xs
xsm
sm
md
lg

[คำต่อคำ] SONDHI TALK : มองให้ทะลุเกมการเมืองโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



วันที่ 4 ก.พ.65 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิ ช่องยูทูป Sondhitalk และ และแอปพลิเคชัน Sondhi App โดยมีประเด็นที่ได้เล่าในวันนี้ เป็นเหตุการณ์ของ “บีม-ศรัณยูประชากริช” โชว์พฤติกรรมห่าม ขับขี่รถพร้อมกับไลฟ์สดกินใบกระท่อม ชวนให้คิดว่าพืชสมุนไพรที่กำลังเป็นที่นิยมกินแล้วมีอาการดีดจริงหรือไม่ ?

“OnlyFans”คืออะไร? "เดียร์ลอง"จากเจ้าหญิงดิสนีย์สู่ Sex Cretor เบอร์ต้นของวงการ onlyfans

สงครามจะเกิดหรือไม่? เบื้องหลังเกมการเมืองโลกของชาติมหาอำนาจหมากกระดานใหญ่ที่ไทยเป็นแค่เบี้ยเล็กๆ ตัวหนึ่ง

ติดตามได้ใน SONDHI TALK :ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep.123



คำต่อคำ SONDHI TALK EP.123 [4 ก.พ. 65] : มองให้ทะลุเกมการเมืองโลก

ช่องทางการรับชมรับฟัง "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ SONDHI TALK
แอปพลิเคชัน : SONDHI APP (ทั้งระบบ iOS และ Android)
เฟซบุ๊กแฟนเพจ : คุยทุกเรื่องกับสนธิ
YouTube : Sondhitalk
เว็บไซต์ : www.sondhitalk.com
Podcast หรือ podbean : SONDHI TALK

สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 วันนี้เป็นวันพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่ง ก่อนที่จะเล่าให้ฟังว่าวันนี้มีอะไร ผมขออัปเดตเรื่อง Sondhi App หน่อย ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมที่ยังไม่ได้ดาวน์โหลด Sondhi App ตอนนี้ผมกำลังทำคลิปวิดีโอที่ไม่สามารถจะออกในเฟซบุ๊ก หรือยูทูป ได้ ผมจะทำลงใน Sondhi App ตอนนี้มีข่าวชิ้นหนึ่งซึ่งมาลงในยูทูป หรือเฟซบุ๊ก ไม่ได้เด็ดขาด คือเรื่องที่แพทย์ที่วอชิงตัน ดี.ซี. กับประชาชนเป็นหมื่นๆ คน ออกมาต่อต้านการฉีดวัคซีน และอุตสาหกรรมยาของอเมริกา ถ้าใครอยากฟังรายละเอียดแบบเจาะลึก ไม่มีกั๊ก ติดตามได้ที่ Sondhi App เท่านั้น


นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายเรื่องที่กำลังเตรียมอยู่ และกำลังจะลงใน Sondhi App มีเรื่องราวดีๆ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้ ท่านผู้ชมรู้ไหม ผมกำลังจะเล่าเรื่องประวัติแม่ค้าขายเกี๊ยวที่หว่านไจ๋ ท่านผู้ชมที่เคยไปฮ่องกงจะรู้จักย่านหว่านไจ๋ ที่ฮ่องกง เธอสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยสองมือ กับความสามารถของตัวเอง จนรวยมหาศาล ชีวิตของเธอ เธอเคยมีสามีเป็นคนไทย แล้วเธอถูกสามี แม่สามีทิ้ง ทั้งๆ ที่มีลูกด้วยกัน 2 คน เธอหอบลูก 2 คน ไปอยู่ที่ฮ่องกง ปากกัดตีนถีบ ชีวิตขมขื่นมาก เธอทำอย่างไรจนกระทั่งเธอมีเงินเป็นหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ จากการขายเกี๊ยว ขายเกี๊ยวอย่างเดียวนะท่านผู้ชม

ตอนนี้ผมมีคอนเทนต์อีกเยอะเลยที่กำลังจะเอาเข้ามาเสริม Sondhi App ของเรา อีกรายการหนึ่งซึ่งกำลังจะเกิดขึ้น ของทีมงานวงดนตรีแฮมเมอร์ ชื่อรายการ "ซาลามเมืองไทย" ดำเนินรายการโดย คุณอารี ประธาน คุณอนุชา ประธาน เจ้าของเพลง "ปักษ์ใต้บ้านเรา" ท่านผู้ชมยังจำได้ไหม จะพาไปดูวิถีชีวิตของชาวอิสลาม แนะนำมัสยิดและแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในชุมชนมุสลิม บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ของวันสำคัญของชาวมุสลิม


ท่านผู้ชมครับ วันนี้รายการจะมีหลายเรื่อง ผมก็จะไม่เรียงล่ะว่าเรื่องใดเรื่องแรก เรื่องใดเรื่องสอง เอาเป็นเหมารวมไปเลย

คุณบีม ศรัณยู คนที่เคี้ยวกระท่อมแล้วขับรถอย่างหวาดเสียว แล้วดิสเครดิตกระท่อม ดรามาอย่างหนัก เรื่องราวเป็นอย่างไร ผมมองเรื่องนี้อย่างไร ตามมาครับ

น้องกวาง หรือชื่อฉายาในเฟซบุ๊กว่า "เดียร์ลอง" จากเจ้าหญิงดิสนีย์ สู่ดาว Onlyfans มีฉากการร่วมเพศกับแฟน คล้ายๆ "น้องไข่เน่า" แต่ว่าน้องกวาง จะต่างจากน้องไข่เน่า ตรงที่เธอพัฒนามาจากสาวที่ใสซื่อ บริสุทธิ์ แต่จู่ๆ กระโดดมาเล่นฉากเซ็กซ์ในช่องทาง Onlyfans

อีกเรื่องหนึ่งที่ผมเตรียมเอาไว้เป็นพิเศษ เรื่องนี้ไม่อยากให้ท่านผู้ชมพลาด คือการมองป่าทั้งป่าของ "เกมการเมืองโลก" หมากกระดานใหญ่ ที่เมืองไทยเป็นตัวหนึ่งในหมากนี้ เพียงแต่ว่าเรามองไม่เห็นเท่านั้นเอง วันนี้ผมอธิบายหมากทั้งกระดานให้ดู แล้วดูว่าเมืองไทยเป็นหมากอยู่ตรงไหน

และอีกเรื่องหนึ่งที่ผมจะต้องพูด ก็คือเรื่องของการเลือกตั้งที่เขต 9 จตุจักร-หลักสี่ มีผลสำรวจของนิด้าโพลออกมาแล้ว ยืนยันในสิ่งที่ผมพูดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ตามมาดูนะครับว่าข้อมูลข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร


ท่านผู้ชมครับ เมื่อปลายเดือนมกราคม ที่ผ่านมา มันมีเรื่องๆ หนึ่งที่ผมคิดว่าเป็นข่าวฮือฮาในโซเชียลมีเดีย คือเรื่องของคนที่ชื่อเล่นว่า บีม ชื่อจริงคือ นายศรัณยู ประชากริช คนๆ นี้เป็นนักแสดงหนุ่ม ล่าสุดเรื่องที่เป็นดรามาเมื่อปลายเดือนมกราคม คือ ไลฟ์สดแล้วก็โพสต์คลิปรัวๆๆๆ ลงโซเชียล โดยที่โพสต์ไปด้วย กินใบกระท่อมสดไปด้วย ลักษณะของการแสดงออกเป็นพฤติกรรมที่ห่าม ชอบขับขี่รถ แล้วก็ไลฟ์สดโชว์ความหวาดเสียว เสี่ยงอุบัติเหตุมาก แถมเคี้ยวใบกระท่อม

ท่านผู้ชมครับ นัยตรงนี้มันส่อให้เห็นว่า พืชสมุนไพรที่กำลังเป็นที่นิยมและกำลังจะเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำเงินทำทองให้กับประเทศไทยมาก มันทำให้คนเคี้ยวมีอาการดีด บ้าขึ้นมา ผมคิดว่าเรื่องนี้ต้องพูดกันสักนิด เพราะศรัณยู ประชากริช มันไม่รู้ว่ามันได้ทำความพินาศฉิบหายให้กับอุตสาหกรรมใบกระท่อม ใบกระท่อมเขาทานกันสมัยโบราณ คนเขาเคี้ยวทานกันเพื่อให้มีแรง มีพลังงาน ออกไปทำงาน บางคนเอาใบกระท่อมมาต้มน้ำแล้วทาน คือมันไม่มีพิษสงตรงไหน แล้วที่มันห่าม มันบ้าบอคอแตก ขับรถยนต์เสี่ยงไปเสี่ยงมา มันไม่ใช่ใบกระท่อมหรอก เผลอๆ มันกินยาบ้าอยู่ แต่ว่าผลมันทำให้ ... ซึ่งใบกระท่อม หรือว่าใบกัญชา หรือน้ำมันกัญชา มีกลุ่มคนที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง แล้วก็มองปัญหาเดิมๆ มีอยู่แล้วที่ต้านทาน กว่าใบกระท่อมจะถูกปลดล็อกออกมาได้ ต้องใช้เวลาตั้งกี่ปี


สมัยก่อน พอใบกระท่อมกำลังจะหลุดพ้น รัฐบาลดันทะลึ่งสร้างฝิ่นขึ้นมา ว่าฝิ่นน่ะห้าม แล้วก็พ่วงใบกระท่อมไปกับฝิ่น ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าอินโดนีเซียส่งออกใบกระท่อมมหาศาลไปทางตะวันตก แล้วนายศรัณยู รู้หรือเปล่าว่า คุณภาพใบกระท่อมของไทยนั้นเป็นคุณภาพที่สูงกว่าของอินโดนีเซียมาก คุณไปถามคนใต้สิ คนใต้กินใบกระท่อมมาตั้งนมตั้งนาน ตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายแล้ว มาถึงรุ่นนี้ นี่คุณเคี้ยวใบกระท่อมแล้วก็ทะลึ่งอวยยกตัวเองให้เป็น "สหายพลังใบกระท่อม" คนก็เลยเข้าใจผิดกันหมดเลยว่าที่คุณบ้าบอคอแตก ขี่รถห่ามนั้น เป็นเพราะฤทธิ์ใบกระท่อม ไม่ใช่ คุณเพี้ยนด้วย DNA ของคุณเอง ไม่ใช่ใบกระท่อม เพราะฉะนั้นแล้ว พฤติกรรมการขับรถที่ออกมา มันเลวทรามต่ำช้ามาก จะทำให้ผู้คนเกิดอันตราย


จนในที่สุดแล้ว พอโซเชียลมีเดียตั้งคำถามถึงตำรวจว่าไอ้บ้านี่หิวแสงโจ่งแจ้งขนาดนี้ ตำรวจไม่ทำงานหรือ ตำรวจก็จะต้องลงมาจัดการกับไอ้บ้านี่ แล้วในที่สุดแล้ว เรื่องที่จัดการก็คือเรื่องราวของการขับรถเสี่ยงอันตราย มีโทษปรับ 4,000-5,000 บาท

ทีนี้ ไอ้หมอนี่มันมาจากไหน บีม ศรัณยู ประชากริช ? เมื่อประมาณสิบสามปีที่แล้ว (2552) เขาเป็นพิธีกรรายการสีสันบันเทิง ช่อง 3 และเป็นดารานักแสดงละคร บ้า หลงตัวเอง เอารถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำคาดขาว ตกแต่งเลียนแบบรถตำรวจ ติดสติกเกอร์ประตูด้านหน้า 2 ข้าง มีข้อความว่า "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" มีสัญลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีเลข "2-0" ขนาดใหญ่ ประตูด้านหลัง 2 ข้าง ติดสติกเกอร์เขียนภาษาอังกฤษว่า "ROYAL THAI POLICE" หลังคาติดไซเรนแบบยาว




คือคนๆ นี้ นายศรัณยู ได้ขับรถคันนี้หลบหนีหลังจากไปชนรถอีกคันหนึ่งบนถนนสุโขทัย หน้าโรงเรียนวชิราวุธ ไอ้หมอนี่ประวัติที่ดีด บ้าคลั่ง ผมยังไม่เข้าใจว่าวงการทีวี สื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นช่องอะไรก็ตาม ใช้ไอ้หมอนี่มาออกรายการได้อย่างไร ผมคิดว่าอยากให้ทุกคนที่อยู่ในวงการบันเทิงพวกนี้ เลิกใช้ไอ้หมอนี่้ สาปส่งไปซะ เพราะว่ามันบ้า

พอมันไลฟ์สดเคี้ยวใบกระท่อมรอบใหม่ ตำรวจก็ไปดูคลิปต่างๆ แจ้งข้อหาดำเนินคดี มีทั้งขับรถโดยประมาทน่าหวาดเสียว ซึ่งมันเป็นการปรับ แต่มีบางคดีซึ่งถูกส่งฟ้องศาล ผมภาวนาให้ท่านผู้พิพากษาพิจารณาถึงความเพี้ยนของคนๆ นี้ ลงโทษอย่างหนัก ลงโทษจำคุกไม่ต้องรอลงอาญา ไอ้หมอนี่ เมื่อเช็กอดีตไปแล้ว พฤติกรรมที่ก่อเอาไว้เยอะแยะไปหมด ตอนที่เคยไลฟ์สดไม่มีใบกระท่อม เจ้าของคนที่ดูรายการนี้เขาบอกว่ามันไม่เกี่ยวกับพลังใบกระท่อม แต่มันกำลังเกี่ยวกับสติปัญญาและความที่มีเลือดความบ้าคลั่งอยู่

ผมสงสารคนที่สนับสนุนใบกระท่อม เขาสู้กันมาเป็นสิบปี ถูกไอ้บ้านี่ทำลายภาพลักษณ์พืชสมุนไพร อุตส่าห์ผลักดันกันมาให้ถูกกฎหมาย ท่านผู้ชมครับ สุดท้ายก็มีคนแบบนี้ที่บอกว่า ใช้ใบกระท่อมแล้วก็ดีด คึกคะนอง หิวแสง ขับรถอันตายต่อชีวิตคน แล้วมันไลฟ์สดไปด้วย เคี้ยวใบกระท่อมไปด้วย แล้วขับรถประเภทบ้าคลั่ง บ้าเลือด เป็นอันตรายต่อชาวบ้านเขา มันก็เลยช่วยไม่ได้ที่ทำทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องนี้ บอกว่าใบกระท่อมคือใบที่กินแล้วมันเพี้ยน มันเมา

ท่านผู้ชมครับ เรามาพูดถึงฤทธิ์ของกระท่อมกันนิด เพื่อชี้แจง คนที่เขาเชี่ยวชาญเรื่องนี้เขายืนยันว่า อาการเมากระท่อมไม่ใช่แบบที่นายบีม ศรัณยู ประชากริช เป็น เขาอธิบายให้ฟังเลยว่า ใบกระท่อมบริโภคได้ 2 วิธี แบบเคี้ยว ที่ผมอธิบายให้ฟังแล้ว ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นปู่ รุ่นพ่อ เคี้่ยวก่อนออกไปทำงาน ไปตัดยาง ไปกรีดยาง ไปปลูกพืชไร่ต่างๆ แบบต้มน้ำ เขาใช้ 1-2 ใบ ต่อน้ำ 1 แก้ว ต้มแล้วใส่กาน้ำร้อน 1 กา เอาไปดื่ม


มีสรรพคุณรักษาโรค บริโภคทั้งสองแบบนี้มีมานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนคุณเกิดอีก ส่วนน้ำกระท่อมอีกแบบหนึ่งเขาเรียกว่า 4 คูณ 100 เพิ่งมีมาเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ต้นกำเนิดมาจากภาคใต้

