xs
xsm
sm
md
lg

[คำต่อคำ] SONDHI TALK : :ส่งท้ายปี 64 มองอนาคตปี 65

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



วันที่ 31 ธ.ค.64 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิ และช่องยูทูป Sondhitalk โดยประเด็นที่ได้เล่าในวันนี้ เป็นการส่งท้ายปีเก่า 2564 ต้อนรับปีใหม่ 2565  สรุปภาพรวมเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองในปี 2564 และมองถึงอนาคตปี 2565 พร้อมส่งสารแบบจัดหนักรวบยอดให้พวกที่เข้ามาป่วน และแถมท้ายด้วยของฝากเกี่ยวกับการดูแลวสุขภาพ สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายในยุคที่คนไทยจะต้องอยู่กับเชื้อโควิด-19 ไปอีกหลายปี   ติดตามได้ใน SONDHI TALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep.118



คำต่อคำ SONDHI TALK [31 ธ.ค. 64] : ส่งท้ายปี 64 มองอนาคตปี 65

ช่องทางการรับชมรับฟัง "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ SONDHI TALK
เฟซบุ๊กแฟนเพจ : คุยทุกเรื่องกับสนธิ
YouTube : Sondhitalk
เว็บไซต์ : www.sondhitalk.com
Podcast หรือ podbean : SONDHI TALK

สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม วันสุดท้ายของปีนี้ เผอิญเป็นวันศุกร์ที่ต้องออกรายการ ก็ขอถือโอกาสส่งท้ายปีเก่า และต้อนรับปีใหม่ วันพรุ่งนี้เป็นวันที่ 1 มกราคม หลายๆ ท่านก็คงเตรียมตัวที่จะไปทำบุญตักบาตรกัน

31 ธันวาคมนี้ จริงๆ หลายคนบอกว่าผมน่าจะหยุด แต่ผมคงไม่หยุด เพราะผมไม่อยากจะทำลายสถิติของการที่มีรายการออกทุกวันศุกร์ เป็นเวลาสองปีกว่าแล้ว

ก็เอาเป็นว่าผมจะพูดถึงปี 2564 สักนิดหนึ่ง ไม่ต้องมาก สำหรับผมแล้ว และทีมงานของผมที่นี่ ตลอดจนพรรคพวกต่างๆ ที่ใกล้ชิดสนิทสนมกัน บอกว่าปีที่ผ่านมานี้ปรากฏการณ์ที่เราทำมา ก็คือปรากฏการณ์ของฟ้าทะลายโจร หรือที่ผมตั้งชื่อย่อว่า ฟทจ. ท่านผู้ชมครับ ก่อนอื่นขอกราบขอบพระคุณท่านผู้ชมทุกท่านที่ได้มีส่วนร่วมในการบริจาคเงินเข้ามาเพื่อที่จะให้เราจัดซื้อฟ้าทะลายโจร มีเงินเข้ามาก็ประมาณ 60 กว่าล้านบาท เราแจกฟ้าทะลายโจรไปแล้วประมาณ ถ้าคิดเป็นจำนวนเม็ดก็ 50 ล้านเม็ด ทั่วประเทศไทย ไม่มีเว้น ทุกภูมิภาค เหนือ ใต้ ออก ตก ออกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้ และในที่สุด เหนือสุดแม่สาย เชียงราย มีหมดที่เราแจกฟ้าทะลายโจรไป


ฟทจ. ที่พวกเราร่วมทำบุญกันนี้ เป็นกิจกรรมที่เหนื่อย ที่เหนื่อยเพราะอะไรรู้ไหม ? เพราะเราถูกขัดขวางจากบรรดาหมอทั้งหลายที่เชื่อในยาฝรั่ง แม้กระทั่งคนในกระทรวงสาธารณสุข อย่างเช่น อธิบดีกรมการแพทย์ หรือหลายๆ คน ก็ต่อต้านฟ้าทะลายโจร ถึงกับมีคำสั่งลงในระเบียบว่าถ้าใครติดเชื้อโรคระบาดแล้ว เมื่อเข้าโรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งโรงพยาบาลสนาม ให้ทานแต่ยากาฝาก หรือยาอัปยศ ยาโกหก ก็คือฟาวิพิราเวียร์ ที่จนบัดนี้บรรดาหมอที่ยังเชื่อในเรื่องฟาวิพิราเวียร์ ผมก็ไม่รู้ว่าผิวหนังตรงหน้าเขาทำด้วยอะไร ทำไมถึงหน้าด้านบัดซบอย่างนี้ก็ไม่รู้

ฟทจ. ฟ้าทะลายโจร 50 ล้านเม็ดนั้น ออกไปสู่ประชาชนทั่วไปด้วยการบริจาคเงินของท่านผู้ชม ตลอดจนหลายๆ องค์กรที่เป็นองค์กรเอกชนที่เห็นคุณงามความดีที่เราทำ ไม่ว่าจะเป็นไทยเบฟฯ ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายซีพี ไม่ว่าจะเป็นกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี หรือไม่ว่าจะเป็นหลายๆ แห่งที่เขาร่วมสนับสนุนทำบุญกัน เมืองไทยประกันภัย หลายเจ้า รวมทั้งส่วนบุคคลที่บริจาคเงินเป็นหลักล้าน แต่ท่านผู้ชมที่บริจาคมา 100 บาท 500 บาท พวกเราได้บุญร่วมกันหมด


ฟ้าทะลายโจรที่แจกออกไปในปี 2564 นั้น ช่วยชีวิตคนไปอย่างมากมายมหาศาล เป็นบุญกุศลที่สูงมาก ถึงแม้ว่ากระทรวงสาธารณสุขหรือว่าหมอทันสมัยไม่ยอมรับ แต่ผมรู้จากประสบการณ์และจากการที่คนติดต่อเข้ามา ท่านผู้ชมครับ สิ่งที่ไฟเซอร์กำลังคิดขึ้นมาที่จะมารักษาเหมือนฟ้าทะลายโจร คุณสมบัติเหมือนกันเป๊ะ เพราะฉะนั้นแล้ว ปรากฏการณ์ที่ผมมองว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก สำหรับผมแล้ว คือการช่วยชีวิตคน ปีที่แล้ว ก็เหมือนกับพี่ตูน ที่วิ่งระดมเงินเพื่อมาช่วยคน ช่วยโรงพยาบาล ในขณะเดียวกัน ฝ่ายตรงกันข้ามก็จะบอกว่าวิ่งทำไม เป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาฯ ต้องช่วยอยู่แล้ว ผมได้พูดเรื่องนี้ไปแล้วเมื่อวันที่ 24 หลักๆ แล้วเราไม่นั่งงอมืองอเท้า เราใช้หลักธรรม "อัตตาหิ อัตโนนาโถ" เพื่อที่จะช่วยตัวเองก่อน แล้วผมก็เผอิญเป็นหัวหอกขึ้นมาที่จะพาท่านผู้ชมทุกท่านเข้ามาร่วมทำบุญและช่วยทุกๆ คน ไม่มีอะไรผิดหรอกครับ เพราะว่าชีวิตคนไทย หรือชีวิตประชาชนหลายประเทศ ถ้ามัวแต่พึ่งให้รัฐเข้ามาช่วยนั้น ไม่มีประโยชน์ ช่วยไม่ทันหรอก อย่างไรก็ตาม เราต้องช่วยตัวเอง ถึงจะมีรัฐบาลที่ดีมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ไม่มีวันที่จะได้ดูแลประชาชน 70 ล้านคน แล้วในการดูแลหรือในการช่วยคนนั้น มันมีอุปสรรคเยอะมาก ความคิดแบบโง่ๆ ความคิดแบบเดิมๆ อย่างกรณีของคนที่เป็นโรคระบาดนั้น ความคิดของหมอที่ติดกับแพทย์แผนปัจจุบัน แล้วเชื่อยาฝรั่ง เชื่อโน่นเชื่อนี่ แล้วดูถูกเหยียดหยามสมุนไพรไทย เพราะฉะนั้นผมถือว่าปรากฏการณ์ของฟ้าทะลายโจรในปี 2564 ที่พวกเราได้ร่วมกันทำนี้ เป็นปรากฏการณ์ที่สุดยอด นอกจากช่วยชีวิตคนแล้ว ยังเป็นการก้าวข้ามความเชื่อของหลายๆ ฝ่ายที่บอกว่าสมุนไพรไทยไม่มีประโยชน์


เสียดายอยู่อย่างเดียวเท่านั้นเอง ที่สภาพัฒน์ไม่ยอมอนุมัติงบวิจัยยาสมุนไพรไทย ซึ่งผมพูดไปแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นี่คือความบัดซบของระบบราชการเมืองไทย

เรื่องที่สองที่จะพูดก็คือว่า อย่างน้อยที่สุด สิ้นปี คือวันนี้ ประเทศไทยก็ได้ฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 100 ล้านโดส ก็เป็นเรื่องที่ขอแสดงความยินดีด้วย แต่ดูเหมือนจะไม่สิ้นสุดเพียงแค่นี้ โอมิครอน กำลังระบาดทั่วโลกอย่างหนัก ถึงแม้ว่าความรุนแรงยังไม่รุนแรงเท่ากับโควิด-19 แต่ว่ามันกำลังจะทำให้ระบบสาธารณสุขของทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย หรืออังกฤษ หรือเยอรมนี หรืออเมริกา ต้องล่มสลายและพังทลายลงไป

