xs
xsm
sm
md
lg

[คำต่อคำ]SONDHI TALK : “อเมริกา-จีน” หมากรุก VS หมากล้อม

เผยแพร่:



“สนธิ” ชี้ “ทรัมป์”ติดเชื้อโควิด-19 ยิ่งทำให้คะแนนนิยมตกต่ำ เพราะสะท้อนให้เห็นถึงความไม่เอาไหนและไม่รับผิดชอบของทรัมป์ โพลล่าสุดตามห่างไบเดนถึง 16 จุด จึงน่าจะแพ้เลือกตั้งอย่างแน่นอน และการเมืองสหรัฐฯ จะมีแต่ความวุ่นวายเพราะทรัมป์พูดไว้แล้วจะไม่ยอมผ่องถ่ายอำนาจอย่างสันติ แต่จะหาเรื่องฟ้องศาลเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ พร้อมวิเคราะห์เกมชิงพื้นที่ยุทธศาสตร์โลกระหว่างจีนและสหรัฐฯ โดยที่สหรัฐฯ ตั้งกองเรืองที่ 5 ไว้บริเวณอ่าวเปอร์เซีย กองเรือที่ 6 ในมหาสมุทรแอตแลนติก และกองเรือที่ 7 ไว้ที่มหาสมุทรแปซิฟิก พร้อมทั้งมีฐานทัพที่โอกินาวาของญี่ปุ่น และที่เกาะดีเอโก้การ์เซียในมหาสมุทรอินเดีย ขณะที่จีนซึ่งมีรัสเซีย เกาหลีเหนือ อิหร่าน เป็นพันธมิตร ก็ดึงประเทศต่างๆ มาเป็นพวก ปิดล้อมสหรัฐฯ ทั้งใน ตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ ซึ่งพร้อมที่จะยิงถล่มกองเรือและฐานทัพสหรัฐฯ ตามจุดต่างๆ ได้ทุกเมื่อหากเกิดสงคราม ส่วนญี่ปุ่น-เกาหลี ก็มี“คิมจองอึล”คอยจ้องอยู่ ไต้หวันก็กลัวจีนบุก จึงก็ไม่กล้าหือกับจีน ขณะที่อาเซียนก็เข้าข้างจีนเกือบทั้งหมด แม้เวียดนามจะไม่เข้าข้างจีนแต่ก็ไม่เข้าข้างอเมริกา จึงเหลือเพียงประเทศไทยเป็นจุดสำคัญที่สุด ที่สหรัฐฯ ต้องการจะเข้ามาอยู่ทั้งอู่ตะเภาและเชียงใหม่

วันที่ 9 ต.ค.63 เวลา 09.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิ และช่องยูทูป Sondhitalk โดยวันนี้เป็นเรื่องต่างประเทศล้วนๆ เเต่ละเรื่องเป็นเรื่องที่ต้องรู้ อย่างเรื่องทรัมป์ติดโควิด แท้จริงเเล้วเป็นอย่างไร จะมีผลต่อการเลือกตั้งหรือไม่ เศรษฐกิจอเมริกาถึงจุดตกต่ำที่สุดหรือยัง แล้วอเมริกาตอนนี้เดินยุทธศาสตร์อะไร มาดูภูมิรัฐศาสตร์ของโลกกัน เมื่ออเมริกาเดินหมากรุก ส่วนจีนเดินหมากล้อม อะไรจะเกิดขึ้น มีโอกาสจะเกิดสงครามโลกหรือไม่ ติดตามได้ใน SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep54 “อเมริกา-จีน” หมากรุก VS หมากล้อม



คำต่อคำ SONDHI TALK [9 ต.ค. 63] : อเมริกา-จีน กับยุทธิการหมากรุก-หมากล้อม

วันนี้ผมจะมาบอกให้ฟังว่าช่องทางการติดต่อของ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ SONDHI TALK ได้ทางไหนบ้าง ทางแรกคือทางเฟซบุ๊ก ให้กด Like หรือกด Follow แล้วกดติดตาม แล้วเลือก See First ไปเลยในเพจ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" เมื่อชมแล้วก็ช่วยกันแชร์ออกไปมากๆ เพื่อให้บางคนที่ยังไม่ได้อยู่ดูได้ความรู้กับสิ่งที่ผมพูด แล้วเดี๋ยวนี้เราก็ไลฟ์สดผ่านยูทูปเช่นกัน ให้เข้าไปใน YouTube ค้นหาคำว่า SONDHI TALK กด Subscribe เอาไว้ เปรียบเสมือนห้องสมุดเคลื่อนที่ รวบรวมทุกอย่างตั้งแต่รายการในอดีต "มองโลก มองเรา กับสนธิ" "บันทึกลับบ้านพระอาทิตย์" จนมาถึงรายการ "SONDHI TALK"

สำหรับแฟนรายการคนไหนอยากดูเนื้อหา ตลอดจนการถอดคำพูดเป็น text ก็ให้เข้าไปที่ www.sondhitalk.com เพราะจะรวมไว้ในเว็บไซต์โดยแยกเป็นแต่ละหมวดหมู่ครบทุกเรื่องทีเดียวครับ

สุดท้าย สำหรับท่านผู้ชมที่ไม่อยากเห็นหน้าผม แต่อยากฟังเสียงผม อยากฟังเรื่องราวที่ผมพูด ก็เข้ามาฟังที่ podcast ถ้าท่านที่ใช้ iPhone - iOS ก็เข้าไปที่แอปฯ podcast เมื่อกดเข้าไปแล้วก็ search คำว่า SONDHI TALK ก็จะมีให้ทุกรายการ ส่วนท่านผู้ชมที่ใช้โทรศัพท์ระบบ android ก็กดเข้าไปเหมือนกัน แต่จะมีคำว่า Podbean แล้วก็กดเข้าไป


สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เหมือนอย่างที่ผมเคยพูดนะครับ เผลอแป๊บเดียวก็เข้าเป็นอาทิตย์ที่สองแล้ว วันเวลาผ่านไปเร็วมาก อย่าลืมนะครับ เราจะไปทอดกฐินกันที่วัดป่าภูแปก ญาณสัมปันโน จ.เลย ในวันอาทิตย์ที่ 18 ท่านผู้ชมท่านใดที่ต้องการจะร่วมทำบุญทำกุศล ก็เชิญได้ตามสบายครับ


ส่วนเงินที่เราให้เช่าพระไป ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธอุดมมงคลเวฬุวัน หรือพระพุทธสองสมเด็จ รวมไปถึงเจ้าแม่กวนอิมนั้น ตอนนี้เราก็ทำบุญไปประมาณร่วมๆ สิบล้านบาทแล้ว


ล่าสุดนี้ ในวันที่ 7 ก็คือเมื่อวานซืน งานรำลึก ทำบุญเนื่องในวาระครบรอบวันเสียชีวิตของพันธมิตรฯ ที่เสียชีวิต โดนเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืนยิงตายและบาดเจ็บเยอะมาก ในวันที่ 7 ตุลาคม เราได้ทำบุญไป และผมได้มีโอกาสพบกับคุณพิภพ ธงไชย


คุณพิภพ ธงไชย ท่านดูแลมูลนิธิเด็กอยู่ มูลนิธิเด็กนั้นเป็นมูลนิธิที่รับเด็กกำพร้ามา บางคนก็ตั้งแต่เกิด ล่าสุดมีเด็กเพิ่งจะ 8 เดือนเอง แม่เลี้ยงไม่ไหว เอามายกให้มูลนิธิเด็ก มูลนิธิเด็กก็ต้องรับดูแลเด็กคนนี้จนกระทั่งเจริญเติบโตต่อไป ให้การศึกษา ผมก็เลยตัดสินใจ โดยจะต้องเรียนให้ท่านผู้ชมทราบว่า ได้เอาเงินส่วนหนึ่งที่ทำบุญไปมอบให้กับมูลนิธิเด็ก 5 แสนบาท นอกเหนือจากนั้นแล้วก็เป็นการทำบุญกับวัดวาต่างๆ นี่เป็นการทำบุญกับเด็ก มูลนิธิ

ท่านผู้ชมครับ วันนี้เป็นวันที่จะมีเรื่องต่างประเทศเสียส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีเรื่องในประเทศไทย เหตุผลก็เพราะว่า อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ที่เหตุการณ์ในประเทศไทยค่อนข้างที่จะเงียบสงบ ถ้าจะมีก็มีเนื่องในโอกาสของท่านอดีตผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา และอดีตผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ก็ไปบวช อุปสมบทที่วัดหงส์รัตนาราม


ก็เลยต้องเล่าให้ฟังกันนิดหนึ่งว่า วัดหงส์รัตนาราม เป็นวัดที่อยู่ในอำเภอบางกอกใหญ่ เป็นวัดโบราณ สร้างโดยคนจีน ที่เขาเรียกว่าเจ้าสัวหงส์ แล้วต่อมาก็ถูกเปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งล่าสุดกลายเป็นชื่อ วัดหงส์รัตนาราม คนที่เปลี่ยนชื่อให้คนสุดท้ายก็คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว


วัดหงส์รัตนาราม ทำไมถึงมีผู้หลักผู้ใหญ่ไปบวชเยอะนัก วัดนี้เป็นวัดที่ท่านพระเทพมีชัย ซึ่งท่านได้เปรียญ 9 ประโยค เป็นเจ้าอาวาส ท่านเป็นคนที่ลึกซึ้งในเรื่องธรรมะ และอีกอย่างหนึ่ง วัดนี้ ผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการ ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทั้งสองท่าน ตลอดจนนายพล ทั้งบก เรือ อากาศ ก็มาขึ้นกันที่วัดนี้ ว่ากันว่าวัดนี้เป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ก็เลยเป็นที่พึ่งพิงอิงแอบอาศัยสำหรับคนที่ต้องการความสบายในจิตใจ หรือต้องการที่จะรับทราบธรรมะต่างๆ ก็เป็นปกติธรรมดา แต่ผมนี่สายพระป่า การบวชของผม 2 ครั้ง บวชที่วัดป่าทั้งสิ้น เพราะว่าเป็นวัดที่อยู่ในป่า และได้มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น

ท่านผู้ชมครับ วันนี้ผมจะพูดเรื่องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือเรื่องโควิด-19 ที่โดนัลด์ ทรัมป์ ติด เรื่องนี้ไม่พูดไม่ได้ เพราะมันมีนัย มันมีหลายมิติซึ่งจะต้องอธิบายให้ท่านผู้ชมฟัง และหลังจากนั้น เราจะต่อมายังที่กรณีของการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา ซึ่งดูแล้วเหลืออยู่เพียงยี่สิบกว่าวันเอง ไม่มาก เหตุการณ์เป็นอย่างไร ใครนำใคร แนวโน้มทิศทางจะเป็นอย่างไร ผมรู้ว่าท่านผู้ชม ช่วงหลังๆ ผมสังเกตตามข่าวสารต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งข่าวในต่างประเทศที่ออกตามช่องทีวีต่างๆ นั้น ไม่ค่อยมีใครพูดถึงการเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ อย่างที่ผมเคยเรียนให้ทราบว่า นโยบายของประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ใครก็ตามที่มาเป็นประธานาธิบดี ก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ซึ่งตรงนี้ผมจะอธิบายความในช่วงหลังของรายการนี้


เรื่องหลังสุดของรายการนี้ก็คือเรื่องของความขัดแย้งของสหรัฐอเมริกาและจีน ไม่ใช่เรื่องใหม่ ผมรู้ ท่านผู้ชมคงคิดในใจว่าคุณสนธิพูดมาหลายครั้งแล้ว จริงครับ แต่ผมจะเล่าที่มาที่ไปก่อน ว่าทำไมมันเป็นอย่างนี้ เพราะอะไร แล้วผมค่อยเล่าเหตุการณ์ปัจจุบัน เหตุการณ์ปัจจุบันนี้ผมจะมีแผนที่ประกอบ ท่านผู้ชมจะเห็นมีจอทีวีมาวางอยู่ข้างหลัง วันนี้เราจะมาเรียนภูมิรัฐศาสตร์กัน เพราะว่าการจะเล่าถึงการประจันหน้ากันระหว่างอเมริกาด้านหนึ่ง ออสเตรเลียด้านหนึ่ง ญี่ปุ่นด้านหนึ่ง และอินเดีย ตอนนี้ซึ่งเป็นคนเข้ามาร่วมใหม่อีกด้านหนึ่ง กับจีน รัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือ เราจะไม่มีวันเข้าใจเรื่องนี้ได้ถ้าไม่มีแผนที่อธิบายให้ฟังว่าแต่ละคนวางกองกำลังอย่างไร อเมริกาวางกองกำลังอย่างไร แต่ว่าเอาสั้นๆ ก็แล้วกัน ทางฝั่งตะวันตกนั้น มองการประจันหน้ากับจีนด้วยการใช้หมากรุก หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Chess เป็นหมากรุกสากล ก็คือเดินหน้า เอาม้าเดินตรงนี้ เอาเรือเดินตรงนี้ โน่นนี่นั่น แต่ทางจีน รัสเซีย และอิหร่าน ตลอดจนเกาหลีเหนือ ใช้หมากล้อม หรือที่เรียกว่า Go เดี๋ยวเราค่อยดูว่าหมากล้อม ล้อมหมากรุกไว้อย่างไรบ้าง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ไม่ค่อยมีใครสนใจและใส่ใจในเรื่องพวกนี้ แต่ผมจะเอาเรื่องนี้มาอธิบายให้ฟัง ตั้งใจฟังนิด ถ้าสงสัยกลับไปดูอีกครั้งก็ได้


