“สนธิ”ชี้ครบรอบ 10 ปี “อาหรับสปริง” ถือว่าล้มเหลว เพราะสถาบันทางการเมืองยังเหมือนเดิม ผู้ประท้วงมองโลกสวย ไม่อยู่บนฐานความจริง ไม่ต่างจากม็อบสามนิ้วในไทย เช่นเดียวกับคณะก้าวหน้าของ“ธนาธร”ที่ส่งผู้สมัครลงชิงนายก อบจ.ทั่วประเทศแต่ไม่ได้รับเลือกแม้แต่คนเดียว เพราะประชาชนไม่เอาด้วยกับแนวทางล้มล้างสถาบันกษัตริย์ โต้โฆษกสำนักข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน ยูเอ็นยืนยัน ม.112 จำเป็นต้องมี ตามหลักสากลที่ต้องมีกฎหมายคุ้มครองประมุขของประเทศ2 ปีที่ผ่านมาไม่มีการใช้ ม.112 เพราะในหลวงทรงมีพระเมตตา ทำให้พวกที่ต้องการล้มเจ้าเหิมเกริม แสดงออกอยากชัดเจน ทั้งในช่วงการประท้วงและทางโลกออนไลน์ จนรัฐบาลต้องดำเนินคดี แกนนำม็อบ 3 นิ้วจึงโดนไปคนละหลายคดี และเมื่อมีเด็กอายุ 16 ปีโดนด้วย ก็ถูกเชิดขึ้นมาเป็นตัวตุ๊กตาที่จะเล่นงาน ม.112และเชื่อว่าคนที่โดนรอบนี้ไม่รอดแน่ เพราะแสดงความอาฆาตมาดร้ายออกมาตรงๆ ชัดเจน แต่ถ้าไม่มีเจตนาศาลก็จะให้ความเป็นธรรม ระบุกรณีเชื้อโควิด-19 ระบาดรอบใหม่จากตลาดกุ้งสมุทรสาคร เกิดจากการละเลยของ “บิ๊กตู่”ด้วย เพราะเมื่อเกิดการระบาดครั้งใหญ่ในพม่าขณะที่ประเทศไทยก็กำลังขาดแคลนแรงงาน จะต้องมีแรงงานพม่าทะลักเข้ามาแน่นอน ทำไมไม่เตรียมรับมือ ไม่จัดการกับขบวนการส่วยแรงงานเถื่อน กลับตำหนิผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ทั้งที่ตอนมีคนลักลอบนำเชื้อจากเมืองท่าขี้เหล็กเข้ามาระบาดทางแม่สาย ไม่ตำหนิผู้ว่าฯ เชียงรายเลย การพูดว่ามีคนชั่วอยู่ แค่หาคนชั่วให้เจอ ถือว่าไม่โอเค เพราะความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว และคนที่นายกฯ ให้ไปหาคนชั่ว อาจเป็นคนชั่วเสียเอง นายกฯ ต้องทำงานจริงจัง อย่าลูบหน้าปะจมูก
วันที่ 25 ธ.ค.63 เวลา 09.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิ และช่องยูทูป Sondhitalk พูดถึงประเด็นหลักที่ต้องพูดคือ เรื่องสถานการณ์การเเพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ตอนนี้น่าเป็นห่วงมาก มาคุยกันว่ามาตรการที่มีอยู่เพียงพอกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นหรือไม่ เเล้วคนชั่วที่นายกตามหาจะหาเจอมั้ย? กลัวว่าจะเงียบหายอย่างเรื่องที่เคยเกิด
และมาดูกันมาว่า ทำไมต้องมี ม.112 เเล้วอะไรถึงมีคนอยากให้ยกเลิกหรือเพราะหวังล้มล้างจึงกลัว มาตรานี้ ร่วมถึงเรื่องสุดท้ายการเลือกตั้ง อบจ. ของคณะก้าวหน้า ติดตามได้ใน SONDHI TALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep65 เรื่องโควิดต้องหาคนชั่วให้เจอเอามาลงโทษ โอเคมั้ย? สนธิไม่โอเคร!! - ทำไมต้องมี ม.112
คำต่อคำ SONDHI TALK [25 ธ.ค. 63] : เรื่องโควิดต้องหาคนชั่วให้เจอ เอามาลงโทษ โอเคมั้ย สนธิไม่โอเคร!!
สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2563 วันนี้เป็นวันคริสต์มาส ก็เห็นใจ และขอให้มีความสุขกับการอยู่กับครอบครัวสำหรับคนที่นับถือศาสนาคริสต์ และฉลองคริสต์มาสกันเป็นประจำ แล้วก็แสดงความเสียใจด้วยที่อาจจะไม่ได้เจอญาติพี่น้อง รวมญาติกัน เหมือนอย่างกรณีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ที่ทั้งตรุษจีน ทุกคนก็ทานข้าวด้วยกัน ญาติพี่น้อง สงกรานต์ ปีใหม่ ก็มารวมตัวกัน คริสต์มาสก็มารวมตัวกัน คริสต์มาสปีนี้ก็คงจะเป็นต่างคนต่างอยู่ ท่านผู้ชมครับ ถึงอย่างไรก็ตาม คริสต์มาสปีนี้ก็จะไม่เหงาและเปล่าเปลี่ยวเหมือนคริสต์มาสในทางยุโรป หรืออเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางอังกฤษ ถึงกับสั่งห้ามฉลองคริสต์มาส รวมตัวกันเลย คือไม่ให้ไปไหน ถ้าจะฉลองคริสต์มาส อยู่กับใครก็อยู่กับคนนั้นไปเลย แล้วเขาจะปิดเมืองหรือปิดประเทศอังกฤษไปจนถึง 30 ธันวาคม ก็อีกประมาณ 4-5 วัน
ใกล้ปีใหม่แล้วท่านผู้ชม วันศุกร์ที่ 1 มกราคม ก็เป็นอีกรายการหนึ่งในวันปีใหม่ของรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ซึ่งวันศุกร์ที่ 1 มกราคม นั้น จะเป็นรายการพิเศษให้ ก็จะเป็นการพูดคุยกัน เหมือนกับเป็นการคุยกันในครอบครัว หรือคุยกันในฐานะเพื่อนฝูง คุยจากผมไปถึงท่านผู้ชม พูดทุกๆ เรื่อง พูดถึงปรัชญาชีวิต พูดถึง 1 ปีที่ผ่านมา พูดถึงเรื่องผมมองปัญหานี้อย่างไรบ้าง พูดถึงปัญหาสังคม พูดถึงปัญหาการเลี้ยงลูก พูดแม้กระทั่ง ถ้าพูดถึงตำรวจแล้ว ผมชอบใครมากที่สุด และผมคิดว่าตำรวจยุคนี้เป็นอย่างไรบ้าง พูดถึงเรื่องการใช้ชีวิต การอ่านหนังสือ การฟังเพลง เศรษฐกิจ สังคม ต่างประเทศ ผมได้เปิดโอกาสให้ท่านผู้ชมที่ต้องการจะถามคำถามอะไร ให้ส่งเข้ามาที่เพจ แล้วก็จะตอบคำถามจากท่านผู้ชมให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แต่อาจจะไม่ได้ตอบทุกๆ ท่านนะครับ แต่ว่าจะรวมคำถามที่อยู่ในหัวข้อเดียวกัน อย่างเช่น ถามเรื่องครอบครัว ถามเรื่องลูก ถามเรื่องอะไร ผมจะรวมตอบเป็นปรัชญาในการใช้ชีวิตของครอบครัวว่าเป็นอย่างไรบ้าง
นอกจากเรื่องโควิด-19 แล้ว เมื่อเช้านี้ ผมเป็นคนที่ตื่นเช้ามาก ตอนตีสี่ผมก็ตื่นขึ้นมา แล้วสิ่งแรกที่ผมเห็นก็คือ เครื่องกรองอากาศที่ผมวางเอาไว้ในห้องนอนยังทำงานอยู่นิ่ง สงบ ไฟขึ้นสีเขียว แสดงว่าไม่มีฝุ่นละอองในห้องนั้น ท่านผู้ชมหลายท่านคอมเมนต์มาบอกว่า ผมค่อนข้างจะเคอะเขินเวลาผม tie in โฆษณาเข้าไป ท่านผู้ชมครับ ไม่ได้เคอะเขินอะไรหรอกครับ เป็นเพียงแต่ว่าผมไม่รู้จะพูดอย่างไร เอาเป็นว่า เครื่องกรองอากาศนี้ผมเต็มใจและยินดีที่จะพูดถึง เพราะมันดีมาก ผมใช้มาสิบปีแล้ว สิบปี เครื่องกรองอากาศสมัยนั้น ที่ผมซื้อมาเกือบ 3 หมื่นบาท สิบปี ก็เฉลี่ยปีละ 3 พันบาท เอง ไม่เคยเสีย ท่านผู้ชมเชื่อไหม ไม่เคยเสียเลย และอีกอย่างที่น่าทึ่งมาก ไม่ต้องเปลี่ยนไส้กรองอากาศ ไม่มี ไม่ต้องเปลี่ยน แล้วเทคโนโลยียังเพอร์เฟกต์อยู่ แค่มีสี/กลิ่นอะไรผิดนิดหนึ่ง บางครั้งผมเอาแมวเข้ามาเลี้ยงในห้องนอน แค่กลิ่นแมวเข้ามา หรือกลิ่นอะไรก็ตามเข้ามา ไฟสีเขียวจะเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที แล้วพอดูดกลิ่นพวกนั้นออกก็จะกลับมาเป็นสีเหลืองแล้วก็สีเขียวเช่นเดิม ทนมากครับท่านผู้ชม ผมถามเข้าไปแล้วว่าตอนนี้เครื่องกรองอากาศ เขาบอกว่าคราวที่แล้วก็มีท่านผู้ชมสั่งจองมาเยอะพอสมควร ช่วงนี้เหลือเพียงแค่ 150 เครื่อง ท่านผู้ชมเร่งนิดหนึ่งนะครับ ผมเข้าใจว่าหมดล็อตนี้แล้วคงจะหาสั่งเข้ามาอีกคงยากแล้ว แล้วก็เป็นการลงทุนครั้งเดียว ยาวไปตลอด ใช้ไปได้อีก 10 ปี แน่นอนที่สุด
ตอนนี้ฝุ่น PM 2.5 ก็ไม่ได้น้อยลงนะครับ เพียงแต่หายเป็นบางวัน เผลอๆ บางวันมาโดยที่เราไม่รู้ตัว
ไส้กรองอากาศ ผมยืนยันอย่างหนึ่งนะครับ ไม่ต้องเปลี่ยน ตลอดอายุการใช้งานเลย ไม่ต้องเปลี่ยนไส้กรองอากาศ เฉพาะแค่ไส้กรองอากาศนี่ก็ประหยัดเงินไปเท่าไร ท่านผู้ชมลองโทรไปสอบถามรายละเอียดที่ 02-633-5353 แล้วส่งฟรีถึงหน้าบ้านเลยนะครับ ราคา 19,900 บาท ผ่อนได้ถึง 10 เดือน ดอกเบี้ย 0% เหลืออีกไม่มาก ไม่เกิน 150 เครื่อง นะครับ
อาทิตย์นี้ จะมีเรื่องหลายเรื่องที่ผมจะต้องพูดให้ท่านผู้ชมฟัง แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องที่สนุกสนาน เข้มข้น เมื่อสิบปีที่แล้ว มันมีการประท้วงกันที่ตะวันออกกลางขึ้นมา เขาเรียกว่า "อาหรับสปริง" (Arab Spring) อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ที่ครบสิบปีของการประท้วง การเปลี่ยนแปลง เรียกร้องให้มีการพัฒนาทางการเมืองให้ดีขึ้น เปลี่ยนผู้นำ จากผู้นำที่เป็นเผด็จการ ผู้นำที่โหลยโท่ย ใช้ไม่ได้ ปรากฏว่าสิบปีที่ผ่านมา มาถึงวันนี้ ผลก็คือว่า ล้มเหลวหมดเลย เหลือแต่วิหารประชาธิปไตยที่ว่างเปล่า แล้วผมจะเล่าให้ฟังว่าทำไมถึงล้มเหลว
เรื่องที่สอง ผมจะไม่พูดก็ไม่ได้ คือเรื่องการเลือกตั้ง อบจ. องค์การบริหารส่วนจังหวัด นายก และสมาชิก ของพรรคก้าวไกล จำเป็นต้องพูด เพราะว่ามันมีนัย มีความหมายหลายๆ อย่าง มีคำพูดในโซเชียลมีเดียเขาบอกว่า "ชนะทุกโพล ยืนหนึ่งทุกเพจ กินขาดทุกสังคมออนไลน์ แต่แพ้กระจายในโลกของความเป็นจริง" เป็นอย่างไร มาฟังความเห็นของผม
เรื่องที่สาม ก็คือว่า ทำไมเราต้องมีมาตรา 112 เหตุผลเพราะว่า มีโฆษกของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชน ออกมาเตือนประเทศไทย ผมก็เลยต้องเอาข้อเท็จจริงมาให้ฟัง ซึ่งคนไม่ค่อยจะรับทราบข้อเท็จจริงเรื่องพวกนี้ ว่า ม.112 แท้ที่จริงแล้วเป็นอย่างไร เพราะ ม.112 มันผูกกับมาตรา 133
133 คือมาตราที่ปกป้องผู้นำประเทศ กษัตริย์ต่างๆ ที่มาเยือนประเทศไทย เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าเรามีมาตรา 133 ป้องกันเกียรติยศเขา ป้องกันไม่ให้เขาโดนทำร้ายด้วยคำพูด ป้องกันไม่ให้เขาโดนดูถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม เมื่อเราดูแลคนต่างประเทศที่มาประเทศไทย ทำไมเราจะไม่ดูแลกษัตริย์ของเราเองบ้าง มันเป็นกระบวนทัศน์เดียวกันครับท่านผู้ชม
แล้วเรื่องสุดท้ายก็คือ โควิด-19 ที่เพิ่งระบาดขึ้นมาอีกครั้ง เราพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผมเข้าใจ เล่าไปก็เป็นตัวเลข สุพรรณฯ มีเท่านั้น ภูเก็ตมีเท่านี้ กระบี่มีเท่านี้ กำแพงเพชรก็มาแล้ว อุตรดิตถ์ก็มาแล้ว สมุทรปราการ ปากน้ำ ก็มาแล้ว โน่นนี่นั่น ผมไม่ต้องการสืบสาวเอาเรื่องว่าใครผิด ใครถูก แต่ผมจำเป็นต้องหาผู้รับผิดชอบ คำถามคือ เราป้องกันได้ไหม ? เราป้องกันได้ แล้วเราทำหรือเปล่า ? เราไม่ได้ทำ
เมื่อประมาณ 10 ปี กับ 8 วันที่ผ่านมา ประมาณวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553 มีเหตุการณ์ๆ หนึ่งเกิดขึ้นในโลกตะวันออกกลาง ซึ่งหลายๆ ท่านผู้ชมที่ติดตามข่าวต่างประเทศ หรือได้ยินข่าวบ้าง ก็คงพอจะจำได้ ถ้าจำไม่ได้ผมจะทบทวนความจำให้ เรื่องนั้นมีชื่อว่า อาหรับสปริง (Arab Spring)
อาหรับสปริง คือการลุกฮือของประชาชนในโลกตะวันออกกลาง ไม่ว่าจะเป็นตูนิเซีย ไม่ว่าจะเป็นซีเรีย ไม่ว่าจะเป็นหลายๆ ประเทศ อียิปต์ขึ้นมา ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างขึ้นมาในโลกตะวันออกกลาง และเป็นครั้งแรกที่ประชาชนชาวตะวันออกกลาง ที่ปกติแล้วจะว่านอนสอนง่าย อยู่ภายใต้การปกครองของเผด็จการ หรือภายใต้การปกครองของบรรดาชีคทั้งหลาย หรืออีกนัยหนึ่ง ผู้ปกครองแคว้นในประเทศทางอาหรับ บางแห่งก็เป็นกษัตริย์ บางแห่งจะเป็นชีค
เหตุผลที่เกิดขึ้น มันเป็นการลุกฮือกันทั่วไปหมดเลย เขาถึงเรียกกันว่า อาหรับสปริง หรือภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Jasmine Revolution คือการปฏิวัติดอกมะลิ
มันจะมีการประท้วงกัน เปลี่ยนแปลงอำนาจกัน แล้วก็ล้มล้างรัฐบาลกันหลายๆ แห่ง มีตั้งแต่ตูนิเซีย เริ่มแรกก่อน ต่อไปอียิปต์ ลิเบีย เยเมน แล้วก็การลุกฮือของประชาชนในบาห์เรน ซีเรีย นอกจากนั้น ยังเกิดการประท้วงใหญ่ อย่างเช่น ประเทศแอลจีเรีย อิรัก อิหร่าน จอร์แดน คูเวต โมร็อกโก และซูดาน และการประท้วงขนาดเล็กที่เกิดขึ้นในเลบานอน มอริเตเนีย โอมาน ซาอุดีอาระเบีย จิบูตี และซาฮาราทางตะวันตก
สิ่งที่เกิดขึ้นในสิบปีที่ผ่านมา หลายประเทศที่เกิดอาหรับสปริง เกิดการประท้วงเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง พอสิบปีให้หลังมาถึงวันนี้ เรามามองย้อนหลังกันนิดหนึ่ง ปรากฏว่าประสบความล้มเหลวหมดเลย ในการพัฒนาประชาธิปไตย มิหนำซ้ำยังถดถอยเสียด้วยซ้ำ ยกตัวอย่าง เช่น ลิเบีย เยเมน ซีเรีย กำลังเผชิญภาวะสงครามกลางเมือง ผู้คนต้องบ้านแตกสาแหรกขาด สถานการณ์ในอียิปต์ กลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของเผด็จการทหารอีกครั้งหนึ่ง นำโดย พลเอกอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซีซี ซึ่งเป็นอดีตผู้บัญชาการทหาร และเป็นรัฐมนตรีกลาโหมของอียิปต์ ลักษณะของอียิปต์ คล้ายๆ ลักษณะ คสช.ในประเทศไทย เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟัง
อาหรับสปริง อย่างที่ได้เรียนให้ทราบว่ามันคือการปฏิวัติมะลิ (Jasmine Revolution) คือการล่มสลายของผู้นำเผด็จการในกลุ่มประเทศอาหรับ และการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองครั้งใหญ่ของประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง เมื่อสิบปีที่แล้ว พอดิบพอดีเลย สิบปี
เหตุของการเกิดเป็นเรื่องเล็กๆ เรื่องเดียวซึ่งไม่เคยมีใครคิดว่ามันจะกระจายไปได้ถึงทั่วตะวันออกกลางได้ วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ.2553 ที่ประเทศตูนิเซีย มีพ่อค้าขายผักผลไม้ ขายของเร่ ขี่มอเตอร์ไซค์ขายผักผลไม้ ชื่อ มุฮัมมัด อัลบูอะซีซี อายุ 26 ปี ปรากฏว่าถูกตำรวจหญิงห้ามปรามเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ไล่ตี ด่าทอ ยึดรถเข็นไป มุฮัมมัด เป็นคนจน หาเช้ากินค่ำ เมื่อถูกเจ้าหน้าที่รัฐรังแกจึงไปร้องทุกข์กับผู้พิพากษา แต่ไม่ได้รับการเหลียวแล เขาคับแค้นใจมาก เขาเลยเผาตัวเองตายกลางถนน คนก็เลยถ่ายคลิปวิดีโอ แชร์ผ่านโซเชียลมีเดียไปทั่วภูมิภาคอาหรับ ผู้นำตูนิเซียในขณะนั้นคือ ไซนุลอาบีดีน บินอาลี หรือชื่อสั้นๆ ว่า บินอาลี ไม่ได้คิดถึงพลังโซเชียลมีเดีย เมื่อมุฮัมมัด เสียชีวิตลงในวันที่ 4 มกราคม 2554 ชาวตูนิเซียจำนวนมาก นัดหมายผ่านโซเชียลมีเดียออกมาชุมนุมประท้วงใหญ่ จนส่งผลให้ผู้นำตูนิเซีย บินอาลี ต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ และตอนหลังก็ไปตายที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อปีที่แล้วนี่เอง ท่านผู้ชม ปี 2562