ท่านผู้ชมครับ ในที่สุดแล้วมันย้อนกลับมาถึง ฟทจ. ฟ้าทะลายโจร ผมมีความเชื่อว่าถ้ามีการวิจัยออกมาจริงๆ แล้ว เราจะเห็นคุณสมบัติที่มหัศจรรย์ของฟ้าทะลายโจรที่เราเองยังคาดไม่ถึง อาจจะเป็นเพราะว่าบริษัทยาฝรั่งมีอิทธิพลมาก ก็เลยต้องการปิดกั้นข้อมูลทุกอย่าง หรือโอกาสที่จะเอาความจริงมาเปิดเผยให้รู้ว่าสมุนไพรไทยนั้นสามารถจะรักษาโรคระบาดได้ และที่สำคัญที่สุด สามารถป้องกันโรคระบาดได้เช่นกัน


ผมยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ มีประเทศๆ หนึ่งในแถบแอฟริกา ที่เรียกว่า "มาดากัสการ์" มาดากัสการ์นั้นปฏิเสธที่จะใช้ยาฝรั่งเด็ดขาด เขาใช้สมุนไพรในท้องถิ่น ถูกบอยคอตโดยองค์การอนามัยโลก ซึ่งองค์การอนามัยโลกนั้น ขาหนึ่งก็คือคนที่รับใช้บริษัทยาฝรั่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ของการฉีดวัคซีน ปรากฏว่าตัดหางปล่อยวัดมาดากัสการ์ เพราะว่าใช้สมุนไพรในประเทศตัวเอง รักษาคนของตัวเอง จนกระทั่งหายหมด ไม่มีคนติด หรือติดน้อยมาก แทบจะไม่มีความจำเป็นต้องพูดถึง

ท่านผู้ชมครับ เมื่อเราพูดถึงวัคซีนแล้ว วันนี้พิสูจน์ชัดเจนแล้ว ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรอีก ถ้าท่านผู้ชมจำได้ ผมพูดมาตลอดปี 2564 ว่า วัคซีนก็ดี เพราะสามารถระงับความรุนแรงของโรค ถ้าติดขึ้นมาแล้ว ไม่ให้รุนแรงกว่าเดิม ทำให้ปริมาณหรือเปอร์เซ็นต์ของความรุนแรงนั้นลดต่ำลงมา ก็คือการตายน้อยลง นี่ก็เป็นคุณูปการของวัคซีน

แต่อันหนึ่งที่ไม่มีใครกล้าออกมาฟันธง แล้วบริษัทวัคซีนทั้งหลายก็เต้นชะชะช่า โยกซ้ายที โยกขวาที ก็คือว่า ฉีดแล้วไม่สามารถจะป้องกันได้ แต่ลดความรุนแรงได้ ไม่มีใครกล้าพูดฟันธงอย่างนี้ออกมาเลย ไม่ว่าจะเป็นนายแพทย์ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ประเภทนายแพทย์ที่หิวแสงแล้วออกมาพูด ว่าฉีดสองเข็มบ้าง สามเข็มบ้าง บูสเตอร์บ้าง บางทีมีถึงสี่เข็ม พิสูจน์มาชัดเจนแล้วว่าไม่สามารถจะป้องกันได้ เมื่อไม่สามารถจะป้องกันได้แล้ว ในที่สุดเราก็เจอโอมิครอน กำลังพูดกันถึงเข็มที่สี่แล้ว ไม่ใช่เข็มที่สามแล้วนะ


สรุปแล้วท่านผู้ชมจะไปไหนก็ตาม ฟ้าทะลายโจร ติดตัวไปเสมอ ผมไปงานที่จำเป็นต้องมีคนจำนวนมาก เหมือนอย่างที่ผมไปงานกฐินที่วัดป่าบ้านตาด ไปงานกฐินที่วัดป่าวังศิลา หรือไปงานศพของคุณอ๊อด คีรีบูน คุณรณชัย ถมยาปริวัฒน์ ทันทีที่กลับถึงบ้าน ผมเอาฟ้าทะลายโจร เผอิญผมใช้ของอาจารย์ปานเทพ ฟ้าทะลายโจร ผมก็ทานทันทีเลย 4 เม็ด ซึ่งหลายคนบอกว่า ยาอาจารย์ปานเทพดี ทาน 2 เม็ดก็พอ ผมไม่สนหรอก สูตรของผมคือ 4 เม็ด จะยาของใครก็ตาม 4 เม็ดต่อ 1 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน และทานติดต่อกัน 5 วัน

วันงานศพคุณอ๊อด คีรีบูน ก็คือวันอาทิตย์ที่ 19 ผมทานไป 19-23 ห้าวัน ครบ ผมสบายใจ เพราะฉะนั้นแล้ว อย่าทิ้ง เป็นยาสมุนไพรไทยภูมิปัญญาคนโบราณ แต่ดีที่สุด ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าคืออะไร ? การป้องกันตัวเอง จะฉีดหรือไม่ฉีดวัคซีน ก็ต้องป้องกันตัวเอง ฉีดวัคซีน ถึงฉีดเข็มที่สี่แล้วก็ต้องป้องกันตัวเองเอาไว้ เพราะว่าเรายังต้องมีชีวิตอยู่กับโรคบ้านี้อีกสักพักหนึ่ง ผมว่าต้องมีอย่างน้อย 3-4 ปี อาจจะไม่รุนแรงเหมือนปีแรก ปีที่สอง จะน้อยลง แต่ก็ต้องอยู่กับมัน ทีนี้ การป้องกันตัวเองมันอยู่ที่ไหน ? มันก็คือเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกันของตัวเอง เราจะสร้างมันได้อย่างไร เดี๋ยวตอนท้ายของรายการผมจะเล่าให้ท่านผู้ชมฟัง มีท่านผู้ชมถามผมมามากเลย คุณสนธิ อายุ 75 แล้ว ทำไมหน้าตาดูสดใส ทำไมดูแข็งแรง ผมเคยไปฉีดวัคซีน ผมฉีดวัคซีนนะ ผมฉีดซิโนฟาร์ม ก่อนฉีดซิโนฟาร์มผมไปวัดภูมิคุ้มกันของผม ปรากฏว่าภูมิคุ้มกันของผมสูงมาก ยังไม่ได้ฉีดนะ ผมรู้อยู่แล้วว่าภูมิคุ้มกันของผมสูง ผมใช้ชีวิตและทานอะไรบ้าง ทุกๆ วัน ผมถึงมีภูมิคุ้มกันที่สูงแบบนี้

ท่านผู้ชมรู้ไหมผมไม่ได้เป็นหวัดประเภทฟึดฟัดๆ เจ็บคอ แล้วไข้ขึ้น ผมไม่ได้เป็นหวัดมาร่วมสิบปีแล้ว หวัดกับผมไม่รู้จักกันเลยท่านผู้ชม ไม่รู้จักกันจริงๆ ผมทานอะไร ผมดูแลตัวเองอย่างไร เดี๋ยวตอนท้ายรายการจะเล่าให้ฟัง

ท่านผู้ชมครับ ที่สำคัญที่สุด ท่านผู้ชมต้องหลีกเลี่ยงชุมชน ผมนี่นิสัยเสีย เจอหน้าใคร รู้จักหรือไม่รู้จัก ไม่เป็นไร ถ้าเขามายกมือไหว้ผม ก่อนจากกันผมจะบอกว่า อย่าไปนะ ที่คนเยอะๆ ท่านนายกฯ บอกว่า ท่านไม่ยกเลิกหรอกเรื่องงานเคานต์ดาวน์ปีใหม่ ก็ไม่เป็นไร แต่ผมไม่ไป ท่านผู้ชมครับ ระหว่างไปเย้วๆ เคานต์ดาวน์ มันสนุกสนานชั่วครู่ แล้วมีโอกาสที่จะติด ช่วงนี้โอมิครอน อย่างที่ผมเรียนให้ทราบเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว 24 ผมเอาตัวเลขให้ดูเลยว่าโอมิครอนติดกันกี่ประเทศ ปิดประเทศไปอย่างไรแล้ว แล้วประเทศพวกนั้นเป็นประเทศที่ฉีดวัคซีนในอัตราส่วน ในเปอร์เซ็นต์ที่สูงที่สุด 70 กว่าเปอร์เซ็นต์ของประชากร 80 กว่าเปอร์เซ็นต์ของประชากร หลายสิบเปอร์เซ็นต์ก็ฉีดเข็มที่สามแล้ว ก็ยังติด


เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมครับ นอกจากสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองแล้ว ท่านผู้ชมเปลี่ยนพฤติกรรมในการทำงานซะ เปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตซะ ชีวิตเราไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ท่านผู้ชมอย่าไปเชื่อคำพูดว่าอีกไม่นานเราจะกลับไปเหมือนเดิม อีกไม่นาน เหมือน คสช. ที่เคยร้องเพลงให้ฟังว่าอีกไม่นาน โกหกทั้งเพ

ท่านผู้ชมครับ สอนลูกสอนหลาน มันมีความสุขที่ไหนล่ะที่จะต้องไปเย้วๆ กัน มันเป็นความสุข เป็นกิเลสชั่วครู่ชั่วยาม พอกลับมาแล้ว เอ้า ตายล่ะ ติดเชื้อ ปวดหัว กลุ้มใจอีก เดือดร้อนอีก ท่านผู้ชมครับ หลีกเลี่ยงไปเถอะ มีงานปาร์ตี้อะไร จัดวันเกิดอะไร ถ้าจะจัดก็จัดกันเฉพาะพ่อกับแม่ ครอบครัวตัวเเองเล็กๆ ที่บ้าน เลิกเสียทีที่จะออกไปแล้วก็เชิญเพื่อนฝูงมากินเลี้ยงกันประมาณ 10-20 คน ท่านผู้ชม หยุดก่อน อย่าเพิ่งไป เชื่อผมสิท่านผู้ชม ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ต้องมีสติ ส่วนหนึ่งผมอายุ 75 แล้ว ท่านผู้ชมรู้หรือเปล่าว่าผมเดินแล้วไม่หกล้มเลย ท่านผู้ชมรู้ไหม ? คนที่อยู่ใกล้ชิดผม รู้ เพราะว่าทุกก้าวย่างของผม ผมก้าวเท้าซ้ายลง ผมท่องพุทธ ก้าวเท้าขวาลง ผมท่องโธ เพราะฉะนั้นทุกก้าวของผมมี พุทโธ อยู่ที่เท้า ไม่มีอุปสรรค ผมรู้จักพ่อแม่ครูอาจารย์ที่อายุมาก หลวงตามหาบัว ท่านอายุมากขนาดท่านเดินต้องค่อยๆ กระย่องกระแย่ง ไม่เคยเห็นท่านล้มเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะว่าท่านพุทธ ที่เท้าซ้าย และท่าน โธ ที่เท้าขวา ตลอดเวลา ทำถึงจุดๆ หนึ่ง หายใจเข้าก็พุทธ หายใจออกก็โธ ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งสุขภาพที่ดี