ท่านผู้ชมครับ ประธานาธิบดีทรัมป์ ติดโควิด-19 เขาติด พิสูจน์ออกมาชัดเจนแล้ว เขาติดและเขาแพร่เชื้อในวันที่เขาจัดงานเลี้ยงที่จะแนะนำนางโคนีย์ เข้าเป็นผู้พิพากษาศาลสูงสุด


แล้วในงานนั้น เดี๋ยวผมจะเอารูปขึ้นให้ดู มีคนมาร่วมงานเป็นร้อยคน ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนอยู่ด้านหน้า และมีโพเดียม ปรากฏว่ารูปที่ผมเอาออกมาให้ดู เป็นรูปที่จัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก เขาชี้ให้เห็นเลยว่า จำนวนคนที่ปรากฏอยู่ในรูปนั้น เป็นคนที่ติดโควิดพร้อมกับการแพร่เชื้อของนายทรัมป์ ที่สำคัญคือคนที่ใกล้ชิดนายทรัมป์ คือนางโฮป ฮิกส์ ผู้หญิงสวยๆ คนหนึ่ง ดูเหมือนนางแบบ เป็นคนที่ดูแลในเรื่องการประชาสัมพันธ์ของทรัมป์ และคนๆ นี้เป็นคนที่ทรัมป์ไว้ใจที่สุด เพราะว่าเป็นคนที่ไม่เคยหลุดปากในเรื่องราวต่างๆ ของทรัมป์ให้ใครรู้เลย และทรัมป์ไว้ใจมากๆ


ฮิกส์ ติด และทรัมป์ก็ติด ประเด็นก็คือ ทรัมป์ติดก่อน แล้วฮิกส์ค่อยติดทีหลัง หรือว่าฮิกส์ติดก่อน แล้วทรัมป์ติดทีหลัง ไม่ทราบ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญ แต่เรื่องที่สำคัญก็คือว่า จากรูปของสำนักข่าวบลูมเบิร์กที่วางให้ดูว่าคนที่นั่งแถวหน้าฟังนายทรัมป์พูดนั้น มีอยู่ 5-6-7-8 คน ที่ติดโควิด ติดได้อย่างไรทั้งๆ ที่อยู่ห่างกันขนาดนั้น ผมเข้าใจว่าระยะห่างน่าจะต้องมีประมาณเกือบๆ สิบเมตร แสดงว่าอะไรรู้ไหม ? แสดงว่าสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ แพทย์ ได้วิจัยมา และยืนยันว่าโควิด-19 นั้น airbourne ก็คือแพร่กระจายเชื้อบนอากาศได้ แล้วเขาบอกว่า แพร่กระจายเชื้อบนอากาศได้ห่างไกลไปเป็น 10 ฟุต 15 ฟุต 20 ฟุต หรือหลายเมตร แล้วก็จะคงสภาพของเชื้ออยู่ในอากาศประมาณ 6 ชั่วโมง ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าประหลาดใจเลยว่าทำไมคนที่นั่งข้างหน้าแล้วฟังทรัมป์ ไม่ได้อยู่ใกล้กันแบบ 1-2 เมตรนะ ผมคิดว่าต้องมีประมาณ 4-5 เมตร เป็นอย่างต่ำ ก็ยังติด


ที่ร้ายกาจที่สุดในขณะนี้ เริ่มออกมาแล้ว พอนายทรัมป์ติดปั๊บ นายทรัมป์เข้าโรงพยาบาลทันทีเลย เข้าโรงพยาบาลวอลเตอร์ รีด ซึ่งเป็นโรงพยาบาลทหาร พูดถึงคุณภาพทางการแพทย์ค่อนข้างจะเป็น 1 ใน 10 อันดับของสหรัฐอเมริกา แต่เข้าไปได้ 2 วัน ก็ออกมา

ตอนที่นายทรัมป์ออกมา แพทย์ทั้งหลาย ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย พากันตำหนิติเตียนนายทรัมป์ ว่านายทรัมป์เล่นการเมืองมากจนเกินไป โดยไม่มีการระมัดระวัง แล้วจริงๆ นายทรัมป์ต้องการออกมาเพื่อโชว์ตัวเอง โชว์พาวของตัวเอง ว่าตัวเองนั้นเป็นคนที่เข้มแข็งและไม่กลัวโควิด แต่ว่าล่าสุด หน้ากากที่นายทรัมป์ใส่นั้น มีคนวิเคราะห์แล้ว ว่าจริงๆ แล้วซ่อนด้วยการใช้ออกซิเจนที่จะป้อนเข้าไปในจมูกของนายทรัมป์โดยผ่านหน้ากาก โดยผ่านทางหู ทางคอ และข้างหลัง ซึ่งมีถุงออกซิเจนอยู่ในขณะนั้น อันนี้ก็ว่ากันไป


แต่ที่สำคัญที่สุด เขามองว่านายทรัมป์เป็นคนที่ไม่รับผิดชอบเลย การที่นายทรัมป์กลับมาอยู่ที่ทำเนียบขาว ปีกทางตะวันตก (West Wing) เป็นที่ทำงานของพวกนายทรัมป์ คำถามมีอยู่ว่า ถ้าอย่างนั้นคนที่เข้าไปคุยกับนายทรัมป์ หรือนายทรัมป์เรียกเข้าไปพบเพื่อซักถามเรื่องงานการ จะมีโอกาสที่จะติดโควิดไหม ถึงแม้ว่าจะใส่หน้ากากก็ตาม เพราะมหาวิทยาลัยเกียวโต นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกียวโต ได้ทำงานวิจัยและบอกว่า ไวรัสโควิดนั้นสามารถเข้าสู่ผิวหนังได้ น่ากลัวไหม เข้าสู่ผิวหนังได้ เพราะเขาเอามาทดลองกับคนที่ตายไปแล้ว เอาไวรัสนั้นใส่เข้าไป ซึมซับเข้าไปในผิวหนังเลย ชัดเจน เพราะฉะนั้น ไวรัสเข้าสู่ผิวหนังได้ และไวรัสในขณะเดียวกัน ก็อยู่ในอากาศได้เช่นกัน เราจะมีชีวิตอยู่กันอย่างไร และเขาบอกว่า ที่น่ากัวที่สุดก็คือ ในห้องอับๆ ที่การระบายอากาศไม่ดี โอกาสที่ไวรัสจะ ... เขาบอกไวรัสมี 2 ระดับ ระดับอ่อน กับระดับแรง อ่อนคืออย่างไร ? อ่อนคือ ผมพูดไปนี่ แล้วไวรัสก็ออกจากปาก แต่แรง คือผมจาม มันก็จะกระจายฟุ้งไปในอากาศ แต่จะอ่อนหรือแรงก็ตาม อยู่ในอากาศได้ 6 ชั่วโมง เขาบอกว่า ถ้าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ ที่เขาเรียกว่า Influenza เชื้อไวรัสโรคไข้หวัดใหญ่จะอยู่ได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่ถ้าเป็นโควิดแล้ว ต้องมี 6 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมครับ อย่าไปดูภาพยนตร์ นี่ด้วยความสัตย์จริง ผมพูดนี่ไม่ใช่เพื่อให้โรงหนังเจ๊ง แต่เราต้องเอาตัวเราให้รอดก่อน อย่าเข้าไปในโรงภาพยนตร์ เพราะโรงภาพยนตร์ปิดหมด และระบบการระบายอากาศนั้น ก็คือถ้าคนเป็นโควิดแล้วเกิดไอขึ้นมา มันก็ฟุ้งขึ้นไปเลยข้างบน แล้วระบบการระบายอากาศ มันไม่ใช่ระบบที่อยู่ในห้องครัวที่มีกล่องขึ้นมาแล้วก็ดูดฟื้ดๆ ไม่ใช่ มันระบายอากาศทั้งห้องโถงที่เป็นโรงภาพยนตร์ หรือการประชุม หรือการสัมมนา หรือ ... ซึ่งผมพูดไปผมก็กลัว เครื่องบิน นั่งบนเครื่องบิน เพราะว่านายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องโควิดและรักษาโควิดมาตลอดในอเมริกา ยืนยันว่า พิษที่เข้าไปในนายโดนัลด์ ทรัมป์ นั้น จะไม่ออกผลจนกระทั่งเสาร์-อาทิตย์นี้ เสาร์-อาทิตย์นี้ คือวันพรุ่งนี้-วันมะรืน และวันมะเรื่อง วันจันทร์ จะเป็นเวลาที่วิกฤตที่สุดของทรัมป์


นายทรัมป์ ได้รับยา คือพูดง่ายๆ ว่านายทรัมป์เป็นบุคคลที่ได้รับการดูแลที่สุดในโลก เหตุผลเพราะว่าเขาระดมหมอทุกอย่างเลย และอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ การที่นายทรัมป์เดินทางกลับไปพำนักที่ทำเนียบขาวนั้น เขาบอกในทำเนียบขาวนั้น สถานพยาบาลที่รักษาพยาบาลนายทรัมป์นั้น ไม่ได้น้อยไปกว่าโรงพยาบาลอันดับ 1 ของอเมริกาเลยแม้แต่นิดเดียว ในขณะนี้มันเป็นเช่นนี้ และที่สำคัญ วุฒิสมาชิกรีพับลิกัน พรรคเดียวกับนายทรัมป์ เป็นโควิด ทดสอบแล้วเป็นบวกหมด เป็นสิบกว่าคน ในทำเนียบขาวเอง ติดเช้าติดเย็น คนที่เขียนสุนทรพจน์ให้นายทรัมป์ก็ติด คนที่เป็นโฆษกของทำเนียบขาวก็ติด ล่าสุดโควิดระบาดไปจนถึงกระทรวงกลาโหมแล้ว ตอนนี้นายพลระดับพลเอก เป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูง หลายต่อหลายคน ก็ติดโควิด-19


ท่านผู้ชมครับ ด้วยเหตุนี้ ทางสหรัฐอเมริกาและประชาชนทั่วไปกำลังบอกว่า นายทรัมป์เป็นคนที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคมเลยแม้แต่นิดเดียว นายทรัมป์ขณะนี้ไม่ต้องการอยู่ในโรงพยาบาลวอลเตอร์ รีด ต่อ เพราะถ้าอยู่แล้วเขาจะเสียเปรียบ เพราะเขาต้องการที่จะแสดงออก แสดงออกว่าเขาสู้ไบเดนได้ คือเอาการเมืองมานำหน้าในเรื่องของความปลอดภัย ทีนี้ปัญหาก็คือว่า มันไม่ได้กระทบคุณคนเดียว มันกระทบพวกพนักงาน เจ้าหน้าที่ของทำเนียบขาว ซึ่งอยู่กันตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้ผมก็เลยไม่รู้ว่านายทรัมป์จะปฏิบัติตนอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ที่สุด เขาบอกว่านักข่าวซีเอ็นเอ็นคนหนึ่ง ชื่อ เบตซี ไคลน์ เป็นคนที่มีหน้าที่อย่างเดียว คอยมอนิเตอร์ ตรวจสอบทวิตเตอร์ของนายทรัมป์


เขาบอกว่าในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ตั้งแต่นายทรัมป์กลับมาอยู่ที่ทำเนียบขาวนั้น นายทรัมป์ทวีตเกือบ 2 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ 08.15 น. ทวีตไปๆๆ ทั้งหมดเท่าไรรู้ไหม ? 50 ครั้ง แล้วเนื้อหาของทวิตเตอร์นั้นสะท้อนให้เห็นความรุ่มร้อนของนายทรัมป์ เหมือนกับตัวเองกำลังหลังชนฝา ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ โจมตี กล่าวหาฝ่ายพรรคเดโมแคตตในทิศทางที่เป็นข่าวลือ และในทิศทางที่ไม่เป็นความจริง คือพูดง่ายๆ ว่าตอนนี้หลังชนกำแพงแล้ว ไม่หลังชนกำแพงได้อย่างไร เอาล่ะ เรากำลังก้าวเข้ามาสู่การเลือกตั้งครั้งนี้ให้เห็น


ผลพวงของนายทรัมป์ก็เลยทำให้แนวโน้มที่จะมีการโต้วาที หรือดีเบตครั้งที่ 2 อาจจะต้องล้มไป สาเหตุของการที่จะต้องล้มมีอยู่ 2 ประการ ประการแรกนั้น ถ้าหากนายทรัมป์ยังใช้นิสัยถ่อย สถุล เหมือนอย่างที่ผมพูดไป ในการก้าวร้าว รุกรานผู้ที่โต้วาทีด้วย อีกฝ่ายหนึ่งคือโจ ไบเดน ก็จะไม่ร่วมโต้วาที แต่ที่ร้ายกว่านั้นก็คือว่า ถ้านายทรัมป์ไปโต้วาที แล้วนายทรัมป์ติดโควิด-19 แล้วเวลาโต้วาทีใส่หน้ากากพูดได้อย่างไร ก็ต้องถอดหน้ากากพูด แล้วเชื้อ ละอองของนายทรัมป์ก็จะลอยอยู่ในอากาศ แล้วมันก็จะไปถึงโจ ไบเดน

โจ ไบเดน บอกว่าถ้านายทรัมป์ยังไม่หายจากโควิด ผมจะไม่โต้วาทีด้วย ผมจะไม่เล่นกับคุณแล้ว แล้วล่าสุดนี้ นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีจากนายทรัมป์ กำลังจะเริ่มโต้วาที จริงๆ โต้ไปแล้วเมื่อวานนี้ ตอนเช้า เรียบร้อยแล้ว


