xs
xsm
sm
md
lg

[คำต่อคำ] SONDHI TALK : นิคมฯ จะนะ หายนะชั่วลูกหลาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



วันที่ 17 ธ.ค.64 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิ และช่องยูทูป Sondhitalk โดยสิ่งที่จะเล่าในวันนี้พูดถึง ศึกชิงผู้ว่าฯ กทม.เดือด เมื่อ ผู้ว่าฯ หมูป่า ถูกทาบทามให้ลงชิงตำแหน่ง แต่เจ้าตัวปฎิเสธ พรรคพลังประชารัฐจะหาทางออกอย่างไร?

เศษฝรั่ง อีริค มาฉัล ปืนลั่นใส่เท้าตัวเอง ตอบโต้ สนธิ ตอบโต้ยังไง และสนธิเอาคืนยังไง ต้องฟัง

เรื่องใหญ่ นิคมอุตสาหกรรมจะนะ นิคมอุตสาหกรรม มั่งคั่ง ยังยืน แต่ประชาชนไม่ยั่งยืน เบื้องหลังเป็นอย่างไร ที่มาของเมืองต้นแบบคืออะไร และทำไมต้องเป็นจะนะ? ติดตามได้ใน SONDHI TALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep.116



คำต่อคำ SONDHI TALK [17 ธ.ค. 64] : นิคมฯ จะนะ หายนะชั่วลูกหลาน

ช่องทางการรับชมรับฟัง "คุยทุกเรื่องกับสนธิ"หรือ SONDHI TALK
เฟซบุ๊กแฟนเพจ : คุยทุกเรื่องกับสนธิ
YouTube : Sondhitalk
เว็บไซต์ : www.sondhitalk.com
Podcast หรือ podbean : SONDHI TALK


สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2564 อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ที่มีหลายเรื่อง แต่เรื่องใหญ่ๆ จะมีอยู่เรื่องเดียว จะเริ่มรายการด้วยข่าวท่านผู้ว่าฯ หมูป่า เมินลงชิงผู้ว่าฯ กทม.

เรื่องที่สอง คือเรื่อง นายยัน มาร์ฉัล (Yan Eric Marchal) ซึ่งทนไม่ไหวที่ผมออกรายการในตอนที่ 114 แล้วบอกว่าเขากินบนเรือนขี้บนหลังคา เขาออก TikTok มาตำหนิผม กล่าวหาผม ซึ่งผมสรุปว่าเขาทำปืนลั่นใส่เท้าตัวเอง เป็นอย่างไร ตามมาฟัง

เรื่องที่สาม อาจจะเป็นเรื่องพิเศษหน่อย เผอิญผมเป็นคนที่ภูมิคุ้มกันในร่างกายสูงมาก แล้วผมได้ทานยาไทยโบราณ ชื่อ "ยาลม 300 จำพวก" ผมเล่าประวัติความเป็นมาของยานี้ จากหลวงพ่อฉิมเทวดา สมัยรัชกาลที่ 5 สู่ตำรายาหลวง ในรัชกาลที่ 5

เรื่องต่อมา คือเรื่องการอัปเดตความคืบหน้าของเด็กไทย 2 คน คนหนึ่งคือ น้องพลอยเพชร นักกีฬาเทนนิสจากสงขลาที่เราให้การสนับสนุน และอีกคนหนึ่ง เป็นคนใหม่ที่เข้ามาในวงการ วงการที่ผมจะพูดถึง คือ หม่อมหลวง เวฆา ภาณุพันธ์ เยาวชนแชมป์เรือใบ

แล้วเรื่องสุดท้าย คือเรื่องของ จะนะ เหตุการณ์ในจะนะที่มีการประท้วงกัน แล้วมีชาวบ้าน ชาวจะนะ มาเรียกร้องขอคำตอบ ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมฟังเรื่องจะนะเสร็จ ต้องแชร์เรื่องจะนะไปให้คนไทยทั่วประเทศได้ดู ท่านผู้ชมจะได้รู้ถึงความอำมหิตของระบบราชการและหน่วยงานราชการบางหน่วย ตลอดจนความไม่รู้จักพอของภาคเอกชน


ท่านผู้ชมครับ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ข่าวคราวการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ที่รู้สึกว่าจะมีความเป็นไปได้พอสมควร หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้คำมั่นสัญญาว่า กลางปี 2565 จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นั้น กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง เพราะมีรายชื่อผู้สมัครที่น่าสนใจเพิ่มมาอีกหลายคน อย่างเช่น ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ที่ลาออกจากตำแหน่งอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารพระจอมเกล้า ลาดกระบัง สมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ แต่ที่คนสนใจมากที่สุดไม่ใช่คุณสุชัชวีร์ หรือ คุณอัศวิน ขวัญเมือง ที่ยังแทงกั๊กอยู่ ไม่แสดงออกเสียทีว่าจะเล่นหรือไม่เล่น กลับกลายเป็นว่าข่าวที่ฮือฮาที่สุดอาทิตย์ที่แล้ว คือเรื่องที่พรรคพลังประชารัฐ ออกมาพูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่า คนที่จะมาเป็นตัวแทนพรรคพลังประชารัฐลงสมัครรับเลือกตั้ง คือ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี หรือที่ท่านมีฉายาว่า "ผู้ว่าฯ หมูป่า" คือ คุณณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร


แต่ว่าอย่างไรก็ตาม วันอังคารที่ 14 ธันวาคม ประมาณสี่วันที่แล้ว ท่านผู้ว่าฯ ปทุมธานี ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ได้ดับความฝันของคนที่อยู่ในพรรคพลังประชารัฐ ที่คิดจะเอาผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ มาฟอกพรรคพลังประชารัฐให้สะอาดขึ้นกว่าเก่า เพราะผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ออกมาพูดจาชัดเจนว่าท่านไม่ลงแน่นอน

ผมคิดว่า ฟังคำพูดขอท่านผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ สักนิดหนึ่ง แล้วก็จะเข้าใจดี และท่านก็อาจจะสามารถตีความระหว่างบรรทัดได้ ที่ท่านผู้ว่าฯ พูด ท่านผู้ว่าฯ ท่านบอกว่า "ขอบคุณพี่น้องหลายคน ผู้ใหญ่ใจดีหลายคน พยายามทาบทาม ชักชวน หรือให้เกียรติเราในตรงนั้น ผมเชื่อว่าการที่เราได้มีคนมาถาม หรือมีคนแม้แต่ประชาชนกลุ่มหนึ่งก็ยังบอกว่า อยากให้ผู้ว่าฯ ไปช่วยที่ กทม. ตรงนี้ถือเป็นเกียรติยศอย่างสูงที่ได้รับเกียรติตรงนั้น แต่อีกมุม ผมอยู่ปทุมธานีมา 2 เดือน แล้วผมเลือกไปทำงานที่อื่น ผมจะตอบประชาชนชาวปทุมธานีได้อย่างไร ผมไม่รักคนปทุมธานีแล้วหรือ ที่ผ่านมา จะเห็นว่าเราอยู่หลายจังหวัด เราทำเต็มที่ ผมเชื่อว่า 3 จังหวัดที่ผ่านมา (ท่านเคยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา จังหวัดลำปาง ก่อนที่จะย้ายมาจังหวัดปทุมธานี) คนรักผมมากกว่าคนไม่ชอบขี้่หน้า กลับกันกับสำนวน "คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ" แต่ผมเชื่อว่า 3 จังหวัดที่ผ่านมา คนรักมากกว่า เราถือว่าเป็นความภาคภูมิใจเราเอง เกียรติยศครอบครัว ถามคนปทุมฯ เขาก็เห็นความแตกต่าง เขาอยากให้เราทำงานให้บรรลุ อยากให้ผมเป็นผู้ว่าฯ ปทุมฯ ต่อ เชื่อว่าไม่ใช่คำตอบ แต่ประชาชนคงตอบได้"


ท่านผู้ว่าฯ ยังพูดต่อเมื่อถูกถามว่า หากชีวิตราชการถึงทางตัน ท่านผู้ว่าฯ ท่านบอกว่า "จริงๆ แล้วฐานะราชการ บทบาทที่เราสวม เราสวมบทพ่อเมือง ความสำคัญ ตนดีใจว่าเป็นหนึ่งในล้าน เรามีประชากร 60 หรือ 70 ล้านคน เรามี 76 จังหวัด คือตัวเลขกลมๆ หนึ่งในล้าน เราภูมิใจเป็น 1 ล้านตรงนั้น สิ่งที่ทำงานมา เชื่อในคำพูดของพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ทรงสอน พยายามทำให้เราเป็นคนดี"

ท่านผู้ว่าฯ พูดต่อนะครับ ซึ่งเป็นคำพูดที่ฟังแล้วซาบซึ้ง "ตราบใดเป็นข้าราชการดี ก็มีความภาคภูมิใจ มีคนถามว่าเหนื่อยไหม ไปสอนหนังสือ ผมก็ยังสอนอยู่ ผมก็เหนื่อย แต่ถ้าเราสอนคน คนฟังเรา 100 คน เป็นคนดี 1-2 คน เราก็ภาคภูมิใจ สำหรับผมวัยเหลืออายุราชการ 3 ปีกว่า ในตำแหน่งหน้าที่ราชการ เรียกว่ากำลังอัสดง (ก็คือพระอาทิตย์ตกดิน) คือ ชีวิตขึ้นสูงสุดแล้ว บ้านเมืองนี้ต้องส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ อยากให้คนรุ่นหลังเข้าใจโลกความจริงของราชการ ประชาชนลำบากพื้นที่ภูมิภาค การเป็นพ่อเมืองที่ดี ข้าราชการที่ดี ตามแนวพระราชดำริ รัชกาลที่ 9 และพระประสงค์รัชกาลที่ 10 ถ้าเดินตามนั้น บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองได้" ท่านผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ กล่าว


ตรงนี้ท่านผู้ชมอ่านความระหว่างบรรทัดให้ดีๆ ก็คือพูดง่ายๆ ว่า ถ้าข้าราชการทำตัวดี แล้วเอาใจใส่ต่อประชาชน เราจะไม่มีปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งในสังคมไทยเลย อย่างเช่น ปัญหาจะนะ นิคมอุตสาหกรรมจะนะ ถ้าเรามีผู้ว่าราชการจังหวัดที่ดี ตรงไปตรงมา ไม่อยู่ภายใต้อำนาจอิทธิพลใด ยินดีที่จะยืนหยัดต่อสู้ในสิ่งที่ถูกต้อง ทำเพื่อประชาชน ท่านผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ บอกว่า "ในโลกความจริงของราชการ ประชาชนลำบากในพื้นที่ภูมิภาค" ท่านผู้ว่าฯ ยังพูดต่อว่า "อยากรับราชการจนเกษียณอายุราชการ หลังจากนั้นอยากพักผ่อน ดูแลครอบครัวและลูก เนื่องจากที่ผ่านมาทำงานตลอดเวลา แทบไม่มีเวลาดูแลเลย บางครั้งยังดูแลสุขภาพตัวเองไม่ดีพอ หลังจากนั้นก็คงอยู่ข้างทาง ดูคนอื่นๆ เขาทำงานต่อไป"

ท่านผู้ว่าฯ บอกว่า ที่ท่านไม่ลงผู้ว่าฯ กทม. นั้น ตอบไปแล้ว คือ คุณสมบัติไม่ได้จริงๆ พื้นที่ใน กทม. นั้น งานซับซ้อนกว่า งานยากกว่าไหม ก็มองว่าซับซ้อนกว่า แต่เป้าหมายของคนที่เป็นผู้ว่าฯ คือการทำให้ประชาชนที่เราเป็นคนดูแล ได้มีความสุข ท่านผู้ว่าฯ ใช้ทีมตลอดเวลา เวลาให้ลักษณะทำงานหรือเป้าหมายลูกน้อง ขอให้ประชาชนได้กินอิ่มนอนหลับ ขอแค่นี้ดูเหมือนง่าย แต่ราชการเองทำยาก หลายพื้นที่ที่เราดู ประชาชนในพื้นที่พอใจ เราเห็นแล้วว่ามีความสุข ตำแหน่งพ่อเมืองตรงนี้ เรามีความสุขมากที่ได้เห็นประชาชนด้อยโอกาส หัวเมืองไกลๆ แล้วเราทำให้มีความสุขได้ แต่กรุงเทพมหานครมันซับซ้อนอีกเยอะ ตรงนั้นผมคงไม่ถนัดจะเข้าไปในพื้นที่หัวใจของประเทศ ขออยู่ดูแลพี่น้องภูมิภาคคงจะดีกว่า หรือถ้าแปลไทยเป็นไทยก็คือว่า อยู่ภูมิภาคทำงานให้ประชาชนได้ง่ายกว่าที่จะอยู่กรุงเทพมหานคร เพราะกรุงเทพมหานครมันเป็นศูนย์กลาง เป็นที่จับตา แล้วกระทรวงมหาดไทย ซึ่งท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากับท่านผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ เพราะเป็คนย้ายผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ จากเชียงราย ไปพะเยา จากเมืองเอก ไปที่เมืองโท แล้วย้ายไปสู่ลำปาง แล้วก็ย้ายกลับมาปทุมธานี ท่านคงไม่สบายใจ และผมเชื่อว่า สมมุติถ้าท่านมาลงกรุงเทพมหานคนจริง ท่านก็คงจะอยู่ในสภาพที่อึดอัด เพราะความที่ท่านเป็นคนยอมหักไม่ยอมงอ และกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจเหนือกรุงเทพมหานคร แล้วยิ่งท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้นไม่กินเส้นกับท่านผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ชีวิตการเป็นผู้ว่าฯ กทม. ถึงแม้ได้รับเลือกตั้ง ก็จะไม่มีความสุข สู้ท่านไปบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชนในภูมิภาคดีกว่า


ท่านผู้ชมครับ ประเด็นวันนี้ที่ผมอยากจะพูด ผมมีมิติในการพูดเรื่องนี้นิดหน่อย เริ่มทีมีข่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ จะเอาผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ มาลงนั้น ผมรู้สึกประหลาดใจมาก แล้วผมเองก็เป็นคนที่ไม่เชื่อว่ามันจะเป็นความจริง แต่ผมเข้าใจว่าคงจะมีการทาบทามเอาไว้แล้ว คงมีผู้หลักผู้ใหญ่ ผมเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร คงทาบทามไว้ และถ้าเป็นอย่างจริง ถ้าท่านผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ท่านมาลงจริงๆ ในนามพรรคพลังประชารัฐ ผมก็จะเรียนท่านผู้ชมได้เลยว่าผมจะผิดหวังมาก เพราะว่าถ้าท่านมาลงจริงๆ ในนามพรรคพลังประชารัฐ ทำให้ผมเข้าใจได้ทันทีว่าท่านไม่ใช่ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ที่ผมคิดว่าท่านเป็นผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ในอุดมการณ์ ในสายตาของผม

การที่ท่านไม่มาลง ชัดเจนว่าไม่ลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ผมกลับเห็นว่า นี่ล่ะ คือผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ตัวจริงเสียงจริง ที่พวกเราคนไทยด้วยกันควรจะภาคภูมิใจ อย่างน้อยที่สุด ท่านผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ท่านเป็นคนที่ สำหรับผมแล้ว เป็นคนที่สามารถที่จะทำให้กระทรวงมหาดไทยมีหน้ามีตาขึ้นมา เพราะหาคนที่ดีอย่างผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัด นั้นหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ผมเสียใจที่ต้องพูดอย่างนี้ และขอประทานโทษถ้าผมก้าวล่วงไป หรือว่าไปดูถูกท่านผู้ว่าฯ รายอื่น ท่านอาจจะเป็นคนดีก็จริง แต่ว่าท่านผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ท่านได้ผ่านร้อนผ่านหนาว ท่านพิสูจน์ระยะทางที่ท่านเดินมาและทำงานเพื่อภาคประชาชน ตั้งแต่สมัยหมูป่า เรื่องราวของหมูป่ามาจนกระทั่งท่านถูกย้าย ท่านก็ไม่พูดสักคำ แล้วเหตุผลที่ท่านถูกย้าย ก็เพราะว่าท่านไม่ยอมตามผู้มีอิทธิพลในจังหวัดเชียงราย ที่มีเส้นสายอยู่ในกระทรวงมหาดไทย ท่านก็เลยถูกย้ายออกจากเชียงราย ซึ่งเป็นเมืองเอก ไปสู่พะเยา ซึ่งเล็กกว่าเชียงรายเยอะ เหมือนกับตบหน้ากัน คือย้ายเพื่อแกล้งท่าน แต่ท่านก็ไม่แคร์ ท่านถือว่าท่านเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านพูดถึง ท่านทำตามพระราชดำรัสของรัชกาลที่ 9 ให้เป็นคนดี ท่านก็เป็นคนดีมาตลอด ผมต้องขอคารวะท่านผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ณ ที่นี้ และท่านผู้ชมก็คงเห็นด้วยกับผมว่า ท่านผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ เป็นคนดีในหมู่คนที่อ้างตัวว่าดีหลายๆ คน

ท่านผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ครับ ไม่ต้องเสียใจ ท่านเกษียณไป คนที่แกล้งท่าน ที่อยู่กระทรวงมหาดไทย อีกไม่กี่ปีก็ต้องลงจากตำแหน่งแล้ว วันนั้นท่านก็จะเป็นคนที่หัวเราะได้ดังที่สุดนะครับ ท่านผู้ว่าฯ
.


