เรียกว่ากระแสของ “อาหารใส่กัญชา” นั้น กำลังมาอยู่พอดี อาจจะเป็นเพราะว่า มีประกาศเผยแพร่ออกมาเป็นทางการ ในเรื่องของการอนุญาตอย่างถูกต้อง จนใครต่อใครหลายคนนั้น ชักอยากจะลิ้มลองรสชาติอาหารที่มีส่วนผสมของพืใบเขียวชนิดนี้ แต่อย่างไรก็ตามก็ยังต้องมีข้อกังวลด้วยว่า หากใส่มากไป หรือ ไม่ถูกสุขลักษณะ ก็อาจจะเกิดอันตรายได้ด้วยเช่นกัน
โดยทางเภสัชกรหญิง สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ได้กล่าวว่า สิ่งที่ทางผู้ประกอบการต้องทราบ หากนำส่วนพืชกัญชาและกัญชง ที่ได้รับการปลดล็อกแล้วไปใช้ในการปรุงอาหารหรือเครื่องดื่มนั้น จะต้องซื้อมาจากแหล่งปลูกที่ได้รับอนุญาตจาก อย. เท่านั้น เช่น วิสาหกิจชุมชนที่ปลูกร่วมกับหน่วยงานของรัฐ และ เมื่อได้รับใบหรือส่วนของพืชกัญชาจากแหล่งที่ปลูกถูกต้องตามกฎหมายมาแล้ว สามารถนำมาปรุงใส่อาหารจำหน่ายที่ร้านได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจาก อย. อีก
สำหรับวัตถุหรือสารในกัญชา ที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตในประเทศ โดยไม่จัดเป็นยาเสพติด คือ เปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน ราก และใบที่ไม่มียอดหรือช่อดอกติดมาด้วย รวมถึงมีสารสกัดที่มี CBD และ มี THC กับกากหรือเศษที่เหลือจากการสกัดกัญชา ที่มี สาร THC ไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก
ด้าน รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง รัศมน กัลยาศิริ ผู้จัดการศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด (ศศก.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ได้กล่าวว่า กัญชาจะมีสารสำคัญ 2 ชนิด ได้แก่ THC และ CBD ซึ่งสารชนิดแรกนั้น จะทำให้มึนเมา เคลิ้ม โดยแต่ละส่วนของกัญชาจะมีสาร THC ต่างกัน ซึ่งในส่วนของกัญข่ที่มี THC เข้มข้นสูงนั้น จะมักไม่ค่อยดีนักในแง่นำมาใช้ เพราะทำให้เป็นพิษและเมาได้
ขณะเดียวกัน แม้ว่ากัญชาจะได้รับอนุญาตให้นำมาใส่ในอาหารอย่างถูกกฎหมายแล้ว แต่ก็ต้องมีการระมัดระวังในเรื่องของการใส่ในปริมาณ ซึ่งหากใส่มากเกินไป อาจจะทำให้เมาได้ และในเรื่องของการผ่านความร้อนที่สาร THC จะออกฤทธิ์มากกว่านั้น ยิ่งต้องมีความระมัดระวัง และยิ่งนำมาผัดกับน้ำมัน บวกกับความร้อนด้วยแล้ว จะทำให้มีการสกัดสารมากขึ้น และก่อให้เกิดความเมามากยิ่งขึ้นนั่นเอง ซึ่งผู้ที่เป็นเด็กเยาวชน หญิงตั้งครรภ์ และผู้สูงอายุนั้น จะต้องเพิ่มความระมัดระวังในการรับประทานขึ้นด้วย
โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน หากมีการเสพเข้าไปในร่างกาย อาจจะมีผลกระทบต่อพัฒนาการทางสมอง ซึ่งหากได้รับสาร THC ซึ่งเป็นบ่อเกิดของความเมาแล้ว ผู้ปกครองความมีการสื่อสารให้ถูกต้องต่อตัวบุตรหลานของตัวเอง ว่ากัญชานั้นก็ยังมีทั้งข้อดีและข้อเสียด้วยเช่นกัน
ข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)