นางกมลา แฮร์ริส ยืนยันว่าจะต้องมีแผ่นพลาสติกกั้นเอาไว้ แต่ว่าเผอิญนายไมค์ เพนซ์ และกมลา แฮร์ริส ไม่ได้ติดโควิด แต่ผมกำลังชี้ให้เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ซีเรียส ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เล็กน้อย เพราะจนบัดนี้คนอเมริกาที่ตาย ตายไปประมาณ 210,000 คนแล้ว และคนอเมริกาติดเชื้อโควิด 7.5 ล้านคน


นายทรัมป์ทวีตลงในทวิตเตอร์ออกมาว่า ขอให้ตายถึง 4 แสนคน ก็แล้วกัน

ท่านผู้ชมครับ ในขณะนี้โพลล่าสุด ผมรู้ว่าท่านผู้ชมอาจจะไม่สนใจการเมืองอเมริกา แต่ก็ต้องฟังเอาไว้ เพราะว่า "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" คือเรื่องราวที่ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง รับทราบเอาไว้ เพิ่มปัญญา สั่งสมปัญญาที่ตัวเองมี


โพลของซีเอ็นเอ็นให้ไบเดน นำนายทรัมป์ 16 จุด ท่านผู้ชม 16 จุดนี่สูงมากๆ แล้วเขาก็พิสูจน์ว่าที่เขาทำโพลมา 16 จุดนั้น มีโอกาสที่จะผิดพลาดกี่เปอร์เซ็นต์ ก็ปรากฏว่าทุกจุดที่เขาเอาไปทดสอบว่าคำว่าโพลนำไป 16 จุดนั้น มีโอกาสผิดพลาดไหม ปรากฏว่าถูกต้องหมด ก็คือ 16 จุด จากนายทรัมป์แพ้อยู่เพียงตัวเลขเดี่ยว เชิงเดี่ยว 7 จุดบ้าง 9 จุดบ้าง วันนี้กระโดดมาเป็นตัวเลขคู่แล้ว 16 จุดนี่แพ้เยอะนะท่านผู้ชม เยอะมาก แล้วข่าวล่าสุดก็มาว่า ... คืออเมริกาจะมีการเลือกตั้ง 2 แบบ อันแรกที่เขาเรียกว่า Popular Vote

Popular Vote คือ One man one vote ใครได้คะแนนเสียงมากที่สุด คนนั้นชนะ แต่ชนะตรงนั้นยังไม่พอ ต้องมาชนะคะแนนที่เขาเรียกว่า Electoral Vote


Electoral Vote ก็คือเป็นตัวแทนของรัฐที่จะลงคะแนนเสียงว่าจะยกคะแนนเสียงตรงนี้ให้ใคร คราวที่แล้ว นายทรัมป์เมื่อปี 2016 นายทรัมป์ชนะฮิลลารี คลินตัน ชนะตรง Electoral Vote แต่ Popular Vote แพ้ แต่ชนะ Electoral Vote แต่วันนี้น่าสนใจมาก วันนี้ไบเดน Electoral Vote เกือบ 300 เสียงแล้วที่ได้ ที่เขาคำนวณกัน เพราะฉะนั้นแล้ว Electoral Vote เหมือนกับไบเดนกำชัยชนะ Electoral Vote ไว้ในหีบเซฟไว้เรียบร้อยแล้ว ก็เหลือแต่ Popular Vote การมีคะแนนนำนายทรัมป์ 16 จุด ถ้าพูดถึงหลักการของ Popular Vote แล้ว นายไบเดนน่าจะชนะแน่


ท่านผู้ชมครับ เรามาดูอะไรเล็กๆ น้อยๆ ดีกว่า มีวารสารทางการแพทย์ฉบับหนึ่งที่ชื่อ The NEW ENGLAND JOURNAL of MEDICINE วารสารนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1812 เกือบๆ สองร้อยกว่าปีแล้ว วารสารเล่มนี้เป็นวารสารทางการแพทย์ วารสารเล่มนี้อยู่มานานขนาดนี้ เป็นครั้งที่ 4 มั้งในประวัติศาสตร์ในวารสารเล่มนี้ที่มีบทบรรณาธิการแล้วเซ็นโดย บก.ทุกคน แล้ว บก.ทุกคนนี่เป็นหมอหมดเลยนะ เซ็นว่าอย่างไรรู้ไหม ? เซ็นบอกว่า ขอให้ปลดนายทรัมป์ อย่าเลือกนายทรัมป์เข้าไปเป็นประธานาธิบดีอีก เหตุผลเพราะว่านายทรัมป์ล้มเหลวในการป้องกันโควิด-19 อย่างสิ้นเชิง นี่เป็นสัญญาณเล็กๆ น้อยๆ

อย่าลืมนะครับ ผมเชื่อว่าคนในแวดวงการแพทย์จะมีกี่คนก็ตาม หรือคนที่อยู่ในแวดวงพยาบาล หรือคนที่อยู่ในแวดวงโรงพยาบาลทั่วอเมริกา เมื่อเห็นปฏิบัติการของนายทรัมป์ เมื่อเห็นปฏิกิริยาที่นายทรัมป์มีต่อโควิด-19 เมื่อเห็นวิธีการของนายทรัมป์ที่ละเลยที่จะแก้ไขปัญหานี้ ผมว่าคนพวกนี้ต้องมีเกิน 90 เปอร์เซ็นต์ ไม่เลือกนายทรัมป์อย่างแน่นอนที่สุด เพราะฉะนั้นแล้ว โอกาสที่นายทรัมป์จะกลับมาเป็นประธานาธิบดีครั้งที่ 2 นั้นค่อนข้างจะริบหรี่


แต่นายทรัมป์ก็หวังว่า เขาจะไม่ส่งต่อตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างราบเรียบหรืออย่างสันติ เหตุผลเพราะเขาต้องการที่จะฟ้องร้องการเลือกตั้งครั้งนี้ และให้เรื่องไปจนถึงศาลสูงที่เขาเรียกว่า Supreme Court ซึ่งผู้หญิง คือนางโคนีย์ ที่นายทรัมป์กำลังจะตั้ง หรือตั้งแล้ว เป็นคนสุดท้ายของผู้พิพากษาที่เป็นหัวอนุรักษ์นิยมที่เอนเอียงไปในทางนายทรัมป์ เพราะฉะนั้นแล้ว ฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะมี 5 เสียง ฝ่ายที่ไม่ใช่อนุรักษ์นิยมมี 4 เสียง ก็เท่ากับว่าถ้าลงคะแนนเสียง ก็ 5 ต่อ 4 ถ้าสมมุตินายทรัมป์จะหาเหตุอันใดก็ตามที่จะมาฟ้องร้อง ซึ่งหมอนี่หาได้ทุกเหตุ ทุกเหตุจริงๆ เมื่อหาได้ทุกเหตุแล้ว เมื่อมีการฟ้องร้องกันออกมาแล้ว แล้วถ้าเรื่องไปถึง Supreme Court แล้ว Supreme Court บอกว่าให้การเลือกตั้งที่ผ่านมานั้นโมฆะ ต้องเลือกตั้งใหม่ เราจะเห็นความวุ่นวายต่างๆ ที่จะต้องเกิดขึ้น


ท่านผู้ชมครับ ต่อเรื่องของนายทรัมป์นิดหนึ่งกับอเมริกา วันหลังผมจะพูดอีกตอนหนึ่งให้ฟัง


ผู้รู้ นักวิชาการต่างๆ นักการเงินต่างๆ ทั่วโลก นักธุรกิจใหญ่ๆ ทั่วโลก พากันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตอนนี้เป็นช่วงเสื่อม จุดตกต่ำของสหรัฐอเมริกา บางคนเขียนบทความเปรียบเทียบกับล่มสลายของอาณาจักรโรมัน ที่เขาเรียกว่า The Fall of Roman Empire ว่าอเมริกากำลังเดินตามรอยเท้าของอาณาจักรโรมันอยู่ทุกประการ


แสนยานุภาพทุกอย่างในขณะนี้ กำลังทหาร การเงิน ตลอดจนธุรกิจ เศรษฐกิจ กำลังอยู่ในจุดเสื่อมหมด อเมริกากำลังกลายเป็นประเทศที่มีหนี้สาธารณะที่เยอะที่สุดในโลก เงินอเมริกา ผมเคยพูดมานานแล้วท่านผู้ชมถ้าจำได้ ผมพูดมาเป็นปีแล้วว่าเงินอเมริกากำลังจะกลายเป็นแบงก์กงเต็ก และก็กำลังจะกลายเป็นแบงก์กงเต็กจริงๆ ด้วยในขณะนี้

หลายคนที่อยู่ในวอลล์สตรีทเริ่มพูดแล้วว่า ถ้าไบเดนเข้ามาเป็นประธานาธิบดีแล้ว โอกาสที่เศรษฐกิจอเมริกาจะพัฒนาและดีขึ้น น่าจะดีกว่านายทรัมป์เยอะ พูดง่ายๆ ว่าลมพัดมาทางนายไบเดนหมดแล้วส่วนใหญ่ นายทรัมป์ตอนนี้กำลังกระโดดโลดเต้นอยู่ เขามีเวลาอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์กว่าๆ เขาจะแก้เกมตรงนี้ได้อย่างไร


ในขณะนี้ที่เขาแก้เกมได้ก็คือว่า เขาพยายามทวีตข้อความที่โกหกและโจมตีอีกฝ่ายหนึ่งอย่างไม่มีเหตุไม่มีผล แต่ที่สำคัญ กุญแจที่สำคัญที่สุดก็คือว่า เสาร์-อาทิตย์-จันทร์ที่จะถึงนี้ พรุ่งนี้ มะรืน มะเรื่องนี้ ถ้าเป็นไปตามที่หมอเขาคาดคิดไว้ อาการนายทรัมป์จะต้องเลวร้ายลงไป เพราะว่ายาที่เขาให้นายทรัมป์ทาน และทำให้นายทรัมป์ดีขึ้น มันเป็นสเตียรอยด์ และมันเป็นยาที่เร่งภูมิคุ้มกัน ป้องกันปอดให้มันสูงขึ้น แล้วยานี้มันมีส่วนในการลดไข้ด้วย มันก็เลยทำให้ไข้ของนายทรัมป์ไม่ได้สูงตามที่มันควรจะเป็น เพราะหมอทุกคนบอกว่า ยาเดกซาเมทาโซน เป็นยาที่จะปรับและเร่งภูมิคุ้มกันให้มันสูงขึ้น สมมุติว่าปกติมีอยู่ 1.5 เร่งให้ขึ้นถึง 2 หรือ 3 แต่คนที่เป็นหมอและเป็นนักวิทยาศาสตร์ เขาบอกว่ายาตัวนี้ก็อันตราย เพราะว่าเมื่อฤทธิ์ยานี้หมดแล้ว ภูมิคุ้มกันที่เคยมีอยู่ มันจะตกลงไปต่ำมาก

และที่สำคัญที่สุด ตอนที่นายทรัมป์เข้าโรงพยาบาลวอลเตอร์ รีด มีข้อยืนยันโดย Chief of Staff ของทำเนียบขาว คือพูดง่ายๆ ว่าหัวหน้าคณะผู้บริหารในทำเนียบขาว เป็นคนพูดให้สัมภาษณ์เอง ว่านายทรัมป์ออกซิเจนตก ต้องให้ออกซิเจนถึง 2 ครั้ง เมื่อให้ออกซิเจนถึง 2 ครั้ง แสดงว่าทุกวันนี้เขาถึงจับผิดว่านายทรัมป์ธรรมดาไม่ใส่หน้ากาก แต่เมื่อใดที่นายทรัมป์ใส่หน้ากากสีดำ ในหน้ากากสีดำนั้นซ่อนด้วยกระบวนการป้อนออกซิเจนด้วยเครื่องมือที่เล็กมา เพื่อจะให้นายทรัมป์ได้สูดออกซิเจนต่อไป ที่สำคัญที่สุดก็คือว่า คนๆ หนึ่งพอรู้ว่าติดโควิด-19 ถึงจะนอนอยู่ในห้องพยาบาล หรือดูแลโดยหมอที่ดีที่สุด ถามว่ามีใครกลัวกันบ้างไหม ? กลัวกันทุกคน ตอนนี้คนที่อยู่ในทำเนียบขาวติดโควิดเช้าคน เย็นคน เช้าคน เย็นคน ตลอดเวลา


เมื่อผู้นำประเทศและทีมผู้นำในทำเนียบขาวเริ่มติดโควิด และไม่สนใจกระบวนการ ขั้นตอนการรักษาที่ถูกต้อง โลกเราจะพึ่งกับคนพวกนี้ที่จะมาบริหารอเมริกาที่มีอิทธิพลต่อโลกของเราได้อย่างไร


ท่านผู้ชมครับ ก่อนที่เราจะเข้าไปสู่ความขัดแย้งและการเผชิญหน้ากันระหว่างจีน รัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ กับสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และล่าสุดมีอินเดียพ่วงเข้ามาด้วย เหตุผลหนึ่งที่ผมไม่บวกอังกฤษเข้าไปในกลุ่มความขัดแย้ง ก็เพราะว่าในขณะนี้บอริส จอห์นสัน และอังกฤษ กำลังเอาตัวไม่รอดอยู่แล้วในเรื่องของเบร็กซิท และในขณะเดียวกัน ยอดของผู้ป่วยโควิด-19 ในอังกฤษกำลังรุนแรงขึ้นทุกทีๆ แต่ก่อนที่ผมจะไปถึงตรงนั้น มันมีข้อคิดหนึ่งที่ผมอยากจะเรียนให้ท่านผู้ชมทราบ หลายๆ ท่านอาจจะไม่รู้มาก่อน


