xs
xsm
sm
md
lg

‘ไบเดน’ ชนะอีกรัฐที่จอร์เจีย เก็บผู้แทนเลือกตั้ง 306 เสียง ด้าน ‘ทรัมป์’ เริ่มยอมรับความพ่ายแพ้

เผยแพร่:




























Edison Research ซึ่งประกาศให้ ไบเดน ชนะที่รัฐจอร์เจียยังคาดการณ์ว่า ทรัมป์ น่าจะเก็บชัยชนะที่นอร์ทแคโรไลนา ซึ่งเป็นรัฐสมรภูมิ (battleground state) แห่งสุดท้ายที่ยังคงมีการนับคะแนนกันอยู่ นั่นหมายความว่า ไบเดน น่าจะจบศึกเลือกตั้งอันยืดเยื้อนี้ด้วยจำนวนคณะผู้เลือกตั้ง 306 เสียง ขณะที่ ทรัมป์ ได้ไป 232 เสียง

ด้วยตัวเลข 306 เสียงนี้จะทำให้ ไบเดน ชนะ ทรัมป์ อย่างขาดลอย และมีคณะผู้แทนเลือกตั้งเท่ากับตอนที่ ทรัมป์ หยิบยื่นความพ่ายแพ้ให้กับ ฮิลลารี คลินตัน เมื่อปี 2016 ซึ่งตอนนั้น ทรัมป์ เองยังคุยโวว่าตนเอง “ชนะอย่างถล่มทลาย”

ทรัมป์ แถลงที่ทำเนียบขาววานนี้ (13) ว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 น่าจะพร้อมใช้งานสำหรับชาวอเมริกันทั้งประเทศภายในเดือน เม.ย. ขณะเดียวกันก็เริ่มส่งสัญญาณยอมรับความจริงว่าตนเองจะต้องเก็บข้าวของออกจากทำเนียบตั้งแต่เดือน ม.ค. แม้จะยังไม่เอ่ยออกมาชัดๆ ก็ตามที

“รัฐบาลชุดนี้จะไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์อีก และหวังว่า... เอ่อ...ไม่ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ใครจะไปรู้ล่ะว่าผู้นำรัฐบาลใหม่เป็นใคร? ผมเชื่อว่าเวลาเท่านั้นที่จะบอก” ทรัมป์ กล่าวต่อหน้าสาธารณชนเป็นครั้งแรกหลังจากที่ ไบเดน ได้รับการคาดหมายเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ว่าจะชนะศึกเลือกตั้ง

ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ไม่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามต่อ

ทรัมป์ อ้างโดยไร้หลักฐานว่าตนเองถูกโกงเลือกตั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งของรัฐต่างๆ ยืนยันว่าไม่พบการกระทำที่ผิดปกติร้ายแรง ส่วนความพยายามยื่นฟ้องศาลเพื่อคัดค้านผลเลือกตั้งของ ทรัมป์ ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จแม้แต่กรณีเดียว

ในขณะที่ ทรัมป์ ยังไม่ยอมรามือง่ายๆ แต่เจ้าหน้าที่ของ ไบเดน ยืนยันว่าพวกเขาได้เริ่มเตรียมงานช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐบาลใหม่แล้วโดยไม่รีรอ

แม้คะแนนป็อปปูลาร์โหวตจะไม่ใช่ตัวชี้ขาดผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทว่า ไบเดน ก็ยังมีคะแนนนำในส่วนนี้ถึง 5.3 ล้านเสียง หรือประมาณ 3.4% เวลานี้เขาได้รับคะแนนโหวตจากชาวอเมริกันในสัดส่วน 50.8% ซึ่งสูงกว่าตอนที่ประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน จากพรรครีพับลิกัน โค่นประธานาธิบดี จิมมี คาร์เตอร์ ได้ในปี 1980

หาก ทรัมป์ ต้องการรั้งเก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาวเป็นสมัยที่สอง เขาจำเป็นจะต้องพลิกผลเลือกตั้งกลับมาชนะ ไบเดน ให้ได้ในอย่างน้อย 3 รัฐ ทว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีแนวโน้มใดๆ ที่บ่งบอกว่าเขาจะทำสำเร็จ

ทั้งนี้ รัฐต่างๆ มีกำหนดเส้นตายที่จะต้องรับรองผลการเลือกตั้งภายในวันที่ 8 ธ.ค. และแต่งตั้งคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) ของรัฐนั้นๆ ซึ่งจะทำหน้าที่โหวตเลือกประธานาธิบดีคนใหม่อย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ธ.ค.

ที่มา: รอยเตอร์









































กำลังโหลดความคิดเห็น