xs
xsm
sm
md
lg

ลึกไม่ลับรู้จัก “รองต๊ะ” คนยิ่งใหญ่ใจกว้าง ที่เมื่อวานกับวันนี้ต่างกันราวหน้ามือกับหลังเท้า **สองปมคาใจ “มนู เมฆหมอก” ใกล้ชิดสนิท “พล.ต.ท.” คนดัง-ผลงานออกรับแทน “สมยศ” คดีบอสมาเป็น หัวหอกคดีใหญ่เหมาะแล้วหรือ?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ข่าวปนคน คนปนข่าว



**ลึกไม่ลับรู้จัก "รองต๊ะ" คนยิ่งใหญ่ใจกว้าง ที่เมื่อวานกับวันนี้ต่างกันราวหน้ามือกับหลังเท้า

ว่าด้วยเรื่อง "คำสั่งด่วนที่สุด" ของ"พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์" ให้ติดตามสำนวนคดีจับกุมยาไอซ์ 1,500กิโลฯ ที่แม่สอดเมื่อปี 62 ที่มีพยานซัดทอด "ผู้เกี่ยวข้องซึ่งปรากฏชื่อของ "สองบิ๊กตำรวจ" ถูกระบุในเอกสาร ที่ทำเอาสะท้านสะเทิอนวงการสีกากีกันนั้น

"บิ๊กต่อ" พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ใช้สิทธิ์ถูกพาดพิงแจ้งความเอาผิดกับเพจๆหนึ่ง ที่ออกมาสื่อความในทำนองทำให้เสื่อมเสียไปแล้วตามที่รู้กัน

แต่สำหรับอีกหนึ่งตัวละคร "รองต๊ะ" พ.ต.อ.เอกราษฎร์ อินต๊ะสืบ รอง ผบก. อก.บชภ.6 เก็บตัวเงียบเชียบ ไม่เคลื่อนไหวนับแต่เป็นข่าว ซึ่งก็มีคนสงสัยกันว่า รองต๊ะ ผู้นี้เป็นใคร ??

ต้องเริ่มอย่างนี้ว่า วันนี้ในหมู่เพื่อนฝูงร่วมรุ่นนรต.43 ถือว่า "รองต๊ะ" วัย53 ย่าง 54 มีหน้ามีตาอยู่แถวหน้าของรุ่น เป็นนายตำรวจที่เพื่อนร่วมรุ่นถึงกับเรียกหากันวา "BOSS"เพราะลักษณะนิสัย "ยิ่งใหญ่ ใจกว้าง" จัดงานวันเกิดแต่ละปีว่ากันว่า นรต.43 มากันพรึ่บพรั่บ ทั้งๆ ที่ ถิ่นพำนักของ"รองต๊ะ"อยู่ไกลถึงแม่สอด ชายแดนไทยติดเมียนมา

พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล
สถานะของ "รองต๊ะ" วันนี้ไม่ใช่เรื่องลับในหมู่เพื่อนฝูง แถมความยิ่งใหญ่ ใจกว้างของเขา ยังเป็นที่รับรู้ของนักลงทุน นักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ คนใหญ่คนโตที่เดินทางไปแม่สอด เพราะรองต๊ะจะเปิดคฤหาสน์หรู บนเนื้อที่ 5 ไร่ มูลค่าหลักร้อยล้านไว้ต้อนรับผู้มาเยือน

แขกไปใครมาต่างก็ได้รับเชื้อเชิญให้ลองลิ้มชิมไวน์ชั้นดีที่เก็บรักษาไว้ที่ห้องใต้ดิน จิบไวน์ไปถ้าเบื่อๆ เจ้าบ้านก็พาเดินชื่นชมบริเวณบ้าน ที่ด้านหลังมี "น้ำตก" ที่ว่ากันว่าจำลอง "น้ำตกทีลอซู" มาเลยทีเดียว หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศออกกำลัง ไดร์ฟกอล์ฟในบริเวณบ้านก็สร้างสนามอย่างดีให้เพลิดเพลินกันไป

เรียกว่า แขกของ"รองต๊ะ" ต่างติดใจกันถ้วนหน้า และมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันว่า บิ๊กตำรวจหลายคนซึ่งรวมทั้ง "พล.ต.ท." ผู้ยิ่งใหญ่ก็มีคนตาดีเห็นเป็นขาประจำของคฤหาสน์หลังนี้ มักมาค้างคืนอยู่บ่อยๆ

แต่ถึงจะมีคฤหาสน์สุดหรู อย่างไร ว่ากันว่า "รองต๊ะ" ยังคงพักอาศัยอยู่กับบ้านพักตำรวจของตำแหน่งผู้กำกับแม่สอดหลังเดิม จนเป็นที่ไม่เข้าใจว่า ทำไมทำให้ผู้กำกับแม่สอดที่เข้ามารับช่วงต่อจากเขาที่ย้ายเข้ามาต้องระเห็จไปอาศัยบ้านเช่าหลังอื่นอยู่แทน