จากสถิติของการสำรวจประชากรของสหรัฐอเมริกาล่าสุด ออกมา มีตัวเลขที่น่าสนใจมาก เมื่อประมาณสิบปีที่แล้ว หรือยี่สิบปีที่แล้วนั้น คนผิวขาวในสหรัฐอเมริกามีประมาณ 79 เปอร์เซ็นต์ มาวันนี้คนผิวขาวลดเหลือแค่ 61 เปอร์เซ็นต์ แปลว่าในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมานี้ คนผิวเหลือง หรือคนเม็กซิกัน-อเมริกัน หรือคนซึ่งมีเชื้อสายทางสเปน ที่อยู่ทางอเมริกาใต้ รวมทั้งคนผิวดำด้วย เริ่มเข้ามาในสหรัฐอเมริกามากขึ้น และเพิ่มจำนวนประชากรมากขึ้น ตรงนี้ล่ะท่านผู้ชมที่ทำให้นายทรัมป์จับเส้นชีพจรที่กังวลของคนผิวขาวในสหรัฐอเมริกาได้ คือเขามองว่าอำนาจของคนผิวขาวถ้าผ่านการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยที่เขายังเชื่อมั่นอยู่ ก็จะทำให้บทบาทของคนผิวขาวนั้นน้อยลงไปเรื่อยๆ และอาจจะถึงวันที่ในที่สุดแล้วเมื่อวันหนึ่งมา วันนั้นคนผิวสีที่ไม่ใช่คนผิวขาว ก็จะเป็นคนที่มีอำนาจเหนือประเทศอย่างเช่นสหรัฐอเมริกา ซึ่งตรงนี้เขารับไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ ทรัมป์เข้ามา ทรัมป์ก็เลยพยายามอย่างมากที่จะกีดกันคนต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายให้คนเข้าเมือง หรือนโยบายผู้ลี้ภัย หรือนโยบายของผู้ที่มาเรียนหนังสือ เมื่อเรียนจบแล้วหางานทำแล้ว ก็แปลงสัญชาติ ได้บัตรอยู่อย่างถาวร หรือที่เขาเรียกว่า Permanent Resident ที่คนไทยในต่างประเทศเขาเรียกว่า Green Card


และอีกประการหนึ่งที่เห็นชัดเจนก็คือว่า ตัวเลขต่างๆ พวกนี้ ปริมาณของคนผิวสีที่ไม่ใช่คนผิวขาวนั้น ในแต่ละเมืองหลวงใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นลอสแองเจลิส ไม่ว่าจะเป็นนิวยอร์ก ไม่ว่าจะเป็นแอตแลนตา หรือไม่ว่าจะเป็นเมืองใหญ่ๆ อย่างเช่นซีแอตเทิล คนผิวสียิ่งวันก็ยิ่งมากขึ้น


ตรงนี้เป็นเรื่องที่การวางแผนในการต่อต้านคนผิวสีนั้น ก็เลยทำให้การวางแผนนั้นค่อนข้างจะปวดหัว ท่านผู้ชมจำได้ไหม ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้เอง และเดือนธันวาคมจะเป็นเดือนสุดท้ายแล้วที่เขาจะบอกว่าไม่ให้วีซ่ากับคนต่างชาติที่มาขอวีซ่าแล้ว บริษัทอย่างเช่นกูเกิล เฟซบุ๊ก แอปเปิล ว่าจ้างคนพวกนี้มาทำงานทางด้านวิศวะ ทางด้านเทคโนโลยี หมายความว่าอย่างไร ? หมายความว่าสมัยก่อนคนพวกนี้สามารถจะเข้ามาในอเมริกาและทำงานได้ด้วยวีซ่าพิเศษ ที่้บริษัทใหญ่ๆ พวกนี้เป็นคนรับรองและเอาเข้ามา คนพวกนี้ก็จะเอาลูกหลาน เอาเมียเข้ามา เอาครอบครัวเข้ามา เขาบอกว่าพอเดือนธันวาคมนี้ เขาจะตัดทิ้งแล้ว หมายความว่าคนทั้งหมดที่เข้ามาด้วยวีซ่านี้จะต้องถอยออกไปจากอเมริกา ท่านผู้ชมครับ คนที่อยู่ในอเมริกามากที่สุดปัจจุบันนี้ด้วยวีซ่านี้ คือคนอินเดีย


ท่านผู้ชม เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่จะว่าใหญ่ก็ใหญ่ จะว่าเล็กก็เล็ก ขึ้นอยู่กับว่าเรามองอย่างไร ท่านผู้ชมรู้ไหมในฝรั่งเศสขณะนี้เปอร์เซ็นต์ของคนที่ถือศาสนามุสลิมนั้น มีอยู่ประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ คาดกันว่าอีกไม่เกิน 20-30 ปี ประเทศฝรั่งเศสจะต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของคนที่มีศาสนามุสลิม หรือชาวมุสลิม เพราะอะไร ? เพราะว่าคนทางยุโรป หรือคนผิวขาวนั้นเขาจะควบคุมการเกิด หนึ่งครอบครัว ในช่วงหลังๆ นี้ อย่าว่าแต่ลูกคนเดียวเลย ไม่มีลูกเสียด้วยซ้ำ แล้วหลังๆ จากนั้นก็ไม่มีครอบครัวกันอีก ก็คืออยู่เดี่ยวกันเยอะมากพอสมควร ถึงมีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวเยอะพอสมควร แต่คนมุสลิมซึ่งมีผลพวงมาจากการลี้ภัยที่ประเทศฝรั่งเศสเปิดให้มีการลี้ภัยเข้ามาเยอะๆ คนมุสลิมพวกนี้ล่ะ ไม่มีข้อจำกัด ก็จะมีลูกกันเยอะ 3 คน 5 คน 6 คน เขาบอกว่าอีกไม่เกิน 20 ปี ประชากรที่สามารถจะลงคะแนนเสียงในฝรั่งเศสได้ จะมีเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ ที่เป็นคนที่นับถือมุสลิม จะมาจากแอลจีเรีย มาจากตะวันออกกลาง มาจากแอฟริกา พวกนี้ และอีกหน่อยฝรั่งเศสก็จะถูกบริหารโดยคนที่ถือศาสนามุสลิม


ท่านผู้ชมครับ นี่เป็นปัญหาโลกแตกจริงๆ เพราะว่าคุณมีระบอบประชาธิปไตยที่คุณถือว่า One man one vote แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อมีคนละผิวกับคุณ และคนละศาสนากับคุณ เข้ามาอยู่ในประเทศคุณมากขึ้นๆ ก็ย่อมถือสิทธิ์ในการที่จะเป็นคนฝรั่งเศส หรือคนอเมริกา ก็เหมือนคนไทยนี่ล่ะ ในประเทศไทยถ้าวันใด อีกสัก 10-20 ปี แล้วเราไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของการที่พม่าเข้ามาในประเทศไทยเรา เขมรเข้ามาในประเทศไทยเรา ถ้าเข้ามาเยอะๆ อย่าลืมนะท่านผู้ชมว่าประชากรพม่าเหมือนกับจะมีเท่าๆ กับประเทศไทย หรือจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ ในอนาคต อีก 20-30 ปี ก็จะมีคนสัญชาติไทย เชื้อชาติพม่า เต็มไปหมดเลย นั่นก็เป็นปัญหาที่จะต้องมานั่งแก้กันแล้วว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง ตรงนี้ก็เป็นข้อคิดอันหนึ่งที่ผมจะฝากเอาไว้ให้


ท่านผู้ชมจำได้ไหมว่าผมเคยพูดอยู่ตลอดเวลาว่าความขัดแย้งของจีนกับสหรัฐอเมริกานั้น มันเริ่มมานานแล้ว แต่ไม่เคยรุนแรงเท่าตอนนี้ ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าทำไมมันเริ่มรุนแรงมากขึ้นๆ ท่านผู้ชมต้องรู้นะครับว่าในขณะนี้นโยบายต่างประเทศ นโยบายความมั่นคงของสหรัฐอเมริกานั้น เป็นนโยบายที่ร่างขึ้นมาโดยกระทรวงการต่างประเทศ หรือที่เขาเรียกว่า State Department และกระทรวงกลาโหม (เพนตากอน) กลุ่มคนพวกนี้จะมี Think Tank ที่คอยวางว่าใครบ้างที่อเมริกามองว่าจะเป็นคู่แข่ง หรือจะเป็นศัตรู เหมือนที่เขามองอิหร่านเป็นศัตรู มองเกาหลีเหนือเป็นศัตรู มองรัสเซียเป็นศัตรูด้วย


จีน สมัยก่อนถูกวางอยู่ในจุดที่การวิเคราะห์และการกำหนดยุทธศาสตร์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ว่าเป็นคู่แข่งของอเมริกา คู่แข่ง ภาษาอังกฤษเรียกว่า Competitor


คู่แข่งทุกเรื่อง คู่แข่งทางเทคโนโลยี คู่แข่งทางการค้า คู่แข่งทางการเงิน แต่ท่านผู้ชมรู้ไหมว่า เพิ่งจะปีที่แล้วนี่เอง นโยบายใหม่ซึ่งเกิดขึ้นมาจากการกำหนดยุทธศาสตร์ของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา และการกำหนดยุทธศาสตร์ของกระทรวงกลาโหมอเมริกานั้น ได้วางจีนเป็นศัตรู ท่านผู้ชมครับ เปลี่ยนจากคู่แข่ง มาเป็นศัตรูแล้ว


ทีนี้ ก่อนที่จะเข้าไปสู่เรื่องนี้ เราต้องเข้าใจถึงจิตใจและความคิดของคนอเมริกานิดหนึ่ง คนที่มีอำนาจในอเมริกาเขามองว่าในขณะนี้จีน ยืนยันได้แน่นอนแล้วว่า อีกไม่กี่ปีข้างหน้าเศรษฐกิจจีนจะต้องใหญ่กว่าเศรษฐกิจอเมริกา และต้องเป็นเศรษฐกิจอันดับ 1 ของโลก ตรงนี้ต่างหากที่ทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกากลัวมาก และโดยเฉพาะช่วงหลังนี้ การแข่งขันกันทางด้านเทคโนโลยี จีนไม่ได้แพ้สหรัฐอเมริกา ท่านผู้ชมหลายท่านก็อาจจะบอกว่า คุณสนธิเชียร์จีนอีกแล้ว ท่านผู้ชมฟังการวิเคราะห์ของผมด้วยเหตุด้วยผล อย่าเอาอารมณ์ หรือเอาความรักที่มีต่อสหรัฐอเมริกา ผมทำหน้าที่เป็นผู้เฒ่าเล่าเรื่อง ผมเล่าเรื่องให้ฟังว่าฝั่งนี้คิดอย่างไร ฝั่งนี้มองปัญหาอย่างไร ฝั่งนี้ทำอย่างไรบ้าง และฝั่งนี้ตอบโต้อย่างไร

ผมเคยพูดอยู่ตลอดเวลาว่า จีนเองก็มีจุดอ่อนเยอะ แต่ท่านผู้ชมที่วิพากษ์วิจารณ์ผม ยังไม่มีเหตุผล ไม่เคยฟังเรื่องพวกนี้เลย จุดอ่อนของจีนคือการครอบงำประเทศเพื่อนบ้านด้วยพลานุภาพของเศรษฐกิจของตัวเอง และขณะเดียวกัน กึ่งๆ จะข่มขู่ประเทศเพื่อนบ้านด้วยแสนยานุภาพที่จีนมีอยู่ เพียงแต่ว่า จีนต่างจากอเมริกาตรงที่ว่า จีนยังไม่เคยเข้าไปรุกรานใคร ตั้งแต่ผมเห็นจีนมา จีนยังไม่เคยส่งทีมงานใดๆ เข้ามาเพื่อยุยงส่งเสริมให้มีการล้มสถาบันกษัตริย์ และก็ให้ปฏิวัติหรือล้มรัฐบาลของตัวเอง ไม่มี มีแต่อเมริกาเท่านั้นที่ใช้องค์กรที่มีหลายชื่อหลายอย่าง เช่น NED : Natioanl Endowment for Democracy องค์กรที่ส่งเสริมประชาธิปไตยระดับชาติ


หรือ CFR : Council for Relation สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือ Human Rigths Watch หลายๆ อย่าง แล้วก็สภาคองเกรสของอเมริกาก็มอบเงินก้อนนี้ให้องค์กรต่างๆ เหล่านี้ โดยผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อเอามาแจกองค์กรนี้ องค์กรนี้ก็ออกไปทำงาน ไม่ว่าจะเป็นคุณอานนท์ ซึ่งเป็นทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน หรือหลายๆ อย่าง เฉพาะในประเทศไทย และหลายๆ ประเทศก็เป็นเช่นนี้เช่นกัน แต่สภาประชาชนของจีน รัฐบาลจีน ไม่เคยมีงบประมาณเช่นนี้เลยแม้แต่นิดเดียว นี่คือข้อแตกต่างกันแล้ว

ความขัดแย้งระหว่างจีนกับอเมริกา อย่างที่ผมเคยเล่าให้ฟังแล้ว ถ้าท่านผู้ชมเคยฟังมาตั้งแต่ต้น จะเห็นว่าผมชี้ให้เห็นว่า 5G โทรศัพท์ระบบ 5G จะเป็นตัวเปลี่ยนโลก