ท่านผู้ชมครับ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ตอนที่ 114 ผมได้กล่าวถึงคนฝรั่งเศสคนหนึ่ง โดยที่ผมบอกว่า เขาเป็นคนกินบนเรือนขี้บนหลังคา ปรากฏว่า นายยัน อีริค มาร์ฉัล คนฝรั่งเศสคนนี้ ซึ่งในขณะนี้อยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ไม่สามารถกลับมาเมืองไทยได้ เพราะว่าทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีความเห็นว่า นายอีริค มาร์ฉัล ไม่ใช่คนที่สมควรเข้ามาพำนักอาศัยในประเทศไทย เพราะเป็นคนที่ไม่มีความปรารถดีต่อประเทศไทย จากการกระทำของเขาหลายการกระทำในการแสดงออกทางโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น TikTok หรือในโซเชียลมีเดียที่เขาถนัด

ก็ปรากฏว่าในวันที่ 10 ธันวาคม เจ็ดวันให้หลัง นายยัน อีริค มาร์ฉัล ก็กล่าวออก TikTok กล่าวพาดพิงถึงผม แล้วก็ว่าผมในหลายเรื่อง เผอิญนายอีริค มาร์ฉัล ทำปืนลั่นใส่ตีนตัวเอง แล้วผมจะพูดเรื่องนี้ถึงนายอีริค มาร์ฉัล นายฝรั่งเศสคนนี้ หรือเศษฝรั่ง เขาพลาดไป เขามากล่าวหาผมว่าผมประวัติฉ้อโกง จำนวนเงินมากกว่า 1 พันล้านบาท จากธนาคารกรุงไทย และนำม็อบรุนแรงยึดครองสนามบิน เอาอันหลังก่อน ม็อบประชาชนที่ไปประท้วงที่สนามบิน ไม่ใช่ประชาชนที่เน้นความรุนแรง ไม่ได้เผา ไม่ได้ทำอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ไปแสดงเจตนารมณ์เพื่อให้รัฐบาล หรือเพื่อให้คนที่มีอำนาจอยู่ในรัฐบาลนั้น ลาออก


ส่วนเรื่องการฉ้อโกงเป็นจำนวนเงินมากกว่า 1 พันล้านบาท นั้น คุณอีริค มาร์ฉัล ครับ เตรียมตัวรับหมายศาลได้เลย เพราะว่าผมเอาข้อความของคุณให้ทนายความ คุณสุวัตร อภัยภักดิ์ ดู คุณสุวัตร ตบขาตัวเองเลย พัวะ! แหม สนธิ มันเข้าทางตีนเราเลยนะ มาว่าเราแบบนี้ ผมก็เฉยๆ ทีมงานของบริษัท กฎหมายอรุณอมรินทร์ ซึ่งผมใช้ประจำ คุณสุวัตร อภัยภักดิ์ และคุณปุย บอกว่างานนี้หมิ่นประมาท 100 เปอร์เซ็นต์ ผมไม่รู้ว่าคุณอีริค มาร์ฉัล ได้ข้อมูลไปจากพรรคพวกของคุณ ใครก็ตาม แต่ใครก็ตามให้ข้อมูลนี้ไป ก็ขอให้รู้ด้วยว่า ผมไม่รู้ว่าเขาได้ข้อมูลด้วยความโง่ของเขาเอง หรือเขาจงใจกลั่นแกล้งคุณ ให้คุณมีเรื่องจะต้องถูกคดีหมิ่นประมาท แล้วคุณผิด 100 เปอร์เซ็นต์

คุณอีริค มาร์ฉัล ครับ ผมจะเอาข้อเท็จจริงเพื่อเคาะกะลาที่หนาๆ กะโหลกที่หนาๆ ของคุณ ให้คุณฉลาดขึ้นมาบ้าง ผมไม่เคยฉ้อโกงธนาคารกรุงไทย คดีความที่ผมถูกศาลฎีกาพิพากษานั้น คือ ผมผิดพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ได้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อมายืนยันในการกู้เงิน โดยเอาบริษัทไปค้ำประกันบริษัทอื่น ไม่ได้เกี่ยวกับการฉ้อโกงธนาคาร 1 พันล้าน คุณให้พรรคพวกของคุณไปหาสำนวนมาอ่านดู แล้วคุณจะเห็นว่า หนึ่ง ไม่มีการฉ้อโกง สอง ในการสืบพยาน ธนาคารกรุงไทย บอกว่าธนาคารฯ ไม่ได้เสียหายอะไรทั้งสิ้น ไม่มีเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วศาลก็พิพากษาจำคุกผมในหลายข้อหา แต่ไม่มีข้อหาฉ้อโกง หรือโกงเงินธนาคาร คุณอีริค มาร์ฉัล คุณนี่นะ ไม่รู้ว่าคุณจะได้ปลดล็อกคุณจากแบล็กลิสต์ของประเทศไทยหรือเปล่า


แต่ถ้าคุณปลดล็อกจากแบล็กลิสต์ของประเทศไทย คุณรอรับหมายจับที่สนามบินด้วย แล้วผมจะบอกให้คุณรู้ คดีนี้ ถ้าคุณกลับมาได้ ผมกับคุณสู้กันถึงศาลฎีกา คุณแพ้แน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะหลักฐานที่ผมมีอยู่ เป็นหลักฐานทางเอกสารทางราชการ ไม่มีตรงไหนเลยที่บอกว่าผมฉ้อโกง และผมไม่ได้ถูกพิพากษาจำคุกด้วยข้อหาฉ้อโกงเงินธนาคาร งานนี้สู้ถึงศาลฎีกา คุณต้องสู้แน่นอน เพราะถ้าคุณแพ้ต้น คุณต้องอุทธรณ์ คุณแพ้อุทธรณ์ คุณฎีกา เมื่อคุณฎีกาแล้ว ถ้าศาลพิพากษาว่าคุณผิด ก็อาจจะลงโทษจำคุกคุณ หรือว่าเมตตาคุณ ให้รอลงอาญา แต่แค่รอลงอาญา คุณอีริค มาร์ฉัล ผมก็จะยื่นเรื่องต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ว่า คนประเภทนี้ เมื่อโดนคดีความแล้ว ถึงแม้จะรอลงอาญา ก็ไม่สมควรจะอยู่ในประเทศไทย คุณอยู่ประเทศฝรั่งเศส เศษฝรั่งของคุณไปเถอะ อย่ากลับมาเลย เมืองไทย คุณบอกว่าคุณมีความสุข คุณก็อยู่ไปจนวันตายแล้วกัน คนอย่างคุณเหมาะที่จะอยู่กับประเทศนั้น และถ้าเป็นไปได้ เอาคุณปิยบุตร ไปอยู่ด้วยก็แล้วกัน

.


ท่านผู้ชมครับ เมื่อสัก 1-2 อาทิตย์ที่แล้ว ผมได้พูดถึงเรื่องโหราศาสตร์ กับการเมือง การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ท่านผู้ชมหลายท่านบอกว่า เดี๋ยวนี้ลุงสนธิ เอาเรื่องโหราศาสตร์มาด้วยหรือ รู้ไปหมดทุกเรื่อง ยังไม่จบครับ ผมจะเอาเรื่องยาสมุนไพรไทยตัวนี้ "ยาลม 300 จำพวก" ท่านผู้ชมอดทนกับผมนิดหนึ่ง อันนี้จะมีประโยชน์กับท่านผู้ชมที่อายุเกิน 30 ขึ้นไป และจะมีประโยชน์กับผู้ใหญ่ ที่เป็นพ่อ เป็นลุง หรือเป็นแม่ของท่านผู้ชม ในหลักการทางแพทย์แผนไทยโบราณแล้ว คนที่อายุเกิน 30 แล้ว ต้องหาทางแก้ปัญหาเรื่องลม

ท่านผู้ชมครับ เรามาย้อนหลังในเรื่องโรคโควิด-19 กันสักนิด โรคนี้ก่อความเสียหายและเสียชีวิตมากที่สุด แม้วันนี้ฉีดวัคซีนก็มีภูมิคุ้มกันกันน้อยมาก ที่สำคัญ ผู้สูงวัยกำลังเข้าสู่ภาวะภูมิคุ้มกันเสื่อมถอย หรือภาษาแพทย์เขาเรียกว่า Immunosenescence ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของโควิด-19 มากที่สุด ด้วยเหตุนี้ผู้สูงวัยจึงง่ายต่อการติดเชื้อ มีเสมหะง่าย ติดเชื้อแล้วมักจะมีอาการรุนแรงจนเสียชีวิตในที่สุด


ในการแพทย์แผนไทยอาจจะไม่ได้เห็นไวรัส ไม่เห็นตัวเม็ดเลือดขาว หรือระบบภูมิคุ้มกัน อย่างที่คนในปัจจุบันจะมีความเข้าใจ แต่ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าการแพทย์แผนไทยนั้น เป็นการแพทย์ที่มาจากธรรมชาติ ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมการแพทย์ของอินเดีย แต่ก็เป็นการแพทย์ของอินเดียที่ถ่ายทอดมาในสายของพระพุทธศาสนาเป็นหลัก ท่านผู้ชมรู้ไหมครับ ในพระไตรปิฎกนั้น มีคำอธิบายถึงคำว่า "รูปขันธ์" และลักษณะธาตุทั้ง 4 ของเรามีธาตุทั้ง 4 อยู่ในตัว คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ


ท่านผู้ชมครับ ที่ผมพูดในวันนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเป็นเรื่องของสุขภาพ และเป็นเรื่องความเป็นสุข ความสมบูรณ์ในเรื่องสุขภาพ กับความเสื่อมถอยในเรื่องของสุขภาพ แล้วเมื่ออายุมากขึ้นก็จะเกิดโรคภัยไข้เจ็บเต็มไปหมด

เรามาทำความรู้จักกับ "ธาตุลม" ของการแพทย์แผนไทย ท่านผู้ชมครับ อย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่าในบรรดาธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ เขากำหนดว่า คนที่อายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป จนสิ้นอายุขัย นับได้ว่าเป็นผู้สูงวัย เพราะว่าหางโครโมโซมจะสั้นลง คุณภาพการแบ่งเซลล์ทุกชนิดจะเสื่อมถอยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อท่านเกิดปรากฏการณ์เชื้อโควิดทำให้กลุ่มผู้สูงวัยเป็นกลุ่มที่มีการเสียชีวิตมากที่สุด ซึ่งหลักๆ แล้วกลุ่มคนพวกนี้มีปัญหา ธาตุลม เป็นปัญหาหลัก

แล้ว "ธาตุลม" เป็นอะไร ? ท่านผู้ชมคงถามผมแบบนี้ ยกตัวอย่างธาตุลม ธาตุลม คือการเคลื่อนไหวของสรรพสิ่ง อย่างเช่น ระบบทางเดินอาหาร การขับถ่าย หัวใจเต้น การเคลื่อนตัวของเลือด อาการปวดที่สารสื่อส่งไปที่สมอง ตากระพริบ การหายใจ การเคี้ยว การเดิน การวิ่ง การพูด การคิด จิตใจ ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยการสั่งการของสมองและสารสื่อประสาททั้งสิ้น ถ้าไม่เชื่อ ท่านผู้ชมลองถามคุณพ่อดู ผม 75 แล้ว คนอายุมากๆ เวลาทานอาหารจะทานได้ยาก บางทีทานแล้วอาหารจะหลุดออกจากปาก เพราะลักษณะการกลืนอาหาร ระบบทางเดินอาหาร มันเริ่มไม่สมบูรณ์


ท่านผู้ชมครับ ผมเป็นคนที่ไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น การขับถ่ายผมถูกต้องตามเวลา อุจจาระไม่แข็ง หัวใจเต้นปกติ การเคลื่อนตัวของเลือด อาการปวดไม่มีที่สมอง การหายใจปกติ การเคี้ยวของผมปกติ การเดิน การวิ่ง แต่ผมไม่เคยวิ่ง ผมเดินเอา การพูด การคิด จิตใจ ท่านผู้ชมดูรายการผมก็ต้องรู้แล้วว่าผมเป็นคนมีความจำที่ดี

ท่านผู้ชมครับ ถ้าธาตุลมผิดปกติ ของผู้สูงวัยส่วนใหญ่มันเกิดขึ้นเพราะว่าธาตุไฟมันหย่อนลงไป ถ้าเปรียบเทียบการเคลื่อนไหวทั้งปวงที่ไม่ปกติเมื่ออายุมากขึ้น มักจะเกิดจากความเสื่อมตามวัย คนอายุมากขึ้น ธาตุไฟจะหย่อนลง ท่านผู้ชมจำได้ไหมครับ ผมเคยบอกว่า อีกไม่นานนี้ผมจะแนะยาเสริมหลายอย่างที่เอาไว้ทาน เพื่อที่จะพัฒนาและเพิ่มพูนภูมิคุ้มกันร่างกาย

ท่านผู้ชมครับ พอท่านผู้ชมอายุมากขึ้น ไฟในการย่อยอาหารก็เริ่มพิการ ความสมบูรณ์ในระบบการย่อยอาหารอ่อนแอลง กินได้น้อยลง ท้องอืดง่าย อ้วนง่าย หลอดเลือดอักเสบง่าย ก็เลยทำให้เกิดความผิดปกติของธาตุลม

ท่านผู้ชมครับ เมื่อเวลาธาตุไฟ กับธาตุลม เกิดความผิดปกติในผู้สูงวัย ถ้ามาวิเคราะห์ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วจะพบว่าพลังงานที่น้อยลงนำไปสู่การแบ่งเซลล์และการเคลื่อนไหวที่น้อยลง คือวิเคราะห์จากธาตุของเม็ดเลือดขาว ผู้สูงขาว การแบ่งเซลล์เม็ดเลือดขาวย่อมทำได้น้อยลง การเคลื่อนตัวของเม็ดเลือดขาวย่อมช้าลงตามไปด้วย และนี่คือที่มาของการอธิบายของแพทย์แผนไทย ซึ่งอธิบายกลไกธาตุตามแนวทางพุทธศาสนา ถึงธาตุที่ 4 ของผู้สูงวัยในยุคปัจจุบันที่พูดว่า ภาวะภูมิคุ้มกันเสื่อมถอยของผู้สูงวัย


ท่านผู้ชมครับ ในการแพทย์แผนไทยเขาเลยกำหนดรสยาและรสอาหารในผู้สูงวัย ให้ใช้ "พิกัดวาตะ" (วาตะ คือ ลม) คือต้องใช้รสยาหรืออาหารที่เป็นรสขมร้อน รสเผ็ด รสฝาด หอมเย็น เป็นทางแก้ ถ้าท่านผู้ชมมีญาติผู้ใหญ่ คุณพ่อคุณแม่ อายุมาก ให้ระมัดระวังการทานอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลให้น้อยลง เพื่อลดโรคทางเสมหะ รวมทั้งหลีกเลี่ยงมื้อเย็น ผมเป็นคนไม่ทานมื้อเย็นมาหลายปีแล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ธาตุไฟหย่อนอยู่แล้ว กินอาหารที่มีรสขมและเผ็ดร้อนให้มากขึ้น แล้วเราจะทำอย่างไรเพื่อจะแก้ปัญหาโรคทางลม ในการแพทย์แผนไทยนั้นมีอยู่หลายตำรับ แต่ตำรับยาที่ผมให้ความสำคัญ อันนี้ที่ผมได้ความรู้จากอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นะครับ คือตำรับยาในพระคัมภีร์กระษัย

พระคัมภีร์กระษัย อยู่ในตำรายาหลวง ยาหลวงที่มีชื่อแพทย์ศาสตรสงเคราะห์ สมัยรัชกาลที่ 5 รวบรวมสำเร็จโดย พระยาพิศณุประสาทเวช เมื่อปี 2450 (114 ปีที่แล้ว) ท่านผู้ชมอดทนนิดหนึ่งครับ


ในพระคัมภีร์กระษัย กล่าวถึงโรคที่ทำให้มีการอาการแห่งความเสื่อมโทรม ซูบผอม สุขภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ เนื่องจากเป็นโรคหรือเป็นไข้อย่างใดอย่างหนึ่ง ทำลายสุขภาพของร่างกายให้เสื่อมโทรมลงไปทีละน้อย เป็นเวลาต่อเนื่องกันโดยไม่รู้ตัว เราไม่ได้บำบัดรักษา หรือรักษาแต่ไม่ถูกกับโรคหรือไข้นั้นโดยตรง เพราะฉะนั้นแล้ว คุณพ่อคุณแม่ หรือตัวท่านผู้ชมเอง ล้วนแล้วแต่มีโรคเสื่อมโทรมตามวัย จะค่อยๆ เสื่อมโทรมไปเรื่อยๆ และไม่สามารถรักษาหายขาด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ผมไม่ได้เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตปกติ โรคหลอดเลือดหัวใจ ผมปกติ โรคหลอดเลือดสมอง โรคปวดนั่นปวดนี่ ต่อมลูกหมาก โรคซึมเศร้า โรคสมองเสื่อม ทั้งหมดนี่ผมไม่ได้เป็นเลย สมองเสื่อม ท่านผู้ชมคงรู้ใช่ไหมครับ สมองผมไม่ได้เสื่อม ถ้าเสื่อมก็คงไม่มีทางที่จะมาออกรายการนี้กับท่านผู้ชมได้

