xs
xsm
sm
md
lg

ไขความลับ "iPhone 12" ที่ Apple ยังไม่บอกคนไทย

เผยแพร่:



วันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2563 แอปเปิลเปิดตัว iPhone ใหม่ 4 รุ่นอย่างยิ่งใหญ่ทั้ง iPhone 12, iPhone 12 Mini, iPhone 12 Pro และ iPhone Pro Max ราคาเริ่มต้นในสหรัฐฯ คือ 699-1,099 ดอลลาร์

ทั้ง 4 รุ่นมีโปรเซสเซอร์ที่เร็วขึ้น ฟีเจอร์กล้องที่ได้รับการปรับปรุง การเชื่อมต่อกับมาตรฐานไร้สาย 5G ใหม่ แน่นอนว่าชาวโลกได้รับข้อมูลที่ละเอียดมากเกี่ยวกับโปรเซสเซอร์ เลนส์ และเทคโนโลยีที่ถูกเคลมว่าใช้งานง่ายมาก แต่ก็ยังมีสิ่งสำคัญบางอย่างที่แอปเปิลไม่ได้เอ่ยถึง

สำหรับตลาดไทย แอปเปิลระบุไว้บนหน้าเว็บไซต์ว่า "โปรดตรวจสอบวันวางจำหน่ายอีกครั้ง" เช่นเดียวกับราคาจำหน่ายที่ยังไม่เปิดเผย ไม่เพียงคนไทย สาวกแอปเปิลในประเทศอื่นก็ยังมีคำถามในสิ่งที่แอปเปิลไม่ได้บอกเล่า อย่างเช่นเรื่อง 5G ที่จะทำให้ iPhone 12 โดดเด่นกว่า iPhone ทุกรุ่นที่เคยเปิดตัวมาได้จริงหรือ?

5G ยังต้องรอแอปฯ มารีดประสิทธิภาพ

แอปเปิลย้ำว่า 5G บน iPhone 12 จะทำให้ทุกคนเล่นเกมได้เร็วขึ้น ภาพยนตร์ก็โหลดได้เร็วขึ้น ขณะที่แอปก็จะเหนือชั้นตามไปด้วย โชคดีที่ประเทศไทยมีบริการ 5G อย่างเป็นทางการแล้ว แต่ชัดเจนว่าผู้ให้บริการจะใช้เวลาอีกหลายปีในการปลุกปั้นโครงสร้างพื้นฐาน 5G ที่น่าสนใจ

ในสหรัฐอเมริกา โอเปอเรเตอร์อย่างเวอไรซอน (Verizon) ให้บริการ 5G Ultra Wideband เฉพาะใน 50 เมืองในขณะนี้ และจะเพิ่มเป็น 60 แห่งภายในสิ้นปี แถมความครอบคลุมยังไม่แน่นอน และใช้งานได้ในบางพื้นที่ของเมืองเท่านั้น เบื้องต้น ไม่สามารถใช้งานได้ในสถานที่สำคัญบางแห่งด้วย คาดว่า 5G บน iPhone 12 จะมีให้บริการสำหรับประชากรสหรัฐฯ ในปัจจุบันประมาณ 1% เท่านั้น

สำหรับประเทศไทยนั้นไม่มีปัญหา เพราะ iPhone 12 รองรับ 5G บนคลื่นความถี่ sub-6 GHz ที่ประเทศไทยเริ่มมีการให้บริการ 5G บนคลื่นความถี่ 2600 MHz เรียบร้อยแล้ว ส่วนคลื่น 700 MHz และ 26 GHz กำลังอยู่ในช่วงเตรียมให้บริการในอนาคต


อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ iPhone 12 อาจไม่ได้รู้สึกถึงความเร็วก้าวกระโดดอย่างที่แอปเปิลเคลมไว้ เพราะแอปพลิเคชันส่วนใหญ่ที่ใช้งานยังทำงานได้ดีบนระบบ 4G และ WiFi โดยลูกค้าดีแทค หรือผู้ที่ยังไม่ต้องการใช้บริการ 5G จะสามารถซื้อ iPhone 12 ในราคาเครื่องเปล่าหรือซื้อเครื่องบนแพกเกจ 4G ได้เช่นเดิม