ท่านผู้ชมครับ ปีที่ผ่านมานี้ ไม่ใช่ปีที่ผมอยากจะเล่าเรื่องของการเมือง เศรษฐกิจ อะไรให้ฟังมากมาย เพราะว่าปีที่จะฟันธงและจะเป็นปีที่เราจะเผชิญกับความจริง เราจะลงมาจากสวรรค์แล้วลงมาเจอกับนรก คือปี 2565

ท่านผู้ชมเคยฟังรายการผม ผมอธิบายให้ฟังแล้วในเรื่องของหนี้ของรัฐบาล วันนั้นผมมีโอกาสเจอท่านอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คุณธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล


ท่านเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และท่านก็เป็นอดีตรองผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ และเป็นอดีตเลขาธิการ ก.ล.ต. เป็นบุคคลที่มีความสามารถสูงมากๆ ในเรื่องวงการค้าวงการเงิน ที่สำคัญท่านคือคนที่ติดตามความเปลี่ยนแปลงของโลก และเป็นคนที่กล้าคิดนอกกรอบ ก็คุยกัน ทานอาหารตอนเช้ากัน ผมก็อธิบายให้ฟังว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะเป็นอย่างไร ท่านก็บอกว่า ท่านเห็นด้วย ท่านขอบคุณผมที่ใช้ภาษาชาวบ้านอธิบายให้ฟัง โดยที่ไม่ต้องลงรายละเอียดให้มันสับสน

ผมบอกท่านว่า ประเทศไทยมีหนี้อยู่ประมาณ 9.1 ล้านล้านบาท ใน 9.1 ล้านล้านบาทนี้ เป็นหนี้รัฐบาลที่กู้มาตลอด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกู้หนักมากในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ เรื่องโควิด-19 8.2 ล้านล้านบาท ที่น่าสนใจก็คือว่า เรามีหนี้กู้มา 8.2 ล้านล้านบาท แล้วเรามีเงินสำรอง ทุนสำรองของประเทศ ซึ่งหลายคนก็บอกว่าเรามีทุนสำรองอยู่เยอะ ไม่ต้องกังวลทั้งสิ้น กู้ได้เยอะแยะ ผมไม่เถียง แต่เมื่อเราดูยอดเงินของทุนสำรองที่มีอยู่ในกระเป๋าแล้ว ก็คือเป็นทุนที่เก็บเอาไว้ในเซฟ เขาห้ามเอาออกมาใช้ ยอดเงินทุนสำรองของเราก็ประมาณ 8.2 ล้านล้านบาท เท่ากับหนี้เลยท่านผู้ชม น่ากลัวไหม ที่สำคัญที่สุด คำถามที่รัฐบาลไม่กล้าพูด และผู้ที่เชียร์รัฐบาลไม่กล้าพูด คนกระทรวงการคลังก็ไม่กล้าพูด ก็บอกว่าหนี้ 8.2 ล้านล้านบาท ผมถามคุณ เมื่อคุณกู้มา คุณไม่จ่ายดอกเบี้ยหรืออย่างไร ทุกวันนี้ดอกเบี้ยเงินฝาก ท่านผู้ชมมีเงิน 1 ล้านบาท ท่านฝากเงินไป ท่านได้ดอกเบี้ย 0.5 เปอร์เซ็นต์ ทุกๆ 100 บาท ท่านฝากเงินไป ท่านขาดทุน 2.5 บาท เพราะอะไร ? เพราะว่าดอกเบี้ยเงินฝาก 0.5 เปอร์เซ็นต์ แต่เงินเฟ้อมัน 3 เปอร์เซ็นต์ มูลค่าเงินของท่านก็ตกไป เอา 0.5 ลบออกจาก 3 ท่านก็ติดลบอยู่ 2.5 เปอร์เซ็นต์ คนฝากเงินยังขาดทุนเลย ท่านผู้ชมนึกดูก็แล้วกัน

เมื่อคนฝากเงินขาดทุนแล้ว ก็ถามต่อว่า แล้วหนี้ 8.2 ล้านล้านบาท รัฐบาลไม่ต้องส่งดอกเบี้ยหรือ นับประสาอะไรกับจ่ายคืนเขา จนวันนี้เงินที่เรากู้จาก IMF มา ก็ยังส่งไม่หมดนะ สิบกว่าปีแล้วท่านผู้ชม เงินที่ขาดทุนจากการจำนำข้าว วงเงินแล้วแต่คนจะตีความ 5 แสนล้านบาท หรือ 7 แสนล้านบาท ก็ยังคาอยู่ตรงนั้น


แล้วเรามาเพิ่มอีก 8.2 ล้านล้านบาท ถามว่า ถ้าสมมุติคุณต้องจ่ายดอกเบี้ย คุณคงไม่จ่าย 0.5 เพราะนั่นคือดอกเบี้ยเงินฝาก ก็ตีเสียว่า เอาแฟร์ๆ ก็แล้วกัน 1 เปอร์เซ็นต์ 1 เปอร์เซ็นต์ ของ 8.2 ล้านล้านบาท ที่ต้องจ่าย ต่อปีเท่าไร คำถาม แล้วเอาเงินนี้มาจากไหน ? เงินนี้ก็เอามาจากสองทาง เงินที่จ่ายดอกเบี้ย หนึ่ง ก็ต้องดึงมาจากงบประมาณแผ่นดินที่ตั้งเอาไว้ แล้วงบประมาณแผ่นดินที่ตั้งเอาไว้ ถ้าตั้งรวมดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายให้กับเงินกู้ 8.2 ล้านล้านบาท และรวมทุกอย่างแล้ว ก็เท่ากับว่าเราต้องกู้เพิ่มอีกเพื่อมาปิดหีบ

ท่านผู้ชมครับ ทุกวันนี้สิ่งที่รัฐบาลทำ อุปมาอุปไมยเหมือนบ้าน เรามีเงินที่ตั้งเอาไว้ว่า ค่าเล่าเรียนลูกปีนี้เท่าไร ค่าอาหารต่อปีเดือนละเท่าไร ค่าน้ำมันรถต่อปีเดือนละเท่าไร กันเอาไว้เป็นค่าซ่อมรถ กันเงินไว้จ่ายค่าเบี้ยประกันรถ ค่าน้ำ ค่าไฟ ทุกอย่างหมด พอหมดแล้วเราก็มาดูว่า นี่คือค่าใช้จ่ายนะ เรามีอยู่ 100 บาท ต้องจ่าย 100 บาท ปีนี้ นี่พูดถึงบ้านนะครับ แล้วเรามีรายได้ เราขายของ เราเปิดหน้าร้านขายก๋วยเตี๋ยว ทำอาหารตามสั่งขาย เอ้า เราขายได้ 93 บาทต่อปี หายไป 7 บาทต่อปี จะทำอย่างไร ? ก็ต้องกู้สิครับ เผอิญชาวบ้านถ้าจะกู้ก็ต้องไปกู้นอกระบบเสียส่วนใหญ่ เพราะว่าในระบบคงจะไม่ให้กู้แล้ว รัฐบาลไม่จำเป็น กู้ในระบบได้ เพราะฉะนั้น ทุกปี ถ้าเป็นบ้านก็รายได้ 93 บาท ค่าใช้จ่าย 100 บาท ก็ต้องติดลบ 7 บาท ก็ต้องไปกู้เขาทุกปี ก็เหมือนรัฐบาล ขยายจากบ้านหลังเล็กๆ นี่ ขยายเป็นทั้งประเทศ ก็หมายความว่า งบประมาณตั้งมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว รายได้เข้ามาไม่พอรายจ่าย มันจะไปพอได้อย่างไร ในยุคโควิด-19 ทุกอย่างมันตกหมด ภาษีเงินได้ตก ภาษีส่วนบุคคลตก ภาษีนิติบุคคลตก ภาษีมูลค่าเพิ่มตก ภาษีศุลกากรตก ภาษีสรรพสามิตตก


นี่ถ้าโสเภณีถูกต้องตามกฎหมาย ผมก็เชื่อว่าภาษีกะหรี่ก็ตก ภาษีการพนันออนไลน์ก็ตก ตกหมดทุกอย่าง เมื่อตกหมดแล้ว รายจ่ายที่ต้องใช้มันชัดเจนนี่ เอาแค่เงินเดือนข้าราชการอย่างเดียว ปีละเท่าไร ชัดเจน ไม่จ่ายก็ไม่ได้ ทำได้อยู่อย่างเดียว คือชะลอการจ่าย อย่างเช่น เงินพิเศษ เงินประจำตำแหน่ง เงินเบี้ยเสี่ยงภัย โน่นนี่นั่น อาจจะยืดไปสามเดือนค่อยจ่ายจริง หกเดือนค่อยจ่ายที แต่ก็ต้องจ่าย

เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้ารายได้มันเห็นชัดว่าตก รายจ่ายมันเป็นอย่างนี้ แล้วในส่วนรายจ่ายของงบประมาณ ก็เหมือนบ้านน่ะ บ้านก็ต้องซ่อมแซม ใช่ไหม คืองบลงทุน บ้านหลังคารั่ว ปีหน้าต้องซ่อมหลังคาแล้ว ห้องน้ำพังไปแล้ว ก็เหมือนกัน รัฐบาลก็ต้องมีงบลงทุน ลงทุนอะไรบ้างล่ะ ? ลงทุนสร้างทาง ลงทุนที่จะสร้างอาคารกระทรวงศึกษาธิการ มีลงที่จะต้องให้ลงทุนในเรื่องของอาคารสถานที่ต่างๆ กระทรวงศึกษาฯ ทุกกระทรวงมีหมด งบลงทุน รวมทั้งรัฐบาลส่วนกลางเองก็ต้องมีงบลงทุนในเรื่องของโครงสร้างทางคมนาคม งบลงทุนที่ลงทุนในเรื่องโครงสร้างของการพัฒนาระบบสาธารณสุข งบลงทุนในเรื่องของการสร้างโครงสร้างในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของคน มันมีหมด

ทีนี้ งบลงทุนปกติแล้วมันหักงบเงินเดือนไปแล้ว หักค่าใช้จ่ายจิปาถะไปแล้ว งบลงทุน จาก 100 บาท มันจะเหลือแค่ประมาณ 20 บาทเองมั้ง น้อยมาก คือพูดง่ายๆ ว่า ใช้ 20 บาท ลงทุนไป ก็ได้เกิดผลเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าเราต้องเอางบลงทุนส่วนนี้มาจ่ายดอกเบี้ย 8.2 ล้านล้านบาท งบลงทุนที่มีอยู่ 20 เปอร์เซ็นต์ 20 บาท ก็อาจจะลดเหลือแค่ 10 บาท หรือ 5 บาท ประเทศไทยเดินหน้าต่อไม่ได้แล้ว ต้องทำอย่างไร ? ก็ต้องกู้เพิ่มใช่ไหม


ทุกวันนี้ประเทศไทยกู้เพิ่มเพื่อมาปิดหีบประมาณ 4 แสนล้านบาท ถ้าอย่างนั้นแล้ว ปีหน้าประเทศไทยมิต้องกู้เพิ่มอีก 2-3 แสนล้านบาทหรือ เป็น 7-8 แสนล้านบาท นี่จะเข้า 1 ล้านล้านบาท แล้วนะ นี่ยังไม่นับที่การประกันราคาพืชผลที่พรรคประชาธิปัตย์ชูเป็นนโยบายนำหน้า เราประกันพืชผลมา 3 ปี นะท่านผู้ชม ขาดทุนปีละแสนกว่าล้าน 3 ปีเกือบ 4 แสนล้านแล้ว แล้วถ้าเราประกันต่ออีก 2-3 ปี ถ้ายังขาดทุนอย่างนี้ต่อ ก็เท่ากับขาดทุน 7 แสนกว่าล้าน เท่ากับการขาดทุนการจำนำข้าว ไม่มีใครคิดตรงนี้เลยหรือ


ท่านผู้ชม เพราะฉะนั้นแล้ว ผมเอาภาพเศรษฐกิจที่ไม่ใช่อยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ มาให้ท่านผู้ชมได้ดูว่า เฮ้ย มันเป็นอย่างจริงๆ แปลว่าอะไร ? แปลว่าปีหน้าเขาเน้นสนับสนุนให้ท่านผู้ชมเอาเงินออกมาใช้จ่าย คำถามคือ ท่านมีเงินหรือเปล่า ? ถ้าท่านมีเงินบ้าง สู้เก็บเงินเก็บทองนั้นเอามาดูแลสุขภาพตัวเอง ซื้อยาที่มีประโยชน์ ซื้อฟ้าทะลายโจรของอาจารย์ปานเทพ ซื้อขิง ซื้อยาลม 300 จำพวก ซื้อน้ำมันมะพร้าวหีบเย็น ซื้อนู่นซื้อนี่ ซึ่งเดี๋ยวผมจะพูดให้ฟัง เอามาเพื่อทำให้สุขภาพตัวเองแข็งแรง เพราะฉะนั้นแล้ว ปีหน้ารัฐบาลให้ท่านใช้เงิน มีลูกล่อลูกชนเยอะ มีคนละครึ่ง มีใช้มากได้เงินคืน ท่านผู้ชมครับ เชื่อผม ใช้เงินให้น้อยลง รถใช้มาแล้ว 5 ปี กำลังคิดจะเปลี่ยนคันใหม่ อย่าเพิ่งเปลี่ยน ทนใช้มันต่อไป เสื้อผ้าไม่ต้องซื้อใหม่ คือพูดง่ายๆ ว่า อะไรที่มีอยู่แล้ว ที่ไม่ใช่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีพอยู่ อย่าไปใช้มันเลย โซฟาเก่าแค่ไหน ก็ทนไป ทีวีมีจอแบนอยู่แล้ว เป็นสมาร์ททีวี อยากจะใหญ่ขึ้นสัก 60 นิ้ว พอๆ หยุดก่อนๆ เก็บเงินเก็บทองเอาไว้ท่านผู้ชม

ทำไมคนสมัยนี้ถึงไปเล่นบิทคอยน์กันเยอะ มาเล่นหุ้นกันเยอะ ก็ดอกเบี้ย 0.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี แล้วอนาคตไม่มี ทุกคนต้องการรวยกันหมด อะไรที่มันทำเงินได้ แล้วมันมีทิศทางที่จะไปได้ ถึงแม้รู้ว่ามันเป็นลักษณะการเปิดบ่อนกาสิโน ก็ต้องทำ เพราะว่าอยากได้เงินกันทั้งนั้น


ท่านผู้ชมครับ ปีหน้าเป็นปีของการใช้สติให้มาก ระงับความอยาก อยากได้ อยากเป็น อยากเท่ ตัดความอยากทิ้งซะ หายใจลึกๆ พุทธ หายใจออกช้าๆ โธ แล้วมองรอบตัวเอง เอ๊ะ ชีวิตเราก็มีความสุขดีไม่ใช่หรือ รถมันก็ยังวิ่งได้ ไม่เสียหายอะไร ใช้มา 5 ปี ก็จริง ค่อยๆ ใช้ระวังหน่อย อีก 2 ปี ก็อยู่ได้ อย่าเพิ่งไปเสียเงินทางด้านนี้ ท่านผู้ชมครับ นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า และผมก็จะบอกให้ท่านผู้ชมรู้ด้วยว่า ไม่มีรัฐบาลชุดไหนหรอกที่จะกู้ได้ตะพึดตะพือ กู้ได้ตลอดเวลา หลายคนก็พูดในทำนองให้สบายใจว่า โอ๊ย หลายประเทศเขายอดเงินกู้ตั้ง 200 เปอร์เซ็นต์ ต่อจีดีพี เฮ้ย ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศพวกนั้นนะ ไม่ใช่ อเมริกาล่ะ ยอดเงินกู้สูงกว่าจีดีพีกี่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็อเมริกามันพิมพ์แบงก์ใช้เองได้นี่ มันใช้แบงก์ของมันเปรียบเสมือนทองคำในการแบ็กอัป แล้วมันเป็นเงินที่ใช้ได้ทั่วโลก มันก็เลยพิมพ์ของมันได้สิ อย่าไปเลียนแบบเขา ประเทศไทยเป็นประเทศเล็กๆ ท่านผู้ชม อย่าไปลืมตัว แล้วหยุดโอ้อวดเสียทีว่า หนี้ของรัฐบาลต่อจีดีพียังไม่ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ ระหว่างมีหนี้มาก กับมีหนี้น้อย ท่านผู้ชมชอบอันไหนมากกว่า การมีหนี้น้อยแล้วจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ก็ต้องทำให้มันสมเหตุสมผล ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง จริงๆ แล้วก็คือเศรษฐกิจพอเพียงนั่นเอง แต่รัฐบาลทุกรัฐบาล ปากพูดไปสิ เศรษฐกิจพอเพียง แต่ข้อเท็จจริงมันไม่พอเพียงกันสักคนเลย ผมไม่เว้นใครทั้งสิ้น แม้กระทั่งคนอย่างประยุทธ์ จันทร์โอชา ปากชอบท่อง เศรษฐกิจพอเพียง แต่ในการกระทำไม่ได้พอเพียงเลยแม้แต่นิดเดียว

ท่านผู้ชมครับ ผมเอาความจริงมาพูด อย่าโกรธผม นี่คือเศรษฐกิจปีหน้า

การเมืองปีหน้าเป็นอย่างไร ? ถ้าผมจะพูดเรื่องการเมืองปีหน้า ผมจะอธิบายให้ฟังดีไหม จากคำพูดของรองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม


คนอย่างคุณวิษณุ เครืองาม เป็นคนที่เขาเรียกว่าฉลาด ลึกล้ำ แล้วก็เป็นคนพูดเอง เรือแป๊ะยังแข็งแกร่งอยู่ จำได้ไหมครับเรื่องทฤษฎีเรือแป๊ะ ปรากฏว่าวันนี้ เอ้า ตายล่ะ วิษณุบอกว่าเรือแป๊ะกำลังจะพังแล้ว ก็คุณวิษณุออกมาพูดชัดเจนว่าปีหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ จะมีความวุ่นวายเกิดขึ้น จะมีโน่นมีนี่ แล้วมาพูดเอาตอนวันที่สิบกว่าๆ ไม่ใช่สารสวัสดีปีใหม่กับประชาชนนะ ถ้าสารสวัสดีปีใหม่ประชาชน ต้องพูดปลายปีสิ ท่านผู้ชม พูดเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว แต่ไปพูดเมื่อกลางเดือนธันวาคม แปลว่าอะไร ? นัย ถ้าผมอ่านเกมคือคุณวิษณุพร้อมจะทิ้งเรือแป๊ะแล้ว ถึงแม้จะมีการให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้ไปไหน ยังอยู่ ไม่ได้ลาออก มีข่าวลือว่าจะลาออก ไม่จริง คนที่มีความสุข ความสบาย และเเชื่อมั่นในเรือแป๊ะ จะไม่พูดอย่างนี้ออกมาหรอก แล้วมันขัดต่อนิสัยขอวคุณวิษณุ เครืองาม


ปีหน้าจับคุณวิษณุ เครืองาม กรณีนี้ เอามาตั้งบนหิ้ง มาพูดอีกเรื่องหนึ่ง ปีหน้าตามรัฐธรรมนูญแล้ว มีคนตีความว่า สิงหาคม เป็นเดือนสุดท้ายที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ต่อได้จนครบ 8 ปี สิงหาคม ปีหน้า (65) พอหมดสิงหาคมแล้ว ตามรัฐธรรมนูญแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ไม่ได้แล้ว นี่คือฝั่้งหนึ่งซึ่งตีความอย่างนี้ อีกฝั่งหนึ่งซึ่งตีความช่วยคุณประยุทธ์ ว่า ไม่จริง อยู่ได้ มันก็เลยต้องจบลงที่ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญก็เลยมีตรรกะ มีเหตุผลอย่างนี้ ว่า หนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญจะยืนข้างคุณประยุทธ์ ช่วยคุณประยุทธ์ หรือสอง รัฐธรรมนูญจะพิพากษาไปโดยไม่ได้แคร์ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

เอาล่ะ ถ้าสมมุติช่วยคุณประยุทธ์ คำถามก็มีอยู่ว่า ในที่สุดแล้วศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องยอมเสียชื่อ เพราะว่าศาลรัฐธรรมนูญช่วยรัฐบาลชุดนี้มาหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม หลายๆ ครั้ง ไม่ได้หมายความว่าทุกครั้งนะครับ หลายๆ ครั้ง ครั้งใหญ่ๆ ทั้งสิ้น แต่ท่านผู้ชม ถ้าเกิดศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าเห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญว่า สิงหาคม ปี 65 คุณประยุทธ์ หมดเวลาที่จะทำงานแล้ว ท่านผู้ชมว่าวุ่นไหม ประเทศไทย คุณประยุทธ์ไม่ยอมแน่นอน เพราะวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ลั่นวาจา สัจจะวาจาเลยว่า จะต้องอยู่จนกระทั่งเป็นประธานในการประชุมเอเปก ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ถึงกับมีคนที่อยู่รอบด้านคุณประยุทธ์ ไปจ้างคุณนพดล กรรณิกา จากซูเปอร์โพล เพื่อทำโพลแล้วมาอวยคุณประยุทธ์


ผมยังไม่รู้ว่าไส้แตกหรือยังนะ แต่ลักษณะการอวยแบบนี้ถ้าไม่ระวังตัว ไส้แตกนะท่านผู้ชม คุณประยุทธ์ก็ภูมิอกภูมิใจมา ขอบคุณพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ให้การสนับสนุนผม เอาล่ะ ไม่เป็นไร

แต่ท่านผู้ชมลองดูซิ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเข้าข้างคุณประยุทธ์ ความไม่พอใจของฝ่ายตรงกันข้ามจะยิ่งมากขึ้น และความไม่น่าไว้วางใจในศาลรัฐธรรมนูญก็จะถึงจุดแตกหัก ในที่สุดแล้วศาลรัฐธรรมนูญก็จะกลายเป็นศาลรัฐธรรมนูญที่สนับสนุนรัฐบาล โดยไม่เลือกว่าเรื่องอะไรบ้าง ขอให้เป็นรัฐบาล จะสนับสนุนหมด ถึงแม้ว่าจะผิดหลักนิติธรรมอย่างไรก็ตาม ไม่สนใจ นั่นคือความวุ่นวายแล้ว

เรื่องที่สอง ถ้าอยู่ต่อ ต่อไป ท่านผู้ชมครับ ก่อนสิ้นปีนี้ท่านผู้ชมเห็นว่าสภาล่มไป 2-3 ครั้ง มันเกิดอะไรขึ้น รัฐบาลไม่สามารถจะประชุมสภาฯ ได้


ท่านประธานสภาฯ คุณชวน หลีกภัย ท่านก็บ่นออกมาว่าใช้ไม่ได้ ฝ่ายค้านก็บอกว่าสั่งสอนรัฐบาล รัฐบาลก็บอก กูไม่สนแล้ว กูไปทำมาหากิน หาเสียงไปเรียบร้อย แล้วก็จะมีการเลือกตั้งอีก ประกอบกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่จะเลวร้ายลง และผมก็ยังไม่รู้ว่าโอมิครอนในปีหน้า ไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) จะขยายตัวให้คนติดเชื้อไปขนาดไหน เพราะเขาบอกว่ามันติดเชื้อเร็วกว่าเชื้อสายพันธุ์เดลตาถึง 30-70 เท่า ระบบสาธารณสุขไทยจะล่มหรือเปล่า ผมก็ไม่รู้ และนี่คือเหตุการณ์ที่ผมจะขอทำนายเอาไว้ในปี 2565

ท่านผู้ชมครับ ก่อนที่ผมจะจบรายการด้วยคำบอกเล่าของผมว่าผมใช้วิธีไหนในการสร้างภูมิคุ้มกันของผม ผมขอพูดถึงเรื่องรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ในปี 2564 หน่อย รายการนี้มีคนเข้ามาดูเยอะมาก ไม่ต้องปฏิเสธกันล่ะครับ มีความเห็นในคอมเมนต์เยอะมากๆ ทุกๆ ตอนจะมี ตอนใหญ่ๆ จะมีคนเข้ามาคอมเมนต์เป็นพันๆ คน ทีนี้ ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ผมก็เป็นคนอ่านคอมเมนต์นะ ไม่ใช่ไม่อ่าน หลังจากจัดรายการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีคนหลายประเภทที่เข้ามาคอมเมนต์ ประเภทแรกคือ คนที่ใฝ่รู้ อยากฟังเรื่องราวต่างๆ และบางคนไม่เคยรู้มาก่อน หรือรู้บ้าง พอได้ยินเสียงที่ผมอธิบายเรื่องราวต่างๆ ในหลายๆ มิติที่มันสมบูรณ์แบบ ก็เลยมีความชอบ เหมือนกับตัวเองได้บรรลุธรรมว่าเรื่องมันเป็นอย่างนี้ ไม่เคยเข้าใจมาก่อน ตอนนี้เข้าใจดีแล้ว ก็ขอบคุณผมมาเยอะมาก ว่าผมเป็นคนให้ความรู้ ชอบมาก ติดตามมาตั้งนานแล้ว โน่นนี่นั่น ขอบพระคุณครับท่านผู้ชมครับ


ประเภทที่สอง คือคนที่เข้ามาฟังแล้วเกิดไม่เห็นด้วยกับผม จะด้วยเหตุใดก็ตาม มีทั้งนั้น หนึ่ง อคติ หรือสอง ตัวเองมีข้อมูลของตัวเองมา ซึ่งข้อมูลของตัวเองนั้นก็ไม่รู้ว่าจะหักล้างข้อมูลของผมได้อย่างไร แต่ตัวเองเชื่อข้อมูลของตัวเองมากกว่า คนพวกนี้ก็จะชี้แจงในคอมเมนต์ ในทิศทางที่ตัวเองเชื่อ ซึ่งไม่ผิด ซึ่งเขาได้รับข้อมูลมา ประเภทนี้ผมก็ขอบคุณ เพราะเป็นคนที่ศิวิไลซ์ เป็นคนที่มีวัฒนธรรม และขอบคุณที่ใช้คำสุภาพ ถึงแม้จะมีการแดกดันผมบ้าง ก็เฉยๆ ยังรับกันได้

ท่านผู้ชมครับ ประเภทที่สาม คือประเภทที่มีปัญหาเยอะที่สุด ผมอยากเรียกประเภทนี้ว่า ประเภทเฮงซวย คือเข้ามาด่าอย่างเดียว ไม่สนใจเนื้อหาสาระ พอเข้ามาก็ใส่เลย เป็นชุด ด่าทั้งนั้น บางคนก็ด่าใช้คำหยาบคาย พูดถึงอวัยวะเพศ มอบให้ ตั้งธงเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ก็คือขอกูได้ด่ามึง แล้วการด่านั้น 99 เปอร์เซ็นต์ ก็ขุดเอาเรื่องที่ไม่เป็นความจริงขึ้นมา จนกระทั่งมีเรื่องมีราว ต้องถูกผมดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท เยอะแยะไปหมด ผมไม่ค่อยได้รายงานท่านผู้ชมเท่าไรนัก เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ศาลท่านชะลอการพิจารณาคดี แต่ว่ามีคิวที่จะฟ้องอีกเป็นสิบๆ คิว ไม่ต้องห่วงครับท่านผู้ชม ท่านที่เข้ามาด่าผม ท่านเจอแน่นอน