ท่านผู้ชมครับ นี่คือปรากฏการณ์ "อาหรับสปริง" ที่เป็นเหมือนกับปฏิกิริยาลูกโซ่ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน จนก่อให้เกิดกระแสอาหรับสปริงลุกฮือลามไปทั่วประเทศอาหรับ ซึ่งมีเชื้อไฟใกล้เคียงกัน ก็คือ สรุปปกครองโดยผู้นำเผด็จการ ครองอำนาจมายาวนาน ประชาชนอยู่ในสภาพที่ถูกกดขี่ ไม่มีสิทธิเสรีภาพ ไม่ได้รับสิทธิอันชอบธรรมที่พึงมีพึงได้ ในฐานะพลเมือง ทั้งสิทธิและการเข้าถึงทรัพยากรของประเทศ สิทธิในการปกครอง ทำให้ประชาชนต่างๆ ในประเทศอาหรับดังกล่าวลุกฮือขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อโค่นล้มระบอบนี้
ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ ประเทศอียิปต์ สมัยนั้นผู้นำประเทศอียิปต์ คือ ฮอสนี มูบารัก และผู้นำเยเมน ก็คือ อับดุลลาห์ ซาเลห์ มีชะตากรรมเหมือนบินอาลี ผู้นำตูนิเซีย ส่วนผู้นำลิเบียที่ชื่อ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ท่านผู้ชมคงจำได้ มีชะตาชีวิตที่อนาถกว่า เพราะถูกกลุ่มกบฏซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประเทศทางตะวันตกสังหาร เพราะว่ามีวัตถุประสงค์จะเข้าไปยึดบ่อน้ำมันในลิเบีย โชคดีอย่างหนึ่งที่ตูนิเซียไม่มีบ่อน้ำมัน
สิบปีผ่านไป ทำไมอาหรับสปริงถึงล้มเหลว ? อาหรับสปริง ที่ล้มเหลว ไม่ประสบความสำเร็จในระยะยาวในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศลิเบีย เยเมน ซีเรีย ทำให้เกิดสงครามกลางเมือง และในอียิปต์กลับมาอยู่ภายใต้การปกครองระบอบเผด็จการ ทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นจากขบวนการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ ประท้วงให้กษัตริย์ ผู้นำเผด็จการ แบ่งผลประโยชน์จากทรัพยากรของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรน้ำมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนในบางประเทศเรียกร้องให้รัฐบาล ผุ้นำศาสนา ผ่อนปรนกฎและบทบัญญัติทางศาสนาอันเข้มงวด
สิ่งที่ทำให้การล้มเหลวของอาหรับสปริงล้มเหลวอย่างมาก ก็คือสถาบันทางการเมือง เพราะว่าคนที่ลุกขึ้นมาประท้วงในอาหรับสปริงนั้นมองทุกสิ่งทุกอย่างไปในรูปแบบโลกสวย ก็คือว่า ถ้าล้มเผด็จการคนนี้ไปได้แล้ว เอาคนใหม่ขึ้นมา น่าจะดีขึ้น แต่ไม่ใช่ โครงสร้างทางการเมืองไม่มีความเข้มแข็งมากพอ เรื่องการยึดอำนาจ หรือไล่คนเก่าออก ไม่ใช่เรื่องของการสร้างหนัง จะต้องมีพระเอก หรือมีผู้ร้าย อุปมาอุปไมย เดี๋ยวผมจะเล่าเรื่องม็อบสามนิ้วให้ฟังว่าบางส่วนคล้ายๆ อาหรับสปริง แต่ว่าโชคดีอย่างหนึ่งที่ประเทศไทยยังมีความบันยะบันยังอยู่หลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เรามีสถาบันกษัตริย์ ทำให้ความรุนแรงถึงขั้นจะต้องฆ่ากันตายเหมือนอย่างในประเทศอาหรับนั้น ไม่มี
ยกตัวอย่างในเรื่องของอียิปต์ ในอียิปต์ ปี 2554 มีการโค่นล้มฮอสนี มูบารัก ซึ่งในขณะนั้นเขาบอกว่าคนที่โค่นล้ม เป็นประชาชนผู้กล้าหาญ แต่ยังอ่อนต่อโลก คือโลกสวย พยายามโค่นล้มเผด็จการชั่วร้าย แต่พวกเขาล้มเหลวในการจัดตั้งทางการเมือง และมีความเพ้อฝันถึงการเปลี่ยนแปลง แทนที่จะทำงานการเมืองบนหลักความเป็นจริง ท่านผู้ชม ผมเคยพูดมาตลอดเวลา และผมก็จะพูดต่อไป และท่านผู้ชมอย่าลืมคำพูดของผมคำนี้ "อย่าเอาความเชื่อมาอยู่เหนือความเป็นจริง" ทุกวันนี้ปัญหาของโลกที่เกิดขึ้น ปัญหาพวกเราที่เกิดขึ้น เพราะเราเอาความเชื่ออยู่เหนือความเป็นจริง
ซึ่งถ้าเราดูให้ดีๆ แล้ว เหตุการณ์ไม่ต่างจากม็อบนักศึกษา เยาวชนปลดแอก ม็อบราษฎร 2563 ที่ปฏิเสธการปกครองในปัจจุบัน ด่าว่าเป็นไดโนเสาร์บ้าง เลวทรามต่ำช้าบ้าง ส่วนตัวเองอวยตัวเองว่ามาจากโลกอนาคต แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อเวลาผ่านไป เหล่าแกนนำก็เผยธาตุแท้ออกมาว่าไร้สมอง เป็นเด็กไร้เดียงสา ไม่มีแนวคิด ไม่มีอุดมการณ์ที่แน่ชัด ไม่ต้องพูดถึงแนวทางการต่อสู้ที่สะเปะสะปะ บางทีก็ยกเรื่องสาธารณรัฐขึ้นมาพูด ยกเรื่องเผด็จการฟาสซิสต์ ยกเรื่อง จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นวีรบุรุษ แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นมหาโจร ล่าสุด ยกเรื่องการต่อสู้ทางชนชั้น การลุกขึ้นต่อสู้ของแรงงานและระบอบคอมมิวนิสต์ นี่ยังไม่ได้พูดถึง ถ้าปฏิวัติล้มระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สำเร็จ แล้วจะบริหารและปกครองประเทศต่อไปอย่างไร เห็นภาพหรือยังครับ
เอาล่ะ กลับมาที่อียิปต์นิด หลังจากที่คนอียิปต์โค่นล้มมูมารัก ได้ กลุ่มนักเสรีนิยมในประเทศไม่ได้รับการสนับสนุนมากพอ พวกเสรีนิยม คือพวกไหน ? ก็คือพวกที่ออกมาเย้วๆ ว่า ต้องให้สิทธิเด็ก ต้องอย่าไปปฏิเสธเด็ก คือพูดง่ายๆ ว่าทำอะไรก็ทำได้ คือความคิดที่เป็นเสรีนิยม อย่างที่ผมเล่าให้ฟัง คนประเภทนี้มีใครบ้างล่ะ ก็อย่างเช่น ส.ศิวรักษ์ อานันท์ ปันยารชุน คนพวกนี้ และอีกหลายๆ คนที่มองโลกสวย และมองในหลักเสรีนิยม ช่วงนั้นพอโค่นล้มเผด็จการมูบารัก ในอียิปต์ได้ เผอิญประชาชนไม่ได้ให้การสนับสนุนกลุ่มเสรีนิยมพวกนี้ คือพวกโลกสวยมาก ก็เลยมีการเลือกตั้งขึ้นมาใหม่ ก็ปรากฏว่ามีพรรคการเมืองที่เน้นศาสนา อย่างกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ที่เขาเรียกว่า Muslim Brotherhood ก็สามารถชนะการเลือกตั้งเข้ามา แล้วจนกระทั่งเกิดความขัดแย้งระหว่างกลุ่มภราดรภาพมุสลิม กับกลุ่มเสรีนิยม ก็เลยเป็นความเพ้อฝันของนักเสรีนิยม เผด็จการทหารตอนนั้นก็เลยตั้งตัวเข้ามาบนความเพ้อฝันของนักเสรีนิยม และความไร้ประสิทธิภาพของพรรคสายภราดรภาพมุสลิม ซึ่งบริหารงานไม่เป็น จนกระทั่งอียิปต์ก็เลยอยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการทหาร จนถึงปัจจุบันวันนี้
เพราะฉะนั้นแล้ว หลายๆ เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ว่าผู้ประท้วงจะฉลาดหรือโลกสวยเกินไปก็ตาม ผู้ประท้วงไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้เกิดความล้มเหลวในอียิปต์ ยังมีปัจจัยอื่นอีกหลายๆ อย่าง แต่ความล้มเหลวนี้ทำให้พวกเรารู้ว่า เรื่องการเมือง ไม่ใช่เรื่องการสร้างวีรบุรุษ หรือการสร้างผู้ร้าย แต่ต้องตระหนักถึงอันตรายของเผด็จการอยู่ว่ามันเปราะบาง และสถานการณ์ทางการเมืองของรัฐที่อ่อนแอมากๆ เพราะฉะนั้นแล้ว การเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่แค่คุณจะโค่นล้มใคร ไม่ใช่แค่คุณจะล้ม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้วคุณธนาธร จะขึ้นมาแทนที่ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นมา ไม่ใช่ เพราะว่า ทำอย่างไร เราต้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเครือข่ายที่อยู่อย่างกว้างขวาง ภายใต้สถาบันที่ตัวบุคคลนั้นดำรงอยู่ หมายความว่า เครือข่ายและระบบ และโครงสร้างต่างๆ และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถ้าเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงลักษณะของสถาบันทางการเมือง ที่มักจะถูกออกแบบโดยเผด็จการ การปฏิวัติ การเปลี่ยนแปลงทุกครั้งจะล้มเหลว ไม่ว่าคุณจะโค่นผู้นำเผด็จการไปกี่ครั้งก็ตาม
สรุปแล้ว ท่านผู้ชมครับ 10 ปี กับ 8 วันที่ผ่านมา ที่เกิดอาหรับสปริง เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553 คือบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เราเห็นว่าประชาธิปไตยไม่ใช่เพียงแค่มีการเลือกตั้งเท่านั้น ยังต้องมีกระบวนการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจของผู้นำ ซึ่งหากมีการบริหารผิดพลาด หรือมีการใช้อำนาจในทางมิชอบ หรือเอื้อประโยชน์แก่ตัวเองและพวกพ้อง ก็ย่อมหมดความชอบธรรมที่จะอยู่ในอำนาจ และเมื่อใดที่ประชาชนไม่สามารถถอดถอนอำนาจของผู้นำด้วยกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตยได้ วิธีการที่ไม่เป็นประชาธิปไตย คือวิธีการรัฐประหาร ก็จะถูกนำมาใช้ ซึ่งจะเป็นการทำลายระบบและทุกอย่างลงไป เหลือเพียงความว่างเปล่าที่ได้แค่นั่งสวดมนต์ภาวนาว่าประชาธิปไตยดีที่สุด
ท่านผู้ชมครับ ถ้าวันนี้เราไม่พูดถึงเรื่องการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า นายก อบจ. ในวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมานี้ ก็จะไม่ทันต่อเหตุการณ์ ดูเสมือนว่าจะเชย
ผมคิดว่าผมอยากจะพูดเรื่องนี้ แต่ท่านผู้ชมก็คงจะเดาออก พระเอกของเรื่องนี้ ก็คงจะเป็นคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผลหรือรายละเอียดว่าได้กี่ที่ ไม่ได้กี่ที่ ใครมาที่หนึ่ง ใครมาที่สอง ใครมาที่สามนั้น ผมไม่สนใจ ผมจะเกาะกุมเฉพาะประเด็นของคณะก้าวไกล ของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งหลายๆ อย่างในโลกออนไลน์เขาสรุปออกมา ผมคิดว่าอยากจะเล่าให้ท่านผู้ชมฟังว่าเป็นคำพูดที่ค่อนข้างที่จะประชดประชันกันแรงๆ แต่ว่าแฝงด้วยความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
สังคมออนไลน์เขาเรียกคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่า "ชนะทุกโพล ยืนหนึ่งทุกเพจ กินขาดทุกสังคมออนไลน์ แต่แพ้กระจายในโลกแห่งความเป็นจริง" ท่านผู้ชมจำได้ไหมครับ
ผมเคยพูดว่าอย่างไร ? ผมบอกว่า ท่านผู้ชมอย่าเอาความเชื่อมาอยู่เหนือความเป็นจริง เหมือนกับเราเชื่อว่าเราจะไปได้ดีแน่นอนที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้ว สภาพเราบอบช้ำมาก แล้วไปไม่ได้จริงๆ เมื่อไปไม่ได้จริงๆ แล้ว เราก็ยังฝืนเอาความเชื่อ ... จริงๆ แล้วการมีความเชื่อ ไม่เสียหายอะไร แต่ต้องมีความเชื่ออย่างน้อยต้องมีพื้นฐานความเป็นจริงผสมอยู่บ้าง ถึงจะสร้างความเชื่อได้ พื้นฐานความเป็นจริงอาจจะต้องมีสัก 30-50 เปอร์เซ็นต์ แล้วเราค่อยเพ้อฝันอีก 50 เปอร์เซ็นต์ บนยอดต่อยอดออกไป แต่นี่ไม่ใช่ เรามาย้อนหลังไปดูนิดหนึ่ง
คุณปิยบุตร แสงกนกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง 6-7 วัน วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2563 ไปปราศรัยอย่างยะโสโอหังที่ตลาดพระปิ่น ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ท่านผู้ชมครับ ผมจะอ่านอะไรให้ฟังนิดหนึ่ง แล้วท่านผู้ชมจะรู้ว่าคนพวกนี้ไม่มีแก่นเลย มีแต่กระพี้ และเป็นคนที่เพ้อเจ้อ อยู่ในโลกแห่งความฝันมาตลอดเวลา แล้วก็เชื่อ ลุ่มหลง หลงใหล และคลั่งไคล้ในสังคมออนไลน์ คุณปิยบุตร พูดอย่างไร ? นี่คือคำพูดของคุณปิยบุตร
"นอกจาก 20 ธันวาฯ นี้ จะเป็นการเลือกนายก อบจ. และเลือก ส.จ.แล้ว เรายังได้มีโอกาสเปลี่ยนนายก อบจ. เปลี่ยน ส.จ.ใหม่แล้ว เรายังได้มีโอกาสเปลี่ยนการเมืองท้องถิ่นนนทบุรีให้เป็นแบบใหม่ แล้วมันยังส่งผลถึงการเมืองระดับชาติด้วยครับ ส่งผลไปไม่แน่นะครับ อาจจะสะเทือนถึงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้"
"พูดแบบไม่อ้อมค้อม พรรคอนาคตใหม่ชัดเจนว่าอยู่ตรงข้ามกับประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้าคะแนนชาวนนทบุรีกาให้เราเป็นแสนๆ ถล่มทลายๆ แบบนี้ นั่นก็คือการส่งสัญญาณไปถึงประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาล ว่าชาวนนทบุรีต้องการให้ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกไปได้แล้ว" (มีเสียงแฟนของคณะก้าวไกลเฮกันลั่นเลย ตบมือกันลั่น)
คุณปิยบุตร พูดต่อ "การหย่อนบัตรในวันที่ 20 ธันวาคม ในการเลือกนายก อบจ.ครั้งนี้ หากพี่น้องเลือกผู้สมัครของคณะก้าวหน้าทั่วประเทศให้ถล่มทลาย ... อย่างน้อยๆ มันเป็นแรงหนุน เสริมให้กับลูกหลานที่กำลังชุมนุมอยู่ทั่วประเทศในเวลานี้ครับ"
ก็คือพูดง่ายๆ ว่า จะเอาการเมืองทางท้องถิ่น ซึ่งตัวเองเชื่อว่าชนะอย่างถล่มทลายนั้น มาหนุนหลังการประท้วงของเด็กสามนิ้ว ก็แสดงว่าคนพวกนี้เป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ต้องโกหก ไม่ต้องปิดบังอะไรอีกต่อไป คุณปิยบุตร กล่าวปราศรัย และพยายามเชื่อมโยงการเลือกตั้ง อบจ. กับการชุมนุมของคณะราษฎร ม็อบปลดแอก แล้วยังกล่าวโยงไปถึงการยุบพรรคอนาคตใหม่ การตัดสิทธิ์ทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรค พูดถึงความนิยมของคุณธนาธร คุณปิยบุตร และคุณพรรณิการ์ รวมทั้งแนวทางการทำการเมืองของพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่าการลงคะแนนเสียง อบจ. จะเป็นการแสดงออกที่ง่ายที่สุด ท่านผู้ชมครับ ประชาชน จ.นนทบุรี แสดงออกแล้ว โดยการเลือกนายก อบจ.คนใหม่ ซึ่งเป็นอดีตนายก อบจ. 3 สมัย นี่แปลว่าอะไร ? นี่แปลว่าคำพูดของคุณปิยบุตร แสงกนกกุล นั้น เปรียบเสมือนการผายลมของสุนัข ซึ่งไม่มีความหมายอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว คือพูดง่ายๆ ว่าคนพวกนี้ยังไม่ยอมตื่นเสียที ยังนอนหลับอยู่ในห้วงแห่งความฝัน ฝันตลอดเวลาเลยว่าตัวเองดี ตัวเองดีที่สุด ไม่มีใครสู้อีกแล้ว ประเทศไทยอยู่ไม่ได้ถ้าปราศจากคนอย่างเช่นปิยบุตร แสงกนกกุล หรือขาดธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ไม่ได้