นั่นเป็นเรื่องที่คาดเดากันไปต่างๆ นานา ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า "รองต๊ะ"ไม่ลืมอดีตที่เคยยากลำบาก ซึ่งเป็นเรื่องลึกๆ ที่ก่อนจะมาเป็น "ผู้ยิ่งใหญ่" ในวันนี้ที่ดูจะมีคนรู้น้อยกว่าน้อยว่า รองต๊ะ นั่นสมัยที่ยังเป็นตำรวจติดตาม "ยุทธตู้เย็น" ยงยุทธ ติยะไพรัช นักการเมืองผู้กว้างขวางของเชียงราย

คฤหาสถ์ของพ.ต.อ.เอกราษฎร์
"รองต๊ะ" อดีตมีแค่รถกระบะเก่าๆ ขับปุเลงๆ ไม่แตกต่างจากตำรวจชั่นผู้น้อยทั่วไป แต่การติดตาม"ยงยุทธ" อยู่ภาคเหนือก็ทำให้หน้าที่การงานก้าวหน้าพุ่งพรวดขึ้นมาเป็นลำดับ กระทั้งถูกผลักดันให้ขึ้น "ผู้กำกับแม่สอด" ช่วงที่ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" เป็นนายกฯ

นี่จึงเป็นที่คาดคิดกันได้ว่า ทั้งชีวิตของรองต๊ะอุทิศให้กับ "นาย" กรีดเลือดออกมายังไงๆ ก็เป็น "สีแดง" ไม่ต้องสืบให้เมื่อย

ว่ากันว่า การได้เป็น "ผู้กำกับแม่สอด" นี้เองเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตรองต๊ะเรียกว่า "หน้ามือเป็นหลังเท้า"

นั่นเพราะว่า "แม่สอด" ได้ชื่อว่าเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ช่วงที่รองต๊ะเข้ามาเป็นผู้กำกับมีการพัฒนารุดหน้าไปอย่างมาก ขณะที่ฝั่งตรงข้ามที่แค่เดินข้ามไป "เมียวดี" ก็เป็นเมืองที่มีการลงทุนขนานหนัก

แน่นอนว่าความเจริญมาพร้อมกับการรองรับ ทั้งสถานบันเทิง ทั้งแหล่งอบายมุข กาสิโน ธุรกิจการค้ารุ่งเรือง

"รองต๊ะ" อยู่แม่สอดหลายปี เป็นนายตำรวจที่ต้องถือว่าอึดยึดตำแหน่งไม่ย้ายไปไหนได้อย่างเหนียวแน่น ซึ่งว่ากันว่าถ้าไม่มีคนหนุนหลัง ได้บารมีนักการเมืองค้ำจุน ก็ยากจะทำได้เพราะนั่งในตำแหน่งที่ตำรวจหลายนายหมายปอง

ยิ่งแม่สอดช่วงหลังๆ รู้กันวงการสีกากีดีว่า เป็นแผ่นดินทองของแท้ แซงหน้า "แม่สาย" ที่ดูจะเป็นทองเคไปแล้ว เพราะผลประโยชน์ทางธุรกิจทั้งสีขาวสีเทา นั่นมากมายมหาศาล ต้องปึ๊กแน่จริงๆ ถึงจะได้มาอยู่

นี่กระมังที่ทำให้"รองต๊ะ" เปล่งประกายแสง ไปไหนมาไหนมีตำรวจห้อมล้อม เป็นคนสำคัญของแม่สอด ที่ใครผ่านไปต้องแวะเข้ามาคารวะ พึ่งความยิ่งใหญ่ ใจกว้าง เป็น BOSS ของแท้ของแม่สอด

มิพักต้องบอกว่า ความยิ่งใหญ่ของรองต๊ะ กลบรัศมี้กำกับแม่สอดคนปัจจุบัน หรือคนที่อยู่เหนือเขาขึ้นไปทั้งจ.ตาก หรือ อาจจะทั้งภาค6 ที่แทบไม่มีบทบาท ทำงานกันไป อยู่เฉยๆเรืองรับรองดูแลผู้หลักผู้ใหญ่ ใครจะมาแม่สอด หรือ ข้ามไปเมียวดี เดี๋ยวรองต๊ะจัดการให้หมด

ไหนๆพูดถึงเมียวดี ฝั่งตรงข้ามแม่สอด ก่อนที่จะอู้ฟู่ มีกาสิโนเบ่งบานเป็นดอกเห็ดอย่างทุกวันนี้ โดยเฉพาะ แลนด์มาร์ค"เมียวดีคอมเพล็กซ์" ที่เป็นที่กล่าวถึงว่า เป็นศูนย์รวมแห่ง"เมียวดี conspiracy"ก็มีเรื่องเล่าถึง "นายตำรวจหนุ่ม" คนหนึ่งที่สวมคราบนักธุรกิจได้อย่างน่าทึ่ง