คนที่เข้ามาด่า แล้วถูกฟ้องร้องนั้น ก็อยากจะบอกความจริงให้เป็นธรรมทาน จะได้ไม่ถูกเล่นงานอีก หัวข้อที่พวกคุณชอบด่าแล้วโดนฟ้อง และกำลังจะโดนฟ้องอีกหลายราย หลายประเด็นที่ด่า เพราะว่าไม่รู้ข้อมูลที่เท็จจริง ชอบพูดนักว่า ถ้ามึงแน่จริง มึงโกงเงินธนาคารทำไม ท่านผู้ชมครับ และท่านผู้ชมที่คอมเมนต์เฮงซวยมา ผมจะพูดอะไรให้ฟังอย่างหนึ่ง ผมขี้เกียจมานั่งแก้ตัวทุก EP. ปีหนึ่งเอาเป็นว่าผมเช็กบิลทีเดียวเลยดีกว่า วันนี้ต้องขอโทษท่านผู้ชมทั่วๆ ไปด้วย วันนี้ผมจะเอาไม้หน้าสามมาตีแสกหน้าไอ้พวกสันขวานทั้งหลายพวกนี้ แล้วผมอาจจะต้องใช้ภาษาที่เขาใช้กับผม ท่านผู้ชมที่ฟังอยู่อย่าโกรธ


ถึงมึงจะด่ากูอย่างไรก็ตาม กูเคารพกฎหมาย คนอย่างกูยอมรับจุดสุดท้ายของกระบวนการยุติธรรม คือ ศาล ถ้ากูต้องติดคุก กูเดินติดคุกอย่างหน้าชื่นตาบาน แต่คนที่พวกมึงเทิดทูน หนีคดีไป พวกมึงเคยใช้กะโหลกของพวกมึงคิดไหม คนแบบไหน ระหว่างไอ้คนที่มึงเทิดทูนแล้วหนีคุกไป กับคนอย่างกูที่เดินเข้าไปคุกอย่างหน้าชื่นตาบาน ใครเป็นคนจริงกว่ากัน

มึงอย่ามาวัดเรื่องราวด้วยอารมณ์ คนอย่างกูยืนหยัดมาตลอดเวลา มาตั้งแต่ต้น ไม่เหมือนคนในยุคนี้ที่หิวแสง สมัยก่อนกูลุกขึ้นมา เมื่อปี 2548 ปกป้องสถาบันกษัตริย์ จากระบบทักษิณ ที่มีคนแวดล้อมซึ่งล้วนเต็มไปด้วยคนที่มีเจตนาร้ายต่อระบบสถาบันกษัตริย์


ในยุคนั้นเป็นยุครัชกาลที่ 9 กูนี่ล่ะ ลุกขึ้นมา ลุกขึ้นมาสู้ ปกป้องมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ก่อนไอ้พวกโหนเจ้าสมัยนี้ที่หิวแสง ในยุคนั้นไม่มีใครกล้าออกมาปกป้องเลย มีกูอยู่คนเดียว และพรรคพวกอีกไม่กี่คน พวกมึงรู้ไว้เสียด้วย แม้กระทั่งทหารที่เป็นใหญ่ทุกวันนี้ สมัยนั้นก็เงียบเหมือนอมสาก กูไม่ต้องเอ่ยชื่อ มึงก็รู้ว่าใครบ้าง คนอย่างกูเงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน

และเพื่อที่จะไม่ให้พวกมึงต้องโดนฟ้องอีก กูจะสั่งสอนไว้อย่างหนึ่ง ถ้ามึงบอกว่าศาลฎีกาพิพากษาจำคุกกู เพราะกูโกงธนาคาร มึงเตรียมตัวติดคุกได้แล้ว เพื่อประเทืองปัญญา กะโหลกหนาๆ สมองหมาปัญญาควายอย่างพวกมึง กูผิดข้อหาพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ เอาบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ไปค้ำประกันบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ โดยใช้เอกสารเท็จ นั่นคือข้อหาที่ต้องติดคุก ไม่ใช่โกงเงินธนาคาร ถ้ามึงไม่ใช่สมองหมาปัญญาควาย มึงไปเอาคำพิพากษาอ่าน กูมีหมดในการสืบพยาน


ในการสืบพยาน ผู้จัดการธนาคารกรุงไทยมาให้การ ทนายถามว่า เงินกู้ของธนาคารเสียหายไหม ผู้จัดการธนาคารบอกว่า ไม่เสียหาย เพราะว่าได้การเสนอทรัพย์ได้คืนมาหมดแล้ว และมีหลักทรัพย์ค้ำประกันให้ ไหนล่ะโกงธนาคาร ไอ้ควาย มึงหลุดมาอีกครั้ง มึงขึ้นศาลกับกูแน่นอน เหมือนกับที่ไอ้ Yan Marchal ฝรั่งเศส เศษฝรั่งที่กำลังจะโดนฟ้องอยู่เร็วๆ นี้ และอีกหลายคนที่พูดว่าคนอย่างกูนี่โกงธนาคาร

นี่กูบอกเอาบุญ วันหลังด่ากูจะได้ไม่เอาเรื่องนี้มาด่า ไม่อย่างนั้นมึงติดคุกฟรี หาเรื่องอื่นมาด่าดีกว่า แล้วก็ด่าให้มันสร้างสรรค์หน่อย อย่าด่าด้วยความโง่

แล้วพวกมึงชอบพูดชุดภาษาของพวกมึงว่า ประเทศชาติเป็นอย่างนี้ไม่ใช่เพราะมึงเหรอ (หมายถึงกู) เฮ้ย ไม่ใช่เพราะกูหรอก แต่เป็นเพราะทักษิณ เป็นคนเริ่มต้นทุจริต ร่วมกับพวกพ้องและครอบครัวตัวเอง


แต่ในตอนนั้นไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาสู้กับทักษิณ ไม่มีหมาตัวไหนเลย ไอ้ที่เห่ากันดังๆ ทุกวันนี้ ที่ด่าทักษิณ ออกมา สมัยนั้นเงียบ เงียบฉิบหายเลย ทักษิณหายใจแรงๆ ยังไม่กล้าเลย มีกูคนเดียวที่ลุกขึ้นมาสู้ ทักษิณมันใช้อำนาจ ใช้เผด็จการรัฐสภาที่ตัวเองคุมอยู่ ออกกฎหมายแก้ความผิดที่ตัวเองทำ เพิ่มประโยชน์ให้ตัวเอง ที่มึงด่ากู มึงเคยคิดหรือเปล่า ทักษิณมันซื้อที่ดิน แล้วมันต้องโอนที่ดินก่อนวันสิ้นปี ปีหนึ่ง 31 ธันวาคม มันรู้ว่าถ้ามันโอนหลัง 31 ธันวาคม มันต้องเสียภาษี แต่ถ้าโอนภายใน 31 ธันวาคม ก่อนสิ้นปี มันไม่ต้องเสียภาษี มันก็เลยประกาศให้วันที่ 31 ธันวาคม ไม่ใช่วันหยุด เพื่อมันจะได้โอนที่ เพื่อจะไม่ต้องเสียภาษี นี่ มึงใช้กะโหลกหนาๆ สมองหมาปัญญาควายของมึงคิดดูซิ นี่คือสิ่งที่กูสู้นะ

แล้วการพูดจาจาบจ้วง การทำบุญประเทศในวัดพระแก้ว แล้วก็นั่งในสถานที่ ในจุดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นั่งอยู่ ลูกน้องบริวารหลายคนใช้บารมีทักษิณ จาบจ้วงรัชกาลที่ 9 จักรภพ เพ็ญแข ไง

จักรภพ เพ็ญแข
วันนี้อยู่ไหนแล้วล่ะ จรัล ดิษฐาอภิชัย ไง หลายคน สุนัย ไง เยอะแยะไปหมด อย่าให้เอ่ยชื่อเลย พวกนี้ออกมาดูถูก เหยียดหยาม อาฆาตมาดร้ายรัชกาลที่ 9 เฮ้ย นี่คือเหตุผลที่กูลุกขึ้นมาสู้ทักษิณ โว้ย ให้พวกมึงสำเหนียก จำใส่กบาลของพวกมึงเอาไว้ ทักษิณที่พวกมึงเทิดทูนว่าเป็นคนเก่ง ไม่มีคุณธรรม ทำทุกอย่างเพื่อตัวเองก็เข้าไปมีผลประโยชน์ด้วย แม้กระทั่งการจำนำข้าว ซึ่งเป็นหลักการที่ดี แทนที่มึงจะจำนำในราคา 11,000-12,000 บาท แต่ขึ้นไปเป็น 15,000 บาท ส่วนต่าง 3,000 บาท เอาเข้ากระเป๋าโคตรพ่อโคตรแม่มัน เครือข่ายโรงสีของมัน ญาติพี่น้องมันรับเงินไปเท่าไร เสี่ยเปี๋ยงก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่ติดตะรางอยู่ทุกวันนี้ ก็รับเงินรับทองมา ประเทศชาติฉิบหาย จนกระทั่งขาดทุนไม่ต่ำกว่า 5-7 แสนล้านบาท ทุกวันนี้ยังใช้หนี้ใช้สินอยู่

ไอ้ทักษิณของพวกมึงน่ะ ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นรัฐตำรวจ ครอบงำตำรวจ ครอบงำอัยการเกือบทั้งหมด ตลอดจนครอบงำศาลบางส่วน ครอบงำองค์กรอิสระ ให้ตัวเองพ้นผิด เฮ้ย คนอย่างกู สู้มา ฝนตกฟ้าร้องอย่างไร กูอยู่ที่เก่า ไม่เคยเปลี่ยนหลักการ พวกมึงมีใครโดนยิง 200 นัดบ้าง ขนาดกูโดนยิงเผาขน 200 นัด ไอ้พวกมึง ไอ้ควาย ก็ยังบอกว่ากูจัดฉาก