เพราะฉะนั้นแล้ว ผู้สูงวัย อายุยิ่งมากขึ้น ยิ่งเสี่ยงเข้าสู่ช่วงเวลาที่มีโรคกระษัยอย่างใดอย่างหนึ่งทั้งสิ้น เพราะอะไร ? เพราะเป็นการเสื่อมตามวัย แต่มีตำรับยาหนึ่งที่ปรากฏในพระคัมภีร์กระษัย ผมไม่ได้คิดเองนะครับ อาจารย์ปานเทพ ก็ไม่ได้คิดเอง ซึ่งแก้โรคเกี่ยวกับสารพัดธาตุลมเอาไว้อย่างน่าสนใจ และที่สำคัญ เป็นยาอายุวัฒนะในตำรายาหลวงด้วย ยานี้แก้โรคทางธาตุลมทั้งปวงได้ถึง 300 จำพวก

เมื่อผมคุยกับอาจารย์ปานเทพแล้ว อาจารย์ปานเทพให้ข้อมูลมา ผมจึงเห็นว่าตำรับยานี้ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะต้องป่วยถึงจะรับประทานได้ แต่คนโบราณเขาเรียกว่า "ยาอายุวัฒนะ" ที่รับประทานได้สำหรับผู้สูงวัยทุกคน ถึงแม้จะไม่ป่วย ท่านผู้ชม ผมรับประทานอยู่ประจำเป็นเวลา 9 เดือนแล้ว ที่สำคัญ ตำรับยานี้แก้โรคทางลมได้อย่างดีมาก ที่สำคัญที่สุด ตำรับยานี้ไม่เพียงเป็นตำรับยาสุดท้ายในพระคัมภีร์กระษัย แต่ยังเป็นตำรับยาที่เพิ่งนำมาบรรจุไว้ครั้งแรกในตำราแพทยศาสตร์สงเคราะห์ ในรัชกาลที่ 5 โดยที่ไม่มีการสืบทอดจากตำราหลวงในรัชกาลอื่นมาก่อน หรืออธิบายง่ายๆ ตำรับยานี้เกิดขึ้นมาแล้วถูกบรรจุเข้าไปเลย ในตำราหลวง ธรรมดาแล้วตำราหลวง ยาที่บรรจุนั้นจะเป็นยาเก่าแก่ที่ถูกสืบทอดมา แต่ตำรับนี้ไม่ใช่ เพราะอะไร ? แสดงว่าตำรับยานี้ต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดา เป็นตำรับยาใหม่ในรัชกาลที่ 5 ที่ต้องได้รับการยอมรับอย่างสูง เพราะถ้าไม่ได้รับการยอมรับ จะมาบรรจุในคัมภีร์นี้ได้อย่างไร ท่านผู้ชมอย่าลืมนะ สมัยโบราณ มีหมอยาในราชสำนัก สกุลใหญ่ๆ ก็มีหมอยาของตัวเอง ยังไม่สามารถนำตำรับยาของตัวเองมาบรรจุในตำรายาหลวงได้ แต่ยานี้กลับบรรจุได้

ปรากฏว่ามีเบื้องหลังของคนที่คิดยานี้ขึ้นมา ตำรายาแพทยศาสตร์สงเคราะห์ ระบุว่า ตำรายานี้มาจากพระสงฆ์รูปหนึ่ง ชื่อ หลวงพ่อฉิม หลวงพ่อฉิม หรือสมัยโบราณเรียกว่า ขรัวพ่อฉิม

ขรัวพ่อฉิม เป็นใคร ? ทำไมตำรับยานี้ถึงได้มีโอกาสบรรจุไว้เป็นตำรับยาสุดท้าย เป็นตำรับยาสุดท้าย นัยก็คือว่า เป็นยาที่สำคัญที่สุดในพระคัมภีร์กระษัย ของตำรายาหลวง ท่านผู้ชมตามผมมา

ใครคือหลวงพ่อฉิม ? มีวัดอยู่วัดหนึ่งบนถนนจักรวรรดิ์ เขตสัมพันธวงศ์ ชื่อ "วัดชัยชนะสงคราม" เดิมทีชื่อ "วัดตึก" ทุกวันนี้ไปแถวถนนจักรวรรดิ์ แถวโน้นเขาก็เรียก วัดตึก สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 3 โดยเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) แม่ทัพใหญ่คู่พระบารมีของพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว สร้างไว้เป็นอนุสรณ์ในการทำสงครามกับญวน-เขมร ถึง 14 ปี จึงได้รับชัยชนะ

เจ้าอาวาสรูปแรกของวัดนี้คือ พระอาจารย์ฉิม ถูกเรียกว่า ขรัวพ่อฉิม (ขรัว แปลว่า ภิกษุ พระที่มีอายุมาก) สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ก็เคยถูกเรียกว่า ขรัวพ่อโต เช่นกัน

ขรัวพ่อฉิม ตอนที่ท่านเป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่รัชกาลที่ 3 มาจนถึงรัชกาลที่ 5 มีกิตติศัพท์มากว่าเป็นคนที่แก่กล้าทางวิทยาคมเวทมนต์คาถา แตกฉานในพระธรรมและตั้งอยู่ในศีลและพรหมวิหาร นอกจากนั้น ยังเชี่ยวชาญการรักษาโรคต่างๆ อีกด้วย การที่พระสงฆ์ของไทยมีความเชี่ยวชาญในการรักษาได้ ก็เพราะว่าการแพทย์แผนไทยพัฒนามาจากการแพทย์แผนอินเดียในสายศาสนาพุทธ สามารถมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เรื่องรูปขันธ์ ธาตุทั้ง 4 ของพระไตรปิฎกอยู่แล้ว ก็เลยสามารถเข้าใจหลักการของธรรมชาติและตำรับยาได้ดี

ชื่อเสียงของหลวงพ่อฉิม หรือ ขรัวพ่อฉิม นั้น ทำให้เสด็จพ่อ (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5) อาราธนาหลวงพ่อฉิม ไปรักษามหาดเล็กคนหนึ่งซึ่งป่วยเป็นโรคฝีในท้อง ในพระบรมมหาราชวัง ท่านผู้ชมครับ ผมจะเล่าวิธีการรักษาให้ฟังนิดหนึ่ง สนุกครับ ท่านผู้ชมอดทนนิดหนึ่ง

ขรัวพ่อฉิม ไปถึงก็ให้มหาดเล็กที่ป่วยนอนหงายบนใบตอง เอามีดหมอจิ้มที่หน้าอกมหาดเล็กที่ป่วย ใช้น้ำมันมนต์เทลงบนปลายมีด เทไปเรื่อยๆ เพื่อให้น้ำมันมนต์นั้นไหลเข้าไปในทรวงอก จนกระทั่งน้ำมันมนต์จำนวน 2 ขวด หมดลง ก็เลยสั่งให้ผู้ป่วยนอนพักอยู่ราวครึ่งชั่วยาม หลังจากนั้นไม่นานนัก ผู้ป่วยถ่ายอุจจาระออกมาเป็นน้ำเลือดน้ำหนองเต็มไปหมด รัชกาลที่ 5 ก็เลยรับสั่งถามว่า อาการโรคที่ว่ากี่วันจะหายปกติ หลวงพ่อฉิม หรือ ขรัวพ่อฉิม ถวายพระพรว่า ภายใน 7 วัน ก็หายเป็นปกติ แล้วหายจริงๆ หลังจากครบ 7 วัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ถึงกับเรียกหลวงพ่อฉิม ว่า "ขรัวฉิมเทวดา" พระราชทานไตรแพรและเงินจำนวน 80 ชั่ง ให้


ท่านผู้ชมครับ ความแตกฉานของขรัวพ่อฉิมนี่เอง พระยาพิศณุประสาทเวช ถึงยอมรับและบรรจุตำรับยาลม 300 จำพวก ของหลวงพ่อฉิม ใส่เป็นตำรับยาสุดท้ายในพระคัมภีร์กระษัย ในตารางแพทยศาสตร์สงเคราะห์ ตามปกติแล้ว ในการเขียนเป็นตำรับยาสุดท้าย ซึ่งปกติแล้วจะมีการซ่อนความหมายไว้ว่า เป็นตำรับยาที่ให้ความสำคัญเป็นที่สุด ด้วยข้อความในฐานะอายุวัฒนะที่ทรงคุณค่า

ท่านผู้ชมครับ ตำรับยาของหลวงพ่อฉิม ยาอายุวัฒนะนี้ อาจารย์ปานเทพเอามาทำ เผอิญอาจารย์ปานเทพ ก็เป็นคณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต อาจารย์ปานเทพก็เลยสงสัยว่า จะขอถอดรหัสในทางสรรพคุณยานี้ว่ามีตรงไหนบ้าง โดยใช้หลักวิทยาศาสตร์เข้ามาคิด อย่างน้อยที่สุด เราได้รู้ว่าโรคระบาดครั้งนี้ล้วนเกี่ยวกับโรคธาตุลมทั้งนั้น คือผู้สูงวัยมีปัญหาโรคธาตุลม ดาวราหู ดาวมฤตยู และดาวอังคาร ที่กระทำให้เกิดโรคระบาด ก็ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับธาตุลม เพราะฉะนั้น ยาลม 300 จำพวก นี้ จึงเป็นยาที่เหมาะแก่ผู้สูงวัยในสถานการณ์เช่นนี้ โดยสามารถรับประทานได้ทันที ไม่ต้องรอการเจ็บป่วยใดๆ


อาจารย์ปานเทพเลยต้องไปเฟ้นหาสมุนไพรแต่ละตัวให้ได้คุณภาพอย่างแท้จริง เพื่อมาปรุงเป็นตำรับ "ยาลม 300 จำพวก" ตามปริศนาที่หลวงพ่อฉิมให้มรดกภูมิปัญญาไว้

ท่านผู้ชมครับ ผมได้ทาน อาจารย์ปานเทพเอามาให้ผมทานเมื่อ 9 เดือนที่แล้ว ผมทานทุกวัน ช่วงบ่ายโมง จนถึง 6 โมงเย็น วันละซอง ซองหนึ่งก็ใส่น้ำร้อนชง คนจนยาละลายแล้วก็ทาน เผ็ด ขม กลิ่นยาไทยแรง แต่ผมทานมา สุขภาพผมดีขึ้นตลอดเวลา ธรรมดาก็ไม่เป็นอะไรอยู่แล้ว แต่กลับดีกว่าเก่า กลิ่นและรสแรงกว่า แตกต่างจากท้องตลาดทั่วไป แค่ดมก็รู้สึกว่าเป็นรสขมร้อน ทำให้เกิดพลังงานความร้อนอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญคือ ยานี้ ตามตำราโบราณเขียนว่า "ยาอายุวัฒนะ" อาจารย์ปานเทพเป็นคนที่ไม่ค่อยพอใจอะไรนัก เป็นคนค่อนข้างที่จะเรื่องมาก ก็เลยเอายานี้ไปทดสอบทางวิทยาศาสตร์ ไปทดสอบที่ไหน ? ห้องปฏิบัติการสถาบันโภชนาการมหิดล มหาวิทยาลัยมหิดล คณะโภชนาการ คืออาจารย์ต้องการทดสอบว่า ถ้ายานี้เป็นยาอายุวัฒนะจริง จะต้องมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระด้วย โดยอนุมูลอิสระ ก็คือปัจจัยทางชีวะเคมีในการทำให้เกิดความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย และสิ่งที่อาจารย์ปานเทพเอาไปทดสอบได้ผล ดังนี้

ประการแรก อาจารย์ปานเทพนำยาลม 300 จำพวก ของหลวงพ่อฉิม อาจารย์ปานเทพทำขึ้นมาตามสูตรตำรายาหลวงเลย ไปตรวจวัดค่า ORAC เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ค่านี้คือค่าอะไร ? ค่านี้เป็นการวัดความสามารถในการดูดซับอนุมูลอิสระ ออกซิเจน ว่าได้ผลเท่าไร ท่านผู้ชมรู้ไหมครับ ยานี้ "ยาลม 300 จำพวก" ติดอันดับหนึ่งในห้า สูงสุดในอันดับแรกจากข้อมูลพืช สมุนไพร ผัก ผลไม้ เครื่องเทศ อาหารที่มีศักยภาพทั้งหมด 326 รายการ ที่องค์การอาหารและยาของอเมริกาได้เคยรวบรวมและทดสอบ รวบรวมเผยแพร่ไว้เมื่อปี 2553 หนึ่งในห้านะท่านผู้ชม รักษา กำจัดอนุมูลอิสระได้


อาจารย์ปานเทพยังไม่พอใจ เอา "ยาลม 300 จำพวก" 100 กรัม ไปวัดปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีชื่อว่า กลุ่มสารโพลีฟีนอล (Polyphenol) เป็นครั้งแรกของโลก ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับอาหาร สมุนไพร ผัก ผลไม้ เครื่องเทศ อาหารที่มีศักยภาพสูงสุด 100 อันดับแรก ตีพิมพ์โดยวารสารโภชนาการคลินิกทางยุโรป European Journal of Clinical Nutrition 2553 ปรากฏว่ายานี้มีสารโพลีฟีนอลในด้านอนุมูลอิสระสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในสามของโลก อันดับแรกของอาหาร

ตำรับยาของหลวงพ่อฉิม อาจารย์ปานเทพได้ถอดปริศนาสำเร็จ เป็นยาอายุวัฒนะได้ด้วย เพราะมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ

ยิ่งไปกว่านั้น ตำรับยานี้ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ในฐานะเป็น "ตำรับยาของชาติ" เป็นตำรายาหลวง เป็นภูมิปัญญาแพทย์ไทย ที่ควรสืบทอดมรดกที่ทรงคุณค่าต่อไป


ท่านผู้ชมครับ ฟังแล้วอาจจะน่าเบื่อ แต่ว่าท่านผู้ชมฟังไปเรื่อยๆ นี่เป็นเรื่องของชีวิต นี่เป็นเรื่องของสุขภาพ คนอายุเกิน 30 ต้องกิน ถ้ายังต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ท่านผู้ชมติดต่อมาใน inbox ได้ ติดต่อมาใน inbox เลย กล่องหนึ่งมี 30 ซอง ผมทานมาแล้ว 9 เดือน ผมเคยไปตรวจภูมิคุ้มกันของผม ที่โรงพยาบาลตำรวจ คุณหมอโสภณรัชต์ แพทย์ใหญ่ ท่านตรวจท่านอึ้ง ท่านบอกว่า ท่านครับ ภูมิคุ้มกันท่านสูงมากเลยนะ สูงมากๆ คนอายุขนาดท่านไม่ควรจะมีภูมิคุ้มกันสูงขนาดนี้ บอกว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาหารการกินของผม และผมทานยาอีกหลายประเภท แล้ววันหลังผมจะเล่าให้ฟังว่าวิธีสร้างภูมิคุ้มกันของผม สนธิ ลิ้มทองกุล มีอะไรบ้าง นอกจากยาลม 300 จำพวก ยังมีอะไรอีก

ท่านผู้ชมครับ ไม่ได้ขายอะไรทั้งสิ้น เล่าให้ฟัง ถ้าอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเข้ามาใน inbox ได้ อยากให้คุณพ่อคุณแม่ที่อายุมากแล้ว หรืออยากให้ท่านซึ่งอายุมากแล้ว ได้ทานยาอายุวัฒนะ ซึ่งเป็นสมุนไพรไทย และอยู่ในตำรับยาหลวง ของหลวงพ่อฉิม ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บอกว่า "ขรัวฉิมเทวดา" หมอเทวดาครับท่านผู้ชม
.


