xs
xsm
sm
md
lg

'สิงห์ฯ' ปรับแผนปี 64 รุกตลาดบ้านหรูลักชัวรี เปิดโอนคอนโดร่วมทุน 'ดิ เอส สุขุมวิท 36'

เผยแพร่:



"สิงห์ เอสเตทฯ" ย้ำปี 2564 แผนลงทุนมีแน่นอน ปรับพอร์ต หันรุกตลาดบ้านลักชัวรีแบรนด์ใหม่ ระดับราคาไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทต่อหลัง พร้อมร่วมฮ่องกง แลนด์ บูมทำเลทองหล่อ เผยโฉมคอนโดฯ มาสเตอร์พีซ 'ดิ เอส สุขุมวิท 36' ลั่นสิ้นปีมียอดขายกว่า 70-75% เป้ายอดโอนห้องชุดให้แก่ลูกค้าสิ้นปีกว่า 1,650 ล้านบาท

นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) (S) เปิดเผยว่า ผลจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีส่วนทำให้อสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว ซึ่งภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดี ทางบริษัทฯ ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพตลาด แต่การลงทุนในปี 2564 จะยังมีอยู่ต่อเนื่อง แต่จะมีการปรับแผนธุรกิจให้เหมาะสม โดยจะไปเพิ่มสัดส่วนตลาดบ้านระดับลักชัวรีมากขึ้น ซึ่งจะทำตลาดภายใต้แบรนด์ใหม่ ราคาจะอยู่ในกรอบของนโยบายการพัฒนาโครงการบ้านระดับลักชัวรี ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

"สภาพตลาดคอนโดมิเนียมก็เป็นไปตามที่เห็นกันอยู่ ซึ่งในปีหน้า จะให้น้ำหนักกับการลงทุนรูปแบบแนวราบมากขึ้น ซึ่งแผนลงทุนมีแน่นอน แต่การพัฒนาโครงการอาจจะต้องใช้เวลา ปีหน้าประกาศ แต่กว่าจะแล้วเสร็จจะเป็นปีถัดไป และการทำโครงการบ้านลักชัวรีแบรนด์ใหม่ จะไม่ไปทับซ้อนกับแบรนด์ที่ทำการตลาดอยู่เดิม"


สำหรับภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในทำเลทองหล่อ ปัจจุบันยังคงเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้า ทั้งในส่วนของลูกค้าคนไทยและลูกค้าชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับราคาที่ดินและราคาขายโครงการคอนโดฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ยังเป็นเป็นย่านที่มีตลาดเช่าที่พักอาศัยเพื่อการลงทุน โดยมีระดับราคาอยู่ที่ 250,000-350,000 บาทต่อ ตร.ม.เมื่อเทียบกับทำเลอื่นๆ

ทั้งนี้ บริษัทจึงได้พัฒนา โครงการ ดิ เอส สุขุมวิท 36 คอนโดมิเนียมสูง 43 ชั้น จำนวน 338 ยูนิต มูลค่าโครงการ 6,500 ล้านบาท โดยเป็นโครงการร่วมทุนกับบริษัท ฮ่องกง แลนด์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่มีการพัฒนาโครงการมากมายในเอเชีย ปัจจุบันโครงการได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ 100% พร้อมเข้าอยู่และโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ลูกค้า

อย่างไรก็ตาม ภายในสิ้นปี 2563 นี้ บริษัทคาดว่าจะมียอดขายได้ 70-75% หรือคิดเป็นมูลค่าการขายได้ 4,200 ล้านบาท โดยในเดือนตุลาคมจะเริ่มทยอยโอนห้องชุดให้แก่ลูกค้า วางเป้าไว้ 500 ล้านบาท และคาดว่าภายในสิ้นปีจะมีตัวเลขยอดโอนกรรมสิทธิ์จากยอดขายที่ทำได้ประมาณ 40% หรือคิดเป็นรายได้ 1,650 ล้านบาท ขณะที่เป้ายอดโอนทั้งกลุ่มน่าจะทำได้ 4,000 ล้านบาท จากเดิมที่วางไว้ 9,000 ล้านบาท ปัจจุบัน ในพอร์ตโครงการคอนโดฯ มียอดขายรอบันทึกเป็นรายได้ (แบ็กล็อก) ประมาณ 5,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจว่าจากศักยภาพของตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีในย่านทองหล่อ ที่ยังคงมีความต้องการจากกลุ่มผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อสูง ล่าสุด บริษัทเตรียมจัดงาน Open House เพื่อเริ่มเปิดให้ลูกค้าทำเรื่องโอน และเข้าอยู่ได้อย่างเป็นทางการ และได้จัดแคมเปญด้วยราคาเริ่มต้นที่ 11.9 ล้านบาท พร้อมสิทธิพิเศษในงาน “For the One Who Knows” ระหว่างวันที่ 14-15 พ.ย.นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น