อมกับการพัฒนาเครื่องเล่นเกมแฟมิคอม (Famicom) เด็กๆ ส่วนใหญ่เล่นเกมกันมาก และเล่นทุกวัน จะเป็นสาเหตุที่ทำให้คนญี่ปุ่นมีปัญหาสายตาผิดปกติหรือไม่ ส่วนตัวผมคิดว่าอาจจะไม่ใช่ปัจจัยนี้ทั้งหมดและบางคนบอกยังว่าไม่น่าเกี่ยว มีนักวิจัยที่ศึกษาข้อมูลว่าทำไมคนญี่ปุ่นจำนวนมากตั้งแต่ยุคสมัยดึกดำบรรพ์เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน จึงมียีนส์สายตาผิดปกติ ก็มีข้อสรุปออกมาหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจอาทิเช่น


●เรื่องความเคยชินในการใช้ชีวิตประจำวัน จากการใช้สายตาเพ่งมองวัตถุในระยะใกล้ เพราะคนญี่ปุ่นตั้งแต่ยุคสมัยเมื่อพันกว่าปีก่อนส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพเกษตรกรรมและทำงานในขอบเขตที่อยู่ใกล้ๆ ตัว เช่น กำจัดวัชพืช ถอนหญ้า เก็บผักปลูกข้าว ต่างๆ นานา ส่งผลต่อพัฒนาการทางสายตาและทักษะการมองเห็นที่จะทำได้ดีในช่วงระยะใกล้ ซึ่งจะต่างจากชาวยุโรปที่เข้าป่าล่าสัตว์และต้องใช้สายตาเพ่งมองวัตถุระยะไกล เช่น การยิงธนู การล่าสัตว์ เป็นต้น


●ยุคต่อๆ มามีเรื่องของการเพ่งมองจอคอมพิวเตอร์ จอเกมที่มีแสงสว่างจ้าเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าดวงตา ตาแห้ง แสบตา เคืองตา ตาพร่ามัว มีผลทำให้สายตาผิดปกติได้

●อ่านหนังสือมาก และการเพ่งมองตัวอักษรคันจิเพื่อแยกแยะความหมาย เพราะอักษรคันจิมีมากมายเป็นพันอักษรต่างก็มีเส้นหลายขีดที่ต้องอาศัยความจำ ซึ่งผู้อ่านต้องมีการเพ่งใช้สายตามากขึ้น



●นอกจากนี้ยังมีปัจจัยส่วนบุคคล สิ่งแวดล้อม และลักษณะการใช้ชีวิตต่างๆ ด้วย ซึ่งถึงแม้ว่ายังไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมคนญี่ปุ่นจึงมีค่าสายตาแย่กว่าชนชาติอื่น แต่จากข้อมูลที่ได้มีการศึกษามาดังกล่าวก็อาจจะมีความเป็นไปได้ก็ได้ครับ

ผมเองก็ใส่แว่นตามาตั้งแต่เด็ก ค่าสายตาแย่มากสายตาสั้นเกือบหกร้อย ถ้าไม่ใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ก็มองไม่เห็นและทำอะไรไม่ได้เลย ผมได้ยินเพื่อนๆ คนไทยหลายคนบอกว่าถ้ามีภาวะสายตาผิดปกติก็ไปทำเลสิก ไม่เห็นต้องกลัวและหลายตนก็มองว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าถามคนญี่ปุ่นว่าคิดอย่างไร ต้องบอกว่าส่วนใหญ่จะไม่คุ้นเคยกับการทำเลสิก และไม่ค่อยมีคนทำเพราะว่ากลัวครับ นอกจากนั้นจากอิทธิพลของลัทธิขงจื้อในญี่ปุ่น ที่หลักปรัชญานี้ยังคงมีอิทธิพลต่อคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก มีความเชื่ออย่างหนึ่งว่าคนเราไม่ควรทำร้ายตัวเองโดยการนำมีดหรือของมีคมต่างๆ กรีดหรือทำร้ายร่างกายที่ได้รับมาจากพ่อแม่ จึงทำให้คนที่ยังมีความเชื่อนี้ค่อนข้างกลัวเรื่องการสักหรือแม้แต่การผ่าตัดต่างๆ (ทำร้ายตัวเองในที่นี้คนละนิยามกับการฆ่าตัวตาย) ด้วยความที่คนญี่ปุ่นจำนวนมากมีค่าสายตาผิดปกติทำให้ต้องใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์ในชีวิตประจำวัน แต่แปลกที่มีประเด็นห้ามสาวๆ ใส่แว่นไปทำงานหรือพวกดาราหน้ากล้องต่างๆ ต้องหลีกเลี่ยงการใส่แว่น เพราะต้องรักษาภาพลักษณ์ต่างๆ


ดังนั้นสำหรับคนญี่ปุ่นผู้ที่ใช้แว่นตาจะบอกได้เลยว่าแว่นตาเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกสิ่งตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าไปจนถึงเข้านอนตอนกลางคืน หากแว่นตามีปัญหาหรือหลุดง่ายไม่ตรงตำแหน่งแม้แต่เพียงเล็กน้อย จะทำให้ไม่มีสมาธิในการทำงานหรือทำให้ดวงตาอ่อนล้าและปวดตาได้ง่าย แถมยังเป็นต้นเหตุของการปวดหัวหรือเมื่อยไหล่และเครียดด้วย ยิ่งในยุคที่ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยและบางคนยังต้องใส่แว่นตาด้วยนั้น หลายคนก็เครียดกับการที่แว่นตาของพวกเขามีปัญหาโดยเฉพาะปัญหาแว่นตาหลุดง่ายและไม่ตรงตำแหน่งจากสาเหตุต่างๆ คือ