ท่านผู้ชม เขาถึงบอกว่า ถ้าอยากจะมีสาธารณรัฐ คุณธนาธร เหมาะจะเป็นประธานาธิบดีของสาธารณรัฐออนไลน์ ไปเป็นประธานาธิบดีบนออนไลน์ของคุณก็แล้วกัน เพ้อเจ้อกัน บางทีเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องที่หลงกันได้ง่ายๆ หลงกันจริงๆ นะ คนที่หมกมุ่นกับสังคมออนไลน์ โซเชียลมีเดีย จะหมกมุ่นมาก หมกมุ่นกับทวิตเตอร์ หมกมุ่นกับอินสตาแกรม หมกมุ่นกับแฮชแท็ก หมกมุ่นไปหมดเลย ท่านผู้ชมเคยเจอไหมประเภทที่คนออนไลน์เข้ามาเชียร์กันล้านคน แต่พอเอาเข้าจริงๆ ลงมือทำกันจริงๆ แล้ว มีไม่ถึงพันคน จาก 1 ล้านคน เป็น 1 พันคนนี่ 0.1 เปอร์เซ็นต์ เลยนะ ยังไม่ใช่ 1 เปอร์เซ็นต์ เสียด้วยซ้ำ
ท่านผู้ชมครับ ที่นนทบุรี ที่คุณปิยบุตร ตั้งความหวังไว้มาก คนที่ได้คือ พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ อดีตนายก อบจ.นนทบุรี 3 สมัย ชนะคณะก้าวหน้า คุณไพบูลย์ กิจวรวุฒิ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ถึง 4 หมื่นคะแนน ส่วน ส.อบจ.นนทบุรี ที่มีตำแหน่งอยู่ 36 ตำแหน่ง ตัวแทนคณะก้าวหน้าเข้ามาได้แค่ 2-3 คนเท่านั้นเอง ส่วนข่าวอื่นๆ ท่านผู้ชมก็คงจะอ่านข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์มาแล้ว ผมไม่จำเป็นต้องพูดต่อ แต่สิ่งที่ผมอยากจะพูดวันนี้ ผมอยากจะพูดฝากไปให้คิดนิดหนึ่ง ฝากทุกคน รวมทั้งคุณธนาธร คุณปิยบุตร และคุณพรรณิการ์ (ช่อ) วานิช ด้วย
ประการแรก ผมไม่พอใจรัฐธรรมนูญชุดปัจจุบันอย่างที่ผมมีจุดยืนของผมมานานแล้ว ผมไม่ได้คิดต่างอะไรจากคุณ เป็นเพียงแต่ว่าวิธีการแก้รัฐธรรมนูญ และเนื้อหาสาระของการแก้ ผมต่างกับคุณ ผมต้องการจะสร้างกติกาที่มันยุติธรรมกับทุกๆ คน โดยไม่สนใจว่าใคร แต่ของคุณดันทะลึ่งไปพ่วงการล้มล้างสถาบันกษัตริย์ ด้วยการแก้มาตรา 1 มาตรา 2 ซึ่งตรงนี้ทุกคนในประเทศไทย คนที่พร้อมที่จะหนุนคุณในการแก้รัฐธรรมนูญตั้งแต่ต้น มีทั่วประเทศ ไม่ใช่ว่าไม่มี แต่คุณทะลึ่งไปรับงานจากคนบางคน ไม่ว่าจะเป็นสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล หรือคนที่อยู่เบื้องหลังคุณ จะเป็นอาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ จะเป็นใครก็ตามที่ผมเคยเอ่ยชื่อไปแล้ว สอดแทรกการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ เป็นเงื่อนไขข้อที่ 3 แล้วคุณก็ยังยืนหยัดอยู่ จนกระทั่งทุกวันนี้คุณธนาธร ก็ยังไม่เข้าใจสังคมไทยอยู่ ยังไม่เข้าใจความจริง คุณก็พูดว่า ก็ยังจะสู้ต่อ และยังจะสู้บนพื้นฐาน 3 ข้อนั้นตลอดเวลา
เวลาคุณให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ พอคุณโดนจี้เข้าไปหนักๆ ตรงๆ ว่าคุณจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์ไหม ? ไม่ใช่ๆ ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ แต่ผมได้เรียนให้ท่านผู้ชมทราบแล้ว ผมเคยเอาเรื่องนี้มาพูดว่า 10 ข้อของการปฏิรูปนั้น แท้ที่จริงแล้ว นัยความหมายแต่ละข้อๆ คือการล้มล้างสถาบันกษัตริย์ที่แท้จริง
ท่านผู้ชมครับ วันนี้ม็อบสามนิ้ว หรือกลุ่มคุณธนาธร ไม่ได้เชิดชูคณะราษฎร 2475 อีกต่อไป เพราะว่าถูกผมเปิดโปงไปว่าคณะราษฎร 2475 แท้ที่จริงแล้วเป็นคณะโจร คุณเพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ ก็ไม่ได้เชิดชู จอมพล ป. พิบูลสงคราม ว่าเป็นวีรบุรุษของชาติ เพราะว่าผมเปิดโปงออกมาให้เห็นชัดเจนว่า จอมพล ป. ก็คือมหาโจรคนหนึ่งเท่านั้นเอง มิหนำซ้ำหนังสือที่ออกมาในแนวที่ฝ่ายของคุณปิยบุตร หรือฝ่ายของหลายๆ คนที่ต้องการจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์นั้น ยังมีการแอบอ้างขอบคุณข้อมูลที่ได้จากครอบครัวพิบูลงสคราม จอมพล ป. พิบูลสงคราม ซึ่งคุณได้ข้อมูลมาข้างเดียว
สรุปง่ายๆ ท่านผู้ชมครับ สังคมไทยมีอยู่สองส่วน ส่วนหนึ่งก็คือส่วนที่แต่งตำราขึ้นมา แล้วพยายามทำลายล้างความชอบธรรมของสถาบันกษัตริย์ โดยให้ข้อมูลที่เท็จ บางข้อมูลมีแหล่งอ้างอิง แต่เมื่อเข้าไปค้นจริงๆ แล้ว หาไม่เจอ แล้วคนที่เป็นต้นเหตุที่สุดก็คือสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน
และคนที่ให้เงินให้ทองสนับสนุนสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ก็คือคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ ท่านผู้ชม นี่มันคณิตศาสตร์เบื้องต้นง่ายๆ 2+2 เป็น 4 เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าคุณธนาธร โผล่หน้ามาเมื่อไร คุณปิยบุตร โผล่หน้ามาเมื่อไร สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน โผล่หน้ามาเมื่อไร หรือกลุ่มม็อบปลดแอก หรือราษฎร 2563 โผล่หน้ามาเมื่อไร ก็คือคนที่ชูธงที่จะล้มล้างสถาบันกษัตริย์ ซึ่งในความเห็นของผม และในความเห็นของประชาชนทั่วประเทศไทย ที่ได้มีประชามติให้คุณธนาธร และพรรคก้าวไกล เห็นว่ากูไม่เอามึง เพราะว่ามึงต้องการจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์ นั่นคือการไม่เลือกพรรคก้าวไกลเข้ามาเป็นนายก อบจ.เลยแม้แต่คนเดียว
ท่านผู้ชมครับ ก่อนที่จะมีการเลือกตรงนี้ เราก็เห็นภาพชัดแล้ว คุณธนาธร คุณช่อ คุณปิยบุตร ไปที่ไหนก็โดนไล่ โดนด่าว่าพวกหนักแผ่นดิน ท่านผู้ชมครับ นี่คือความจริงของสังคมไทย ความจริงว่าประชาชนกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ กว่า 95 เปอร์เซ็นต์ ยังต้องการสถาบันกษัตริย์ มีแต่พวกที่บ้าออนไลน์ สื่อโซเชียลมีเดีย บ้าทวิตเตอร์ แล้วไปหลอกลวงเด็กต่างๆ นานา ซึ่งเดี๋ยวผมจะพูดต่อในเรื่องของการหลอกเด็ก ว่าหลอกอย่างไร แต่สรุปง่ายๆ ว่าวันนี้ประชาชนเขาไม่ได้แค่เอาความพ่ายแพ้มาให้คุณธนาธร คุณธนาธร คุณอย่าไปเข้าใจผิด กรุณาอย่าไปออกข่าว แถลงข่าว หรือคุณชาญวิทย์ เกษตรศิริ ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ดีกว่าครั้งที่แล้ว ถึงแม้จะแพ้ เขาไม่เอาคุณเลยแม้แต่นิดเดียว จริงๆ เขาไม่เอาคุณ มันเป็นไปได้อย่างไร ถ้าคุณมีเหตุมีผล ถ้าคุณยอมรับในข้อเท็จจริง คุณจะเห็นได้ว่าการที่เขาไม่เอาคุณเลยแม้แต่ 1 ตำแหน่ง แสดงว่าคุณน่ะโหลยโท่ยจริงๆ โหลยโท่ยจนกระทั่งเขาไม่เก็บมาพิจารณา คุณเหมือนกับอุจจาระก้อนหนึ่งที่อยู่บนถนน ที่คนเห็นแล้วคนเดินหนี
ท่านผู้ชมครับ เห็นหรือยังที่ผมบอกว่าอย่าเอาความเชื่อมาเหนือความเป็นจริง และถ้าคุณยังมะงุมมะงาหรา ดื้อด้านเหมือนลาดื้อ ที่จะผลักดันในเรื่องของการล้มล้างสถาบันกษัตริย์ โดยมาในรูปแบบของคำพูดว่าปฏิรูปสถาบันกษัตริย์แล้ว คุณก็จะเจอเหตุการณ์แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีวันหยุด แล้วเมื่อไรล่ะ คุณถึงจะหลุดพ้นออกจากโซเชียลมีเดีย สังคมออนไลน์ของคุณเสียที ตื่นขึ้นมาแล้วกลับมาสู่โลกความเป็นจริง ว่าคุณก็คือมนุษย์คนหนึ่งที่ต้องตื่นขึ้นมา ต้องเข้าห้องน้ำ ต้องล้างหน้า ต้องถ่าย ต้องปัสสาวะ ต้องทานข้าว คุณคือมนุษย์ คนๆ หนึ่ง คุณไม่ใช่เทวดา คุณแพ้ครั้งนี้ คุณแพ้อย่างเดียวไม่พอ คุณยังโยนความพ่ายแพ้ของคุณที่แทนที่คุณจะยอมรับ คุณกลัวมากที่คุณจะบอกว่าผมผิดไปแล้วที่ผมไปชูในเรื่องของการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ต้องขอโทษประชาชน คุณกลับไปบอกว่าประชาชนคนไทย ... นี่ผมแปลคำพูดของคุณนะ ขอประทานโทษ คุณบอกว่าคนไทยยังโง่อยู่ ยังตามคุณไม่ทัน เพราะคุณฉลาด คุณฉลาดเรือหายเลยงานนี้ ผมยอมรับว่าผมโง่กว่าคุณ การที่ผมเอาสถาบันกษัตริย์นี่ผมโง่กว่าคุณ ให้ผมอยู่อย่างคนโง่ๆ อย่างนี้ดีกว่า เพราะว่าผมเองก็เดินหลีกหนีขี้หมากองนี้เช่นกัน ผมก็ไม่เอา
แต่ในที่สุด สิ่งที่คุณพูดมาตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นในนามของพรรคก้าวไกล และผมก็กล้าฟันธงว่าธงของพรรคก้าวไกล ก็คือการไม่เอาสถาบันกษัตริย์เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หลานคุณผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งเป็นคนที่สนิทสนม เป็นคนของทักษิณ ชินวัตร
แล้ววันหลังผมจะเอารูปมาให้ดูว่าพวกคุณเป็นแก๊งเดียวกันหมด ทั้งทักษิณ ทั้งชาญวิทย์ เกษตรศิริ ทั้งธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ทั้่งปิยบุตร แสงกนกกุล ทั้งปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ มีการไปสัมมนาที่มหาวิทยาลัยเกียวโต มีการพบปะ ทักษิณ เดินไป ทักษิณ ชอปปิ้งในห้างสรรพสินค้ากับปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ จริงๆ คุณก็คือคนครอกเดียวกัน แต่พอคุณโดนจี้เข้าหนักๆ คุณก็บอกว่าคุณไม่เคยคิดจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์ ผมต้องการจะปฏิรูป แต่ในข้อเท็จจริงคุณนั่นล่ะ และผมจะบอกให้คุณรู้ว่าผมเป็นคนแรกที่พูดบอกว่า คุณนี่ล่ะคือตัวการ ถ้าจะมีการล้มล้างสถาบันกษัตริย์แล้ว ถ้าจะมีเบื้องหลังจริงๆ สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน คือตัวการ ด้วยเงินทองของคุณทั้งสิ้น
ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่ง ผมเป็นคนเชื่อในบุญในกรรม ผมเชื่อมากๆ ใครทำกรรมให้ประเทศชาติ สถาบันกษัตริย์มีอยู่มาหลายร้อยปีแล้ว คุณูปการของกษัตริย์มี แต่ในที่สุดแล้ว กษัตริย์ก็จะเป็นตัวประกอบที่สนับสนุนให้ชาติอยู่ได้ กษัตริย์กับศาสนาต้องไปด้วยกัน พระเจ้าแผ่นดิน กับศาสนาพุทธ ต้องไปด้วยกัน ถึงจะเป็นชาติไทยขึ้นมาได้ ชาติไทยถ้าไม่มีกษัตริย์ กษัตริย์อ่อนแอ ศาสนาพุทธก็อ่อนแอ ถ้ากษัตริย์อ่อนแอ ศาสนาพุทธอ่อนแอ ประเทศไทยก็ไปไหนไม่รอด
ท่านผู้ชมครับ เรื่องคุณธนาธร ไม่จำเป็นต้องซ้ำเติมอะไรไปมากกว่านี้แล้ว เสียใจอย่างเดียว คุณธนาธร ยังไม่รู้จักตัวเอง ว่าที่คุณแพ้เพราะคุณต้องการจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์ และประชาชนทั่วประเทศไทยเขารู้กันหมดแล้ว และคุณมัวแต่ว่ายอยู่ในกระแสธารของโลกออนไลน์ คุณไม่ยอมตื่นขึ้นมาแล้วเผชิญหน้ากับโลกแห่งความเป็นจริง เพราะฉะนั้นแล้ว จึงไม่มีอะไรน่าประหลาดใจเลยแม้แต่นิดเดียว ทุกอย่างถูกต้อง เป็นไปตามกฎแห่งกรรมทุกประการ
ท่านผู้ชมครับ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม หรือประมาณ 5-6 วันที่แล้ว โฆษกสำนักข้าหลวงใหญ่เรื่องสิทธิมนุษยชน นางราวินา ชัมดาซานี ซึ่งน่าจะเป็นคนอินเดีย หรือปากีสถาน ที่เกิดที่สิงคโปร์ ออกมาสร้างเรื่องที่ไม่ได้พิจารณาทุกอย่างอยู่บนจริง ใช้ความเป็นโลกสวยของสำนักข้าหลวงใหญ่ฯ ที่ดูแลเรื่องสิทธิมนุษยชน นางราวินา พูดอย่างนี้ครับ "เรารู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่งจากการที่ทางการไทยตั้งข้อหาผู้ประท้วงอย่างน้อย 35 คน รวมถึงผู้ประท้วงที่เป็นนักเรียนวัย 16 ปี ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยมาตรา 112 ซึ่งเป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ในประมวลกฎหมายอาญาของไทย"
คุณราวินา พูดต่อ "สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องหลายครั้งให้ไทยบังคับใช้กฎหมายมาตรานี้ให้สอดคล้องกับข้อผูกพันระหว่างประเทศที่ไทยให้คำมั่นไว้ น่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่งที่หลังจากไม่มีคดีนี้เกิดขึ้นมานาน 2 ปี แต่กลับเห็นคดีนี้เกิดขึ้นในหลายคดีในเวลาอันรวดเร็ว และน่าตกใจมาก ปัจจุบันมีการตั้งข้อหากับผู้เยาว์ด้วย"
ท่านผู้ชมครับ ปัญหาใหญ่ของประเทศไทยในขณะนี้ และในโลก ก็คือ จะมีองค์กรระหว่างประเทศ รวมไปจนถึงสหประชาชาติ ที่เข้ามายุ่มย่าม ก้าวก่าย ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในประเทศ โดยใช้หลักสากลเป็นมาตรฐานในการวัด แต่บกพร่องในการเข้าใจบริบทของสังคมภายใน ว่าข้อเท็จจริงสังคมภายในนั้นเป็นอย่างไร และทำไมต้องมีกฎหมายนี้เกิดขึ้น
ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมดูแล้วกัน ตอนที่จีนเข้ามายึดฮ่องกงด้วยกฎหมายความมั่นคง ทำไมองค์กรสหประชาชาติ หรือข้าหลวงใหญ่ฯ นางราวินา ถึงไม่ออกมาโวยวายประเทศจีนบ้าง แต่มาโวยวายเฉพาะกรณี 112 ทั้งๆ ที่กรณี 112 ... เดี๋ยวผมจะอธิบายตอนหลัง ตอนนี้ ช่วงนี้ โหมโรงก่อน ว่านางราวินา ไม่เข้าใจบริบทของ 112 ที่มีความเป็นสากลในตัวเองอยู่แล้ว และผมจะอธิบายให้ฟังว่าเธอพลาดพลั้งอย่างไรบ้าง แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น เรามาคุยกันเรื่องของเหตุการณ์ล่าสุดก่อน
หลังจากที่ม็อบสามนิ้วชะลอตัวลงไป ที่ชะลอตัวลงไปนี่ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก ท่านผู้ชม เพราะไม่มีคน จากที่เป็นเด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา โน่นนี่นั่น กลายเป็นนักเรียน นักศึกษา น้อยมาก แล้วที่มาผสมโรงก็คือพวกเสื้อแดงฝั่งที่ไม่เอาเจ้า ฝั่งที่ต้องการจะล้มสถาบันกษัตริย์ เข้ามาร่วมกัน ตลอดจนนักการเมืองฝ่ายค้านที่อยู่เบื้องหลังหลายๆ อย่าง ช่วงนี้ก็เลยเป็นช่วงของการดำเนินคดี อย่างเช่น การดำเนินคดีที่คนจับตาดูมากที่สุด คือกรณีโดนดำเนินคดีเรื่องมาตรา 112 คือการอาฆาตมาดร้าย หมิ่นประมาทต่อกษัตริย์ และสถาบันกษัตริย์
