ชายผิวสีคนหนึ่งเสียชีวิต หลังถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างค้าปลีกดัง "คาร์ฟูร์" สาขาในเมืองปอร์ตู อาเลเกร ทำร้าย ก่อนหน้าวันตระหนักถึงคนผิวดำแห่งชาติ(Black Consciousness Day) เรื่องเศร้าที่โหมกระพือความขุ่นเคืองทั่วบราซิล หลังคลิปวิดีโอของเหตุการณ์ถูกเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ และกระตุ้นให้ผู้คนออกมาประท้วงรุนแรง บางส่วนบุกเข้าไปในห้างฯ ทำลายสินค้าและจุดไฟเผา
ความเดือดดาลของชาวบ้าน เกิดขึ้นตามหลังปรากฏภาพวิดีโอที่ ชูเอา อัลแบร์โต เฟรตัส กำลังถูกชกเข้าที่หน้าบริเวณด้านนอกห้างซูเปอร์มาร์เก็ตคาร์ฟูร์ เมื่อช่วงค่ำวันพฤหัสบดี(19พ.ย.) ส่วนคลิปอื่นๆพบเห็น เฟรตัส กำลังนั่งคุกเข่า
จากคลิปวิดีโอที่มีผู้บันทึกเหตุการณ์ไว้ เผยให้เห็นเจ้าหน้าที่นายหนึ่งกำมัดกระหน่ำชกเข้าที่ใบหน้าและศีรษะของเฟรตัส โดยมีเจ้าหน้าที่อีกนายรวบแขนของเฟรตัสไว้ และมีพนักงานหญิงคนหนึ่งถือโทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปช่วงนาทีสังหารโหดชายผิวสีรายนี้ซึ่งถูกทุบตีอย่างต่อเนื่องจนเลือดกระเซ็นสาดไปทั่วพื้น และต่อมาเขาก็เสียชีวิตลง
สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่าเหตุการณ์สลดครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากเกิดการเผชิญหน้าระหว่าง เฟรตัส กับพนักงานห้างฯรายหนึ่ง ก่อนที่พนักงานจะเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้ง 2 ซึ่งเป็นคนผิวขาวทั้งคู่ เข้ามารับมือกับ เฟรตัส
พวกผู้ประท้วงหลายสิบคนบุกเข้าไปในห้างฯคาร์ฟูร์สาขาหนึ่งในกรุงบราซิเลีย เมืองหลวงของบราซิล ในตอนเช้าวันศุกร์(20พ.ย.) ตะโกนว่า "ชีวิตคนดำก็มีค่า" พร้อมชูป้ายข้อความว่า "อย่าซื้อสินค้าที่คาร์ฟูร์ คุณอาจถึงตาย" ส่วนที่ภายในห้างฯคาร์ฟูร์อีกสาขาในรีโอเดจาเนโร พวกผู้ประท้วงตะโกนว่า "ฆาตกร คาร์ฟูร์" จนทางห้างฯต้องปิดทำการ
ในเซาเปาลู พวกผู้ประท้วงบุกทุบตีกระจกของห้างฯคาร์ฟูร์สาขาหนึ่ง รื้อสินค้าลงจากชั้นวางและจุดไฟเผา ทำให้พวกพนักงานต้องรุดช่วยกันดับไฟ
คาร์ฟูร์เผยแพร่ถ้อยแถงเกี่ยวกับการเสียชีวิตที่โหดร้ายของ "เฟรตัส" และบอกว่าพวกเขาจะยกเลิกสัญญากับบริษัทรักษาความปลอดภัย ไล่ออกผู้จัดการห้างที่ทำหน้าที่อยู่ในเวลานั้น รวมถึงปิดบริการที่สาขาเมืองปอร์ตู อาเลเกร เพื่อแสดงความเคารพเหยื่อ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 คนที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นคนทุบตีทำร้ายเฟรตัสก็ถูกไล่ออกเช่นกัน และกำลังโดนสืบสวนฐานฆาตกรรม เนื่องจากเหยื่อขาดอากาศหายใจและไม่อยู่ในสภาพที่จะป้องกันตนเอง จากการเปิดเผยของนาดีน อันฟลอร์ ผู้บัญชาการตำรวจรัฐรีโอกรันดีโดซูล ซึ่งมีปอร์ตู อาเลเกร เป็นเมืองเอก พร้อมเผยว่าหนึ่งในเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ก่อเรื่อง เป็นสารวัตรทหารนอกราชการ
คนผิวสีและคนหลากหลายเชื้อชาติ คิดเป็นราวๆ 57% ของพลเมืองบราซิล แต่คิดเป็นถึง 74% ของประชาชนที่ตกเป็นหยื่อของความรุนแรงถึงตาย ยิ่งไปกว่านั้น ในจำนวนผู้เสียชีวิตของคนผิวสีและคนหลากหลายเชื้อชาติ มีถึง 79% ที่ตายด้วยเงื้อมมือตำรวจ ตามข้อมูลของ Brazilian Forum on Public Safety องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
(ที่มา:การ์เดียน)
