ออสเตรเลียจะร่วมพัฒนาขีปนาวุธร่อนไฮเปอร์โซนิก(มีความเร็วเหนือเสียง 5 เท่า) กับสหรัฐฯ ในความพยายามต่อกรกับจีนและรัสเซีย ซึ่งกำลังพัฒนาอาวุธแบบเดียวกัน จากการเปิดเผยของ ลินดา เรย์โนลด์ส รัฐมนตรีกลาโหมในวันอังคาร(1ธ.ค.)
"เราจะเดินหน้าลงทุนในแสนยานุภาพล้ำสมัย เปิดทางให้กองทัพออสเตรเลียมีทางเลือกมากขึ้น สำหรับปัดเป่าการรุกรานผลประโยชน์ของออสเตรเลีย" เรย์โนลด์ส ระบุในถ้อยแถลง อย่างไรก็ตามเธอไม่เปิดเผยเกี่ยวกับต้นทุนโครงการพัฒนาปนาวุธ หรือบอกว่าโครงการนี้จะเริ่มดำเนินการเมื่อไหร่
ออสเตรเลียจัดสรรงบประมาณ 9,300 ล้านเหรียญออสเตรเลีย(ราว 2 แสนล้านบาท) สำหรับระบบป้องกันขีปนาวุธพิสัยไกลความเร็งสูง ในนั้นรวมถึงงานค้นคว้าวิจัยไฮเปอร์โซนิก
ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกมีศักยภาพเดินทางด้วยความเร็วมากกว่าความเร็วเสียง 5 เท่า และเมื่อรวมทั้่งความเร็ว ความมคล่องแคล่วและเพดานบิน จึงทำให้มันเป็นระบบอาวุธที่ยากจะติดตามหรือสกัดกั้น
เมื่อปีที่แล้ว รัสเซียประจำการขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกติดหัวรบนิวเคลียร์เป็นครั้งแรก ส่วนเพนตากอน ซึ่งเคยทดลองขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกคล้ายกันในปี 2017 มีเป้าหมายประจำการขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกซึ่งมีศักยภาพสำหรับสู้รบในสงคราม ในช่วงต้นของกลางยุคทศวรรษ 2020
ส่วนจีนนั้น พวกนักวิเคราะห์ด้านกลาโหมระบุว่าได้ประจำการ หรือใกล้ประจำการ ระบบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกติดหัวรบธรรมดาแล้ว
เมื่อเดือนกรกฏาคม ออสเตรเลียเคยระบุว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมอีก 40% ในช่วง 10 ปีข้างหน้า สำหรับครอบครองศักยภาพการโจมตีพิสัยไกล ทั้งด้านอากาศ, ทะเลและภาคพื้น ความเคลื่อนไหวมีขึ้นในขณะที่ ออสเตรเลียขยายขอบเขตโฟกัสด้านการทหารจากแปซิฟิกสู่ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
อย่างไรก็ตามความร่วมมือระหว่างออสเตรเลียและสหรัฐฯในด้านพัฒนาขีปนาวุธ อาจโหมกระพือความตึงเครียดกับจีน
ความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียกับพันธมิตรด้านการค้าใหญ่ที่สุดของพวกเขา แตะระดับต่ำสุดรอบใหม่เมื่อวันจันทร์(30พ.ย.) หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งของจีนโพสต์ภาพถ่ายทหารออสเตรเลียกำลังถือมีดเปื้อนเลือดจี้คอเด็กชายชาวอัฟกานิสถาน กระตุ้นให้ออสเตรเลียออกมาตอบโต้ว่าเป็นภาพปลอม