มึงไม่ได้ผ่านอะไรมาเหมือนกู มึงมันก็แค่เกรียนคีย์บอร์ดส้นตีน ที่สมองมึงยังเล็กกว่าสมองมดเลย

อีกเรื่องหนึ่ง ให้มึงจำใส่กะโหลกมึงไว้ กูไม่ใช่ กปปส. และกูไม่เคยเป็น กปปส. เพราะกูไม่เคยใช้ใจ สุเทพ เทือกสุบรรณ


แล้วพวกมึงก็ใช้ความกะโหลกหนา โง่บัดซบ โยงกูเข้าไปหา กปปส. พรุ่งนี้ปีใหม่แล้ว พวกมึงเลิกโง่เสียทีได้ไหม กูนี่ คือพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2548 มาจนถึงวันนี้ ชื่อไม่เคยเปลี่ยน สนธิ ลิ้มทองกุล ฝนตก แดดออก อย่างไรก็ตาม พอฟ้าใสแจ้งจางปาง กูยืนอยู่ที่เดิม มึงจะว่าใครเป็นสลิ่ม มึงว่าไปเลย แต่กูไม่ใช่ เพราะวันนี้กูมาทำรายการนี้ เพราะกูรักความถูกต้อง กูไม่มีสี วันนี้ ไม่มีแดง ไม่มีเหลือง ไม่มีน้ำเงิน แต่แน่นอน กูไม่มีสามกีบแน่นอน กูเอาความถูกต้องเป็นหลัก ใครทำ here กับความถูกต้อง กูลุกขึ้นมาสู้ ไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ตาม


สมัยที่สู้กับทักษิณ กูบอกว่า ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง มาวันนี้ก็ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง เหมือนกัน ไอ้พวกมึง กะโหลกหนา โง่บัดซบ มาด่ากู แดกดันกูทั้งปี 2564 มึงไปดูเนื้อหาสองปีกว่าๆ ที่ผ่านมา ไปดูเลย ถ้ามึงยังมีสติปัญญาเหลือบ้าง มึงดูเลยทุกเรื่องที่กูพูด มีสื่อมวลชนที่ไหน รวมทั้งสื่อพวกมึง ที่อวยพวกมึงจนไส้แตก กล้าเข้ามาสัมผัสกันบ้างไหม เรื่องปัญหาที่กูพูด ไม่มี มีใครบ้างที่กล้าปะทะกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องความไม่ชอบมาพากล ไม่มี อีกเยอะเลย กูทั้งนั้น นี่คือหน้าที่กู เพราะวันนี้กูคิดแล้วว่าการต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง ไม่มีอะไรดีเท่ากับการให้ปัญญาพ่อแม่พี่น้องประชาชน ซึ่งแฟนกูรับปัญญาพวกนี้ไปเยอะมาก มีพวกมึง ไอ้ควายไม่กี่ตัว ไอ้เกรียนคีย์บอร์ด โง่บัดซบ


พรุ่งนี้วันที่ 1 แล้ว พวกมึงคิดใหม่ได้ ที่สำคัญ กูไม่เข้าใจเว้ย พวกมึงว่างนักหรือ เจียะป้าบ่อสื่อ แดกข้าวแล้วไม่มีอะไรทำหรืออย่างไร ถ้ามึงไม่ชอบกู มึงเข้ามาทำ here อะไร ถ้ามึงไม่ชอบกู มึงไม่ต้องเข้ามาฟังกู กูก็รำคาญขยะอย่างพวกมึง ไปทำบุญทำกุศลซะ เผื่อมึงจะได้เกิดใหม่ชาติหน้าเป็นคนมีปัญญา

ขอบคุณมากที่อนุญาตให้ผมระบาย ปีหนึ่งระบายครั้งหนึ่ง เช็กบิลรวมเลยทีเดียว วางบิลหมด ผมขอขอบคุณแฟนพันธุ์แท้ของผม เยอะเลย แฟนที่ออกมาปกป้องผม ออกมาตอบโต้คนที่ไม่พูดความจริงและมโน หลายคน ไม่ว่าจะเป็น ... ผมยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ แล้วกัน สัก 3-4 ชื่อ แต่จริงๆ มีเยอะ คุณปอ อยู่ดี คุณปาเลขา คุณวิกกี้ ทัง คุณสัญญา วงศ์สว่าง แล้วก็มีอีกคนหนึ่งซึ่งใช้ชื่อภาษาอังกฤษ ใจรักชาติไทย มีอีกครับ เยอะ มีอยู่ในลิสต์นี้ ขอบคุณนะครับ ขอบคุณมากๆ ท่านผู้ชมครับ นี่คือสิ่งที่ผมต้องการที่จะระบาย

เดี๋ยวผมจะเล่าให้เป็นของขวัญปีใหม่ ว่าชีวิตผมอยู่มาได้อย่างไร ด้วยอะไรบ้าง การสร้างภูมิคุ้มกัน แล้วทำไมผม 75 แล้ว ผมยังแข็งแรงอยู่เหมือนเดิม

ท่านผู้ชมครับ มาถึงตอนสำคัญ ผมถือว่าสิ่งที่ผมจะเล่าให้ท่านผู้ชมฟังนั้นเป็นของขวัญวันปีใหม่ให้ก็แล้วกัน มีท่านผู้ชมถามผมมาเยอะมาก ทั้งใน inbox ทั้งรู้จักกัน ผ่านคนรู้จักกันมาว่า ผมทำอย่างไรถึงดูแลตัวเองได้ดีอย่างนี้ และในขณะดียวกัน ผมทำอย่างไรผมถึงมีภูมิคุ้มกันสูงขนาดนี้

จริงๆ มันก็ไม่ใช่ความลับหรอกครับ แต่ว่าในที่สุดผมถือว่า เอาล่ะ เป็นของขวัญวันปีใหม่แล้วกัน ผมเริ่มด้วยชีวิตผม ท่านผู้ชมครับ น้ำมันมะพร้าวหีบเย็น ผมทานมาเกือบยี่สิบปีแล้ว ผมน้ำหนัก 82-83 กิโลฯ สูง 180 เซนฯ ผมทาน 4 ช้อนโต๊ะ ตื่นมาตอนเช้าผมทาน น้ำมันมะพร้าวจะช่วยในการเผาผลาญ เพราะเราต้องการพลังงาน เราทานข้าวเข้าไปมันต้องเบิร์น เผาผลายไป แล้วน้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันที่ไม่ไปติดกับกระเพาะ มันระเหยได้ดี แล้วจะช่วยในเรื่องความจำหลายๆ เรื่อง ผมไม่รู้นะครับ แต่สำหรับผมแล้ว ทานน้ำมันมะพร้าวแล้วทำให้ผมยังมีความจำที่ดีอยู่หลายอย่าง


ตอนเช้าผมทานน้ำมันมะพร้าวเสร็จ ผมทานขิง นี่คือขิงสด ผมสั่งให้ที่บ้านเขาหั่นเป็นแว่นๆ ไม่ต้องปอกเปลือก ต้มไปเลย ไม่ใส่น้ำตาลด้วย ผมต้มสักหม้อหนึ่งเช้าๆ ใส่ถ้วยมา ผมทานน้ำมันมะพร้าวเสร็จ ผมก็ทานขิงเข้าไป 1 ถ้วย เที่ยง ทานอีก 1 ถ้วย เย็นทานอีก 1 ถ้วย ผมทานน้ำขิง 3 ถ้วย ไม่ใช่ขิงผงนะครับ ไม่ใช่เลย ขิง มีคนชำนาญเรื่องแพทย์แผนไทย บอกว่าเป็นฤาษีองค์ที่ 5 แล้วในหลักการของการพิสูจน์ในเรื่องคุณภาพของสมุนไพรแล้ว ในทั่วโลก ขิงอยู่อันดับ 1-5 นั่นคือสิ่งที่ผมทาน


อันที่สาม ผมทานยาของอาจารย์ปานเทพ ยาลม 300 จำพวก กล่องหนึ่งมีอยู่ 30 ซอง ทานได้เดือนหนึ่ง ยาลมนี้เป็นสูตรเก่าที่ผมเคยออกรายการไปแล้ว ของหลวงพ่อฉิม วัดตึก (วัดชัยชนะสงคราม) ในยุคสมัยรัชกาลที่ 4 และต่อรัชกาลที่ 5 ท่านเป็นหมอเทวดา คนที่ตั้งชื่อว่าเป็นหมอเทวดา ไม่ใช่ผมนะครับ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้ง และนี่คือสูตรของอาจารย์ฉิม


ท่านผู้ชมครับ ล่าสุดตดบ้างหรือเปล่า ? ท่านผู้ชมอย่าหาว่าผมทะลึ่ง ยิ่งตดมากยิ่งดีกับท่านผู้ชม เพราะว่าท่านผู้ชมไล่ลมออกไป ยาของอาจารย์ปานเทพช่วยได้หลายอย่าง อาจารย์ปานเทพเล่าให้ผมฟัง คุณพ่อของอาจารย์ปานเทพ เป็นมะเร็ง นอนติดเตียง เสมหะเยอะมาก วันหนึ่งต้องดูดเสมหะออก 8-10 ครั้ง อาจารย์ปานเทพทำยานี้เสร็จ เลยให้คุณพ่อทาน ทานไปแค่วันแรกเท่านั้นเอง วันที่สองดูดเสมหะออกแค่ 3 ครั้งเอง แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยๆ ดีขึ้น แทบจะไม่ต้องดูดเสมหะ

มีแม่ของพนักงานที่นี่คนหนึ่ง (ต่าย) ต่ายเขาเป็นคนที่ประสานงานเรื่องเกี่ยวกับวัดต่างๆ หายใจไม่ออก เพราะเสมหะเต็มคอ อาจารย์ปานเทพ เอายาลม 300 จำพวก ให้ทาน ท่านผู้ชมครับ วันรุ่งขึ้นหายเลย ผมทาน แต่ผมทานตอนบ่าย ผมทานขิงเช้า ขิงเที่้ยง ขิงเย็น แล้วก็ตอนบ่าย