คนที่เชี่ยวชาญเรื่องใบกระท่อมเขาพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ฤทธิ์กระท่อมนั้น ให้ทานเยอะแค่ไหนก็ตาม กินแบบ 4 คูณ 100 ไม่มีอาการดีดแบบยาบ้า ไม่หลอน เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้ว ที่ไอ้หมอนี่มันบ้าคลั่ง มันกินยาบ้าอยู่หรือเปล่า แล้วมาเคี้ยวใบกระท่อม ก็บอกเป็นเพราะฤทธิ์ใบกระท่อม เพราะว่าถ้าไม่มีใบกระท่อมเดี๋ยวจะถูกตรวจปัสสาวะ แล้วผู้เชี่ยวชาญเรื่องใบกระท่อม นักวิทยาศาสตร์ บอกว่าไม่เคยเห็นใครกินกระท่อมแล้วไปฆ่าคนตาย ไปก่อเหตุลักวิ่งชิงปล้น หรือไปทำร้ายใคร

กระท่อมเคยโดนอย่างนี้มาแล้วในอดีต ชาวบ้านเคี้ยวกินไป แต่รัฐก็ดำเนินการเปิดโรงฝิ่้น ก็เลยไปออกกฎหมายให้กระท่อมเป็นยาเสพติด เพื่อกำจัดคู่แข่ง


ท่านผู้ชมครับ เมื่อสามวันที่แล้ว วันนี้เป็นวันที่สี่ ไอ้หมอนี่ บีม ศรัณยู ออกมาไลฟ์สดขอโทษสังคม เป็นเวลา 1 ชั่วโมงเต็ม ยกมือไหว้ขอโทษ พร้อมตบหน้าตัวเองไป 1 ที ขับเรือไป ไลฟ์ไป ตะโกนสุดเสียง บอกสังคมตอแหล สังคมไม่ได้ตอแหลหรอกครับ คุณน่ะตอแหล สังคมเขาอยู่เฉยๆ คุณทะลึ่ง ระบายความทุกข์ พอขับไปได้สักพักก็หลบหนี ก็มีเอาน้ำราดหัว แล้วกระโดดลงไปในน้ำคลอง ถือมือถือลงไปด้วย ทิ้งท้ายก่อนปิดไลฟ์ ขอแดดเผาเรื่อง here here นี้ไปให้หมด

ผมว่าชาวบ้านเขาคงภาวนา ขอให้คน here here ลักษณะนี้ ตายโหงตายห่าไปดีกว่า อย่าอยู่ให้หนักแผ่นดินเลย ที่สำคัญ ท่านผู้ชม เขาตบหน้าตัวเขาเอง ตบไปทำไมคุณบีม อย่าไปตบ คุณบีม เจ็บเปล่าๆ ไม่ได้ผลหรอก คุณอายุก็มากแล้ว ไม่ใช่น้อย คุณมีสติปัญญา คุณเคยเป็นพิธีกรรายการมา ถึงแม้ว่าคุณภาพของคุณจะสูงหรือไม่สูง ผมไม่รู้ แต่อย่างน้อยที่สุด การกระทำของคุณนอกจากจะให้ร้ายกับพืชสมุนไพรที่กำลังจะเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญในการส่งออก แล้วถ้าจากกระทำของนายบีม ทำให้ฝ่ายตรงกันข้ามที่ไม่อยากให้ใบกระท่อมเป็นพืชสมุนไพรที่หลุดพ้นออกจากยาเสพติด มารณรงค์แล้วทำให้กลายเป็นมีข้อบังคับอีกเยอะแยะมากมายสาหัสสากรรจ์ ความพินาศฉิบหายของสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ต้องพึ่งพืชเศรษฐกิจพวกนี้ยังชีวิตอยู่ คุณศรัณยู คุณจะรับผิดชอบได้ไหม คุณรับผิดชอบไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นคุณตายโหงตายห่าไปเลยดีกว่า อย่าอยู่ให้หนักแผ่นดินเลย


ท่านผู้ชมครับ เมื่อวานนี้เอง วันพฤหัสฯ ผมตื่นมาตอนเช้า ผมเป็นคนตื่นตีสี่ ผมก็เช็กข้อความ ผมเป็นคนไม่เปิดโทรศัพท์ตอนกลางคืน เวลาผมหลับ ผมจะเอาโทรศัพท์ปิดไปเลย แล้วชาร์จ แล้วพอตื่นตีสี่แล้ว พอแปรงฟันล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย มานั่งทานกาแฟ หยอดตา อ่านหนังสือพิมพ์ ค่อยหยิบโทรศัพท์มาดูว่ามีข้อความอะไรบ้าง มีคนส่งคลิปวาบหวิว คลิปโป๊ คลิปเอากันน่ะท่านผู้ชม มีการอมนกเขา มีการแสดงท่า doggy คุกเข่า ผมก็งงเป็นไก่ตาแตก ก็ดู ถึงงงก็ดูครับ ก็ปรากฏว่ามันเป็นคลิปของเด็กคนหนึ่ง ซึ่งหน้าตาก็ดูดี ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไรว่าเด็กคนนี้มีชื่อเสียงอย่างไร แต่ผมก็ประหลาดใจว่า เดี๋ยวนี้เขาเอาคลิปนี้กระจายกันมาแบบนี้แล้วหรือ ท่าทางจะเป็นคนมีการศึกษาพอสมควร อายุไม่น่าจะมาก

พอเมื่อวานนี้เข้าไปที่ทำงาน เตรียมตัวที่จะออกรายการ ก็ค้นข้อมูลกัน ก็ปรากฏว่า เอ้า ตายล่ะ นี่เป็นเด็กคนไทย ชื่อเล่นว่า เดียร์ลอง มีฉายาว่า "เจ้าหญิงดิสนีย์" ทำไมถึงมีฉายาว่าเจ้าหญิงดิสนีย์ ? เพราะเคยประกวดร้องเพลง การประกวดร้องเพลงของเธอนั้น เป็นความเก่งของเธอ ความสามารถ ภาพลักษณ์เธอดูใส ก็ดูเธอใส่แว่นตาสิครับ เธอร้องเพลงจากดิสนีย์ได้อย่างไพเราะ จนได้ฉายาว่า "เจ้าหญิงดิสนีย์"


เช็กต่อไป ก็ปรากฏว่าคลิปนี้เธอทำออกมาในช่อง Onlyfans ท่านผู้ชมจำเรื่องช่อง Onlyfans ได้ไหม น้องไข่เน่า ที่เราเคยพูดกันไปแล้ว ผมไม่ได้พูดนะ แต่คุณนพรัฐ พรวนสุข พูดในรายการ "ถอนหมุดข่าว" เรื่อง "น้องไข่เน่าดันเซ็กซ์เสรี ถามโสเภณีหรือยัง ?" "เทรนด์ฮิต เพศพาณิชย์ ขายวิวเล่นสยิว โกยเงินล้าน"


ก็คือช่อง Onlyfans ในเฟซบุ๊กนั้น มันไม่ได้เป็นช่องที่เปิดเสรี หมายความว่าถ้าท่านผู้ชมมีความคิดสร้างสรรค์อะไรที่ต้องการจะทำรายการของตัวเองออกช่องที่ถือว่าเป็นช่องพิเศษ ภาษาอังกฤษเขาเรียก Exclusive Channel แต่ถ้าท่านผู้ชมเข้าไป ต้องจ่ายเงินดู มันจะมีแอปพลิเคชัน เรียกว่า Onlyfans คนโหลดแอปพลิเคชันไป แล้วกดเข้าไป จะไปดู มันก็จะมีลิสต์ว่ามีอะไรบ้างๆ สนใจจะดูก็จะมีราคา จ่ายค่าดู อาจจะเป็นรายครั้ง หรือเหมาไปทั้งเดือนก็ได้ แต่ส่วนใหญ่พวกหื่นก็จะดูกันเป็นครั้งๆ คงไม่จ่ายไปทั้งเดือน ดูครั้งนี้แอปฯ นี้ ดูอีกครั้ง แอปฯ นี้

คนที่ออกมานี้ ชื่อ หนูกวาง อาริศา ฉายาของเธอคือ "เดียร์ลอง" เผอิญเรื่องราวที่เธอแสดงการร่วมเพศ หรือว่าเธออมนกเขาแฟนเธอนั้น ถูกแฮกแล้วก็ดูดออกมาจากช่อง Onlyfans ที่ถ้าใครไม่จ่ายเงินจะดูไม่ได้ มาเผยแพร่ต่อตามช่องต่างๆ โดยเป็นคลิปที่ทำร่วมกับแฟนหนุ่ม เธอใส่ชั้นใน โชว์หน้าอกในลักษณะยั่วยวน ตอนนี้แชร์กันมากในสังคมออนไลน์ ผมเชื่อว่าท่านผู้ชมหลายท่านที่กำลังดูรายการนี้อยู่ ก็คงจะได้รับแชร์มาเหมือนกัน


ลักษณะแบบนี้ทำให้ผมนึกถึงรายการกรณี "น้องไข่เน่า" เคยเป็นเรื่องฮือฮาในช่วงเดือนกันยายน 2564 ปีที่แล้ว มันก็เลยทำให้ตำรวจอยู่เฉยไม่ได้ ต้องออกมา take action ก็อย่างที่คิดล่ะครับท่านผู้ชม ตำรวจไม่มีปัญญาหรอกที่จะไปทำอะไร นอกจากว่าเขาแชร์กันในโซเชียล ก็เลยขยับ เหมือนกับตำรวจยุคนี้ ถ้าไม่มีกล้องวงจรปิด ก็ทำงานไม่เป็นหรอกครับ ไอ้ประเภทสืบเสาะด้วยตัวเองเหมือนสมัยโบราณที่เขาทำด้วยฝีมือ ด้วยทักษะส่วนตัว ประสบการณ์ในชีวิต ไม่มีแล้ว พอมีเรื่องอะไรขึ้นมา เปิดกล้อง CCTV ดูถนนนี้นะ นี่ดูถนนนี้นะ นี่ใคร ฯลฯ เพราะฉะนั้น ผมเรียกตำรวจยุคนี้ว่า "ตำรวจ CCTV"

ก็เหมือนเดิม ตำรวจก็บอกว่า เดี๋ยวจะดูว่าผิดมาตราไหนบ้าง เดี๋ยวจะเรียกเธอมาเล่นงาน แนวโน้มท่าทาง น้องกวาง หรือว่า เดียร์ลอง จะต้องถูกเรียกตัวเข้าไป และในที่สุดเธอก็จะต้องยุติกิจกรรมนี้

แพลตฟอร์ม Onlyfans เป็นรูปแบบหนึ่งที่เขาเปิดให้เหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ (Content Creature) คือคนที่คิดคอนเทนต์ มาสร้างสรรค์คอนเทนต์เพื่อให้คนติดตาม แต่ผู้ติดตามต้องเสียค่าบริการตามที่ครีเอเตอร์กำหนด สมมุติว่าท่านเป็นครีเอเตอร์สร้างคอนเทนต์ในช่องของท่าน ท่านตั้งราคาได้ อยากเข้ามาดูใช่ไหม ผมไม่ทราบว่าน้องกวาง หรือเดียร์ลอง คิดเท่าไร ผมคิดว่าสยิวแบบนี้ หื่นแบบนี้ ผมคิดว่าจะมีสายหื่น สายหื่นนี่พอสมควรที่ยินดีจะจ่าย 100-200 อาจจะเป็นเรื่องธรรมดา อาจจะต้องจ่ายถึง 500 หรือ 1,000 เสียด้วยซ้ำ

คอนเทนต์แบบนี้เป็นคอนเทนต์วาบหวิว ส่วนใหญ่จะเหมาะสำหรับคนที่อายุ 18 ปีขึ้นไป เหมือนกรณีน้องไข่เน่า ที่สำคัญคืออะไรรู้ไหมท่านผู้ชม คลิปของน้องเดียร์ลองที่มันฮือฮากันมาก เพราะว่าหนูกวาง อาริศา เป็นเด็กสาวที่เก่ง ใสซื่อ มีความสามารถ อย่างที่เรียนให้ทราบว่าหนูกวางเคยร้องเพลงแข่ง อาจจะไม่ได้ที่หนึ่ง แต่ได้อันดับหก แต่เธอร้องเหมือนเสียงเพลงในหนังดิสนีย์เลย เขาเลยเรียกเธอว่าเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์


เธอเป็นคนดังในโลกโซเชียล มีคนติดตามเธอในเฟซบุ๊ก ยูทูป อินสตาแกรม รวมกันแล้ว 2.4 ล้านคน

เรามาดูประวัติของน้องเดียร์ลอง หรือน้องกวาง อาริศา เธอเกิด 27 เมษายน 2539 ณ วันนี้ 26 ปี เธอจบปริญญาตรีจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขา Voice (เสียง) มิน่า เธอถึงร้องเพลงเก่ง จากสถาบัน Superstar College of Arts ซึ่งผมไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ผมก็เพิ่งได้ยินครั้งแรก เธอเข้าสู่วงการครั้งแรก เป็นสตรีมเมอร์ แคสต์เกม ตั้งแต่ปี 2554 สิบปีที่แล้ว


ตอนเธอเพิ่งอายุ 16 เธอเป็นสตรีมเมอร์ แคสต์เกม เธอใช้ชื่อว่า เดียร์ลอง แล้วเธอก็เข้าไปแข่งขันในเวที Thailand's Got Talent Season 4 (2557) เธอคว้าอันดับ 6 อายุตอนนั้น 18 ปี เธอออดิชันด้วยเพลงประกอบดิสนีย์ กลายเป็นฉายา "เจ้าหญิงดิสนีย์"


หลังจากนั้นแล้ว น้องกวางก็เลยหันไปทำคลิปสตรีมเสียง ASMR ซึ่งเรียกว่า Autonomous Sensory Meridian Response เป็นคนแรกของประเทศ เธอก็เลยกลายเป็นยูทูปเบอร์สาวสวย สาย ASMR เบอร์ต้นๆ ของเมืองไทย มีโอกาสได้เซ็นสัญญากับ Online Station ในโครงการ Facebook Gaming มีคนติดตามถึง 1.3 ล้านคน


ASMR คืออะไร ? ASMR คือการทำเสียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงกิน เสียงแปรงปัดหน้า ฟึดฟัดๆ หรือเสียงกระซิบกระซาบต่างๆ เพื่อให้คนฟังรู้สึกผ่อนคลาย


แต่มาปีที่แล้ว อาจจะเป็นเพราะเรื่องของโควิด-19 ทำให้งานการมีคนเข้ามาดูน้อยลง รายได้ที่เคยได้ก็ไม่มี เธอก็เลยตัดสินใจก้าวเข้าสู่สายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ออนไลน์เต็มตัว สลัดเลย ถอดชุดเด็กนักเรียนสาววัยใส ชุดนักเรียนเพื่อครั้งประกวดร้องเพลง มาเป็นสาวเซ็กซี่ช่อง Onlyfans เป็นของตัวเอง ในชื่อ "เดียร์ลอง" นำเสนอคอนเทนต์วาบหวิวสำหรับคนอายุเกิน 18 ปี เก็บเงินค่าสมาชิก

ท่านผู้ชมครับ ผมเอารูปบางรูปขึ้นให้ท่านผู้ชมดูก็แล้วกัน ตอนนี้ที่เขาถกเถียงกันในสังคม ที่ดูเรื่องนี้และรับทราบเรื่องนี้ ว่าน้องกวางเป็นเด็กสาวเก่ง มีความสามารถ ทำไมเธอถึงเลือกเดินในเส้นทางขายเซ็กซี่วาบหวิว เพราะความชอบส่วนตัว หรือเพราะทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ? น้องกวาง หรือเดียร์ลอง ผิดหรือเปล่า ? อีกด้านหนึ่ง Onlyfans เป็นกลุ่มลับ พิเศษสุด การจะได้ชมคลิปต้องจ่ายเงินเป็นค่าชม เสียค่าสมาชิก ที่ผิดคือคนที่ไปดูดเอามาเผยแพร่ให้ชมฟรี หรือเอามาขายต่อ ไอ้พวกนี้เป็นพวกที่ชั่ว หลายคนบอกว่าเธอไม่ผิดหรอก เธอผิดที่อยู่ผิดประเทศ สิ่งที่เธอทำไม่ได้ร้ายแรง เพราะบางประเทศการทำ Onlyfans ไม่ใช่เรื่องผิด แต่เผอิญมาอยู่ในประเทศไทยซึ่งเน้นศีลธรรม และค่อนข้างจะหน้าไหว้หลังหลอก เธอก็เลยผิดหนัก โดนดรามาหนัก