ท่านผู้ชมครับ สัปดาห์นี้ผมมีเรื่องของเด็กไทยที่มีพรสวรรค์ ที่มีความโดดเด่นทางด้านกีฬา มาอีก 1 คน นอกเหนือจากน้องพลอยเพชร ด้วงเขียว ที่ผมเคยกล่าวไปแล้วหลายครั้ง อัปเดตเรื่องน้องพลอยเพชร นิดหนึ่งครับ จะได้รู้ว่าน้องพลอยเพชร ที่เราให้การสนับสนุนนั้น ตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว

น้องพลอยเพชร ปัจจุบันอายุ 9 ขวบ ตอนนี้ถ้าเป็นรายการใหญ่ๆ ก็จะอัปรุ่นขึ้นไปแข่งรุ่นอายุ 12 ปีแล้ว เพราะว่ารุ่นเดียวกันไม่มีคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อ ส่วนในรุ่น 10 ปี ในรายการอื่นๆ ก็ยังต้องลงแข่งอยู่ เพื่อทำ Ranking records สรุปผลในเดือนตุลาคม ถึงปัจจุบัน ของน้องพลอยเพชร


8-12 ตุลาคม ได้รางวัลชนะเลิศหญิงคู่ อายุไม่เกิน 10 ปี รายการชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 59 ประจำปี 2564 ที่เมืองทองธานี

23 ตุลาคม 2564 ได้แชมป์หญิงเดี่ยว รุ่นอายุ 12 ปี รายการ PTT ลอนเทนนิสพัฒนาฝีมือ ครั้งที่ 7 ที่ จ.ภูเก็ต

22-29 พฤศจิกายน ได้รองชนะเลิศอันดับ 1 รุ่น 12 ปี รายการ PTT-ลอนเทนนิสพัฒนาฝีมือ ครั้งที่ 8 จ.พังงา

ล่าสุด วันที่ 4-5 ธันวาคม ได้แชมป์หญิงเดี่ยว รุ่นอายุ 10 ปี จากรายการ CAL-COMP & CCAU Industry 4.0 Open 2021 ที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์


ท่านผู้ชมครับ ความคืบหน้าการฝึกซ้อมและการศึกษาของน้องพลอยเพชร ช่วงนี้้น้องพลอยเพชร เรียนออนไลน์อยู่ ก็เลยได้มาอยู่กรุงเทพฯ เพื่อฝึกซ้อมกับคุณดนัย อุดมโชค อดีตนักเทนนิสทีมชาติ มือวางอันดับ 77 ของโลก ล่าสุด คุณดนัย อุดมโชค กลับมาลงสนามอีกครั้ง คว้าแชมป์ชายเดี่ยวเทนนิส Singha Thailand Masters 2021 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม 2564


ตอนนี้น้องพลอยเพชร ไปฝึกซ้อมกับคุณดนัย ที่ Danai Tennis Academy ซอยอินทามระ 12 ทุกวัน ซึ่งตอนนี้คุณดนัย ได้จัดโค้ชฟิตเนสมาดูแลเรื่องการเคลื่อนไหวให้พลอยเพชร สัปดาห์ละ 5 วัน นอกจากนั้นแล้ว มูลนิธิไชย้ง ลิ้มทองกุล ที่ได้เงินบริจาคจากท่านผู้ชมเพื่อมาสนับสนุนน้องพลอยเพชร ก็ได้เช่าบ้านที่อยู่ใกล้โรงเรียนอมาตยกุล ให้พ่อแม่และน้องพลอยเพชรอยู่ เพราะโรงเรียนอมาตยกุล ตกลงรับน้องพลอยเพชร ให้ย้ายมาเรียนปีหน้า ในปี 2565


ท่านผู้ชมครับ ยังมีเด็กอีกคนหนึ่ง อายุ 14 ปี ชื่อ หม่อมหลวง เวฆา ภาณุพันธ์ อนาคตของน้องเวฆา คนนี้ เป็นนักกีฬาระดับโลกในเรื่องเรือใบไทย

12 พฤศจิกายน เดือนที่แล้ว หม่อมหลวง เวฆา ภาณุพันธ์ นักเล่นเรือใบดาวรุ่ง อายุ 14 ปี คว้าแชมป์เรือใบ Optimist Asian and Oceanian Championship 2021 ได้สำเร็จ ทำให้ไทยได้ครองถ้วยรางวัล Perpetual Trophy เป็นสมัยที่ 3


ท่านผู้ชมครับ การแข่งขันเรือใบ Optimist Asian and Oceanian Championship 2021 ประเภทบุคคล จัดที่หน้าสโมสรเรือใบราชวรุณในพระบรมราชูปถัมภ์ บริเวณชายทะเลเขาพระตำหนัก พัทยาใต้ จ.ชลบุรี การแข่งขันเรือใบครั้งนี้ แข่งกัน 10 เที่้ยว มีเรือใบเข้าแข่ง 65 ลำ จาก 8 ประเภท


วันที่ 12 เป็นวันแข่งเรือใบวันสุดท้ายของหม่อมหลวง เวฆา ภาณุพันธ์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการเข้าแข่งขันเที่ยวสุดท้าย เป็นเที่ยวที่สิบ เข้าเส้นชัยเป็นที่หนึ่ง เมื่อดูคะแนนรวมทั้งหมดของนักกีฬาทั้ง 65 คนแล้ว หม่อมหลวง เวฆา ทำได้ดีที่สุด คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ เรียกได้ว่าสายเลือดกีฬาของ หม่อมหลวง เวฆา เข้มข้นมากๆ ท่านผู้ชมรู้หรือเปล่าว่าเพราะอะไร ?

หม่อมหลวง เวฆา ภาณุพันธ์ มีเสด็จปู่ คือพระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช ที่คนไทยรู้จักในนาม "พระองค์เจ้าพีระ" นักแข่งรถฟอร์มูลาวัน (Formula One) ของไทย


ผู้ที่เป็นแชมป์กรังด์ปรีซ์หลายสมัยในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้รางวัลดาราทองจากสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักร สามปีซ้อน พระองค์ทรงได้รับบรรจุพระนามในหอเกียรติยศของสมาคมนักแข่งรถอังกฤษ

วันที่ 5 ธันวาคม 2480 พระองค์พีระ ทรงนำรถ "รอมิวลุส" (Romulus) ที่ชนะการแข่งขัน มาอวดโฉม ประลองความเร็วให้ชมที่ถนนราชดำเนิน ปี 2480 คนกรุงเห่อพระองค์มาก แห่ไปชมจนแทบจะเบียดกันตาย


หลังสงครามแล้วพระองค์ท่านก็เลยเลิกแข่งรถ หันไปเล่นเรือใบจนได้เข้าแข่งขันในโอลิมปิกฤดูร้อน ในนามประเทศไทยหลายสมัย

นั่นคือคุณปู่ครับ ส่วนคุณตาของ หม่อมหลวง เวฆา คือคุณวิโรจน์ นวลแข อดีตศิษย์เก่าวชิราวุธ อดีตนักรักบี้ทีมชาติ ตั้งแต่อยู่จุฬาฯ ปี 1 คุณวิโรจน์ นวลแข จบบัญชีจุฬาฯ หลังจากนั้นแล้วก็ไปเรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน หลังเลิกเล่นรักบี้แล้ว ยังรักการแข่งขันที่ไม่ต้องใช้แรงปะทะ ที่ตัวเองชื่นชอบที่สุดคือเรือใบ มุ่งมั่นฝึกซ้อมจนติดทีมชาติ เข้าร่วมการแข่งขันและชนะหลายครั้ง และเคยได้เหรียญทองในกีฬาซีเกมส์


คุณวิโรจน์ เป็นคนที่ชอบไตรกีฬา โหดที่สุด ชอบร่วมการแข่งขันเพื่อหาสุดยอดมนุษย์เหล็ก ไตรกีฬาที่คุณวิโรจน์เข้าไปแข่งนั้นต้องวิ่ง 3.86 กิโลเมตร ขี่จักรยาน 180.25 กิโลเมตร แล้ววิ่งอีก 42.2 กิโลเมตร ติดต่อกันแบบไม่มีเวลาให้พัก คุณวิโรจน์ได้เข้าแข่งหลายครั้งแม้ในระดับซีเนียร์

ท่านผู้ชมครับ หม่อมหลวง เวฆา ภาณุพันธ์ ได้รับการสนับสนุนจากคุณตาให้เล่นเรือใบตั้งแต่เล็ก เล่นได้ดีจนเป็นแชมป์ระดับประเทศ และเป็นแชมป์ระดับนานาชาติหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน


ส่วนบิดา คือ หม่อมราชวงศ์ พีรานุพงศ์ หรือ คุณเบิร์ด พ่อของหม่อมหลวง เวฆา ก็เป็นอดีตนักกีฬาเรือใบมือวางอันดับ 14 ของโลก คว้าเหรียญทองจากการแข่งซีเกมส์ และการแข่งขันชิงแชมป์โลกอีกหลายรายการ ส่วนแม่ของ หม่อมหลวง เวฆา คือ คุณกรวิก ภาณุพันธ์ ณ อยุธยา หรือ วิกกี้ ลูกสาวของวิโรจน์ นวลแข ก็ชอบเล่นเรือใบมาตั้งแต่ยังเด็กเช่นกัน เพราะคุณพ่อ (วิโรจน์ นวลแข) ชอบพาไปเล่นที่พัทยา

ขณะที่วิโรจน์ นวลแข มีศักดิ์เป็นตาของ หม่อมหลวง เวฆา เป็นอดีตนักรักบี้ทีมชาติ หลังจากเลิกเล่นรักบี้ หันมาเล่นเรือใบ มุ่งมั่นฝึกซ้อมจนติดทีมชาติ เข้าร่วมแข่งขัน คว้าชัยชนะได้หลายครั้ง


ก่อนหน้านี้ ปี 2563 (ปีที่แล้ว) อายุแค่ 12 ปี หม่อมหลวง เวฆา คว้าชัยชนะจากการแข่งเรือใบชิงแชมป์ประเทศไทย ในรุ่น Optimist ประจำปี 2020 และการแข่งขัน Optimist European Championships 2021 มาครองได้สำเร็จ ก่อนที่เขาจะมีอายุครบ 13 ปี

เดือนกุมภาพันธ์ 2564 เขายังคว้าถ้วยรางวัลอีก 1 ใบ จากการแข่งขัน Admiral Cup ที่พัทยา รายการดังกล่าวถือว่าเป็นการแข่งขันเรือใบดิงจี้ (Dinghy) ที่มีความเร็วระหว่าง 5-13 น็อต อันเป็นเกียรติที่สุดในรายการหนึ่งของภูมิภาค หม่อมหลวง เวฆา สามารถคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งอีก 69 ราย ตลอดทั้ง 9 เที่ยวในการแข่งขัน

ท่านผู้ชมครับ เด็กสองคน หม่อมหลวง เวฆา นั้นโชคดีที่คุณพ่อมีเงิน คุณตามีเงิน และคุณปู่ พระองค์เจ้าพีระ แต่รักในกีฬาเรือใบอย่างมาก และคุณแม่ก็บินไปให้กำลังใจตลอดเวลา ทักษะ ศักยภาพในการแข่งขันสูงมาก หม่อมหลวง เวฆา มีโอกาสที่จะเป็นตัวแทนแข่งเรือใบของประเทศไทยในกีฬาโอลิมปิก โชคดีอย่างที่ผมไม่ต้องมาหาทุนสนับสนุน หม่อมหลวง เวฆา เพราะว่าคุณพ่อมีเงิน คุณตาก็มีเงิน


น้องพลอยเพชร ก็เป็นคนๆ หนึ่งที่เป็นเพชรในตม เพียงแต่น้องพลอยเพชร ต่างกว่า หม่อมหลวง เวฆา ตรงที่ว่าไม่ได้มีโอกาส ผมและท่านผู้ชมหลายท่านที่เสียสละเงินทองสนับสนุนน้องพลอยเพชร ก็เป็นผู้ที่ให้การสนับสนุนเด็กดี มีคุณภาพดี มีความสามารถดีอีกคนหนึ่ง

สองคน ต่างชาติวุฒิ ต่างฐานะ แต่ว่าทั้งสองคนทำชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ท่านผู้ชมครับ ปรบมือให้กับทั้งน้องพลอยเพชร ด้วงเขียว และ หม่อมหลวง เวฆา ภาณุพันธ์ ขอให้ทั้งสองคนจงเดินไปสู่เป้าหมายที่ตัวเองตั้งเอาไว้

ท่านผู้ชมครับ วันนี้ผมไม่พูดถึงเด็กสาวคนหนึ่งที่ชื่อ ไครียะห์ ฉายาของเธอ คือ "ลูกสาวแห่งทะเลจะนะ" ไม่พูดไม่ได้ครับ


ท่านผู้ชมครับ เด็กคนนี้เมื่อสองปีที่แล้ว เดือนพฤษภาคม ปี 63 เธออยู่แค่ ม.6 เธอและแม่ของเธอไปปูเสื่อ กางมุ้ง ค้างคืนหน้าบันไดศาลากลางจังหวัดสงขลา นานเกือบ 50 ชั่วโมง เพื่อรอคำตอบหลังยื่นจดหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ยกเลิกเวทีรับฟังความคิดเห็น เพราะเวทีจำกัดสิทธิการเข้าร่วมของคนในพื้นที่ แล้วยังจัดในช่วงโรคระบาด ในช่วงเดือนรอมฎอนที่ถือศีลอด

เดือนกรกฎาคม ยะห์ (ชื่อเล่น) เดินจากสงขลามาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ ขอให้ยกเลิกมติ ครม. เรื่องนิคมอุตสาหกรรมจะนะ

ปัจจุบันนี้ ไครียะห์ เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) วิทยาเขตปัตตานี 29 พฤศจิกายน 2564 เดินทางมาปักหลักคนเดียวที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงถามสัญญาของรัฐบาล หลังจากที่ครบรอบ 1 ปี ในการเซ็น MOU กันไปเมื่อปีที่แล้ว จากนั้นเครือข่ายของจะนะรักษ์ถิ่น ก็ตามมาสมทบ จนเป็นที่มาของการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2564

ในวันที่ 6 ธันวาคม ก่อนสลายการชุมนุม ไครียะห์ อ่านแถลงการณ์เรียกร้อง 3 ข้อ หนึ่ง รัฐบาลต้องตั้งกลไกตรวจสอบความผิดปกติของโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะใหม่ โดยจะต้องตรวจสอบในทุกมิติ ผมขยายความให้ก็ได้


โครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีการสมรู้ร่วมคิดกันระหว่างนายทุนกับเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศอ.บต. มีเงินมีทองไหลเวียนสะพัด ตลอดจนเกี่ยวข้องกับผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐ

สอง รัฐบาลต้องจัดการศึกษาโครงการในเชิงยุทธศาสตร์ หรือ SEA (Strategic Environmental Assessment)

สาม รัฐบาลต้องสั่งให้ยุติการดำเนินการทุกอย่างในโครงการนี้ไว้ก่อน และทั้งหมดจะต้องออกเป็นคำสั่งนายกรัฐมนตรี หรือเป็นมติคณะรัฐมนตรีเท่านั้น

ท่านผู้ชมครับ เด็กอายุ 17-18 รักท้องถิ่น รักบ้านตัวเอง รักประชาชน หลายๆ คนที่ว่าเด็ก ในสื่อที่นายทุนเป็นเจ้าของ อับอายขายหน้าบ้างไหม เด็กคนนี้จิตใจบริสุทธิ์ แล้วสามข้อที่เขาขอ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้หมด และในที่สุดแล้วนายกรัฐมนตรีก็เลยมีคำสั่งให้ศึกษาโครงการในเชิงยุทธศาสตร์ หรือที่เรียกว่า SEA (Strategic Environmental Assessment) นั่นก็คือให้ศึกษากันใหม่หมดเลย


ผมคิดว่าอย่างน้อยที่สุดนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังมีคุณธรรม มีศีลธรรม ไม่ยอมตามทุนที่ต้องการให้ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคนอื่นนั้น ใกล้ชิดท่าน จะรับเงินทุนมาอย่างไร ผมไม่รู้ แต่ผมคิดว่าอีกสองข้อนั้น ก็เป็นข้อเรียกร้องที่มีเหตุผล คือ รัฐบาลต้องตั้งกลไกตรวจสอบความผิดปกติของโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะใหม่ ซึ่งมันผิดปกติจริงๆ ตามที่ผมได้เรียนท่านผู้ชมทราบแล้ว มันผิดปกติมาก โคตรจะผิดปกติเลย พิรุธมีอยู่ทุกจุด และข้อสาม เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง โครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ต้องหยุดจนกว่าการตรวจสอบเชิงยุทธศาสตร์ ศึกษาโครงการในเชิงยุทธศาสตร์จบสิ้นแล้วมีผลออกมาอย่างไร ต้องหยุดเลย จะทำอะไรต่อไม่ได้ จะมีการทำประชาพิจารณ์โดยฝ่ายนายทุนนั้น ไม่ได้เด็ดขาด แล้วทั้งหมดนี้ถ้าจะเดินหน้าต่อไป ต้องเป็นคำสั่งนายกรัฐมนตรี หรือมติ ครม. จะมาหลับหูหลับตาทำกันตามพระราชบัญญัติ ศอ.บต. ที่อ้างอิงกันมาตลอด แล้วทำความพินาศฉิบหาย สร้างความแตกแยกให้กับสังคมไทย อุ้มนายทุน มีแต่ความไร้ยางอายที่เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เห็นเงินเป็นใหญ่ ต้องยุติทั้งหมด


ไครียะห์ เด็กอายุ 17-18 ปี เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เป็นเด็กที่น่าชื่นชมมาก ไม่ใช่เป็นเด็กที่ออกไปชูสามนิ้ว แล้วเสนอการปฏิรูปหรือการล้มล้างสถาบันกษัตริย์ แต่เป็นเด็กที่รักพื้นที่ของตัวเอง รักบ้านของตัวเอง รักประชาชนของตัวเอง เดินไปไม่มีคนมาเชียร์ ไม่มีอาจารย์แก่ๆ อีแอบอยู่ข้างหลัง ไปเพราะว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นมันเป็นชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวจะนะ ชาวประมงในจะนะ เกษตรกรในจะนะ พ่อเป็นนายกสมาคมรักษ์ทะเลจะนะ เป็นชาวประมง


ชีวิตชาวจะนะทำประมงมาเป็นร้อยปี ต่อสู้เพื่อให้ตัวเอง พี่น้องของตัวเอง ประชาชนในพื้นที่ตัวเอง สามารถมีชีวิตอยู่ได้ มีความภูมิใจในศักดิ์ศรีของคนชาวจะนะ ไม่ได้เห็นแก่เงินเห็นแก่ทองเหมือนคนในจะนะบางพวกบางกลุ่มที่รับเงินรับทองนายทุนเขามา แล้วมาเชียร์นายทุน ท่านผู้ชม คนพวกนี้เราต้องยกย่องสรรเสริญ ผมขอยกย่องจิตใจอันกล้าหาญของ น.ส.ไครียะห์ แห่งอำเภอจะนะ

ท่านผู้ชมครับ ถ้ามีความจำเป็นในการที่จะระดมทุนเพื่อที่จะให้คนพวกนี้ต่อสู้อย่างบริสุทธิ์ใจ ผมพร้อมจะเป็นหัวหอกระดมทุนให้ เอาไว้เมื่อถึงเวลาแล้ว ท่านผู้ชม ถ้าเห็นความอยุติธรรมในเรื่องนี้ขึ้นมา ความเลวทรามต่ำช้าของข้าราชการประจำ ท่านผู้ชมครับ ถึงเวลาแล้วผมจะบอกให้