วันที่ 18 ธันวาคม 2563 คุณเพนกวิน โดนไปแล้ว 40 กว่าคดี โดยเฉพาะปีนี้ ถูกดำเนินคดี เฉพาะคุณเพนกวินนะครับ คดีมาตรา 112 มี 12 คดี แกนนำระดับรอง อย่างน้องมายด์ จอมดรามา คือ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล คุณอิ๋ว น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ คุณทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี คุณชนินทร์ วงษ์ศรี และคุณเกียรติชัย ตั้งภรณ์พรรณ จำนวน 5 คน เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 ก็ถูกออกหมายเรียกไปรับข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่ สน.บางโพ จากเหตุชุมนุม "ไปสภาไล่ขี้ข้าเผด็จการ" ที่แยกเกียกกาย เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ก็คือประมาณ 1 เดือนให้หลัง ก็เริ่มโดนดำเนินคดีแล้ว เพิ่มเติมจากข้อหาเก่าๆ ที่เคยถูกแจ้งความ ข้อหายุยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116 ของประมวลกฎหมายอาญา และชุมนุมโดยผิดกฎหมายจากเหตุการณ์เดียวกัน
ท่านผู้ชมครับ เป็นเวลาร่วม 2 ปีแล้ว ที่ไม่มีการดำเนินคดีในมาตรา 112 เหตุผลก็เพราะว่า เป็นพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าไม่ให้ใช้ 112 แต่พอพวกนี้รู้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระเมตตาให้ ก็เลยเกิดความฮึกเหิม โอหังมมังการ จากการที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพเพียงคำพูดเรื่องโน้นเรื่องนี้ที่ยังไม่ร้ายแรง กลายเป็นการแสดงออกทั้งภาพ ทั้งการแสดงออกโดยการชูนิ้วกลางใส่ขบวนเสด็จของพระราชินี โน่นนี่นั่น จนกระทั่งในที่สุดแล้วคนที่เดือดร้อนก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความรู้สึกว่าคนพวกนี้ทำผิดกฎหมาย จริงอยู่ ถึงแม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงมีพระเมตตาบอกว่าอย่าไปทำเขาเลย แต่เนื่องจากว่า เดี๋ยวจะกลายเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อผิดแล้วไม่ดำเนินคดี จะต้องถูกแจ้งความมาตรา 157 ตำรวจเองก็ต้องเดือดร้อน
ทีนี้ ตอนนี้เกิดมีเรื่องเบี้ยตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง คือเด็กอายุ 16 ปี ของ ดร.มานะ ลูกชายโดนดำเนินคดีตามมาตรา 112 เพราะแต่งตัวไปล้อเลียนพร้อมกับเขียนข้อความที่ไม่เหมาะสมไว้ที่หลังตัวเอง ในการชุมนุมม็อบเยาวชนปลดแอก กลุ่มคณะราษฎร บริเวณถนนสีลม เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2563 ก็ถูกเรียกเข้าไปรับข้อกล่าวหาที่ สน.ยานนาวา เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ท่านผู้ชมเชื่อไหม เด็กวัย 16 ปี ก็เลยกลายเป็นตุ๊กตาที่ถูกเชิดขึ้นมาเพื่อมาเล่นงานการใช้มาตรา 112 หาว่าแม้กระทั่งเด็กวัย 16 ปี ก็โดน
ท่านผู้ชมครับ ทำไมเราถึงมีศาลเด็กและเยาวชน ? ท่านผู้ชมเข้าใจหรือยัง ที่เรามีศาลเด็กและเยาวชน ก็เพราะว่าเราเผื่อในกรณีที่เด็กอายุยังไม่เกิน 18 หรือยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือไม่เกิน 18 ทำผิดขึ้นมา เมื่อทำผิดขึ้นมาแล้ว จะผิดกฎหมายข้อใด เขาก็เลยให้ส่งเรื่องไปที่ศาลเด็กและเยาวชน เป็นปกติธรรมดา เพราะฉะนั้นแล้ว ลูกชายของ ดร.มานะ ไม่ได้ขึ้นศาลอาญา แต่ขึ้นศาลเด็กและเยาวชน แต่คนอย่างคุณเพนกวิน หรือคนอย่างน้อยมายด์ จอมดรามา ต้องขึ้นศาลอาญา เพราะว่าอายุเกินไปแล้ว
ทีนี้ปัญหามันก็มีเกิดขึ้น คือทั้งพ่อของเด็กชายอายุ 16 ปี ดร.มานะ ซึ่งเป็นรองอธิการบดีฝ่ายกิจกรรมนักศึกษา มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ก็โพสต์อะไรออกมาที่น่าเห็นใจมาก ที่น่าสงสาร มิหนำซ้ำยังมีการให้สัมภาษณ์ของเด็กอายุ 16 ซึ่งเป็นลูกชาย ว่า "ผมหวังว่าผมจะเป็นคนสุดท้ายที่โดน ผมยืนยันจะสู้ในฐานะเด็กและเยาวชนที่ออกมารณรงค์ให้ยกเลิก 112 เพื่อทุกคนจะได้ไม่โดนเหมือนผม กฎหมายนี้ไม่ควรมีอยู่ด้วยซ้ำ เพราะเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน" ตกลงเยาวชนอายุ 16 ปีนี้ ก็เดินทางมายัง สน.ยานนาวา พร้อมกับพ่อแม่ หลังจากออกมาแล้ว รับทราบข้อหาเป็นเวลา 2 ขั่วโมงครึ่ง ทั้งเด็กและพ่อก็ยังอวดดี ปากเก่งอีก เด็กก็ชูสามนิ้วและบอกว่า "ขอยกเลิก 112 ขอมันอย่าได้เกิดขึ้นกับครอบครัวอื่นๆ อีกเลย"
ท่านผู้ชมครับ เด็กคนนี้ก็ถูกประกันตัวไปโดยใช้ตำแหน่ง ส.ส. ของนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล พรรคก้าวไกล คู่ดูโอ้ของคุณปารีณา ไกรคุปต์ ส่วน ดร.มานะ เอง ก็เห็นใจ เพราะเป็นพ่อ ก็บอกว่าสภาพลูกวันนี้รู้สึกรับไม่ได้กับการตั้งข้อหานี้กับเยาวชน ดร.มานะ ครับ ถ้าอย่างนั้น ไม่ถามกลับบ้างหรือว่า ลูกชายคุณทำอะไรไปบ้าง คุณไปดูรูปลูกชายคุณที่เขียนข้างหลังว่าอย่างไร ทำไมถึงหลุดตรงนี้ไปได้ แล้วคุณก็ยังไปโพสต์เฟซบุ๊กในฐานะพ่อคนหนึ่ง ระบุว่า "เขาอาจจะไม่เห็นด้วยกับบางสิ่งบางอย่างที่ลูกคิด ลูกทำ แต่เคารพในการตัดสินใจของลูก ผมไม่รู้ว่าถูกหรือผิดนะครับ แต่ผมสอนลูกให้มีอิสระทางความคิด ให้เขารู้จักการตั้งคำถามและแสวงหาคำตอบด้วยตนเอง พร้อมกับสอนให้เขารับผิดชอบกับผลของการกระทำนั้นๆ ด้วย ไม่ว่าจะบวกหรือลบ"
นี่ ดร.มานะ อยู่ตรงนี้ ใครๆ ก็อยากให้ลูกรู้จักคิดเอง เป็นอิสระ แต่เด็กอายุ 16 ปี กับความเป็นวุฒิภาวะของคุณ ในฐานะคุณเป็นถึงด็อกเตอร์ และคุณเป็นรองอธิการบดี มันต่างกันมาก คุณควรที่จะให้ลูกคิดได้ แต่คุณควรที่จะชี้ทางเดินที่ถูกต้องให้เขา ว่าที่ลูกคิดแบบนี้มันไม่ถูกต้องนะ เพราะอะไร นอกเสียจากว่าตัว ดร.มานะ เอง ก็คิดเหมือนลูกเหมือนกัน ก็คืออยากจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์ เป็นเพียงแต่ว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ เป็นถึงรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าฯ ก็เลยพูดไม่ได้ เพราะฉะนั้นแล้ว คำพูดที่คุณเขียนในเฟซบุ๊กของคุณ ว่า "สอนให้เขารับผิดชอบกับผลของการกระทำนั้นๆ ด้วย ไม่ว่าจะบวกหรือลบ" ถูกต้องไง เมื่อลูกคุณจากการที่ได้รับความคิดอิสระโดยที่ไม่มีการท้วงติง ไม่มีการสั่งสอนจากคุณเลย เพราะคุณบอกว่า ผมสอนให้ลูกคิดเองเป็น ตั้งคำถามเองเป็น คำถามที่ลูกตั้ง และคำตอบที่ลูกได้น่ะ คำตอบที่ลูกได้ ได้มาจากใคร ถ้าไม่ได้มาจากพวกนักวิชาการสะเหล่อๆ ที่แต่งเรื่อง เอาความเท็จเข้ามาพูด พวกนี้ทำไมคุณไม่ห้าม ทำไม่คุณไม่ชี้แจง ลูกคุณไม่ได้คิดเองเป็นหรอก ลูกคุณไปอ่นาเจอตรงนั้น ไปอ่านเจอตรงนี้ แล้วสิ่งที่ไปอ่านเจอมันก็ไม่ใช่ความจริง ก็เหมือนกับที่หลายๆ คนไปเชื่อว่า 2475 คณะราษฎร มีคุณูปการต่อประชาธิปไตยของประชาชน จนกระทั่งผมต้องเอาความจริงมาฉีกหน้ากาก 2475 ว่าคณะราษฎร คือคณะโจร จอมพล ป. พิบูลสงคราม ไม่ใช่วีรบุรุษ แต่เป็นมหาโจร จนวันนี้พวกเด็กๆ พวกม็อบชูสามนิ้วก็หยุดเชิดชู จอมพล ป. ไปเรียบร้อยแล้ว เห็นหรือยัง ขึ้นอยู่กับว่าลูกคุณไปเอาข้อมูลที่ไหนมา คุณเป็นพ่อ คุณจะต้องมาวิเคราะห์ข้อมูลที่ลูกเอามา แล้วคุณก็ควรที่จะยับยั้งเขา สั่งสอนเขา นอกเสียจากว่าคุณเห็นด้วยกับข้อมูลนั้น ถ้าอย่างนั้นคุณก็เป็นพวกเดียวกับลูกของคุณ ฉะนั้นอย่ามาโวยวายตรงนี้ เดี๋ยวผมจะอธิบายต่อว่าทำไมต้องมี 112 แล้วฟังตรรกะ แล้วฟังข้อเท็จจริง ฟังหลักฐานที่ผมเอามาเสนอ แล้วคุณค่อยตัดสินใจว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นถูกหรือไม่ถูก
ความจริงผมอยากจะพูดถึงคุณและภรรยาของคุณอีกเยอะ แต่ไม่มีประโยชน์ที่จะพูด คุณก็รู้ว่าผมจะพูดเรื่องอะไร ท่านผู้ชมอย่าไปรู้ดีกว่า เอาเป็นแค่นี้ก็เจ็บปวดมากพอสมควรแล้ว
นี่คำพูด ดร.มานะ "ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเหตุการณ์อันแสนปวดร้าวเช่นนี้จะหยุดอยู่แค่ครอบครัวของผม ขอมันอย่าได้เกิดขึ้นกับครอบครัวคนอื่นๆ อีกเลย" ก่อนที่ลูกชายคุณจะทำอะไรก็ตาม คุณมานะ ก็รู้ใช่ไหมว่ามันมีกฎหมายอาญา มาตรา 112 อยู่ เป็นกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ผมจะอ่านข้อความในมาตรา 112 ให้
"ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี"
ท่านผู้ชมครับ เรื่องนี้ผมเคยโดนคดี 112 มาแล้ว ต้องเล่าให้ฟังเสียก่อน ดร.มานะ รู้ใช่ไหมว่ามีกฎหมายนี้ 112 คำถามคือ คุณมีเจตนาจะหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์หรือไม่ ? ถ้าคุณไม่ได้ดูหมิ่น คุณจะไปกลัวอะไร เหมือนผมในปี 2551 ผมนำคำปราศรัยของคุณดา ตอร์ปิโด หรือชื่อจริง ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล ที่ออกมาปราศรัยที่สนามหลวง แล้วหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างหนักๆ เลย ผมจำเป็นต้องเอาคำปราศรัยมา คุณดา ตอร์ปิโด ฉายาของคุณดารณี ชาญเชิงศิลปกุล คุณดารณี กล่าวอาฆาตมาดร้าย หมิ่นประมาท ต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ฯ ในรัชกาลที่ 9 หรือสมเด็จพระพันปีหลวง ณ ปัจจุบัน อย่างรุนแรง แต่ว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ทางการ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ หรือทหาร หรือรัฐบาลขณะนั้น ซึ่งเป็นรัฐบาลของคุณทักษิณ ชินวัตร ใส่ใจที่จะมาดำเนินคดีต่อคุณดารณี ผมก็เลยเอาคำพูดนั้นมาเล่าให้กับประชาชนที่ฟังคำปราศรัยของผมอยู่ในขณะนั้นฟัง ว่า พี่น้องประชาชน มียัยดารณี ดา ตอร์ปิโด กล่าวคำปราศรัยหมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทำไมพวกคุณถึงไม่มาทำ เขาพูดอย่างนี้ๆๆ ก็ปรากฏว่าผมโดนตัวแทนของทักษิณ ชินวัตร ก็คือเป็นทนายความ เป็นคนสนิทของคุณเนวิน ชิดชอบ นั่นล่ะ ตอนนั้นคุณเนวิน ชิดชอบ ก็ยังอยู่กับทักษิณ ชินวัตร ไปแจ้งความที่ สน.นางเลิ้ง ว่าผมหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ด้วยการเอาคำพูดของดา มา แต่ขณะเดียวกันรัฐบาลชุดนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรเลยที่จะไปจัดการกับดา ตอร์ปิโด จนกระทั่งผมขึ้นเวทีพูดไปแล้ววันหนึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ถึงมีคำสั่งให้ไปแจ้งความดำเนินคดีหลังผมพูดออกไป จนกระทั่งในที่สุดแล้ว คุณดารณี ก็เลยถูกศาลพิพากษาจำคุก ถ้าผมจำไม่ผิด 5 หรือ 6 ปี ประมาณนั้น และในที่สุดก็ออกมาแล้ว
ท่านผู้ชมครับ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาของผม ศาลอาญาชี้ให้เห็นว่า ผมไม่ผิด ที่ไม่ผิด เพราะผมไม่มีเจตนา อัยการอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาว่าผมผิด เพราะว่ามีข้อความที่ไปหมิ่นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ขอประทานโทษครับ คุณดา ตอร์ปิโด เสียชีวิตไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ปีนี้เอง ก็น่าเสียดาย ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวคุณดา ตอร์ปิโด ไปด้วย
ท่านผู้ชมครับ ศาลชั้นต้น ศาลอาญา ยกฟ้องผม ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นด้วยกับศาลชั้นต้น ลงโทษผม จำคุกผม 2 ปี ผมฎีกา จนกระทั่งวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 นี่เหตุเกิดประมาณ 2550 สิบปีให้หลัง ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ที่พนักงานอัยการฟ้องผม ว่าผมได้เอาคำพูดของดา ตอร์ปิโด มาพูดเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2551 บอกว่าผมผิด เพราะว่าผมเอามาเผยแพร่ซ้ำ ศาลฎีกาพิจารณาสำนวนเห็นว่า การกระทำของจำเลย (คือผม) ไม่มีเจตนาหมิ่นประมาท แม้การนำคำพูดของดา ตอร์ปิโด จะเป็นการเผยแพร่ซ้ำ แต่เจตนาของจำเลย (คือตัวผม) ที่ออกมาพูดนั้น ต้องการให้เจ้าหน้าที่มาจับกุมดา ตอร์ปิโด ไปดำเนินคดี ก็เลยยกฟ้องผม ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น คุณสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของผม บอกอย่างนี้ ศาลฎีกามีคำพิพากษากลับคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ เป็นเหตุให้ยกฟ้องตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยศาลพิจารณาแล้วว่าจำเลยขาดเจตนา จำเลย (คือผม) มีเจตนาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่้ทหารและตำรวจจับกุม ให้มีการดำเนินคดีกับ น.ส.ดารณี ที่ได้ปราศรัยมาก่อนแล้ว 2-3 วัน ดังนั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นคนละเจตนากัน
ท่านผู้ชมครับ ดร.มานะ ครับ ตอนผมโดนคดีมาตรา 112 ทั้งๆ ที่ผมไม่มีเจตนา แต่เพราะโดนรัฐบาล เจ้าหน้าที่ และคนในเครือข่ายของนายทักษิณ ชินวัตร กลั่นแกล้ง ผมไม่ได้ร้องแรกแหกกระเชอ บอกให้ยกเลิกกฎหมายมาตรานี้ เพราะผมเชื่อมั่นว่าผมไม่ได้ทำผิด และผมก็เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ท่านผู้ชม แต่ถ้าคุณมีเจตนาจะกระทำผิดมาตรา 112 ตัวอย่างแรก คือกรณี ดร.มานะ ข้อความที่ลูกคุณเขียนอยู่บนแผ่นหลัง คุณกล้าเอามาให้ประชาชนดูไหม แล้วถามว่า ลูกผมทำถูกไหมครับ มีสื่อหลักสื่อไหนกล้าตีพิมพ์ภาพนั้นไหม คุณมานะ คุณกล้ายืนยันไหมว่าข้อความที่เขียนอยู่บนหลังลูกคุณนั้น เหมาะสมแล้ว เพราะฉะนั้นการที่แกนนำผู้ชุมนุมและแนวร่วมออกมาเรียกร้องให้ยกเลิก โหวกเหวกโวยวาย ยกแม่น้ำทั้งห้า ดึงต่างชาติเข้ามากดดันว่ากฎหมายไม่เป็นสากล ผมจะชี้ให้เห็นว่า ทำไมคุณจะไม่มีทางประสบผลสำเร็จ และพวกคุณต้องรับกรรมนี้้ด้วยตัวคุณเอง