น้องกวางผิด เพราะปัจจุบันอาชีพ เซ็กซ์ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ ยังไม่ถูกกฎหมายในประเทศไทย และสื่อลามกในรูปแบบใดๆ ก็ยังถือว่าผิดกฎหมายอยู่ รวมทั้งการที่น้องกวาง (เดียร์ลอง) เป็นคนมีความสามารถ มีคนติดตามมาก เป็นสตรีมเมอร์เกม จึงเป็นไอดอลของเด็กหลายๆ คน ก็เลยมีประเด็นขึ้นมาว่า ในเมื่อเป็นไอดอลของเด็กหลายๆ คนแล้ว ทำไมถึงไม่รักษาภาพลักษณ์ของตัวเองให้ดีกว่านี้ ประเด็นหนึ่งที่ผมเคยเล่าให้ท่านผู้ชมฟังในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ตอนที่ 121 ในวันศุกร์ที่ 21 มกราคม 2565 เรื่อง "วิกฤตเด็กไม่เรียนต่อ" ผมบอกให้ฟังแล้วว่าวิกฤตโควิดเร่งกระแสคนลาออกจากงาน และเด็กไม่เรียนต่อในมหาวิทยาลัย บางคนเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว เข้าไปสู่งานในระบบไม่ได้ ต้องไปทำงานอาชีพอิสระแทน ก็ถามว่า คอนเทนต์ครีเอเตอร์ขายเซ็กซ์ เป็นอาชีพอิสระไหม ? ก็เป็นอาชีพอิสระ แต่อย่างที่บอก มาอิสระในสังคมหน้าไหว้หลังหลอกในเรื่องศีลธรรม อย่างประเทศไทย ก็ต้องเหนื่อยหน่อย

แต่เด็กสมัยใหม่ทำงานหลายแบบ ไรเดอร์ส่งของ ส่งอาหาร ทำอาหารขาย ทำอาชีพฟรีแลนซ์ รับจ้างทำโน่นทำนี่ กระโดดเข้าไปสู่กระแสเทคโนโลยี กลายเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ เป็นคนผลิตเนื้อหา ซึ่งแน่นอน จะมีคอนเทนต์อะไรที่ทำเงินได้มาก เท่ากับคอนเทนต์สีเทาอย่างเรื่องการพนันและเซ็กซ์


ท่านผู้ชมครับ อย่างที่พวกเราเห็นในกรณีน้องกวาง อาริศา แม้จะเป็นเด็กที่เก่ง มีความสามารถ แต่ ณ ปัจจุบันแล้ว ก็ยังหนีไม่พ้นวังวนของความเย้ายวนในเรื่องกิเลสตัณหา โลภะ โมหะ โทสะ ราคะ และในที่สุดก็คือ ต้องการเงิน ถ้ามองในเรื่องของความพอเพียงแล้ว ผมเชื่อว่าน้องกวางคงจะอยู่ได้ ไม่เดือดร้อน ถึงแม้จะมีโควิด เพราะการที่เธอมีแฟนคนติดตามเธอเป็นล้านๆ คน อย่างน้อยที่สุดเธอมีวิธีหารายได้ด้วยตัวเองได้ อาจจะเป็นเพราะว่าเธอต้องการเงินเยอะ เธอก็เลยกระโดดเข้าไปทำคอนเทนต์ครีเอเตอร์นี้ ผมไม่ได้ตำหนิน้องกวาง หรือคุณอาริศา หรอก ผมคิดว่าเป็นสิทธิของเธอ นี่คือคนรุ่นใหม่ เขาจะมีโลกส่วนตัวของเขา ฉันพอใจจะทำตรงนี้ ฉันอุตส่าห์ไป Onlyfans แล้ว เพราะ Onlyfans มันเป็นคลับลับเฉพาะ ใครจะเข้ามาดูก็ต้องจ่าย ถ้าไม่มีไอ้บ้าทะลึ่งไปดูดภาพเขา เขาก็ยังทำงานต่อไป

แต่ผมว่าในทางลึกแล้ว ครอบครัวน้องเดียร์ลอง หรือน้องกวาง หรือใครก็ตามที่เป็นเพื่อนสนิท รู้จักเธอดี ก็อาจจะอดเสียใจแทนเธอไม่ได้ว่า หน้าตาก็ดูน่ารัก ใสซื่อ ช่องทางทำมาหากินก็ยังมี ทำไมจะต้องมาเปลือยกาย แล้วครีเอตการร่วมสังวาสระหว่างตัวเธอกับแฟนของเธอ ถึงกับมีภาพของการอมนกเขาของแฟน ที่เธออม แล้วเธอก็คุกเข่าทำท่า doggy ให้แฟนเธอร่วมสังวาส นี่ก็เป็นประเด็นที่ผมคิดว่าผมไม่ค่อยเห็นใจน้องกวางเท่าไรนักในเรื่องนี้ ความจริงการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์นั้น หน้าตาดูเซ็กซี่ ถ้าจะทำอะไรที่มันดูเซ็กซี่ แต่งตัววับๆ วามๆ พูดจาน่ารักๆ โชว์เนินอกเล็กน้อย มันก็ยังพอจะรับกันได้ แต่ไม่ใช่มาคุกเข่าแล้วทำเป็นท่า doggy ให้แฟนร่วมสังวาส หรือมาอมนกเขาแฟน อันนี้ถึงแม้จะเป็นโลกส่วนตัวของเธอก็จริง แต่ถ้าวันใดมันเกิดหลุดออกมาในสังคมทั่วๆ ไปแล้ว น้องกวางก็ต้องรับผลนี้ต่อไป ท่านผู้ชมอย่าเข้าใจผิดนะครับ ผมให้สิทธิน้องกวางได้ แต่อันนี้น้องกวาง อย่างที่ทุกคนบอก น้องกวางเกิดผิดประเทศ ประเทศไทยยังไม่พร้อมกับเรื่องพวกนี้ ยังไม่พร้อม อาจจะพร้อมเฉพาะในเรื่องบางเรื่อง วับๆ แวมๆ


ท่านผู้ชมเคยดูภาพยนตร์เรื่อง "จันดารา" ไหม ที่มาริโอ้ เมาเร่อ เล่นเป็นจัน ดารา แล้วคุณตั๊ก บงกช คงมาลัย เล่นเป็นน้าวาด ถ้าท่านยังไม่ได้ดู ท่านดูซะ ถ้าท่านได้ดู ท่านดูเวอร์ชันไหน ถ้าท่านดูเวอร์ชันที่ฉายในไทย ท่านจะไม่เห็นอะไรมาก แต่ถ้าท่านดูเวอร์ชันที่ออกใน Netflix มันมี 2 ภาค หนังแบบนั้นในต่างประเทศเขาถือว่าธรรมดาเลย ถ้าท่านอยากดูดาราที่มีชื่อ เปลือยหน้าอกให้เห็น แล้วก็มีท่าเซ็กซ์ แต่ไม่ได้โจ่งแจ้งเหมือนอย่างกรณีน้องกวาง หรือหนังเกาหลีบางเรื่องที่อยู่ใน Netflix ซึ่งก็มีท่าสมสู่กันระหว่างนางเอกกับพระเอก โดยถอดออก แล้วก็มีท่าทีที่นางเอกนั่งอยู่บนตัวพระเอก เหมือนท่าขี่ม้า อะไรทำนองนี้ สำหรับสังคมไทยอีกด้านหนึ่งจะรับตรงนี้ไม่ได้ แต่ในแง่มุมของศิลปะแล้วเขาบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดา คือพูดง่ายๆ ว่า เขาจะบอกว่า นางเอกตีบทแตก ก็สุดแล้วแต่ เพราะฉะนั้นแล้ว ผมคิดว่ารสนิยมอะไรก็ตาม วัฒนธรรมแบบไหนก็ตาม มันเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคลไปแล้ว แต่เผอิญปัจกเจกบุคคลและรสนิยมนั้นบางครั้งมันถูกกรอบของสังคมตีเอาไว้ คำว่า ขนบธรรมเนียมประเพณี มองด้านหนึ่งก็มีข้อดี แต่มองอีกด้านหนึ่งก็เป็นการจำกัดการแสดงออกอย่างเต็มที่ของคนที่ต้องการจะแสดงออก คำถามคือ พวกเราที่เผชิยกับเรื่องพวกนี้ เราเปิดกว้างได้ไหม ถ้าเราเปิดกว้างไม่ได้ ก็แน่นอนที่สุด น้องกวาง ก็จะต้องเป็นขี้ปากของสังคม และคำพูดที่พูดกันตลอดเวลาว่า หน้าตาก็ดี รูปร่างก็ดี ใสซื่อ ทำไมถึงมาทำแบบนี้ ไม่มีวิธีการทำมาหากินหรือ อีกด้านหนึ่งก็บอกว่า หนักกบาลอะไรพวกคุณ นี่เป็นสิทธิของเขา การแสดงออกทางเซ็กซ์ มันก็ไม่มีอะไรที่ผิดปกติ แล้วทุกวันนี้คนที่รักศีล รักธรรม รักขนบธรรมเนียมประเพณี ที่บ้านผัวก็อาจจะมีเมียน้อย เลี้ยงกิ๊กอยู่หลายคน มันก็เหมือนกัน เป็นเพียงแต่ว่าน้องกวางกล้าพอที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา เป็นเพียงแต่เธอฉกฉวยโอกาส ที่คนสนใจเรื่องนี้ แล้วก็เก็บเงินเก็บทองเขา ก็ไม่ผิดอีกเช่นกัน

ท่านผู้ชม คำตอบเรื่องนี้ คือ ผมไม่มีคำตอบ สุดแล้วแต่ท่านผู้ชมยืนอยู่ในกรอบๆ ใด และรับการที่คนจะแหกกรอบออกได้มากน้อยแค่ไหน


ท่านผู้ชมครับ เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2565 วันศุกร์ที่แล้ว รายการตอนที่ 122 ผมได้พูดถึงเรื่องการเดินทางไปเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย ในรอบ 30 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากที่ผมออกไปแล้ว มีผู้ชมบางส่วน เข้าใจว่าน่าจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ หรือติ่งของ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาติชม ต่อว่าต่อขาน แสดงความผิดหวังว่าผมมีอคติต่อท่านนายกฯ คอมเมนต์หลายๆ อย่าง ซึ่งผมพยายามจะสรุปย่อมา บอกว่าผมไม่ให้เครดิต ไม่ให้กำลังใจคนทำงาน บอกว่าผมพลาดไปแล้วที่ตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้ บอกว่าผมรู้ไม่จริง มโนอย่างนั้นมโนอย่างนี้ วิเคราะห์ไม่ตรงกับสิ่งที่ปรากฏ บางคนบอกผมว่า ผมพูดอะไรออกมาแต่ละทีก็เพื่อดิสเครดิตอเมริกา และอวยจีน นักข่าวอาวุโสบางคนถึงกับส่งข้อความผ่านคนใกล้ชิดผม แอบอ้างว่าที่ลุงตู่ไปซาอุฯ ครั้งนี้ เพราะเบื้องสูงสั่งให้ไป ว่ากันอย่างนั้นเลยนะ

ท่านผู้ชมครับ ผมไม่ได้ว่าอะไร ผมรับฟัง และผมชินเสียแล้วกับคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างนี้ ท่านผู้ชมรู้ไหม ชีวิตการทำข่าวและวิเคราะห์ข่าวของผม 50 ปีที่ผ่านมา ผมจะถูกต่อว่าต่อขานจากคนประเภทนี้อยู่ตลอดเวลา แล้วท่านผู้ชมรู้ไหมว่าไม่ใช่เรื่องมหัศจรรย์ เป็นความจริง เมื่อเวลามันผ่านไป สิ่งที่ผมพูดจะไม่ผิดพลาดจากที่ผมพูดไปเลย ถ้าจะผิดพลาดอย่างมากก็ 5 เปอร์เซ็นต์ หรือ 10 เปอร์เซ็นต์

เมื่อสิ่งที่ผมพูดเป็นจริง คนที่สบประมาทผมเอาไว้ในตอนที่ 122 ในวันนั้นก็จะไม่มีใครออกมาขอโทษผมหรอก ส่วนใหญ่จะทำหลงแกล้งลืม ทำเซ่อไป เป็นปกติธรรมดา ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมที่ติดตามรายการผมมาตลอด ตั้งแต่ "เมืองไทยรายสัปดาห์" แล้ว ผมบอกว่าให้มองเหตุการณ์ต่างๆ ในลักษณะมองป่าทั้งป่า อย่ามองต้นไม้ต้นเดียว เพราะถ้าเรามองต้นไม้ต้นเดียว เราจะหลงไปกับภาพ กับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงข้างหน้า แต่หลงลืมในภาพใหญ่ ในสถานการณ์ภาพรวมว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น สิ่งที่ผมจะมาเล่าให้ท่านผู้ชมได้รับทราบในตอนนี้ ผมกำลังจะเล่าสถานการณ์ป่าทั้งป่าในโลกใบนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น ณ ปัจจุบัน เป็นการขยายความจากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไปเยือนซาอุฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่านผู้ชมครับ ใครรับไม่ได้ ไม่อยากฟัง เปลี่ยนช่อง ปิดไปเลย ผมไม่ว่าอะไรทั้งสิ้น เพราะสิ่งที่ผมพูดนั้น บางครั้งมันเกินกว่าสติปัญญาของท่านที่วิพากษ์วิจารณ์ผมมากจนเกินไป จนท่านไม่สามารถจะมองออกไปข้างหน้าให้ไกลกว่านี้อีกสักนิด หรือมองภาพรวมที่มันใหญ่กว่าสิ่งที่ท่านมองเห็น แค่กรณีซาอุฯ กับนายกฯ แล้วก็อวยนายกฯ แล้วก็ตำหนิผมที่ผมไม่ยืนข้างนายกฯ หรือบอกว่าผมอวยจีนแต่ว่าผมตำหนิอเมริกา

ท่านผู้ชมครับ ผมเคยคิดตลอดเวลา วันนี้ขอบ่นสักนิดก่อนจะเข้าเรื่อง สักวันหนึ่ง ผมอาจจะต้องทบทวนความจำว่าผมเคยพูดเรื่องอะไรบ้าง เหมือนท่านผู้ชมบางท่านเพิ่งเข้ามาดูรายการผม ยังไม่ทันไรเลย ก็บอกว่าผมมีอคติกับนายกฯ ฟังทีไรมีแต่เรื่องตำหนินายกฯ แสดงว่าท่านผู้ชมไม่ได้เข้ามาฟังผมตั้งแต่ต้น หรือท่านเคยฟังแล้ว แต่ท่านจำไม่ได้ ผมจะเตือนความจำให้ท่านฟังนิดหนึ่ง ผมเป็นคนที่พูดให้กำลังใจท่านนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ มาตลอด สมัยก่อน เหมือนกับผมให้โอกาสท่านทำงาน ผมพูดให้กำลังใจท่านจนกระทั่งท่านผู้ชมหลายๆ ท่านที่ไม่พอใจ พล.อ.ประยุทธ์ ก็มาต่อว่าต่อขานผมเช่นกัน ว่านายกฯ ทำผิดอย่างโน้นอย่างนี้ ทำไมผมถึงไม่วิพากษ์วิจารณ์ หรือผมเป็นคนที่นิยมเผด็จการ โน่นนี่นั่น


ต่อมาภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ ท่านมีปัญหาในเรื่องของการหลงตัวเอง อัตตาท่านสูง ท่านมีเรื่องการบริหารจัดการที่สำหรับผมคิดว่ามันไม่ถูกต้อง ผมก็หมั่น พยายามอธิบาย วิพากษ์วิจารณ์ไป

