สระแก้ว - ศาลพิพากษาจำคุก 2 แม่ลูกเมืองสระแก้วติดเชื้อโควิด-19 แต่หลบหนีการรักษาใน รพ.สนาม ซ้ำนำบัตรประชาชนบุคคลอื่นสวมรอยตรวจหาเชื้อ ล่าสุด จนท.ราชทัณฑ์รับตัวลูกจำคุก 1 ปี 1 เดือนไม่รอลงอาญาหลังรักษาหาย ส่วนแม่ปรับเงิน 5,000 บาท รอลงอาญา
จากกรณีนางกมลวรรณ ลุ่มมณี อายุ 46 ปี พร้อมด้วย น.ส.กมลชนก วิชาฉิม อายุ 26 ปี ลูกสาว พากันหลบหนีออกจากห้องในชุมชนเมืองย่อยที่ 11 โรงฆ่าสัตว์เก่า ถนนเทศบาล 6 ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว และไม่ยอมเข้ารับการรักษาตัวภายในโรงพยาบาลสนาม องค์การบริหารส่วน จ.สระแก้ว หลังทราบผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดยทั้ง 2 คนได้พากันหลบหนีไปอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามจับกุมตัวได้ที่ จ.นครนายก เมื่อวันที่ 25 เม.ย. และถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ก่อนถูกส่งไปยังโรงพยาบาลสนาม อบจ.สระแก้ว ซึ่งผลตรวจล่าสุดพบว่า น.ส.กมลชนก ได้รับการรักษาจนหาย และมีผลตรวจเป็นลบแล้วนั้น
วันนี้ (4 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำ จ.สระแก้ว ได้เดินทางไปรับตัว น.ส.กมลชนก จากโรงพยาบาลสนาม อบจ.สระแก้ว เพื่อคุมขังที่เรือนจำจังหวัดสระแก้ว หลังศาลจังหวัดมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 1 ปี 1 เดือนโดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากมีการทำผิดกรณีนำข้อมูลทะเบียนราษฎรของผู้อื่นมาใช้ และมีความผิดกฎหมายอาญา ม.188
และให้ถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผู้ที่คิดจะปกปิดข้อมูลหรือหลบหนีไม่เข้าสู่กระบวนการรักษา ซึ่งมีผลกระทบต่อสังคมและบุคคลอื่นๆ และน่าจะเป็นคดีแรกที่ศาลสั่งลงโทษจำคุกผู้หลบหนี
โดย น.ส.กมลชนก ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาจงใจฝ่าฝืนและขัดคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ขัดคำสั่งจังหวัดสระแก้วที่ 982/2564 เรื่องมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และกระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และยังพบว่ามีคดีค้างเก่าเดิมซึ่งถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมฐานแอบอ้างชื่อและใช้บัตรประจำตัวประชาชน น.ส.ฉันทนา บุญทา ซึ่งทำหายไปตรวจหาเชื้อแทนเพื่อปกปิดข้อมูล
ส่วน นางกมลวรรณ ลุ่มมณี ศาลจังหวัดสระแก้ว สั่งจำคุกฐานหลบหนีการเข้ารักษาตัว แต่ให้รอลงอาญา และปรับเป็นเงิน 5,000 บาท