ส่วนพ่อแม่ผู้ปกครองที่หวังว่าลูกตัวเองจะหลุดรอดจากความผิดนั้น ท่านผู้ชมครับ ผมบอกได้เลยว่า ไม่มีทาง เพราะทำไมรู้ไหม ? ในอดีตคนที่โดนคดี 112 ไม่ว่าจะเป็นคุณสมยศ หรือหลายๆ คนนั้น คำพูด การกระทำนั้นยังอ้อมไปอ้อมมา เลี้ยวไปเลี้ยวมา
คุณสมยศ ทำเป็นเพียงแค่เอาบทความๆ หนึ่งมาลง แล้วบทความนั้นก็ไม่ได้กล่าวโจมตีโดยตรง แต่อ้อมไปอ้อมมา หรือคนอย่าง ไผ่ ดาวดิน ที่ จ.ขอนแก่น ก็เพียงแชร์ข้อความของ บีบีซีไทย ที่มีลักษณะหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งก็น่าประหลาดใจว่าทำไมถึงไปเล่นงาน ไผ่ ดาวดิน สำหรับผมแล้วผมว่าต้องเล่นงาน บีบีซีไทย ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ สมัยนั้นก็ยังถือว่าอ้อมไปอ้อมมา แต่พอมายุคนี้ มันตีแสกหน้าตรงตัว นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยนะ ไม่ได้อ้อม ไม่ได้เลี้ยวซ้าย ไม่ได้เลี้ยวขวาเลย กามิกาเซ่ พุ่งชนตรงตัว เพราะฉะนั้นผมถึงบอกไงว่ายังไงก็ไม่รอด ไม่ต้องดิ้นหรอก ประเทศไทยจะไม่มีวัน รัฐบาลชุดนี้หรือชุดไหนก็จะไม่มีวันที่จะยกเลิก 112 ตราบใด การแสดงออกของพวกคุณทุกวันนี้ก็คือการมุ่งที่จะทำลาย ให้ร้าย อาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ และตราบใดที่พระมหากษัตริย์ยังคงเป็นประมุขของประเทศไทย ตามรัฐธรรมนูญแล้ว คุณไม่มีทางยกเลิก ท่านผู้ชม เรื่องนี้่ไม่ใช่เรื่องเล็ก
ผมจะพูดตัวอย่างหนึ่งว่า ทำไมผมถึงเชื่อในกระบวนการยุติธรรม เมื่อเร็วๆ นี้ เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง วันที่ 22 ธันวาคม 2563 ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ ฟ้อง นางพัฒน์นรี หรือพัชนรี หรือหนึ่งนุช ชาญกิจ มารดาของจ่านิว นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทเบื้องสูง ตาม ป.อาญา มาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นคดีที่โอนมาจากศาลทหาร
คือสรุปเรื่องนี้ ผมอธิบายสั้นๆ เรื่องนี้คือ แม่จ่านิว ใช้เฟซบุ๊กแชตกับผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อ นายบุรินทร์ อินติน อายุ 29 ปี โดยเนื้อหาของนายบุรินทร์ อินติน นั้น หมิ่นประมาทสถาบันเบื้องสูง แม่ของจ่านิวหลังจากได้รับข้อความแล้ว ก็ตอบไปแค่คำว่า "จ้า" ก็เหมือนกับใครก็ตามมาพูด มาโม้อะไรให้ฟัง เราฟังแล้วจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เรารำคาญ เราก็บอก "จ้า" ให้มันจบๆ ไป
ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่า นี่คือการยอมรับ และมีส่วนร่วมในการโพสต์ข้อความ ซึ่งเป็นความผิดตาม ป.อาญา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ท่านผู้ชมครับ งานนี้เจ้าหน้าที่ที่แจ้งความดำเนินคดี บัดซบ เลวทรามต่ำช้า ไม่ควรจะเอาเรื่องนี้ขึ้นศาลเลยแม้แต่นิดเดียว งานนี้เจตนากลั่นแกล้งแม่ของจ่านิว และท่านผู้ชมครับ ศาลก็บอกว่า พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า ระหว่างเวลา 22.00-22.40 น. ของวันที่ 12 มีนาคม 2559 จำเลย คือแม่จ่านิว ได้อ่านข้อความเฟซบุ๊กของนายบุรินทร์ หลังจากอ่านไป 5 นาที คืออ่านไปแล้ว และอีก 5 นาที ก็ตอบว่า "จ้า" ซึ่งจริงๆ แล้วเว้นช่วงเวลาไป 5 นาที
แสดงว่า ศาลบอก จำเลยต้องการจะสิ้นสุดการอ่านข้อความเท่านั้น ไม่ได้คิดอะไร รำคาญ ก็เลยตอบคำว่า "จ้า" และจำเลย คือแม่ของจ่านิว ก็ไม่ได้มีความเห็นอื่นๆ จึงฟังไม่ได้ว่าแม่จ่านิว หมิ่นประมาทรัชทายาทตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง ศาลมีความเป็นธรรม มีความยุติธรรม เจ้าหน้าที่ที่ฟ้องน่ะ ระยำตำบอน และผมหวังว่าอัยการจะไม่อุทธรณ์เรื่องนี้ เพราะถ้าคิดอุทธรณ์เรื่องนี้ ผมคิดว่าจิตใจคุณก็เลวทรามต่ำช้าเช่นกัน กลั่นแกล้งเขา ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง
ผมไม่หนี และผมก็พิสูจน์ ถึงแม้ว่าศาลต้นยกฟ้องผม ศาลอุทธรณ์จำคุกผม 2 ปี ผมสู้ต่อถึงฎีกา ในที่สุดศาลฎีกาพิสูจน์แล้วว่าผมไม่ได้มีเจตนา เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับเจตนา ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นเพนกวิน ไม่ว่าจะเป็นรุ้ง ไม่ว่าจะเป็นน้องมายด์ ไม่ว่าจะเป็นลูกของ ดร.มานะ คำถามคือ คุณมีเจตนาหรือเปล่า ? หรือคุณทำไปโดยคุณไม่แคร์ว่ามี 112 อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้พวกคุณถึงมาวิ่งเต้นให้ยกเลิก 112 ไป คุณบ้าหรือเปล่า คุณสมองหมาปัญญาควายหรือเปล่า ถึงคิดอย่างนั้น
ในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" เมื่อวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม ผมได้นำข้อเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ 10 ข้อ มาฉีกให้ท่านผู้ฟังได้รับทราบเป็นข้อๆ เจาะลึกแยกออกมาเป็นประโยคๆ เลย ว่าข้อที่ 2 การปฏิรูปโดยเสนอให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 รวมทั้งเปิดให้ประชาชนได้ใช้เสรีภาพแสดงความคิดเห็นต่อสถาบันกษัตริย์ได้ และนิรโทษกรรมผู้ถูกดำเนินคดีเพราะวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ทุกคน นั่นเป็นเรื่องที่บัดซบ เป็นเรื่องที่มีเจตนาจะทำลายสถาบันกษัตริย์ ไม่ใช่ปฏิรูป เพราะอะไร ? ประการแรก ต้องยอมรับกันก่อนว่า หลักการคุ้มครอง คุ้มกันประมุขของรัฐไม่ให้ถูกฟ้องร้องนั้น เป็นหลักสากล ท่านโฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ฯ สหประชาชาติ โปรดเข้าใจด้วยว่ามันเป็นหลักสากล หลักการคุ้มกันประมุขของรัฐ เป็นหลักกฎหมายสำคัญในการดำรงอยู่ของรัฐ
ท่านผู้ชมจำได้ใช่ไหมครับ ผมพูดว่า มาตรา 112 นั้นเกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องข้อที่ 1 และข้อที่ 2 ในข้อเรียกร้อง 10 ข้อ ของม็อบเด็กขี้แตก แต่เบื้องหลังก็คือ มีผู้ใหญ่ใจร้ายแอบยัดมือเด็ก คือยัยรุ้ง ขึ้นไปพูดบนเวที
ข้อที่ 1 ยกเลิกมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญที่ว่า ผู้ใดจะกล่าวหาฟ้องร้องกษัตริย์มิได้ แล้วเพิ่มบทบัญญัติให้สภาผู้แทนราษฎรสามารถพิจารณาความผิดของกษัตริย์ได้ เช่นเดียวกับที่เคยบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับคณะราษฎร (มหาโจร) 2475 ที่ผมพูดไปแล้ว ท่านผู้ชม รัฐจะปกครองในระบบไหนก็ได้ จะเป็นระบบสาธารณรัฐ ระบบพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ หรือเป็นระบบประธานาธิบดี ระบบรัฐสภา ระบบกึ่งประธานาธิบดี หรือระบบแบบซาอุดีอาระเบีย สถานะของประมุขจะได้รับการคุ้มกันจากการฟ้องร้องทุกคดี หลักการคุ้มกันเป็นทั้งกฎหมายภายในและกฎหมายระหว่างประเทศ ในทางกฎหมายระหว่างประเทศ การคุ้มกัน คุ้มครองประมุขของรัฐ ส่งต่อ สืบทอดไปถึงทูตของรัฐ คุ้มครองไปจนถึงทูตของรัฐที่ส่งไปประจำรัฐอื่น ซึ่งจะเป็นตัวแทนของประมุขของรัฐ มีสถานะเป็นประมุขของรัฐ ก็จะได้รับความคุ้มครองเช่นกัน นี่เป็นหลักการที่อยู่ในอนุสัญญาของกรุงเวียนนา ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ค.ศ.1961 เอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูต เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมครับ เวลาประมุขของประเทศอื่นๆ เสด็จ หรือเดินทางมาเยือนประเทศไทย ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่าเป็นองค์จักรพรรดินารุฮิโตะ ของญี่ปุ่น นายโจ ไบเดน ของอเมริกา หรือควีนเอลิซาเบธที่ 2 ถ้ามาเยือนไทย ก็จะได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายแบบเดียวกัน มาตรา 112 บังคับใช้ตามกฎหมายอาญา
มาตรา 133 มาตรา 133 พูดอย่างนี้ "ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายราชาธิบดี ราชินี ราชสามี รัชทายาท หรือประมุขแห่งรัฐต่างประเทศ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"
ท่านผู้ชมเห็นหรือยังครับ มีมาตรา 133 ซึ่งปกป้องผู้นำของรัฐที่จะมาเยือนประเทศไทย ว่าหมิ่นประมาทไม่ได้ อาฆาตมาดร้ายไม่ได้ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-7 ปี เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้ามีกฎหมายคุ้มครองประมุขของรัฐต่างประเทศ ซึ่งมาตรา 133 คุ้มครองประมุขรัฐต่างประเทศ แล้วทำไมเราจะไม่สามารถมีมาตรา 112 มาคุ้มครองประมุขรัฐของเรา ตอบผมหน่อยสิ อย่าเอาสมองหมาปัญญาควายของคุณมาหลอกเด็ก หลอกคนโน้นหลอกคนนี้ หลอกผมไม่ได้หรอก ซึ่งข้อนี้ผมก็อยากจะถามกลับไปยังนางราวินา ชุมดาซานี ที่มายุ่มย่ามในเมืองไทย ว่าคุณได้ศึกษาเรื่องนี้หรือเปล่า
นอกจากนั้นแล้ว เขาเรียกร้องให้รัฐบาลไทยยุติการตั้งข้อหากับเด็กต่างๆ เหล่านี้ จะยุติได้อย่างไร เด็กพวกนี้มันทำผิดกฎหมาย คุณจะยุติได้อย่างไร คุณทำงานอยู่สหประชาชาติ คุณก็ใส่หน้ากาก ใส่หมวกสหประชาชาติ แต่พื้นฐานคุณอาจจะเกิดที่อินเดีย หรือปากีสถาน คุณอาจจะเป็นคนเชื้อชาติอินเดีย เชื้อชาติปากีสถาน แล้วคุณอาจจะเกิดสิงคโปร์ เพราะว่ามีคนนามสกุลเดียวกับคุณ เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่สิงคโปร์ แต่เป็นคนปากีสถาน คุณก็รู้ว่าในอินเดีย หรือในปากีสถาน ก็มีการคุ้มครอง เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมครับ มันมีกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าสอดคล้องกับมาตรา 19 ว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นด้วย ของ ICCPR
มาตรา 19 กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง ก็ว่ากันไป ไปเรื่อยๆ มีสิทธิ์ไปหมด จนกระทั่งถึงข้อ 3 ก. นี่คือเป็นกฎระเบียบมาตราว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ฯ ข้อ 3 ก. ของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ฯ บอกว่า "การเคารพในสิทธิและชื่อเสียงของบุคคลอื่น" เห็นไหม สหประชาชาติของคุณเอง นางราวินา นังตัวดี กฎบัตรสหประชาชาติของคุณยังระบุเลยว่า ต้องมีการเคารพในสิทธิหรือชื่อเสียงของบุคคลอื่น เพราะฉะนั้นแล้ว 112 ก็ต้องออกมาปกป้องเพื่อให้เคารพในสิทธิและชื่อเสียงของพระมหากษัตริย์ เช่นกัน ถูกต้องไหม
ข้อ ข. การรักษาความมั่นคงของชาติ หรือความสงบเรียบร้อย หรือการสาธารณสุข หรือศีลธรรมของประชาชน สถาบันกษัตริย์เป็นหนึ่งเสาหลักในความมั่นคงของชาติ นี่คือการรักษาความมั่นคงของชาติ เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมครับ มาตรา 112 เป็นไปตามกฎบัตรของสหประชาชาติ ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ที่พวกคุณร่างกันขึ้นมา นางราวินา แหกตาตัวเองแล้วอ่านบ้าง ไม่ใช่เอะอะอะไรก็มาแสดงออก
เพราะฉะนั้นแล้ว คำแถลงของโฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ น.ส.ราวินา ชัมดาซานี เห็นว่าขัดแย้งกันเอง เพราะชัดเจนว่าการใช้สิทธิ์ดังกล่าวของผู้ชุมนุมกลุ่มปลดแอกนั้น แม้จะไม่มีความรุนแรงมากมายนัก แต่ก็ไม่เข้าข่ายข้อ 19 ของ ICCPR ว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เพราะอะไร ? เพราะ หนึ่ง ไม่เคารพในสิทธิชื่อเสียงของบุคคลอื่น ในกรณีนี้คือสถาบันกษัตริย์ พระมหากษัตริย์ ที่เห็นชัดคือไปขัดขวาง ชูนิ้วกลางใส่ขบวนเสด็จพระราชินี ใส่ร้ายสถาบันต่างๆ นานา แสดงความอาฆาตมาดร้ายอย่างชัดเจนต่อองค์พระประมุข ก็คือพระมหากษัตริย์ไทย
สอง ละเมิดการรักษาความมั่นคงของชาติ ความสงบเรียบร้อย การสาธารณสุข ศีลธรรม มีการชุมนุมประท้วงกันในช่วงมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ควบคุมโควิด-19 ที่เห็นได้ชัดคือ พวกนี้ต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทยให้เป็นระบอบสาธารณรัฐ และล่าสุด เปลี่ยนแปลงการปกครองให้เป็นระบอบคอมมิวนิสต์ นี่คือความมั่นคงของชาติ เพราะฉะนั้นใช้ได้ถูกต้องหมดเลย เราไม่ผิดเลยที่ออก 112 เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้านางราวินา ชัมดาซานี ขอให้แก้ไขมาตรา 112 ผมก็ขอให้ยกเลิกเอกสิทธิ์การทูต พระราชบัญญัติเอกสิทธิ์และคุ้มครองสำหรับองค์กรระหว่างประเทศ และการประชุมระหว่างประเทศในประเทศไทย พ.ศ. 2561 โดยเฉพาะกับเลขาธิการสหประชาชาติ หรือเจ้าหน้าที่สหประชาชาติทุกคน รวมทั้งคุณด้วย โอเคมั้ย ? ไม่มีการคุ้มครอง เพราะเอกสิทธิ์ทางการทูตที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.ฉบับนี้ มันไม่เท่าเทียม เห็นคนไม่เท่ากัน ถือว่าเป็นการเอาเปรียบคนไทยไหม รวมถึงชาวต่างชาติที่อยู่ในเมืองไทยด้วย ทำไมคุณต้องได้รับการคุ้มครองล่ะ แล้วทำไมฝรั่ง คนต่างชาติที่อยู่ในเมืองไทยไม่ได้รับการคุ้มครองล่ะ ถ้าคุณบอกว่าพระมหากษัตริย์ไทยไม่ต้องได้รับการคุ้มครอง แล้วคุณมารับความคุ้มครองทำไม นังตัวดี
เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมเห็นได้ชัดว่าอย่าไปตกใจ อย่าไปกังวล เรื่องพวกนี้ถ้าเราตั้งสติให้ดีๆ แล้วท่านผู้ชมรู้ไหมว่ามันมีเอกสิทธิ์อะไรบ้าง พวกนี้ มันมีเยอะแยะไปหมดเลย อย่างเช่น ยกเว้นภาษีเงินได้ ยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับของใช้ส่วนตัว ยกเว้นข้อจำกัดการเข้าเมือง ความคุ้มกันจากการจับกุมคุมขัง และการยึดสัมภาระส่วนตัว ได้รับการคุ้มครองหมด คุ้มครองจากการถูกดำเนินการทางกฎหมาย เกี่ยวกับถ้อยคำวาจา คุ้มครองเกี่ยวกับการตรวจตราและอำนวยความสะดวกในส่วนที่เกี่ยวกับสัมภาระส่วนตัว อำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนเงินตรา ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง คำตอบรู้อยู่แล้วว่า คุณราวินา คงบอกว่าไม่ยอมหรอก เพราะเอกสิทธิ์ดังกล่าวเป็นหลักสากล เป็นกฎหมายสากล