ในการวิพากษ์วิจารณ์ของผมนั้น ผมไม่ได้ตำหนินายกฯ โดยตรง ผมพยายามเตือนท่านว่าท่านมีข้อบกพร่องอะไรบ้าง ก็ปกติธรรมดา ก็มีคนซึ่งไม่เคยติดตามงานของผมมา ก็บอกว่า เก่งนักทำไมไม่มาเป็นนายกฯ เสียเอง ซึ่งเป็นคำพังเพยที่ทุเรศมาก และผมจะเรียนให้ท่านผู้ชมที่ตำหนิผมเช่นนั้น หรือท้าทายผมเช่นนั้น ด้วยความสัตย์จริง ว่าถ้ามีโอกาสให้ผมเป็นนายกฯ ผมมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าผมเป็นดีกว่าท่านนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยเท่า ผมยืนยัน

เอาล่ะ ท่านผู้ชมครับ วันนี้เรามาพูดถึงป่าทั้งป่าของโลกนี้ อาจจะเป็นการเบิกเนตรท่านผู้ชมบางท่านที่มีอคติกับผมในเรื่องนายกฯ ไปซาอุฯ ผมจะพูดเรื่องจากยูเครน ดินแดนแห่งความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย กับอียู และอเมริกา มาถึงพม่า และถึงคอบร้าโกลด์ (Cobra Gold) การซ้อมรบ

ท่านผู้ชมครับ วันนี้กระแสข่าวระดับโลกกำลังจับจ้องไปที่ความขัดแย้งระหว่างยูเครน ซึ่งสหรัฐฯ กับนาโต กำลังตั้งป้อมฮึ่มๆ อยู่กับรัสเซีย โดยยังไม่มีท่าทีที่จะยุติในเร็ววัน


ประเด็นความขัดแย้งในยูเครนนั้น ผมเคยพูดไปแล้วถึงที่มาที่ไปเบื้องหน้าเบื้องหลังเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ท่านผู้ชมได้รับทราบแล้ว ตั้งแต่รายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ตอนที่ 115 ในวันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม 2564 ท่านผู้ชมครับ ข้อดีของรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" มันมีตอนเก่าๆ ที่ท่านสามารถเข้าไปดูได้ ไม่ว่าจะดูในยูทูป หรือดูในแอปฯ Sondhi App ถ้าท่านขยันสักนิด ถ้าท่านไม่เคยดู ท่านอ่าน ฟัง แต่ละตอนในเรื่องต่างประเทศที่ผมพูดให้ดีๆ ท่านจะเห็นว่ามันเชื่อมโยงกันหมด และท่านอาจจะเข้าใจอะไรๆ ดีไปกว่าการซึ่งท่านมาดูผมแค่ตอนเดียว แล้วท่านก็มาวิพากษ์วิจารณ์ตามความรู้สึกและอารมณ์ของท่าน ซึ่งท่านไม่ผิดหรอก แต่ผมอยากให้ท่านเปิดสมองให้กว้างกว่าเก่า เรียนรู้ให้ลึกซึ้งมากกว่าเก่า

ในตอนนั้นที่ผมพูด ในตอนที่ 115 วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม 2564 ก็ประมาณเกือบสองเดือนที่แล้ว ในตอนนั้นผมบอกว่า "ปูมหลังวิกฤตการเมืองในยูเครนในเชิงประวัติศาสตร์ ภูมิรัฐศาสตร์ความมั่นคงนั้น ยูเครนนั้นยากที่จะแยกตัวออกจากรัสเซีย และกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ทางโลกตะวันตก โดยเฉพาะอเมริกา มีความประสงค์ที่จะเข้าไปแทรกแซง และอเมริกาก็ได้แทรกแซงสำเร็จไปแล้วครั้งหนึ่ง ใน "การปฏิวัติสีส้ม"


ที่เขาเรียกว่า Orange Revolution โดยใช้ประชาชนมาขับไล่โดยการหนุนหลังของ CIA และองค์กรเอกชน (ที่มีอยู่ในเมืองไทยเช่นกัน) คือ NED และหลายๆ อัน ทั้งโซเชียลมีเดีย จนกระทั่งยูเครนที่มีนายกรัฐมนตรีที่ฝักใฝ่รัสเซีย ก็ต้องลาออก และในที่สุดก็มีการเลือกตั้งใหม่ แล้วก็เลยกลายเป็นยูเครน นายกรัฐมนตรีที่ฝักใฝ่ทางตะวันตก

วิกฤตการเมืองยูเครน ที่เขาเรียกว่า ยูโรไมดาน (Euromaidan) แปลว่า จัตุรัสยูโร เป็นการเดินขบวนของชาวยูเครน จำนวนที่เริ่มต้นจากคืนวันที่ 21 พฤศจิกายน ปี 2556 ด้วยการเรียกร้องให้มีการบูรณาการใกล้ชิดกับยุโรปมากขึ้น


อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่ซับซ้อน มีที่มาที่ไปทางชาติพันธุ์ ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ แล้วส่งผลกระทบกระเทือนความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย และการเมืองภายในยุโรป

ปัจจัยที่สำคัญแต่ไหนแต่ไรมา ชาวยูเครนไม่เคย และไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะมันมีการแบ่งแยกประเทศยูเครนด้านตะวันตก และยูเครนด้านตะวันออก ผมจะเอาแผนที่ขึ้นให้ดู โดยชาวยูเครนทั้งสองกลุ่มเห็นต่างกันมากในการดำเนินความสัมพันธ์กับรัสเซีย ยูเครนด้านตะวันออก ภาคใต้ รวมทั้งคาบสมุทรไครเมีย มีความผูกพันกับรัสเซียอย่างมาก ผมกำลังดูแผนที่นะครับ ภาคตะวันออก รวมทั้งภาคใต้ของยูเครน และคาบสมุทรไครเมีย (สีน้ำเงินที่ปรากฏในแผนที่) ประชากรที่อยู่ในสามส่วนนั้น ภาคตะวันออก ภาคใต้ และคาบสมุทรไครเมียนั้น ประชาชนพูดภาษารัสเซีย มีเศรษฐกิจส่วนใหญ่เป็นภาคเกษตรกรรม มีแต่บางส่วนที่ส่งออกถ่านหิน และเหล็ก


ส่วนยูเครนทางตะวันตก (สีเหลืองในแผนที่) มองว่าประวัติศาสตร์ของตนแยกจากรัสเซียอย่างชัดเจน ประชาชนพูดภาษายูเครน มีเศรษฐกิจส่วนใหญ่เป็นภาคอุตสาหกรรม ในขณะที่รัสเซียมองว่าเกียรติภูมิและฐานะมหาอำนาจของตนเอง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของชาติพันธุ์รัฐ (คือรัสเซียนั่นเอง) และนิกายออร์ทอดอกซ์ตะวันออก ที่มีกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ซึ่งอยู่ยูเครนซีกตะวันตก ยูเครนตะวันออก และแหลมไครเมีย รวมอยู่ตลอด นอกจากนี้แล้ว โดยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของยูเครนยังมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ความมั่นคง และเศรษฐกิจต่อรัสเซีย เพราะว่าอยู่ท้ายครัวรัสเซียเลย ยูเครน อยู่ติดกับรัสเซีย ด้วยเหตุนี้ หลังจากสิ้นยุคสหภาพโซเวียต และยูเครนแยกออกมาเป็นชาติเอกราช แต่แน่นอนที่สุด เป็นปกติธรรมชาติ รัสเซียยังคงต้องการมีอิทธิพลเหนือยูเครน คือเขาไม่ยอมให้มหาอำนาจอื่นใดมาสร้างอิทธิพลแข่งได้ โดยเฉพาะอเมริกาและนาโต ซึ่งชาวยูเครนทางฝั่งตะวันตก (สีเหลือง) ที่ผมเอารูปให้ดูในแผนที่ ก็อยากให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (อียู) แต่ด้วยลักษณะ เหตุผลทางภูมิรัฐศาสตร์และความมั่นคง ยูเครนนั้นอยู่ใกล้ชิดรัสเซีย ทั้งยังติดกับจุดยุทธศาสตร์อย่างทะเลดำ ด้วยเหตุนี้ วิกฤตยูเครน จึงเป็นวิกฤตการเมืองภายในประเทศ ภายในภูมิภาคที่เกี่ยวพันกับการเมืองระหว่างประเทศอย่างหลีกเลี่้ยงไม่ได้

ท่านผู้ชมครับ สถานการณ์ในยูเครน ณ ปัจจุบัน (สิ้นสุด 31 มกราคม) รัสเซียส่งกำลังทหารประมาณ 130,000 คน ก่อนหน้านี้รัสเซียเคยส่งทหารเข้าไปประชิดพรมแดนยูเครนมากถึง 170,000 คน


รัสเซียมีกำลังทหารที่พร้อมรบ 1 ล้านคน มีกำลังสำรองอีก 2 ล้านคน รัสเซียส่งทหารพร้อมอุปกรณ์ครบถ้วนไปตรึงตามบริเวณพรมแดนของยูเครนทุกด้าน ทั้งในดินแดนรัสเซียเอง ในประเทศเบลารุส ซึ่งเป็นพันธมิตรรัสเซีย และอยู่ติดยูเครน รวมทั้งคาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียยึดเอามา นอกจากนี้แล้ว รัสเซียยังส่งกองเรือเข้าไปเสริมกำลังกว่า 20 ลำ ในทะเลดำ เพื่อเตรียมพร้อมด้วย

ผมเอาภาพให้ดูนะครับ ในภาพนี้ วงกลมสีเขียววงใหญ่ คือกำลังทหารรัสเซีย ส่วนวงกลมเล็ก คือกำลังทหารรัสเซียที่น้อยลงมา คือประมาณ 1 พันราย สำหรับข้อเรียกร้องรัสเซียคือ อเมริกาต้องถอนขีปนาวุธเข้าไปติดตั้งในยูเครน และต้องไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต อเมริกาปฏิเสธข้อเสนอรัสเซีย ทำไมผมถึงพูดเช่นนี้ ? ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ?


เพราะเป็นครั้งแรกที่อเมริกาสามารถที่จะเช็กรัสเซียได้โดยการใช้ยูเครนเป็นพื้นที่ ซึ่งยูเครนอยู่ติดกับรัสเซียเลย ตั้งขีนปนาวุธเอาไว้ จ่อคอยรัสเซีย ก็เหมือนกับที่ผมเคยพูดแล้ว ที่รัสเซียยุคนั้น สมัยนายนีกีตา ครุชชอฟ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ส่งขีปนาวุธไปติดตั้งที่คิวบา เพื่อจ่อท้ายอเมริกาในยุคนั้น 40-50 ปีที่แล้ว ในยุคที่ประธานาธิบดีเคนเนดี เป็นประธานาธิบดี และเกือบจะเกิดสงครามโลกขึ้นมา เพราะประธานาธิบดีเคนเนดี ไม่ยอม เนื่องจากว่ากองทัพอเมริกัน กระทรวงกลาโหม บอกว่าถ้าขีปนาวุธรัสเซียติดตั้งอยู่ที่คิวบา เท่ากับว่าคิวบา โดยผ่านรัสเซีย สามารถจะกดปุ่มยิงขีปนาวุธเข้าสู่มหานครนิวยอร์ก เข้าสู่ลอสแองเจลิส วอชิงตัน ดี.ซี. คือพูดง่ายๆ ว่าถล่มอเมริกาได้ทันที โดยที่ไม่ต้องใช้ขีปนาวุธข้ามทวีป ก็แค่จากคิวบา ไปอเมริกา ไปฟลอริดา ซึ่งระยะทางแค่ 400-500 ไมล์เอง ไม่ถึงเสียด้วยซ้ำ


เพราะฉะนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ถ้าสมัยนั้นรัสเซียทำ แล้วอเมริกาบ้าเลือด โกรธ กระโดดโลดเต้น ภาษาอังกฤษเรียกว่า Jerk ถึงกับบอกว่าภายในเวลานี้ วัน ว. เวลา น. ถ้าไม่ถอนออก อเมริกาจะโจมตีเรือลำนี้และจะมีสงครามทันที ในที่สุดแล้ว การไม่กะพริบตาก็มีการกะพริบตาเกิดขึ้น แล้วต่างฝ่ายต่างถอยออกไป ฉันใดฉันนั้น

เรามาดูสถานภาพรัสเซีย รัสเซียมองว่าอะไรของมัน จู่ๆ เอาขีปนาวุธมาติดกับยูเครน แล้วเอามาจ่อท้ายรัสเซีย เรื่องที่สอง อเมริกาต้องการให้ยูเครนเข้าไปเป็นสมาชิกนาโต ก็หมายความว่า นาโต โดยจริงๆ แล้วก็คืออเมริกานั่นเอง เพราะอเมริกาเป็นหัวหอก สามารถจะส่งกองทัพเข้าไปอยู่ในยูเครนประจำตามชายแดนซึ่งอยู่ติดกับรัสเซีย ซึ่งตรงนี้รัสเซียยอมไม่ได้ เพราะฉะนั้นประเด็นคือเรื่องความมั่นคงของรัสเซีย อย่างไรรัสเซียก็ไม่ยอม ฉะนั้นสิ่งที่รัสเซียขออยู่สองเรื่อง ก็คือ หนึ่ง อย่าเอาขีปนาวุธมาอยู่ในยูเครน คุณไล่ออกไป สอง ยูเครนต้องไม่เข้าไปในนาโต สองเรื่องแค่นี้ แต่อเมริกาไม่ยอม เพราะอเมริกาต้องการสร้างความตึงเครียดให้เกิดขึ้น ถึงกับได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารบางส่วน 7,500 นาย เข้าไป โน่นนี่นั่น


ทีนี้ ยุโรปล่ะ ยุโรปตอนนี้เสียงแตก ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 รัสเซียก็ยังตรึงกำลังอยู่ตลอดชายแดนที่ติดกับยูเครน พันธมิตรนาโตอย่างอเมริกาก็ส่งกำลังเข้าไป แล้วก็พยายามปั่นกระแสว่าต้องมีสงครามแน่นอน อย่างเช่น สั่งให้นักการทูตของตัวเองขนคน อพยพออกไปจากยูเครน ออกให้หมด เหมือนกับกำลังส่งสัญญาณ BBC ของอังกฤษ CNN ของอเมริกา Fox News ของอเมริกา โหมประโคมข่าวนี้เพื่อทำให้โลกทั้งโลก หรือทางยูเครน หรือทางตะวันตก มีความรู้สึกว่าสงครามจะเกิดขึ้นแล้ว ไม่อย่างนั้นแล้วทำไมอเมริกาต้องขนครอบครัวตัวเองออกไปหมด

แต่ประเทศที่เป็นสมาชิกนาโตในยุโรปกลับเสียงแตกออกเป็นหลายฝ่าย เพราะว่าถ้ารัสเซียบุกยูเครน ประเทศในยุโรปจะต้องเผชิญศึกใหญ่ก่อน ไม่ใช่อเมริกา อเมริกาคงส่งทหารเข้ามาทีหลัง แต่ขณะที่ประเทศยุโรปบอบช้ำเกินไปแล้ว และถ้ามีการรบกันเกิดขึ้น ยุโรปจะบอบช้ำ ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้จริง ต้องถือว่าซ้ำรอยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งประเทศในยุโรปเคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว ต่างรู้เท่าทัน ก็เลยไม่ยอมส่งอาวุธเข้าไปช่วยยูเครน เยอรมนีไม่ส่ง ฝรั่งเศสไม่ส่ง อิตาลีไม่ส่ง มีอังกฤษ นายบอริส จอห์นสัน ซึ่งอังกฤษนั้น ในวงการการเมืองระหว่างประเทศ เขาเรียกว่าอังกฤษนั้นเป็นผู้ช่วยนายอำเภอ นายอำเภอใหญ่ก็คืออเมริกา อังกฤษเป็นผู้ช่วยนายอำเภอ ส่วนออสเตรเลียนั้น เขาเรียกว่าเป็นหมาชิวาวา พันแข้งพันขาอเมริกาอยู่

ท่านผู้ชม แม้กระทั่งพันธมิตรอย่างอังกฤษที่เคยประกาศตัวเป็นผู้ช่วยนายอำเภอ เดิมทีประกาศว่าจะส่งทหารเข้าไป 1 หมื่นคน แต่ในที่สุดส่งเข้าไปแค่ 100 คน