รายการที่ผมจะพูดต่อไปนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เป็นเรื่องที่สะท้อนให้พวกเราเห็นความจริงที่โหดร้าย เป็นเรื่องของการที่ผู้มีอำนาจ มีอำนาจอยู่ในมืออย่างเต็มที่ และนายทุนที่มาพึ่งพาผู้ที่มีอำนาจในทางรัฐบาล มาทำกิจกรรมที่จะแสวงหาผลประโยชน์เข้ากับตัวเองอย่างมากมายมหาศาล โดยใช้หน่วยงานราชการที่ชื่อ ศอ.บต. เป็นคนผลักดันเรื่องราวต่างๆ นี้ ในนามของความมั่นคง


ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาตลอดในทางภาคใต้ อะไรก็ตามถ้าทำในนามของความมั่นคงแล้ว จะต้องข้ามขั้นตอนไปหมดทุกอย่าง และในขณะเดียวกัน จะต้องไม่เห็นหัวชาวบ้าน เห็นแต่หัวนายทุนที่เป็นคนให้เงินให้ทองและสนับสนุน

ใช่ครับท่านผู้ชม ผมกำลังจะพูดถึงเรื่อง นิคมอุตสาหกรรมจะนะ ที่ จ.สงขลา ท่านผู้ชมคงรับทราบแล้วว่าในการประท้วงของชาวบ้าน ชาวประมง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนมุสลิม ออกมาที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมตามคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลให้ไว้ใน MOU ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธว่าไม่มี แต่ในที่สุด ตอนหลังก็มีปรากฏเป็นหลักฐานชัดเจนว่าข้อตกลงระหว่างชาวบ้านที่มาร้องเรียนในปีที่แล้ว โดยที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แต่งตั้งให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นตัวแทนออกไปเจรจา พร้อมกับรองปลัดสำนักนายกฯ ได้มีการร่าง MOU ขึ้นมาจริงๆ และคณะรัฐมนตรีก็ได้รับทราบใน MOU นั้น ก็เท่ากับว่าเห็นด้วยกับ MOU นั้น

ล่าสุด ในการยื่นให้รัฐบาลกระทำการตามข้อตกลงเมื่อครบ 1 ปี คือวันที่ 13 ธันวาคม 2564 นั้น วันที่ 14 ก็คือวันที่มีการประชุม ครม. ในวันอังคาร ในที่สุดแล้วที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก็เลยจำเป็นต้องมีมติให้ชะลอโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะไปก่อน แต่ยังไม่ยกเลิก แค่ชะลอ คือการซื้อเวลา


แต่ข้อดีอย่างหนึ่งก็คือ ตกลงคณะรัฐมนตรียอมรับให้มีการประเมินสิ่งแวดล้อมทางยุทธศาสตร์ ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า SEA (Strategic Environmental Assessment) ซึ่งเรียกร้องให้สภาพัฒน์เป็นคนทำ ไม่ใช่ให้เอกชนทำ หรือไม่ใช่ให้ ศอ.บต. ทำ ให้ยุติด้วยการให้ประเมิน SEA ใหม่ทั้งหมดทั้งโครงการก่อนทำโครงการ ทั้งเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ของบริษัท ทีพีไอ โพลีนเพาเวอร์ ที่เป็นบริษัทเอกชนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้ ต้องยุติก่อน

มติ ครม. มอบหมายให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ท่านผู้ชมครับ นายกฯ ประยุทธ์ แท้ที่จริงแล้วพยายามซื้อเวลาด้วยการตั้งคณะกรรมการต่างๆ เพื่อยื้อเวลาไปอีก ท่านผู้ชมครับ เพลงๆ นี้ มุกๆ นี้เป็นอะไรบางอย่างที่มันคุ้นๆ หู คุ้นๆ ตาใช่ไหม การซื้อเวลาเป็นเรื่องที่ถนัดมากสำหรับรัฐบาลทุกรัฐบาลที่ไม่กล้าตัดสินใจ เพราะคนบางคนในรัฐบาลได้รับเงินรับทองนายทุนไปเรียบร้อยแล้ว ก็เลยใช้วิธีตีกินด้วยการยื้อเวลาต่อไป

ท่านผู้ชมครับ สมัยผมหนุ่มๆ นั้น ผมเล่าเรื่องบางเรื่องที่เกิดขึ้นให้พ่อผมฟัง ผมเล่าเป็นฉากๆ เลย เรื่องเป็นอย่างนี้ๆๆ พ่อผมบอก พอๆๆๆ เอาอย่างนี้ เรื่องนี้มันเริ่มขึ้นอย่างไร และนี่คือสิ่งที่ผมจะพูดกับท่านผู้ชมว่า "นิคมอุตสาหกรรมจะนะ" มันเริ่มขึ้นมาได้อย่างไร มันมีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง

ท่านผู้ชมครับ ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องที่มาที่ไปของนิคมอุตสาหกรรมจะนะ เหมือนอย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่า อะไรไม่สำคัญว่าทั้งหมดนี้มันเริ่มต้นตรงไหน เริ่มต้นอย่างไร ผมต้องขออนุญาตเล่าเรื่อง ศอ.บต. ให้ฟังนิดหนึ่ง


ศอ.บต. ปัจจุบันนี้เป็น ศอ.บต. ยุคใหม่ ศอ.บต. ยุคใหม่ครั้งนี้ เกิดขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติ ศอ.บต. พ.ศ. 2553 เปลี่ยนตำแหน่งผู้บริหารเป็น เลขาธิการ ศอ.บต. ข้าราชการระดับ 11 ซี 11 หรือระดับปลัดกระทรวง

ศอ.บต. ยุคใหม่ ครบรอบ 11 ปี ในฐานะเป็นหน่วยงานที่มีกฎหมายรองรับแล้ว แต่ก่อนไม่มี ซึ่งไม่ใช่แค่ใช้ประกาศสำนักนายกฯ เหมือนแต่ก่อน คือสมัยก่อน ศอ.บต. มีหน้าที่อำนวยการประสานงานให้กับหน่วยงานต่างๆ ในการรักษาความมั่นคง หรือในการดูแลประชาชนในพื้นที่นั้น ส่วนการปราบปรามก็ใช้หน่วยงาน พตท. 43 ในการปราบปราม นี่คือการที่เข้าสู่มวลชนและการจัดระเบียบให้ประชาชนเข้าใจในตัวรัฐบาล

บทบาทหน้าที่ของ ศอ.บต. ยุคใหม่ หลังจากเป็นพระราชบัญญัติออกมาแล้วในปี 2553 นั้น ก็เปลี่ยนจากการอำนวยการ คืออำนวยความสะดวก ประสานความช่วยเหลือ มาเป็นยุคนี้ คือการช่วยเหลือนายทุน รับใช้เอกชน

ท่านผู้ชมครับ ผมจะเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง 21 กุมภาพันธ์ 2562 เกิดมีความคิดที่จะสร้างโครงการเมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต ชื่อนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในโลกนี้จากที่ประชุมกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ชื่อสั้นๆ ว่า กพต. ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง นั่งเป็นประธานอยู่หัวโต๊ะ คณะกรรมการชุดนี้มีความคิดว่า น่าจะให้กำหนดเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจขึ้นมาใหม่ ในรูปแบบเมืองต้นแบบที่อยู่ในกรอบสามเหลี่ยมความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน บนพื้นแผ่นดินชายแดนใต้ คือคอนเซปต์ในขณะนั้น


กระบวนทัศน์มีความรู้สึกว่า ถ้าพัฒนาเมืองต้นแบบยุคใหม่ขึ้นมาในสามเหลี่ยมชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีที่ยะลา นราธิวาส ปัตตานี มีอุตสาหกรรมลงไป มีการพัฒนาพื้นที่ให้เจริญก้าวหน้าต่อไป ก็อาจจะเป็นการลดความขัดแย้งในเรื่องของผู้ก่อการร้ายได้

7 พฤศจิกายน 2562 ครม. ในชุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเสื้อคลุม คสช. ได้อนุมัติโครงการนี้ตามที่ กพต. เสนอแบบทิ้งทวน เพราะเป็นการประชุม ครม. ภายใต้เสื้อคลุม คสช. นัดสุดท้าย

ต่อมา จู่ๆ ก็เลยมีการปรับปรุงผังเมืองและมีการสอดแทรกเมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าเข้ามาอีกเมืองหนึ่ง ที่ อ.จะนะ เป็นตัวที่สี่ แต่ชื่อยังใช้เหมือนเดิม คือ สามเหลี่ยม ซึ่งมีปัตตานี ยะลา นราธิวาส แต่ ศอ.บต. ได้แอบจับมือเอกชนเพื่อจะยัดโครงการจะนะเข้าไปรวม จริงๆ กลายเป็นสี่เหลี่ยมแห่งความยั่งยืน มั่งคั่ง แต่ว่าไม่กล้าพูด ใช้คำว่าสามเหลี่ยม


จะเห็นได้ว่าความแปลกประหลาดชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรองเลขาธิการ ศอ.บต. ที่ชื่อ นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ศอ.บต. ท่านผู้ชมครับ ซี 10 นะครับตำแหน่งนี้ อายุเพิ่งจะสี่สิบเศษๆ เอง ชื่อเล่น คือ ดร.เจ๋ง รวมทั้งผู้บริหารทุกคนใน ศอ.บต. จะพร่ำพูดว่า แนวคิดตั้งเมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตขึ้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ให้เป็นเมืองต้นแบบที่สี่ เกิดขึ้นมานานแล้ว หรือตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2559 พร้อมกับอีก 3 ต้นแบบ ก็คือ ต้นแบบที่ 1 ที่ปัตตานี เมืองต้นแบบการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมก้าวหน้าผสมผสาน ต้นแบบที่ 2 เมืองต้นแบบการพัฒนาที่พึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน อ.เบตง จ.ยะลา ต้นแบบที่ 3 เมืองต้นแบบการค้าชายแดนระหว่างประเทศ ที่สุไหงโก-ลก นราธิวาส


ท่านผู้ชมจะดูได้เลยนะครับว่า เฟซบุ๊กของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2561 ยังระบุถึงแค่สามเหลี่ยมเอง คือแค่สามเหมือน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อ.เบตง จ.ยะลา อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ไม่มี อ.จะนะ จ.สงขลา แต่อย่างใด แต่ทันทีทันใดทำไมเวลานี้กลับยังอยู่ภายใต้กรอบการพัฒนารูปแบบยั่งยืนของสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ทำไมท่านไม่ตั้งชื่อ สี่เหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เสียตั้งแต่ต้น และยังทอดทิ้งเวลานานกว่า 1 ปีมาแล้ว ที่เกิดขึ้นครบ 4 เมืองต้นแบบ แต่ทำไมกลับยังดันทุรังเรียกกรอบการพัฒนาว่า สามเหลี่ยม ไม่อายบ้างหรือ ข้อเท็จจริงก็คือว่า แอบสอดไส้เอา อ.จะนะ เข้าไปในสามเหลี่ยมนี้ ก็เลยยังคงเรียกว่า สามเหลี่ยมยั่งยืน ทั้งๆ ที่เพิ่ม อ.จะนะ ขึ้นมา ถ้าท่านดูในแผนที่ท่านจะเห็นว่ามันเป็นสี่เหลี่ยมไปแล้ว

ที่อ้างว่าโครการต่างๆ ของสามเมืองต้นแบบ ตั้งแต่ปี 2559 ถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น อ.หนองจิก ปัตตานี อ.เบตง ยะลา อ.สุไหงโก-ลก นราธิวาส ท่านผู้ชมเชื่อไหม ไม่มีความคืบหน้าใดๆ เลยที่เป็นรูปธรรม ผิดกับเมืองนิคมอุตสาหกรรมที่จะนะ ซึ่งโต้โผใหญ่คือ ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตเจ้าของทีพีไอ (TPI) ตอนนี้เป็น TPIPL เป็นโต้โผใหญ่


ประเด็นนี้เป็นความขัดแย้งกับแนวคิด ทิศทางการพัฒนาพื้นที่ชายแดนภาคใต้ในอดีตที่ผ่านมา แบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ รัฐทำหน้าที่แค่อำนวยการ คอยประสานอำนวยความสะดวก กระทั่งหน่วยงานทางด้านความมั่นคงก็ตาม ที่สำคัญ แวดวงองค์กรภาคเอกชน ทั้งพื้นที่ ระดับชาติ เป็นที่ยอมรับมาแล้วว่าการพัฒนาพื้นที่ชายแดน ควรต้องใช้ จ.สงขลา เป็นตัวดึงดูดการลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศ แล้วค่อยผลักดันสู่อีก 3 จังหวัด คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส


พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เมื่อถามเรื่องเกี่ยวกับ อ.จะนะ นิคมอุตสาหกรรมจะนะ ยอมรับว่า แผนปลุกปั้นจะนะ เมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต ต้นกำเนิดเกิดจากความคิดของภาคเอกชน นั่นคือ TPI นั่นเอง หรืออีกนัยหนึ่ง คุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ติดต่อกับฝ่าย ศอ.บต. เพื่อขายความคิดนี้ เพราะถ้า ศอ.บต. เห็นด้วย ศอ.บต. ก็จะทำหน้าที่เป็นม้าใช้ของภาคเอกชนในการเดินเรื่อง ว่าด้วยระเบียบ ตั้งเงื่อนไข เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนที่เข้ามาเสนอไอเดียนี้สามารถที่จะผูกขาดได้ในการที่จะทำนิคมอุตสาหกรรม เพราะฉะนั้นเป็นไปได้ว่า คุณประชัย เป็นผู้ที่นำแผนปลุกปั้นเมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต โครงการที่เรียกสุดแสนจะวิลิศมาหรา ใส่พานยื่นให้กับผู้มากบารมีในรัฐบาล น่าจะไปพร้อมๆ กับการขอให้ผ่องถ่ายจากที่เคยอยู่ในอ้อมกอดของสภาพัฒน์ โอนไปให้อยู่ในความรับผิดชอบของ ศอ.บต. เพื่อใช้กฎหมายพิเศษ คือ พ.ร.บ. ศอ.บต. ตั้งเป็นเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ แบบเดียวกับที่ใช้ พ.ร.บ. เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ปลุกปั้นระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือที่เรียกว่า EEC

ท่านผู้ชมครับ ศอ.บต. เป็นหุ่นเชิดให้เอกชนหรือเปล่า ? จะตอบคำถามนี้ ย้อนกลับไปที่ พ.ศ. 2551 ศอ.บต. และ พตท. เป็นหน่วยงานในสังกัด กอ.รมน. ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 แต่พอมา 2553 อีกสองปีให้หลัง มีการกำหนดให้ ศอ.บต. เป็นส่วนราชการรูปแบบเฉพาะที่ไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง มีฐานะเป็นนิติบุคคล ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี โดย ศอ.บต. อ้างว่า ศอ.บต. ยุคผ่านมายังมีจุดอ่อนในเรื่องการบริหารจัดการ เนื่องจากไม่ได้มีฐานะเป็นส่วนราชการตามกฎหมาย ทำให้มีข้อจำกัดเรื่องการบริหารแผนงาน แผนเงิน และแผนคน รวมทั้งระเบียบ กฎหมาย และมติ ครม. ไม่มีความยืดหยุ่น ก็เลยต้องปรับโครงสร้าง ศอ.บต. ใหม่

พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ปัจจุบัน จริงๆ แล้วในเชิงลึก พล.ร.ต.สมเกียรติ เป็นนายทหารสายตรงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา การวางตัว พล.ร.ต.สมเกียรติ ถูกวางตัวไว้นานแล้ว โอนย้ายเข้ามาเป็นรองเลขาฯ ศอ.บต. แล้วค่อยขึ้นเป็นเลขาฯ ศอ.บต. เลยทันที แสดงว่ามีการวางแผนเรียบร้อยกับภาคเอกชน ว่าจะใช้ ศอ.บต. เป็นหัวหอก เพราะมีกฎหมายพิเศษ ในการที่จะกำหนดพื้นที่ใดที่จะเป็นที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรม ตามข้อแนะนำหรือตามความต้องการของภาคเอกชน แล้วก็ยังมีการใช้มาตรา 44 เสียด้วยซ้ำ จาก คสช. เพื่อให้งานนี้เดินไปอย่างรวดเร็ว

การโอนย้ายของ พล.ร.ต.สมเกียรติ นั้นเห็นชัดเจน เมื่อเลขาธิการ ศอ.บต. คนเดิมเกษียณอายุราชการ พล.ร.ต.สมเกียรติ ก็เลยได้รักษาการขึ้นทันที

ทันทีที่ขึ้นมา เดือนเดียว ท่านผู้ชมเชื่อไหม โมเดลแผนพัฒนาจะนะ ก็ปรากฏโผล่ขึ้นมาทันที


21 กุมภาพันธ์ 2562 โมเดลแผนพัฒนาเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต ถูกเสนอโดยคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