คุณราวินา ครับ เช่นเดียวกับมาตรา 112 ของไทยนั้น ก็เป็นหลักสากล เข้าข่ายกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ไม่ใช่กฎหมายหมิ่นประมาททั่วๆ ไป คุณราวินา ไม่รู้ว่าคุณมาจากประเทศไหนนะ แต่ผมว่าคุณเฮ้าเลี่ยนฉิบหาย ผมเคยอธิบายหลายครั้งแล้ว ความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เกี่ยวพันกันหมด ไม่อาจจะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เลย ถ้าคุณต้องการให้กัดกร่อนบ่อนเซาะเสาใดเสาหนึ่งในสามเสาจนพังทลาย ชาติไทย ประเทศไทย สังคมไทย จะอยู่อย่างเป็นสุขไม่ได้
ท่านผู้ชมครับ กฎหมาย The king can do no wrong พระองค์ทรงกระทำผิดไม่ได้ มีอยู่ในทุกประเทศที่ปกครองระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ สเปน มาเลเซีย หรือระบบกษัตริย์ สมบูรณาญาสิทธิราชย์ ด้วยเหตุนี้ หลักการคุ้มกันประมุขของรัฐจึงเป็นสาระสำคัญของการมีอยู่ของรัฐ และเป็นหลักที่ขาดมิได้ของรัฐธรรมนูญของทุกประเทศ เพราะฉะนั้นแล้ว อาจารย์ที่สอนคณะนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ไม่ว่ามหาวิทยาลัยที่ไหนก็ตาม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนี่ตัวดี รู้ดีอยู่แล้ว ข้อเท็จจริงที่ผมพูดไป รู้ดีอยู่แล้ว แต่มีการเรียกร้องให้ถอดตัวบทกฎหมายการคุ้มครองประมุขของรัฐ หรือให้ยกเลิกบทห้ามฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ แล้วอาจารย์ที่สอนนิติศาสตร์ สอนรัฐศาสตร์ ดันมาสนับสนุนข้อเรียกร้องข้อนี้ คุณต้องทบทวนตัวเองแล้วนะว่าคุณเหมาะหรือไม่ คุณมีความรู้ทางนิติศาสตร์ ทางรัฐศาสตร์ อยู่หรือเปล่า หรือเอาวิชาความรู้มาบิด มาแถ เพื่อให้เข้ากับอคติของตัวเอง แล้วเอาข้อมูลผิดๆ ไปใส่หัวเด็กๆ แล้วก็ให้เด็กขึ้นไปรับมาตรา 112 ติดคุกติดตะราง แล้วพวกที่อยู่เบื้องหลังเด็กก็ออกมาเห็นใจเด็ก ไม่ได้นะ ดำเนินคดีกับเด็กอายุ 16 โน่นนี่นั่น ท่านผู้ชมครับ ขอประทานโทษ ของมันขึ้น ท่านผู้ชมเห็นด้วยกับผมไหม
ท่านผู้ชมครับ อาจารย์บวรศักดิ์ อุวรรณโร ท่านเป็นนักกฎหมายมือหนึ่งของประเทศไทยคนหนึ่ง เป็นราชบัณฑิต เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ได้เขียนบทความเรื่อง "ความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เอกลักษณ์ประชาธิปไตยไทยในกระแสโลก" ท่านอธิบายมาตั้งแต่ปี 2552 ทั้งในแง่มุมทางกฎหมาย นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ อย่างละเอียด ผมจะย่อสั้นๆ ก็แล้วกัน
"ในกฎหมายระหว่างประเทศ ประธานาธิบดี หรือพระมหากษัตริย์ ก็ทรงมีเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน (privileges and immunities) หลายประการ เช่น ไม่อาจฟ้องร้องหรือดำเนินคดีใดๆ ต่อประมุขของรัฐได้ในขณะที่ดำรงตำแหน่ง" ด้วยเหตุนี้ ท่านผู้ชมรู้ไหม ความพยายามที่จะฟ้องประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตร ในสเปนก็ดี ความพยายามที่จะฟ้องประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน ในสหรัฐอเมริกาก็ดี ความพยายามที่จะฟ้องร้องประธานาธิบดีโรเบิร์ด มูกาเบ ในอังกฤษก็ดี ศาลยกฟ้องหมด มีข้อยกเว้นประเทศเดียว คือประธานาธิบดีปิโนเชต์ ของชิลี ที่้ฟ้องได้ในศาลอังกฤษ ฟ้องได้เพราะอะไร ? ฟ้องได้เพราะชิลี และอังกฤษ ต่างเป็นภาคีอนุสัญญาต่อต้านการทรมานที่ตกลงใจกันว่าสละเอกสิทธิ์ความเป็นประมุขของรัฐ
รัฐธรรมนูญนอร์เวย์ ปี 1814 มาตรา 5 บัญญัติว่า องค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นที่เคารพสักการะและจะถูกกล่าวหาหรือตรวจสอบมิได้
รัฐธรรมนูญเดนมาร์ก ปี 1953 มาตรา 13 บัญญัติว่า พระมหากษัตริย์ไม่ต้องทรงรับผิดชอบทางการเมือง องค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นที่เคารพสักการะ
รัฐธรรมนูญเบลเยียม ค.ศ.1970 มาตรา 88 บัญญัติว่า องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันละเมิดมิได้
รัฐธรรมนูญสเปน มาตรา 56 (3) บัญญัติว่า องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงในฐานะอันละเมิดมิได้
รัฐธรรมนูญลักเซมเบิร์ก มาตรา 4 บัญญัติว่า องค์แกรนด์ดยุก ทรงดำรงในฐานะอันละเมิดมิได้
ท่านผู้ชมครับ นอกจากรัฐธรรมนูญแล้ว ในประเทศประชาธิปไตยของโลกยังมีบทบัญญัติ นอกจากรัฐธรรมนูญแล้ว ยังมีบทบัญญัติของกฎหมายธรรมดาคุ้มครองประเทศและองค์กรอื่นของรัฐในฐานะสถาบัน คุ้มครองอะไรบ้าง ? เขายังคุ้มครองรัฐสภา คุ้มครองศาล ในอังกฤษ ต้นแบบมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มีหลัก common law กฎหมายเป็นลายลักษณ์อักษร คุ้มครองทั้งพระมหากษัตริย์ รัฐสภา และศาล
เพราะฉะนั้นแล้ว ในอังกฤษ ที่พวกคุณชอบเอามาอ้างกัน มีพระราชบัญญัติว่าด้วยกบฏ ในปี 1848 (The Treason and Felony Act, 1848) มาตรา 3 ซึ่งกำหนดองค์ประกอบความผิดฐานกบฏไว้หลายอย่าง รวมทั้งการละเมิดต่อพระเกียรติยศของสมเด็จพระราชินีนาถ เช่น การนำเสนอการให้มีประธานาธิบดีแทนสมเด็จพระราชินีนาถ ก็อาจมีความผิดฐานนี้เช่นกัน เหมือนกับที่พวกคุณเสนอให้เป็นสาธารณรัฐ ก็เป็นความผิดในฐานนี้เช่นกัน ท่านผู้ชมครับ ตาสว่างกันหรือยัง พวกสันขวานที่เอาข้อมูลผิดๆ บิดๆ เบือนๆ แล้วมาโกหก แล้วมาเล่นงาน
ถามว่า 112 ควรจะปฏิรูปไหม ? ควร โทษที่ตั้งไว้อาจจะสูงเกินไป ผมเสนอว่า โทษควรจะประมาณ 1-5 ปี ให้อำนาจศาลภายในไม่เกิน 5 ปี สามารถจะให้รอลงอาญาได้ แต่นอกนั้นแล้วยังคงต้องมีอยู่เหมือนเดิม
ท่านผู้ชมครับ กฎหมาย The Treason and Felony Act, 1848 นั้น ที่ผมอธิบายให้ฟังเมื่อกี้ ถึงแม้จะไม่มีการใช้กันมานานแล้ว แต่ในที่สุดแล้ว ราชวงศ์อังกฤษก็ตัดสินใจยื่นฟ้องเองด้วยตัวเอง คำถามมีอย่างนี้ เราจะให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 หรือสมเด็จพระนางเจ้าพระราชินี ในรัชกาลที่ 10 ขึ้นศาลแล้วก็เป็นโจทก์ฟ้องคนที่มาหมิ่นประมาทพระองค์ท่านหรือ ไม่มีทาง พระองค์ท่านมีพระเมตตา และพระองค์ท่านไม่อยากยุ่ง อยากจะด่าฉัน ก็ด่าไป ฉันทำหน้าที่ดูแลประชาชน เอาความเป็นธรรมให้กับแผ่นดิน
อังกฤษจะต่างกับเมืองไทยตรงนี้ ตรงที่อังกฤษมีกฎหมายนี้จริง The Treason and Felony Act, 1848 แต่อังกฤษไม่เคยเอามาใช้ แต่ว่าราชวงศ์อังกฤษเอามาใช้ด้วยตัวเอง ก็คือเอาไปฟ้องด้วยตัวเอง แต่ถ้าประเทศไทยจะมาฟ้อง คงจะไม่ได้ล่ะ เพราะฉะนั้นแล้ว อย่างไรก็ตาม 112 ก็ยังคงจะต้องมีอยู่เหมือนเดิม
ท่านผู้ชมครับ ผมเคยพูดไปแล้วว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระองค์ท่านไม่อยากให้มีการใช้มาตรา 112 ดำเนินคดีกับกลุ่มละเมิดสถาบัน รัฐบาลก็วอนให้พวกนี้หยุดพฤติกรรมอย่างนี้ได้ไหม ที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าในหลวง รัชกาลที่ 10 ทรงมีพระเมตตา ไม่ให้ดำเนินคดีมาตรา 112 ไอ้พวกนี้ได้ใจใหญ่ จงใจยั่วยุ สร้างเรื่องเท็จ ข้อความเท็จ แฮชแท็กคุกคาม หมิ่นประมาท เขียนการ์ตูนล้อเลียน แต่งกายล้อเลียน ตัดต่อภาพ ข่มขู่ สาปแช่ง ปราศรัยหมิ่นประมาท
เรียกว่าเอากันทุกรูปแบบ หลักฐานเกลื่อนโซเชียล มีคนส่งรูปแบบเรื่องราวต่างๆ มาให้รายการผมมากมาย มากจนทุกคนเห็นว่าการกระทำเช่นนี้ เด็ก เยาวชน และคนที่อยู่เบื้องหลัง ไม่ได้มีเป้าประสงค์ในการวิพากษ์วิจารณ์อย่างสุจริตหรือสร้างสรรค์ หรือต้องการปฏิรูปแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย แต่ต้องการล้มล้างผ่านวิธีการยั่วยุด้วยวิธีหยาบช้า โดยหวังจะให้เกิดความรุนแรง เกิดการใช้กำลังในการปราบปราม และหวังลึกๆ ว่าต่างชาติจะเข้ามาแทรกแซงตามฮ่องกงโมเดล ท่านผู้ชมที่อยู่ในวงการโซเชียลมีเดีย ก็คงจะเห็นรูปต่างๆ เหล่านี้
ท่านผู้ชมครับ มีข่าวชิ้นหนึ่งที่ผมไม่พูดไม่ได้ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2563 ประมาณเกือบหนึ่งเดือนที่แล้ว โรงแรมแมริออท สุขุมวิทพาร์ค ได้มีการสัมมนาครั้งที่ 3 เวทีนักคิดดิจิทัล จากรุ่นแอนะล็อก สู่ยุคดิจิทัล ว่าเราจะลดช่องว่างการสื่อสารด้วยความจริงใจและความงามได้อย่างไร จัดโดยภาคีโคแฟค ประเทศไทย สถาบันเชนจ์ฟิวชั่น มูลนิธิฟรีดริช เนามัน สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าในการสัมมนาครั้งนั้น ในตอนหนึ่ง คุณอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ผมตั้งให้เป็นหนึ่งในแกนนำม็อบปลดแอก รุ่นที่สอง มีคนถามว่า มาตรา 112 จะเอาอย่างไร คุณอานันท์ ตอบอย่างนี้ นี่คือคำพูดของคุณอานันท์ ปันยารชุน
"มาตรา 112 คุณจะเขียนอย่างไรก็ได้ แต่จะต้องไม่เป็นคดีอาญา คือไม่มีการลงโทษ และเป็นคดีแพ่ง มีค่าปรับเท่านั้น และไม่ใช่ปรับในอัตราที่สูงเกินไป ต้องวางหลักเกณฑ์แน่นอนว่าอยากเห็นอะไร อีกหลายมาตราก็ต้องปรับปรุงกันไป ..."
คุณอานันท์ ผมไม่รู้ว่าคุณจบที่เคมบริดจ์ หรือออกซฟอร์ด ไม่รู้นะ แต่ผมว่าคุณนี่โชว์โง่มากๆ เลย ต้องขอโทษ คุณเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ แต่ต้องพูดอย่างนี้ ความจริงผมยังมีเรื่องของคุณจะพูดอีกหลายเรื่องนะ ในชีวิตที่คุณสร้างวีรกรรมเอาไว้ แต่ประชาชนคนไทยไม่รู้ แต่ผมรู้ คุณอานันท์ "เป็นคดีแพ่ง มีค่าปรับเท่านั้น และไม่ใช่ปรับในอัตราที่สูงเกินไป" คุณอานันท์ คุณบ้าหรือเปล่า ถ้าอย่างนั้นไอ้เพนกวินก็ออกไปเที่ยวด่าพระเจ้าอยู่หัว แล้วก็โดนปรับ ปรับไม่สูง 1 แสน เดี๋ยวมีคนควักจ่ายให้ 1 แสนบาท ยัยรุ้งมาด่าพระราชินี ก็โดนปรับอีก 1 แสน คนโน้นคนนี้ด่า คุณบ้าไปแล้ว คุณอานันท์
เพราะฉะนั้นแล้ว ข้อเสนอของคุณอานันท์ ถือว่าสอดคล้องและเป็นการสนับสนุนต่อข้อเสนอของคุณปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคก้าวหน้า ที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านั้นว่า กฎหมายหมิ่นประมาททั้งระบบควรให้เหลือแค่โทษทางแพ่ง คุณอยากจะเปลี่ยนกฎหมายอาญา เป็นแพ่ง คุณไปเปลี่ยนกฎหมายคดีเช็ค คดีเช็ค ควรเป็นคดีแพ่งมานานแล้ว ไม่ใช่คดีอาญา แต่ไม่ใช่เรื่องนี้
เพราะฉะนั้นแล้วคุณจะเห็นว่าหลายๆ คนซึ่งผมประหลาดใจมาก คนอย่างคุณอานันท์ ปันยารชุน ยังมีความคิดแบบนี้ ทั้งๆ ที่ตัวเองนั้นเคยเป็นประธานกรรมการธนาคารไทยพาณิชย์ มิน่าถึงถูกปลดออกมา เหมือนกับว่าจะมีคนรู้ขี้รู้ไส้คุณอานันท์ ปันยารชุน
ท่านผู้ชมครับ วันนี้ 112 จัดชุดใหญ่ให้ ท่านผู้ชม คลิปนี้แชร์ไปให้เยอะๆ แล้วจะไม่มีวันล้าสมัย ตอบโจทย์ได้หมดทุกคำถาม แล้วก็ฉีกหน้ากากคนที่ไม่เคยมีใครคิดว่าเป็นคนอย่างนี้
ท่านผู้ชมครับ ก่อนที่ผมจะเข้าไปสู่เรื่องโควิดที่ระบาด กำลังจะเป็นระลอกที่สองหรือไม่ในประเทศไทยนั้น ขออัปเดตเรื่องราวโควิดในโลกนี้ให้ฟังสักนิด มันมีหลายประเด็นซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก และผมอยากให้ท่านผู้ชมรับรู้เอาไว้ว่า โควิด-19 นั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะร้ายแรงมาก และไม่ใช่เรื่องกระจอก
พูดถึงเรื่องโควิด-19 กระจอกนั้น ผมต้องช่วยท่านรองนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล แก้ข่าวนิดหนึ่ง ไม่มีใครมาให้ผมแก้ข่าวหรอกครับ แต่ผมฟังท่านพูดแล้ว และผมเคยมีความเห็นไป ผมอยากจะชี้แจงให้ท่านผู้ชมฟังนิดหนึ่งว่าท่านรองนายกฯ อนุทิน หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนั้น จริงๆ แล้วคำว่า โควิดกระจอกนั้น ผมเข้าใจว่า เขาคงไม่ได้หมายความว่ามันกระจอกจริงๆ แต่นัยของเขาก็คงจะหมายความว่า สำหรับโควิดแล้ว ถ้ามาเมืองไทยแล้วใครเป็นโรคโควิด-19 แล้ว กระจอกสำหรับสาธารณสุขเมืองไทย เพราะว่ารักษาได้ เพราะหมอไทยเก่งมาก ผมคิดว่านัยของคุณอนุทิน อยู่ตรงนี้มากกว่า ไม่ได้หมายความว่า อย่าไปสนใจเลย โควิด กระจอก คงไม่ใช่อย่างนั้น แต่เผอิญท่านอนุทิน ท่านเป็นคนที่หนุ่มน้อยไฟแรง ตอนนี้ท่านกลายเป็นรองนายกรัฐมนตรีคนเดียวในประเทศไทยที่กลายเป็นเกรียนคีย์บอร์ดไปแล้ว ท่านไม่ทำอะไรแล้ว ท่านตอบโต้พวกคนที่มาคอมเมนต์ท่าน ผมก็อยากจะเตือนสติท่านนิดหนึ่ง ว่าอย่าไปจริงจังอะไรกับมันมากนัก ท่านเป็นบุคคลสาธารณะ เขาจะพูดจาจริงหรือไม่จริง ก็ไม่เป็นไร อะไรที่ละเลยได้ ก็ละเลยไป
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2563 นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ได้เข้าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่รัฐเดลาแวร์ บ้านเกิดของเขา โจ ไบเดน ได้พูดออกมาประโยคหนึ่งซึ่งสำคัญมาก ท่านผู้ชมลองฟังดูนะครับ ขอประทานโทษ ผมขออนุญาตพูดเป็นภาษาอังกฤษ เป็น speech หรือเป็นคำพูดของท่านโจ ไบเดน แล้วค่อยแปลเป็นภาษาไทยให้ฟัง ท่านพูดอย่างนี้ครับ
"One thing I promise you about my leadership during this crisis, I'm going to tell it to you straight. I'm going to tell you the truth. And here's the simple truth. Our darkest days int the battle against COVID are ahead of us, not behind us."