เยอรมนี มีรายงานฝั่งตะวันตกจี้ออกมาตลอดเวลา ท่านผู้ชมครับ เยอรมนีช่วยด้วยการส่งหมวกกันกระสุน 5 พันชิ้น รัฐบาลเยอรมนีอ้างว่าการส่งกำลังทหาร อาวุธ เข้าไปที่ยูเครน เป็นการยั่วยุ และยากต่อการแก้ไขปัญหา ดังนั้นควรหันมาใช้วิธีทางการทูตเพื่อให้ยุติปัญหานี้

จริงๆ แล้วทางเยอรมนีกลัวว่าสงครามในยูเครนนั้นจะกระทบกับเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านพลังงาน ซึ่งเยอรมนีต้องการพึ่งพาการนำเข้าแก๊สจากรัสเซีย แล้วเขากำลังก่อสร้างอภิเมกะมหาโปรเจกต์ท่อแก๊สที่เรียกว่า North Stream 2 ความยาว 1,230 กิโลเมตร จากรัสเซียมาเยอรมนี ด้วย (ดูแผนที่) เส้นที่เป็นรายปรุๆ และเป็นลายสีเขียว คือเส้นทางแก๊ส North Stream 2 ออกจากทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย ผ่านประเทศเอสโตเนีย ลงมาในทะเล แล้วมาโผล่ที่เยอรมนี


ถ้าสงครามเกิดขึ้น วิกฤตพลังงานปะทุแน่นอน ท่านผู้ชมครับ ไม่เพียงแค่เยอรมนีที่ควรเป็นกังวลปัญหาเรื่องวิกฤตพลังงาน หากสงครามยูเครนเกิดขึ้นจริงๆ เพราะจากตัวเลขล่าสุด ตามรายงานของ EUROSTAT 2020 บ่งชี้ให้เห็นว่า จากสถิติปี 2561 ประเทศเกือบทุกประเทศในยุโรปต้องพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียทั้งสิ้น รัสเซียเป็นแหล่งนำเข้าพลังงานอันดับหนึ่งของอียู อียูนำน้ำมันดิบเข้า 29.8 เปอร์เซ็นต์ นำแก๊สเข้า 40.1 เปอร์เซ็นต์ นำเชื้อเพลิงแข็งเข้า 42.3 เปอร์เซ็นต์ (เชื้อเพลิงแข็ง คือ เศษไม้ ฟืน ถ่าน ฟางข้าว ชานอ้อย ขี้เลื่อย ปาล์ม ซังข้าวโพด และมูลสัตว์)


ท่านผู้ชมครับ มาดูที่ยูเครนบ้าง ยูเครนก็รู้ว่าตัวเองต้านรัสเซียไม่ได้หรอก รู้ว่ารัสเซียเข้าแค่ไม่กี่ชั่วโมง ยูเครนคงราบเป็นหน้ากลอง เพราะอาวุธยุทโธปกรณ์ของยูเครนนั้นยังอยู่ในยุคที่ยูเครนยังเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย อาวุธก็ยังเก่าเหมือนเดิม และนี่คือที่มาว่าทำไมอังกฤษ และอเมริกา พยายามจะส่งอาวุธชุดใหม่มาให้ยูเครน และยูเครนเชื่อว่าถ้ารัสเซียเข้าในยูเครน ก็จะตั้งรัฐบาลใหม่ยูเครนขึ้น ทำให้ชาวรัสเซีย และชาวยูเครนที่สนับสนุนรัสเซีย เข้ากับรัฐบาลใหม่ รัฐบาลเดิมซึ่งเป็นหุ่นเชิดของทางตะวันตก โดยเฉพาะอเมริกา จะมลายสิ้นไป เพราะฉะนั้น คิดสะระตะแล้ว รัฐบาลยูเครนเห็นท่าไม่ดี ก็เลยรีบเจรจากับรัสเซีย แล้วตกลงตามข้อเสนอรัสเซียให้ถอนขีปนาวุธทั้งหลายที่ชาติตะวันตกเอามาติดตั้งในยูเครนออกไป และจะไม่เข้าเป็นสมาชิกนาโต ขณะนี้ยังอยู่ในการทำข้อตกลงอย่างเป็นทางการ และจะต้องมีข้อปฏิบัติอย่างเป็นธรรมและรูปธรรมด้วย รัสเซียเองก็ไม่ไว้ใจ ก็เสริมกำลังเข้าไปตลอด


ยูเครนถึงกับประกาศเลยว่า เรียกร้องให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ ก็คือว่า ทำอะไรกัน กูเป็นประเทศคู่สงคราม กูยังใจเย็น มึง (อเมริกา) นี่ปั่นทุกวัน ว่าสงครามจะเกิดขึ้น รัสเซียจะบุกขึ้นมาแล้ว เพราะฉะนั้นแล้วอเมริกาต้องโยกย้ายเจ้าหน้าที่การทูตออกจากยูเครน คืออเมริกาอยากให้รัสเซียบุกยูเครน เพื่อจะได้มีความชอบธรรมในการเข้ามา หรือมาหาทางที่จะเช็กรัสเซียให้ได้ รัสเซียก็พูดตลอดเวลาว่า พวกคุณจะบ้าหรือ ผมเอากำลังทหารมาติดพรมแดน แต่ผมต้องการกดดันให้ยูเครนเข้าใจว่าสิ่งที่ผมต้องการมี 2 เรี่อง เรื่องแรก คุณเอาขีปนาวุธต่างๆ ที่อเมริกาตั้งไว้ เอาออกให้หมด สอง คุณอย่าเข้าไปเป็นสมาชิกนาโต แล้วคุณกับผมจะอยู่กันอย่างเป็นสุข ผมไม่ยุ่งกับคุณ รัสเซียต้องการเพียงแค่นี้

26 มกราคม 2565 ผู้นำยูเครน ร้องขอให้ประชาชนที่กำลังกังวลเกี่ยวกับการรุกรานของรัสเซีย ไม่ให้ตื่นกลัวเกินไป เขาพูเองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ แม้ว่ารัฐบาลกรุงเคียฟจะยอมรับ (กรุงเคียฟ คือเมืองหลวงของยูเครน) ว่า โอกาสของภัยคุกคามนี้มีอยู่จริง และใครส่งอาวุธมา เขาก็รับ เพื่อเสริมสร้างกำลังในการป้องกันประเทศ


ท่านผู้ชมครับ ทำไมผู้นำยูเครนพูดเช่นนี้ ? ก็เพราะว่าเขากำลังมีการเจรจาลับกัน รัสเซียเขาก็ไม่ต้องการที่จะมีสงครามกับยูเครน แต่รัสเซียจำเป็นต้องกดดัน อุปมาอุปไมยเหมือนท่านผู้ชมเปิดบ่อนแห่งหนึ่งอยู่ที่ย่านบางโพ หรือย่านไหนก็ตาม บ่อนประตูน้ำ แล้วถ้าท่านผู้ชมไปตั้งหน่วยด่านต่างๆ ล้อมรอบบ่อนนั้นไว้ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ขาพนันที่เคยเข้าบ่อน พอเห็นตำรวจก็ชะงักแล้วสิ เพราะตำรวจก็ค้นตัว ถามจะไปไหน โน่นนี่นั่น ท่านผู้ชมครับ ในที่สุดบ่อนนั้นก็เจ๊ง ไม่มีคนเข้า โดยตำรวจไม่ต้องบุกเข้าไปยึดบ่อน ฉันใดฉันนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับยูเครนวันนี้ คือพอรัสเซียมาตั้งกองกำลัง 3 หมื่นคน ล้อมยูเครนไว้หมดเลย ล้อมหมดเลย แล้วอเมริกามาปั่นว่าสงครามจะเกิดขึ้นแล้ว ปั่นแหลกราญ อะไรเกิดขึ้น ? เงินลงทุนต่างชาติที่มาลงทุนในยูเครนก็ถอนไปหมดเลย ถอนออกจนกระทั่งสถานการณ์การเงินยูเครนตอนนี้ ต้องยื่นเรื่องเข้าไอเอ็มเอฟ เพื่อขอกู้เงินไอเอ็มเอฟประมาณ 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะเงินลงทุนต่างชาติออกไปหมดแล้ว นี่คือที่มาว่าทำไมนายกรัฐมนตรียูเครนถึงออกมาโวยวาย จริงๆ โวยวายใส่อเมริกาว่า เฮ้ย Shut up! หยุดปาก หยุดพูด ยิ่งพูดยิ่งทำให้ฉิบหาย

รัสเซียเองก็ยืนยันว่าไม่มีแผนการส่งทหารบุกเข้ายูเครน แต่จำเป็นที่จะต้องส่งกำลังทหารไปกดดัน เพราะการกดดันครั้งนี้ได้ผล 2 ประการ ประการแรก ทำให้ยูเครนหยุดคิดได้ คิดว่าอะไร ? คิดว่าถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง ชีวิตของชาวยูเครนทางตะวันตกก็จะนอนไม่หลับไปตลอด รัสเซียไม่แคร์สิ ทหารก็แค่ย้ายที่อยู่เฉยๆ จากบ้านที่เคยอยู่ จากค่ายที่เคยอยู่ เข้ามาอยู่ตามชายแดน ก็ปลูกสร้างเป็นค่ายถาวรบ้าง ค่ายชั่วคราวบ้าง เงินเดือนก็ได้ทุกเดือน อาหารการกินก็ได้ตลอดเวลา แค่เฝ้าประจำการเท่านั้นเอง ส่วนฝั่งยูเครนต้องอดหลับอดนอน ต้องคอยเอาปืนจ่อ ดูว่ามีบุกเข้ามาหรือเปล่า


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายโอเล็กซี เรซนิคอฟ ของยูเครน พูดในรัฐสภาในวันอังคารที่ 25 มกราคม พูดว่าอย่างไร ? ณ วันนี้ ยังไม่มีเหตุให้เชื่อว่ารัสเซียกำลังเตรียมบุกในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ เพราะยังไม่มีรายงานจัดตั้งกองกำลังรบที่สามารถรุกคืบข้ามพรมแดนได้ เพราะฉะนั้นทุกฝ่ายไม่ต้องกังวล และไม่ต้องแพ็กกระเป๋าในเวลานี้ แต่กลับกลายเป็นอเมริกาปั่นข่าวตลอดเวลา ให้กังวล และให้เจ้าหน้าที่ทูตของตัวเอง ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ทูต ครอบครัวเจ้าหน้าที่ทูตขนออกไป แต่เจ้าหน้าที่ทูตยังอยู่เหมือนเดิม อังกฤษก็เช่นกัน สองคู่หูนี้คือตัวการที่ปั่น เยอรมนีไม่ตื่นเต้น ฝรั่งเศสไม่ตื่นเต้น อิตาลีไม่ตื่นเต้น กลับมาพูดว่า เฮ้ย คุยกันดีกว่า กลุ่มสแกนดิเนเวีย เฉยๆ เพราะตัวเองไม่เกี่ยว ฝรั่งเศสยังพูดเลย มาครง ยังพูดเลย


มาครง ก็เคยครั้งหนึ่ง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เคยเรียกประชุมทูตทุกประเทศที่ประจำในฝรั่งเศสมาฟังเขากล่าวสุนทรพจน์ เขาพูดอย่างไร ? ทำไมฝรั่งเศสต้องไปเป็นศัตรูกับรัสเซีย คนที่เป็นศัตรูกับรัสเซียคืออเมริกา ไม่ใช่ฝรั่งเศส ทำไมฝรั่งเศสต้องล่มหัวจมท้ายกับอเมริกา แล้วเอารัสเซียมาเป็นศัตรู ทั้งๆ ที่เราเป็นเพื่อนกัน นี่คือแนวคิดของเขานะ

รัสเซียพูดชัดว่ายังไม่ต้องการมีสงคราม รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ พูดว่า รัสเซียไม่ต้องการทำสงครามกับยูเครน โดยที่ไบเดน พูดเตือนยูเครนว่า รัสเซียจะทำการบุกโจมตีในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 นี้ ท่านผู้ชมครับ วันนี้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย บอกว่า หากเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับรัสเซีย ผมขอบอกว่า จะไม่มีสงครามเกิดขึ้น เราไม่ต้องการทำสงคราม แต่ "เราจะไม่ยอมให้ผลประโยชน์ของเราถูกเหยียบย่ำหรือถูกละเลย" นั่นก็คือหลักการว่า คุณอย่าเอาขีปนาวุธของคุณทางฝ่ายตะวันตก หลักๆ คือของอเมริกา และขอนาโต เอามาตั้งที่พรมแดนยูเครนเพื่อจ่อรัสเซีย นั่นคือผลประโยชน์ถูกเหยียบย่ำและถูกละเลย และอย่าเข้าไปเป็นสมาชิกนาโต

ท่านผู้ชมครับ ทั้งหมดนี้ถ้ารัสเซียกับยูเครนตกลงกันได้ และปฏิบัติตามข้อตกลง ก็เท่ากับรัสเซียชนะโดยไม่ต้องรบ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงท่าทีของยูเครนใหม่ แทนที่จะฝักใฝ่นาโตเหมือนเดิม เพราะเห็นความจริงแล้วว่า พอเอาจริงเข้าแล้วพวกพันธมิตรยูเครน ดันให้ยูเครนออกหน้าให้ตายก่อน แล้วมารุมกินโต๊ะยูเครนเหมือนที่ผ่านมา สู้เจรจาตกลงกับรัสเซียดีกว่า ทำให้ผมนึกถึงนโยบายพรรคการเมืองไทยบางพรรค ที่บอกว่า ประชาชนต้องตายก่อน ไม่ใช่ประชาชนต้องมาก่อน

ท่านผู้ชมรู้หรือเปล่าว่า วันนี้วันที่ 4 เป็นวันทำพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่ง ประธานาธิบดีปูติน และประธานาธิบดียูเครน จีนเชิญไปร่วม


ท่านผู้ชมเชื่อผมสิ สี จิ้นผิง เป็นตัวกลางในการจับประธานาธิบดีรัสเซีย และประธานาธิบดียูเครน มานั่งคุยกัน แล้วผมเชื่อว่าตกลงกันได้ แนวโน้มจะมีการตกลงกันได้ เพราะทำไม ? เพราะยูเครนกำลังจะเข้าไอเอ็มเอฟ และปูติน ก็บอกกับประธานาธิบดียูเครน เฮ้ย! สหาย เรามีปัญหากังวลสองเรื่อง นายไปให้อเมริกามาตั้งขีปนาวุธจ่อท้ายบ้านเราได้อย่างไร สอง ถ้านายเข้านาโต ก็เท่ากับกองกำลังนาโตจะส่งกองกำลังเข้ามาประจำในยูเครน เรารับไม่ได้ เรามีปัญหาแค่สองเรื่องเท่านี้เอง ถ้านายจัดการสองเรื่องนี้ได้ เราเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม พลังงานก็ไป อ๋อ ของนายที่นักลงทุนไม่มา ขาดเงิน จะต้องขอกู้ไอเอ็มเอฟ ผมเชื่อว่าพี่สี จะบอกว่า เดี๋ยวจีนให้กู้เอง เชื่อผมสิ

เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้ และอีกอย่าง มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมประธานาธิบดียูเครน และประธานาธิบดีปูติน ต้องไปงานโอลิมปิกฤดูหนาว ปูติน ไป ไม่มีอะไรประหลาดใจ เพราะว่าปูติน เป็นเพื่อนสนิทของ สี จิ้นผิง และได้รับปากไว้แล้วว่าจะมา