ทำไม 5G จะเป็นตัวเปลี่ยนโลก ? เพราะว่าระบบ 5G เป็นระบบที่เขาใช้มาควบคุมหุ่นยนต์ ในอนาคต การผลิต อุตสาหกรรมต่างๆ สัดส่วนของการใช้หุ่นยนต์แทนคนจะเริ่มมากขึ้นๆๆ จีนพัฒนามาถึงขั้นหุ่นยนต์ทำอาหาร และหุ่นยนต์เป็นหมอ หุ่นยนต์สามารถที่จะเป็นที่ปรึกษาทนายความโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หลายๆ อย่าง ท่านผู้ชมครับ จีนพัฒนาระบบรถไฟฟ้าของจีน อเมริกาก็มี ที่ดังๆ ก็คือเทสล่า แต่ของจีนนั้นมีหมด จีนในหลายๆ เมือง บางเมือง หลายๆ เมืองประกาศแล้วว่าห้ามใช้รถที่ใช้น้ำมัน ให้ใช้รถไฟฟ้าทั้งสิ้น


ท่านผู้ชมหลับตาวาดภาพอีก 20 ปี รถยนต์ในประเทศจีน 80-90 เปอร์เซ็นต์ ใช้ไฟฟ้าหมด การที่จะต้องมาพึ่งพาอาศัยน้ำมันนั้น ก็หมดไป นี่ผมกำลังเล่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น และผมกำลังเล่าให้ฟังว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ มันเป็นอันตรายกับอุตสาหกรรมและการเป็นผู้นำของสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุนี้ อเมริกาถึงทนไม่ได้ที่จีน โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ออกนโยบาย Made in China ขึ้นมา


ก็คือพูดง่ายๆ ว่าจะทำให้สินค้าจีนที่ชื่อว่า Made in China เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ และในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" มีอยู่ตอนหนึ่งผมบอกว่า ถ้าคนเราใช้ 5G มาควบคุมการผลิต โดยควบคุมหุ่นยนต์ เพราะฉะนั้นแล้ว คุณภาพของสินค้าที่ออกมาจากกระบวนการผลิตที่ใช้หุ่นยนต์และควบคุมด้วย 5G นั้น มันไม่ได้ต่างกว่าสินค้าที่ทำในตะวันตกเลยแม้แต่นิดเดียว คุณภาพเท่าเทียมกัน ถ้าจะต่าง ต่างกันที่วัดถุดิบที่ใช้ อาจจะวัตถุดิบที่จีนใข้อาจจะถูกหน่อย ที่ต่างประเทศทางตะวันตกอาจจะใช้แพงหน่อย


ท่านผู้ชมครับ ก่อนที่เราจะเข้าไปเรื่องของการประจันหน้า เราต้องทำความเข้าใจในเรื่องบางเรื่องกันนิดหนึ่ง ผมรู้ ผมรู้ดีว่าความคิดของท่านผู้ชมหลายท่าน ท่านบอกว่าจีนไม่จริงใจ จีนละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่มณฑลซินเจียง มีค่ายกักกันของชาวอุยกูร์เป็นล้านคน แล้วจีนก็ไปยึดถือ ยึดครอง ไปอ้างกรรมสิทธิ์ในเกาะต่างๆ ท่านผู้ชมครับ ตามผมมานิด วางใจให้เป็นกลางนิดหนึ่ง ผมนี่เห็นใจชาวอุยกูร์ แต่ขอโทษนะครับท่านผู้ชม ไม่ได้หนักกบาลผม เพราะว่าไทยไปเกี่ยวอะไรด้วยกับอุยกูร์ล่ะ เป็นปัญหาภายในของจีนที่ต้องจัดการกับกลุ่มอุยกูร์ ไม่ใช่หน้าที่ของเรา เป็นเรื่องภายในประเทศของเขา เขามีศิลปะ เขามีวัฒนธรรม เขามีประวัติศาสตร์ที่ยืนยาวตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นเป็นต้นมา เมื่อประมาณเกือบ 2 พันปีที่แล้ว ไล่มาจนถึงราชวงศ์ถัง ไล่มาเรื่อยๆ ถึงหมิง ถึงโน่น ถึงนี่ ถึงนั่น ชาวอุยกูร์ก็คือชาวทางฝั่งตะวันตกของจีน ที่เขาเรียกว่าพวกซีหู


"ซีหู" หู คือ คนต่างชาติ ซี ก็คือตะวันตก ชาวอุยกูร์นั้นโดยพื้นฐานแล้ว รากเหง้าเขาคือพวกเติร์กเมนิสถาน เติร์กเมนิสถานก็คือมีสายพันธุ์ เชื้อชาติ ที่สืบเนื่องมาจากทางฝั่งตุรกี อาณาจักรออตโตมัน นับถือศาสนาอิสลาม มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรา มันเป็นเรื่องภายในประวัติศาสตร์เก่าแก่ของเขา


เหมือนกับทิเบต ทิเบตกับจีน เราก็บอกว่าเราเห็นใจดาไล ลามะ ที่ถูกจีนไล่ออกจากทิเบต เราต้องต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของทิเบต ท่านดาไล ลามะ ท่านก็เป็นองค์ลามะที่สั่งสอนในหลักธรรมของพระพุทธเจ้าที่น่าฟังและน่าสนใจ แต่ปัญหาการเมืองระหว่างทิเบต ที่ท่านดาไล ลามะ เป็นหัวหน้า กับประเทศจีน เป็นปัญหาของเขา เราอยู่เมืองไทย เราเอาตัวเราให้รอด ที่สำคัญที่สุด เมื่อเรามองว่าทำไมเวลาคนจีนมาเมืองไทยแล้ว มากดขี่ข่มเหง มาทำการค้าเอาเปรียบคนไทย ท่านผู้ชมครับ เราเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ? การค้ามันมีคนขายและคนซื้อ คนขายก็อยากจะขายได้ราคาดี คนซื้อก็อยากจะซื้อในราคาที่ถูก เวลาเราทำของออนไลน์ พ่อค้าแม่ค้าที่ทำของออนไลน์ก็ไปซื้อของจากกวางเจา ไปซื้อจากการแสดงสินค้าที่กวางตุ้ง ไปซื้อที่เซินเจิ้น ไปซื้อที่เมืองโน้นเมืองนี่ แล้วจู่ๆ เกิดมีคนจีนมาตั้ง warehourse ในประเทศไทย เพื่อที่จะรวมของทุกอย่างที่เราเคยไปซื้อที่เมืองจีนมา ของบางชิ้นเราซื้อมา เราขาย 600 บาท เขาขายแค่ 200 บาท ถูกกว่าเรา 400 บาท เราก็ด่าเขา ท่านผู้ชม อย่าไปด่าเขา ต้องด่ารัฐบาลเรา ทำไมรัฐบาลเราไม่เข้ามาดูแลเรื่องนี้ เมื่อมันมีช่องว่างตรงนี้ รัฐบาลไม่ยอมทำ เหมือนกับสินค้าไทยที่ส่งออกไปประเทศจีน เรามี free trade กัน free trade ของเราก็คือเป็นการส่งของเข้าไปโดยไม่เสียภาษีนำเข้า แต่เขาคิดภาษี VAT 15 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่าของ 100 บาท ไม่ต้องเสียภาษีการค้า แต่ต้องเสียภาษี 15 บาท เป็น VAT ภาษีมูลค่าเพิ่ม ในขณะที่เราเองไม่เคยเก็บภาษี VAT ใครส่งของเข้ามา ที่มีข้อตกลงทางการค้ากันเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องเสียภาษี VAT เมื่อไม่ต้องเสียภาษี VAT แล้ว จีนก็ส่งของเข้ามา ไม่ต้องเสีย 15 เปอร์เซ็นต์ แต่เราส่งไปต้องเสีย 15 เปอร์เซ็นต์ จีนเขาก็ใช้วิธีเพื่อที่จะผูกมิตร หลายคนก็บอกว่าเวียดนามจะต้องอยู่ข้างอเมริกา ไม่ได้อยู่ข้างจีน ไม่ใช่ วันนี้เวียดนามกำลังได้ผลประโยชน์จากการที่จีนยอมให้เปิดด่านที่มณฑลกวางสี


มณฑลกวางสี เป็นมณฑลที่มีพรมแดนติดกับเวียดนาม ฉะนั้นเปิดด่านที่มณฑลกวางสี สินค้าที่ผ่านด่านมณฑลกวางสี หรือผ่านด่านทางประเทศลาว หรือแม้กระทั่งทางเขมร หรือทางพม่านั้น ภาษี VAT จาก 15 เปอร์เซ็นต์ เดิมทีลดเหลือ 7.5 เปอร์เซ็นต์ วันนี้เจรจาไปเจรจามา ลดเหลืออยู่ 4 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่าอย่างไร ? หมายความว่าคนไทยถ้าจะส่งของออก แล้วไม่ต้องเสียภาษี VAT 15 เปอร์เซ็นต์ ต้องส่งผ่านลาว ต้องส่งผ่านเวียดนาม ไปเข้าด่านทางด้านโน้น ก็เลยโดนลาว โดนเวียดนามเก็บค่าต๋งแล้วค่อยไปเสียอีกทีหนึ่ง ท่านผู้ชมครับ ความผิดของใคร ? ความผิดของรัฐบาลไทยที่ไม่หาทางที่จะปกป้องเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับการค้า กระทรวงพาณิชย์ก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีใครทำอะไรได้เลย ทุกคน

เพราะฉะนั้นแล้วท่านผู้ชมต้องเข้าใจนิดหนึ่ง เราไม่ได้เชียร์จีน แต่เรามองว่าเขาใช้นโยบายของเขาอย่างฉลาดเฉลียว ปัญหาก็คือว่า เราโง่งมเอง ที่ยอมให้เขาใช้ปัญหานี้แล้วมากระทบกับเราโดยที่เราไม่ได้ตั้งรับและเจรจา ทั้งหมดนี้เป็นการเจรจาทุกอย่าง เราไม่เคยสนใจที่จะไปเจรจาอะไรกับเขา เพราะฉะนั้นท่านผู้ชมทำใจให้เข้าใจเสียก่อน เหมือนกับที่หลายคนกำลังบอกกับผมอย่างนี้ บอกว่าวันนี้จีนมาซื้อแม้กระทั่งมหาวิทยาลัยเอกชน มหาวิทยาลัยเกริก ขายไปแล้ว ให้คนจีน


ผมก็ถามท่านผู้ชมว่า เราเปิดโอกาสให้เขาซื้อได้ กฎหมายอนุญาตใช่ไหม ? ใช่ เมื่อเขาซื้อมาปั๊บ สิ่งที่เขาทำ เขาไม่ได้หวังพึ่งนักศึกษาคนไทย เขาหวังพึ่งนักศึกษาของเขาเอง ที่วันนี้ยิ่งจะมาเมืองไทยมากขึ้น เพราะอะไร ? เพราะว่านักศึกษาพวกนี้ไม่สามารถจะไปเรียนอเมริกาได้อีกต่อไปแล้ว เพราะว่าอเมริกากีดกัน ออสเตรเลียกีดกัน อังกฤษก็เริ่มกีดกัน เพราะฉะนั้นแล้ว คนจีนที่มีหัวการค้าก็เลยมาซื้อมหาวิทยาลัยในเมืองไทย ทีนี้ก็ถามว่า แล้วทำไมเจ้าของมหาวิทยาลัยเกริกต้องขายล่ะ ? ท่านผู้ชม ของซื้อของขาย มันมีกำไร เขาก็ต้องขายสิ ในเมื่อเขาซื้อมาแล้ว เขาก็เปิดให้คนไทย ให้คนจีนที่อยู่ในเมืองจีน สามารถที่จะบินมาแล้วมาเรียนที่เกริก เขาก็กินค่าเทอมที่สูงกว่าชาวบ้านเขา เขาก็กินค่าหอพัก เขาก็กินค่าโน่นค่านี่


เหมือนกับสแตมฟอร์ด มหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด ซึ่งเดิมทีเป็นของสิงคโปร์ ตอนหลังคนไทยเอามาทำ แล้วมาวันนี้นักธุรกิจจีนมาซื้อมหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ดไปเรียบร้อยแล้ว ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง เขาไม่ได้พึ่งตลาดคนไทย แต่ถ้าคนไทยหลงเข้าไปเรียนสแตมฟอร์ด หลงเข้าไปเรียนเกริก ก็ต้องเจอค่าเทอมที่แพงตามที่เขาคิด เพราะเขากะจะทำมาหากินกับคนของเขา เราต้องตัดสินใจกันให้ดีว่าเราจะเอาอย่างไรกับตัวเราเอง เราจะเอาอย่างไรกับประเทศต่างๆ

ท่านผู้ชม นี่คือแบ็กกราวนด์ที่ผมต้องการชี้ให้เห็นว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น และผมกำลังเล่าความจริงให้ฟัง ท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แล้วแต่ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นเช่นนี้แล้ว ถามตัวท่านเองว่า แล้วเราจะป้องกันตัวเราเองกันอย่างไร ท่านจะทำอะไรได้ล่ะ รัฐบาลสิเป็นเรื่องสำคัญ เผอิญเรามีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ


คุณเฮ้าเลี่ยนดอน ซึ่งเป็นทั้งรองนายกฯ ท่านไม่ได้สนใจอะไร ท่านสนใจแต่อเมริกาอย่างเดียว อย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่า ทำไมทูตจีนในเมืองไทยถึงไม่มีถึง 9 เดือน ก็เพราะว่าเขากำลังลดความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเขาอยู่ในขณะนี้ ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง ความผิดไม่ได้อยู่ที่เขา นี่ประเทศของเรา เราจะตั้งเงื่อนไขอะไร จะเจรจาอะไร คุณเข้ามา คุณซื้อมหาวิทยาลัยไปเป็นของคุณเอง แต่ถ้าสมมุติคนไทยจะเข้าเรียน คุณจะต้องลดค่าเทอมให้คนไทยกี่เปอร์เซ็นต์ ทำไมเราไม่คุยเรื่องนี้กับเขา