พ.ต.อ.เอกราษฎร์  อินต๊ะสืบ
นายตำรวจคนนี้ ถือเป็นคีย์แมนคนสำคัญที่ทำให้ "เมียวดีคอมเพล็กซ์" เกิดขึ้นมาจากสายสัมพันธ์อันดีกับงูเจ้าถิ่น “นายพลหม่อง ช.”ผู้นำกองกำลังพิทักษ์ชายแดน ที่ว่ากันว่าคุมพื้นที่เมียวดี

เขาและนายพลหม่องช. มองเห็นโอกาสจึงร่วมทุนดึงนักลงทุนอีกบางส่วนเข้าหุ้นสร้างขึ้นมากับมือ จนผงาดขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งในยุทธจักรกาสิโนของฝั่งเมียนมา ซึ่งไม่แน่แปลกแต่อย่างใดที่ต่อมาความที่มีผลประโยชน์มหาศาลนี้ จะชักนำผู้คนทุกวงการ คนมากบารมีให้เข้ามามีส่วนร่วม เป็นเครือข่ายใหญ่

มีเรื่องเล่าว่า นักลงทุนต่างชาติมาติดต่อเจรจาขอซื้อ นายตำรวจหนุ่มคนนี้บอกสนนราคาไปกว่า 500 ล้านดอลลาร์ เรียกว่า มิเสียแรงที่มองการณ์ไกล การลงทุนให้ดอกผลที่งดงามเกินบรรยาย

วันนี้นายตำรวจหนุ่มก็ยังเป็นคีย์แมนสานผลประโยชน์ให้ทุกกลุ่ม ซึ่งก็ไม่ร้ว่า "รองต๊ะ" ที่เป็นผู้กำกับแม่สอดมาหลายปี จะเคยได้ยินตำนานของตำรวจคนนี้หรือไม่ หรือเคยรู้จัก เคยเจอะเจอกันบ้างหรือไม่

แม่สอด-เมียวดี แค่เดินข้ามพรมแดนก็ถึงอีกฝั่ง อาจจะเคยเจอกัน เดินสวนทางในที่แคบ กระทั่งแอบมองกันผ่านกระจกในห้องน้ำ เห็นหน้าของอีกฝ่ายมั้ย ?? ก็ต้องฝากเป็นคำถามไว้

นี่กล่าวมา ไม่ได้หมายความว่า "รองต๊ะ" ที่มีชื่อเป็นตัวละครในเอกสารด่วนที่สุด จะผิดตามที่พยานคดียาไอซ์ซัดทอด ต้องย้ำกันเพราะก็ต้องว่าไปตามกระบวนการสอบสวน

แต่นี่เป็นเรื่องราวเบื้องลึกแต่ไม่ลับ ของ"รองต๊ะ"คนดังของแม่สอดที่หยิบมาเล่าสูกันฟังวันนี้เท่านั้น.

**สองปมคาใจ "มนู เมฆหมอก" ใกล้ชิดสนิท"พล.ต.ท." คนดัง -ผลงานออกรับแทน"สมยศ" คดีบอสมาเป็น หัวหอกคดีใหญ่เหมาะแล้วหรือ?

พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก
วันนี้ต้องพูดถึงวงการสีกากีให้สุด ไม่พูดคงไม่ได้ เพราะ"คดีใหญ่" ระดับ สะท้านฟ้า สะเทือนดิน กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์กันว่า กำลังจะกลายเป็น "มวยล้มต้มคนดู"

โดยเฉพาะ คำสั่งของ"พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข"ผบ.ตร. สั่งการให้"พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก" รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย"พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม" ผบช.ปส. ลงพื้นที่ไปตรวจสอบประเด็นที่มีข้าราชการตำรวจยศ "พ.ต.อ." และ "พล.ต.ท." ถูกพาดพิงจากพยานซัดทอดเข้าไปเกี่ยวข้องกับการจับกุมไอซ์1,500 กิโลกรัม ในพื้นที่ แม่สอด จ.ตาก เมื่อวันที่ 18 ต.ค.62 โดยให้สืบสวนสอบสวนขยายผลทั้งๆ ที่งงกันทั้งบางว่า สำนวนสอบสวนก็มีทนโท่ แถม ผบ.ตร ก็รู้เรื่องนี้มาเป็นลำดับอยู่แล้วจากการรายงานของ "พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์" รองผบ.ตร ผู้มีคำสั่งด่วนที่สุดลงไปตามขั้นตอนที่ควรจะทำอยู่แล้ว

ที่เกรงกันว่างานนี้ส่อจะเป็นมวยล้มต้มคนดูก็เพราะ เริ่มจากมีชื่อ "พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก" รองผบ.ตร. ซึ่งคนในวงการตำรวจรู้กันว่า หนึ่งนั้น "มีความสัมพันธ์แนบแน่นใกล้ชิดกับ พล.ต.ท." ที่อยู่ในข่ายถูกสอบ

คนรู้จักกันดีสนิทกันมาสอบกันก็เป็นอะไรที่ห้ามคนไม่ให้คิดได้ยากว่าจะไม่ช่วยเหลือกัน!!