แต่จู่ๆ ประธานาธิบดียูเครนมา มาระหว่างที่ยังตึงเครียดอยู่ แสดงว่าต้องมีการประสานงานกัน มาคุยกัน ท่านผู้ชมครับ นี่คือสิ่งที่ผมอ่าน ท่านผู้ชมที่เกลียดขี้หน้าผมจะหาว่าผมมโนก็ได้ ไม่เป็นไร แต่ถ้าท่านมองตามผม และคิดตามผม ก็จะเห็นด้วย ไม่มีเหตุผลอะไรที่ประธานาธิบดียูเครนจะต้องไปพิธีเปิดที่ปักกิ่ง แล้วถ้าไปอย่างนั้น ถ้าสมมุติว่าไม่มีเรื่องจะต้องมานั่งคุยกัน การที่ประธานาธิบดียูเครนไป ทั้งๆ ที่อเมริกา อังกฤษ บอยคอตกีฬาฤดูหนาวที่ปักกิ่ง โดยไม่ส่งผู้นำระดับสูงไป แต่ประธานาธิบดียูเครน ซึ่งอเมริกา อังกฤษ กำลังโอ้โลมที่จะให้เป็นพวกตัวเอง กลับบินไปปักกิ่ง ก็แสดงว่านี่คือการตบหน้าอเมริกาอีกรูปแบบหนึ่ง ใช่ไหมท่านผู้ชม

ท่านผู้ชมครับ ถ้าสถานการณ์ ผลสุดท้ายเป็นเช่นนี้ ก็เท่ากับรัสเซียชนะโดยไม่ต้องรบ ต้องถือว่าเป็นความงดงามในการทำสงคราม เพราะหลักพิชัยสงครามว่าไว้ว่า ชัยชนะที่เลิศที่สุดคือชนะโดยไม่ต้องรบ ซึ่งจริงๆ แล้วมันสอดคล้องกับข้อตกลงระหว่างรัสเซียกับประเทศยุโรป ว่าจะต้องช่วยกันไม่ให้เกิดสงครามขึ้นในยุโรป และยุโรปจะไม่เป็นสมรภูมิให้สหรัฐฯ ฉกฉวยเหมือนในสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกแล้ว ท่านผู้ชมเห็นหรือยังครับ แม้กระทั่งยุโรปก็รู้ว่าอเมริกาคือหมาป่า ที่คอยแอบกัด แอบงับ หลังจากที่เหยื่อเหนื่อยแล้ว แต่ขณะเดียวกัน ท่านผู้ชมรู้ไหมครับ รัสเซียก็ตลบหลังอเมริกาเหมือนกัน ตอนนี้รัสเซียกำลังเดินหน้าติดตั้งขีปนาวุธหัวรบนิวเคลียร์ที่ประเทศเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นศัตรูของอเมริกา เพื่ออะไร ? ก็ในเมื่อคุณเข้ามาใช้ยูเครนได้ ผมก็จะมาใช้เวเนซุเอลาคุมเชิงหลังบ้านคุณ นี่คือกลยุทธ์หมากล้อมในทุกสมรภูมิของโลกบีบรัดการวางแสนยานุภาพของอเมริกาในภูมิภาคต่างๆ มากขึ้น


ก็มีคนที่สนใจข่าวยูเครน-รัสเซีย เผอิญมีคอมเมนต์หนึ่งที่ผมอ่านแล้วผมติดใจ คนเขียนชื่อ Shazad Raja เขาเป็นวิสัญญีแพทย์ชาวปากีสถาน เขาให้ความเห็นเป็นภาษาอังกฤษ ผมแปลเป็นภาษาไทยแล้วกัน เขาบอกว่า ยูเครนควรคุยกับรัสเซียเพื่อแก้ปัญหานี้ มิเช่นนั้นยูเครนจะซ้ำรอยของอัฟกานิสถาน อเมริกาจะทิ้งยูเครนทันทีที่หมดประโยชน์ เขาเตือนยูเครนว่า คุณเปลี่ยนศัตรูได้ แต่คุณเปลี่ยนเพื่อนบ้านคุณไม่ได้ ก็คือพูดง่ายๆ ว่า ยังไงชีวิตนี้ทั้งชีวิตคุณต้องอยู่กับรัสเซีย ผมคิดว่าเป็นข้อคิดที่น่าสนใจมากครับ

ท่านผู้ชมครับ ช่วงเวลาใกล้เคียงกับเหตุการณ์วิกฤตยูเครน ในภูมิภาคนี้ พันธมิตร 3 ชาติ คือ จีน รัสเซีย อิหร่าน กำลังซ้อมรบกันอีกรอบ ในตอนเหนือของมหาสมุทรอินเดีย


21-23 มกราคม ปีนี้ เมื่อประมาณอาทิตย์กว่าๆ 3 ชาติพันธมิตร ประกอบด้วย จีน รัสเซีย และอิหร่าน ทำการซ้อมรบทางทะเลร่วมกันครั้งที่ 2 ในพื้นที่มหาสมุทรอินเดียตอนเหนือ สื่อตะวันตกบอกว่า การซ้อมรบครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แต่จีนบอกว่าครั้งที่ 2 เอาเถอะครับ จะ 2 หรือ 3 ไม่เป็นไร แต่นัยของการซ้อมรบมันมีเยอะมาก


สถานีโทรทัศน์ทางการอิหร่านรายงานว่า อิหร่าน จีน และรัสเซีย ดำเนินการซ้อมรบโดย พล.ร.ต.มุสตาฟา ทาเจ็ดดินี โฆษกการฝึกซ้อมร่วม ให้สัมภาษณ์กับโทรทัศน์อย่างเป็นทางการของอิหร่านว่า นาวิกโยธินจากกองกำลังติดอาวุธ กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน กำลังร่วมซ้อมรบ 2022 ชื่อ Marine Security Belt ขอบทางทะเลแห่งความมั่นคงบนพื้นที่ใหญ่มาก 17,000 ตารางกิโลเมตร


การซ้อมรบเริ่มตั้งแต่ 21 มกราคม นายพลทาเจ็ดดินี ระบุว่า เป้าหมายการซ้อมรบครั้งนี้คือการสร้างเสถียรภาพและรากฐานในภูมิภาค ตลอดจนขยายความร่วมมือพหุภาคี ระหว่าง 3 ประเทศ ท่านผู้ชมครับ จับคำพูดนี้ดีๆ เพื่อร่วมกันส่งเสริมสันติภาพโลก เสถียรภาพทางทะเล และสร้างชุมชนทางทะเลที่เป็นอนาคตร่วมกัน นั่นก็คือต่อต้านอเมริกา ชัดเจน เพราะอเมริกาเอาเรือรบมาวิ่งตลอดเวลาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และทางมหาสมุทรอินเดียด้วย

ท่านผู้ชมครับ นับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดี เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมาแล้ว ท่านประธานาธิบดีเอบรอฮีม แรอีซี ผู้นำอิหร่าน ได้ดำเนินนโยบายมองตะวันออก คือทุ่มเททุกอย่างไปตะวันออก เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับจีนและรัสเซียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น


มิหนำซ้ำ อิหร่านยังเข้าร่วมกับองค์กรความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ซึ่งเป็นหน่วยงานความมั่นคงในเอเชียกลาง ที่นำโดยรัสเซียและจีน จะเห็นว่าการซ้อมรบนี้มันโยงมาถึงการเมืองพม่า กับการฝึกคอบร้าโกลด์ 2565 (Cobra Gold 2022) ผมอยากจะตั้งคำถามว่า การซ้อมรบทางทะเลแบบถี่ๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ระหว่างจีน รัสเซีย อิหร่าน มีอะไรผิดสังเกตหรือเปล่า ? มีสิครับ ถ้าเราเอาเรื่องนี้ผนวกกับการรัฐประหารที่พม่า ซึ่งเพิ่งครบรอบ 1 ปี เมื่อวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สอง การสร้างกงสุลแห่งใหม่ของอเมริกาที่ใหญ่โตมโหฬาร มูลค่าเกือบหมื่นล้าน ที่ จ.เชียงใหม่ เพิ่งลงเสาเอกไปเมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา


สาม การฝึกร่วมผสมซ้อมรบคอบร้าโกลด์ ในปี 2565 หรือ Cobra Gold 2022 เป็นการประชุมระหว่างฝ่ายทหารสหรัฐฯ กับไทย ตกลงกันที่จะร่วมการฝึกระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึงมีนาคม 2565 พิธีเปิดจะเปิดวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้

มีการประเมินว่าอเมริกาส่งทหารเข้ามา 1 หมื่นคน ร่วมฝึก ซึ่งเยอะมากที่สุดตั้งแต่เคยฝึกร่วมกันมา ผมเคยตั้งข้อสังเกตไปแล้วในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ตอนที่ 120 หลังจากนั้นมีกลุ่มคนไทยบางกลุ่ม อย่างคุณนิติธร ล้ำเหลือ ที่มีฉายาว่า "ทนายนกเขา" ไปยื่นจดหมายเปิดผนึกที่สถานทูตอเมริกา ถึงนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ให้ยุติการซ้อมรบ Cobra Gold 2022 ในจดหมายนั้นตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจดังนี้ครับ สมควรหรือไม่ที่จะจัดซ้อมรบ Cobra Gold 2022 ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยนำกำลังทหารสหรัฐฯ ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นคน เข้ามาไทย ขณะที่อเมริกาเองยังมีโรคระบาด มีผู้ป่วยยืนยันจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ล้านคน ภายในวันเดียว อันจะนำความเสี่ยงภัยด้านสาธารณสุข มีผลต่อชีวิตประชาชนคนไทย


อีกประเด็นหนึ่งที่ทนายนกเขาถามไป ก็คือว่า ความขัดแย้งภายในของพม่า ที่ไทยมีภาระหนักในเรื่องผู้ลี้ภัยนับแสนคน สมควรหรือไม่ที่จะยอมให้สหรัฐอเมริกาส่งยุทโธปกรณ์ รวมไปจนถึงส่งทหารนอกเครื่องแบบจำนวนมาก ผ่านชายแดนไทยไปยังเมียนมา จนอาจจะลุกลามไปสู่สงครามตัวแทน แปลว่าอะไร ? แปลว่าทนายนกเขา ท่านกำลังบอกว่า ที่คุณส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ผ่านชายแดนไทย (ซึ่งประเทศไทยต้องรู้เห็นเป็นใจด้วย) พร้อมกับส่งทหารนอกเครื่องแบบจำนวนมาก ผ่านชายแดนไทยไปยังเมียนมา อาจจะเป็นการเกิดสงครามตัวแทนขึ้น

อีกข้อหนึ่ง ท่านผู้ชมครับ ประเด็นที่น่าเคลือบแคลงของการเข้าพบนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ของนายเดวิด เอส. โคเฮน


นายเดวิด เอส. โคเฮน คือใคร ? คือรองผู้อำนวยการ CIA เข้ามาพบแบบไม่มีวาระล่วงหน้า ในเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา ผิดปกติมาก ระดับรองผู้อำนวยการ CIA มาพบนายกรัฐมนตรีของประเทศๆ หนึ่ง ทำไม แล้วก็ได้พบนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจจะเป็นเพราะว่ามีความสนิทสนมกัน หรืออาจจะเป็นเพราะว่ารู้กันอยู่แล้วว่าอเมริกากำลังทำอะไร นายเดวิด เอส. โคเฮน มาขอความมั่นใจว่าที่คุยกันไว้ก่อนหน้า ผมจะทำแล้วนะ เราไม่มีวันรู้ แต่มาพบกันแบบนี้ มันไม่ใช่การพบกันแบบเยี่ยมเยียน แล้วไม่ใช่หน้าที่ของรองผู้อำนวยการ CIA องค์กรสืบราชการลับ ที่จะมาพบนายกรัฐมนตรีในประเทศไทย ไม่ใช่เรื่อง เพราะฉะนั้น ถ้าจะเป็นเรื่องจริงๆ ก็น่าจะเป็นเรื่องของบทบาทที่อเมริกาจะใช้ไทยในการเข้าสู่พม่ามากกว่า

ท่านผู้ชมครับ ผมเคยพูดเรื่องนี้ไปแล้ว ไปดูคลิปเก่าๆ ได้ ทั้งหมดนี้ผมพูดมาแล้วนะท่านผู้ชม ถ้าท่านผู้ชมที่หาว่าผมมโน ค่อยๆ กลับไปดูทีละนิดๆ แล้วจะเห็นว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นเป็นความจริงทุกประการ นี่ข้อสังเกตต่างๆ ที่ผมตั้่งเอาไว้ ยังไม่รวมกับข้อมูลต่างๆ ซึ่งผมหามา


ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าปัจจุบันนี้ทหารพม่าที่ประจำการอยู่มีประมาณ 4 แสนคน ยังไม่นับรวมทหารจีนอีก 1 แสนคน ที่พม่าขอร้องให้จีนส่งทหารเข้ามาช่วยคุ้มครองท่อแก๊สจีน-พม่า ตลอดแนว จากรัฐยะไข่ จนถึงมณฑยูนนาน




ท่านผู้ชมครับ ทหาร 5 แสนคนในพม่า ดังกล่าว ยังไม่นับทหารจีนอีกจำนวนหนึ่ง 5 แสนคนเช่นกัน สแตนด์บายเอาไว้ที่มองโกเลีย พร้อมเคลื่อนพลถ้าเกิดสถานการณ์ความไม่สงบในพม่า รวมแล้วทางจีน พม่า รวมกันแล้วมีกำลังพลที่เตรียมไว้มีอยู่ 1 ล้านคน เพราะฉะนั้นแล้ว การซ้อมรบแบบถี่ๆ ระหว่างจีน รัสเซีย อิหร่าน หรืออีกนัยหนึ่ง นั่นคือการยันกองเรือที่ 5 ของอเมริกา อเมริกามีกองเรือที่ 7 ในมหาสมุทรแปซิฟิก กองเรือที่ 5 ที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อป้องกันการโจมตีจากด้านมหาสมุทรอินเดียที่กองเรือที่ 5 จะเข้ามา ถ้าเกิดเหตุขึ้นมา เอเชียแปซิฟิก กองเรือที่ 7 อยู่นี่ อินเดียอยู่ที่นี่ กองเรือที่ 5 จะข้ามมหาสมุทรอินเดียเข้ามาเพื่อช่วยกองเรือที่ 7 ก็เจอการซ้อมรบของจีน รัสเซีย อิหร่าน เตรียมตัวรับอยู่ นอกจากนี้แล้ว จีนยังมีการตั้งฐานทัพเรือไว้ที่ยะไข่ และมีหน่วยย่อยที่ทวายอีกจุดหนึ่ง


ท่านผู้ชมครับ ผมเคยเล่าให้ฟังแล้วไม่ใช่หรือ ว่ารัสเซียเปิดตัวแล้วว่าจะสนับสนุนอาวุธให้พม่าแบบไม่อั้น ยังไม่นับรวมอิหร่าน เกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นไพ่ลับที่พม่าซ่อนเอาไว้ ยังไม่เปิด ท่านผู้ชมต้องรู้นะครับ ตำนานของอิหร่าน พม่า และเกาหลีเหนือ ในช่วงที่อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ถูกบอยคอต พม่าเป็นคนส่งอาหารไปให้อิหร่านและเกาหลีเหนือ ในช่วงที่ทั่วโลกไม่มีใครคบ ยกเว้นจีน และรัสเซีย ไม่มีใครยื่นมือเข้าไปช่วยอิหร่าน และเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกาหลีเหนือ ในเรื่องของการขาดแคลนอาหาร พม่าเป็นคนทำ เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้ผมไม่ประหลาดใจหรอกว่าอาวุธหลายอาวุธที่เกิดขึ้นต้องมีของอิหร่านเข้ามา ของพม่าเข้ามา รวมทั้งความช่วยเหลืออีก ข่าวซึ่งไม่ได้มีการยืนยันว่าเกาหลีเหนือได้ส่งกองพันหน่วยกล้าตายเข้ามา 5 กองพัน อยู่ในพม่า เพื่อกวาดล้างทหารรับจ้างของฝรั่ง ซึ่ง CIA หนุนหลังอยู่ ที่รบอยู่ในพม่า เชื่อหรือไม่เชื่อผม ไม่เป็นไร

