“อาลีบาบา-เทนเซ็นต์-ไป่ตู้” หุ้นขึ้น หลังข่าวสหรัฐฯ ไม่ขึ้นบัญชีดำแล้ว

สื่อต่างประเทศ รายงาน (14 ม.ค.) อ้างแหล่งข่าวระบุกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ถอดรายชื่ออาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง, เทนเซ็นต์ โฮลดิ้งส์ และไป่ตู้ อิงก์ ของจีน จากรายชื่อบริษัทจีนที่ถูกแบน

นิวยอร์กนิวส์รายงานแนวโน้มการตัดสินใจของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ หลังจากที่ก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้พยายามโน้มน้าวให้รัฐบาลแบนบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนเหล่านี้เป็น 1 ใน 12 บริษัท ที่นักลงทุนสหรัฐฯ ต้องขายการถือครองฯ ภายในเดือนพฤศจิกายน

ล่าสุด สหรัฐอเมริกาไม่มีแผนที่จะเพิ่มบริษัททั้งสามในรายชื่อบัญชีดำอีกต่อไป โดยอาลีบาบา และไป่ตู้ เป็นบริษัทจดทะเบียนในนิวยอร์ก ส่วนเทนเซ็นต์จดทะเบียนในฮ่องกง

การตัดสินใจดังกล่าวเกิดจากการถกเถียงระหว่างเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ กับเพนตากอน ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งในท้ายที่สุด สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้รับชัยชนะ ทันทีที่มีข่าวการหลุดจากบัญชีดำดังกล่าวทำให้หุ้นของอาลีบาบาในตลาดสหรัฐฯ พุ่งขึ้นถึง 4.3% ขณะที่หุ้น ADR ของเทนเซ็นต์ ขึ้น 2.9%

ทั้งนี้ การแบนอาลีบาบา และเทนเซ็นต์ ซึ่งมีทั้งมูลค่าและอิทธิพลมาก จัดเป็นการยกระดับความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่สุดในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเพิ่งพิจารณาที่จะรวมอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง และเทนเซ็นต์ โฮลดิ้งส์ของจีนเข้าในบัญชีดำ โดยอ้างว่าเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับกองทัพจีนซึ่งเข้าข่ายไม่สามารถทำการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ตึงเครียดมาตลอดสมัยการดำรงตำแหน่งของโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งกล่าวหาว่าเป็นตัวการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19, การลิดรอนสิทธิมนุษยชน, การใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในเขตปกครองฯ ฮ่องกง และการจารกรรม