ที่ประชุมสมัชชาพรรคแรงงานเกาหลีเหนือมีมติมอบตำแหน่งเลขาธิการใหญ่ (secretary general) ของพรรคให้แก่ผู้นำคิม จองอึน นับเป็นความเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการเชิดชู คิม เป็นผู้นำสูงสุดเทียบชั้นกับนายคิม จองอิล ผู้เป็นบิดา
นักวิเคราะห์เชื่อว่าการยกสถานะของ คิม ในครั้งนี้เป็นไปเพื่อการกระชับอำนาจ ในห้วงเวลาที่เศรษฐกิจโสมแดงกำลังย่ำแย่หนักจากมาตรการปิดพรมแดนเพื่อสกัดกั้นการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมสมัชชาพรรคแรงงานเกาหลีเหนือได้สถาปนาตำแหน่งประธานพรรค (chairman) ให้แก่ คิม จองอึน เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการรับรองตำแหน่งผู้นำสูงสุดให้แก่ คิม ที่ขณะนั้นเพิ่งจะอายุเพียง 30 ต้นๆ
สำนักข่าว KCNA รายงานวานนี้ (10 ม.ค.) ว่า ที่ประชุมสมัชชาพรรคแรงงานมีมติเป็นเอกฉันท์ให้สถาปนาผู้นำคิม ขึ้นสู่ตำแหน่งเลขาธิการใหญ่ “ผู้แทนทุกคนได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และต่างปรบมือเสียงดังกึกก้องด้วยความตื่นเต้น”
การปรับเปลี่ยนตำแหน่งครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ผู้นำคิม ได้สั่งการให้กองทัพโสมแดงยกระดับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และยอมรับว่าแผนเศรษฐกิจระยะ 5 ปีที่วางไว้ “ล้มเหลว” เกือบจะทุกภาคส่วน
เกาหลีเหนือซึ่งตกอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติยิ่งถูกโดดเดี่ยวมากขึ้นไปอีก หลังจากที่รัฐบาลประกาศปิดพรมแดนตั้งแต่เดือน ม.ค.ปีที่แล้วเพื่อสกัดโควิด-19 ไม่ให้แพร่กระจายข้ามมาจากจีนแผ่นดินใหญ่
อันห์ ชานอิล อดีตผู้ลี้ภัยโสมแดงซึ่งผันตัวมาเป็นนักวิจัยให้กับสถาบัน World Institute for North Korea Studies ในกรุงโซล ชี้ว่า “นี่เป็นการยอมรับแบบอ้อมๆ ว่า แผนเศรษฐกิจระยะ 5 ปีที่ คิม ประกาศไว้เมื่อปี 2016 รวมถึงระบบประธานพรรค มันยังไม่เวิร์ค”
“คิม ต้องการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้แก่ตัวเขาเอง และทำให้ยุคสมัยของเขาแตกต่างจากยุคของบิดา ด้วยการเพิ่มตำแหน่ง ‘ประธานพรรค’ ขึ้นมา แต่ดูเหมือนเขาจะเริ่มเล็งเห็นความจำเป็นที่จะต้องเชื่อมโยงตัวเองเข้ากับบิดามากขึ้น เพื่อรักษาฐานอำนาจในสถานการณ์อันยากลำบากเช่นนี้”
เกาหลีเหนือยกย่องอดีตผู้นำคิม จองอิล เป็น “เลขาธิการใหญ่ตลอดกาล” ของพรรคแรงงาน หลังจากที่เขาถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปี 2011 ในขณะที่ คิม อิลซุง ซึ่งเป็นปู่ของผู้นำโสมแดงคนปัจจุบันถูกยกให้เป็น “ประธานพรรคตลอดกาล”
อนึ่ง เป็นที่น่าสังเกตว่า คิม โยจอง น้องสาวของผู้นำคิม ไม่มีชื่ออยู่ในรายนามสมาชิกกรมการเมืองแห่งคณะกรรมาธิการกลางพรรคแรงงานชุดใหม่ หลังจากที่เคยเป็น “สมาชิกสำรอง” มาก่อน บ่งบอกว่า “เจ้าหญิงแห่งเปียงยาง” ผู้นี้อาจจะกำลังถูกลดบทบาทลง
ที่มา : เอเอฟพี