7 พฤษภาคม ประเดี๋ยวเดียวเอง ครม. ได้มีมติเห็นชอบในหลักการและขยายผลโครงการเมืองต้นแบบเมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต ในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา โดยปรับทิศทางการดำเนินการให้ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุน ซึ่งแน่นอนแล้วว่าจะไม่มีใคร นอกจาก TPIPL หรือ คุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ซึ่งได้พ่วงบริษัท IRPC เข้ามาร่วม เพื่อแก้เขิน ไม่ให้เห็นว่ามีตัวเองอยู่เจ้าเดียว แล้วก็ให้ภาครัฐ โดย ศอ.บต. เป็นผู้สนับสนุนการดำเนินการ


ท่านผู้ชมครับ ผมจะเอาแผนที่ขึ้นมาให้ดู แผนที่ที่ท่านผู้ชมเห็นนี้จะเห็นว่ามันเป็นรูปสามเหลี่ยม ระหว่าง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จุดหนึ่ง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จุดหนึ่ง และ อ.เบตง จ.ยะลา จุดหนึ่ง เพิ่มมาอีกจุดหนึ่ง สีเขียวมุมซ้าย มุมสุด นั่นคือ อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งมันเป็นสี่เหลี่ยมแล้ว แต่ก็ยังซ่อนเร้นตัวอยู่ในคำพูดว่า สามเหลี่ยม โดยดึงภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการที่จะมาดำเนินการในเรื่องของพื้นที่ อ.จะนะ ซึ่งพื้นที่ อ.จะนะ นั้น เป็นพื้นที่ที่ติดทะเล อยู่ทะเลจะนะ ซึ่งเป็นจุดแห่งความขัดแย้งในปัจจุบัน

ในการดำเนินการ ในที่สุดแล้ว มีประชาชนชาวประมงพื้นบ้าน และมีน้องยะห์ หรือ น.ส.ไครียะห์ ระหมันยะ เป็นตัวแทนประชาชนออกไปต่อสู้ ยื่นหนังสือเรียกร้องให้ท่านนายกฯ ทบทวนเรื่องนี้เสียใหม่

ศอ.บต. ก็ร่วมมือกับภาคเอกชน เดินหน้าอย่างหน้าด้านๆ ท่านผู้ชมครับ ผมจำเป็นต้องใช้คำว่า หน้าด้านๆ กำหนดจัดเวทีรับฟังข้อคิดเห็นจากประชาชน เจาะจงใน 3 ตำบล อ.จะนะ ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการ คือ ต.ตลิ่งชัน ต.นาทับ และ ต.สะกอม ระหว่าง 14-20 พฤษภาคม 2563 หลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นการจัดฉากตั้งเวทีเพื่อจะเปลี่ยนสีผังเมืองจะนะ จากสีเขียว (เพื่อเกษตรกรรม) เป็นสีม่วง เพื่อรองรับนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของกลุ่มทุนปิโตรเคมิคอล


ปรากฏว่ามีการประท้วง โดยน้องยะห์ เป็นคนที่เป็นหัวหอกในการเดิน ทั้งๆ ที่เป็นเด็ก อายุ 17 เอง ก็ปรากฏว่าได้ผล เพราะมีการแถลงการณ์ ทำประกาศจากเครือข่ายนักวิชาการ นักเคลื่อนไหว นิสิต นักศึกษา พวกภาคประชาสังคม ผู้มีชื่อเสียง น่าเชื่อถือ สนับสนุนมาจากทั่วสารทิศ

ในที่สุดแล้ว ศอ.บต. ต้องประกาศเลื่อนการจัดเวทีไปไม่มีกำหนด ด้วยข้ออ้างว่า ไม่เหมาะสมที่จะจัดเวทีในยุคที่มีโรคระบาด แต่ในที่สุดแล้ว ภาคเอกชน และ ศอ.บต. ก็ใช้เงินใช้ทองว่าจ้างกลุ่มการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ นำผู้คนในนามเครือข่ายประชาชนสนับสนุนให้เดินหน้าโครงการ ออกมาเคลื่อนไหวยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯ สงขลา แบบย้อนศร แสดงพลังสวนกระแสที่น้องยะห์ และประชาชนทั่วประเทศไทย เข้ามาร่วมมือกันเพื่อต่อต้านนิคมอุตสาหกรรมจะนะ

ท่านผู้ชมครับ "จะนะ" สำคัญอย่างไร ? "ทะเลจะนะ" เป็นหนึ่งในทะเลที่มีคุณภาพน้ำสูงที่สุด เป็นท้องทะเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ จากความสมบูรณ์ดังกล่าว ทำให้ทะเลจะนะเป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์น้ำมากกว่า 100 ชนิด ในจำนวนนี้ 64 ชนิด เป็นปลาเศรษฐกิจ เช่น ปลาอินทรี ปลากะพง ปลาเก๋า ปลาทู ปลากระบอก ยังมีกุ้ง หอย ปู ปลา สัตว์น้ำที่มีคุณค่าต่อเศรษฐกิจ ระบบนิเวศ ท่านผู้ชมครับ มีปลาโลมา ปลาปักเป้า ปลาไหลเมอเรย์ ปลาการ์ตูน กุ้งเคย กุ้งมังกร กุ้งลายเสือ หอยกาบ หอยสังข์ หอยแมลงภู่ หอยนางรม ปูม้า ปูดำ หมึกกล้วย หมึกกระดอง หมึกยักษ์


ความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลและสัตว์น้ำเหล่านี้ ทำให้ชาวบ้านประกอบอาชีพชาวประมงมาช้านานนับร้อยปี ปัจจุบันทำรายได้ให้กับชาวบ้านปีละกว่า 350 ล้านบาท ด้วยเหตุนี้ ความสมบูรณ์ของท้องทะเลจะนะ จึงไม่เพียงสำคัญต่อธรรมชาติ และระบบนิเวศ แต่ยังหมายความถึงชีวิตและวิถีชีวิตของชาวจะนะ

ท่านผู้ชมครับ ก่อนที่เราจะพูดกันต่อไป ผมตั้งวิสัชนากับปุจฉา ว่า นิคมอุตสาหกรรมจะนะ นี่คือปุจฉา แล้วผมวิสัชนาว่า จะไม่ต่างกว่านิคมฯ มาบตาพุด จ.ระยอง หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง นี่คือมาบตาพุดอันดับ 2 ไม่ว่าบริษัทเอกชน คุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เขียนจดหมายถึง 5 หน้า ส่งไปให้เลขาธิการ ศอ.บต. ยืนยันโน่น ยืนยันนี่ ว่าจะมีอุตสาหกรรมที่สะอาด พอคุณประชัย พูดถึงอุตสาหกรรมที่สะอาด ทำให้ผมอดคิดถึงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ไม่ได้ ท่านผู้ชมจำได้ไหม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ จะเอาถ่านหินมาเดินโรงงานไฟฟ้าที่กระบี่ แล้วถูกประชาชนคัดค้านมาตลอด การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ก็ออกมุกที่ว่า จะเอาถ่านหินที่สะอาดเข้ามา ผมเป็นคนพูดเองว่า ผมยังหาไม่เจอเลยในโลกนี้มีถ่านหินอะไรที่มันสะอาด เช่นกัน คุณประชัย บอกว่าจะเป็นอุตสาหกรรมที่สะอาด มันไม่มีหรอกครับ อุตสาหกรรมที่สะอาด


สิ่งที่คุณประชัย เขียนมา 5 หน้า แล้วส่งไปให้เลขาธิการ ศอ.บต. นั้น พูดถึงดอกไม้ในทุ่งลาเวนเดอร์ทั้งหมด ในเรื่องอุตสาหกรรม ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ แค่คุณสร้างท่าเรือน้ำลึกออกไปที่ทะเลจะนะ ระบบนิเวศก็พังทลายฉิบหายไปหมดแล้ว ชาวบ้านเขาหาปลาเป็นนับร้อยปี มีปลาที่อุดมสมบูรณ์อย่างที่ผมเล่าให้คุณฟัง ก็เจ๊งกะบ๊งหมด

มาบตาพุด จากตอนแรก ตอนนี้มีนิคมอุตสาหกรรมตั้ง 4-5 แห่ง มีนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นิคมอุตสาหกรรมผาแดง นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก นิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล

ท่านผู้ชมครับ มาบตาพุด พ.ศ. 2546 กำหนดพื้นที่ประเภทอุตสาหกรรมออกไปเป็นประมาณ 44,000 ไร่ พื้นที่เดิมที่เคยเป็นพื้นที่กันชนระหว่างมาบตาพุด หายไป นำสู่ปัญหามลพิษจากอุตสาหกรรม อุบัติภัยจากการรั่วไหลของสารเคมี

สามสิบปีที่ผ่านมา ที่มาบตาพุด ความขัดแย้งอันเกิดจากผ
กระทบต่อประชาชน ปัญหามลพิษทางอากาศ ปัญหามลพิษทางน้ำ ทางน้ำใต้ดินที่มีการปนเปื้อนโลหะหนัก และสารอินทรีย์ระเหยง่าย กระทบต่อสุขภาพประชาชน ปัญหาโรคทางเดินหายใจ โรคมะเร็ง การย้ายถิ่นฐานและประชากรแฝง ซึ่งมีผลต่อความเพียงพอของระบบสาธารณูปโภค และสาธารณูปโภคในพื้นที่ ภาคประชาชนได้รับความเดือดร้อน ออกมาเคลื่อนขบวนกันครั้งแล้วครั้งเล่า และมีการนำเรื่องสู่กระบวนการพิจารณาของศาล คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม

ท่านผู้ชมครับ สี่สิบปีผ่านไป มาบตาพุด จ.ระยอง คือภาพสะท้อนเชิงประจักษ์ของการเปลี่ยนแปลง ที่ในที่สุดก็จะเกิดขึ้นกับที่จะนะ จ.สงขลา ไม่ได้สวยหรูเหมือนตัวเลขเชิงเศรษฐกิจและผลประโยชน์มหาศาล แลกมาด้วยปัญหาด้านสภาพแวดล้อม มลพิษ ชีวิต และวิถีชีวิต หากมีการผลักดันให้สร้างนิคมอุตสาหกรรมขึ้นมาจริง ตัวละครยังเป็นคนหน้าเดิมๆ และหนึ่งในนั้นก็คือ ตระกูลเลี่ยวไพรัตน์


ท่านผู้ชมครับ ผมเอาแผนที่ แผนงาน ของบริษัท TPI ที่คุณประชัยเสนอมา ว่าจะมีอะไรบ้าง มีท่าเรือน้ำมัน และ LNG อู่ซ่อมบำรุงและต่อเรือ ท่าเรือคอนเทนเนอร์ พื้นที่หลังท่า มีโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าพลังงานลม โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ซึ่งบริษัท TPIPL มีโอกาสที่จะผูกขาดในโรงไฟฟ้าทุกโรงไฟฟ้า โดยที่ ศอ.บต. ยกให้เลย

ท่านผู้ชมครับ ผมดูจดหมาย 5 หน้า ที่คุณประชัยเขียนมา คุณประชัยบอกว่า ไม่มีอุตสาหกรรมต้นน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นน้ำมันดิบ ไม่มีโรงงานพลาสติก โรงงานผลิตสารอะโรเมติกส์ การใช้ก๊าซในอุตสาหกรรมใช้ในการผลิตไฟฟ้า หรือเปลี่ยนก๊าซธรรมชาติเหลว ที่สามารถใช้ในการผลิตพลังงานเท่านั้น คุณประชัย ฉลาด ลึกซึ้ง เป็นข้ออ้างในจดหมายเพื่อลดความระแวงจากประวัติการทำธุรกิจของ TPI ที่ผ่านมา ซึ่งทุกที่สร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อพื้นที่ สิ่งแวดล้อม และชุมชน

ท่านผู้ชมครับ การทำอุตสาหกรรมอะไรก็ตามที่ป้องกันในเรื่องของมลพิษสิ่งแวดล้อมนั้น ต้นทุนอุตสาหกรรมจะสูงมาก ท่านผู้ชมใช้หลักธรรมชาติดู นายทุนจะกล้าลงทุนในการทำแบบนั้นหรือเปล่า อันที่สอง การที่บอกว่าจะไม่มีอุตสาหกรรมต้นน้ำนั้น นั่นเป็นเพียงคำพูดในจดหมาย แต่ถ้าเมื่ออนุมัติไปแล้ว เกิดอุตสาหกรรมต้นน้ำซึ่งสร้างมลพิษต่างๆ ขึ้นมา ถามว่าจะเอากฎหมายข้อไหนไปเล่นงานเขา คุณจะไปอ้างจดหมายที่เขาเขียนมา ไม่ใช่กฎหมาย เพราะกฎหมายการลงทุน ถ้าคุณอนุญาตให้เขาตั้งโรงงานได้ คุณอนุญาตให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมได้ หลักการของนิคมอุตสาหกรรมก็จะเปิดกว้าง ถึงจะระบุว่าเป็นนิคมอุตสาหกรรมบริหารโดยเอกชน และนิคมอุตสาหกรรมนี้จะไม่มีโรงงานอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดมลพิษ แต่ถ้ามีการสร้างขึ้นมา ระเบียบของการนิคมอุตสาหกรรม จะไปทำอะไรอุตสาหกรรมนั้นได้ และยิ่งถ้าเจ้าของนิคมอุตสาหกรรม กับเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรม เป็นพวกเดียวกันด้วย เพราะฉะนั้นแล้ว คำอ้างมารับสัญญานั้น ไม่ใช่กฎหมาย เชื่อไม่ได้ เราก็ต้องกลับไปดูพฤติกรรมของนายทุนว่าในอดีตนายทุนพวกนี้เคยสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมให้กับที่อื่นไหม มองแค่นี้ มองไม่ยาก ศอ.บต. เห็นแก่เงิน หรือเห็นแก่ลาภยศอะไร ผมไม่รู้

นายประชัย อ้างว่าศูนย์อุตสาหกรรมที่พวกตนจะสร้างนั้นเป็นอุตสาหกรรมสะอาด ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ท่านผู้ชมครับ อุตสาหกรรมที่สะอาด มีอยู่อุตสาหกรรมเดียวเท่านั้นเอง นั่นคืออุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ อุตสาหกรรมอื่นๆ ไม่มีอุตสาหกรรมใดสะอาดหรอกครับ

หลายๆ เรื่องที่เขียนในจดหมายนั้น ผมไม่เชื่อ ชาวบ้าน ประชาชนทั่วไปได้อ่าน ก็คงรู้ทันว่าอุตสาหกรรมสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จริงๆ แล้วไม่มีในโลก

ดูตัวอย่างนิคมฯ ก็ได้ว่าไม่มีทางเลยว่าโครงการนี้จะไม่มีผลกระทบต่อวิถีชาวบ้านและสิ่งแวดล้อม ดูท่าเรือที่สร้างกันตั้งไม่รู้กี่ท่าเรือ ทั้งๆ ที่ท่าเรือสงขลาของเก่าก็มีแล้ว แต่ต้องการจะผูกขาดหมดทุกอย่างก็เลยสร้างท่าเรือทุกอย่าง ท่าเรือคอนเทนเนอร์ ท่าเรือรับน้ำมันและ LNG ท่าเรือน้ำลึก


จากชายหาดที่สงบ แล้วเป็นที่ชุมนุมของชาวบ้านที่จะนั่งเรือไปจับปลา ก็จะกลายเป็นอุตสาหกรรมใหญ่โตมโหฬาร แล้วก็มีมลพิษที่ทำลายสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นแน่ๆ วันนั้นมาถึง ผมก็ตายไปแล้ว คุณประชัยก็ตายไปแล้ว วันนี้คุณประชัย อายุ 77 ปี มากกว่าผม 3 ปี คุณประชัยเดินแทบจะไม่ได้ ต้องเดินทีละก้าวช้าๆ คุณประชัย และภรรยา ชื่อคุณอรพิน ไม่มีลูก เลยใช้หลานชาย ซึ่งอยู่ในวัยใกล้ๆ กับรองเลขาธิการ ศอ.บต. ถึงพูดจากันรู้เรื่องเป็นปี่เป็นขลุ่ย

ท่านผู้ชมครับ ก่อนที่ผมจะพูดในเรื่องนี้ต่อไป ผมจะถาม ศอ.บต. สรุปแล้ว ศอ.บต. คุณมีความรู้สึกว่าต้องสร้างนิคมอุตสาหกรรมเพื่ออะไร ? คุณจะให้ประเทศไทยเน้นอุตสาหกรรม หรือ ? ท่านผู้ชมครับ ตกลงเราจะเอาจุดแข็งของประเทศเราขายออกไปในโลก คือเกษตรกรรม เกษตรก้าวหน้า หรือเราจะขายอุตสาหกรรมต่อไป


อุตสาหกรรมเราไม่ได้เหนือกว่าชาวบ้านเขา อย่าว่าแต่ประเทศจีนซึ่งเราเทียบเขาไม่ได้เลย เวียดนาม อีกหน่อยเราก็เทียบเขาไม่ได้แล้ว แล้วตามโครงการของ ศอ.บต. ที่เอกชนเสนอมานั้น จะขยายโครงการออกไปแทบจะกินภาคใต้ทั้งภาคเลย สำหรับผมแล้ว ท่านผู้ชมเห็นด้วยกับผมไหมว่า สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว เป็นเศรษฐกิจที่ยั่งยืนที่สุด ไม่ใช่อุตสาหกรรม อุตสาหกรรมเรามีแค่ EEC เราก็พอแล้ว เพราะเป็นตัวเชื่อมเข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ อุตสาหกรรทางใต้คุณเชื่อมต่อใคร ? คุณเชื่อมต่อมาเลเซียหรือ มาเลเซียเขาก็มีของเขาอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็น