ทีนี้มาถึงยาเม็ด คนไทยขาดสังกะสี (Zinc) และขาดวิตามินบี วิตามินดี และขาดซี ก็คือวิตามินซี ธรรมดาแล้วผมก็จะทานยาพวกนี้ ผมทานน้ำมันตับปลา ผมทานวิตามินดี ซึ่งวิตามินดี ผมไม่ได้ทานทุกวัน ผมทานจันทร์-พุธ-ศุกร์ และที่สำคัญคือ ผมทานยา 2 เม็ดนี้ ที่เขาเรียกว่า QUERCETIN C PLUS ZINC ขวดหนึ่งมี 60 เม็ด วันละ 2 เม็ด ทุกเช้าที่ผมทาน


QUERCETIN เป็นสารพฤกษเคมี อยู่ในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) มีมากในหัวหอม หอมแดง พืชตระกูลถั่ว

QUERCETIN มีฤทธิ์ในการป้องกันการอักเสบ ป้องกันแบคทีเรียและไวรัส ช่วยป้องกันอาการแพ้ ป้องกันหลอดเลือด ชะลอความชรา ป้องกันโรคที่มาพร้อมกับความเสื่อมต่างๆ รวมทั้งโรคทางระบบประสาทที่เกิดจากความเสื่อม

มีการวิจัยทางการแพทย์แบบบูรณาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พบว่า QUERCETIN สามารถป้องกันโรคสมองเสื่อม พาร์กินสัน ได้ด้วย นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า QUERCETIN ยังมีฤทธิ์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้แผลหายเร็ว

ส่วนสังกะสี (Zinc) นั้น ช่วยให้แร่ธาตุถูกดูดซึมเข้าร่างกายได้ดีขึ้น ท่านผู้ชมครับ มนุษย์เราขาดสังกะสี เพราะสังกะสีถูกดูดหายไปหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่ไปฉีดวัคซีนแล้ว สังกะสีคือส่วนหนึ่งของภูมิคุ้มกัน ถูกดูดออกไป เป็นแร่ธาตุถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ร่างกายต้องการปริมาณน้อย แต่ไม่สามารถขาดได้เลย เพื่อช่วยให้ร่างกายทำงานปกติ

Zinc หรือสังกะสี ช่วยระบบภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ บำรุงผิวหนัง ผมและเล็บ ให้แข็งแรง สมานแผล ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นภูมิต้านทาน ระบบประสาทและสมอง รักษา ป้องกันสิว และป้องกันการเกิดแผลจากสิว ส่วนวิตามินซี ท่านผู้ชมคงรู้อยู่แล้ว

มันก็เลยเป็นยาเดียวที่มีทั้ง QUERCETIN คือ หอมแดง Zinc (สังกะสี) และวิตามินซี อยู่ในเม็ดเดียวกันหมดเลย ท่านทานอันนี้ อย่างผมทาน ตอนนี้ผมก็ไม่ได้ทานวิตามินซีแล้ว ผมทานอันนี้แทนแล้ว สรุปง่ายๆ ก็คือว่า ที่ผมทานจริงๆ ก็คือสองเม็ดนี้ แล้วอีกเม็ดหนึ่งก็คือวิตามินดี ซึ่งผมทานจันทร์-พุธ-ศุกร์

เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดนี้ ก็คือสิ่งที่ผมเช็กออกมาแล้ว QUERCETIN ZINC ที่ไม่มีวิตามินซี เมืองไทยไม่มีใครทำ แต่ว่ามีขายที่ lazada กับ Shopee ของเมืองนอกทั้งสิ้น ตอนนี้ เดือนหน้า มกราคม จะออกมาแล้ว ทางพวกผมทำขึ้นมา เป็นอาหารเสริม


อีกขวดหนึ่งคือ LUTEIN PLUS FISH OIL ไม่เคยมีใครทำเช่นกัน เป็นอาหารเสริมที่ทานเข้าไปแล้ว ทานไป 2-3 วันแล้ว ตาจะสว่าง เพราะว่าเราต้องเล่นกับโทรศัพท์มือถือทุกวัน ดูจอภาพยนตร์ ดูทีวี ดูจอคอมพิวเตอร์ หลายๆ คนมีความรู้สึกว่าทำไมตามัวอย่างนี้ ทานอันนี้เข้าไปมันจะช่วยทำให้ตาสว่างขึ้น อันนี้เภสัชกรบางคนเขาทำมาเรียบร้อยแล้ว คนที่สนิทกัน แต่เขาทำแจกให้พรรคพวกกินกัน ทุกคนยืนยัน 100 คน ยืนยันทั้ง 100 คน ว่าตาสว่างขึ้น

ท่านผู้ชมครับ QUERCETIN ZINC ผมกินพร้อมกับขิง ตอนเช้า กลางวัน เย็น แล้วบ่ายผมกินยาลม แล้วเช้าตรู่ผมกิน COCONUT OIL ไหนๆ ก็ไหนแล้ว ผมอธิบายให้ฟัง 

ผมเป็นคนที่ชอบยาสีฟันมาก ผมมียาสีฟันอยู่ตัวหนึ่งที่ผมใช้อยู่ประจำ ชื่อ ยาสีฟันบ้านพระอาทิตย์ ท่านผู้ชมฟังให้ดีๆ ครับ อันแค่นี้ หลอดแค่นี้


ผมให้ความมั่นใจได้ว่า ไม่ได้ด้อยกว่าเดนทิสเต้ เผลอๆ จะสูงกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะอะไร ? เพราะยาสีฟันนี้มีการบูร ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย บำรุงรากฟัน เพิ่มความสดชื่น มีดอกกานพลู บรรเทาอาการปวดฟัน ระงับกลิ่นปาก เลือดออกตามไรฟัน สารสกัดฝาง สกัดการอักเสบ ใบฝรั่ง ลดการอักเสบของเหงือก ระงับกลิ่นปาก เมนทอล ลดการอักเสบ ลดกลิ่นปาก ใบเปปเปอร์มินต์ ให้ความรู้สึกสดชื่น ลมหายใจสะอาด รู้สึกผ่อนคลาย มีว่านหางจระเข้ บรรเทาอาการปวด ให้ความชุ่มชื้นกับเหงือกและช่องปาก พิมเสน ช่วยลดอาการเหงือกบวม บรรเทาปวด ช่วยให้เย็นในปาก ลำคอ ลมหายใจสดชื่น ทั้งหมดอยู่ในหลอดนี้หมดเลย และผมใช้มาประจำ จะปีแล้วมั้ง ผมบีบแค่เมล็ดข้าวโพด เมล็ดถั่ว เท่านั้นเอง แปรงเช้า หลายคนที่ผมให้ไปใช้ เขาบอกว่าถ้าแปรงกลางคืนด้วย ตื่นมาตอนเช้าเขาไม่ต้องแปรงฟันเลย บางคนทะลึ่ง บอกว่าผมจูบเมียได้ทันทีเลย ทันทีที่ตื่นนอน เพราะทั้งเมียและผมใช้ยาสีฟันนี้


ท่านผู้ชมครับ วันนี้เอาความลับมาเปิด และอย่างที่เรียนให้ทราบว่า ผมเป็นคนที่ไปไหนมาไหน ในกระเป๋า ในเป้ผม จะมีฟ้าทะลายโจรตลอด เพราะฟ้าทะลายโจรแก้หวัด แก้ไข้ มีปัญหาปั๊บ คิดอะไรไม่ออก ผมกินฟ้าทะลายโจรก่อน

ทั้งหมดนี้คือการเสริมภูมิคุ้มกัน ทำให้ตัวผมมีภูมิคุ้มกันสูง ท่านผู้ชมครับ อะไรไม่สำคัญเท่ากับทำให้ภูมิคุ้มกันของเรานั้นมั่นคงและสูง เพื่อป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ

ท่านผู้ชมครับ นี่คือของขวัญวันปีใหม่ที่ผมมอบให้ ถ้าท่านสนใจอะไร ท่าน inbox มาก็แล้วกัน ตอนนี้ของไม่มี ต้นปีหน้า ของตอนนี้มีอยู่คือของผมทานเอง มกราคม-กุมภาพันธ์ แพ็กเกจนี้คือแพ็กเกจการเสริมภูมิคุ้มกัน อยู่เฉยๆ ทานน้ำขิงก่อน ทานน้ำมันมะพร้าวก่อน ทานยาลมอาจารย์ปานเทพก่อน

ท่านผู้ชมครับ สิ้นปีนี้ขอให้ความทุกข์ ความโศก ความเศร้า มันหมดสิ้นไป ปล่อยวางซะ ท่านผู้ชม ปล่อยวางมันไปเลย ชีวิตคนเรามันมีแต่ความว่างเปล่า ปีหน้าให้สัญญากับตัวเองว่า จะดูแลรักษาตัวเองให้ดีขึ้น จะรักตัวเองมากกว่าปีที่แล้ว ถ้าท่านผู้ชมไม่รักตัวเอง ท่านอย่าเที่ยวไปรักคนอื่นเลย เมื่อท่านรักตัวเองแล้ว ท่านก็สอนให้คนอื่นเขารักตัวเขาเองด้วย รักตัวเอง ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่กว่าการทำใจให้สงบ ปล่อยวาง และดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี เพราะว่าอะไรในโลกนี้ไม่สำคัญเท่าสุขภาพตัวเอง สวัสดีปีใหม่ครับ ท่านผู้ชม
กำลังโหลดความคิดเห็น