ท่านผู้ชมครับ เรามาเรื่องของความขัดแย้งระหว่างจีนกับอเมริกา ผมเล่าให้ท่านฟังแล้วนะ ว่าจีนขณะนี้แซงอเมริกาหลายอย่างแล้ว แล้วที่สำคัญ ทางแสนยานุภาพหลายอย่าง จีนเองก็มีการพัฒนาศักยภาพ ท่านผู้ชมเห็นระบบ GPS ไหมครับ ที่ท่านผู้ชมใช้อยู่ ในรถยนต์ใช้ GPS


GPS ในโลกนี้มีของอเมริกา และในสมัยก่อนทั้งจีน ทั้งรัสเซีย ทุกประเทศ ใช้ GPS ของอเมริกาหมด วันนี้จีน อิหร่าน และรัสเซีย ได้สร้างระบบ GPS ด้วยการยิงดาวเทียมของตัวเองขึ้นมา แล้วเขาก็ถอดระบบที่เขาใช้ GPS ของอเมริกามาเป็น GPS ของเขา ที่เขาทำเช่นนี้เพื่อเขาจะไม่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของอเมริกาถ้ามีปัญหาความขัดแย้งกันเกิดขึ้น

ท่านผู้ชมครับ เวลาเราพูดถึงการปิดล้อมจีน หรือการปะทะระหว่างจีน เราคงไม่ได้หมายความเฉพาะประเทศจีนนะครับ ฝั่งจีนนั้นก็จะประกอบด้วย จีน อิหร่าน เกาหลีเหนือ และรัสเซีย ฝั่งทางตะวันตกที่เป็นตัวเล่นหลักๆ ก็จะเป็นสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ล่าสุดมีอินเดียเข้ามาด้วย เหตุผลที่มีอินเดียเข้ามาด้วย ก็เพราะว่าความขัดแย้งระหว่างจีนกับอินเดียที่พรมแดนนั้น ซึ่งเป็นความขัดแย้งมาเป็นร้อยปีแล้ว แต่ช่วงหลังรุนแรงมากขึ้น และทางตะวันตกก็ไปเอาใจอินเดีย และประกอบกับโควิด-19 ทำให้ห่วงโซ่อุปทาน หรือที่เรียกว่า Supply chain ในโลกนี้ไปติดอยู่ที่จีน อินเดียก็เป็นประเทศหนึ่งซึ่งอยากจะได้รับห่วงโซ่อุปทานนี้ กินส่วนแบ่งจากจีน หรือภาษาบู๊ลิ้มก็บอกว่า ขอแบ่งกินน้ำแกงด้วยคน เพราะฉะนั้นแล้วอินเดียก็เลยพยายามโปรโมตที่จะเอาไอโฟนเข้ามาผลิตอยู่ในอินเดีย ซัมซุงต้องมา โน่นนี่นั่นต้องมา ด้วยเหตุนี้พออินเดียได้รับการเชื้อชวนจากอเมริกา ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ให้เข้ามาร่วมพันธมิตรสี่ฝ่าย เพื่อที่จะบล็อกประเทศจีนออกมา อินเดียก็เลยกระโดดเข้ามาอย่างเต็มตัวในขณะนี้


วันนี้ผมจะใช้แผนที่เป็นหลักส่วนใหญ่ ซึ่งผมจะทำให้ท่านผู้ชมได้เห็นว่า จริงๆ แล้วมันเป็นอย่างไรบ้าง ท่านผู้ชมดูในแผนที่ก็แล้วกันนะครับ สีแดงก็คือประเทศจีน น้ำเงินคืออเมริกา ข้างบนเป็นแคนาดา ซึ่งในข้างบนที่เป็นแคนาดานั้น ก็จะมีติ่งอยู่ที่ตรงนี้ ที่เขาเรียกว่าอะแลสกา ท่านผู้ชมดูให้ดีๆ นะครับ ส่วนสีเหลืองคือประเทศไทย แล้วเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังว่า ในที่สุดแล้ว ท่ามกลางการประจันหน้าระหว่างจีนกับอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทะเลจีนตอนใต้นั้นเป็นอย่างไร และทำไมประเทศไทยถึงสำคัญที่สุด


เอาเป็นเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ก่อนที่ผมจะเดินหน้าต่อในแผนที่แผ่นที่สอง ก็คือว่า เท่าที่ผมทราบมาว่าได้มีการพูดคุยกันในระดับหนึ่งแล้วที่อเมริกาต้องการใช้อู่ตะเภาเป็นฐานทัพ และมีการพูดคุยกันพอสมควร และระยะหลังนี้ ทุกอย่างในเรื่องนี้เงียบกันไปหมด รวมไปจนถึงการสร้างกงสุลอเมริกาที่เชียงใหม่ ก็เลยจะทำให้เห็นได้ว่าในขณะนี้ความขัดแย้งเริ่มทวีคูณมากขึ้น ผมจะยกตัวอย่างอะไรให้ฟังบางอย่าง มันเป็นข่าวไม่ใหญ่หรอก แต่ถ้าคนรู้จักคิด เอามาเชื่อมโยงกัน แล้วจะเข้าใจ

จำได้ไหม ประเทศไทยสมัยเมื่อปีที่แล้ว เราซื้อรถถังสไตรเกอร์จากอเมริกา 80 คัน รถถังสไตรเกอร์คือรถที่บุกในพื้นราบ จริงๆ เราจะ position รถถังสไตรเกอร์ไว้ที่ไหน รู้ไหม ? ส่วนใหญ่ก็จะไว้ตรงพรมแดนระหว่างไทย-เขมร เพราะไทยกับพม่าเป็นภูเขา รถถังวิ่งไปไม่ได้ ทางใต้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ กลายเป็นไทย-เขมร แล้วปรากฏว่า เนื่องจากว่าจีนไปลงทุนในเขมรเยอะ และเขมรเองก็เห็นว่าเมืองไทยมีรถถังสไตรเกอร์ 89-90 คัน เขมรต้องการที่จะป้องกันตัวเอง หรือต้องการที่จะปราบรถถังไทย เขมรเลยซื้อรถถัง


ท่านผู้ชม ผมอ่านข่าวชิ้นหนึ่ง อ่านข่าวซินหัว และอ่านข่าวโกบอลไทมส์ของจีน ปรากฏว่าเขมร ฮุน เซน ไปเจรจากับจีนขอความช่วยเหลือ จีนส่งขีปนาวุธปราบรรถังมาให้ 300 ลูก แปลว่าอะไร ? แปลว่ามึงมีรถถัง กูก็มีขีปนาวุธยิงรถถังของมึง อันนี้เป็นเหตุการณ์เล็กๆ แต่มันสะท้อนให้เห็นถึงความวุ่นวายที่มันเกิดขึ้น


ในแผนที่นี้ ท่านผู้ชมจะเห็นว่าเราจะมีรัสเซียอยู่เหนือจีนขึ้นไป แล้วก็เกาหลีเหนืออยู่ตรงนี้ แล้วพอมาทางฝั่งนี้ ผมเอาง่ายๆ ก่อน ไม่ต้องยาก ตะวันออกกลาง ฝั่งที่อยู่กับจีนและรัสเซีย คืออิหร่าน อัฟกานิสถาน ในขณะนี้จะไม่เข้าข้างจีนและรัสเซีย ก็เหมือนเข้าข้างแล้ว เพราะว่าแนวโน้มของการเจรจาสันติภาพระหว่างกลุ่มตอลิบาน ซึ่งเป็นผู้ก่อการร้ายและเป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริงในอัฟกานิสถาน ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว ก็คือเป็นรัฐบาลร่วม รัฐบาลผสม แต่ว่าเท่ากับกลุ่มตอลิบานมาเทกโอเวอร์


ปากีสถาน คือหอกข้างแคร่ของอินเดีย อินเดียมีอาวุธนิวเคลียร์ ปากีสถานก็มีอาวุธนิวเคลียร์ เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมลองดู เติร์กเมนิสถาน อุซเบกิสถาน คาซัคสถาน พวกนี้ที่ผมวงให้ดู เป็นพวกของรัสเซียและจีนทั้งสิ้น นี่คือเอเชียกลาง ท่านผู้ชมจะเห็นได้ชัด

ทีนี้เรามาดูตรงตะวันออกกลางนิดหนึ่ง แล้วท่านผู้ชมจะเห็นว่าตรงตะวันออกกลางมันเป็นอย่างไร อิหร่านอยู่ตรงนี้


การแก้แค้นของอิหร่าน อิหร่านจะแก้แค้นด้วยการขับไล่ทหารอเมริกาให้ออกจากตะวันออกกลางให้หมด ไม่ว่าจะเป็นในอิรัก ในจอร์แดน ในซาอุดีอาระเบีย ในยูเออี (ดูไบ) ในโอมาน ในเยเมน แล้วตรงนี้ก็จะมีติ่งบาห์เรน ซึ่งเป็นฐานทัพเรือของกองทัพเรือที่ 5 นี่คือการแก้แค้นของอิหร่าน แต่การแก้แค้นของลูกมืออิหร่าน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นฮิซบอลเลาะห์ หรือไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ซึ่งชื่อมันเยอะเหลือเกิน อิหร่านก็เลยส่งขีปนาวุธทั้งหลาย ผมเรียกว่าบั้งไฟก็แล้วกัน ส่งบั้งไฟไปให้ประเทศพวกนี้ พวกนี้วันๆ ไม่ต้องทำอะไร มันเอาบั้งไฟนี่ยิงใส่สถานทูตอเมริกาที่ทหารอเมริกาตั้งรกรากอยู่ในประเทศอิรัก มันยิงใส่เขาตลอดเวลาเลย ไม่หยุด วันละ 3 ลูกบ้าง 5 ลูกบ้าง ก็เรียกว่าคนที่อยู่ในสถานทูตอเมริกานั้นประสาทรับประทาน อยู่แทบไม่ได้


อิหร่านอยู่ติดอิรัก ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าตอนนี้มีข่าวที่ผมคิดว่าท่านผู้ชมควรจะรับทราบนิดหนึ่ง ข่าวล่าสุด เอกอัครราชทูตอเมริกาที่อยู่ในอิรัก ติดต่อกับรัฐบาลของอิรัก บอกว่าขอปิดสถานทูตอเมริกาได้ไหม จะออกแล้ว จะเก็บเอาไว้สถานกงสุลเล็กๆ ทำไมทำเช่นนั้น ? ก็เพราะว่าตั้งแต่มีเรื่องที่อเมริกา โดยการบงการของนายทรัมป์ ให้ใช้โดรนไปลอบสังหารนายพลกอเซ็ม สุไลมานี อิหร่านประกาศที่จะแก้แค้น เดี๋ยวผมจะแบ่งการแก้แค้น มีอยู่ 2 กรณีนะครับ


ท่านผู้ชมจำได้ไหม วันแรกที่กอเซ็ม สุไลมานี เสียชีวิต หลังจากนั้นอีก 1-2 วัน อิหร่านส่งจรวดไปถล่มบังเกอร์ของอเมริกา แล้วอเมริกาปิดข่าวหมดเลย ไม่มีใครบาดเจ็บ ข้อเท็จจริงคือว่า ทหารอเมริกาบาดเจ็บ 200 กว่าคน ส่งไปรักษาตัวที่เยอรมนี ส่งกลับมาอเมริกา ประสาทหูแตกหมด พิการไปหมด นี่อิหร่านยิง แต่พวกกองทัพย่อยๆ พวกผู้ก่อการร้ายเครือข่ายอิหร่าน หรือ ... ผมไม่อยากเรียกว่าผู้ก่อการร้าย ผู้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพของอิหร่าน เขาก็เอาบั้งไฟของเขา แต่อาจจะเป็นบั้งไฟที่เล็กลงหน่อย เขาก็โจมตีไปตลอด จนกระทั่งคนอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเจ้าหน้าที่สถานทูต และทหาร อยู่ไม่สุข ขอถอยออกมา เพราะฉะนั้น อิรักนี่อีกไม่นานก็จะไม่มีทหารอเมริกาอีกต่อไป


เรามาดูกันอีกนิด เรามาดูซีเรีย ซีเรียในขณะนี้เป็นของรัสเซียเต็มตัวแล้ว ซีเรียมีทั้งฐานทัพของอิหร่านตั้งอยู่ มีฐานทัพรัสเซียตั้งอยู่ แล้วตุรกีตอนนี้ก็ไม่เอากับทางตะวันตก ปัญหาคือ ถ้าซีเรียกับตุรกีคุยกันรู้เรื่อง ตุรกีก็จะเป็นอีกประเทศหนึ่งซึ่งจะทำให้ทางตะวันตกปวดหัว ผมจะชี้ให้ดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง

อีกไม่นานเราก็จะเห็นอย่างนี้ เราจะเห็นอิหร่าน บวกตุรกีเข้าไป บวกซีเรียเข้าไป บวกอิรักเข้าไป ก็จะเหลือเฉพาะซาอุดีอาระเบีย วันนี้ผมตั้งเครื่องหมายคำถามไว้ จะอยู่ได้อย่างไร ? ซาอุดีอาระเบียวันนี้กลัวมาก กลัวอิหร่านมาก เพราะว่าเคยโดนถล่มจากนักต่อสู้เพื่อเสรีภาพที่เมืองเยเมน ซึ่งอยู่ติดซาอุดีอาระเบีย ใช้โดรนถล่มแหล่งขุดน้ำมันของซาอุดีอาระเบียจนกระทั่งพังทลายไป เสียกำลังผลิตไป 50 เปอร์เซ็นต์