ไบเดน พูดที่เมืองวิลมิงตัน เดลาแวร์ แปลออกมาเป็นไทย ว่า "สิ่งหนึ่งที่ผมให้คำมั่นสัญญากับคุณเกี่ยวกับการเป็นผู้นำของผมในช่วงวิกฤต ผมจะพูดความจริง พูดกับคนตรงๆ และนี่คือความจริงที่ธรรมดาสามัญที่สุด นั่นคือวันเวลาที่มืดมิดที่สุดในการต่อสู้กับโควิดนั้น ยังมาไม่ถึง เรายังไม่ได้ก้าวผ่านมันไป เขาพูดวันที่ 22 ธันวาคม 2563 หนึ่งวันหลังจากเขารับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโรคโควิดของบริษัทยา ไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค
คำปราศรัยของโจ ไบเดน ถือว่าสะท้อนภาพความเป็นจริงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดในโลกและในอเมริกาได้อย่างชัดเจน ถึงแม้ว่านักวิทยาศาสตร์จากทั่วทุกมุมโลกจะพยายามทยอยคิดค้นวัคซีนออกมาแล้ว ได้รับอนุมัติจาก อย.ของแต่ละประเทศและเริ่มดำเนินการฉีด ไม่ว่าจะเป็นไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค จากอเมริกาและเยอรมนี โมเดอร์นา จากสหรัฐฯ สปุตนิก ไฟว์ (Sputnik V) จากรัสเซีย ซิโนแวค และซิโนฟาร์ม จากจีน
ตอนนี้ท่านผู้ชมรู้ไหมครับว่าสถานการณ์ติดเชื้อโควิด-19 สะสมคนทั่วโลก ปัจจุบันนี้ แตะ 80 ล้านคนแล้ว และเสียชีวิตไปแล้วกว่า 1.7 ล้านคน ท่านผู้ชมครับ จำนวนคนที่ติดเชื้อนั้น เพิ่มขึ้นวันละ 6-7 แสนคน ตายไปวันละหมื่นคน ด้วยเหตุนี้นักระบาดวิทยาจึงคาดการณ์ว่าภายในเดือนมกราคม คือเดือนหน้านี้ 2564 ประชากรโลกจะเสียชีวิตจากเชื้อโควิดนี้ ถึง 2 ล้านคน โดยมี 3 ประเทศจะเป็นคนนำในการเสียชีวิต คือ อเมริกา อังกฤษ และรัสเซีย ครองที่ 1 ที่ 2 และที่ 3
แต่ที่มันช็อกโลกอีกเรื่องหนึ่ง เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ก็คือว่า กันยายนที่ผ่านมานี้ ในอังกฤษได้มีการตรวจพบเหตุการณ์โควิด-19 กลายพันธุ์ หรือที่เขาเรียกว่าสายพันธุ์ราชอาณาจักร ภาษาอังกฤษเรียกว่า UK Variant มีรหัสว่า VUI-202012/01 การกลายพันธุ์ของโควิดตัวนี้มีหลักฐานว่า แพร่ระบาดเชื้อได้ง่ายและรวดเร็วกว่าเดิมถึง 70 เปอร์เซ็นต์ แปลว่าอะไรท่านผู้ชม ? แปลว่าถ้าเชื้อตัวนี้เริ่มกระจายออกจากอังกฤษ แล้วไปทางยุโรป และในที่สุดมาทั่วโลกแล้ว ปริมาณคนที่ติดโควิด จะติดเร็วขึ้นกว่าเก่าอีก 70 เปอร์เซ็นต์ ปกติธรรมดาแล้ว เชื้อโควิดจากพม่ามาประเทศไทยนั้น เป็นสายพันธุ์ตะวันตก ซึ่งจะกระจายพันธุ์แล้วทำให้คนติดได้มากกว่าเชื้อปกติธรรมดา 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ของอังกฤษ ตัวใหม่นี้ เร็วกว่าเดิมอีก 70 เปอร์เซ็นต์ น่ากลัวมากนะครับ
เหตุการณ์นี้ทำให้นายบอริส จอห์นสัน ถึงกับประกาศยกระดับการใช้มาตรการควบคุมการระบาดขั้นที่ 4 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม เมื่อ 5 วันที่ผ่านมา บังคับใช้กับกรุงลอนดอน และบางส่วนของอังกฤษ กรุงลอนดอนกลายเป็นเมืองร้างไปอีกครั้งหนึ่งแล้ว ไม่มีรถวิ่ง ร้านค้าปิดหมด การยกระดับนี้่ นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศว่าจะมีผล 2 สัปดาห์ จะทบทวนอีกครั้งในวันที่ 30 ธันวาคมนี้ แล้วก็ยกเลิกแผนผ่อนปรนมาตรการจัดงานเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลคริสต์มาสสำหรับประชาชนหลายล้านคน ให้จัดกันภายในครอบครัวกันเอง ไม่ใช่มีการจัดงานปาร์ตี้ คริสต์มาสปาร์ตี้ นายกรัฐมนตรีอังกฤษบอกว่า การแพร่ระบาดที่กำลังเกิดขึ้นนั้น มีสาเหตุจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่
ท่านผู้ชมครับ สมัยก่อนนี้ จีนค้นพบไวรัสอู่ฮั่น หรือโควิด-19 ที่อู่ฮั่น จากอู่ฮั่น ไม่ถึง 1 ปี ไปแล้วทั่วโลก อุปมาอุปไมย เหมือนประเทศไทย ง่ายๆ จากสมุทรสาคร มหาชัย วันนี้ไปแล้วยี่สิบกว่าจังหวัดในประเทศไทย คำถามมีอยู่ว่า สายพันธุ์ใหม่ในอังกฤษมันจะหลุดออกมาไหม ? ท่านผู้ชมครับ สบายใจได้ หลุดออกมาแน่นอน สบายใจได้ก็คือว่า ให้เตรียมตัวรับมันให้ดีๆ ก็แล้วกัน
เพราะฉะนั้นแล้ว เรื่องนี้ แม้กระทั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษ นายแม็ตต์ แฮนค็อก (Matt Hancock) ยังพูดเลย บอกว่าเกินควบคุมแล้ว เราต้องควบคุมสถานการณ์นี้ให้ได้ แล้วยอมรับนี่เป็นการส่งท้ายปีเก่าอันเลวร้ายที่ยากลำบากจริงๆ ปรากฏว่า ทันทีเลย ทุกประเทศในอียู หลายประเทศในโลกนี้ สั่งห้ามการติดต่อกับอังกฤษ ไม่มีการบินไปอังกฤษ และไม่ให้อังกฤษบินมาที่ประเทศต่างๆ เหล่านี้ ในยุโรปทุกประเทศเป็นเช่นนี้ แม้กระทั่งฮ่องกง ประกาศ เครื่องบินอะไรก็ตามถ้ามาจากอังกฤษ ห้ามเข้าน่านฟ้าฮ่องกงเด็ดขาด ท่านผู้ชมครับ นี่คือสถานการณ์ล่าสุดของโลก ฟังแล้วน่ากลัวไหม ? น่ากลัว ผมฟันธงลงไปได้เลยท่านผู้ชม ว่าสายพันธุ์ใหม่ของอังกฤษต้องมาทางเอเชียแน่นอน เพราะว่าไม่มีใครหยุดยั้งโรคระบาดได้ ไม่มี ถ้าท่านผู้ชมไม่เชื่อ ท่านผู้ชมลองดูคนที่ติดเชื้อโควิดที่มาจากมหาชัย แล้วดูไทม์ไลน์ดูสิครับ หลายคนคิดไม่ถึง เรื่องนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ในขณะเดียวกัน ผมก็เห็นอกเห็นใจคนต้องทำมาหากิน ผมสงสารมาก เพราะฉะนั้นแล้ว เอาเรื่องต่างประเทศให้ชัดเจนก่อน เดี๋ยวผมจะมาต่อในเรื่องเกี่ยวกับในประเทศไทย
โควิดจากตลาดกุ้ง สมุทรสาคร หรือมหาชัย ที่ระบาดออกมานั้น ผมคงไม่ลงไปสู่รายละเอียด เพราะว่าผมเข้าใจว่าท่านผู้ชมคงจะรับทราบรายละเอียดจากสื่อมวลชนอื่นๆ มากพอสมควร แต่เอาเป็นพื้นฐานข้อมูลที่ควรจะรับทราบเอาไว้
ตอนนี้จากมหาชัย มีผู้ติดเชื้อกระจายไป เชื่อมโยงถึง 24 จังหวัดในประเทศไทย เหนือสุดคือเชียงใหม่ ใต้สุดคือสงขลา รวมไปถึงสุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สระบุรี ปทุมธานี อยุธยา นนทบุรี กรุงเทพมหานคร เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ นครราชสีมา สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ชลบุรี และระยอง ท่านผู้ชมครับ น่ากลัวมาก ผมภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้เราเอาอยู่ แต่ว่ามันยังมีอีกหลายประเด็นที่ไม่รู้ว่าเราจะเอาอยู่หรือเปล่า เดี๋ยวผมจะเล่าให้ท่านผู้ชมฟัง
แต่วันนี้ที่จะมาพูด จะมาพูดถึงกระบวนทัศน์และวิสัยทัศน์ของรัฐบาลไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านผู้นำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วันนี้ผมมีความจำเป็นที่จะต้องอธิบายให้ท่านฟัง ว่าผมคิดว่าท่านมีข้อบกพร่องตรงไหนบ้าง ผมรู้ว่าท่านเป็นคนที่ไม่ค่อยฟังความคิดเห็นของใครหรอก ท่านเชื่อมั่นในตัวท่านเองสูง แต่ขออนุญาตท่านนิดหนึ่ง ว่าหลายๆ เรื่องที่เกิดขึ้นมา จนกระทั่งปัจจุบันนั้น เป็นเรื่องที่ท่านไม่ได้ตั้งใจ แต่เป็นเรื่องที่ท่านละเลยไป
ท่านผู้ชมครับ ก่อนที่จะเข้าไปสู่ตรงนี้ ผมจะชี้ให้เห็นถึงความเป็นสองมาตรฐานของผู้นำไทย เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ท่านตำหนิท่านผู้ว่าฯ วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ว่า "ตอบได้หรือไม่ว่าสาเหตุการแพร่ระบาดคืออะไร ? ทำไมถึงเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น ? เนื่องจาก จ.สมุทรสาคร ไม่มีการติดเชื้อมาสองร้อยกว่าวัน แต่อยู่ดีๆ กลับมีการติดเชื้อที่ตลาดกลางกุ้ง" ท่านผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ผมไม่รู้จักท่าน แต่ผมคิดว่าการติดเชื้ออยู่ เกิดขึ้นมา ไม่ใช่ความผิดของท่านผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เพราะมันเกิดขึ้นจากแรงงานต่างด้าวที่ถูกละเลย ในการเข้าเมือง มีทั้งที่ถูกกฎหมายและที่ผิดกฎหมาย รวมไปจนถึงความเป็นอยู่ของแรงงานต่างด้าว ซึ่งอยู่ราวกับหมูราวกับหมา เหมือนกับเขาไม่ใช่คน ท่านผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ท่านทำได้ดีที่สุดแล้ว พอท่านรับทราบปัญหา ท่านก็จัดการทันทีเลย คือท่านปิดตลาดมหาชัย แล้วท่านสั่งปิดจังหวัดสมุทรสาคร
ท่านผู้ชมตามผมมานิดหนึ่ง ท่านผู้ชมจำได้หรือเปล่าว่า เมื่อไม่นานมานี้เอง มีคาราโอเกะที่อยู่ฝั่งท่าขี้เหล็ก อยู่ติด อ.แม่สาย แล้วมีผู้หญิงที่ทำมาหากิน ออกไปที่นั่น แล้วปรากฏว่ามีการแพร่ระบาดเชื้อโควิดเข้ามา สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือว่า ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ท่านไม่โดนตำหนิอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
อาจจะเป็นเพราะว่าท่านเป็นลูกรัก หรือคนสนิทของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ซึ่งเป็น ป.ปลา สามพี่น้อง ประวิตร อนุพงษ์ และประยุทธ์ ก็ในเมื่ออยู่ในลักษณะแบบนี้ ก็เลยไม่โดนวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งๆ ที่โดยพื้นฐานในข้อเท็จจริงแล้ว ท่านผู้ว่าฯ เชียงราย นอกจากควรถูกตำหนิแล้ว ยังจะต้องควรถูกย้ายเสียด้วยซ้ำ ทำไมล่ะ ท่านผู้ชมจำได้ไหมว่าผมเคยออกรายการนี้ไป เพราะท่านผู้ว่าฯ เชียงรายท่านนี้ ท่านเป็นคนแม่สาย ท่านเป็นอดีตปลัดอำเภอแม่สาย ท่านเป็นผู้ว่าฯ จังหวัดเชียงราย อดีตเคยรับราชการอยู่ที่ อ.แม่สาย ซึ่งอยู่ติดกับท่าขี้เหล็ก ผู้กำกับโรงพักแม่สาย ที่ จ.เชียงราย ผู้การจังหวัดเชียงราย จะไม่รู้เชียวหรือว่ามีการลักลอบขนคนข้ามเข้ามา เข้า-ออกตรงด่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก รู้อยู่แล้วท่านผู้ชม แต่ก็ยังปล่อยให้เกิดเหตุขึ้นมา ปรากฏว่าไม่มีใครไปยุ่งเลยแม้แต่นิดเดียว
ท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประธาน ก.ตร. แทนที่จะลงดาบ หรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข จอมหลบ ฉายาที่นักข่าวอาชญากรรมเขาตั้งให้ แทนที่จะออกไม้เด็ด เด็ดขาด สั่งย้ายผู้กำกับ อ.แม่สาย รวมถึงย้ายท่านผู้การจังหวัดเชียงรายด้วย ท่าน พล.อ.อนุพงษ์ น่าจะสั่งย้ายผู้ว่าฯ จังหวัดเชียงราย ด้วย ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ท่านผู้ชม ไม่มีแม้กระทั่งคำตำหนิติเตียน ไม่มีแม้กระทั่งท่านนายกรัฐมนตรีทำวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ไป แล้วก็ถามท่านผู้ว่าฯ จังหวัดเชียงราย เหมือนที่ท่านถามท่านผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ว่า คุณไม่รู้เชียวหรือ คุณเคยเป็นถึงปลัดอำเภออยู่ที่แม่สาย และคุณเป็นคนแม่สาย คุณไม่รู้เชียวหรือว่าแม่สายมีการลักลอบเข้ามาแบบนี้ ไม่มี กลับมาเล่นท่านผู้ว่าฯ จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งทำงานดีมากๆ เต็มที่ ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง ตรงนี้ต่างหากที่ผมกำลังจะพูดกับท่านผู้ชมให้เห็น
ท่านผู้ชมครับ ถ้าผมถามท่านผู้ชมที่มีจิตใจเป็นธรรม ไม่เข้าข้างใคร ท่านผู้ชมคิดว่าคนที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทย คนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รับรู้ และต้องมีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง จะมีอยู่ 3-4 สาขาอาชีพ ท่านผู้ชมคิดเหมือนผมไหมว่า ตำรวจรู้เรื่องแน่ ปกครองรู้เรื่องแน่ ทั้งนายอำเภอ ทั้งปลัดอำเภอ ทหารรู้เรื่องด้วย แต่ทหารอาจจะเป็นประเภทตามน้ำ อีกอันหนึ่งที่ต้องรู้เรื่องด้วย คือ กระทรวงแรงงาน ท่านผู้ชมครับ ที่น่าเสียใจคือ ผู้ใหญ่ในรัฐบาลบางคน ยังไม่ทันไรเลย ออกมาบอกว่า ไม่มีข้าราชการ ไม่มีโน่นนี่นั่น ไม่มีใครเกี่ยวข้องเลย แต่เมื่อวานนี้ท่านรองฯ วิษณุ ท่านออกมาบอกว่า ข้าราชการเกี่ยวข้อง ก็หน้าแตกไปตามๆ กัน
ท่านนายกฯ ครับ เมื่อไรพวกท่านจะยุติการปกป้องข้าราชการประจำกันเสียที ของท่านเป็นอย่างนี้มานานแล้ว พอมีเรื่องเกิดขึ้นมา ท่านก็บอกทันทีเลยว่า มีแต่คนชั่ว คนชั่วอย่างไรก็ชั่วอยู่ แล้วหาคนชั่วให้เจอ เท่านั้นล่ะ โอเคมั้ย ? ไม่โอเค!!! ท่านนายกฯ ไม่โอเค ที่ไม่โอเค เพราะอะไร ? ท่านเป็นประธาน ก.ตร. ท่านคุม ผบ.ตร. ตำรวจเกี่ยวข้องด้วย 100 เปอร์เซ็นต์ นั่นล่ะคือสิ่งที่ผมไม่โอเค ท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ท่านคุมทหาร ผมไม่โอเค เพราะว่าทหารบางส่วนรับรู้ รับทราบ และสุดท้ายที่สุด ผมไม่โอเคอย่างมาก ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านต้องกล้าตัดสินใจ
