ข่าวปนคน คนปนข่าว
**หายห่วงอนาคตท่องเที่ยวไทย! Thailand only อะเมซิ่ง แม่ทัพทหาร = ผู้เชี่ยวชาญการท่องเที่ยว “น้องลุงตู่” ก็มา
เมื่อมีผู้หยิบรายชื่อคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา มาแชร์กันใหม่ ซึ่งมาในชั่วโมงนี้ที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ดูจะหมดหวังจากพิษการแพร่ระบาดโควิด พร้อมกับบรรยายว่า แต่ละคนโปรไฟล์ไม่ธรรมดา...ชาวท่องเที่ยวหมดห่วง การท่องเที่ยวต้องรอดอย่างแน่นอน!!!..งานนี้จึงเล่นเอาวิพากวิจารณ์กันทั้งบาง ว่าเป็นอีก Thailand only อะเมซิ่งไทยแลนด์
โดยรายชื่อคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา ชุดนี้ก็ไม่ธรรมดาจริงๆ นั่นแหละ ประกอบไปด้วย บรรดาทหารหาญมากันเกือบจะเหมานั่งคณะ กมธ.ทั้งหมด ชื่อตำแหน่งในอดีตหลายคนรู้จักกันดี เป็น “บิ๊กเบิ้ม” ก็หลายคน รวมทั้ง “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชายลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
คณะกรรมาธิการฯ มีดังนี้ 1. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ประธานคณะกรรมาธิการ 2. พล.อ.อ.อดิศักดิ์ กลั่นเสนาะ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง 3. พล.ร.อ.ชุมนุม อาจวงษ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง 4. พล.อ.โปฎก บุนนาค รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สาม 5. นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สี่ 6. พล.ร.อ.อิทธิคมน์ ภมรสูต เลขานุการคณะกรรมาธิการ
7. พล.อ.บุญธรรม โอริส รองเลขานุการคณะกรรมาธิการ 8. นายอนุศักดิ์ คงมาลัย โฆษกคณะกรรมาธิการ 9. พล.อ.พิศณุ พุทธวงศ์ รองโฆษกคณะกรรมาธิการ 10. พล.อ.ไพโรจน์ พานิชสมัย ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ 11. นายชลิต แก้วจินดา ที่ปรึกษาและกรรมาธิการ 12. พล.อ.ชยุติ สุวรรณมาศ ที่ปรึกษาและกรรมาธิการ 13. พล.อ.นาวิน ดำริกาญจน์ กรรมาธิการ 14. ร.อ.ประยุทธ เสาวคนธ์ กรรมาธิการ
15. พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา กรรมาธิการ 16. นายปัญญา งานเลิศ กรรมาธิการ 17. นายไพโรจน์ พ่วงทอง กรรมาธิการ 18. พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ กรรมาธิการ 19. พล.อ.ศุภรัตน์ พัฒนาวิสุทธิ์ กรรมาธิการ 20. น.ส.เกศชนก เสียงเปรม ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมาธิการ 21. น.ส.สุดารัตน์ หมวดอินทร์ ผู้ช่วยเลขานุการ คณะกรรมาธิการ
ว่ากันตามหน้าที่ คณะกรรมาธิการชุดนี้มีหน้าที่และอำนาจพิจารณาร่างกฎหมาย พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว การสร้างความหลากหลายและคุณภาพด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งศึกษาปัญหา และอุปสรรคของการพัฒนาการท่องเที่ยวของไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ เรียกว่า มีส่วนสำคัญต่อการท่องเที่ยวเลยทีเดียว
เห็นชื่อเหล่าแม่ทัพการท่องเที่ยว ซึ่งบ่งบอกว่า เดี๋ยวนี้ทหารได้กลายเป็นผู้ชำนาญการท่องเที่ยวแบบนี้ไปแล้ว ชาวเน็ตทั้งหลายไม่รู้จะหัวร่อหรือร่ำไห้กันดี!!