ส่วนพวกนี้ไม่มีความหมาย พวกไหนล่ะ ? โอมาน ยูเออี จอร์แดน (นี่ไกลหน่อย) ก็ไม่มีความหมาย เพราะถ้าอิรักเป็นพันธมิตรกับอิร่าน ในที่สุดแล้วจอร์แดนก็จะเหนื่อย ซีเรียอยู่เหนือจอร์แดน เพราะฉะนั้นแล้ว พูดได้ว่าใน 10-15 ปีข้างหน้า ถ้ายังเป็นทิศทางอย่างนี้อยู่ ตะวันออกกลางตรงนี้ รวมอัฟกานิสถาน และซาอุดีอาระเบีย เยเมน จะไม่มีทหารอเมริกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอิทธิพลของอเมริกาจะลดน้อยลงไปมาก จะลดน้อยลงไปอย่างมากถึงมากที่สุด นี่คือตะวันออกกลาง แล้วเดี๋ยวเราค่อยดูกันต่อไปว่าเป็นอย่างไรบ้าง


เอาล่ะ เรามาดูการวางกำลังกัน นี่คือแผนที่โลกที่ท่านผู้ชมเห็น นี่คือกองเรือที่ 5 ของอเมริกา กองเรือที่ 5 ดูแลทางฝั่งตะวันออกกลาง ดูแลอ่าวเปอร์เซีย แล้วค่อนไปทางมหาสมุทรอินเดีย แล้วที่สำคัญที่สุดก็คือกองเรือที่ 5 ช่วงหลัง .... เดิมทีที่ตั้งกองเรือที่ 5 จะอยู่ในประเทศบาห์เรน ซึ่งอยู่แถวๆ นี้ กองเรือที่ 5 จะมีฐานทัพเรืออยู่ที่บาห์เรน อยู่ตรงข้ามอิหร่านพอดีเลย หนึ่งกองเรือของอเมริกานั้น ประกอบด้วยเรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ และเรือประกอบประกบอยู่อีกประมาณ 50-60 ลำ เท่าที่ทราบตอนนี้กองเรือที่ 5 เริ่มขยับขยายหนีออกจากบาห์เรนแล้ว เพราะมันไม่คุ้ม ถ้าเกิดอะไรขึ้น เจอจรวดเข้ามาสัก 500 ลูก จากอิหร่าน ถล่มกองเรือที่ 5 จะไม่มีใครอยู่รอดได้เลย แต่ว่ากองเรือที่ 5 ก็เป็นหนึ่งในแสนยานุภาพที่อเมริกามีอยู่ ท่านผู้ชมจะเห็นได้ชัด


มาดูแผนที่ที่ 3 แผนที่ที่ 3 นี้จะกว้างขึ้นอีก เรากำลังจะพูดถึงลักษณะของกองเรือที่ 7 ท่านผู้ชมครับ นี่คือกองเรือที่ 7 ที่เขาเรียกว่า The Seventh Fleet ตั้งอยู่ที่เกาะกวม แล้วอเมริกาก็ยังมีฐานทัพใหญ่อยู่ที่โอกินาวา จะเห็นว่ากองเรือที่ 7 เกาะกวม เชื่อมต่อโอกินาวาอย่างนี้ กองเรือที่ 7 เกาะกวม-โอกินาวา และเชื่อมไปที่ไต้หวันอีกที ไต้หวันนี่เท่าที่ทราบ ตอนนี้ทหารอเมริกา อเมริกาได้ส่งทหารบางส่วนและอาวุธต่างๆ เข้าไปในไต้หวันแล้ว โดยอ้างว่าอยู่ภายใต้การบริหารงานของกองทัพไต้หวัน ทำไมต้องเป็นเช่นนั้น ? เพราะจะใช้ไต้หวันคอยคานกับประเทศจีน


ทีนี้ผมจะเล่าให้ฟังนิดหนึ่ง ถ้าท่านผู้ชมดูให้ดีๆ ท่านผู้ชมจะเห็นได้ชัดว่า ตอนนี้พอหมดจากไต้หวันแล้ว อเมริกาจะต้องมีปัญหากับฟิลิปปินส์ เพราะดูแตร์เต ไม่ได้เอาอเมริกา 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ยอมให้อเมริกามาตั้งฐานทัพอะไรทั้งสิ้น เสร็จเรียบร้อยแล้ว มาถึงบรูไน มาถึงอินโดนีเซีย อินโดนีเซียก็ไม่เอากับอเมริกา มาถึงมาเลเซีย มาเลเซียนี่ชัดเจน มาเลเซียเอากับจีน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเขมร เอากับจีน เวียดนามไม่เอากับจีน ไม่เอากับอเมริกา จะไม่เข้าข้างใคร แต่น่าจะเอนเอียงไปทางจีนมากกว่า แล้วก็ลาว พม่า เดี๋ยวผมจะอธิบายเรื่องพม่าให้ฟัง


เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็เหลือเฉพาะประเทศไทย ประเทศไทยตรงนี้ล่ะที่มีปัญหากัน แล้วก็บอกว่าทำไมประเทศไทยถึงเนื้อหอมหวาน ? เพราะว่าประเทศไทยเป็น Hub จุดศูนย์กลางของอาเซียน อาเซียนแถวนี้ ประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลาง และประเทศไทยตามหลักยุทธศาสตร์แล้ว ใต้ของจีนโดยตรง ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยก็สามารถที่จะใช้ตรงนี้ คืออู่ตะเภา ที่อเมริกาบอก ในรายงานของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาชี้แจงได้ชัดเจนว่า การตั้งฐานทัพและกองกำลัง ไม่มีที่ไหนในอาเซียนเหมาะสมเท่ากับอู่ตะเภา เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ชัด


ทีนี้เรามาดูตรงนี้นิดหนึ่ง ผมจะเอาให้ดู ตอนนี้เขมรอนุญาตให้จีนมาตั้งฐานทัพแล้ว ฐานทัพที่เมืองสีหนุวิลล์ เมืองท่า ทำไมล่ะ ? เพราะจีนได้ข่าวว่าไทยแอบตกลงกับอเมริกาที่จะใช้อู่ตะเภา แอบตกลงกัน เขาก็เลยตั้งตรงนี้เพื่อยันกับไทยเอาไว้ ยันกับอเมริกาที่อยู่ในอู่ตะเภา คำถามคือ เราสนุกไหมล่ะตอนนี้ ? เราไม่สนุกหรอก และมันกำลังเกิดแบบนี้ขึ้นจริงๆ


เวียดนาม ตรงนี้คือพรมแดนที่เวียดนามติดกับจีน โดยผ่านมณฑลกวางสี จีนตกลงกับเวียดนามแล้วว่า จะให้เวียดนามตั้งด่านส่งสินค้าเข้าจีน สินค้าทุกประเภทที่เข้าจีน ถ้าผ่านด่านเวียดนามตรงนี้ จะเสียภาษี 4 เปอร์เซ็นต์ เดิมทีเสียภาษี VAT 15 เปอร์เซ็นต์ เขาลดเหลือ 7.5 เจรจาไปเจรจามาก็คือ 4 เปอร์เซ็นต์ ผมถามท่านผู้ชมว่า เวียดนามซึ่งได้ผลประโยชน์อย่างมหาศาลจากจีนในเรื่องการเปิดด่านและการค้าการขาย เวลามีเรื่องมีราวขึ้นมา เวียดนามจะกล้าเข้าข้างอเมริกาไหม ? ตีเสียว่าเขาวางตัวเป็นกลางก็แล้วกัน ฉะนั้นท่านผู้ชมที่คิดว่าเวียดนามจะยืนข้างอเมริกานั้น ก็ไม่จริงอีก


มาเลเซีย ที่จีนกังวลมากที่สุดก็คือช่องแคบมะละกา เพราะเป็นช่องแคบที่เรือบรรทุกน้ำมันที่จีนสั่งซื้อมาวิ่งผ่านมหาสมุทรอินเดีย ต้องผ่านช่องแคบมะละกา แล้วขึ้นไปที่ประเทศจีน ด้วยเหตุนี้ถึงมีความพยายามที่จะสร้างคอคอดกระ เพื่อตัดออก โดยที่ไม่ต้องผ่านช่องแคบมะละกา เพราะช่องแคบมะละกาเก่าแล้ว และแคบ และขณะเดียวกัน กองเรือที่ 7 ของอเมริกานั้น จะเดินเรือผ่านช่องแคบมะละกาตลอดเวลา เท่ากับจะสามารถบล็อกการผ่านมาของประเทศจีนได้ ท่านผู้ชมเห็นหรือยังครับ ผมเอาแค่นี้ก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวผมจะต่อให้


เอาล่ะ ท่านผู้ชม เรามารูปนี้ รูปนี้ท่านผู้ชมจะเห็นได้ชัดว่า มีกองเรือที่ 7 ตรงนี้ เรามีกองเรือที่ 5 ของอเมริกาตรงนี้ แล้วมาทางฝั่งทะเลแอตแลนติก เรามีกองเรือที่ 6 ตรงนี้ นี่คือของอเมริกาทั้งหมดเลยนะ กองเรือที่ 6 ของอเมริกาตอนนี้ส่งเรือบางประเภทมาเสริมกำลังให้กับกองเรือที่ 5 เพิ่มจำนวนเรือเข้าไป เพื่อที่จะให้กองเรือที่ 5 มาเชื่อมต่อกับกองเรือที่ 7 ก็คือพูดง่ายๆ ว่าให้กองเรือที่ 5 มีบทบาท บทบาทที่ไหน ? มีบทบาทที่มหาสมุทรอินเดีย และกองเรือที่ 7 ก็มีบทบาททางเอเชียแปซิฟิก แล้วก็เชื่อมสองกองเรือนี้เข้าด้วยกัน เริ่มเห็นชัดแล้วใช่ไหมครับว่าภาพมันเป็นอย่างไร ที่เขาวางกองกำลังกัน เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าลักษณะแบบนี้เราต้องดูให้ออกว่านี่คือลักษณะการเดินหมากรุกสากล นี่เอาเรือเดินแล้วนะ แล้วก็มีม้ากระโดดมาตรงนี้ เพราะฉะนั้นแล้วท่านผู้ชมจะเห็นได้ชัดว่ามันเป็นอะไรบางอย่างที่เราต้องยอมรับว่าในขณะนี้กองกำลังตั้งขึ้นมาอย่างนี้จริงๆ

เราจะเห็นได้ชัดว่า ออสเตรเลียอยู่ตรงนี้ อเมริกาก็ต้องการพึ่งพาออสเตรเลีย แต่ยามที่มีปัญหาขึ้นมา เนื่องจากออสเตรเลียอยู่ห่างไกลจากเหตุการณ์มากเกินไป แล้วผมจะเรียนให้ทราบนิดหนึ่ง ท่านผู้ชม เดี๋ยวผมจะขยายให้ดู ย่านนี้ของจีน ริมฝั่งทะเลตรงนี้ มาจนถึงเกาะไหหลำตรงนี้ ล้วนแล้วแต่มีขีปนาวุธตั้งหมดเลย เกาหลีเหนือ ตรงนี้ พี่คิม จอง-อึน ของผม พี่คิมก็มีหน้าที่เช็กญี่ปุ่น และเช็กเกาหลีใต้ คือพูดง่ายๆ ว่าหน้าที่ดูแลญี่ปุ่น เกาหลีใต้นั้น เป็นหน้าที่พี่คิมของผม พี่คิมของผมไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น กดปุ่มลูกเดียว ไม่พอใจก็กดขีปนาวุธไป เพราะฉะนั้นแล้ว ทั้งญี่ปุ่น และทั้งเกาหลีใต้ ไม่ค่อยจะอยากทำให้พี่คิมของผมอารมณ์เสีย ด้วยเหตุนี้ ทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ถึงพยายามจะปฏิเสธอเมริกา ที่จะให้เข้ามามีบทบาททางทหารตรงนี้


ล่าสุด การประชุมครั้งหลังสุดของ 4 พันธมิตร QUAD ซึ่งมีญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย และอเมริกา ประชุมที่กรุงโตเกียว ปรากฏว่าน่าสนใจอย่าง แถลงการณ์ออกมาไม่กล้าพูดถึงจีนเลย พูดกว้างๆ ว่าจะต้องส่งเสริมสันติภาพ จะต้องส่งเสริมการเดินเรือโดยเสรี


เอาล่ะ แผนที่นี้ท่านผู้ชมจะเห็นว่ากองเรือที่ 6 แบ่งบางส่วนมาที่ 5 จาก 5 เชื่อมต่อ 7 แต่มันเป็นแค่กองเรือ มีสถานที่ที่อเมริกาพึ่งพาได้ ก็คือไต้หวัน โอกินาวา ของอเมริกา เกาหลีใต้ ของอเมริกา แต่ผมอธิบายให้ฟังแล้วไม่ใช่เหรอว่าญี่ปุ่น กับเกาหลีใต้ ไม่ค่อยอยากจะทำสังฆกรรมในเรื่องการทำสงครามถ้ามีการปะทะกัน เพราะว่าพี่คิมของผมกำลังจับตาจ้องอยู่


เรามาแผนที่อีกแผ่นหนึ่ง ในการต่อสู้กัน เขามีองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีรัสเซียร่วมด้วย คาซัคสถานอยู่ในนี้ คีร์กีซสถานอยู่ตรงนี้ อุซเบกิสถานอยู่ด้วย ทาจิกิสถานอยู่ด้วย จีนอยู่ด้วย ปากีสถานอยู่ด้วย อินเดียเคยอยู่ แต่ตอนนี้อินเดียไม่มีบทบาทอะไรแล้ว เมื่ออินเดียไม่มีบทบาทแล้ว จะเห็นได้ชัดว่าเอเชียกลาง ตั้งแต่คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน อุซเบกิสถาน ทาจิกิสถาน และปากีสถาน คือพวกสถานทั้งหลาย เป็นของพวกรัสเซียและเป็นของพวกจีนหมด