□ การเสียรูปของเฟรมกรอบแว่นตา
กรอบแว่นตามีความละเอียดอ่อนมาก แว่นตาอาจเสียรูปเนื่องจากพฤติกรรมการใช้งานประจำวันของเรา บ่อยครั้งที่แว่นตาจะถูกถอดและใส่ซ้ำๆ  ถ้าเราวางแว่นตาไว้บนศีรษะหรือใส่และถอดด้วยมือข้างเดียว อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้กรอบแว่นตาเกิดการเสียรูปไปทีละน้อยได้โดยที่เราไม่รู้ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่เชื่อมต่อกับเฟรมที่เรียกว่า"บานพับ" และแป้นจมูกซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่รับน้ำหนักที่มักจะเสียรูปได้ง่าย การกระทำเช่นนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้น้ำหนักไม่สมดุล เป็นผลให้องศาของแว่นตาเปลี่ยนไปและความสมดุลของแรงที่กระทำกับจมูกและหูผิดปกติ ดังนั้นควรจับอย่างเบามือและถูกวิธีด้วยมือทั้งสองข้าง

□การเสื่อมสภาพของชิ้นส่วน และข้อต่อไม่ถูกต้อง

เกิดการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนที่สัมผัสระหว่างแว่นตากับใบหน้าเช่น แป้นจมูก และขาแว่นตาที่เกี่ยวกับหู อาจทำให้แว่นตาหลุดได้ง่าย หากพื้นผิวของวัสดุชิ้นส่วนเกิดการสึกหรอหรือเปลี่ยนสีแสดงว่าเป็นสัญญาณที่ต้องเปลี่ยนใหม่ครับ


〇เรามีหลักการใช้แว่นตาอย่างถูกวิธีมาฝาก คือ

★ต้องใช้มือทั้งสองข้างประคองเพื่อสวมและถอดแว่นตา

การที่เราจับกรอบแว่นตาด้วยมือข้างเดียวแล้วใส่ต่อไปซ้ำๆ และถอดออกจะทำให้แว่นกางออก เราสามารถป้องกันไม่ให้กรอบบิดเบี้ยวได้โดยจับกรอบด้วยมือทั้งสองข้างและวางให้ตรงกับใบหน้าของตัวเอง

★หลังจากถอดแว่นตาแล้วให้ใส่ในเคส(กล่องแว่นตา)

เมื่อถอดแว่นตาออกให้เก็บไว้ในกล่องแว่นตา เพื่อลดปัญหาแว่นตากระทบกับสิ่งต่างๆ ที่อาจทำให้แว่นตาเกิดความเสียหาย หากต้องใส่และถอดบ่อยๆ บางคนใช้ขาตั้งแว่นตาแทนเพื่อรักษารูปทรงของแว่นตาให้ปกติและงานได้ยาวนาน


★จับด้านบนและด้านล่างของเลนส์เมื่อเช็ดเลนส์
วิธีจับที่ถูกต้องเมื่อเช็ดเลนส์คือจับด้านบนและด้านล่างของกรอบด้านเลนส์ที่ต้องการเช็ด หากเช็ดเลนส์ในขณะที่กดส่วนอื่นๆ ค้างไว้แรงจะถูกกดไปที่เฟรมและอาจทำให้เกิดปัญหาผิดรูปได้ หากพบว่ายากที่จะเช็ดสิ่งสกปรกออกจากแว่นตา อาจเป็นไปได้ว่าผ้าเช็ดแว่นสกปรก อย่าลืมเปลี่ยนผ้าเช็ดแว่นเป็นประจำด้วยครับ

★ล้างด้วยน้ำเปล่า + น้ำยาล้างแว่นตา

ควรกำจัดสิ่งสกปรกจากเหงื่อและโลชั่นทาหน้าต่างๆ ที่ทำให้เกิดปัญหากับข้อต่อโครงแว่นตาและสกรู ควรล้างแว่นตาให้บ่อยที่สุด หลังจากล้างด้วยน้ำแล้วขอแนะนำให้เช็ดแว่นตาด้วยน้ำยาทำความสะอาดแว่นตาด้วยครับ


〇คนญี่ปุ่นจะทำอย่างไรเมื่อแว่นตาผิดปกติและไม่อยู่ที่ตำแหน่งที่เหมาะสม

เพื่อขจัดปัญหาแว่นตาผิดปกติและไม่อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ต้องรู้ก่อนว่าอะไรเป็นสาเหตุเพื่อที่จะแก้ไขให้ตรงจุดอย่างเหมาะสม หากแว่นตามีขนาดไม่เหมาะสมกับใบหน้าและดวงตาควรปรับส่วนต่างๆ ของแว่นตาเพื่อลดปัญหาแว่นตาหลุดง่าย แต่ก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ถ้าแรงยึดของส่วนแป้นจมูกอยู่ในระดับต่ำ อาจจะเปลี่ยนแป้นจมูกใหม่ อย่างไรก็ตามไม่สามารถเปลี่ยนแป้นจมูกสำหรับแว่นตาที่มีแป้นจมูกในตัว หรือหากแว่นตาเสียรูปทรงสามารถแก้ไขได้โดยการแก้ไขหรือปรับแต่งชิ้นส่วนที่ผิดรูป หากข้อต่อไม่ถูกต้องให้สอบถามร้านแว่นที่เราซื้อแว่นตา แต่อย่างไรก็ตามหากจำเป็นต้องปรับแว่นตา ส่วนใหญ่จะแนะนำให้สอบถามร้านแว่นตาโดยตรง เราไม่ควรปรับเองครับ เรื่องเหล่านี้จะได้รับการสอนกันมาตลอด วันนี้เล่าสู่กันฟังครับ สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น