ท่านนายกฯ ครับ ท่านจำเรื่องบอส วรยุทธ อยู่วิทยา ได้ไหม ? ถ้าท่านจำได้ ท่านจำได้ไหมวันนั้นท่านฟาดงวงฟาดงา ทั้งๆ ที่ท่านควรจะฟาดงวงฟาดงามาตั้งนานแล้ว แต่พอเรื่องมันแตกขึ้นมา เรื่องมันดังขึ้นมา สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นมาถามผู้กำกับโรงพักทองหล่อ ว่าคดีของบอส อยู่วิทยา เป็นอย่างไร ผู้กำกับบอกว่า เขาสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว เรื่องถึงปะทุออกมา แล้วท่านก็โกรธ ท่านอธิบายโน่นอธิบายนี่ ท่านผู้ชมครับ วันนี้ท่านผู้ชมได้ข่าวอะไรบ้างไหม ว่าเรื่องของบอส อยู่วิทยา นั้น ท่านรองอัยการสูงสุดไปถึงไหนแล้ว ? แล้วคนที่เกี่ยวข้องด้วย อยู่ในกระบวนการทั้งหลาย ซึ่งบางคนก็เป็นอดีต สนช. บางคนยังเป็น ส.ว.อยู่ปัจจุบันนี้ ท่านนายกฯ ครับ ท่านลูบหน้าปะจมูกเรื่องต่างๆ เรื่องนึ้มานานแล้ว แต่ถ้าเป็นพวกท่าน ท่านไม่แตะต้อง ท่านนายกฯ ครับ วันนี้เรื่องบอส อยู่วิทยา ทุกคนเงียบไปหมดแล้ว ไม่มีใครพูดสักคน ไม่มีใครพูดเลย เมื่อไม่มีใครพูดเลย แล้วมันหายไปไหนท่านนายกฯ ? เรื่องส่งไปที่ ป.ป.ท. ป.ป.ท. ก็ไม่แถลง ประชาชนกำลังตามอยู่ว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร มีใครผิดบ้าง ? ใครบ้างที่เข้าไปเจอ ผู้บัญชาการตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ใครบ้างที่เข้าไปยืนยันว่าได้พบ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่นั่น ซึ่งมาเป็นตัวแทนของนายบอส วรยุทธ อยู่วิทยา หลักฐานมีหมด รายงานของท่านวิชา มหาคุณ มีหมด แต่เรื่องเงียบ แล้ววันนี้ท่านนายกฯ มาโวยวายในเรื่องของขบวนการลักลอบขนคนเข้ามา
คุณดำรง พุฒตาล ได้ออกเฟซบุ๊กมา ผมอ่าน ผมเชื่อคุณดำรง พุฒตาล ท่านผู้ชมเชื่อตามผมไหม คุณดำรง บอกว่า ตอนนี้ค่าขนส่งแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศไทย หัวละหมื่นบาท พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ยอมรับว่ามีอยู่ 4 แสนคน ในบรรดาคนต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทย 2.5 ล้านคน ที่เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ถามว่า 4 แสนคน คูณ 1 หมื่นบาท ก็คือ 4 พันล้านบาท ใครจ่ายครับ ? ใครเป็นคนจ่าย ? ใครจ่าย ยังไม่สำคัญเท่ากับใครรับ ? ถ้าคนเข้าเมืองผิดกฎหมายเข้าทางแม่สอด จากแม่สอด ล่องมาถึงมหาชัย จะต้องผ่านด่านตรวจกี่ด่าน รับกันทุกด่าน ด่านละเท่าไรๆ ต่อคนต่อหัว
ท่านนายกฯ ครับ แม้กระทั่งคนงานพม่าที่ทำงานบ้าน มารับจ้างดูแลบ้าน เช็ดบ้าน ถูบ้าน พอถึงวันหยุด ก็เดินออกไปเที่ยวสวนหลวง ร.9 พอไปเที่ยวสวนหลวง ร.9 ปั๊บ เจอตำรวจ ตำรวจขอดูใบโน่นใบนี่ แล้วตำรวจก็ไถเงินเขาอีก ท่านนายกฯ ไม่รู้ใช่ไหมครับว่ามีเรื่องพวกนี้เกิดขึ้น มีทุกเรื่อง อะไรที่เป็นแรงงานต่างด้าว เสียเงินเสียทองหมด คนที่เขาเข้าคิวกันเพื่อจะยื่นเรื่องเพื่อที่จะให้อนุมัติในการจ้างพม่าเข้ามา เพื่อมาดูแลลูกเขา เพื่อมาดูแลเขา เข้าแถวคิวยาวเหยียดเลย แต่เจ้าของโรงงานถือแฟ้มมา 200 แฟ้ม
เดินเข้าไป แล้วก็ส่งเข้าไป ถูกแซงคิวเข้าไป ถามว่าเจ้าหน้าที่กรมแรงงานรับเงินรับทองไหม ? รับ ท่านผู้ชม ท่านนายกฯ รับเงินรับทอง แล้วคุณสุชาติ ชมกลิ่น เสี่ยเฮ้ง อยู่เป็นรัฐมนตรีฯ กระทรวงแรงงาน ท่านไม่ทราบเลยหรือว่าโรงงานทั้งหมดในประเทศไทย ที่จะต้องใช้แรงงานต่างด้าว ใครบ้าง ท่านไม่รู้เลยหรือว่าที่มหาชัยนั้นมีแรงงานต่างด้าวกี่คน
ท่านผู้ชมครับ ท่านนายกฯ ครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องตลกร้าย ผมไม่อยากจะพูดว่ามันตลกบัดซบ สรุปง่ายๆ เรื่องนี้ท่านผู้ชมเชื่อไหม เมื่อฟังเหตุการณ์แล้ว ประเทศไทยมีขบวนการค้ามนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แล้วเวลาเราเป็นผู้นำประเทศ เราต้องมีวิสัยทัศน์ เราต้องมองไกลไปกว่าหัวแม่เท้าเรา เราต้องมองอย่างไร ท่านผู้ชมจำได้หรือเปล่า ผมพูดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว หรือสองอาทิตย์ที่แล้ว ผมบอกว่า พม่าเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว มีคนติดเชื้ออยู่ 400-500 กว่าคน พอมาวันนี้พม่ามีคนติดเชื้อประมาณแสนคนแล้ว คนเราต้องดูออกสิ ว่าพม่ามีพรมแดนติดเรา 2,200 กิโลเมตร แล้วประเทศไทยต้องใช้แรงงานพม่าเยอะ แล้วเราปิดประเทศตอนนั้นเนื่องจากโควิด-19 แรงงานก็ออกไปนอกประเทศ เมื่อออกไปนอกประเทศเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาจะต้องกลับมาทำงาน เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่มีกิน และประกอบกับพม่าติดโควิดเยอะมาก จากสี่ร้อยกว่าคน กลายเป็นแสนคน จะต้องมีการทะลักเข้ามา รัฐบาลต้องเตรียมตั้งรับ ต้องตั้งรับให้มีเหตุให้มีผล ให้เข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
กรมแรงงานจะต้องชัดเจนเลยว่า โรงงานไหนที่มีแรงงานต่างด้าวที่ไม่ได้จดทะเบียน ต้องเล่นงานทันที แล้วจับพวกนี้มาจดทะเบียน แล้วปรับเจ้าของโรงงานไปหนักๆ เลย เพื่อทำให้ถูกกฎหมาย เราจะได้รู้ว่ามีใครบ้างอยู่ในประเทศเรา แล้วท่านนายกฯ เชื่อหรือเปล่าว่า ตำรวจในพื้นที่ ในท้องที่ รับเงินทั้งนั้น เจ้าของโรงงานมีแรงงานกี่คนล่ะ จ่ายต่อหัวเลย หัวละเท่าไร ใครๆ ก็รู้ ท่านนายกฯ แล้วท่านนายกฯ พูดว่าอย่างไร คนชั่ว ยังไงมันก็ชั่ว มันมีอยู่แล้ว และมันหาได้ หาไม่ยาก เป็นเพียงแต่ว่าท่านจะกล้าพอที่จะเด็ดขาดได้ไหม ท่าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล้าพอจะเด็ดขาดได้ไหม ท่านนายกฯ ท่านเป็นประธาน ก.ตร. เมื่อ ผบ.ตร.คนนี้ทำผิดขนานใหญ่ ในการที่ปล่อยให้ม็อบสามนิ้วไปชูนิ้วกลางให้ขบวนเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 10 ท่านก็ย้ายเฉพาะปลาซิวปลาสร้อยระดับรองผู้บัญชาการ ท่านนายกฯ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่รู้เชียวหรือ อย่ามาโกหกผม อย่ามาโลกสวยกับผมท่านนายกฯ ว่ามันมีขบวนการนี้อยู่ แล้วทำไม (มึง) ไม่จัดการเสียที แล้วมาทำเป็นรายงาน (กู) เมื่อมีเรื่องขึ้นมา ว่าพอทราบแล้วว่าใครเป็นใคร (มึง) มาบอกนี่ช้าเกินไปหรือเปล่า เพื่อนเอ๊ย! ท่านตั้งผิดคนหรือเปล่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนนี้
นักข่าวน่ะ เขาไม่ได้ซี้ซั้วหรอก เขาดูออกว่าชอบหลบ ท่านนายกฯ ท่านปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ไม่ได้ เพราะท่านเป็นประธาน ก.ตร. ท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านจะพูดเฉยๆ ว่า ไอ้คนชั่ว ยังไงก็มีคนชั่วอยู่ ต้องหาคนชั่วให้เจอ โอเคมั้ย? ไม่โอเคครับ! ไม่โอเคเลยท่านนายกฯ ไม่โอเคเลยจริงๆ ผมจะบอกให้ท่านรู้ ไม่โอเคอย่างมาก เพราะท่านไม่จริงจังกับมัน ท่านพูดเก่ง โอเคมั้ย เดี๋ยวจัดการให้ๆ บอส วรยุทธ อยู่วิทยา ท่านจัดการให้ แล้วเกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้นท่านก็เรื่องข้อแก้ตัวของท่านไปเรื่อยๆ
วันนี้ต้องอธิบายให้ท่านฟัง ผมไม่โอเคครับ ท่านผู้ชมโอเคกับผมไหม ? ผมรู้ว่าท่านผู้ชมหลายท่านชอบท่านนายกฯ แต่วันนี้ไม่ใช่เรื่องความชอบหรือไม่ชอบแล้ว เป็นเรื่องของชาติบ้านเมือง
ท่านผู้ชมคิดว่า 27 จังหวัด ที่เชื้อโรคนี้แพร่กระจายไป สนุกหรือ ? ร้านค้าปิดกัน ร้านอาหารทะเล เจ๊ง ฉิบหายวายป่วงหมด ชาวบ้านนั่งกันน้ำตาตกใน ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าหน่วยงานราชการทำงานไม่เป็น ทำงานไม่จริงจัง แล้วบางส่วนรับเงินรับทอง ให้คนที่ผิดกฎหมายเข้ามา แล้วเราจะปฏิเสธเขาได้อย่างไร ประเทศเราต้องการแรงงานพม่า ต้องการหรือเปล่า ? ต้องการ ไม่ใช่ว่าไม่ต้องการ อย่ามาปฏิเสธความจริง อย่าเอาความเชื่อมาชนะความจริง เมื่อเราต้องการ ทำไมเราไม่ทำให้มันถูกมากกว่าเดิม แต่เราไปสร้างเงื่อนไขเพื่อให้เจ้าหน้าที่มันรับเงินรับทองกับคนนำเข้า แรงงานพม่าถูกรับประทาน ทำมาหาแดกทุกขั้นตอน แล้ววันนี้เราไปโกรธพม่า ไม่ให้ข้าวกิน แล้วเขาอยู่กันแออัดตรงตึกแถว แถวๆ ตลาดกุ้ง จะตายกันอยู่แล้วทุกวันนี้ ถ้าเกิดมันปะทุขึ้นมา เกิดจลาจลขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ อ้ายอีทั้งหลายที่รับเงินรับทองมา แรงงานพม่าเราต้องการเท่าไร โรงงานต้องการเท่าไร กระทรวงแรงงานไม่รู้เชียวหรือ หรือเพียงเพราะว่าคุณขับไล่คนโน้นคนนี้ออก แล้วคุณเข้ามานั่งแทน เสี่ยเฮ้ง คุณไม่มีปัญญาจะรู้เลยหรือว่าโรงงานทั่วประเทศไทยที่ต้องใช้แรงงานพม่า มีกี่โรง คุณเช็กไม่ได้เลยหรือ กดคอมพิวเตอร์ได้ไหม ว่าอุตสาหกรรมปลาที่ต้องใช้แรงงานพม่า หรือแรงงานต่างด้าวนั้น มีกี่โรงงาน แต่ละโรงงานต้องการคนเท่าไร จำเป็น ก็ให้เขาไป ถ้าคุณจะคิดต่อหัวเท่าไร เอาเงินเข้ากองกลาง เอาเงินเข้ารัฐ หรือเป็นค่าสวัสดิการ เป็นค่าบริการพิเศษ เพื่อให้เจ้าหน้าที่แรงงานตั้งใจทำงานกัน แล้วเอาเงินกองกลางนี้ เหมือนกับกรมที่ดิน ที่เวลาท่านเข้าไปท่านต้องเสียเงินอีกก้อนหนึ่ง แต่เงินก้อนนั้นไม่ได้เป็นเงินก้อนใหญ่ เขาเอาไว้ในกล่องตรงกลาง แล้วเอาเงินก้อนนี้มาเป็นสวัสดิการของเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน อย่างนี้พอรับได้ แต่ไปเปิดโอกาส ปรากฏว่าแรงงานพม่ามีนายหน้าหมดทุกคน แล้วนายหน้านี่ พนันกับผมไหม มันมีสายสัมพันธ์กับกรมแรงงาน
มีบ้างไหมโรงงานที่มีแรงงานพม่า ท่านายกฯ ครับ มีไหมครับที่ไม่ได้จ่ายรายหัวให้กับเจ้าหน้าที่ ขึ้นอยู่กับว่า จ่ายกับใคร จ่ายกับตำรวจ เอาตำรวจมาสาบานกับผมไหม ตำรวจที่อยู่มหาชัย หรือตำรวจที่อยู่แม่สาย สาบานไหมว่าผมไม่เคยได้รับเงินทองจากแรงงานพวกนี้เลย ท่านนายกฯ ครับ ท่านหยุดโลกสวยได้แล้ว ท่านเดินออกจากทุ่งลาเวนเดอร์มาสิ แล้วท่านจะเห็นขยะเต็มไปหมดเลย นั่นคือประเทศไทย ท่านปิดพวกนี้ได้ไม่นานหรอกครับ แล้วท่านก็อยู่ในตำแหน่งนี้ ท่านไม่ใช่อมตะ ผมจำเป็นต้องพูด อะไรถ้ามันถูก ผมเห็นด้วย ผมสนับสนุนท่าน ผมออกมาต่อสู้กับเด็กสามนิ้ว ก็เพราะว่าเด็กมันก้าวร้าว เด็กมันผิด ผมต่อสู้ ท่านไม่ได้ขอผม แต่วันนี้ผมจำเป็นที่จะต้องบอกว่าท่านทำผิดอย่างมหันต์หลายๆ เรื่อง เมื่อไรท่านถึงจะตื่นเสียทีท่านนายกฯ ท่านเปลี่ยนสไตล์ของท่านได้แล้ว ท่านคิดถึงคนที่ฉิบหายพวกนี้สิ ชาวบ้านที่ลำบาก เดือดร้อนในการทำมาหากิน เพียงเพราะว่าคนของท่านคือข้าราชการประจำ ผมสังเกตมานานแล้ว ถ้าไม่ใช่เรื่องการเมืองแล้ว ถ้าเป็นเรื่องอะไรที่ผิด ท่านจะปกป้องข้าราชการประจำ
แค่ฟังคำพูดก็รู้แล้ว "ไอ้คนชั่ว ยังไงมันก็มีคนชั่วอยู่ ก็หาคนชั่วให้เจอแค่นั้นแหละ โอเคไหม" แล้วท่านให้ใครไปหาคนชั่วล่ะ เผลอๆ คนที่ท่านใช้ก็คือคนชั่วเสียเอง
ท่านผู้ชมครับ แค่ลำพังการปฏิบัติต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กับผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เราก็ดูออกแล้วไม่ใช่หรือ ว่ามันเป็นอย่างไร
ท่านนายกฯ ครับ ตรงนี้คือจุดอ่อนที่ฝ่ายตรงกันข้ามกับท่าน เด็กๆ เข้ามาประท้วงท่านว่าความยุติธรรมในประเทศไม่มี แล้วเด็กมันก็ถือโอกาสรับงานของคนที่อยู่เบื้องหลังมัน สอดแทรกการล้มล้างสถาบันกษัตริย์เข้าไปด้วย แต่ถ้าท่านทำงาน ท่านรักษาหลักนิติธรรมได้อย่างดี ท่านลงโทษคนโดยที่ไม่เว้น ท่านให้ความเป็นธรรมกับสังคม ท่านนำความยุติธรรมคืนมาสู่สังคม ท่านนายกฯ ครับ ท่านนำความยุติธรรมคืนมาสู่สังคม ท่านไม่ให้พรรคพวกของท่าน ไปเก็บ ไปกั๊ก ไปกด ดูแค่คดีบอส วรยุทธ อยู่วิทยา ผมก็ดูออก ใครๆ ก็ดูออก ว่าถึงท่านจะไม่พูดอะไรก็ตาม แต่ก็มีนัยแอบชั่วอยู่ห่างๆ ท่านนายกฯ ครับ เลิกพูดเสียทีได้ไหมครับ ท่านช่วยบอกหน่อย ใครก็ตาม พี่น้องท่าน หยุด ยอมรับความจริงเสียที แล้วก็บอกท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า ไม่ต้องมาประกาศว่ากระทรวงมหาดไทยมีของขวัญวันปีใหม่ให้ประชาชน เขาไม่ต้องการหรอกวันนี้ เขาต้องการให้พวกท่านทำงานจริง ไม่ลูบหน้าปะจมูก ท่านทำได้ไหมครับ