เพราะฉะนั้น นิคมอุตสาหกรรมจะนะ ถ้า ศอ.บต. และรัฐบาลชุดนี้อนุมัติไป คือการสร้างความร่ำรวยอย่างมากมายมหาศาลให้กับนายทุนที่ลงทุน และสร้างความฉิบหายวายป่วงให้กับประชาชน

ท่านผู้ชมครับ ที่ผมกล้าพูดเรื่องนี้ก็เพราะว่าในข้อเท็จจริงมันกำลังเดินไปทางนั้น ผมไม่เคยเชื่อว่าใครก็ตามที่เป็นนายทุน แล้วเขียนจดหมายมาฉบับหนึ่งว่าผมจะไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าเขาทำแล้วเราเอาผิดเขาได้ไหม ? กฎหมายเอาผิดเขาไม่ได้ ถ้าเขาเกิดสร้างอุตสาหกรรมอะไรขึ้นมา หรือทำอะไรก็ตามที่ทำลายสิ่งแวดล้อม เราจะไปอ้างจดหมายที่เขาเขียนฉบับนั้นได้ไหม ? เราขึ้นศาล เราก็แพ้ เพราะเขาบอกเขาทำตามกฎหมายนี่ ก็ในเมื่อผมอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรมมีกฎหมายอย่างนี้ มีระเบียบอย่างนี้ ว่าอย่างนี้ๆๆ ผมก็ทำตามระเบียบอย่างนี้ บอกว่าผมทำลายสิ่งแวดล้อม แต่ผมมีเครื่องกำจัดภาวะมลพิษทุกอย่าง ผมผิดตรงไหน

ท่านผู้ชมครับ เวลานายทุนต้องการอะไร ต้องการริเริ่มอะไร จะสัญญาได้หมดทุกเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในท่ามกลางพื้นที่ที่มีความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับทุน ทุนก็จะบอกไปตลอดเวลา แล้วใช้สื่อมวลชนของตัวเอง ซึ่งเป็นสุนัขรับใช้ออกมาปกป้องว่ามีคนอยู่ไม่น้อยเลยที่เห็นด้วยกับอุตสาหกรรม ระหว่างอุตสาหกรรม กับเกษตรก้าวหน้า คุณจะเอาอันไหน ถ้าคุณมีสติปัญญาบ้าง คุณก็จะรู้ว่าเกษตรก้าวหน้าคืออนาคตของประเทศไทย

โลกทั้งโลกในขณะนี้ต้องการอาหาร โลกทั้งโลกไม่ได้ต้องการปิโตรเคมิคอล หรือไม่ได้ต้องการอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมที่คุณคิดจะสร้าง จะสร้างอะไร ? คุณบอกว่าประเทศจีนจะมาลงทุนสร้างชิ้นส่วนผลิตรถไฟความเร็วสูง มูลค่า 4 แสนล้าน คุณพูดได้ ประเทศจีนที่ไหนล่ะ ? ใครล่ะจะมาสร้าง ? ทำไมเขาต้องมาสร้างทางใต้ล่ะ ? เขาจะผลิตชิ้นส่วนให้ใครล่ะ ? ทำไมเขาไม่ไปสร้างที่ EEC ล่ะ ? เพราะฉะนั้นแล้ว การที่คุณบอกจะมีคนโน้นมาลงทุน จะมีคนนั้นมาลงทุน ผมไม่เชื่อ


ท่านผู้ชมครับ ตัวอย่างเห็นได้ชัด 11 กรกฎาคม มีการจัดเวทีรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะ เฉพาะประชาชนจาก 3 ตำบล คือ นาทับ ตลิ่งชัน สะกอม อ.จะนะ ณ โรงเรียนจะนะวิทยา เป็นการจัดเวทีรับฟังความเห็นไปแบบทุเรศทุรัง มีการทุ่มเงินเป็นสิบๆ ล้าน จัดกันอย่างเอิกเกริก ท่านผู้ชมรู้ไหม เขาเสริมรั้วโรงเรียนเสียแน่นหนาเลย ล้อมรั้วลวดหนาม ระดมกองกำลังจากหลายๆ หน่วย รวมแล้วเป็นพันคน พร้อมอาวุธ ชุดปราบจลาจล ยุทโธปกรณ์ต่างๆ เหมือนกับจะมาทำสงครามกับชาวบ้าน ปิดกั้นการจราจรบนถนนสายเอเชีย เส้นทางหาดใหญ่-ปัตตานี ปิดกั้นเป็นระยะทางสิบๆ กิโลฯ ตั้งด่านกระจายปิดล้อมรอบสถานที่จัดเวที ขนชาวบ้านที่มีหัวคะแนนหรือมีผู้นำท้องถิ่นรับเงินรับทองไป มาหนุนโครงการ เข้าร่วมประมาณ 1 พันคน ที่เข้าไปได้ ชาวบ้านที่เข้าร่วมในเรื่องของการออกความเห็นนั้น จำนวนยังน้อยกว่ากองกำลังพิทักษ์เวทีเสียอีก คนที่คัดค้าน ถูกกันให้อยู่รอบนอก ไม่สามารถจะก้าวข้ามเส้นรัศมีที่ขีดเป็นวงรอบได้เลย ท่านผู้ชมครับ เห็นหรือยังเจตนานี้ แล้วเห็นหรือยังว่าศอ.บต. ร่วมมือกับเอกชน เพื่อกระทืบประชาชนในพื้นที่จะนะ


นี่คือการสร้างความแตกแยกครับ ท่านนายกฯ สร้างความแตกแยก ท่านอนุมัติโครงการนี้ไป นายทุนรวย เอาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ขายหุ้นตัวเองออกแล้วตัวเองก็ร่ำรวยต่อไป ไม่จำเป็นต้องสนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับพื้นที่ ไม่ต้องสนใจว่าวิถีชาวบ้านเขาจะเปลี่ยนไปอย่างไร ไม่ต้องสนใจว่าชาวประมงที่เขาทำประมงอยู่นับร้อยปีนั้น เขาจะอยู่ต่อไปได้อย่างไร

นี่คือเหตุผลว่าทำไมเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ถึงประกาศสู้ แล้วสู้จริงๆ ไม่ถอย ผมต้องขอเตือนท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผมขอเตือนเลขาธิการ ศอ.บต. และรองเลขาธิการ ศอ.บต. คุณมา คุณต้องการทำงานชิ้นโบแดง เพราะคุณอายุสี่สิบกว่าแล้ว คุณกะที่จะกลับไปรับตำแหน่ง ในที่สุดขึ้นเป็นปลัดกระทรวง เพราะคุณขึ้นมาเป็นเลขาธิการ ศอ.บต. ในอนาคตคุณก็คือ ซี 11 และคุณจะเป็นปลัดกระทรวงที่หนุ่มที่สุด


ทำไมผมถึงต้องพูดถึง ดร.เจ๋ง นายชนธัญ แสงพุ่ม ? นายคนนี้เพิ่งอายุสี่สิบปีเศษๆ เพิ่งจะมารับตำแหน่งนี้ ได้รับมอบหมาย รับงานมา ให้เดินหน้าผลักดันโครงการนี้

ชนธัญ เริ่มงานที่สำนักงานปลัดสำนักนายกฯ ดูแลโครงการพระราชดำริ ย้ายมาสังกัด ศอ.บต. พร้อมๆ กับที่ พ.ร.บ. การบริหารราชการแผ่นดินจังหวัดชายแดนภาคใต้ (พ.ร.บ. ศอ.บต.) มีผลบังคับใช้ในรัฐบาลชุดอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ไม่นาน ทำไมถึงมา ? เพื่อจะได้อายุราชการคูณสอง ติดสปริงในชีวิตราชการ ท่านผู้ชมครับ คนๆ นี้ 9 ปีที่แล้ว ยังมีตำแหน่งแค่ นักทรัพยากรบุคคลธรรมดา จากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่เลย เขาได้รับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยทำรายงานปริญญานิพนธ์ในหัวข้อ "การพัฒนาชุมชนท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การศึกษาเพื่อสร้างทฤษฎีจากข้อมูลกรณีชุมชนท่องเที่ยวตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง"

ท่านผู้ชมครับ ผมพูดให้ฟังอีกที เขาได้ปริญญาเอกจากปริญญานิพนธ์ที่ชื่อว่า "การพัฒนาชุมชนท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การศึกษาเพื่อสร้างทฤษฎีจากข้อมูลกรณีชุมชนท่องเที่ยวตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" ผมไม่รู้ว่า ดร.เจ๋ง เขียนวิทยานิพนธ์โดยหัวข้อนี้ไปได้อย่างไร แต่ในชีวิตจริงท่านทำตรงกันข้ามเลย ท่านเขียนในวิทยานิพนธ์ของท่านในเรื่องแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พัฒนาชุมชนท่องเที่ยวยั่งยืน นี่คุณกำลังทำลายชุมชนการท่องเที่ยวของ อ.จะนะ นะ แล้วคุณไม่ได้เชื่อในทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงเลย คุณโกหกตัวคุณเองหรือเปล่า มันตลกมากนะ มันตลกมากที่คุณเขียนวิทยานิพนธ์แล้วได้ปริญญาเอกจากหัวข้อวิทยานิพนธ์นี้ แต่ว่าในการกระทำที่แท้จริงของคุณ ตรงกันข้ามกับที่คุณเขียนวิทยานิพนธ์ ผมไม่รู้ว่าผมจะต้องไม่เชื่อใน มศว หรือไม่เชื่อในตัวคุณกันแน่

ดร.เจ๋ง สิบปีที่รับราชการอยู่ชายแดนใต้ มีผู้หลักผู้ใหญ่สนับสนุน ช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้การสนับสนุนจากจาตุรนต์ ฉายแสง ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา อดีตรองนายกฯ ตอนนี้กลายเป็นคนสนิท คนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ วิษณุ เครืองาม รวมทั้งนิพนธ์ บุญญามณี และถาวร เสนเนียม ไว้ใจอย่างมาก


ท่านผู้ชมครับ ดร.เจ๋ง ชนธัญ คนนี้ เดินงานทุกอย่างของนิคมอุตสาหกรรมจะนะ มีความสัมพันธ์กับสายการเมืองอย่างแนบแน่น โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ สาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อย่างมาก วงในรู้เลยว่า ดร.เจ๋ง คือเด็กในสายตรงของลุงป้อม รองนายกรัฐมนตรีผู้ซึ่งกำกับดูแล ศอ.บต. และเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ นี่เป็นตัวอย่างให้เห็น

กระบวนการก็คือว่า เมื่อ พ.ร.บ. ศอ.บต. เกิดขึ้น นายทุน จะใครก็ตาม เห็นช่องทาง ใช้ ศอ.บต. เป็นตัวผลักดันโครงการในนามของความมั่นคง ตั้งแต่ คสช. เกิดขึ้นมา ยึดอำนาจมา จะอ้างความมั่นคง แล้วใช้มาตรา 44 เพื่อกระโดดก้าวข้ามการตรวจสอบทุกอย่างไปหมด และนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรง่ายเท่ากับเอา ศอ.บต. ซึ่งดูแลทางภาคใต้ แล้วบอกว่าเพื่อพัฒนาภาคใต้ เพื่อให้เจริญรุ่งเรืองไป เพื่อที่จะไม่ให้มีผู้ก่อการร้าย เอาอุตสาหกรรมมาลงภาคใต้ ศอ.บต. คิดเองไม่เป็นหรอกครับ มันต้องมีนายทุนคิดให้ นายทุนก็คิดได้สิ ถ้า ศอ.บต. เอาด้วย รองนายกฯ ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานนั่งทุบโต๊ะ นายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองฯ ประวิตร ก็บอกว่า น้อง เอาอย่างนี้ๆ นะ รับทราบ จบ สิทธิพิเศษก็มากันเพียบเลย ไม่ว่าจะเป็นการทำในเรื่องของสิ่งแวดล้อม หรือจะเป็นเรื่องของการต้องการจะผูกขาดโรงไฟฟ้าต่างๆ ที่อยู่ในเขตพื้นที่จะนะ ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมของตัวเอง

คำถามมีอย่างนี้ ท่านผู้ชม เอาล่ะ สมมุติว่าจำเป็นที่จะต้องมีนิคมอุตสาหกรรม มีความจำเป็น ทำไมจะต้องเป็น TPI เจ้าเดียว ทำไมไม่เปิดเสรีไปเลย ให้ต่างชาติไม่ว่าจะเป็นเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นจีน ให้มาลงทุนในเงื่อนไขที่คุณอ้างว่าเป็นอุตสาหกรรมสะอาด คุณก็บอกไปเลยสิ สิทธิให้อย่างนี้ๆๆ นี่เอาอำนาจของ ศอ.บต. มายกให้กับคุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หรือกำลังจะยกให้ ผมไม่รู้ แต่เรื่องของนิคมอุตสาหกรรมจะนะ มันมีพิรุธมากมาย

ท่านผู้ชมครับ มรดกอัปยศ ไม่ชอบธรรม อันนี้ส่งต่อมาจากรัฐบาลชุด คสช. พล.อ.ประยุทธ์ ทำถูกต้องแล้ว ตัดสินใจถูกต้อง ที่ให้มีการศึกษาผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ หรือ SEA อย่างรอบคอบ เพื่อสร้างชุดข้อมูลทางวิชาการที่มีคุณภาพประกอบการตัดสินใจต่อแนวทางและโครงการพัฒนาพื้นที่ต่างๆ ของภาคใต้ต่อไป ไม่ใช่มีการจัดประชาพิจารณ์ เอารั้วล้อมรอบ กั้นไม่ให้คนที่คัดค้านเข้ามา เอาเฉพาะพวกตัวเองซึ่งซื้อมา เข้าไปสนับสนุน

ท่านผู้ชมครับ ถ้าเราจะสืบสาวราวเรื่องเกี่ยวกับเบื้องหลังโครงการนี้ ต้องเริ่มต้นที่ผู้ชาย 2 คน คนหนึ่ง ชื่อ นิพนธ์ บุญญามณี นักการเมืองจากพรรคประชาธิปัตย์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย


อีกคนชื่อ ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เจ้าของอาณาจักร TPI ประธานกรรมการ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)

เป็นที่รับรู้กันว่า นายนิพนธ์ คนนี้เป็นผู้มีพื้นเพเป็นชาวจะนะ ไต่จากการเมืองสนามนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ขึ้นเป็น ส.ส. สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับหน้าเสื่อเป็นโต้โผจัดหาที่ดินให้กับ ปตท. ใช้ตั้งโรงงานแยกก๊าซ ทรานส์ ไทย-มาเลเซีย แถมยังต่อเนื่องไปถึงโรงไฟฟ้าจะนะที่ผลิตจากก๊าซ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อีก 2 โรง ในปัจจุบัน

ในช่วงปี 2535-2540 นายประชัย ได้ไหว้วานนายนิพนธ์ ให้ช่วยหาที่ดินให้ด้วยเช่นกัน เพื่อใช้ตั้งเป็นโรงงานกลั่นน้ำมันและอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งก็ได้ที่ดินบริเวณใกล้เคียงกับ อ.จะนะ ไปถือไว้ไม่น้อยกว่า 2,400 ไร่ เงินกำไรที่ได้จากการรวบรวมที่ดินดังกล่าวเพื่อขายต่อ ทั้ง ปตท. กฟผ. และ TPI นั้น นายนิพนธ์ และครอบครัว ก็นำไปเล่นการเมืองและประกอบธุรกิจโรงงานปลากระป๋องและอาหารทะเลแปรรูป ในนามบริษัท สยามอินเตอร์เนชั่นแนลฟู๊ด


ในเวลาต่อมา เมื่อรวบรวมที่ดินจากนายนิพนธ์ นักการเมืองใหญ่จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้มากเพียงพอ นายประชัย เจ้าพ่ออุตสาหกรรม TPI ก็เริ่มเดินแผนต่อไปทันที จริงๆ แล้ว นายประชัย กับ TPI ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมอะไรเลยสำหรับแผ่นดินชายแดนใต้ แล้วก็แผนที่การลงทุนที่ อ.จะนะ จ.สงขลา

ยี่สิบปีก่อน สมัยที่รัฐบาลไทย กับมาเลเซีย บรรลุข้อตกลงแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกลางทะเล ที่เขาเรียกว่า แหล่ง JDA ตกลงให้ ปตท. จับมือกับปิโตรนาส ทุนพลังงานชาติมาเลเซีย ลงทุนขุดตั้งแท่นเจาะ แล้วทำโครงการไทย-มาเลเซีย ด้วยกัน ที่ อ.จะนะ ตั้งโรงงานแยกก๊าซ และท่อส่งก๊าซ ไทย-มาเลเซีย ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา

ยี่สิบปีที่แล้ว หาก TPI หรือ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมิคอลไทย สามารถลงทุนตามแผนที่คิดหวังไว้ใน อ.จะนะ นายประชัย คงไม่ต้องนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดขอร้องให้ผู้มีอำนาจมอบหมายให้ ศอ.บต. ช่วยเหลืออยู่ในเวลานี้ แถมยังโชคไม่ดีตามมาอีก ในช่วงหลังวิกฤตต้มยำกุ้ง เกิดการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจากการลดค่าเงินบาทอย่างแสนสาหัส ทำให้นายประชัย ต้องสูญเสียอาณาจักรอุตสาหกรรมปิโตรเคมิคอล TPI ให้กับ ปตท. แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น IRPC นั่นเอง

