xs
xsm
sm
md
lg

ปิดฉากแจกอั่งเปาหยวนดิจิตอล นักวิเคราะห์ชอบใจ-ขาช้อปยังไม่ปลื้ม

เผยแพร่:


แอปอย่างเป็นทางการของเงินหยวนดิจิตอล
โครงการสุ่มแจกอั่งเปาเงินหยวนดิจิตอลรวม 1.5 ล้านดอลลาร์ให้ชาวเซินเจิ้นปิดฉากลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (18) ท่ามกลางความชื่นชมจากนักวิเคราะห์ ขณะที่ผู้ใช้บางคนบอกว่า ชอบระบบที่มีอยู่แล้วอย่างแอปอาลีเพย์และวีแชต เพย์มากกว่า สะท้อนว่า ปักกิ่งคงต้องคิดอ่านหามาตรการจูงใจเพิ่มเติมเพื่อให้ประชาชนยอมทิ้งแพลตฟอร์มการชำระเงินเดิมมาหาสกุลเงินดิจิตอลแห่งชาติ

ภายใต้โปรแกรมระยะเวลา 1 สัปดาห์ พีเพิลส์ แบงก์ ออฟ ไชน่า (PBOC) หรือธนาคารกลางจีน สุ่มแจกเงินหยวนดิจิตอลด้วยระบบล็อตเตอรี่ให้ผู้บริโภค 5,000 คนในเมืองเซินเจิ้นคนละ 200 หยวน (29.75 ดอลลาร์) ซึ่งจะอยู่ใน “ซองแดง” ดิจิตอล

กระเป๋าสตางค์ออนไลน์ดังกล่าวจะเข้าถึงได้ผ่านแอปโดยไม่ต้องมีบัญชีธนาคาร และสามารถนำเงินหยวนดิจิตอลไปใช้โดยการสแกนสมาร์ทโฟนในเอาต์เล็ตต่างๆ ตั้งแต่ร้านสินค้าหรูไปจนถึงร้านขายขนมขบเคี้ยวในเซินเจิ้น ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของจีน

โครงการทดสอบเงินหยวนดิจิตอลครั้งล่าสุดที่ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ได้รับการยกย่องจากนักวิเคราะห์ว่า เป็นความคืบหน้าของปักกิ่งที่กำลังตามล่าจอกศักดิ์สิทธิ์แข่งกับธนาคารกลางทั่วโลกเพื่อผุดสกุลเงินดิจิตอลของแบงก์ชาติสกุลแรก

หวัง ซีปิน ผู้ร่วมก่อตั้งแพล็ตฟอร์มเทรดเงินดิจิตอล HKbitEX ชมว่า กิจกรรมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหมายความว่า เงินหยวนดิจิตอลผ่องถ่ายจากการทดสอบทางทฤษฎีภายในสู่การปฏิบัติในโลกจริงเป็นที่เรียบร้อย

ทว่า ผู้สังเกตการณ์ในประเทศอื่นบางคนกลัวว่า ถ้าเงินหยวนดิจิตอลที่ดำเนินการนอกโครงสร้างทางการเงินที่มีอยู่ในขณะนี้ เช่น สวิฟต์ และดึงดูดความสนใจจากนานาชาติ อาจบ่อนทำลายอิทธิพลของดอลลาร์ในระบบการจ่ายเงินทั่วโลก

ต้นเดือนนี้ ธนาคาร 7 ประเทศ ซึ่งรวมถึงอเมริกา อังกฤษ และญี่ปุ่น ได้กำหนดหลักการสำคัญสำหรับการออกเงินตราดิจิตอล

เรย์มอนด์ เหยิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ในจีนของเอเอ็นแซด ชี้ว่า เงินหยวนดิจิตอลอาจส่งผลดีอย่างชัดเจนภายในประเทศ เช่น ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามการหมุนเวียนของสกุลเงินใกล้ชิดขึ้น ซึ่งจะช่วยป้องกันการฟอกเงิน และยังส่งเสริมนโยบายการเงินแบบกำหนดเป้าหมายมากขึ้น