ไม่ว่าอย่างไร การที่ไทยมีบริการ 5G อย่างเป็นทางการแล้ว อาจช่วยให้วันวางจำหน่าย iPhone 12 ในไทยเกิดขึ้นได้เร็ว ในสหรัฐฯ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro จะเริ่มให้สั่งจองล่วงหน้าในสหรัฐฯ 16 ตุลาคมนี้ ก่อนวางจำหน่าย 23 ตุลาคม ส่วน iPhone 12 Pro Max และ iPhone 12 Mini จะเริ่มเปิดให้จองในวันที่ 6 พฤศจิกายน และวางจำหน่ายในวันที่ 13 พฤศจิกายน

วันวางจำหน่าย iPhone 12 ในไทยจะเร็วหรือช้ายังต้องขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่กำกับดูแลว่าจะอนุญาตให้มีการนำเข้ามาจำหน่ายเมื่อใด จุดนี้มีความเป็นไปได้ที่ iPhone 12 จะเปิดให้คนไทยเริ่มจับจองปลายตุลาคมนี้ เบื้องต้นแหล่งข่าวระบุว่า แอปเปิลได้ส่งใบตรวจสอบด้านเทคนิคเครื่อง iPhone 12 ให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แล้ว

ก่อนหน้านี้ แอปเปิลนั้นเคยเป็นข่าวกับ กสทช. เมื่อ พ.ศ.2557 เวลานั้นคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ออกมาเปิดเผยก่อนว่าแอปเปิลได้ส่งมือถือไอโฟน 2 รุ่นใหม่ให้ทาง กสทช. (ในเวลานั้นคือ iPhone 6) เพื่อขออนุญาตจำหน่ายในไทย ทำให้สื่อต่างประเทศนำข้อมูลนี้ไปรายงานข่าวจนคนทั่วโลกรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ 2 ขนาด ตั้งแต่ปีนั้นมา แอปเปิลก็ไม่ดำเนินการขออนุญาตล่วงหน้าอีกเลย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ กสทช. ชี้แจงในเวลานั้นว่า กระบวนการรับรองมาตรฐานเป็นสิทธิ กสทช. ที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อให้ประชาชนทราบว่า เครื่องรุ่นไหนสามารถนำเข้ามาในไทย หรือใช้ได้โดยไม่เป็นอันตราย

ในมุมของราคาจำหน่าย iPhone 12 ในไทยมีโอกาสสูงมากที่จะอยู่ในระดับเดิม คือ 24,900 - 52,900 บาท คาดว่าราคาเครื่องเริ่มต้นของไทยจะไม่มีส่วนเพิ่มเหมือนที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ เห็นได้ชัดจากเว็บไซต์แอปเปิลสิงคโปร์ที่แสดงราคาเครื่องเปล่า 1,149 เหรียญสิงคโปร์ ต่างจากในสหรัฐฯ ที่แสดงราคาบนเว็บไซต์ว่า iPhone 12 เครื่องเปล่าราคา 829 เหรียญสหรัฐ และ iPhone 12 mini ราคา 729 เหรียญสหรัฐ ถ้าต้องการซื้อที่ราคา 699 เหรียญสหรัฐ อย่างที่ประกาศบนเวทีต้องซื้อกับโอเปอเรเตอร์อย่าง AT&T และ Verizon ที่จะได้รับส่วนลดเพิ่มเติม

อาจต้องจ่ายแพงขึ้น

ลูกค้า iPhone 12 ยังอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มไม่น้อยเมื่อชำระเงิน หากไม่นับบริการเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติมและ Apple Care อีก 6,200 บาท ผู้ใช้ที่อยากใช้หูฟังมีสายหรือ EarPods ที่มีพอร์ต Lightning จะต้องเสียเงิน 690 บาทเพื่อซื้อมาใช้ร่วมกัน ขณะที่ใครที่ไม่มีอะแดปเตอร์ชาร์จ USB-C ใช้งาน ก็จะต้องซื้อกับแอปเปิลในราคา 690 บาทเช่นกัน

ใครที่อยากลองที่ชาร์จไร้สาย MagSafe ใหม่ รวมถึงเคสแม่เหล็กใหม่อาจจะต้องเสียเงินอีกหลายพันบาท ซึ่งแปลว่าลูกค้า iPhone 12 อาจต้องจ่ายแพงขึ้นกว่างบที่แอปเปิลประกาศบนเวที

