ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน แห่งไต้หวันเผยกองทัพอากาศได้สั่งพักการใช้งานฝูงบินขับไล่ F-16 หลังมีเครื่องบินสูญหายระหว่างการฝึก ซึ่งถือเป็นการสูญเสียเครื่องบินรบลำที่ 2 ในรอบไม่ถึง 1 เดือนท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดกับจีน
แม้บุคลากรของกองทัพอากาศไต้หวันจะผ่านการฝึกฝนเป็นอย่างดี และมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยซึ่งส่วนใหญ่นำเข้าจากสหรัฐฯ แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับแสนยานุภาพของทัพฟ้าแดนมังกร
จีนยืนยันว่าไต้หวันเป็นดินแดนในอธิปไตย และไม่ปฏิเสธการใช้กำลังเพื่อนำเกาะแห่งนี้กลับมาอยู่ใต้การปกครองของแผ่นดินใหญ่ในสักวันหนึ่ง
รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมไต้หวันเผยเมื่อเดือน ต.ค. ว่า ปีนี้กองทัพสูญเสียประมาณเกือบ 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (27,000 ล้านบาท) ไปกับการส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นไปสกัดผู้รุกรานจากจีน และยอมรับว่าแรงกดดันที่เผชิญอยู่ถือว่า “ใหญ่หลวง”
ค่ำวานนี้ (17) กองทัพอากาศไต้หวันแถลงว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 ลำหนึ่งสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย หลังออกเดินทางจากฐานทัพอากาศฮัวเหลียนบนชายฝั่งตะวันออก เพื่อปฏิบัติภารกิจฝึกซ้อมตามวงรอบปกติ
ก่อนหน้านี้ เครื่องบินขับไล่ F-5 ลำหนึ่งซึ่งประจำการในกองทัพไต้หวันมาตั้งแต่ทศวรรษ 1970 ก็ประสบอุบัติเหตุโหม่งโลกเมื่อปลายเดือน ต.ค.
ไช่ ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า กองทัพอากาศตัดสินใจพักการใช้งานฝูงบิน F-16 เพื่อทำการตรวจเช็คสภาพ
“ดิฉันได้กำชับไปยังกระทรวงกลาโหมแล้วว่า ความพร้อมในด้านการป้องกันและการต่อสู้ของเราจะต้องไม่ย่อหย่อนลงแม้แต่น้อย เพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ” ไช่ กล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมไต้หวันเรียกร้องให้สื่อมวลชนหยุดคาดเดาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเครื่องบิน F-16 และย้ำว่ากองทัพจะสานต่อภารกิจในการป้องกันประเทศเพื่อรับมือภัยคุกคามจากจีนที่มีมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การสูญเสียเครื่องบิน F-16 นับเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงทางการบินครั้งที่ 4 ที่เกิดขึ้นกับกองทัพไต้หวันในปีนี้ โดยเมื่อเดือน ม.ค. ก็มีเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกในเขตภูเขาใกล้ๆ กรุงไทเป ซึ่งทำให้ พล.อ.อ. เสิ่น อี้หมิง ผู้บัญชาการทหารระดับสูง พร้อมเจ้าหน้าที่อีก 7 คนเสียชีวิต
ปีที่แล้ว สหรัฐฯ ได้อนุมัติข้อตกลงจำหน่าย F-16 ฝูงใหญ่ให้แก่ไต้หวัน รวมมูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 241,000 ล้านบาท) ซึ่งจะทำให้ไทเปมีเครื่องบินขับไล่รุ่นนี้ในครอบครองกว่า 200 ลำ มากที่สุดในเอเชีย
ที่มา: รอยเตอร์