ตั้งแต่ต้นปี 2565 เป็นต้นมา เกาหลีเหนือได้ทดสอบขีปนาวุธถี่ๆ เลย


ครั้งล่าสุดวันจันทร์ที่ 31 มกราคม เขาทดสอบอาวุธขีปนาวุธที่ชื่อ ฮวาซอง-12 เป็นขีปนาวุธพิสัยกลาง เป็นการทดสอบขีปนาวุธครั้งที่ 7 ในรอบเดือนมกราคมนี้ และเป็นการทดสอบขีปนาวุธครั้งแรกของประเทศโสมแดงที่ทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางที่ติดหัวรบนิวเคลียร์ ขีปนาวุธพิสัยกลาง มีพิสัยทำการไกลถึงเกาะกวม (อเมริก) ซึ่งอยู่ห่างจากเกาหลีเหนือไป 3,400 กิโลเมตร และที่สำคัญที่สุด เป็นฐานทัพของกองเรือที่ 7 ของอเมริกาด้วย

ประเด็นหลัก เมื่อเราเอาสิ่งต่างๆ เหล่านี้มาประมวลเข้าด้วยกันแล้ว ทุกอย่าง ผมมีความเห็นว่า เราไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับสงครามใดๆ ซึ่งกองทัพและประชาชนชาวไทยจะต้องป้องกันและหยุดยั้งไม่ให้เกิดสงครามขึ้นที่พม่า ไม่ว่าจะด้วยทางตรง หรือการสร้างสถานการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น เราไม่ควรจะเป็นทางผ่านให้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ CIA อเมริกา และทหารนอกเครื่องแบบ ที่ผมเชื่อว่ารองผู้อำนวยการ CIA มาบอกกล่าวให้ฟังว่าจะเริ่มปฏิบัติการแล้วนะ ช่วยอำนวยความสะดวกให้ด้วย กองกำลังต่อต้านรัฐบาลพม่านั้น จะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีอาวุธ อาวุธจะส่งไปจากทางไหนไม่ได้ นอกจากต้องผ่านชายแดนทางไทย แล้วกองกำลังทหารรับจ้างที่ส่งเข้าไปสู้กับทหารพม่านั้น จะไปได้อย่างไร ถ้าไม่ไปทางไทย

ด้วยเหตุนี้ถึงมีการเรียกร้องให้อเมริกาและไทยเปิดข้อมูลเรื่องการซ้อมรบคอบร้าโกลด์ ที่จะเกิดขึ้นปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ให้มีความโปร่งใส เพราะว่านัย ปรัชญาของการซ้อมรบคอบร้าโกลด์นั้น มันเริ่มมาตอนมีสงครามเย็น ท่านผู้ชมครับ วันนี้สงครามเย็นมันจบไปแล้ว แล้วยังซ้อมรบกันอยู่ เพราะฉะนั้นการเข้าร่วมซ้อมรบคอบร้าโกลด์นั้นมันหลีกเลี่้ยงไม่ได้ว่าเรากำลังประกาศตัวร่วมกับพันธมิตร เช่น อเมริกา และประเทศอื่นๆ ในการปิดล้อมจีน ท่านผู้ชม เราไปทะเลาะอะไรกับจีนล่ะ ทำไมต้องเอาจีนเป็นศัตรู เป็นการชักศึกเข้าบ้าน คนไทยตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว

อย่างที่ผมตั้งข้อสังเกตไปตั้งแต่ตอนเรื่อง หมายการเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเร่งด่วนผิดปกติของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้น น่าจะมีนัยทางใดทางหนึ่งเกี่ยวกับเกมการเมืองระดับโลก ที่เป็นที่น่าสงสัยว่ารัฐบาลไทยชุดนี้ได้ดำเนินการแอบตกลงอะไรกับอเมริกาไว้หรือเปล่า พอผมไปค้นข้อมูลเก่าๆ มีข้อมูลหนึ่งซึ่งน่าสนใจ อยากจะเล่าสู่กันฟังให้ท่านผู้ชมสังเกตนำไปขบคิด


ถ้าเราย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 สองปีกว่าที่แล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอเมริกาสมัยประธานาธิบดีทรัมป์ นายมาร์ก เอสเปอร์ ได้บินมาหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อลงนามในแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมว่าด้วยการเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศระหว่างอเมริกาและไทย ท่านผู้ชมครับ รายละเอียดในความร่วมมือนั้น ผมไม่อยากอ่านให้ฟังหรอก เพราะมันยาว แต่ผมอ่านโดยละเอียดแล้ว และผมมั่นใจว่าสิ่งที่ผมอ่านนั้นน่าจะเป็นความหมายดังต่อไปนี้

ผมเชื่อภาษาอังกฤษผมไม่เลวร้ายนัก น่าที่จะอ่านภาษาอังกฤษเข้าใจดีพอ มันเป็นภาษาทางการทูต แต่มันมีความระหว่างบรรทัดหลายประการ ที่คนที่อยู่ในวงการทูตอ่านแล้วจะเข้าใจ นั่นก็คือ หลักๆ อเมริกามาจับมืมอกับเมืองไทย ขอให้เป็นพันธมิตรร่วมกันปกป้องความมั่นคงของประเทศไทยและประเทศอเมริกา คำถามมีอย่างนี้ครับท่านผู้ชม ความมั่นคงของแต่ละประเทศนั้น มันมีความมั่นคงอยู่ 2 แบบ ความมั่นคงภายในประเทศ และความมั่นคงภายนอกประเทศ ภายในประเทศก็คือ ประชาชนต้องกินดีอยู่ดี ต้องไม่มีขบวนการล้มล้างรัฐบาล รัฐบาลต้องให้ความยุติธรรมกับประชาชน รัฐบาลต้องให้ความเป็นธรรมกับคนทุกคนในชาติพันธุ์ของตัวเอง ในการทำมาค้าขาย ในการมีการศึกษา ในการรักษาพยาบาล จิปาถะ และอื่นๆ นั่นคือความมั่นคงภายใน

ส่วนความมั่นคงภายนอก หมายความว่า เราต้องเตรียมพร้อมในการรบ หรือในการป้องกันตัวเองตลอดเวลา เตรียมพร้อมนะครับ ไม่ใช่ว่าเราไปรุกเขา ณ วันนี้ เมื่อเราดูความมั่นคงของไทยและความมั่นคงภายนอก จะเห็นว่าความมั่นคงภายในเราไม่ค่อยมั่นคงเท่าไร แต่ความมั่นคงภายนอก ก็มีจุดที่น่าห่วงอยู่จุดเดียว ก็คือว่า สงครามระหว่างชนกลุ่มน้อยในพม่า กับรัฐบาลพม่า แต่เมื่อมองลึกลงไป นั่นคือปัญหาของพม่า ไม่ใช่ปัญหาของเรา เราเพียงแต่ป้องกันของเราเอง อย่าให้เขารุกเข้ามาในพื้นที่เรา เมื่อเขายิงปืนข้ามมา เราก็ต้องเตือนเขา อย่าให้เกิดเหตุอีก ถ้าเตือนแล้วไม่ฟัง ยังยิงเข้ามาอีก 2-3 ลูก เราก็มีสิทธิที่จะยิงปืนข้ามไป แต่สรุปแล้วไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ปัญหาใหญ่คือ เราอย่าทะลึ่งไปใช้ดินแดนของเราเป็นเครื่องมือในการที่ให้ชาติอื่นส่งอาวุธยุทโธปกรณ์และกำลังทหารต่างชาตินอกเครื่องแบบ เอาไปช่วยฝ่ายกบฏพม่าที่กำลังรบกับทหารพม่า นั่นเราทะลึ่งแล้ว เราไปล้ำเส้นแล้ว


เหมือนสงครามในเวียดนาม หลายท่านอาจจะไม่ทัน แต่ผมทัน เราทะลึ่งให้ประเทศเราเป็นฐานทัพอากาศอเมริกาที่อู่ตะเภา ในการใช้เครื่องบิน B-52 ใช้ฐานทัพอู่ตะเภม บินเข้าไปหาเวียดนาม และไปถล่มเวียดนาม ด้วยอาวุธระเบิด ทำให้ประชาชนเขาตาย ฉิบหายหมด ครอบครัวเขาพังทลาย ลูกหลายเขาเสียหายหมด นี่คือข้อผิดพลาดของเราในสงครามเวียดนาม วันนี้เรายังไม่จำอีกหรือ นี่คือความมั่นคงของไทย เรามีอะไรทะเลาะกับเขมรหรือเปล่า ? เรามีอะไรทะเลาะกับลาวไหม ? เรามีอะไรทะเลาะกับมาเลเซียไหม ? เราไม่ได้ทะเลาะกับใครเลย เราไม่มีศัตรู เรามีอยู่อย่างเดียวคือ เพื่อนบ้านกำลังวุ่นวาย คือเมียนมา เราอย่าไปยุ่งกับเขา เราช่วยเขาในแง่มนุษยธรรม

ส่วนความมั่นคงของอเมริกาเป็นอย่างไร ? ความมั่นคงของอเมริกาก็คือความมั่นคงภายใน ตอนนี้ไม่มีเลย พรรคการเมือง 2 พรรค รีพับลิกัน เดโมแครต จะฆ่ากันตายอยู่ทุกวัน ยังมีอีกกลุ่ม พวกขวาจัด พวกเหยียดผิวที่เข้าข้างอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ต้องการจะล้มล้างโจ ไบเดน คนอเมริกาฆ่ากันเอง เด็กนักเรียนเอาปืนยิงนักเรียนด้วยกันในโรงเรียน ตายอาทิตย์เวันอาทิตย์ สภาพความเป็นอยู่คนอเมริกา คนไร้บ้านมีเยอะแยะไปหมด สภาพระบบสาธารณสุขอเมริกา ถ้าอยู่ในอเมริกา ถ้าไม่มีเงินซื้อประกัน ก็เท่ากับตายฟรี เพราะโรงพยาบาลไม่รับ เนื่องจากว่าเป็นประเทศที่พึ่งพาระบบทุนนิยมสุดโต่ง นั่นคือความมั่นคงในประเทศอเมริกา ซึ่งไม่มีความมั่นคงอยู่แล้ว

เรามาดูความมั่นคงนอกอเมริกาซิ ทำไมปัญหาถึงเกิดขึ้น ? เพราะอเมริกามองว่าโลกทั้งโลกเป็นของมัน ใครจะเข้ามาตะวันออกกลาง ก็กระทบความมั่นคงของมัน รัสเซียต้องการให้ยูเครนอยู่กับเขาด้วยสันติ เพียงอย่าไปเข้านาโต อเมริกาบอก ไม่ได้ ยูเครนต้องฟังเรา ประเทศโน้นก็ไม่ได้ ประเทศนี้ก็ไม่ได้ เพราะว่าอเมริการนั้นมองว่าโลกทั้งโลกเป็นของเขาหมด ก็เลยถามต่อว่า ณ วันนี้ ความมั่นคงของอเมริกาอยู่ที่จีนใช่ไหม ? you ต้องประจันหน้ากับจีน เพราะว่าในรายงานของสภากลาโหมของอเมริกา หรือในรายงานของ CIA ในเรื่องยุทธศาสตร์ 10-20 ปี ซึ่งร่างออกมาแล้ว


ได้มีการระบุชัดเจน ท่านผู้ชมครับ ระบุชัดเจนว่าประเทศจีนคือศัตรูอันดับหนึ่งของอเมริกา เพราะฉะนั้นแล้ว ความมั่นคงของอเมริกาก็คือจีน มีจีนเป็นศัตรู ท่านผู้ชม แล้วประเทศไทยใครเป็นศัตรูกันแน่ ? ถ้าเราไปร่วมกับอเมริกา อเมริกาบอกว่าเราเซ็นสนธิสัญญาแล้ว ตอนนี้ความมั่นคงของอเมริกากำลังถูกสั่นคลอนโดยจีน เพราะฉะนั้นมาร่วมกับเราในการต่อต้านจีนในเอเชียแปซิฟิก ฉิบหายล่ะสิท่านผู้ชม เห็นหรือยัง เข้าใจตรรกะตรงนี้ไหม

ผมไม่รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ เข้าใจตรงนี้หรือเปล่า คุณดอน คุณเข้าใจหรือเปล่า จริๆ คุณเข้าใจ แต่คุณหลับหูหลับตาข้างหนึ่ง เพราะคุณเป็นทาสอเมริกามานานแล้ว พอมามองสนธิสัญญาตัวนี้ พอมามองคอบร้าโกลด์ พอมามองปัญหาในยูเครน-รัสเซีย แล้วพอมามองการซ้อมรบในเอเชียแปซิฟิก มองปัญหาพม่า อ้าว ตายล่ะ ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง มันเป็นคนละเรื่องเดียวกัน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงต้องการอธิบายป่าทั้งป่าให้ท่านผู้ชมฟัง ประเทศไทยเป็นแค่ต้นไม้ต้นเดียวเท่านั้นเอง อย่ามองแต่ต้นไม้ต้นเดียว มองป่าทั้งป่าจะเห็นได้ชัดว่าอเมริกากำลังกะเกณฑ์พวกเราไปเป็นลูกจ๊อกของมัน ก็หมายความว่า ถ้ามันจะต้องต้านกับจีน เราต้องร่วมต้านด้วย การซ้อมคอบร้าโกลด์ก็เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์

ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมไม่คิดว่าจีนเขารู้สึกบ้างหรือ วันนี้เขาเงียบ เขาไม่พูดอะไรทั้งสิ้น คุณมีปัญหาทำอะไร ทำไป แล้วท่านผู้ชมรู้ไหมตั้งแต่เซ็นสัญญาปี 2562 (2562-2565) รถไฟความเร็วสูง หยุด ไม่ขยาย ปฏิญญาซันย่าในการเดินเรือในลุ่มแม่น้ำโขง ไทยถอนตัว อะไรที่เกี่ยวกับจีน ไทยไม่ยุ่งเลย แม้กระทั่งพิธีเปิดโอลิมปิก


ท่านผู้ชมครับ พิธีโอลิมปิกฤดูหนาว ที่ประเทศจีน กรุงปักกิ่ง อเมริกามันบอยคอตประเทศจีน ยุยงส่งเสริมให้พรรคพวกของเขา ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นประเทศใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย ไม่ให้ส่งผู้นำไป ไทยเราไปเอง โดยส่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ไป ท่านผู้ชมครับ ผมอับอายขายหน้าแทนประเทศไทยมาก ทำไมเราถึงเป็นประเทศที่ไม่เคยลืมบุญคุณของคนเลยนะ เราเคยช่วยจีน สมัยที่จีนกำลังลำบาก สมัยราชวงศ์ชิง นานมาแล้ว ในการเยือนจีนของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช และตลอดจนการเยือนจีนในช่วงที่ยังไม่มีความสัมพันธ์กัน ผู้นำจีนเปิดโอกาสให้คนไทยเข้าไปพูดคุยด้วย เขายังเท้าความถึงอดีตที่จีนลำบากและประเทศไทยเคยช่วยเขา เขาไม่เคยลืม เขายังพูดถึง ตอนที่ไทยลำบาก เขาไม่รีรอที่จะมาช่วยไทย ท่านผู้ชมที่เป็นคนรุ่นหลังอาจจะไม่ทันเรื่องนี้ แต่ผมเล่าให้ฟังก็ได้

หลังจากที่ไทยตั้งให้อู่ตะเภาเป็นฐานทัพอากาศให้อเมริกาไปถล่มเวียดนาม และพอในที่สุดอเมริกาก็ถูกเวียดนาม เวียดนามเหนือ เวียดกง ชาวเวียดนามขับไล่ออกจากเวียดนาม เหมือนกับหมาจรจัดที่ไม่มีเจ้าของ หาเจ้าของไม่เจอ วิ่งหางหลุบตูดแล้วก็ร้องเอ๋งๆ หนีไปเลย กลับไปที่อเมริกา


