มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 12 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 3 คนที่มีอายุ 3, 12, และ 16 ปี จากเหตุกราดยิงซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ (6 ธ.ค.) โดยฝีมือของผู้ต้องสงสัยหลายราย ในบาร์เถื่อนที่ไม่ได้รับใบอนุญาตให้เปิดกิจการแห่งหนึ่ง ใกล้ๆ กรุงพริทอเรีย เมืองหลวงของแอฟริกาใต้
ตำรวจระบุว่า ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 13 คน ซึ่งถูกส่งเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ทว่าไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับอายุหรืออาการของผู้บาดเจ็บเหล่านี้
เหตุกราดยิงคราวนี้เกิดขึ้นในบาร์เถื่อน ซึ่งตั้งอยู่ด้านในของที่พักราคาประหยัดแห่งหนึ่งในย่านโซลสวิลล์ ทางด้านตะวันตกของพริทอเรีย ในช่วงก่อนรุ่งสางของวันเสาร์ (6) ตำรวจบอกว่าเหยื่อ 10 รายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และอีก 2 คนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
เด็ก 3 คนที่ถูกสังหาร คนที่อายุ 3 ขวบและ 12 ขวบเป็นเด็กชาย ส่วนคนอายุ 16 ปีเป็นผู้หญิง ตำรวจบอกว่ากำลังค้นหาผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นชายจำนวน 3 คน
“เราได้รับแจ้งว่า มีมือปืนไม่ทราบชื่ออย่างน้อย 3 คนเข้าไปยังที่พักราคาถูกแห่งนี้ ซึ่งมีกลุ่มคนกำลังนั่งดื่มกันอยู่ จากนั้นผู้ต้องสงสัยก็เริ่มการกราดยิง” แอธเลนดา มาเธอ โฆษกตำรวจ บอกกับสื่อ SABC ของแอฟริกาใต้ เธอกล่าวว่ายังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าแรงจูงใจของการสังหารผู้คนจำนวนมากเช่นนี้คืออะไร เหตุกราดยิงเกิดขึ้นตั้งแต่ราวๆ 04.15 น. แต่ตำรจเพิ่งทราบเหตุเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.
แอฟริกาใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฆ่ากันตายสูงที่สุดในโลก โดยในปี 2024 มีผู้เสียชีวิตเพราะเหตุฆ่ากันตายมากกว่า 26,000 คน หรือเฉลี่ยแล้วมากกว่าวันละ 70 ศพ ถึงแม้ประเทศที่มีประชากร 62 ล้านคนแห่งนี้ มีกฎหมายการครอบครองอาวุธปืนที่ค่อนข้างเข้มงวด แต่ปืนก็ยังคงเป็นอาวุธที่ใช้กันมากที่สุดในเหตุฆ่ากันตาย โดยที่ทางการระบุว่าปืนที่ใช้ก่อเหตุมักเป็นปืนเถื่อน
ในช่วงปีหลังๆ มานี้ แอฟริกาใต้ได้เกิดเหตุกราดยิงมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเกิดขึ้นหลายครั้งตามบาร์เถื่อนเช่นนี้ รวมทั้งรายหนึ่งซึ่งมีผู้ถูกสังหารไป 16 ศพที่ย่านโซเวโต ของนครโยฮันเนสเบิร์กเมื่อปี 2022 โดยที่ในวันเดียวกันนี้ ยังมีผู้ถูกฆ่าตาย 4 คนในเหตุกราดยิงที่บาร์แห่งหนึ่งในอีกจังหวัดหนึ่ง
มาเธอบอกว่า การกราดยิงในบาร์เถื่อน กำลังกลายเป็นปัญหาร้ายแรง โดยที่ตำรวจได้กวาดล้างปิดบาร์เถื่อนไปมากกว่า 11,000 แห่งระหว่างเดือน เม.ย. ถึง ก.ย. ปีนี้ และจับกุมผู้เกี่ยวข้องไปกว่า 18,000 คน ในความผิดฐานเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต
(ที่มา: เอพี)