เขายังบอกอีกว่า คนทั่วไปจะซื้อของด้วยเงินหยวนดิจิตอลมากกว่าแพลตฟอร์มการชำระเงินบนมือถืออย่างวีแชตหรืออาลีเพย์หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับมาตรการจูงใจทั้งของรัฐและผู้ขาย

อาลีเพย์ที่ดำเนินการโดยบริษัทในเครือของอาลีบาบา กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซ และแอปวีแชต เพย์ของเทนเซ็นต์ โฮลดิ้งส์ ครอบครองธุรกิจนี้มานานและทำให้จีนเป็นหนึ่งในตลาดการชำระเงินที่ล้ำที่สุดในโลก

ในเขตหลัวหูของเซินเจิ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ร้านค้ากว่า 3,000 แห่ง ตั้งแต่โดลเซ่ แอนด์ กาบบาน่า จนถึงซูเปอร์มาร์เก็ต ยอมรับเงินหยวนดิจิตอลที่ลูกค้าจ่ายเป็นค่าสินค้าบางส่วนหรือทั้งหมดโดยใช้อุปกรณ์พิเศษเพื่อสแกน QR code ที่ฝังอยู่ในแอปมือถือ

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า ผู้โชคดีที่ได้รับอั่งเปานำเงินหยวนดิจิตอลไปใช้จ่ายมากน้อยแค่ไหนหรือใช้ที่ไหน

ชาวเซินเจิ้นที่ได้รับแจกเงินหยวนดิจิตอลบางคนที่ชินกับการสแกนโทรศัพท์เพื่อจ่ายค่าสินค้าด้วยระบบอื่นแสดงท่าทีกังขากับเงินหยวนดิจิตอล สะท้อนว่า ธนาคารกลางและรัฐบาลยังต้องทำการบ้านอีกมากเพื่อโน้มน้าวให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในประโยชน์ของเงินตราดิจิตอลที่แบงก์ชาติสนับสนุน

นักบัญชีคนหนึ่งบอกว่า อาลีเพย์และวีแชต เพย์ตกยุคมานานแล้ว จึงถือว่า ค่อนข้างสายเกินไปที่รัฐเพิ่งจะมาทดสอบเงินดิจิตอลใหม่ที่แทบไม่ต่างอะไรกับระบบชำระเงินเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม เธอสำทับว่า อาจพิจารณาเปลี่ยนไปใช้เงินดิจิตอลในอนาคตถ้ามีความสะดวกสบายและปลอดภัยในการใช้

ด้านนักวิเคราะห์ชี้ว่า การแย่งชิงผู้บริโภคมาจากอาลีเพย์หรือวีแชต เพย์ที่คนมากมายใช้ซื้อทุกอย่างตั้งแต่สินค้าพื้นฐานจนถึงผลิตภัณฑ์การเงินที่ซับซ้อนนั้น ขึ้นอยู่กับมาตรการจูงใจ

จี. ปิน จ้าว นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ PwC China บอกว่า ทางการจีนต้องเสนอความสะดวกสบายและข้อดีอื่นๆ เพื่อส่งเสริมการใช้เงินหยวนดิจิตอล เช่น พ่วงกับมาตรการอุดหนุน บัญชีบำนาญ หรือเช็คค่าจ้างรัฐวิสาหกิจ ขณะเดียวกัน แบงก์และสถาบันอื่นๆ ต้องทุ่มทุนกับแอปพลิเคชัน การตลาด และการเผยแพร่ความรู้ เพื่อให้เงินหยวนดิจิตอลได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง

ชาวเซินเจิ้นอีกคนที่ทำงานในภาคการเงินและใช้กระเป๋าสตางค์ออนไลน์ขานรับว่า การจ่ายเงินด้วยอั่งเปาดิจิตอลสะดวกน้อยกว่าตัวเลือกการชำระเงินที่มีอยู่เดิม ดังนั้น เธอจึงไม่คิดจะใช้เงินหยวนดิจิตอลอีก เว้นแต่จะได้อั่งเปาซองใหม่
กำลังโหลดความคิดเห็น