ถามว่า พล.ต.อ.มนู ใกล้ชิดกันระดับไหนกับ "พล.ต.ท." คนดัง นอกจากเป็น"คนเพชร" พื้นเพมาจากเพชรบุรีด้วยกัน ก็ต้องเท้าความไปก่อนนี้ ที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากคนปทุมวันว่า ทั่งคู่ ถูกวางเป็นคู่แคนดิเดตที่จะมาเป็น"เบอร์หนึ่ง" คุมตร.

ด้วยอยู่ในเครือข่าย "ลมใต้ปีก" เดียวกันของ "ผู้ยิ่งใหญ่" ที่อยู่ในระดับที่จะผลักดันให้ก้าวขึ้นบัลลังก์ "ผบ.ตร" ชนิดที่"ตั๋วช้าง" ยังเทียบไม่ได้

ตามแพลนที่วางไว้ "พล.ต.อ.มนู" อาวุโสกว่า พล.ต.ท. จะเกษียณอายุราชการปี 2564 เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 38 รุ่นเดียวกับ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา แน่นอนถูกวางให้ก้าวไปก่อนก้าวหนึ่ง

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง
"บิ๊กมนู" กรุยทางไว้ไม่นาน เตรียมบันไดสามขั้น ให้ "พล.ต.ท."ก้าวตามต่อได้เลย ซึ่งคาดกันว่า จะเป็นการก้าวกระโดด โยกย้ายอีกสองครั้ง โตทันแน่ๆ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด โยกย้ายครั้งใหญ่ ต.ค.นี้ วงการได้อ้าปากค้างกันเห็นๆ ถ้าบิ๊กมนูก้าวลงปั๊บ คนต่อคิวเป็น พล.ต.ท.ที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงเสียบต่อทันที โดยมีอายุราขการในตำแหน่งอีกนานหลายปี ถือเป็นการวางยุทธศาสตร์"สืบทอดอำนาจ" กันยาวๆ

ถ้าจำกันได้ เมื่อคราวที่"พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา" เกษียณราชการ ต้องลงจากตำแหน่ง แคนดิเดตที่จะคั่วตำแหน่งผบ.ตร. ต่อจาก"บิ๊กแปะ" มีชื่อของพล.ต.อ.มนู มาแรงมากขับเคี่ยวอยู่กับ "พล.ต.อ.สุวัฒน์ และ พล.ต.อ.สุชาติ" แต่ไปๆ มาๆ เป็น "ลุงตู่" ที่ตัดสินใจเลือก"บิ๊กปั๊ด" ให้ขึ้นเป็นผบ.ตร.ในที่สุด

ตอนนั้นว่ากันว่า "พล.ต.อ.มนู" ที่จ่อเต็มที่ ที่จะคว้าตำแหน่งผู้นำตร.อยู่แล้ว แค่เอื้อมจริงๆ แต่กลับไปสะดุดขาตัวเองหน้าคว่ำคะมำ เพราะผลงานของการออกหน้า เอาตำแหน่งอดีตที่เคยเป็น "ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ" รับแทน"ลูกพี่อ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.ที่มีรายงานในกมธ.กฎหมายและยุติธรรม ของสภาฯว่า เป็นตัวละครลับ อยูเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลง "ความเร็วรถ" ที่เป็นจุดเปลี่ยนของ"คดีบอส" ขับรถชนตำรวจตายจนสังคมพากันเสื่อมศรัทธา ตั้งข้อสังเกตในผลงานของตำรวจที่ไม่คำนึงถึงการผดุงความยุติธรรม

ความค้างคาใจในปมของ"บิ๊กอ๊อด"จากผลงานของ"พล.ต.อ.มนู"คราวนั้นกลายเป็นสิ่งที่ย้อนกลับมาทิ่มแทงตัวเองจน พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้เข้าป้ายไปโดยวัดกันแค่เส้นยาแดงผ่าแปด ทั้งๆ ที่อาวุโสน้อยที่สุด

นี่เป็นปมสองปมที่สังคมตั้งข้อสังเกตุว่าพล.ต.อ.มนู สมควรจะเป็นผู้รับผิดชอบคดีใหญ่นี้หรือไม่ ?
กำลังโหลดความคิดเห็น