อีกสิ่งที่แอปเปิลไม่ได้บอก แต่สาวกคนไทยควรตามให้ทันคือ iPhone 12 Mini ไม่ได้เป็น iPhone ที่ขนาดเล็กที่สุดตามชื่อ แต่เป็นรุ่นที่มีหน้าจอ 5.4 นิ้ว ซึ่งเล็กกว่าหน้าจอ 6.1 นิ้วของ iPhone 12 และ 12 Pro หรือ iPhone 12 Pro Max ที่มีขนาด 6.7 นิ้ว

ดังนั้น รุ่นที่เล็กที่สุดจึงเป็น iPhone SE ซึ่งเป็นรุ่นราคาต่ำที่สุดคือ 399 เหรียญ หน้าจอ 4.7 นิ้ว ถูกวิจารณ์ว่าเหมาะกับชื่อมินิมากกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ในขณะที่ iPhone 12 Pro Max เป็น iPhone ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาที่ 6.7 นิ้ว แต่ก็มีขนาดเล็กกว่า Samsung Galaxy S20 Ultra และ Galaxy Note 20 ซึ่งมีขนาด 6.9 นิ้วทั้งคู่

อย่างไรก็ตาม iPhone 12 Mini ขึ้นชื่อว่าเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่มีขนาดเล็ก และบางที่สุดในเวลานี้ จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนขนาดเล็ก พกพาง่าย และมากับเทคโนโลยีขั้นสูง

iPhone 12 ถูกตีแผ่ว่าไม่ได้มีหน้าจอความละเอียดสูงสุดในตลาด เพราะ Sony Xperia 1 ทำสถิติได้ดีกว่าด้วยจอ 4K ความละเอียด 3,840 x 2,160 พิกเซล ขณะที่ Samsung Galaxy S20 Ultra มีจอที่ให้ความละเอียด 3200 x 1440 สูงกว่ามากเมื่อเทียบกับ 2778 x 1284 ใน iPhone 12 Pro Max

ดีไซน์ไม่ใหม่?

แอปเปิลเรียก iPhone 12 ว่าเป็นรุ่นที่ได้รับการออกแบบใหม่ล่าสุด แต่เสียงวิจารณ์มองว่าดูแล้วเหมือน iPhone 5 ซึ่งแอปเปิลแจ้งเกิดเมื่อ 8 ปีที่แล้ว

iPhone 5 เป็นโทรศัพท์เครื่องสุดท้ายจากยุค "สตีฟ จ็อบส์" ซึ่งเปิดตัว 1 ปีหลังจากการเสียชีวิตของอดีตซีอีโอผู้ก่อตั้งแอปเปิลในปี 2554 สิ่งที่คล้ายกันมากคือด้านข้างของโทรศัพท์ ทำให้ iPhone 12 ถูกแซวว่าเป็น iPhone 5 กลับชาติมาเกิด


อีกสิ่งที่แอปเปิลไม่ได้บอกเมื่อเปิดตัว iPhone 12 คือ การเลิกทำตลาดรุ่น iPhone 11 Pro และ Pro Max โดยรุ่นที่ยังคงมีจำหน่ายคู่กับ iPhone 12 คือรุ่น 11, XR และ iPhone SE ไร้เงา iPhone 11 Pro และ Pro Max ที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2561 ที่ผ่านมา

ล่าสุด โทรศัพท์รุ่นเก่าอย่าง iPhone 11 ลดราคาเหลือ 22,100 บาท โดย XR อยู่ที่ 18,400 บาท สูงกว่า SE ที่ยังคงเป็นรุ่นราคาที่ดีที่สุดที่ 14,900 บาท กล่องสินค้าที่จำหน่ายในราคาที่ลดลงนี้จะไม่มีอะแดปเตอร์แปลงไฟ หรือ EarPods ให้มาด้วย ซึ่งแอปเปิลชี้แจงว่า "เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของเราที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โปรดใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟและหูฟังของแอปเปิลที่มีอยู่แล้ว หรือซื้ออุปกรณ์เสริมเหล่านี้แยกต่างหาก"

เรื่องนี้ไม่ลับ แอปเปิลจึงบอกให้สาวกจ่ายเงินมาเสียดีๆ




กำลังโหลดความคิดเห็น