เวียดนามตอนนั้นต้องการที่จะล้างตาในเรื่องของสิ่งที่ไทยทำกับเวียดนาม เวียดนามส่งกำลังพลมา 3 แสนคน มาทางกัมพูชา เพราะเวียดนาม กับกัมพูชา ติดกัน พร้อมกับกองพันรถถังอีกเป็นแถวที่ยึดจากอเมริกามา ท่านผู้ชมครับ เวียดนามวันนั้นพร้อมจะบุกไทยนะ ประชิดพรมแดนไทยแล้ว ปรากฏว่าผู้หลักผู้ใหญ่ไทย คนที่ร่วมขบวนการไป คือ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ตอนนั้น ไปพบเติ้ง เสี่ยวผิง โดยด่วน ขอความช่วยเหลือ เพราะไทยไม่มีกำลังที่จะยันกับแสนยานุภาพของเวียดนามในตอนนั้น


เติ้ง เสี่ยวผิง ประกาศสงครามกับเวียดนาม จากการที่เคยปะทะกันที่พรมแดนเวียดนาม-จีน ที่มณฑลกว่างสี เติ้ง เสี่ยวผิง ยิงปืนใหญ่จากมณฑลกว่างสี ถล่มเวียดนาม ซึ่งอยู่ติดกับมณฑลกว่างสี พร้อมกับเตรียมกำลังของกองทัพจีนที่จะเข้าไปยึดพรมแดนต่างๆ เพื่อสร้างสงครามที่พรมแดนนั้น ท่านผู้ชมครับ ทหารเวียดนาม 3 แสนคน กองกำลังเวียดนาม ถอยออกจากย่านกัมพูชา กลับเข้าไปเวียดนามเพื่อไปยันกองทัพจีน ยุคนั้น สงครามนั้น เขาเรียกว่า สงครามสั่งสอน แต่เบื้องหลังสงครามสั่งสอนก็คือ ตีเว่ย เพื่อล้อมเจ้า เพื่อช่วยเจ้า ตีเมืองเว่ย เพื่อให้กองทัพที่กำลังล้อมเจ้าอยู่ ถอยกลับไปปกป้องเมืองตัวเอง แล้วรัฐเจ้าก็จะหลุดพ้น


ท่านผู้ชมครับ นี่คือจีนกับเรา เราลืมความหลังนี้นานแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ท่านจำไม่ได้หรอก เพราะท่านยังไม่ได้เป็นทหาร หรือท่านเป็นทหารชั้นผู้ต่ำมาก ท่านไม่เคยรู้ประวัติศาสตร์ ท่านไม่เคยจดจำบุญคุณใคร ติ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จะด่าผม ก็เชิญด่า แต่มันเป็นความจริง ตอนไทยกำลังลำบาก ตอน พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจมา รัฐประหาร ทั่วโลกก่นด่า พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช. พล.อ.ประยุทธ์ ท่านตักน้ำใส่ขันมาล้างหน้า ท่านพูดต่อหน้ากระจก ว่าประเทศไหนที่รับรองท่านประเทศแรก ถ้าไม่ใช่จีน ในขณะที่ฝรั่งมังค่า อเมริกาที่มาเซ็นสัญญาแล้วยืนถ่ายรูปกัน เท่ฉิบหายเลย ด่าท่านเป็นหมูเป็นหมา แต่จีนรับรองท่านก่อน

ไทยต้องการขายข้าวเน่าออกไป 1-2 ล้านตัน จีนรับซื้อให้ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันเป็นข้าวเน่า ไทยต้องการขายยาง จีนซื้อให้ เพราะไทยกำลังลำบาก ไทยเผชิญโควิดที่บุกมาหนัก 2 ปีที่แล้ว คุณประยุทธ์ ครับ ใครส่งวัคซีนเข้ามาประเทศแรก ให้ฟรีและให้เต็มที่ ถ้าไม่ใช่จีนส่งซิโนแวคมา แล้วตอนหลังก็ไปด้อยค่าเขา ผมไม่ยักรู้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่อกตัญญูถึงขนาดนั้น ผมลูกเจ๊ก พ่อแม่ผมสอนตลอดเวลาว่าความกตัญญูรู้คุณคนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด อย่าไปลืม ยามที่เรากระหายหิวน้ำ คนที่เอาแก้วน้ำมาให้เรา ยามที่เราอยู่ท่ามกลางความหนาวเหน็บ คนที่เอาฟืนไฟ ก่อไฟให้เรา อย่าไปลืมเป็นอันขาด นี่เราลืมไปแล้วเหรอ แล้วรัฐบาลไทยพลาด ในภาวะที่จีนต้องการกำลังใจ ต้องการเพื่อน เพราะอเมริกาบอยคอต คุณประยุทธ์ ต้องบินไปที่ปักกิ่ง ไปแสดงตัวว่าผมเป็นกลาง แต่ผมสนับสนุนคุณ การบินไปปักกิ่้ง ถ้าคุณประยุทธ์ไป หนึ่ง จะทำให้ สี จิ้นผิง เขาดีใจมาก สอง จะเป็นการแสดงออกให้อเมริการู้ว่ากูไม่ได้เข้าข้างมึนะ กูก็คบจีนเหมือนกัน นี่มีแค่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ไป แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ หรืออย่างเลวที่สุด เนื่องจากตัวเองยังยุ่งเรื่องการเมือง ก็แต่งตั้ง อาจจะตั้งอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ พล.อ.ประวิตร ไม่ต้องไป เพราะกำลังทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องการเมือง ก็ส่งอนุทิน ไป ตั้งทีมไป มาให้กำลังใจประเทศจีน


ท่านผู้ชมครับ ผมพูดจากความจริง ประเทศไทยยังดีที่มีสถาบันกษัตริย์ พระเทพฯ พระองค์ท่านเป็นตัวแทน ไม่ใช่ตัวแทนประเทศไทย ตัวแทนสถาบันกษัตริย์ไทยไป เพราะตัวแทนประเทศไทยคือ พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าไม่มีพระเทพฯ แล้ว สายสัมพันธ์นี้มันขาดไปนานแล้ว วันนี้จีนเขาเกรงใจราชวงศ์ไทย สถาบันกษัตริย์ไทย อย่าได้ลืมตัว ผมพูดมานานแล้ว บางคนที่ไม่เคยดูรายการผมมา ไม่เคยรู้เรื่อง วันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ในสมัยที่ยังเป็นพระบรมโอรสาธิราช ทรงผนวช มีผู้นำต่างชาติเพียงคนเดียวที่มาในพิธี แล้วได้รับเชิญจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ผู้นำคนนั้นคือ เติ้่ง เสี่ยวผิง


เติ้ง เสี่ยวผิง นั่งสนทนากับพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 อยู่ถึง 2-3 วัน เป็นผู้นำต่างชาติเพียงคนเดียว แล้วหลังจากนั้นไป พระเทพฯ ก็เริ่มเสด็จฯ ไปเรียนหนังสือที่จีน รัชกาลที่ 9 พระองค์ท่านทรงมีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกล คุณประยุทธ์ คุณฟังผมพูดบ้างหรือเปล่า คุณทบทวนประวัติศาสตร์พวกนี้บ้าง ไหนคุณบอกว่าคุณจงรักภักดีมากไง ทำไมคุณไม่ดำเนินตามรอยพระบาทของกษัตริย์ที่ทำดีอยู่แล้ว

ท่านผู้ชมครับ นี่คือความจริงที่ผมพูดด้วยความขมขื่น ผมไม่พูดไม่ได้ หลายท่านไม่รู้เรื่องนี้ ก็รู้เสียบ้าง หลายท่านที่ด่าผม บอกว่าผมอวยจีน ไม่ชอบอเมริกา ผมถามสั้นๆ ระหว่างจีนกับอเมริกา ผมเลือกใคร ? ผมถามท่านคำเดียว ถ้าผมนั่งเครื่องบินไปกว่างโจว ใช้เวลาบินนานแค่ไหน ชั่วโมงครึ่ง แต่ถ้าผมนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลอสแองเจลิส กี่ชั่วโมง ? 20 ชั่วโมง ระหว่างคนที่ห่างกับผมชั่วโมงครึ่ง กับคนที่ห่างกับผม 20 ชั่วโมง ผมควรจะคบใคร แล้วคนที่เคยช่วยผมมาตลอด ทำสงครามสั่งสอนเวียดนาม เพื่อไม่ให้กองทัพเวียดนามเข้ามายึดอีสานไทย ซื้อข้าวเน่าๆ ซื้อยาง รับรองประเทศไทยตอนที่ยึดอำนาจ เชิดชู ให้เกียรติราชวงศ์ไทยเมื่อไปที่ประเทศจีน ราชนิกูลที่เคยไปอเมริกา ได้เคยเจอประธานาธิบดีของอเมริกาบ้างไหม ไม่มี มันไม่สนใจหรอก แต่ราชวงศ์ไทยไปเมืองจีน จะได้รับการเข้าพบประธานาธิบดี หรืออย่างน้อยที่สุดก็นายกรัฐมนตรี เห็นหรือยังท่านผู้ชม

ผมเบื่อและรำคาญมาก คนที่บอกว่าผมอวยจีน แล้วก็ด่าอเมริกา วันหลังผมจะเอาสองประเทศนี้มาเปรียบเทียบให้ดู แล้วจะเป็นบทสรุปว่าพวกคุณตาสั้น หรือตาบอดหรือเปล่า ที่คุณยังคิดว่าอเมริกาดี

สำหรับเรื่องวันนี้ คงเห็นภาพรวมของประเทศไทย ภาพรวมของโลก ป่าทั้งป่ามันเกี่ยวโยงกันอย่างไร

ท่านผู้ชมครับ วันนี้อาจจะเสียงแหบไปหน่อย เพราะพุธ กับพฤหัสฯ ผมไปขึ้นศาลมา ใช้เวลาสืบพยาน ซักตัวผมถึงสองวันซ้อน ตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น ก็เลยใช้เสียงไปมาก แต่ไม่เป็นไรครับ วันนี้ผมจะพูดเรื่องสุดท้าย อาทิตย์ที่แล้วท่านผู้ชมจำได้ไหมผมพูดเรื่องการพ่ายแพ้ของพรรคพลังประชารัฐ ที่เขตหลักสี่ โดยผมออกรายการ SONDHI EXPRESS พอออกไปแล้ว และมีการวิเคราะห์การพ่ายแพ้เสร็จ ปรากฏว่าก็มีทีมงามของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับทีมงานของธรรมนัส พรหมเผ่า และฝั่ง IO ของทางลุงตู่ ก็ออกมาใส่เป็นชุดเลย แล้วก็โยนขี้ให้กับฝั่งลุงป้อม ธรรมนัส ทั้งๆ ที่ฝั่งตรงข้ามนั้นถูกไล่ออกจากพรรคไปแล้ว


IO กับองครักษ์พิทักษ์ลุงตู่ ออกมาโทษโน่นโทษนี่ หลอกตัวเองต่อไปว่า ความนิยมของรัฐบาล ความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรับมนตรี ไม่ได้ตก แต่เป็นเพราะการบ่อนทำลายและภาพลักษณ์ที่ย่ำแย่ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรค ก็คือใช้มุกเดิมๆ อย่างที่ผมเคยเล่าอุปมาอุปไมยให้ฟังไปแล้ว ว่าฝ่ายลุงตู่นั้น เหมือนคนนั่งอยู่บนเสลี่ยง ทำเป็นตีนไม่ติดดิน ไม่ยุ่งกับการเมือง จิกหัวใช้งานคนทำงานในพรรคพลังประชารัฐ ให้เป็นคนแบกเสลี่ยง พอคนแบก แบกแล้วเจอหลุมเจอบ่อ ตกน้ำครำ เสลี่ยงกระเด้งกระดอน

ท่านผู้ชมครับ ทำไมต้องเอาเรื่องนี้มาพูด ไม่ต้องเถียงกันต่อไปแล้ว การเลือกตั้งเขต 9 หลักสี่-จตุจักร วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม ที่พรรคพลังประชารัฐแพ้เลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทยแบบขาดลอย เพราะอะไร ?


ท่านผู้ชมจำได้หรือเปล่า ผมเคยเล่าให้ฟังว่า ถ้าท่านผู้ชมจะดูโพลแล้ว ให้ดูนิด้าโพล เพราะเป็นโพลเดียวที่น่าไว้ใจที่สุด และแม่นยำที่สุด ผมเชื่อนิด้าโพล โพลอื่นเป็นโพลรับจ้างส่วนใหญ่ มีเงิน จ่ายเงิน ก็จะทำให้โพลเป็นไปตามที่ตัวเองต้องการ

นิด้าโพลเผยผลสำรวจสาเหตุที่พรรคเพื่อไทย ชนะพรรคพลังประชารัฐ อย่างขาดลอย เขาสำรวจเมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา ปรากฏอย่างนี้ครับ

ข้อที่หนึ่ง ฐานคะแนนเดิมในพื้นที่ของพรรคเพื่อไทยดีกว่าพรรคพลังประชารัฐ ถึง 30.21 เปอร์เซ็นต์

ข้อที่สอง เป็นการส่งสัญญาณว่าประชาชนไม่พอใจการทำงานของรัฐบาล 30.14 เปอร์เซ็นต์

ข้อที่สาม ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยได้รับความนิยมในพื้นที่มากกว่าผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ 25.45 เปอร์เซ็นต์

ข้อที่สี่ เป็นการส่งสัญญาณว่าประชาชนไม่พอใจการรทำงานของพรรคพลังประชารัฐ 24.70 เปอร์เซ็นต์

ข้อที่ห้า เป็นการส่งสัญญาณว่าประชาชนไม่พอใจการทำงานของอดีต ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ (สิระ เจนจาคะ) 15.03 เปอร์เซ็นต์

ข้อที่หก เป็นการส่งสัญญาว่าประชาชนไม่พอใจการทำงานของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ฯ 14.05 เปอร์เซ็นต์


ท่านผู้ชมครับ เมื่อผลนิด้าโพลออกมาอย่างนี้ ไม่ต้องเถียงกันแล้ว ต้องยอมรับความจริงได้แล้วว่า ความนิยมของรัฐบาลและตัวนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ตกต่ำลงจริงๆ ตกต่ำลงเรื่อยๆ จากปัญหาการทำงาน ความน่าเชื่อถือ และการแก่งแย่งชิงดีทางการเมือง และเรื่องนี้จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง ในปี 2565 อย่างแน่นอน ท่านผู้ชมครับ การเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงนั้น จะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ท่านผู้ชมครับ ผมอยากจะให้ท่านผู้ชมจับตาดู ผมได้เอาโพสต์รายการ "คนเคาะข่าว" ของคุณนพรัฐ พรวนสุข ที่คุยกับคุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นักร้องระดับชาติ สำหรับผมแล้ว เป็นนักร้องอันดับ 1 ของประเทศไทย ที่นักร้องคนอื่นเทียบบารมีไม่ได้เลย ลองฟังดูครับ เรื่องนี้ ผมจะไม่เล่าให้ฟัง ให้ท่านผู้ชมเปิดฟังดู ประมาณครึ่งชั่วโมง จะได้ความรู้ และจะได้รับทราบการวิเคราะห์ทางการเมืองของคุณเรืองไกร ซึ่งผมฟังแล้วมีเหตุมีผล และใช้ได้เลยทีเดียว ถึงขั้นเป็นซินแสได้ในทางการเมือง เพราะคุณเรืองไกร ไม่ได้วิเคราะห์แบบมโน แต่วิเคราะห์บนพื้นฐานความเป็นจริง


ท่านผู้ชมครับ วันนี้รายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ก็จบลงเพียงแค่นี้นะครับ อาทิตย์หน้าก็อย่างที่บอกครับ ไม่รู้จะพูดเรื่องอะไร แต่มีเรื่องที่สำรองเอาไว้หลายเรื่องแล้ว ค่อนข้างน่าสนใจมาก เอาไว้ค่อยแจ้งให้ทราบในวันที่ผมจะออกรายการก็แล้วกัน แต่ว่าก็อย่าพลาดนะครับ ท่านผู้ชมอย่าลืมว่า เรื่องราวๆ ที่พูด ถ้าท่านชอบเรื่องไหน แชร์ออกไปมากๆ แชร์ออกไปตลอดเวลา แล้วก็บอกคนที่ได้รับการแชร์ ให้กด Follow ด้วย ขอบคุณมาก สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น