จริงๆ แล้วไม่ได้มีอะไรน่าประหลาดใจ ถ้านายประชัย ปัดฝุ่น นำแผนลงทุนเก่า นำมาพลิกแพลงสู่การลงทุนอันใหม่ โดยดึงเอา IRPC เข้ามาช่วยหนุน เนื่องให้ความฝันที่ต้องการจะซื้อ TPI ให้กลับมาผงาดได้อีกครั้งบนแผ่นดินปลายด้ามขวาน

สองคนนี้คือคนที่เริ่มต้น คนหนึ่งเป็นนายทุน ซึ่งผมไม่ได้ตำหนิอะไรหรอก เพราะว่านายทุนก็หวังที่จะกำไร หวังจะทำโครงการต่างๆ แล้วยิ่งถ้าทำโครงการแล้ว ตัวเองได้กำไรอย่างมากมายมหาศาล ก็ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว เพราะชีวิตนี้นายทุนต้องการอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่กำไร ความอัดอั้นตันใจที่สูญเสีย TPI ไปให้กับ ปตท. ด้วยฝีมือของทักษิณ ชินวัตร ในช่วงนั้น แล้วก็ส่ง พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ มาเป็นประธาน IRPC มีเรื่องมีราวกันในศาล ในสื่อมวลชน

 พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์
ผมเองในช่วงนั้นยังออกมาต่อสู้ให้นายประชัย ในฐานะที่ถูกปล้น TPI ไปอย่างหน้าด้านๆ จากรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ใครที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ผมต่อสู้ให้ทั้งสิ้น มาวันนี้ผมจำเป็นต้องยืนฝั่งตรงกันข้ามกับนายประชัย เพราะว่าผมยืนข้างประชาชนชาวจะนะ

นายประชัย ผมไม่ได้ถือสาเขาหรอก เพราะว่าเขาเป็นนักธุรกิจ น่าเสียดายที่เขาบวชเรียน เขาเคยไปบวชเรียนกับหลวงปู่จันทร์เรียน วัดถ้ำสหาย ลูกศิษย์ของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต แล้วก็เป็นลูกศิษย์ของหลวงตามหาบัว ผมเสียดายเวลาที่เขาบวชไป เพราะว่าถ้าเขาซาบซึ้งในความเป็นพระที่ใช้ธรรมนำหน้า หรือพระอรหันต์ อย่างเช่น หลวงตามหาบัว หรือแม้กระทั่งหลวงปู่จันทร์เรียน เขาต้องเข้าใจคำว่า "สงบ" และเข้าใจคำว่า "ว่างเปล่า"

วันนี้คุณประชัย อายุ 77 ปี เดินก็จะเดินไม่ไหวอยู่แล้ว ต้องเดินทีละก้าว หรือว่าคุณประชัย ต้องการทำให้ตำนานเรื่อง TPI สำเร็จที่ทางภาคใต้ ถึงตายไปก็ไม่เป็นไร ถ้าคุณประชัย ตายไปและสำเร็จแล้ว คนที่จะตายตามคุณประชัย โดยที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ และเป็นคนที่น่าสงสารที่สุด คือ ชาวบ้าน เพราะฉะนั้นแล้ว คุณประชัย ใช้ความใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ใหญ่ที่คุม ศอ.บต. จะมีอะไรแลกเปลี่ยนกัน ผมไม่รู้ รู้แต่ว่าผู้ใหญ่ที่คุม ศอ.บต. ใช้ ศอ.บต. เป็นตัวเดินหน้า ช่วยให้ความฝันของคุณประชัย ที่เคยล่มสลายและฝันสลายมาแล้วในยุคที่โดนรัฐบาลชุดทักษิณ ยึด TPI ไป เพื่อจะปักหลัก TPI อีกครั้งหนึ่งใน อ.จะนะ ซึ่งคุณประชัย คิดอยู่แล้วเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว แต่เผอิญมันพลาดเพราะ TPI ซึ่งเป็นบริษัทแม่ โดนยึดไปแล้ว ก็เลยต้องกลับมาสร้างเนื้อสร้างตัวใหม่อีกครั้งหนึ่ง ก็เป็นปกติธรรมดา ผมไม่ว่า

แต่ที่ผมติดใจ คือคุณนิพนธ์ บุญญามณี คุณนิพนธ์ เป็นนักการเมืองแบบไหน คุณได้เป็น ส.ส. มาก็เพราะว่าประชาชนชาว จ.สงขลา ให้การสนับสนุนคุณ คุณเป็นคนจะนะ คุณไม่เห็นความทุกข์ร้อน ความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ อ.จะนะ เลยแม้แต่นิดเดียว จิตใจคุณทำด้วยอะไร คุณมาเล่นการเมือง หรือว่าคุณใช้หัวประชาชนที่ อ.จะนะ เป็นบันไดให้คุณเหยียบขึ้นไปเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คุณไม่คิดถึงชาวประมงใน อ.จะนะ คุณไม่คิดถึงพื้นที่ทำการเกษตรใน อ.จะนะ คุณไม่คิดเลยหรือว่า อ.จะนะ อุดมสมบูรณ์ด้วยพื้นที่สีเขียว ทะเลจะนะอุดมสมบูรณ์มากด้วยปลาทะเลต่างๆ คุณไม่คิดที่จะหาทางที่จะต่อยอดการประมง ต่อยอดการเกษตร ให้เป็นเกษตรก้าวหน้า ต่อยอดการประมงให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น แล้วชาวบ้านนั้น เพิ่มพูนความรู้ให้เขา คุณไม่ได้คิดเลยหรือ หรือคุณคิดสั้นๆ แค่คุณซื้อที่มา ขายที่ไป คุณกำไรเท่าไร คุณพอใจเท่านั้น ส่วนประชาชนจะเดือดร้อนอย่างไรก็ตาม อย่างน้อยที่สุด ชาวบ้านชาวจะนะที่มาประท้วง หรือมาเรียกร้องให้ MOU คุณเป็นคนจะนะ คุณไม่มีจิตใจเลยหรือ แม้แต่นิดเดียว ที่จะลงไปเยี่ยมเขา ไปบอกเขาว่าเดี๋ยวจะดูให้ หรือว่าคุณจับมือกับ ศอ.บต. และคุณประชัย นี่คุณยังส่งภรรยาคุณ ถ้าผมจำไม่ผิด ลงมาสมัครเลือกตั้งนายก อบจ. พี่น้องชาวสงขลา ครับ ผมไม่จำเป็นต้องบอกคุณก็รู้ว่าคุณควรจะเลือกหรือไม่เลือก


คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ครับ คุณเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คุณไม่ใส่ใจคนใต้หรือ ที่โดนรังแกแบบนี้ ผมไม่ประหลาดใจเลยว่าทำไมพรรคประชาธิปัตย์ถึงเป็นอย่างนี้ เพราะวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้สู้เพื่อประชาชนเลยแม้แต่นิดเดียว คุณสู้เพื่อตัวพวกคุณเองที่เป็นนักการเมือง

กรณีจะนะ เป็นกรณีที่น่าอับอายขายหน้าที่สุดสำหรับนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ ผมอายแทนพวกคุณมากจริงๆ ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ อ.จะนะ จ.สงขลา แต่ผมเห็นใจเขา และผมคิดว่าถ้าผมเป็นเขา มีชีวิตอยู่อย่างนั้น มีชีวิตอยู่มิสู้ตายไปยังจะดีเสียกว่า จะพึ่งรัฐก็พึ่งไม่ได้ รัฐรับงานนายทุนมาเพื่อมากระทืบประชาชน จะพึ่ง ส.ส. ก็ไม่ได้ เป็นถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่ซื้อขายที่ดินให้กับนายทุน จะมาพึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ต้องรอประชาชนตายก่อน ท่านผู้ชมครับ เรื่องนี้น่าขมขื่นใจไหม

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็เช่นกัน ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ท่านอายุก็มากแล้ว ท่านก็ไม่ได้ต่างกว่าคุณประชัย ท่านดีกว่า ท่านยังเดินได้ดีกว่าคุณประชัย แต่ท่านก็ยังคงยึกยักอยู่ สุขภาพท่านไม่ดี อีกไม่กี่ปีท่านก็ตาย ผมก็ตาย คุณประชัยก็ตาย อะไรจะเป็นมรดกทิ้งเอาไว้ให้


ท่านจะทิ้งมรดกที่สวยสดงดงาม ที่สร้างอนาคตให้กับประชาชนทางใต้ ทาง อ.จะนะ ทำเกษตรที่ก้าวหน้าให้เขา ทำประมงที่มีการแปรรูปมากกว่านี้ให้เขา หรือท่านจะปล่อยให้เขาในที่สุดจะต้องเผชิญกับนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ซึ่งจะกลายเป็นมาบตาพุด 2 อยากไปดู ไปดูที่ระยองได้ มันมาแน่นอน ไม่ต้องมาเถียงผม เพราะว่าคุณกับผมต้องตายก่อนแล้ว อาจจะเป็นดวงวิญญาณที่ลอยอยู่ แล้ววันนั้นผมก็จะหัวเราะ แต่ผมก็ไม่รู้จะหัวเราะไปทำไม เพราะคุณอาจจะเป็นวิญญาณที่ลอยล่อง ผมอาจจะอยู่คนละชั้นกับคุณก็ได้ คุณอาจจะอยู่ชั้นไหนของสวรรค์หรือนรก ผมก็ไม่รู้ แต่อย่างน้อยที่สุด ผมอยู่สวรรค์แน่นอน เพราะผมทำงานเพื่อส่วนรวม ผมให้ปัญญาคน ผมออกมาปกป้องคนที่ด้อยโอกาส ผมมาต่อสู้กับความอยุติธรรม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นิพนธ์ บุญญามณี ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ แล้วท่านเลขาฯ สมเกียรติ เลขาฯ ศอ.บต. วันนี้ท่านยอมรับหรือเปล่าว่าท่านเป็นหุ่นเชิดของรองเลขาฯ ดร.เจ๋ง ท่านเคยมีจุดยืนอะไรของท่านบ้างไหม ? ไม่มี

เราจะอยู่กันอย่างไรในประเทศนี้ มรดกบาปที่ คสช. ได้ทิ้งเอาไว้ ไม่น้อยเลยท่านผู้ชม นิคมอุตสาหกรรมจะนะ กำลังจะเป็นมรดกบาปที่คนทางใต้ต้องแบกรับต่อไป พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยทำอะไรให้คนใต้เลย วันนี้ก็เช่นกัน คนใต้เดือดร้อน พรรคประชาธิปัตย์นั่งเฉย คุณจุรินทร์ ครับ คุณยังใฝ่ฝัน ฝันเฟื่องอยู่หรือว่า ประชาชนในประเทศไทยสนับสนุน ตื่นเต้น ดีใจกับความสำเร็จของพรรคประชาธิปัตย์ ท่านชวน หลีกภัย ครับ ท่านเป็นประธานสภาฯ ท่านเป็นเหมือนผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ คำพูดของท่านมีอิทธิพลมาก


ท่านชวน ครับ ชาวบ้าน อ.จะนะ จะนะทั้งอำเภอกำลังจะลงเหวในอนาคต ลูกหลานเขาเจริญเติบโตต่อไปเขาจะเจอนิคมอุตสาหกรรมที่มันจะไม่ได้เป็นไปตามที่เขาพูดกันวันนี้ แล้วจะนะในอนาคต ก็คือมาบตาพุดที่ 2 ท่านชวน ครับ อีกไม่กี่ปีท่านก็ไม่อยู่แล้ว ผมก็ไม่อยู่แล้ว ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ไม่อยู่แล้ว ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ก็ไม่อยู่แล้ว ก่อนตายทำความดีให้กับส่วนรวมเสียหน่อย ดีไหมครับ

คุณประชัย ครับ ถึงเวลาคุณพักได้แล้ว คุณอายุมากแล้ว คุณสุขภาพไม่ดีเลย ทำใจให้สงบเถอะครับ บวชเรียนก็บวชเรียนมาแล้ว จากพ่อแม่ครูอาจารย์ที่มีชื่อ หลวงปู่จันทร์เรียน วัดถ้ำสหาย ทำสมาธิภาวนา ใช้ชีวิตส่วนที่เหลือของตัวคุณเองทำประโยชน์ให้กับสังคม ทำบุญทำคุณให้กับประเทศชาติหน่อยเถอะ อย่าได้สร้างความขัดแย้งเลย

ศอ.บต. ท่านรองเลขาธิการ ดร.เจ๋ง คุณยังหนุ่มอยู่ เพิ่งสี่สิบต้นๆ คุณอายุก็ยังน้อยกว่าลูกชายผม คุณจะรีบไปไหน ข้าวเขาให้กินกันทีละคำ เขาเดินทีละก้าว คุณใช้จิตวิญญาณของคุณ ที่คุณเชื่อในเรื่องของวิทยานิพนธ์ที่คุณเขียนในระดับปริญญาเอก คุณไม่ต้องห่วงหรอกครับ คุณอายุยังน้อย อย่างไรคุณก็ได้เป็นปลัดกระทรวงแน่ แต่ หรือว่าคุณต้องรับงานชิ้นนี้มา เพื่อเป็นรางวัลในการที่จะไต่เต้าในตำแหน่งสูงต่อไป

คุณสมเกียรติ ครับ เลขาธิการ ศอ.บต. คุณเป็นชายชาติทหารเก่า คุณเรียนหนังสือเก่ง คุณเป็นอดีตผู้การ กองบัญชาการนาวิกโยธิน คุณดูไม่ออกหรือครับว่าชาวบ้านเขาเดือดร้อน คุณไม่เห็นใจเขาเลยหรือ ผมไม่มีอะไรจะพูดงานนี้ ท่านผู้ชมครับ ผมจะยืนข้างชาวบ้าน อ.จะนะ และผมพร้อมที่จะทำอะไรก็ได้ให้เขาสู้ เพื่อนำจะนะกลับมา ให้ชาวบ้านคน อ.จะนะ มีความภูมิใจที่จะเจริญเติบโตไปในเส้นทางตามเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9 การเกษตรต้องเป็นหลักของประเทศไทย ไม่ใช่อุตสาหกรรม เกษตร สามารถทำเป็นเกษตรยั่งยืน เกษตรก้าวหน้า ได้ ประมงสามารถจะแปรรูปได้ ทรัพยากรมีให้พร้อม คนมีให้พร้อม ขาดอย่างเดียวคือ ความเป็นมนุษย์ที่รักพื้นที่ รักชาติบ้านเมือง รักเพื่อนบ้าน รักท้องถิ่น


น้องยะห์ ที่ออกมาสู้ ท่านผู้ชมครับ น้องยะห์ ไม่ได้มาชูสามนิ้ว น้องยะห์ สู้ในสิ่งที่มีคุณค่ามาก น้องยะห์ เจ็บปวดแค่ไหนต้องมานั่งอยู่คนเดียว มารอฟังคำตอบ พวกคุณผู้ใหญ่ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่าจะเป็นประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ไม่ว่าจะเป็นเลขาฯ ศอ.บต. ไม่ว่าจะเป็น ดร.เจ๋ง หรือไม่ว่าจะเป็นผู้มีอำนาจ คุณนิพนธ์ บุญญามณี คุณอายเขาบ้างหรือเปล่า คุณอายเด็กอายุ 17-18 ปี บ้างหรือเปล่า และสิ่งที่เขาขอมา ผมอ่านแต่ละข้อแล้ว มีเหตุมีผลทุกอย่าง เขาไม่ได้เรียกร้องให้คุณยกเลิกทันที เขาบอกว่า ให้ประเมินในเรื่องของการวิเคราะห์ SEA เสียใหม่ โดยที่ไม่ให้ TPI ทำ ไม่ให้ภาคเอกชนทำ ให้คนกลาง ให้สภาพัฒน์ทำ เพราะสภาพัฒน์เป็นหน่วยงานราชการที่ไม่มีผลประโยชน์กับใคร

บ้านเมืองเรามันไปไม่รอดอยู่ทุกวันนี้ ถ้าคนรวยยังคิดแต่จะกอบโกยบนซากศพ บนความพินาศฉิบหาย บนความเจ็บปวดของชาวบ้าน พวกคุณหยุดได้แล้ว ผมไม่รู้ว่าประเทศนี้จะมีอนาคตหรือเปล่า ผมหวังว่าคลิปนี้คงมีคนเอาไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ ดู อย่าทิ้งมรดกบาปพวกนี้ เพราะว่าอีกไม่กี่ปีพวกคุณก็ต้องลงจากหลังเสือ พวกคุณไม่ตายหรืออย่างไร พวกคุณไม่มีญาติพี่น้องหรืออย่างไร แล้วในอนาคตถ้านิคมอุตสาหกรรมจะนะนำความพินาศฉิบหายมาให้กับชาวบ้านอย่างที่ผมทำนายเอาไว้ ตระกูลพวกคุณจะไม่เจ็บช้ำน้ำใจบ้างหรือ ไม่อายเขาบ้างหรือ ผมอาย

ท่านผู้ชมครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องเศร้า ทำไมผมต้องพูด ? เพราะผมทนไม่ได้กับความอยุติธรรมที่ชาวบ้านถูกรังแกอย่างหนักหน่วง รังแกจากทุน รังแกจากอำนาจรัฐ และที่สำคัญ หน่วยงานรัฐใช้อำนาจรัฐ เพื่อช่วยทุน เพื่อฆ่าชาวบ้าน ท่านผู้ชมครับ ค่อยพบกันใหม่อาทิตย์หน้า สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น