เอาล่ะ ท่านผู้ชม เรามาดูฝั่งรัสเซียบ้าง ตรงนี้เขาเรียกคาบสมุทรคัมชัตกา (Kamchatka) ตรงนี้เป็นฐาน ฐานทัพอากาศ และฐานทัพเรือดำน้ำของรัสเซีย ซึ่งคุมมาทางอะแลสกาของอเมริกา จากคัมชัตกา ไปอะแลสกา ประมาณ 2,800 ไมล์ และมีความใกล้ชิดมาก นี่เขาเรียกว่าช่องแคบแบร์ริง ทะเลแบร์ริง ทั้งหมดนี้ เฉพาะตรงนี้แค่ 50 ไมล์ แปลว่าอะไร ? แปลว่ารัสเซียก็ใช้คัมชัตกา แล้วก็ฐานทัพตัวเองมาคุมอะแลสกาเอาไว้ เพราะอเมริกาก็มีฐานทัพอยู่ที่อะแลสกา ท่านผู้ชมเห็นหรือยังครับนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้


ตอนนี้จะมาในรูปที่ท่านผู้ชมจะเริ่มเห็นได้ชัดมากขึ้น ท่านผู้ชมตามผมมา กองเรือที่ 6 กองเรือที่ 5 อธิบายแล้วนะ และกองเรือที่ 7 สีแดงคือของจีนและของรัสเซีย คาบสมุทรคัมชัตกาของรัสเซีย วลาดิวอสต็อกของรัสเซีย เกาหลีเหนือนี่ของรัสเซีย ของจีน ลาวนี่ของรัสเซียและของจีน เขมรของรัสเซียและของจีน ส่วนสีน้ำเงินของอเมริกา กวม ไต้หวัน โอกินาวา เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น


มาทางนี้นิดหนึ่งแล้วท่านผู้ชมจะประหลาดใจ อเมริกาใต้ คิวบา นี่คือเวเนซุเอลา ปรากฏว่าทั้งรัสเซียและจีนส่งขีปนาวุธมาทิ้งไว้ที่คิวบาและเวเนซุเอลาเยอะมาก ก็คือเหมือนกับเป็นหอกข้างแคร่ของอเมริกาตรงนี้ ใครจะไปรู้ ยิงจรวดหัวนิวเคลียร์ไปสัก 3-4 ลูก ก็คงจะมีสักลูกที่หลุดเข้าไป เพราะฉะนั้นตรงนี้เป็นอันตรายมากของอเมริกา ก็เท่ากับว่ารัสเซียและจีนกำหนดหมากล้อมเอาไว้แล้วตรงนี้


ท่านผู้ชมครับ ทั้งหมดนี้ สีแดงนี่ คือหมากล้อม ล้อมกองเรือที่ 7 ล้อมกองเรือที่ 5 ส่วนประเทศไทย ขึ้นอยู่กับว่าประเทศไทยยืนข้างใคร ถ้าประเทศไทยยังยืนข้างอเมริกาอยู่ ก็มีเขมรยันไทยเอาไว้เช่นกัน นี่คือยุทธการหมากล้อมของจีน

มีอีกตัวหนึ่งซึ่งไม่ให้ท่านผู้ชมดูก็ไม่ได้ เพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะอเมริกาในอดีต เผยแพร่อำนาจของตัวเองออกมา ด้วยการใช้เกาะๆ หนึ่งในมหาสมุทรอินเดีย เขาเรียกว่า ดีเอโกการ์เซีย


ดีเอโกการ์เซีย เป็นเกาะไม่ใหญ่ มีคนอยู่ประมาณ 3,000 คน เป็นทหารอเมริกันทั้งนั้น แต่ดีเอโกการ์เซียเป็นจุดยุทธศาสตร์ของอเมริกา ซึ่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกามาลงทุนในดีเอโกการ์เซียมาก มีทั้งฐานทัพเรือ มีทั้งฐานทัพอากาศ มีทั้งที่จอดเรือดำน้ำไว้หมดเลย ทำไมอเมริกาถึงทำเช่นนี้ เพราะอเมริกาต้องการใช้ดีเอโกการ์เซียเป็นตัวเช็ก เช็กอะไรบ้าง ? เช็กจีน เช็กรัสเซีย ข้ามไปรัสเซีย มาทางตะวันตก ก็ไปทางนี้ จะเห็นว่าจุดของเขาเป็นจุดกึ่งกลางมหาสมุทรอินเดีย เขาสามารถจะคุมได้หมดทุกจุด นี่คือดีเอโกการ์เซีย


คำถามมีอยู่ว่า ในสงครามจริงๆ แล้ว ดีเอโกการ์เซียคือเป้าหมายที่สำคัญที่สุดที่เขาต้องทำลายให้หมด ที่ผมเล่าให้ฟังนี่ไม่ได้แปลว่าทางจีนหรือทางรัสเซียจะไม่เสียหาย แต่ท่านผู้ชมครับ เวลามีข้อตกลงกัน ในข้อตกลงระหว่างประเทศของ 4 ประเทศที่ผมพูดถึง รัสเซีย จีน เกาหลีเหนือ อิหร่าน ตกลงว่าถ้าประเทศใดโดนถล่มด้วยขีปนาวุธ ทุกประเทศจะกดปุ่มกันหมด ตามกระบวนการหมากล้อม ทางนี้ก็จะไปอะแลสกา พี่คิมก็จะมาจัดการเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น และในขณะเดียวกัน จีนก็ถล่มไต้หวัน ฟิลิปปินส์วางตัวเป็นกลาง ไม่ยุ่งกับใคร แต่จะเข้าข้างจีน ดีเอโกการ์เซียนี่ก็ต้องโดนแน่นอนที่สุด เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังว่าเขาวางกำลังอย่างไรต่อไป


ดูกำลังของอินเดีย อินเดียมีฐานกำลังอยู่ที่เกาะเซเชลส์ แล้วอินเดียก็มีอยู่แถวมุมไบ นี่คืออยู่ในพื้นที่อินเดียหมด แต่เผอิญอินเดียถูกกั๊กด้วยศรีลังกา ศรีลังกานี่จีนเพิ่งจะเซ็นสัญญาเทคโอเวอร์ท่าเรือน้ำลึกของศรีลังกาไป 99 ปี แล้วจีนก็จะเอากำลังไปตั้งไว้ตรงนี้ ถ้ามีแล้ว ตรงศรีลังกานี้ก็จะมาเช็กดีเอโกการ์เซียด้วย จะมาเช็กอินเดียด้วย ส่วนทางด้านนี้ท่านผู้ชมจะเห็นว่า นี่คือเกาะซานยา คือเกาะไหหลำ เกาะไหหลำเป็นฐานทัพเรือดำน้ำของจีน แล้วนี่ก็คือพม่า


พม่า น่าสนใจมากท่านผู้ชม ท่านผู้ชมจำเรื่องโรฮีนจาได้ไหม รัฐยะไข่ ความวุ่นวายของโรฮีนจามันเกิดขึ้นจากการร่วมมือกันของอเมริกากับอังกฤษ เพราะว่าอเมริกายึดถือว่ามีความวุ่นวายที่ไหน ก็เข้าไปที่นั่น ระหว่างที่วุ่นวายก็เข้าไปจัดการข้างใน ภาษาบู๊ลิ้มเขาเรียกว่า นี่คือการจับปลาตอนน้ำขุ่น

อเมริกาตอนนั้น และอังกฤษ ต้องการแยกยะไข่ออกจากพม่า ทีนี้พอจะแยกยะไข่ออกจากพม่า พม่าทราบ พม่าทำอย่างไร ? พม่าก็เลยจำเป็นจะต้องมาจับมือกับจีน แล้วพม่าก็ให้จีนตั้งฐานทัพเรือริมฝั่งที่พม่า เพราะฉะนั้นแล้ว ตอนนี้จีนก็เริ่มมีฐานทัพอยู่ที่พม่าแล้ว 2 แห่ง


นี่ผมจะให้ดูดีเอโกการ์เซีย อยู่ในมหาสมุทรอินเดีย นี่คือตัวขยายของเกาะดีเอโกการ์เซีย มีทหารอเมริกันอยู่ 3,000 คน ทั้งอังกฤษและอเมริกา นี่คือรันเวย์ ก็คือสนามบิน นี่คือเบสของทหาร แล้วริมฝั่งนี่ก็เป็นที่จอดเรือดำน้ำของอเมริกา ข้อมูลนี้ผมเอามาจากไหน ? นี่ไง source อยู่ตรงนี้ แหล่งข้อมูล CIA ข้อมูลนี้ CIA เป็นคนทำ ท่านผู้ชมก็ดูให้ดีๆ ก็แล้วกัน เดี๋ยวผมจะต่ออีกที

อิหร่านตอนนี้ยึดถือช่องแคบฮอร์มุซ เป็นตัวสำคัญที่สุด แล้วตรงนี้ก็จะมีโอมาน ยูเออี ดูไบ ซาอุดีอาระเบีย การ์ตา การ์ตานี่้ยืนข้างอิหร่าน แล้วนี่คืออ่าวเปอร์เซีย อิหร่านในขณะนี้พูดได้ว่ามีศักยภาพทางขีปนาวุธที่จะคุมอ่าวเปอร์เซียได้ทั้งหมด


สมัยก่อนกองเรือที่ 5 ชอบมาท่องเรืออยู่แถวนี้ แต่ตอนหลังมีการติดตั้งขีปนาวุธอิหร่านมาก กองเรือที่ 5 เริ่มถอยออกมาแล้ว ถอยห่างออกมาจากช่องแคบฮอร์มุซ นี่คือดีเอโกการ์เซีย ยิงไปที่โซมาเลีย 2,000 ไมล์ ยิงไปที่เยเมน 2,200 ไมล์ ยิงไปที่การ์ตา ตะวันออกกลาง 2,000 ไมล์ ยิงไปเรื่อย ประมาณอัฟกานิสถาน 2,000 ไมล์ อินเดีย 1,100 ไมล์ ยิงไปที่ช่องแคบไต้หวัน ประมาณ 2,400 ไมล์ ยิงไปที่ออสเตรเลีย ยิงไปที่เพิร์ธ


จะเห็นได้ชัดว่าเป็นจุดศูนย์กลางมหาสมุทรอินเดียที่มีความสำคัญในทางยุทธศาสตร์ของอเมริกามาก แล้วท่านผู้ชมคิดว่าถ้าสงครามมันเกิดขึ้น เขาจะปล่อยให้ดีเอโกการ์เซียมีความสุขสบายอยู่เหรอ เขาก็ต้องถล่มดีเอโกการ์เซีย และถ้าเขาถล่มดีเอโกการ์เซีย ก็แสดงว่าไม่มีดีเอโกการ์เซีย แล้วพวกกองเรือสหรัฐฯ ทหารสหรัฐฯ โน่นนี่นั่น จะไปอยู่ทีไหน ก็ต้องไปที่โอกินาวา ไปที่กวม พอไปที่โอกินาวา ไปที่กวมแล้ว ก็เจอพี่คิมของผมก่อกวนตรงนั้น แล้วจะอยู่ได้นานไหม ก็ไม่นาน ไปไต้หวันก็ไม่ได้เพราะวันนั้นจีนก็คงจะบุกยึดไต้หวันแล้ว


ท่านผู้ชม อย่าเพิ่งตกใจนะครับ ผมกำลังเอาให้ดู ดีเอโกการ์เซีย เห็นได้ชัดเลย จากเกาะดีเอโกการ์เซียไปที่อิหร่าน 3,000 ไมล์ หรือพูดง่ายๆ ว่าขีปนาวุธระดับกลางก็สามารถจะยิงเข้าสู่อิหร่านได้ ในทางมุมกลับกัน อิหร่านก็สามารถจะยิงขีปนาวุธมาที่ดีเอโกการ์เซียได้เหมือนกัน


ท่านผู้ชมเห็นหรือยังครับ ทั้งหมดที่ผมเอาให้ท่านผู้ชมดูนี่ ท่านผู้ชมจะเห็นได้ชัดว่ามันคือหมากล้อม ทั้งรัสเซีย ทั้งจีน ทั้งอิหร่าน และทั้งเกาหลีเหนือ สร้างจุดเป็นหมากล้อม ล้อมอเมริกาไว้ เพราะออสเตรเลียก็อยู่แค่นั้น เพราะไกลเกินไป ขยับไม่ได้ ญี่ปุ่นจะกล้าหรือ ถ้าเกาหลีเหนือค้ำคอญี่ปุ่นอยู่ เกาหลีใต้ก็ไม่กล้า ไต้หวันเหรอ ไต้หวันก็จบทันที จีนบุกยึด เพราะฉะนั้นแล้ว กลายเป็นประเทศไทยที่ต้องเป็นจุดที่สำคัญที่สุดที่อเมริกาต้องการที่จะอยู่ที่นี่ ทั้งอู่ตะเภา และทั้งที่เชียงใหม่ที่สร้างอยู่

วันนี้ก็เอาเป็นสั้นๆ ก็แล้วกัน อาจจะสับสนนิดหน่อย แต่ถ้าดูไม่เข้าใจ ดูอีกที แล้วท่านผู้ชมก็จะเห็น เอากันแค่นี้ก่อนแล้วกันท่านผู้ชม พอสมควร สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น