** งานนี้มีการบ้านต้องเคลียร์ เมื่อ “แม่หน่อย เอี่ยมเฮง” นายก อบจ.โคราช แจ้งบัญชีทรัพย์สิน ปรากฏว่าหนี้หมื่นล้านหายวับไปกับตา หลังสามีนั่ง รมช.พาณิชย์ได้เพียง 2 ปี
กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที เมื่อ ป.ป.ช.ประกาศบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ “ดร.หน่อย” หรือ “แม่หน่อย เอี่ยมเฮง” ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.โคราช ที่ได้แจ้งต่อ ป.ป.ช.เมื่อ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังรับตำแหน่ง นอกจากรวยขึ้นกว่า 300 ล้าน แล้วหนี้สินกว่า 1 หมื่นล้านยังหายวับไปภายใน 2 ปี หลังจาก “กำนันป้อ” วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ผู้เป็นสามี แจ้งไว้เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ เมื่อเดือน ส.ค. 62
“ยลดา” แจ้งต่อ ป.ป.ช.ว่า ตนเองและคู่สมรสมีทรัพย์สินรวม 461,279,446 บาท หนี้สินรวม 35,500,000 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของตนเอง 212 ,744,957 บาท ของคู่สมรส 248, 534,489 บาท ส่วนหนี้สินมี 35, 500,000 บาท เป็นของยลดาทั้งหมด โดยเป็นการกู้เงินจากธนาคารกสิกรไทย
ขณะที่ “วีรศักดิ์” เคยแจ้งต่อ ป.ป.ช.เมื่อครั้งรับตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ ว่ามีทรัพย์สิน 37,065,128 บาท มีหนี้สิน 9,636,125,937 บาท ส่วน “ยลดา” คู่สมรส มีทรัพย์สิน 62,597,681 บาท มีหนี้สิน 1,502,278,776 บาท รวมทั้งคู่มีทรัพย์สิน 99,662,809 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 11,138,404,713 บาท
เท่ากับว่าในเวลาเพียง 2 ปี หนี้สินประมาณ 1.1 หมื่นล้าน ได้หายไปเกือบทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้ ทั้ง “วีรศักดิ์-ยลดา” อ้างว่าอยู่ระหว่างการกักตัวโควิด 14 วัน จึงไม่สะดวกที่จะชี้แจง ขอให้รอครบกำหนดกักตัวก่อน ขณะที่ ป.ป.ช.ก็กำลังเตรียมตรวจสอบอยู่
แม้ว่า “ยลดา” จะแจ้งบัญชีในรายการที่เป็น “รายได้” ว่ามาจากดอกเบี้ย ค่าเช่าที่ดิน ขายหุ้น แต่ก็เป็นที่รับรู้ของคนในพื้นที่ว่า ธุรกิจหลักของตระกูล “หวังศุภกิจโกศล” คือโรงงานแป้งมันสำปะหลังในเครือ “เอี่ยมเฮง” ที่ประกอบด้วย บริษัท แป้งมันเอี่ยมเฮงอุตสาหกรรม จำกัด, บริษัท แป้งมันเอี่ยมอีสานอุตสาหกรรม จำกัด, บริษัท เอี่ยมรุ่งเรืองอุตสาหกรรม จำกัด และบริษัท เอี่ยมเฮง โมดิฟาย สตาร์ช จำกัด
“วีรศักดิ์” หรือ กำนันป้อ เคยเป็นกำนัน ต.กุดโบสถ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เป็น “แบ็ก” ให้เครือญาติเข้าสู่เส้นทางการเมือง มีความสัมพันธ์กับทั้งพรรคเพื่อไทย และภูมิใจไทย โดยผลักดันให้ “จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล” เป็น ส.ส.นครราชสีมา 2 สมัย และสามีของจิตรวรรณ คือ สมศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ก็ได้เป็น ส.ว.โคราช อีกทั้งยังเคยส่งลูกชาย ลงสมัคร ส.ส.นครราชสีมา ในสีเสื้อพรรคเพื่อไทย เมื่อปี 57 ซึ่งก็ชนะเลือกตั้ง แต่ไม่ได้เป็น ส.ส. เพราะการเลือกตั้งครั้งนั้นโมฆะ
เมื่อถึงคิวที่ “กำนันป้อ” ต้องโดดลงมาเล่นการเมืองสังกัดพรรคภูมิใจไทย ก็ลาออกจากการเป็นผู้บริหารบริษัทแป้งมัน โดยให้ “ยลดา” เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แป้งมันเอี่ยมเฮงอุตสาหกรรม จำกัด แทน ก่อนที่จะมาลงสมัครนายก อบจ.โคราช และชนะเลือกตั้ง
เครือข่ายแป้งมัน “เอี่ยมเฮง” ครอบคลุมพื้นที่นครราชสีมา อีสานใต้ ยันอุบลราชธานี และยังกินมาถึงภาคตะวันออก ย่าน จ.สระแก้ว ปราจีนบุรี เรียกว่าคุมพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา กันเลยทีเดียว ... และว่ากันว่า “ธุรกิจแป้งมัน” นี่เองที่ส่งให้ “กำนันป้อ” ได้เป็น รมช.พาณิชย์
ไม่ว่าธุรกิจแป้งมันในเครือเอี่ยมเฮงจะมีมูลค่าการลงทุนในระดับพันล้าน หรือหมื่นล้านก็ตาม แต่การที่ “หนี้สินหมื่นล้าน” หายวับไปภายใน 2 ปี ย่อมเป็นที่กังขาของสังคมว่ารวยจนสามารถปลดหนี้เป็นหมื่นล้านได้ เพราะเล่นการเมือง ...เพราะเป็นรัฐมนตรีหรือเปล่า!!
ก็คงต้องจับตาว่า การแจ้งบัญชีทรัพย์สินครั้งใหม่ของ “วีรศักดิ์” ที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ แล้วไปรับตำแหน่ง รมช.คมนาคม ในการปรับ ครม.ครั้งล่าสุด ว่าตัวเลขของทรัพย์สินและหนี้สินที่แจ้งต่อ ป.ป.ช.จะออกมาอย่างไร
แต่ปัญหาเฉพาะหน้าขณะนี้คือ “แม่หน่อย เอี่ยมเฮง” นายก อบจ.โคราช ต้องเคลียร์เรื่องหนี้สินที่หายไปกว่าหมื่นล้านนี้ให้ได้เสียก่อน เพราะโทษของการยื่นบัญชีเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริง คือต้องพ้นจากตำแหน่งหรือถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี และหากมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติก็จะถูกดำเนินคดีโดยให้ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นนั้นตกเป็นของแผ่นดิน