กลุ่มสื่อจีนรายงาน (26 ก.พ.) - สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้กล่าวในที่ประชุมพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ว่า จีนเพิ่งจะสามารถเอาชนะความยากจนข้นแค้นอย่างที่สุดได้ ตามเป้าหมายที่ถูกวางเอาไว้ตั้งแต่ ค.ศ.2013 ว่าความยากจนอย่างที่สุดของจีนจะต้องหมดไปภายใน ค.ศ. 2020 นับเป็นความสำเร็จที่ไม่เคยมีมาก่อน
“การกำจัดความยากจนอย่างที่สุด คือเกียรติสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์ และประชาชน เป็นวาระของมวลมนุษยชาติ ที่สมควรได้รับการถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ ” สีกล่าว
ตามแผนการ 8 ปี เพื่อกำจัดความยากจน นโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนส่งเจ้าหน้าที่ฯ เข้าไปติดตามแก้ปัญหาใกล้ชิด ส่งเสริมให้ประชากรที่อยู่ในเกณฑ์ยากจนอย่างที่สุดกว่า 98.99 ล้านคน ในพื้นที่ 832 เทศมณฑล สามารถก้าวพ้นจากเกณฑ์ความยากจนที่สุดได้ ยกระดับรายได้ ขึ้นมาเป็น 4,000 หยวน (ประมาณ 18,700 บาท) ต่อปี พ้นเกณฑ์ความยากจนที่สุด
ในที่ประชุมฯ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังได้มอบเหรียญเกียรติบัตรและโล่ให้กับบุคคลต้นแบบในการต่อสู้เพื่อบรรเทาความยากจนของจีน 20 คน ได้แก่
(*อ่าน - จีนยกย่อง 20 บุคคลต้นแบบ ... "คนพ้นจน" ตอน 1)
(*อ่าน - จีนยกย่อง 20 บุคคลต้นแบบ ... "คนพ้นจน" ตอน 2)
(*อ่าน - จีนยกย่อง 20 บุคคลต้นแบบ ... "คนพ้นจน" ตอน 3)
16. กรมสร้างสายส่งไฟฟ้าบนที่ราบสูงชิงไห่ - ทิเบต
ในปี 2020 โครงการโครงข่ายไฟฟ้าในอาหลี่ ที่ราบสูงชิงไห่ - ทิเบต ซึ่งเป็นที่ราบสูงที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก ได้เชื่อมต่อเสร็จสมบูรณ์และเริ่มดำเนินการได้
กรมติดตั้งสายส่งไฟฟ้า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ 1,222 คนไปยังหมู่บ้านที่ยากไร้ 41 แห่งเพื่อให้ความช่วยเหลือ ด้วยงบประมาณลงทุน 11 ล้านหยวน (1.7 ล้านดอลลาร์) เพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในท้องถิ่น และการบริการสาธารณะ ช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของชาวบ้านท้องถิ่น 4,383 คนให้หลุดพ้นจากความยากจน
17. หมู่บ้านห่าวเจียเฉียว ในเขตเมืองจางเจี่ยเปี้ยน เขตสุยเต๋อ มณฑลส่านซี
ในปี 2014 หมู่บ้าน มีครัวเรือน 236 ครัวเรือน (ทั้งหมด 548 คน) ที่ลงทะเบียนเป็นผู้อยู่ใต้ระดับเส้นความยากจนอย่างที่สุด โดยมีอัตราส่วนความยากจน 30.7 เปอร์เซ็นต์
หมู่บ้านแห่งนี้ได้สร้างสวนแอปเปิ้ล 831.25 ไร่ สร้างโรงเรือนปลูกผัก 20 แห่ง และอีก 40 แปลง
นอกจาก อุตสาหกรรมไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ขนาด 500kW แล้ว หมู่บ้านยังใช้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวการเกษตรสมัยใหม่ และช่องทางอื่น ๆ เพื่อช่วยให้คนจนมีรายได้เพิ่มขึ้น
ภายในสิ้นปี 2020 คนจนทั้งหมดในหมู่บ้านถูกปลดออกจากความยากจน โดยมีรายได้ต่อหัวของชาวบ้านอยู่ที่ 11,543 หยวน (1,782 ดอลลาร์)
18. หมู่บ้านซานเหอ เขตปกครองตนเองชนชาติอี๋เหลียงซาน มณฑลเสฉวน
หมู่บ้านซานเหอ ตั้งอยู่ลึกลงไปในเทือกเขาต้าเหลียง เป็นหมู่บ้านที่ยากจนข้นแค้น ในอดีตผู้คนที่นั่นอาศัยการปลูกข้าวโพดและมันฝรั่งเป็นหลักเพื่อหารายได้ อัตราส่วนความยากจนอยู่ที่ 46.47 เปอร์เซ็นต์
หมู่บ้านนี้ใช้ประโยชน์จากการเพาะปลูกพืช การเพาะพันธุ์สัตว์ และอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเพื่อยกระดับชาวบ้านให้หลุดพ้นจากความยากจน จนมีรายได้ต่อปีของชาวบ้านอยู่ที่ 23,423 หยวน (3,616 ดอลลาร์) ในปี 2561 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากปี 2556
19. หมู่บ้านปันหยาน เขตปกครองตนเองหู้จู้ มณฑลชิงไห่
หมู่บ้านปันหยาน เป็นที่ตั้งของกลุ่มชาติพันธุ์ถู่ เป็นพื้นที่ที่มีความยากจนแร้นแค้นบนภูเขาลิ่วผัน ในปี 2559 รัฐบาลท้องถิ่นได้เปิดตัวโครงการย้ายถิ่นฐานเพื่อบรรเทาความยากจน ปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย ชาวบ้านทั้งหมด 1,396 คนจาก 369 ครัวเรือนได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล
ประเพณีการผลิตไวน์ในท้องถิ่น ยังได้รับการขยายจากบ้านไปสู่การผลิตจำนวนมาก โดยมีโรงงานบางแห่งที่สร้างขึ้นใกล้กับหมู่บ้านที่ขายไวน์ทางออนไลน์
ภายในสิ้นปี 2563 รายได้ต่อหัวของหมู่บ้านต่อปีสูงถึง 11,419 หยวนและมีรายได้รวมทางเศรษฐกิจถึง 1.07 ล้านหยวนอปีของผู้อยู่อาศัยสูงถึง 14,960 หยวน (2,309 ดอลลาร์) และรายได้รวมทางเศรษฐกิจของหมู่บ้านอยู่ที่กว่า 6 ล้านหยวน
20. เมืองหมินหนิง ในเขตหย่งหนิง เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย
เมืองหมินหนิงในเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เดิมเป็นพื้นที่แห้งแล้งเมื่อ 20 ปีก่อน ชื่อ "หมินหนิง" มาจากคำผสม 2 คำ ของ หมินหนาน (ฝูเจี้ยน) กับ หนิงเซี่ย
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมืองนี้มีรายได้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการพัฒนาการท่องเที่ยว การเพาะปลูก เซลล์พลังงานแสงอาทิตย์และอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยได้รับความช่วยเหลือจากมณฑลฝูเจี้ยน
ประชากรที่นี่เพิ่มขึ้นจาก 8,000 คนเป็น 66,000 คน ในปี 2563 รายได้ต่อหัวต่
